วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 119 ปลุกวิญญาณ

ตอนที่  119  ปลุกวิญญาณ
ถังเทียนเริ่มก้าวเดินไปบนพื้นโดยไม่คาดคิดอะไร และฝุ่นดินใต้เท้าเขาระเบิดดังปังทันที ในท่ามกลางเศษดินที่ร่วงลงเหมือนฝนในทุกที่ ร่างถังเทียนหายวับทันที

ชั่วเวลาต่อมา ถังเทียนมาปรากฏข้างตัวหั่วฉี
เลือดในตัวเขากำลังเดือดพล่านด้วยพลังงานซึมซาบไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย
สัญชาตญาณของเขาชัดเจนขึ้น  การควบคุมการโคจรของพลังปราณเที่ยงแท้ทำได้ไม่ยาก  ทั่วทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังไม่สิ้นสุด แค่อาศัยพลังของเขา ถังเทียนรู้สึกว่าเขาสามารถฆ่าช้างให้ตายได้ในหมัดเดียว
นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนอยู่ในสภาวะคลั่งแต่ไม่สูญเสียการควบคุมตนเอง  ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติ เขาคงประหลาดใจตนเองแทบบ้าไปแล้ว
แต่ตอนนี้ ความรู้สึกของเขาให้ความสำคัญอยู่ข้างหน้า ภายในดวงตาสีแดงของเขา มีแต่เพียงหั่วฉีเท่านั้น
พื้นที่การมองของเขาเลือนลาง  ขณะที่เขาเหินบินด้วยความเร็วสูง  แขนขวาของเขามีเพลิงสีเขียวลุกโพลง อบอุ่นและกล้าแข็ง
หั่วฉีคิดจะก้าวหลบฉาก และในสายตาถังเทียน นี่เป็นครั้งแรกที่ความเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นชัดเจนมาก
ตอนนี้แหละ!
ทันใดนั้นถังเทียนตวาดลั่น  ถ่ายเทพลังทั้งหมดและฝากความหวังไว้ในหมัดนี้ เสียงเพลิงลุกโหมและระเบิดออกมา
หมัดนี้จะไม่ทำให้ปณิธานของเจ้าผิดหวังแน่นอน
เปลวเพลิงในดวงตาแดงฉานของเขาฉายประกาย หมัดของถังเทียนต่อยถูกร่างของหั่วฉี
เคล็ดสังหาร สะท้านสุญญากาศ
บอลแสงโปร่งใสปลิวออกมาเหมือนฟองน้ำอย่างเงียบและคลุมร่างหั่วฉีไว้ทั้งหมด และสิ่งที่ประหลาดพลันอุบัติคือ บอลสุญญากาศปรากฏแสงเขียวเลือนลาง
ภายในบอลสุญญากาศเขียว ตาสีแดงแปลกประหลาดของหั่วฉีแสดงอาการตื่นเต้นเป็นครั้งแรก
เป๊าะ
บอลสุญญากาศขนาดมหึมาไม่เคยปรากฏมาก่อนแตกตัว
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
กระแสอากาศบางเหมือนมีดนับไม่ถ้วนไหลมาจากทุกตำแหน่ง วิ่งเข้าหาหั่วฉีอย่างเมามัน
ประกายหวาดกลัวพาดผ่านสายตาของหั่วฉี และมือทั้งสองของเขากุมศีรษะ ขณะที่เขางอตัว
ปุ ปุ ปุ!
มีดอากาศบางเบาแทงเข้าร่างของหั่วฉีที่ตัวงอเป็นกุ้ง  ร่างของเขาเป็นเหมือนตะแกรงที่สั่นสะท้าน
"อ๊า.." บุรุษร่างสูงร้องออกมา เหมือนกับว่าเขากำลังถูกโจมตีทำร้ายด้วยพลังที่มองไม่เห็น จนเขาปลิว
ปัง!
ฟองเพลิงสีเขียวนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากร่างของหั่วฉีและพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า
หั่วฉีผู้ถูกบอลเพลิงเขียวห่อหุ้มไว้ ร้องโหยหวนอยู่ภายในเปลวเพลิงสีเขียว
ถังเทียนคุกเข่าหอบหายใจ ตาเบิกกว้าง จ้องมองหั่วฉีกลิ้งเกลือกอยู่ในเปลวเพลิง  หมัดนั้นสูบเอาเรี่ยวแรงของเขาไปทั้งหมด
เราชนะหรือเปล่า...?
จิตใจของถังเทียนว่างเปล่า  หลังจากใช้พลังของเขาไปทั้งหมด
เสียงร้องโหยหวนของบุรุษร่างสูงยิ่งดูโศกเศร้าอาดูร เพลิงสีเขียวเผาผลาญร่างเขาจนถึงปลายนิ้ว  สีหน้าของเขาแสดงความหวาดกลัวและสิ้นหวัง ขณะที่เพลิงสีเขียวเหมือนหนอนไชกระดูกพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา
จุดที่ถูกไฟไหม้ไม่ทิ้งไว้แม้แต่ขี้เถ้า
นัยน์ตาของบุรุษร่างสูงฉายประกายแห่งความกลัว  ทันใดนั้นเขาส่งเสียงกู่ร้อง
หั่วฉีที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่ในเปลวไฟสีเขียว กลิ้งทับเปลวเพลิงก่อนจะโดดเข้าไปในร่างของบุรุษร่างสูง  และเขากลายเป็นคนที่มีเปลวเพลิงลุกติดตัวทันที
"อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า!" บุรุษร่างสูงร้องลั่นด้วยเสียงแหลมสูง ความเจ็บปวดผสานกับเสียงร้องโหยหวนทำให้ร่างเขาสั่นรุนแรง  กล้ามและเนื้อบนร่างของเขากำลังไหลและละลายเหมือนดินน้ำมัน เป็นฉากภาพที่น่าสยดสยอง
ใครก็ตามที่ได้เห็นประจักษ์กับภาพที่เกิดขึ้นข้างหน้า คงตกตะลึงอย่างหนัก
น่ากลัวมาก... เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ถังเทียนจ้องมองบุรุษร่างสูงอย่างว่างเปล่า ฉากภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขานั้นเกินความรู้ของเขาไปมาก.... เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทันใดนั้นความแข็งแกร่งที่น่าทึ่ง กับบุรุษร่างสูงในฐานะเป็นศูนย์กลางส่งเสียงดังได้ยินทั่วทุกที่
เปลวเพลิงบนร่างของบุรุษตัวสูงค่อยๆ มอดลงอย่างช้าๆ  ร่างของเขามาปรากฏต่อหน้าถังเทียน  หน้าของเขากลับคล้ายหั่วฉี และสิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือ เขามีตาที่แดงคล้ายกับตาของหั่วฉี และผิวของเขากลายเป็นสีเทา
"ฮ่าฮ่า" บุรุษร่างสูงหัวเราะด้วยเสียงที่แหบแห้ง "ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะบังคับให้ข้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้  อย่างไรก็ตาม ข้ายังต้องขอบคุณเจ้า ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะสามารถหลอมรวมร่างกับหั่วฉีได้อย่างไร?"
