ตอนที่ 122
นักสู้ระดับสวรรค์วิถี
ดูเหมือนรังสีฆ่าฟันของอู่กวงจะทำให้ทุกคนตกใจ แม้ว่าจะเป็นการคุยโว
และรังสีอำมหิตไม่ใช่ของจริง แต่ทุกคนก็รู้สึกหวาดผวาอยู่ไม่น้อย
พวกเขาถึงได้ตระหนักต่อหน้าต่อตาว่า
นี่เป็นคู่ต่อสู้น่ากลัวเหลือเชื่อ
"ดะ..ดาบพิรุณ..สวรรค์!"
"เขาคือดาบพิรุณสวรรค์อู่กวง!"
"โอวพระเจ้า, นักสู้ระดับสวรรค์วิถีเลยนะนั่น!"
……
ผู้คนลอบตกใจและระลึกได้ทันทีว่าข่งอี้หวี่ได้พูดถึงชื่อของเขาก่อนหน้านี้
และระลึกได้ถึงความหมายที่แฝงอยู่ในชื่อนี้
ดาบพิรุณสวรรค์อู่กวง นักสู้ระดับสวรรค์วิถี
นี่คือยอดฝีมือคนแรกที่ถังเทียนได้พบ
และความสามารถห้าวหาญของเขา แม้แต่ข่งอี้หวี่ยอดฝีมือระดับแปดก็ยังไม่กล้าต่อต้านเขา
แต่...
"อา..ใช่แล้ว"
ถังเทียนหันไปถามจิ่งหาว "นักสู้ระดับสวรรค์วิถีคืออะไรเหรอ? หมายถึงนักสู้ที่สามารถไปสวรรค์วิถีได้ใช่ไหม?"
จิ่งหาวพยักหน้าอย่างใจเย็นและจริงจัง "ถูกแล้ว, แน่นอนว่า
นักสู้ระดับสวรรค์วิถี ความจริงแล้วไม่มีอะไรน่าทึ่ง"
อู่กวงดึงดาบหักออกมาจากหลัง
และชี้มาที่จิ่งหาวพร้อมกับจ้องเขม็ง
"จิ่งหาวน้อย เจ้าเด็กอกตัญญู หักหลัง
เจ้าทำให้ชื่อเสียงอาจารย์อามัวหมอง
วันนี้ข้าจะต้องลงโทษสั่งสอนแทนผู้ใหญ่ของเจ้า"
"ยกเลิกภารกิจเถอะ"
จิ่งหาวโคลงศีรษะและบอกถังเทียน "เขาไม่น่าเชื่อถือ"
อู่กวงเป็นเหมือนลูกบอลที่แฟ่บ
และห่อเหี่ยว "เพื่ออะไรกัน เราทุกคนก็เป็นเหมือนครอบครัวอยู่แล้ว นี่คือความรู้สึกเจ็บปวดของข้า พ่อหนุ่มถัง เจ้าจะได้รู้ในอนาคต
นักสู้ระดับสวรรค์วิถี มีค่าตัวสูงมาก"
"แล้วต้องทำยังไงถึงจะถือว่าเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถี?" ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
อู่กวงอึ้ง "นี่
เอ่อ.. ขอข้าคิดดูก่อน จะอธิบายยังไงดีล่ะ, อืม..
