ตอนที่ 152 วิชาหอกดาวแกะ
ถังเทียนวิ่งสุดกำลัง
ลมกระโชกพัดรุนแรงจนเขาไม่อาจลืมตาได้
สายลมแบบนั้นนับว่าแปลกประหลาด เมื่อมันพัดผ่านเขา
ดูเหมือนจะทำให้อุณหภูมิร่างกายของเขาหายไปและพัดพาเอาปราณเที่ยงแท้ในร่างกายเขาไปทั้งหมด เขาวิ่งเร็วขึ้น
เร็วกว่าที่ปราณเที่ยงแท้ที่เหือดหายไป
แต่เขาไม่กังวลเรื่องปราณแท้อีกต่อไป เพราะปราณแท้ของเขาว่างเปล่าแล้ว
ไม่มีเหลือแม้แต่หยดเดียว
เขาจดจ่ออยู่กับหมาป่าแทะกระดูกที่ไล่กวดตามเขามา หมาป่าแทะกระดูกไล่ล่าเขาเหมือนว่าพวกมันมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม
เสียงร้องของมันสะท้อนก้องอยู่ในหูของถังเทียนตลอดเวลา
“เนื่องจากว่าที่นี่เรียกว่าหุบเขาหิวโหย
หมาป่าแทะกระดูกมันจึงหิวโหยอย่างมิต้องสงสัย โอว..ปกติแล้วพวกมันมักถูกปล่อยให้อดอยากสัก
7-8 วันก่อนจะถูกปล่อยตัว”
ปิงคอยให้คำแนะนำขณะที่เขาลอยตัวอยู่ด้านบนทำให้ถังเทียนมึนชา เขาไม่กล้าหันหลังกลับไป
ไม่กล้าชะงักแม้แต่ครู่เดียว
เขาโชคดีที่มีร่างกายค่อนข้างโดดเด่น
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากปราณแท้ แต่ด้วยความแข็งแรงของร่างกาย
เขายังคงวิ่งอยู่ได้
“ความจริง
เป็นหนุ่มนี่ก็ยังดีกว่า พ่อหนุ่ม ร่างกายของเจ้านับว่าโดดเด่น”
ปิงคอยเย้าแหย่อยู่ด้านบนถังเทียน เขายังสงบมั่นคงอยู่ในท่ามกลางความวุ่นวาย
เขายิ้มอย่างสบายๆ
“แม้ในช่วงยุคสมัยของพวกเรา
ก็ยังหาคนที่มีร่างกายแข็งแรงโดดเด่นอย่างเจ้าได้ยาก”
ถังเทียนกลัวฟุ้งซ่าน
พื้นหุบเขาหิวโหยซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาจำเป็นต้องมีสมาธิเต็มที่
“โอว โอว โอว
สิบนาทีแล้วและเจ้าก็วิ่งมาถึงที่นี่ได้แล้ว
ไม่เลวเลย!”
น้ำเสียงของปิงเต็มไปด้วยความชื่นชม
ถังเทียนเข้าใจอย่างชัดเจน
เส้นชีพจรของเขาว่างเปล่า
ตั้งแต่แรก
ถังเทียนยังไม่สามารถหาได้พบเช่นกัน
ความรู้สึกในตอนแรกเขารู้สึกเหมือนกับผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่และรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย
ก็แค่ความแข็งแรงทางร่างกายของเขาไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก
และแทบจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากวิ่งมาได้สักครู่ ถังเทียนเริ่มจะรู้สึกแย่
สายลมที่พัดผ่านเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นแรงโน้มถ่วง
เหมือนกับว่าปากเขากว้างพยายามจะกลืนกินขวดเปล่าด้วยความโลภ
เส้นชีพจรและตันเถียนที่ว่างเปล่าต้องการดูดซับพลังจากสายลมพัดหวีดหวิว
แต่กลับไม่มีพลังงานอยู่ในสายลมเหล่านี้เลยแม้แต่นิด เส้นชีพจร,
ตันเถียนและสายลมพัดโหยหวนมีพลังงานสองแบบที่แตกต่างกัน
สำหรับถังเทียน นี่เป็นการทรมานที่ผิดธรรมดา
เส้นชีพจรที่ว่างเปล่าคงอยู่ได้เพียงสิบนาทีและถังเทียนเริ่มรู้สึกว่าตัวเขาเป็นเป็นปีศาจที่ผอมแห้งและหิวโหย
แต่เขาไม่อาจผ่อนคลายย่อหย่อนได้เลยแม้แต่นิด ผลของการออกกำลังอย่างเต็มที่ครั้งนี้ทำให้เขาพบกับความอ่อนล้าในระดับใหม่ทั้งหมด
สายลมพัดหวีดหวิวยังคงดูดตันเถียนที่ว่างเปล่าของเขาอีกต่อไป เขาเป็นเหมือนคนที่หิวโหย เขาอยากจะอาเจียนออกมายิ่งนัก แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา
ความรู้สึกหิวโหยรุนแรงขึ้น
กล้ามเนื้อที่น่องของเขาเริ่มจะเหนื่อยล้า
ยิ่งเขาวิ่งมากขึ้น เขาก็ยิ่งหิวมากขึ้น ยิ่งเขาวิ่งมากขึ้น ขาของเขาก็อ่อนล้าขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะหมาป่าที่ไล่ตามหลังเขา ถังเทียนคงนั่งกับพื้นไปแล้ว แต่...