"หลอมรวมร่าง?"  ถังเทียนจ้องมองฝ่ายตรงข้ามอย่างระแวง
"ถูกแล้ว! นี่คือการรวมร่าง" บุรุษร่างสูงพูดอย่างภูมิใจ  "การค้นคว้าการ์ดวิญญาณไกลเกินกว่าความรู้ของเจ้าจะเข้าใจได้  ชะตาของหั่วฉีและกำเนิดของข้าเป็นของข้า เขา เขา,  แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงไม่มีทางพยายามรวมร่างแน่ ระดับความล้มเหลวสูงมาก ดังนั้น ข้าต้องขอบคุณเจ้า"
เขามองดูที่มือของตนเองซึ่งเดิมทีไหม้จากเพลิงสีเขียว  ตอนนี้มือคู่นั้นฟื้นฟูดีแล้ว
เขาเป็นเหมือนกำลังพร่ำเพ้อ  "นี่คือพลังที่แท้จริง!  มันทำให้คนมึนเมาและทำให้ผู้เสพติดมัน  ดังนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป ตัวข้าเรียกว่าหั่วฉี"
ทันใดนั้นเขาเงยหน้าขึ้น หน้าของเขาเหมือนคนกำลังเพ้อเจ้อ "เป็นไงบ้าง? เจ้าตื่นเต้นไหม? ตราบใดที่เจ้าเข้าร่วมกับเรา  เจ้าก็สามารถบรรลุพลังเช่นนี้ได้”
"นี่คือโอกาสสุดท้ายที่ข้าให้เจ้าแล้ว"  บุรุษร่างสูงพูดอย่างใจเย็นพร้อมกับแผ่รังสีฆ่าฟันออกมาด้วย
ทันใดนั้น มีลมพัดมาวูบหนึ่ง
ร่างผอมแห้งร่างหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน
※※※※※※

ในห้องจิตวิญญาณพลังยุทธ  เสียงของปิงดังลอยออกมา
"ในช่วงเวลายุคของเรา  ไม่มีคนประหลาดอย่างนั้น  โลกนี้ก้าวหน้าไปมากจนทำให้ข้ารู้สึกว่างเปล่า เจ้าก็รู้ ข้าเป็นคนประเภทครูฝึกทหาร ใจก็มักจะนึกถึงเรื่องเก่าๆ เสมอ"
ปิงอยู่ในอีกด้านหนึ่ง รีบโยนแก่นพลังวิญญาณเข้าไปในร่างของผู้เฒ่าหนงกรงเล็บภูตพราย และอีกทางหนึ่งก็พูดลอยๆ "ข้าไม่มีโอกาส ข้าไม่ใช่ขุนพลวิญญาณประเภทต่อสู้ ถ้าแค่เอาชนะพวกสวะเล็กน้อย ข้าสามารถทำได้   แต่เจ้าตัวใหญ่นี้ คงต้องขึ้นอยู่กับเจ้า  ขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งและประหลาดอย่างนั้น ในยุคของเราพบเห็นได้ยาก  นอกจากว่าเป็นเพราะวิทยาการใหม่ๆ?  เป็นไปได้ แต่ทำให้ตนเองกลายเป็นสภาพไม่คล้ายมนุษย์ ไม่คล้ายวิญญาณ พลังแบบนี้  ราคาที่เจ้าต้องจ่ายออกไปมากมายขนาดไหน?"
"ครั้งนี้ข้าต้องเสี่ยงดวงเอาอย่างหนัก ทั้งหมดนี้เป็นแก่นพลังวิญญาณระดับเจ็ด พลังของเจ้าจะได้รับการรักษาไว้ในระดับสูงสุด  ช่วงสุดยอดของเจ้าเมื่อเวลาเจ้ามีชีวิตคงเป็นระยะเวลาสั้นๆ  แม้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้ายังเหลืออยู่น้อยมาก  แต่ข้ารู้ว่าเจ้ายังคงไม่พอใจระดับความเชี่ยวชาญของกรงเล็บภูตพรายที่เจ้าบัญญัติขึ้นมา กรงเล็บเพลิงภูตพรายจะหายไปอย่างไม่คาดคิดใช่ไหม?
แก่นวิญญาณระดับเจ็ดทั้งสิบเม็ด ถังเทียนต้องใช้คะแนนถึงพันคะแนนแลกซื้อมา  ถ้าไม่ใช่เพราะปิงขอร้องจริงจัง ถังเทียนคงไม่ยินดีซื้อมาเองแน่
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ แก่นวิญญาณระดับเจ็ดเป็นเหมือนกับโยนเงินทิ้งออกไป  ขณะที่มันถูกเติมเข้าในร่างกรงเล็บภูตพราย
"แม้ตายไปแล้วเจ้าก็ยังไม่พอใจ..."
