วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 127 ตะลุยห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง

ตอนที่  127  ตะลุยห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง
เจ้าของร้านตรวจดูทุกส่วนแต่ละส่วนอย่างระมัดระวัง  แต่หยุดดูตรงที่หนังของงูภูตดวงดาว  หยาหยาถลกหนังมันได้อย่างสมบูรณ์  หนังงูถูกถลกเป็นผืนเดียวกันอย่างสวยงาม  ด้านบนของมันเป็นเกล็ดบรอนซ์ประณีตซึ่งมีเสียงคลิกทุกครั้งที่ขยับ

เจ้าของร้านอ้าปากค้าง "หนังงูตัวนี้สภาพดีที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา เพราะเป็นงูระดับหก  นี่น่าจะเป็นงูภูตดวงดาวที่ดูดกินจิตวิญญาณพลังยุทธโบราณและเปลี่ยนมันเป็นงูที่มีลักษณะประหลาด  แม้ว่าแก่นพลังของมันไม่ค่อยได้ราคานัก  แต่คุณภาพหนังของมันดีกว่างูภูตดวงดาวธรรมดามากนัก  หนังงูตัวนี้ ข้าขอซื้อไว้ที่ราคาสามแสนเหรียญดวงดาว  สำหรับเขี้ยวงูคู่นี้ ข้าให้ราคาสองหมื่นเหรียญดาว  ส่วนเอ็นงูให้ราคาห้าหมื่นเหรียญดาว รวมทั้งหมดก็สามแสนเจ็ดหมื่นเหรียญดาว  เจ้าคิดว่ายังไง?"
สามแสนเจ็ดหมื่นเหรียญดาว  ราคานี้มากกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก เขาตกลงราคานี้โดยไม่พูดอะไรต่อ
"ชื่นใจจริงๆ" เถ้าแก่ร้านค้ายินดี จากนั้นยื่นการ์ดเหรียญดาวให้ "ทำไมเจ้าไม่ไปร้านอื่นและตรวจสอบราคาดูเล่า  ร้านข้าให้ราคาสมเหตุผลเป็นปกติ  ข้าหวังว่าเมื่อเจ้าได้ผลเก็บเกี่ยวที่ดีอีก  เจ้าจะกลับมาที่ร้านของข้าก็ได้นะ"
"ไม่มีปัญหา!"  ถังเทียนพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา และรับการ์ดเหรียญดาวไว้ จากนั้นถาม "ภายในเมืองสามวิญญาณ มีร้านขายการ์ดไหนที่น่าเชื่อถือมากบ้าง?"
เถ้าแก่ร้านคุ้นเคยกับเมืองสามวิญญาณ  เขาตอบว่า "ร้านห้องการ์ดสมบัติ แม้ว่าจะราคาแพงมาก แต่ก็เป็นของชั้นดี"
เมื่อคิดถึงครั้งสุดท้ายตอนที่นกกระจอกเทศบรอนซ์กลได้รับเสียหายได้  อวี้เป่าเคยพูดถึงชื่อร้านนี้ไว้แล้ว  ดูเหมือนร้านห้องการ์ดสมบัติจะค่อนข้างมีชื่อเสียง
ถังเทียนพยักหน้าและประสานมือขอบคุณเถ้าแก่ร้าน "ขอบคุณท่านมาก"
"ด้วยความยินดี" เถ้าแก่ร้านคำนับตอบ
ถังเทียนออกจากร้านมุ่งหน้าไปร้านห้องการ์ดสมบัติหลังจากได้รับรางวัลจากการเดินทาง  ร้านห้องการ์ดสมบัติ หาได้ง่ายในเมืองสามวิญญาณ ไม่ต้องเสียเวลามากเขาก็เข้าไปในร้าน
ที่จริงเป็นร้านที่หรูดูดี  ร้านห้องการ์ดสมบัติ ไม่อาจเทียบกับร้านโกโรโกโสของเซรีนได้