“โอว,
ข้าลืมบอกเรื่องนี้กับเจ้าไปหน่อย
แม้ว่าหมาป่าแทะกระดูกจะชอบกินกระดูก แต่มันก็ชอบกินเนื้อสดด้วย โดยเฉพาะเนื้อตรงก้นของเจ้า!”
ด้านบน ปิงลงมาเตือนด้วยความหวังดี
ในใจเขา เขานึกถึงภาพที่หมาป่าฝังเขี้ยวลงที่ก้นของเขา...
ถังเทียนหน้าซีดขาว
เขาที่เข่าอ่อนอยู่แล้วกลับมีพลังเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
ขณะที่เขาวิ่งอย่างสุดฝีเท้า
ข้างหน้าเป็นหุบเขาที่ยาวไม่มีที่สิ้นสุด
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ใจของถังเทียนว่างเปล่า เขารู้แต่เพียงว่าเขาแค่ต้องวิ่งต่อไป
ปิงติดตามเขาไปตลอด
ใบหน้าที่เหมือนหน้าไพ่ของเขาแสดงความตกใจอย่างช่วยไม่ได้ ถังเทียนจนปัญญาไปแล้ว
เสียงหอบของเขาดังหนักหน่วงและความเร็วของเขาตกลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้เขายังสะดุดหินแม้จะพยายามกระโดดข้ามหินสักก้อนก็ตาม ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายของเขาถึงขีดจำกัด ถังเทียนคงไม่มีทางพบกับปัญหาดังกล่าว
แต่เจ้าเด็กคนนี้....
ปิงมองดูเวลา ผ่านไปยี่สิบนาทีแล้ว ปิงนึกย้อน
มีสักกี่คนในค่ายทหารใหม่จะทนได้นานขนาดนั้น?
ในความทรงจำของเขา
เมื่อทหารใหม่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้และสามารถอยู่ได้ถึงสิบนาที
พวกเขาจะถูกพิจารณาว่าอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว
สามารถทนได้นานกว่ายี่สิบนาทีทั้งที่เพิ่งเข้ามาครั้งแรก
เขาสงสัยว่าถังเทียนจะทำลายสถิติได้หรือไม่?
ปิงเริ่มคิด ย้อนไปชั่วขณะ ลำดับหมายเลขสถิติก็หลั่งไหลเข้ามาในความคิดของเขา
สิบแปดนาที สามสิบสามวินาที!
ปิงตื่นเต้นจริงๆ ใบหน้าที่เหมือนกับไพ่เต็มไปด้วยสีสัน
ยิ่งเขาตกตะลึงก็ยิ่งดูตลก คิ้วโก่งของเขาดูกว้างขึ้น
ทั้งตาทั้งปากเป็นรูปวงกลมเหมือนกัน
เขาตกตะลึงจริงๆ
เขาเป็นนายทหารมานานมากและดำเนินการคัดเลือกเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์มาแล้ว
เมื่อกองทัพดาวกางเขนใต้รุ่งเรืองถึงขีดสุด พวกเขามีเงื่อนไขที่เข้มงวดในการคัดเกณฑ์ทหาร ในเด็กหนุ่มพวกนั้นคนไหนไม่มีพรสวรรค์บ้างเล่า?
สำหรับมาตรฐานและพรสวรรค์ของถังเทียน
ในทางปฏิบัติแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้เข้าอบรมในค่ายทหารใหม่
แต่ ด้วยพรสวรรค์ธรรมดาแบบนี้ เจ้าเด็กนี่ทำลายสถิติตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าหุบเขาหิวโหย
ปิงสังเกตเงาที่สั่นไหว เขารู้สึกปลาบปลื้ม
เจ้าเด็กนี่มักสร้างความทึ่งให้เขาได้อยู่เรื่อย
คนแบบไหนกันที่สามารถทำลายสถิติค่ายฝึกทหารใหม่ได้เรื่อย
เขาเริ่มตั้งความหวังไว้สูง
“อ๊า....”
