วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 155 วังวนกระเรียนขาว

ตอนที่   155  วังวนกระเรียนขาว
ตาของตุ๊กตาเรืองแสงดูน่าขนลุก แดงเหมือนทับทิม  หน้าที่เป็นศิลาดูมีชีวิตยิ่งดูหม่นหมองกว่าเดิม  ถังเทียนรู้สึกว่าเขาเหมือนตกเป็นเป้าหมายของอสรพิษ

ปิงและตุ๊กตาหินอีกสองตัวโผล่มาจากด้านหลัง  พลังของตุ๊กตาแข็งแกร่งมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้  และวิชาของพวกมันก็แปลกประหลาดสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าพวกมันได้เปรียบ
สถานการณ์ของพวกมันได้เปรียบ แต่ถังเทียนก็มีวิธีของตนเอง
 “กรงเล็บภูตพราย!
แก่นพลังวิญญาณระดับหกจำนวนสิบเม็ดแลกเปลี่ยนเพื่อเรียกกรงเล็บภูตพรายออกรบ  กรงเล็บภูตพรายระดับหกก็ยังทรงพลังอยู่ดี  กรงเล็บภูตพรายปรากฏตัวข้างๆ ถังเทียน ร่างที่งองุ้มของเขาให้ความรู้สึกที่สบายใจสำหรับถังเทียน
ตาของตุ๊กตาตัวหนึ่งกระพริบแสงสีแดงและช่วงเวลาต่อมาก็หายไปในอากาศ  ในเวลาเดียวกัน กรงเล็บภูตพรายลืมตาทันทีกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่จะหายไปเช่นกัน
ปง!
ดาวตกที่แสงวาววับปรากฏอยู่ในท้องฟ้า
นิ้วที่ผอมแห้งปะทะกับโครงสร้างโลหะ  ไม่มีฝ่ายใดเคลื่อนไหว
ในสายตาของกรงเล็บภูตพรายความปรารถนาจะต่อสู้กำลังลุกโชน  เขาเสียดสีนิ้วทั้งห้ากับสายลมและสร้างรังสีเป็นประกายจับตา และปล่อยรังสีนั้นพุ่งเข้าหาตุ๊กตาหิน
ตาของตุ๊กตาแดงและเหมือนกับมันจะยิ้มให้สหายเก่า  ตุ๊กตาหินคว้าอากาศข้างหน้าของมัน
ทั้งสองฝ่ายเร่งความเร็วขึ้นจนอยู่ในระดับสูงสุด
ถังเทียนระบายลมหายใจ  ในบรรดาตุ๊กตาหินทั้งห้าตัว ตุ๊กตาลายดอกไม้ให้ความรู้สึกอันตรายกับเขามากที่สุด  กรงเล็บภูตพรายล่อหลอกมัน ทำให้ความกดดันของถังเทียนลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
แกก แกก แกก, ถุงมือกระเรียนฟ้าเริ่มจัดรูปทรง  เหมือนกระเรียนหดคอรอเวลาทะยานตัว
ถังเทียนไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย  แม้ว่ามนุษย์หินเหล่านี้จะมีปราณที่น่าขนลุก และชั่วร้าย  แต่ถังเทียนก็ยังกล้า  เขาไม่ได้รับผลกระทบจากปราณที่แข็งแกร่งนั้น
พลังปราณเป็นระลอก  แต่ถังเทียนไม่รอให้มนุษย์ศิลาเคลื่อนไหว เขากลับย่อตัวลงและพุ่งโจมตี
เป้าหมายของเขาก็คือตุ๊กตาหน้าร้องไห้
ตุ๊กตาร้องไห้ดูเหมือนว่ามันเตรียมจะร้องไห้  มันดูกดดัน สิ้นหวังและมืดมน ในดวงตาแดงของมัน เหมือนกับมีทะเลเลือดนรกแดง  มีรังสีเลือดกระพริบอยู่ตลอด
ถังเทียนรู้ว่าอารมณ์อย่างนี้ชั่วร้ายและไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
เสียงกระหึ่มของวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ตบใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้