กลิ่นกำยานหอมลอยอยู่ในห้อง  มีโซฟานุ่มและโต๊ะน้ำชาและขนมหวาน ชายังคงร้อนมีควันลอยหอมกรุ่น พนักงานต้อนรับอยู่ในชุดกี่เพ้าคอยยิ้มต้อนรับ ถังเทียนกังวลว่าถ้าพวกนางไม่ระมัดระวังพอ ชุดกี่เพ้าที่พวกนางสวมใส่อาจฉีกขาดก็เป็นได้
"เชิญค่ะ"
เสียงของหญิงงามไพเราะและนุ่มนวล ฟังดูแล้วเป็นกันเองทำให้ผู้ฟังคลายความระมัดระวัง
ถังเทียนกวาดตามองดูไปรอบๆ ตรวจดูราคาน้ำโซดา, ค่าธรรมเนียมชา ค่าใช้จ่ายสาวงามและกังวลว่าหินดวงดาวในกระเป๋าเขาจะมีเพียงพอหรือเปล่า
"มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?" สุภาพสตรีคนหนึ่งในชุดกี่เพ้าชมพูเดินเข้ามาหา
"ข้ามาที่นี่เพื่อดูว่ามีการ์ดวิญญาณอะไรบ้างที่เหมาะสม" ถังเทียนไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เขาแค่มองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร้านหรูหรา  แต่เขาไม่รู้ตัวว่าตนเองแสดงความเปิ่นเหมือนเด็กบ้านนอกออกไป
แต่แม้ว่าเขาจะรู้ตัว ถังเทียน เด็กหนุ่มนี้ก็คงไม่ใส่ใจ
พนักงานร้านไม่ได้ดูถูกถังเทียนเพราะหน้าตาบ้านนอกของเขา พวกนางเห็นโลกมามากและใบหน้าพวกนางก็ยังฉาบด้วยรอยยิ้ม "ขอถามหน่อยเถิด ท่านกำลังมองหาการ์ดแบบไหน?"
ถังเทียนตั้งใจจะซื้อการ์ดวิญญาณใบหนึ่ง  แต่จู่ๆ ก็นึกไม่ออก
ไม่ว่าจะเป็นในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง หรือการต่อสู้ในวันนี้ เขาพบว่าจุดอ่อนของเขาก็คือ ปราณเที่ยงแท้ เขาบรรลุพลังระดับห้าไปแล้ว และปราณเที่ยงแท้ของเขาแข็งแกร่งมากกว่าแต่ก่อน  แต่ในด้านอื่นๆ จะถูกจำกัดไปด้วย
"มีการ์ดมังกรฟ้าระดับห้าไหม? หรือคัมภีร์ปราณกระเรียนระดับห้า?"
การ์ดทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่ถังเทียนต้องการมากที่สุดในตอนนี้  ไม่ว่าจะเป็นปราณมังกรฟ้าระดับห้าหรือพลังร่างกระเรียนระดับห้า  ทั้งสองอย่างมีประโยชน์มาก
พนักงานมิได้ประหลาดใจ  ถ้ามีใครบางคนสามารถขายของแถวนี้ได้  พวกเขาต้องไม่ถูกไล่ออกไปง่ายด้วยการ์ดวิญญาณธรรมดา  นางคุ้นเคยกับการ์ดในร้านมากอยู่แล้ว และสามารถเชื่อมโยงราคาได้ทันที "ใช่ค่ะ, เรามีพลังมังกรฟ้าระดับห้าเป็นการ์ดชั้นทอง ราคาหกล้านเหรียญดาว ข้ารับรองได้เลยว่าท่านจะเข้าใจพลังมังกรฟ้าได้ทันที  นอกจากนี้เรายังมีการ์ดคัมภีร์ปราณกระเรียนระดับห้า แต่เป็นการ์ดเงิน ราคาสามแสนเหรียญดาว"
ถังเทียนรู้สึกประหลาดใจ ราคาทั้งสองแตกต่างกันมาก แต่หลังจากนั้น เขาก็เข้าใจ