สวรรค์วิถีมีอยู่หลายพื้นที่ ตัวอย่างเช่น หมู่ดาวเพอร์ซูสที่นี่
เป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่นี่มีการพัฒนาไปมาก
แต่ในสวรรค์วิถี ถือว่านี่เป็นแค่มุมเล็กๆ
หมู่ดาวในพื้นที่ปลอดภัยส่วนใหญ่จะมีประวัติศาสตร์ที่สาวย้อนหลังไปได้ แต่ละหมู่ดาวจะมีประตูดวงดาว ประตูดวงดาวบางแห่งจะพาเราไปยังพื้นที่ๆ
เราไม่รู้จัก"
เป็นเรื่องยากที่จะได้ยินข้อมูลตั้งแต่แรกก่อน ดังนั้นถังเทียนจึงตั้งใจฟัง สำหรับอู่กวงนั้น เขามีประสบการณ์เหลือเฟือในสวรรค์วิถี
"หลายๆ
คนคิดว่าพื้นที่ไม่รู้จักเหล่านั้นว่างจากบุคคล
แต่ความคิดเหล่านี้ผิดทั้งนั้น ตามประวัติศาสตร์
มียอดฝีมือหลายคนที่กล้าล่วงลึกเข้าไปในสวรรค์วิถี บางคนก็กลับมาได้ บางคนก็อยู่ต่อ บางคนก็ตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
หลังจากนั้นหมื่นปีพวกเขาก็พัฒนาโลกที่เป็นของพวกเขาเอง
น้ำเสียงของอู่กวงเหมือนฝัน
"ในสวรรค์วิถี, ประตูดวงดาวคือจุดสำคัญที่สุดในการสร้างเส้นทางขึ้น
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าประตูดวงดาวไม่ถูกกำหนดไว้เป็นอย่างดีตายตัว
มันจะเปลี่ยนวงโคจรนานมาก เกือบราวๆ พันปี
หลายเส้นทางที่มีการสำรวจก่อนหน้านี้ถูกตัดขาด
เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของประตูดวงดาว และมนุษย์ก็ค่อยๆ ลืมมันไป พวกมันเหมือนกับเกาะในมหาสมุทรกว้างใหญ่
เนื่องจากเป็นที่มนุษย์อยู่ได้ยาก
จึงมีวิวัฒนาการเป็นของตนเอง
หลายหมู่ดาวในประวัติศาสตร์ถูกกำจัดไปเนื่องจากเหตุผลนี้
เส้นทางถูกตัดขาด"
"การระเบิดของสวรรค์วิถีไม่เคยหยุดหย่อน ทุกคนพยายามค้นหาหมู่ดาวที่ถูกทำลาย ค้นหาสมบัติ, หินดวงดาว, แก่นพลังวิญญาณ คนแล้วคนเล่า
และยอดฝีมือสวรรค์วิถีคือผู้มีพลังอำนาจที่โดดเด่น
ซึ่งก็หมายถึงผู้มีพลังมากพอสำรวจและเปิดประตูดวงดาวแห่งใหม่ได้
น้ำเสียงของอู่กวงนั้นหยิ่งผยอง
ขณะที่เขาใช้หัวแม่มือจิ้มมาที่ตนเอง
"และข้า
คือผู้เปิดเส้นทางสายน้ำตก"
"ฟังดูเหลือเชื่อ!"
ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย "เส้นทางสายน้ำตก? เส้นทางนั้นจะนำไปที่ไหนหรือ?"
"ดาวน้ำตก"
อู่กวงดูเหมือนจะระลึกถึงด้วยความชอบ "เป็นที่สวยงามมาก บนดวงดาวนั้น
จะพบน้ำตกที่สวยงามอยู่ทุกที่
คนท้องถิ่นก็น่ารัก
แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่หมู่ดาว และไม่มีทรัพยากรที่มีค่า"
"ไกลมากไหม?" ถังเทียนดูท่าทางสนใจมาก
"ฮืม..ค่อนข้างไกลทีเดียว
ต้องผ่านดวงดาวร้างประหลาดถึงยี่สิบดวง โอ
ดาวเคราะห์ร้างก็คือดาวเคราะห์ที่ไม่มีค่าอะไร
ดาวอย่างนั้นจะเห็นได้โดยทั่วไปในสวรรค์วิถี มีจำนวนมากมาย
สภาพแวดล้อมของดาวร้างมักจะรุนแรง
อย่างที่รุนแรงที่สุดที่ข้าเคยเห็นก็คือมีลมพัดเหมือนมีดดาบ ข้าทำได้แต่นอนหลบอยู่ในรอยแยกบนพื้น ที่ๆ น่าขนลุกอย่างนั้น
ข้าไม่ต้องการไปเป็นครั้งที่สองอีก
อย่างไรก็ตาม ระหว่างห้าเดือนนี้ทำให้วิชาดาบของข้ามีความก้าวหน้า"
อย่างไรก็ตามประโยคสุดท้ายของอู่กวง
นั้นพูดถึงตนเอง
"ดูเหมือนเจ้า
พวกผู้เยาว์ ทำไมถึงได้กระตือรือร้นกันนัก? กับการโหยหาสวรรค์วิถี?"
