วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 138 หลิงซิ่ว

ตอนที่  138  หลิงซิ่ว
ถังเทียนลืมตาตื่น พระอาทิตย์ยามเช้าฉายแสงต้องหน้าของเขาให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบาย


เขายืดตัวตรงและโดดขึ้นยืน  เขาหลับได้สนิทและรู้สึกมีพลังไม่รู้จบ รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
กู้เสวี่ยก็หลับได้สนิทเช่นกัน ที่ผ่านมาสองสามวัน นางตึงเครียดทั้งกายและใจจนถึงจุดอ่อนล้า เมื่อหลับได้สนิท ที่มุมตาของนางมีรอยคราบน้ำตา
ถังเทียนจิตใจตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่าตั้งแต่แรกจนถึงที่สุด  กู้เสวี่ยจะแสดงออกอย่างสงบและรับสถานการณ์ได้ดีเกินวัย  แต่หัวใจนางเต็มไปด้วยความระทมใจ
เมอเรย์ประหลาดใจกับความเคลื่อนไหวของถังเทียน  เขาลืมตาและมองดูถังเทียนจากนั้นก็หลับตาต่ออีกครั้ง
ถังเทียนมองไปรอบๆ ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาเป็นประกาย ที่มุมลานบ้านมีบ่อน้ำบ่อหนึ่ง   เขาพบถังตักน้ำจากซากหักพังแถวๆ นั้นและเริ่มตักน้ำ
ซ่า..... น้ำในบ่อเย็นถึงขั้วกระดูก เขาราดตั้งแต่ศีรษะลงไปที่ขา  ขุมขนในร่างกายทั้งหมดหดลีบ และความง่วงถูกขับไล่หายไปหมด
ทันใดนั้นเมื่อคิดถึงทุกๆ เช้าในเมืองซิงฟง  ถังเทียนอดยิ้มไม่ได้
เขาไม่ได้ฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาเป็นเวลานานแล้ว
ทันทีที่ความคิดผุดขึ้นมา  ถังเทียนรู้สึกคันหัวใจทันที โดยไม่มีอะไรจะพูด  เขาตั้งท่าฝึกฝน และเริ่มฝึกวิทยายุทธพื้นฐาน
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้ฝึกมานานเกินไปหรือไม่  แต่วิชาวิทยายุทธพื้นฐานดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าใดนัก  แต่ที่สำคัญก็คือนี่คือสิ่งที่เขาได้ฝึกมานานถึงห้าปี ถังเทียนพบความรู้สึกที่เขาเคยมีในตอนนั้นได้อย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกที่คุ้นเคยไหลบ่าเข้ามาในร่างกายทุกจุด
ฝึกแล้วก็ฝึกอีก ถังเทียนก็ยิ่งจริงจังมากขึ้น ขณะที่แสงอาทิตย์ฉายให้เห็นความเป็นลูกผู้ชาย เผยให้เห็นสีหน้าไตร่ตรอง
เขาค้นพบความรู้ใหม่บางอย่าง
※※※※※