พลังงานจิตวิญญาณจากแก่นพลังวิญญาณระดับเจ็ดเพิ่มขึ้นเรื่อง  แก่นพลังวิญญาณทุกเม็ดที่เข้าไปในร่างของกรงเล็บภูตพรายทำให้เกิดระลอกแสง  แสงเปล่งออกมาจากขาของผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพราย จากนั้นก็เป็นลำตัวไล่ไปจนถึงศีรษะ
ทุกครั้งที่รัศมีแสงกวาดผ่าน  ร่างของผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายก็ชัดเจนขึ้น  ร่างของผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายผอมบางเหมือนท่อนฟืน สีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์ ตาของเขาลึกสงบเหมือนท้องฟ้ายามราตรี
"อย่างไรก็ตาม โชคของเจ้านับว่าดีที่สามารถมาพบกับเจ้างี่เง่านั่น  ดูเหมือนเจ้ามีโอกาสจะได้ออกไปสู้อีกครั้ง  เป็นยังไงเล่า?  เจ้าต้องการหาความตื่นเต้น ใช่แล้ว กรงเล็บเพลิงภูตพรายของเจ้าจะได้จุดประกายในโลกอีกครั้ง  เจ้าจะได้เข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง  หลังจากสั่งสมความไม่พอใจและความภูมิใจทั้งหมดมาเป็นเวลานาน  ทั้งหมดจะได้รับการปลดปล่อย"
"เจ้าตื่นเต้นไม่ใช่หรือ?"  ปิงพึมพำกับตนเอง  น้ำเสียงของเขาค่อยๆ เบาลง และอดไม่ได้ที่มีความเสียใจแทรกเข้ามาด้วย  "ถ้าผู้นำและกลุ่มเจ้าบ้าพวกนั้นได้โอกาสเช่นนี้  บางทีพวกเขาอาจก่อเรื่องได้ชนิดพลิกฟ้าคว่ำดินแน่นอน.."
"น่าเสียดาย, พวกเขาไม่มีโอกาส"
ปิงเงยหน้า ที่เขียนใบหน้าเหมือนหน้าไพ่ มีแววเสียใจเลือนลาง แต่เขาก็ยังยิ้มได้
"แต่เจ้ามีโอกาสทำเช่นนั้น"
รอยยิ้มบนใบหน้าของปิงหายไป  เขามองผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายเคร่งเครียดและกล่าวย้ำทีละคำ
"เจ้าต้องทุ่มเทพลังและต่อสู้!"
ฮื่อ!
ภายในดวงตาที่ลึกและสงบของกรงเล็บภูตพรายมีเปลวเพลิงลุกอยู่เงียบๆ
หน้าของปิงกลายเป็นสีแดง เขาตบไหล่ผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพรายจ้องมองตา เหมือนกับให้กำลังใจทหารที่กำลังจะเข้าสู่สงครามครั้งแรก  เขาตะโกน "ไป ไป สู้เขา จอมยุทธหนงกรงเล็บภูตพราย"
"จงเอาความค้างคาใจ และพกพาความภาคภูมิใจของเจ้าออกไปสู้!"
"กรงเล็บเพลิงภูตพราย จงเปล่งประกายของเจ้า  เจ้าต้องแผดเผาตาของพวกเขาได้อย่างแน่นอน!"
ฮื่อ!
กรงเล็บภูตพรายหายไปกับสายลม
※※※※※

ถังเทียนจ้องมองร่างผอมแห้งข้างหน้าเขาอย่างว่างเปล่า
นั่นผีกรงเล็บภูตพรายนี่
ผีกรงเล็บภูตพรายมีร่างกายผอมเหมือนไม้ฟืนคอยปกป้องอยู่ข้างหน้าถังเทียนเงียบๆ
"เอ๋? ขุนพลวิญญาณหรือนี่?" หั่วฉีประหลาดใจ  แต่เหมือนกับว่าเขาเห็นภาพตลก  เขาหัวเราะดังลั่น  "ข้ากำลังดูอะไรอยู่กันแน่? ขุนพลวิญญาณ? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! โอว! พระเจ้า ใครกันบังอาจมาเล่นขุนพลวิญญาณต่อหน้าข้า? ตลกเกินไปแล้ว, นี่เหมือนกับเป็นการแสดงทักษะที่อ่อนแอของเจ้า ก่อนจะกลายเป็นยอดฝีมือหรือเปล่า? โอ โอ โอ, ข้าเสียมารยาทไปหน่อย, ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้, ฮ่าฮ่าฮ่า!"