อู่กวงมีสีหน้าเหมือนคนที่เคยผ่านโลกมาแล้ว
"ใช่แล้ว ข้าทำสัญญากับเชียนฮุ่ยไว้แล้ว
จะไปสวรรค์วิถีด้วยกัน" ถังเทียนไม่ปกปิดซ่อนเร้นความตั้งใจและตอบตามจริง
"อย่างนั้นเจ้าต้องระมัดระวังตัวให้มาก
ยอดฝีมือและอสูรดวงดาวบนสวรรค์วิถีนั้นน่ากลัวมาก
ความสามารถของเจ้าในปัจจุบันยังอ่อนไปเล็กน้อย" อู่กวงเบะปาก
ถังเทียนไม่ได้ปฏิเสธเรื่องความสามารถของอู่กวง
เขามีสิทธิ์จะพูดเรื่องที่ฝีมือของเขายังอ่อน อย่างไรก็ตาม
เขากำหมัดแน่น
โดยไม่มีการหลบหรือปิดบัง นัยน์ของเขาร้อนแรงเต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้ เขาลืมตากว้างและจ้องกลับอย่างไม่ลดราวาศอก
"ฮื่ม.. ก็แค่นักสู้ระดับสวรรค์วิถีคนหนึ่ง รอหน่อยเถอะ หนุ่มน้อยชาวฟ้าจะเอาชนะให้ได้"
"หนุ่มชาวฟ้า?" อู่กวงงงชั่วครู่ และหัวเราะลั่นทันที
เขาไม่ได้ปิดบังการชื่นชมของเขา "ข้าชอบฉายานี้
คนหนุ่มต้องมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้น ฮืม.. นึกถึงตอนนั้น คู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของข้าก็คือศิษย์พี่ข้าเอง ข้าต้องฝึกซ้อมอย่างหนักทั้งวันทั้งคืน
ฮ่าฮ่า.. ในที่สุด ข้าก็..."
"ถูกทุบตีเหมือนสุนัข"
จิ่งหาวพูดแทรกขึ้นมาทันที
อู่กวงหยุด
เหมือนกับจะสำลักอะไรบางอย่าง
หน้าของเขาแดงก่ำ ชั่วเวลาต่อมาเขาก็โวยวายลั่น
"วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าแทนศิษย์พี่ให้ได้"
"ใช่เป็นเพราะท่านถูกอาจารย์ข้าทุบตีเหมือนสุนัขใช่ไหม?" เสียงของจิ่งหาวยังสงบเย็นและเหนื่อยหน่าย
"โกรธแล้วนะโว้ย"
อู่กวงตะโกนลั่นและโดดเหยงๆ ด้วยความโกรธ
ถังเทียนตะลึงจ้องมองจิ่งหาวและอู่กวง ภาพพจน์ของจิ่งหาวของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ข้าจะไม่มีทางหาเรื่องพี่จิ่งหาวอีกเลย...
※※※※※※※
บรรยากาศตระกูลซ่างกวนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
สถานที่คึกคักที่สุดในทุกๆ
วันก็คือลานฝึกซ้อมวิทยายุทธ
ศิษย์ในตระกูลซ่างกวนทุกคนจะฝึกซ้อมอยู่ที่นั่นอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
ชัยชนะที่มีต่อตระกูลอวี่ส่งผลให้ตระกูลซ่างกวนกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในหมู่ดาวเพอร์ซูส
ดาบพิรุณสวรรค์อู่กวงเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีอย่างแท้จริง
ก่อนการล่มสลายของราชบัลลังก์ในหมู่ดาวเพอร์ซูส
หมู่ดาวเพอร์ซูสเป็นที่พำนักของนักสู้ระดับสวรรค์วิถีอยู่สองสามคน แต่บัดนี้ไม่มีแล้ว
ถังเทียนและอู่กวงมีเวลาสนทนากันอย่างออกรสชาติ
เป็นไปด้วยมิตรภาพที่คุ้นเคย ได้เห็นประจักษ์ต่อตาทุกคน ยิ่งทำให้ทุกคนตกใจ
และขุนพลวิญญาณของถังเทียนที่เป็นชายชรามีวิชากรงเล็บที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ไม่มีใครเหมือนแน่นอน
ถังเทียนมีเบื้องหลังเช่นไรกันแน่?