เมอเรย์ประหลาดใจขณะมองดูถังเทียนผู้กำลังซึมซับเคล็ดวิทยายุทธพื้นฐาน  ถังเทียนกำลังฝึกวิชาวิทยายุทธพื้นฐาน และเขาอดทนฝึกซ้อมเป็นอย่างมาก
เขาเองก็ยังงงๆ
วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานเป็นระดับฝึกฝนขั้นต้นในโรงเรียน  ความจริงก็คือคนส่วนใหญ่ในวัยสี่หรือห้าขวบ พ่อแม่หรือประมุขตระกูลของพวกเขาก็ให้ฝึกวิทยายุทธพื้นฐานเป็นการวางรากฐานไว้ก่อนแล้ว
อัจฉริยะที่แข็งแกร่งทรงพลังจะตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่เพื่อฝึกฝนวิชาต่อสู้พื้นฐานของพวกเขาเป็นปกติ
ฉากภาพข้างหน้าเขาสร้างความประหลาดใจให้กับเขา  ถ้าเขารู้ว่าถังเทียนฝึกวิทยายุทธพื้นฐานนานถึงห้าปี  ใครจะรู้ได้ว่าเขาจะทำสีหน้ายังไง
กู้เสวี่ยตื่นขึ้นเพราะเสียงหมัดของถังเทียน นางลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อนางตื่นตัวเต็มที่ นางสังเกตได้ว่าถังเทียนกำลังฝึกวิทยายุทธพื้นฐาน ทำให้นางถึงกับตะลึง "วิทยายุทธพื้นฐาน?"
ความคิดของเมอเรย์ถูกเสียงพูดของกู้เสวี่ยรบกวน เขาถอนสายตาจากการมอง และมีสีหน้ากังวลลึกๆ  ถามว่า "คุณหนูตื่นแล้วหรือ?"
แววประหลาดใจบนใบหน้าของกู้เสวี่ยลดลงทันที  นางยิ้มหวานให้เมอเรย์และตอบ "อืม.. ข้าหลับได้ดีจริงๆ"
"ลุงเมอเรย์, เขาก็กำลังฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานหรือเปล่า?"  สายตาของกู้เสวี่ยหันกลับไปมองถังเทียน นางไม่เข้าใจ
เมอเรย์พยักหน้า "เขาฝึกมาชั่วครู่แล้ว  วิทยายุทธพื้นฐานของเขาแข็งแกร่งมาก ไม่สิ ควรบอกว่าสมบูรณ์แบบมาก! เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นวิทยายุทธพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น  เขาต้องใช้เวลามากกับการฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาแน่นอน"
ทันใดนั้น เสียงที่เกิดจากลมหมัดของถังเทียนเริ่มเปลี่ยน
เมอเรย์ประหลาดใจเล็กน้อยและหันไปดูทันที
เสียงลมจากหมัด... ไม่ถูกต้อง...
เสียงของพลังโจมตีจากหมัดไม่ถูกต้องแน่นอน วิชาหมัดพื้นฐานต้องมีเสียงหมัดธรรมดา  ที่สำคัญคือ วิทยายุทธพื้นฐาน เป็นวิชาที่เน้นความตรงไปตรงมาทั้งหมด แรงที่ผลิตพลังออกมาจะไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบ
แต่ลมจากหมัดนั่น...
ลึกและต่ำเกินไป
มันลึกและต่ำมากจนเมอเรย์มองจากที่ไกล เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือน  ความประหลาดใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเมอเรย์ทั้งหมด ถึงกับทำให้เขาตกใจ
นี่คือคนที่สามารถฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานได้ถึงระดับนี้จริงๆ
ทันใดนั้นมีเสียงแค่น เหมือนกับว่าดังอยู่ข้างหูของเมอเรย์
สีหน้าเมอเรย์เปลี่ยน
เงาของบุรุษที่เหมือนกับหมอกสว่าง กำลังลอยมาทางพวกเขา ช้าและค่อยๆ แต่ในพริบตา มันก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาทุกคน
ม่านตาของเมอเรย์หดกระทันหันทันที
หลิงซิ่ว!
※※※※※