ถังเทียนตะลึงชั่วขณะ  แต่เขาเรียกสติคืนมาได้ทันที
ปิง!
ต้องเป็นปิงที่ทำเช่นนี้  แต่ทำไมปิงถึงไม่ออกมาเองเล่า?
และ...ผีกรงเล็บภูตพรายที่อยู่ต่อหน้าเขา.. ก็ให้ความรู้สึกที่ประหลาดต่อเขา  เป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างหนึ่ง
แต่.... ศัตรูแข็งแกร่งมาก... กรงเล็บภูตพรายจะต่อสู้ได้ยังไง?
"ปิง!"  ถังเทียนร้องเรียกปิงอยู่ในใจอย่างร้อนรน "ทำไมท่านไม่ออกมาเล่า? แค่กรงเล็บภูตพรายตามลำพัง มันอันตรายมาก"
เสียงของปิงเต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย  "ข้าไม่ใช่ขุนพลวิญญาณประเภทต่อสู้  ข้าเป็นแค่ครูฝึกทหาร  การวิ่งลุยเข้าไปสู้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าทำได้ดี  แต่เจ้าอย่าดูแคลนกรงเล็บภูตพรายจะดีกว่า, ข้าปลุกวิญญาณเขาขึ้นมาเอง"
"ปลุกวิญญาณ?" ถังเทียนอึ้ง
"อืม.. กรงเล็บภูตพรายที่ตื่นขึ้นมานี้จะแข็งแกร่งมาก  แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีอะไรก็ตาม  แต่ข้าเชื่อว่าวิทยายุทธที่ผ่านการฝึกฝนขัดเกลามาเป็นอย่างดีมักจะกลายเป็นแก่นแท้ของพลังที่แท้จริง" เสียงของปิงเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น
"และผีกรงเล็บภูตพรายก็มีพลังเช่นนั้น!"
เสียงของปิงเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาด
ถังเทียนมองดูฟุ้งซ่าน
เสียงของหั่วฉีหักล้างความคิดฝึกฝนของถังเทียน  "ถ้าเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้  อย่างนั้น ข้าจะแสดงให้เจ้าดูสิ่งที่เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของขุนพลวิญญาณ"
ปากของเขาแสยะยิ้มเย็นชา
"ขุนพลวิญญาณของเจ้าจะแข็งแกร่งและดีไหม  แต่ถ้าไม่ใช่ก็เสียเวลาเปล่า  ข้าไม่สนใจขุนพลวิญญาณที่อ่อนแอ"
ทันทีที่เขาพูดจบคำ  ร่างของเขาหายวับไปจากตำแหน่งเดิมทันที
กรงเล็บภูตพรายที่อยู่ข้างหน้าถังเทียน เหมือนกับรูปปั้นพลันลืมตาทันที ในดวงตาที่สงบเยือกเย็นเหมือนฟ้ายามราตรี  ไม่มีใครเดาออกได้ว่าเป็นความสุขหรือความโกรธกันแน่ที่ซ่อนอยู่ภายในนั้น
เช้ง!
นิ้วทั้งห้าของเขาแห้งกรังพลันงอเป็นเหมือนตะขอที่แข็ง  ขณะที่นิ้วกางออก แรงเสียดสีระหว่างนิ้วเปล่งเสียงออกมาเหมือนเสียงเสียดสีของโลหะ
นิ้วทั้งห้าเป็นเหมือนกรงเล็บวาดผ่านอากาศทันที ปลายกรงเล็บสร้างแรงเสียดทานกับอากาศสร้างเป็นรัศมีแสงสว่างห้าสาย
ประกายแพรวพราวสว่างวาบอยู่ข้างหน้า
ติง!
ประกายที่สว่างกว่าระเบิดออกเผยให้เห็นใบหน้าของหั่วฉีที่จ้องมองอย่างตะลึง
หมัดสีเทาของเขาเล็งค้างอยู่ขางหน้านิ้วที่แห้งกรังนั้นโดยมิอาจเคลื่อนไหวได้สักนิ้ว
 

6 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ชาบูท่านหนงฮะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เอาอีกๆ ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น