ที่น่าเชื่อถือได้ยิ่งกว่าก็คือถังเทียนมาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ แต่ไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ไม่ว่าจะมองดูยังไง
ถังเทียนก็ไม่เหมือนนักสู้ธรรมดาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ
แต่ละตระกูลก็เข้าใจความจริงทันทีว่า
ตระกูลซ่างกวนในปัจจุบันนี้ไม่ใช่ตระกูลที่พวกเขาจะรนหาเรื่องได้อีกต่อไป
แน่นอนว่า พอวันที่สองประมุขของแต่ละตระกูล ก็มาเยี่ยนมเยือนขออภัยที่รุ่นผู้เยาว์ของพวกเขาได้ก่อเรื่องไว้ในคืนก่อน
บ้านตระกูลซ่างกวนจึงคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนเยี่ยนเยือน
ถังเทียนไม่หลงระเริงและยังคงฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน
โดยแทบไม่มีเวลาพัก
ในฐานะที่เขาเป็นแบบอย่าง ทำให้ศิษย์ในตระกูลคนอื่นๆ ไม่กล้าย่อหย่อน
เพราะถังเทียนในตอนนี้มีอิทธิพลเหนือตระกูลซ่างกวนโดยสิ้นเชิงไปแล้ว
อู่กวงไม่ได้เตร็ดเตร่อยู่นานนักก่อนที่ออกไปจากหมู่ดาวเพอร์ซูส
เขาเริ่มบุกโจมตีสมาคมรวมตระกูลที่อยู่โดยรอบ
จิ่งหาวก็ต้องกลับไปรายงานอาจารย์ความก้าวหน้าเกี่ยวกับเครื่องกลที่เสนอมาโดยถังเทียนก่อนนั้น
จิ่งหาวกลับไปครั้งนี้เพื่อฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธของเขา
ส่วนกลุ่มพวกอาโมรี่สี่คนจะกลับไปพร้อมกับจิ่งหาวด้วยเช่นกัน เพราะโอกาสเช่นนั้นหาได้ยาก
และจิ่งหาวเชื่อว่าทั้งสี่คนยังอ่อนแอเกินไป
ครั้งนี้การอยู่ในสมาพันธ์ชาวยุทธจะช่วยเร่งความก้าวหน้าให้พวกเขา
ทุกคนรู้สึกว่าสมเหตุสมผลดีแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้อาโมรี่และสหายที่เหลือตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าพวกเขายังมีฝีมืออ่อนเกินไป
พวกเขาไม่ใช่คู่มือของขุนพลวิญญาณของสมาคมรวมตระกูล
การฝึกฝนอย่างเป็นระบบคือสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ และจิ่งหาวสัญญาว่าเขาจะดูแลพวกเขาที่ฐานให้เป็นอย่างดี
ถังเทียนรู้ว่าพี่จิ่งหาวเป็นคนรักษาสัญญา
เนื่องจากเขาสัญญาไว้แล้ว อย่างนั้นเขาจะทำให้สำเร็จจนได้
พวกเขาเพิ่งจะได้พบกันก็ต้องแยกจากกันเสียแล้ว
ทำให้ทุกคนไม่ค่อยเต็มใจ
ถังเทียนได้แบ่งคะแนนที่เหลือของเขาให้กับพวกเขาทั้งสี่คน
พวกเขาทั้งสี่คนยังขาดความรู้เกี่ยวกับเรื่องคะแนน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เกรงใจอะไร แต่จิ่งหาวแอบทึ่งกับน้ำใจไมตรีของถังเทียน