ถังเทียนหมกมุ่นอยู่ในวิทยายุทธพื้นฐานอย่างสิ้นเชิง  เห็นได้ชัดว่าเขาคุ้นเคยจนซึมซับเข้ากระดูก  แต่ทันใดนั้นเขามีความตระหนักรู้ใหม่และในท่ามกลางความสุขนั้นเอง  เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวเขา
ทุกส่วนของวิชาต่อสู้พื้นฐานเป็นเบื้องต้นของการปลดปล่อยพลัง  และนักสู้ทุกคนควรจะเรียนรู้วิธีใช้  หลังจากระดับสองขึ้นไป ซึ่งปราณเที่ยงแท้เข้ามาเกี่ยวข้อง พลังมหาศาลที่ปลดปล่อยจากร่างกายหยาบโดยตรงจะลดลงมาก
ในทางตรงกันข้าม ปราณเที่ยงแท้เปลี่ยนเป็นบางอย่างที่มีความซับซ้อนขึ้น พลังมีขนาดใหญ่ขึ้น
ความแข็งแกร่งของร่างกายภายนอกอาจจะเห็นได้ชัดเมื่อยังฝึกอยู่ในระดับที่ต่ำ  แต่ขณะที่ระดับเพิ่มขึ้น ความแข็งแกร่งของปราณเที่ยงแท้ก็จะควบคุมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว
ถังเทียนเป็นนักสู้ระดับห้าแล้ว  ถังเทียนใช้พลังกล้ามเนื้อของเขาได้อย่างหมดจดและกำลังจะสูญเสียพลังนี้ไปแล้ว  เนื่องจากระดับของเขาเพิ่มขึ้น  สัญญาณดังกล่าวจึงมีความสำคัญมาก
แต่วันนี้ เมื่อถังเทียนทบทวนเพื่อทำความเข้าใจเคล็ดระเบิดพลังกล้ามเนื้อขั้นพื้นฐานออกมา  และมีสัญญาณนี้ที่ยังไม่ชัดเข้ามาเกี่ยวข้อง  เขาประหลาดใจ
บางทีทั้งสองอย่างอาจใช้ผสานด้วยกันได้?
เป็นความคิดที่กล้าหาญ  ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกายทันที
การระเบิดพลังพื้นฐานออกมาปกติจะทำได้สำเร็จก็โดยพลังกล้ามเนื้อ  แต่ภายในกล้ามเนื้อจะมีทางเดินปราณเล็กๆ แฝงอยู่  ถ้าเขาสามารถลดพลังกล้ามเนื้อและขณะเดียวกันก็ใช้ปราณเที่ยงแท้และส่งมันผ่านช่องเดินปราณเบาบางเล็กน้อยเหล่านี้ อย่างนั้นเขาจะได้ผลลัพธ์อะไร?
ความคิดบ้าบิ่นเช่นนี้ทำให้ถังเทียนตื่นเต้น มันแตกต่างจากหมัดและท่าเตะอื่นๆ ที่เขาใช้  จากตั้งแต่แรก ถังเทียนไม่เคยถูกยับยั้ง ตัวอย่างเช่น  ขณะที่เขาฝึกร่างกระเรียน เขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ อยู่ในคัมภีร์ร่างกระเรียนระดับห้า  ดังนั้นเขาเริ่มควานหาดูแล้วจากนั้นก็เริ่มยกระดับร่างกระเรียนขึ้นสู่ระดับห้า
ความจริงการ์ดวิญญาณนั้นมีประโยชน์มากมาย  แต่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนสร้างขึ้นมาจากความเข้าใจและประสบการณ์ตนเองซึ่งแต่ละคนก็มีอยู่มากมาย เพราะในวิทยายุทธอย่างเดียวกันนี้  แต่ผู้สร้างกลับผ่านประสบการณ์มาไม่เหมือนกัน  การ์ดวิญญาณที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็ย่อมไม่เหมือนกัน
ผู้ฝึกฝนต้องไม่เชื่อและทำตามการ์ดวิญญาณอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า   ไม่ควรเชื่อแม้ว่าจะเป็นการ์ดวิญญาณระดับทองก็ตาม
ในช่วงเวลาอย่างนี้  นั่นคือสิ่งที่ถังเทียนเรียนรู้