หนึ่งในนั้นเป็นการ์ดทองและอีกหนึ่งเป็นการ์ดเงิน  ที่สำคัญที่สุด พลังร่างกระเรียนต้องฝึกฝนอย่างหนัก เป็นธรรมดาของสองโลกที่แตกต่างกัน  แต่สำหรับถังเทียน พลังร่างกระเรียนมีประโยชน์มากกว่าพลังมังกรฟ้า หลังจากเชี่ยวชาญพลังสั่นสะเทือน พลังงานร่างกระเรียนก็ชัดเจนยิ่งขึ้นซึ่งเหมาะกับเขามากกว่าพลังระเบิดของปราณมังกรฟ้า
"ข้าชอบคัมภีร์กระเรียนระดับห้า" ถังเทียนล้วงเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของเขาออกมาตรงๆ
เขาดีใจจริงๆ ราคาเหรียญดาวนับว่าโหดจริงๆ สามารถแลกการ์ดวิญญาณของสำนักกระเรียนได้ ก็นับว่าประทับใจจริงๆ
หลังจากแลกเปลี่ยนแล้ว ถังเทียนกลับมาที่ฐานทัพทันที
เมื่อกลับมาที่ฐานทัพ ถังเทียนไม่ได้ใช้การ์ดทันที เขานั่งเดินปราณอยู่บนพื้น
เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เขาล้วงการ์ดวิญญาณของปราณคัมภีร์กระเรียนระดับห้าออกมา  ทันใดนั้นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เข้ามาอยู่เต็มหัวใจเขา  มีทางหลายเส้นทางที่ปรากฏอยู่ในใจของเขา
ถังเทียนคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนั้น เขาทำความเข้าใจบทสรุปภายในการ์ดวิญญาณทั้งหมด  แต่เขาก็ขมวดคิ้วทันที
บางอย่างไม่ถูกต้อง
โดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกเสมอว่าความเข้าใจอย่างนั้นถูกบิดเบือนไปหลายจุด
เขาใช้ปราณกระเรียนมามากที่สุด และเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง มีลักษณะบางอย่างที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน แต่เขารู้สึกได้เสมอว่าถูกหรือผิด  ทันใดนั้น หัวใจถังเทียนตกวูบ  เขาคิดทันทีว่า ผู้เฒ่าเว่ยเคยพูดครั้งหนึ่งว่าวิชาร่างกระเรียนหายสาบสูญมาเป็นเวลานานแล้ว  เป็นไปได้ว่า...
เขาหล่อหลอมความเข้าใจที่ซับซ้อนและเริ่มศึกษาเส้นทางด้วยพลังปราณเที่ยงแท้
ความเข้าใจที่แตกต่างเป็นอย่างหนึ่ง  แต่ด้วยปราณเที่ยงแท้แล้ว มันไม่เคยเปลี่ยน  หลังจากผ่านไปสองสามวันและหลายสัปดาห์แห่งการพยายามใช้ปราณเที่ยงแท้  ถังเทียนก็ตระหนักได้ว่าความเข้าใจในการ์ดวิญญาณนั้นผิด
เขาพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ปราณเที่ยงแท้ของเขา จะรวมกันและสลายหมดไปในทันที เขาพยายามสร้างร่างกระเรียน
ตลอดสามวันมานี้ ถังเทียนขังตัวอยู่ในห้องเพื่อฝึกฝนคัมภีร์ปราณกระเรียน
ทันใดนั้น นัยน์ตาวาววับปรากฏขึ้นในความมืด  ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนเพิ่มขึ้นและโดยไม่ทันได้คิด เสียงหวีดดังออกมาจากลำคอของเขา ช่างเหมือนกับเสียงร้องของนกกระเรียน!"
ถังเทียนกระโดดขึ้นและหัวเราะ
"พลังงานร่างกระเรียนระดับห้า! ฮ่าฮ่าฮ่า!  นี่มันยอดเยี่ยมมาก!"