ถังเทียนร้องโหยหวนกึกก้องไปทั้งหุบเขาหิวโหย
ปิงตกใจและหันควั่บทันที
เขาตกใจและผิดหวังแทน พลางบ่นพึมพำ
“ข้าเตือนเจ้าไปแล้ว
พวกมันชอบก้น...”
※※※※
“คุณหนู,
ส่วนผสมทั้งหมดจัดเตรียมไว้แล้ว”
เมอเรย์กล่าว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล
กู้เสวี่ยมองดูและยิ้มทันที “ลุงเมอเรย์ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว!”
เมอเรย์ผงะถอยหลังเมื่อเขาได้ยิน อารมณ์ของเขาโล่งอกเบาใจทันที “ดีแล้ว! คุณหนู
ท่านไม่ต้องเสี่ยงขนาดนี้ก็ได้...”
“ไม่!” กู้เสวี่ยส่ายศีรษะ
“ข้าตั้งใจรอจนพวกเขาจากไปก่อน แล้วข้าค่อยลองดูอีกครั้ง”
“คุณหนู!” เมอเรย์ตะลึง “ท่านทำอย่างนี้ไม่ได้นะ! คุณชายถังและคุณชายหลิงยังอยู่ที่นี่ทุกคน ถ้ามีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยพวกเขาจะได้ดูแลท่านได้...”
“ถ้ามีอุบัติเหตุอะไร,
พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยได้
ต่อให้พวกเขาอยู่ที่นี่ก็ตาม”
กู้เสวี่ยพูดเบาๆ
“แต่...” เมอเรย์พยายามโน้มน้าว
กู้เสวี่ยยิ้มหวาน “ลุงเมอเรย์ อย่าพยายามโน้มน้าวข้าอีกต่อไปเลย ข้าจะบอกพวกเขาทีหลังว่าข้าไม่ได้ตั้งใจกระตุ้นพลังสายเลือดของข้าแล้ว”
“คุณหนู,
ท่านเกรงว่าคุณชายถังจะกังวลห่วงใยหรือ?”
เมอเรย์มองลึกลงไปในดวงตาของคุณหนู”
“ให้หนุ่มชาวฟ้าได้มุ่งหน้าสู่สวรรค์วิถีด้วยใจที่สงบเถอะและให้เขาได้ปลดปล่อยความทะเยอทะยานชาวฟ้าของเขาได้
นั่นจะยิ่งใหญ่เพียงไหน” กู้เสวี่ยยิ้มเล็กน้อย
“เขาช่วยเรามามากกว่าที่ควรเป็นอยู่แล้ว”
เมอเรย์เงียบ หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เขากล่าวว่า “ข้าเข้าใจ”
ขณะที่เมอเรย์หมุนตัวเดินออกไป เขาหันศีรษะกลับมาทันทีและพูดจริงจังว่า “คุณหนู ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถกระตุ้นพลังสายเลือดได้!
สวรรค์ให้ความทุกข์ยากกับท่านมามาก ก็ย่อมให้โชคกับท่านมากเช่นกัน
ทั้งหมดนี้จะก่อเกิดเรื่องราวเป็นตำนานเล่าขานอย่างแน่นอน”
“ลุงเมอเรย์
ลุงคาดหวังข้าไว้สูงจริงๆ”
กู้เสวี่ยตะลึง แต่นางก็เลียนแบบสำเนียงเสียงแบบถังเทียนและพูดติดตลกว่า “แต่ข้า...ก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันนะ”
เมอเรย์ยิ้มและเดินจากไป
กู้เสวี่ยมองดูเงาหลังเมอเรย์หายลับตาไป
นางรำพึงกับตนเอง “น่าเสียดายที่ต้องใช้เวลาที่มีค่ามากเพื่อกระตุ้นพลังสายเลือด”
※※※※
ถังเทียนเดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าหมองและอารมณ์หงุดหงิด เขายืนท่าทางประหลาด
เพราะก้นของเขาได้รับบาดเจ็บ
ที่ลานหลังบ้าน หลิงซิ่วกำลังฝึกวิชาหอก
“เอ๋, ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงได้แต่งตัวดูดีนักเล่า?”