เมื่อถังเทียนฝึกคำภีร์ลมปราณกระเรียน  เขาได้กระตุ้นปราณเที่ยงแท้ภายในช่องปราณที่เล็กกว่าซึ่งเป็นช่องปราณแต่ดั้งเดิม  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถังเทียนฝึกปรือร่างกระเรียน  เขารู้จักช่องปราณเล็กๆ เหล่านี้เป็นอย่างดี
ทันใดนั้น ถังเทียนค้นพบว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อปราณเที่ยงแท้และพลังกล้ามเนื้อถูกใช้พร้อมกัน มันจะช่วยให้วิทยายุทธพื้นฐานให้ยกระดับพลังของมัน เขาสามารถได้ยินจากความเปลี่ยนแปลงของเสียงลมที่เกิดจากพลังหมัดได้
ตอนนี้ ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนปลดปล่อยพลังออกมาสามรูปแบบคือ พลังสั่นสะเทือน, พลังร่างกระเรียนและพลังมังกรฟ้า
ดังนั้นเมื่อเขากระตุ้นพลังที่แตกต่างกันเข้าไปในวิชาต่อสู้พื้นฐานก็จะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด วิทยายุทธพื้นฐานไม่ใช่เป้าหมายของถังเทียน  แต่ถ้าเขาสามารถยกระดับพลังเหล่านั้นให้สูงขึ้น อย่างเช่นประทับหัตถ์ใหญ่และกระตุ้นปราณเที่ยงแท้ในวิทยายุทธเหล่านี้ก็อาจช่วยเพิ่มพลังของวิทยายุทธของเขาก็เป็นได้?
ขณะที่ถังเทียนจมอยู่ในความคิดของเขา จู่ๆ เสียงคำรามก็ดังขึ้นข้างหูเขา จากนั้นเสียงแหลมหวีดหวิวเหมือนไซเรนตำรวจก็ดังข้ามฟ้าเข้ามา
หอกสีเงินปรากฏขึ้นอย่างกระทันหันเหมือนกับมังกรออกจากถ้ำ
หัวใจถังเทียนตกวูบ  เขาไม่ทันได้คิดอะไร ก็เอนตัวและใช้วิชาถานถุ่ย
เท้าดาบถานถุ่ย!
รังสีดาบสีขาวกระจายไปในอากาศจากแรงเหยียดขาของเขา หมอกที่จางไปลอยขึ้นทันที
ติ๊ง!
รังสีดาบและรังสีหอกปะทะกัน ทั้งสองคนรู้สึกเพียงแต่ว่ามีพลังแฝงอยู่มากจนทั้งสองต้องถอยหลัง
หลิงซิ่วถอยหลังไปห้าก้าวก่อนจะตั้งหลักได้มั่นคง  หัวใจของเขาเย็นเฉียบ ช่างเป็นพลังถานถุ่ยที่ทรงพลังและแหลมคมนัก  สีหน้าที่ภูมิใจและหยิ่งผยองพลันหายไป  เขาต้องประเมินถังเทียนใหม่
สามารถเอาชนะต้าเว่ยและชื่อหลานได้  เขามีฝีมือไม่ใช่ระดับปานกลางแน่นอน
การต่อสู้ของหลิงซิ่วจะถูกจุดขึ้น  เป็นเรื่องยากที่จะได้พบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น
ถังเทียนยิ่งมีความสุข  เขาทำได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ เท้าดาบฐานถุ่ยจะแตกต่างจากเท้าดาบถานถุ่ยตามปกติ  แม้ว่าเท้าดาบถานถุ่ยของเขาตามปกติจะสามารถสร้างรังสีดาบ แต่จะอึดอัดหมองคล้ำ  มันไม่เคยคมกล้าและหนาแน่นอย่างนี้มาก่อน และรังสีดาบที่ปล่อยออกมาจริงจะเป็นปราณจางๆ แต่อาจเป็นเพราะนั่นคือพลังร่างกระเรียนก็เป็นได้
ถังเทียนไม่แน่ใจนักว่าหมอกปราณใช้ทำอะไร  แต่เห็นได้ชัดว่าพลังเท้าดาบถานถุ่ยใหม่นี้มีพลังมากขึ้น
หลิงซิ่วผู้มีพลังต่อสู้เต็มเปี่ยมชื่นชม "ถานถุ่ยที่ทรงพลังนัก,  มาอีกครั้ง"
พอเขาขยับเอว หอกเงินก็เคลื่อนไหวเหมือนสายฟ้า ปลายหอกเย็นและแหลมคม ฉกเข้าหาถังเทียนเป็นเส้นตรง
ไวมาก!
ถังเทียนหยีตา  แต่เขาก็มีความเคลื่อนไหว  ตอนนี้พลังของเขาอยู่ในระดับสูงสุด  เขาไม่มีความกลัว  และยังคงใช้เท้าดาบถานถุ่ยอีกครั้ง