"ความรู้สึกนี้ สุดยอด!"
"ว้าว.... ความจริงข้าก็คือหนุ่มน้อยชาวฟ้า"
"ฮะฮะฮ่า, พลังงานร่างกระเรียน, ในที่สุดข้าก็ฝึกได้สำเร็จเสียที!
……
เซรีนตกใจที่เนื่องจากเสียงร้องโวยวายกระทันหันของถังเทียน มือของนางสั่นจนกดผิดปุ่ม นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและหยิบสิ่งของรอบๆ ขว้างปาทันที "เจ้างี่เง่าบัดซบ!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ถังเทียนคลานออกมาจากห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงอย่างบอบช้ำ  หน้าของเขาขาวซีดแต่ตาของเขายังคงร้อนแรงดุจไฟ  เขาท้าทายผ่านด่านห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงเพราะคิดว่าเนื่องจากเขามีพลังปราณร่างกระเรียนแล้ว เขาจะปลอดภัย เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะถูกเจ้าหมายเลขเก้าหยุดไว้ได้อีก!
บัดซบ!
"ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าเปล่าประโยชน์  เจ้าต้องรู้จักวิชาพวกภูษาหมอง  พลังสั่นสะเทือนมีประโยชน์แน่นอน  แต่ถ้าเจ้าพึ่งพาแต่พลังปะทะพลัง แล้วทั้งสองฝ่ายก็มีพลังสูงส่งคล้ายกัน  แน่นอนว่าพื้นฐานอย่างเจ้า  เจ้าต้องเข้าใจวิธีใช้พลังสู้กับพลัง ซึ่งมันยากมาก อย่างไรก็ตาม ในด้านนี้ยังมีหวังเล็กน้อย..."
น้ำเสียงปิงเยาะเย้ยเขาอย่างเห็นได้ชัด
หน้าถังเทียนดำเหมือนก้นหม้อ  เขาไม่ใช่คนที่ใจกว้างอยู่แล้ว  พลาดท่าซ้ำสองในที่แห่งเดียวกันก็ว่าน่าอายแล้ว  ล้มเหลวในที่แห่งเดียวกันนับไม่ถ้วนครั้ง ยิ่งน่าละอายน่าอัปยศอดสู เขาไม่เคยพบความล้มเหลวยาวอย่างนี้มาก่อน และสิ่งที่ยากจะยอมรับจนถึงตอนนี้ก็คือ เขายังหาทางออกไม่ได้
โธ่เว้ย!
ถังเทียนกัดฟัน ความอัปยศอดสูที่เขาสั่งสมมาทั้งมวลกำลังเผาไหม้  เหตุผลทั้งหมดกำลังถูกเผาไหม้
บัดซบ....
เราเอาชนะเจ้าพวกบัดซบนี้ไม่ได้เพราะอะไร...
ถ้าเรายังไม่อาจเอาชนะเจ้าพวกบัดซบนี้  แล้วเราจะผ่านถนนไปได้อย่างไร?
ถ้าเราไม่สามารถเอาชนะพวกบัดซบนี่  เราจะไปช่วยเชียนฮุ่ยได้อย่างไร?
ถ้าเราไม่สามารถเอาชนะพวกบัดซบเหล่านี้ได้  เราจะกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างไร?
ถ้าเราไม่สามารถเอาชนะพวกบัดซบนี้ได้...
จะทำยังไงดี!
"ไปตายซะไป! แกเจ้าพวกบัดซบทั้งหลาย!"