ถังเทียนประหลาดใจที่หลิงซิ่วเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ทำให้เขาดูเหมือนคุณชายผู้ร่ำรวยทันที เขาดูหล่อและอ่อนโยน ถังเทียนก้มหน้าดูสารรูปตัวเองในตอนนี้ แล้วรู้สึกเหมือนพวกบ้านนอกเข้ารุง
ช่างเถอะวะ
หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ไม่มีทางจะเดินในเส้นทางโปรยหว่านเสน่ห์เป็นแน่
ถังเทียนปลอบใจตนเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนเห็นหลิงซิ่วฝึกวิชาหอก
เขาสนใจทันที ดังนั้นเขานั่งลงที่มุมหินข้างหนึ่ง
ทันทีที่เขานั่งลง เขารู้สึกว่าเสียวก้นวาบ หัวใจเขาตกวูบและชั่วเวลาต่อมาเขาถึงตระหนักได้ว่าเขาออกมาจากค่ายฝึกทหารใหม่แล้ว ก้นของเขาดีขึ้นแล้ว แต่ยังรู้สึกเจ็บอยู่
มันคงเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวด นี่ต้องเป็นแผลที่ผิดปกติแน่
เขาบังคับตนเองให้ลืมเลือนความทรงจำที่ก้นแตก
และเขี้ยวขาวเงาวับของหมาป่า ถังเทียนสงบจิตใจลงและใช้พลังตนเองจดจ่ออยู่กับวิชาหอกของหลิงซิ่ว
วิชาหอกของหลิงซิ่วไม่เปลี่ยนแปรมากนัก เขายังคงโปรยจุดดาวเงินอย่างต่อเนื่อง โดยใช้คมหอกสร้างทะเลดวงดาวระยิบระยับ
เหมือนกับว่าเขาไม่รู้จักความเมื่อยล้า
เขายังตั้งใจมุ่งมั่นฝึกวิชาที่น่าเบื่ออย่างนั้น
ถังเทียนเพ่งสายตาดูมือที่จับหอกเงิน
เขาต้องตกใจเมื่อได้เห็น
ช่างเป็นเคล็ดปลดปล่อยพลังที่แปลกประหลาด
หลังและเอวของหลิงซิ่วแทบจะไม่ขยับ ไหล่ของเขาไม่ผายกว้าง
ดังนั้นความเคลื่อนไหวของท่าหอกจึงมีน้อยมาก
ถังเทียนมีพื้นฐานวิทยายุทธที่หนักแน่นและมีความเข้าใจการปลดปล่อยพลังอย่างลึกซึ้ง
แค่มองเพียงวับเดียวเขาสามารถบอกได้เลยว่าเคล็ดปลดปล่อยพลังของหลิงซิ่วแปลกประหลาดมาก
กระดูกสันหลังคือมังกร เป็นแหล่งพลังของนักสู้ทุกคน
เพื่อเพิ่มการปลดปล่อยพลัง
นักสู้ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการใช้กระดูกสันหลัง ก็เหมือนกับเคล็ดวิชาต่อสู้ทั้งหมด
ปริมาณของพลังอยู่ที่กระตุ้นพลังที่กระดูกสันหลัง
แต่เมื่อหลิงซิ่วปลดปล่อยพลัง เขาไม่ใช้กระดูกสันหลังของเขาเลย
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขาไม่ได้ใช้พลังจากไหล่
ข้อศอกหรือข้อมือมากนัก หลิงซิ่วใช้นิ้วมือเป็นส่วนใหญ่ในฐานะแหล่งกำเนิดพลัง
ถังเทียนจ้องมองนิ้วทั้งสิบของหลิงซิ่วอย่างใกล้ชิดและสังเกตได้ว่านิ้วของหลิงซิ่วแข็งแรงมากกว่านิ้วของคนธรรมดา
นิ้วงดงามที่แข็งแรง
ถังเทียนถอนหายใจ
ถังเทียนเกือบเคยพลาดท่ากับความเปลี่ยนแปลงของนิ้วหลิงซิ่วมาก่อน
การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยอย่างนั้นสามารถปลดปล่อยพลังที่น่าประทับใจดังกล่าว
และถังเทียนไม่สามารถเข้าใจความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงนั้นได้
แต่ละหอกที่แทงจะหมุนปั่นอย่างแรง
แรงหมุนปั่นเช่นนั้นสร้างแรงเสียดสีระหว่างหัวแม่มือกับด้ามหอกอย่างรุนแรง
โชคดี,
เขาใช้แรงเสียดทานระหว่างหัวแม่มือของเขาและหอก
เขาจึงสามารถสร้างแรงปั่นที่รุนแรงขนาดนั้นได้
ถังเทียนประหลาดใจ
หอกเงินของหลิงซิ่วทำมาจากโลหะ ไม่ใช่ของเบาๆ แม้แต่น้อย
“นึกไม่ถึงเลยว่า
ข้าจะสามารถได้เห็นวิชาหอกหมู่ดาวแกะด้วยตาตนเอง” จู่ๆ
เสียงของปิงก็ดังขึ้นในหัวของเขา
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและชื่นชอบ
3 ความคิดเห็น:
ขอบคุณคร๊าฟ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น