ในไม่ช้าตระกูลซ่างกวนก็กลับคืนสู่วันเวลาที่สงบ
ถังเทียนฝึกฝนขณะที่รอการกลับมาของเชียนฮุ่ยอย่างอดทน
※※※※※
หอสิบแปดมนุษย์ทองแดง
ถังเทียนย่อไหล่อย่างรวดเร็วราวสายฟ้า
แขนของมนุษย์ทองแดงส่งเสียงแหวกอากาศน่ากลัว เฉียดผ่านตัวเขาไปอย่างหวาดเสียว มือของถังเทียนกดลงบนแขนทองแดงและปล่อยพลังไปตามแขนทองแดง
แล้วเหวี่ยงตัวเองเข้าแนบอกของมนุษย์ทองแดง เกือบจะในเวลาเดียวกันที่
มีพลังอย่างน้อยสามสายเฉียดผ่านร่างกายเขาไป
ถังเทียนลื่นเหมือนปลาไหล
หลังจากชนกับหุ่นทองแดงแล้ว เขารีบพุ่งออกมาจากด้านล่างหุ่นทองแดงทันที
ขณะที่เขาหลบ
เขาถ่ายเทพลังปราณเที่ยงแท้ไปที่ฝ่ามือหุ่นทองแดง
หุ่นทองแดงสูญเสียสมดุลทันทีและถูกกระแทกกระเด็นไปด้านข้าง
หุ่นทองแดงตัวอื่นที่กำลังวิ่งมาจากด้านข้างไม่สามารถสนองตอบได้ทันเวลาก็กระแทกกันเอง
แต่ยังมีเงาหมัดคู่หนึ่งพุ่งมาถึงถังเทียนแล้ว
ถังเทียนตวาดด้วยความโกรธและต่อยหมัดใส่หมัดทองแดง
ปง!
หุ่นทองแดงขนาดใหญ่ชะงักค้างเมื่อโดนหมัดที่แข็งแกร่ง
พลังหมัดของถังเทียนครั้งนี้มีความก้าวหน้าเมื่อเทียบกับครั้งล่าสุด
แต่ก่อนที่เขาจะดีใจ ควั่บ!
รังสีดาบเจิดจ้าอยู่ในมือของหุ่นทองแดงผอมตัวหนึ่ง
ความเร็วของดาบบรอนซ์ในมือของเขาไม่ธรรมดจริงๆ
ถังเทียนรีบถอย
แต่หุ่นมนุษย์ทองแดงแปดตัวปรากฏตัวรายล้อมเขาไว้
จากตำแหน่งที่แตกต่างกันและพุ่งเข้าหาเขาพร้อมกัน
ถังเทียนกลัวจนคิดอะไรไม่ออก
เมื่อเห็นว่าทุกตำแหน่งถูกปิดล้อม
เขากัดฟันงอเข่าและเตรียมหนีจากด้านบน
ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งได้บดบังเขาจากด้านบน
ถังเทียนเงยหน้าดูและต้องหน้าซีดทันที
หุ่นมนุษย์ทองแดงตัวใหญ่ที่สุดปรากฏอยู่ด้านบนโดยไม่รู้ตัวและบดกระแทกลงมา!
“พวกแกมันน่ารังเกียจเกินไปแล้ว...”
ถังเทียนคร่ำครวญในใจร้องโหยหวนอยู่ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง
โครม!
ฝุ่นฟุ้งกระจาย, แผ่นดินสะเทือน
และเงียบเป็นป่าช้า
สิบแปดมนุษย์ทองแดงลุกขึ้นยืนทีละตัวและหันกายจากไป
บนพื้นมีหลุมรูปร่างมนุษย์อยู่หลุมหนึ่ง
8 ความคิดเห็น:
โดนลุมกินโต๊ะ
ขอบคุณครับ
จะเติบใหญ่ก็ต้องอย่างนี้แหละ โดนอัดบ่อยๆ เดียวแกร่งเอง (ถ้าไม่ตายไปซะก่อนนะ)
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
55555
นี่สินะ ตอนจบพระเอกตาย
ขอบคุณครับ สู้ซะขนาดนั้นก็ยังไม่วายกลับมาโดนซ้อมเละเหมือนเดิม 555
แสดงความคิดเห็น