ตาของถังเทียนแดงฉานเป็นเลือดทันที  หน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์และในมือของเขามีการ์ดมากกว่าสามใบ  ทั้งหมดเป็นการ์ดทอง การ์ดสีทองส่องประกาย
การ์ดชุดนี้เขาได้มาเมื่อเขาตกลงแลกเปลี่ยนกับจิ่งหาวในรอยแยกพลังขณะแลกเปลี่ยนเครื่องฝึกพลังจิตวิญญาณ การ์ดทองสามใบนี้เป็นวิทยายุทธระดับห้าทั้งหมด ประทับหัตถ์ใหญ่, วิชาถานถุ่ยและ วิชาสลายวังวน
ขณะที่ปิงประหลาดใจ  ถังเทียนใช้การ์ดทั้งหมดโดยไม่พูดอะไร
พร้อมกับเสียงคำราม  ถังเทียนวิ่งกลับเข้าไปที่ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง
"เจ้าบ้านี่...." ปิงหน้าซีด
ปัง ปัง ปัง ปัง ถังเทียนถูกโยนกลับออกมาอีกครั้ง น่วมไปทั้งตัว
เขานั่งเดินปราณโดยไม่พูดอะไร!
หนึ่งชั่วโมงต่อมา  ถังเทียนกระโดดขึ้นมา ชูแขนตะโกนลั่น จากนั้นวิ่งกลับเข้าไปในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงอีกครั้ง
"มาเลย!"
ปัง ปัง ปัง ปัง ถังเทียนถูกโยนออกมาจากห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงอีกครั้ง
ถังเทียนตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งเดินปราณโดยไม่พูดอะไรสักคำ..
หนึ่งชั่วโมงต่อมา  เสียงคำรามก็ดังลั่นอีกครั้ง
……
ยี่สิบครั้ง
……
สี่สิบครั้ง
……
ปิงมองดูถังเทียนผู้บ้าบิ่นเหมือนเสาไม้  ตลอดชีวิตการเป็นทหารของเขา เขาไม่เคยพบคนดื้อรั้นบ้าบิ่นอย่างนั้นมาก่อน
เขาได้พบพวกหยิ่งในศักดิ์ศรี, เห็นแก่ตัว  ได้พบพวกบ้าบิ่นผิดธรรมดา คนพวกนั้นจะสามารถผ่านห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้ในที่สุด  แต่ไม่เคยมีใครใช้วิธีที่สิ้นหวังอย่างนั้นบุกเข้าห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง
เอาเลย!  ลุยเลย!
เขาบุกด้วยความดุดันโดยไม่มีพัก
ไม่เลยสักครั้ง
บุรุษผู้นี้เคยท้อแท้บ้างไหม? เขาไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าความหดหู่ใจหรือ? เขาไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าความเจ็บปวดหรือ?  เขาไม่รู้จักเมื่อยล้า? เขาไม่รู้ว่าเบื้องหน้าเขายังเหลือเวลาอยู่อีกมาก?
ไม่มีความจำเป็นต้องใช้วิธีที่หมดหวังเช่นนั้นเลย
ตราบใดที่เขาพยายาม  เขาจะเอาชนะพวกมันได้!  ทุกคนผู้เดินทางมาตรงนี้ก็จะมีผลออกมาเป็นอย่างนี้  เจ้าอ่อนแอกว่าพวกเขาตั้งแต่แรก  ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ต้องเจออะไรที่หนักกว่า เจ้าจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่าพวกเขา  นั่นเป็นเรื่องธรรมดา
ทำไมเจ้าถึงต้อง...
พวกมันก็เป็นแค่หุ่นบรอนซ์กลุ่มหนึ่ง...
เว้นเสียแต่... เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นบรอนซ์... เจ้าเกลียดความล้มเหลวมากกว่าสิ่งใดใช่ไหม?
ปิงมองดูถังเทียนอย่างงุนงง  มองใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ ดื้อรั้น เพลียและบอบช้ำนั้น
หน้ายังอ่อนนัก แต่กลับมีดวงตาฉายแววดุจเปลวไฟ
ดวงตาที่ร้อนแรงของเด็กหนุ่มสบตาของปิง
โดยไม่ทันรู้ตัว เขาอดที่จะใจลอยมิได้
 

4 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่ถัง... ผมยกนิ้วให้เลย
มาตัดไปเลย

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

แสดงความคิดเห็น