ดาบถานถุ่ยสีขาวและหมอกจางส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งออกไป
ดาบถานถุ่ยและปลายหอกปะทะกันอีกครั้ง
หลิงซิ่วตาเป็นประกาย  คมหอกที่แหลมคมพุ่งเฉียดเท้าดาบถานถุ่ยและพุ่งตรงเข้าหาถังเทียน
สัญชาตญาณที่กล้าแข็งของถังเทียนถูกนำมาใช้  แทบจะในเวลาเดียวกัน เขาใช้เข่าเป็นหลัก และงอเข่าเล็กน้อยและกวาดขาข้างหนึ่งออก ในช่วงพื้นที่แคบเขาหมุนตัวต่อเนื่อง
ติง ติง ติง
เสียงพลังดาบที่ออกมาจากน่องกระทบกับหอกด้วยความถี่สูง
มีชื่อเรียกพลังดาบถานถุ่ยนี้โดยเฉพาะว่า ดาบน่อง
พลังของดาบน่องอาจจะเล็ก แต่ว่ามีความถี่สูง มันกระแทกใส่หอกราวกับว่าเป็นพายุ หอกสั่นสะท้านและเฉียดผ่านหน้าของถังเทียน
หลิงซิ่วไม่เคยคาดว่าจะเป็นอย่างนี้  การลองดีของเขาถูกป้องกันไว้ได้ด้วยกลยุทธของถังเทียน  เขาถึงกับผงะ
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนไม่คิดอะไรมากนัก  สำหรับคนที่จู่โจมใส่กะทันหัน  เขาต้องไม่ใช่คนดี และเขาต้องลงมือโต้ตอบบ้าง
เมื่อนึกถึงคำพูดเด็ดขาดที่เคยพูดไปแล้วเมื่อวานนี้ กลับไม่ได้ผล
ถังเทียนหน้าเขียวคล้ำ  ในฐานะจอมเกเรผู้ลือชื่อ ในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจได้ว่า เขาไม่สามารถปกป้องสิทธิ์ของเขาเหนือพื้นที่นี้  อย่างนั้นเจ้าโง่พวกนี้ก็ไม่มีความกลัวเลยสินะ
มีบางคนจะชิงพื้นที่ของเขางั้นหรือ?
มันจะมากไปแล้ว!
ถังเทียนรวบรวมพลังไว้ที่เท้าซ้ายอย่างไม่ลังเลใจและพุ่งเข้าหาหลิงซิ่ว  ในกลางอากาศเขางอขาและปล่อยดาบน่องต่อเนื่องเจ็ดดาบ
รังสีดาบน่องเจ็ดใบเกี่ยวพันกลางอากาศก่อเกิดเป็นม่านมีด
ขณะเดียวกันหลิงซิ่วก็มีปฏิกิริยารวดเร็วเช่นกัน
เขากับหอกถอยออกไปในช่วงสั้นๆ และสามารถหลบพ้นได้
เมื่อจะต้านรับดาบน่อง เขาใช้รังสีคมหอกของเขาแทงใส่ม่านดาบราวกับสายฝน จนมันเริ่มแตกกระจาย
ติง ติง ติง!
เสียงปะทะที่คมชัดหนักแน่น สะท้านหูของทุกคน
เงาร่างทั้งสองแยกกันทันทีที่พวกเขาสัมผัสกัน
เมื่อถังเทียนเห็นคนผู้นี้ชัดเจน เขาคลึงปลายเท้าบนพื้น  เนื่องจากมันชา แต่หลิงซิ่วไม่ได้ดูดีกว่าเลย เขากำลังลูบฝ่ามือของเขาเข้าหากัน
แต่จู่ๆ ถังเทียนก็ตะโกนให้หยุดชั่วขณะ  “เฮ้, เจ้าหนู ขอพักก่อนสิบนาที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงซิ่วตะลึง และโพล่งออกมา “เพื่ออะไร?”
 “ข้ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย!” ถังเทียนพูดอย่างมั่นใจ
หลิงซิ่วสีหน้าชะงักค้าง “......”
 

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

อ้าวเฮ้ย สู้กันก่อนสิ แล้วค่อยไปกินข้าว แบบนี้มันค้างนะ

Unknown กล่าวว่า...

ง่ายๆหิวแล้วสินะ

Unknown กล่าวว่า...

พักกินข้าวแป๊บ.......

Unknown กล่าวว่า...

....

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น