ก่อนหน้านี้ท่าเท้ามีดถานถุ่ยไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับตุ๊กตาหินได้  ดังนั้นถังเทียนจึงตัดสินใจใช้พลังประทับหัตถ์ใหญ่
เหมือนกับว่าตุ๊กตาหน้าร้องไห้จะรู้ว่ามันทรงพลัง มันถอยหลังอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเลย
ฝ่ามือพลาดประทับลงกับพื้น  แต่ถังเทียนไม่หงุดหงิด  ประทับหัตถ์ใหญ่สามารถคุกคามตุ๊กตาหินได้  นี่ทำให้ตาของถังเทียนเป็นประกาย เสียงหวีดหวิวดังขึ้นทำลายความเงียบ  ตุ๊กตาหินหน้าโกรธลอบทำร้ายเขา
ตุ๊กตาหน้าโกรธรวมมือเปลี่ยนเป็นหมัด  แต่หมัดของมันดูแปลก  นิ้วหัวแม่มือเป็นเหมือนลิ้นที่เกาะอยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง  แสงสีแดงในดวงตาของมันสว่างวาบขึ้น หมัดนั้นมีระลอกแสงสีแดงและเปลี่ยนเป็นหมัดที่มีรังสีแดงหุ้ม เหมือนกับว่าเป็นลูกปืนใหญ่กระแทกเข้าใส่หลังของถังเทียน
ถังเทียนมีประสบการณ์กับการรุมโจมตีมาแล้ว  เมื่อเขาถูกโจมตีจากข้างหลัง  เขาไม่ตื่นเต้น เขารู้ชัดเจนว่าเขาต้องชนะ เขาต้องคิดหาวิธีกำจัดความได้เปรียบของฝ่ายตรงข้าม  เขาต้องคิดหาวิธีพลิกสถานการณ์ก่อนที่เขาจะสามารถหาโอกาสคว้าชัยชนะ
อย่างรวดเร็ว เขาเตะขาออกและในขณะเดียวกัน  ก็ใช้ฝ่ามือซ้ายด้วยประทับหัตถ์ใหญ่โจมตีกลับหลัง
ปัง!
ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ฝ่ามือซ้ายของเขา  พลังปราณทำลายชอนไชเข้ามาในเส้นชีพจรมือซ้ายของเขา  ถังเทียนประหลาดใจ  แต่เขาใช้พลังร่างกระเรียนของเขาสลายปราณเที่ยงแท้ที่ชอนไชเข้ามาในร่างเขา การยืมพลังจากพลังชนิดนี้ ทำให้เขาปลิวกระเด็นเหมือนกับลูกเบสบอลที่ถูกหวด ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตุ๊กตาหน้าร้องไห้เข้าใกล้เขาทันที
ตาแดงของตุ๊กตาหน้าร้องไห้สว่างวาบ  มันรวบนิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ นิ้วกลางและรวบเข้าสร้างเป็นกระบี่ แล้วตวัดใส่ถังเทียน
ถังเทียนหรี่ตา  จุดแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นที่นิ้วกลางของตุ๊กตาหินหน้าร้องไห้
ควับ!
รังสีกระบี่แดงถูกปล่อยออกมาจากนิ้วกลางของตุ๊กตาหน้าร้องไห้พุ่งเข้าหาถังเทียน
แค่ช่วงเวลาก่อนที่รังสีแดงจะสว่างขึ้น  ผมของถังเทียนตั้งชัน  เขาปล่อยพลังประทับหัตถ์ใหญ่โดยไม่ต้องคิดอะไร
เขาฝึกฝนมาทั้งวันทั้งคืนไม่เคยย่อหย่อน เขาฝึกประทับหัตถ์ใหญ่ได้ในระดับลึกซึ้งแทบจะถึงระดับเคล็ดสังหาร  การถูกคุกคามคราวนี้ทำให้เขาตั้งใจมากกว่าที่เคย  จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของเขาเป็นเหมือนดอกไม้เพลิง  แต่เป็นเพลิงสีเงิน เงียบและเยือกเย็น
คราวนี้ เมื่อใช้ฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่  ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างต่างออกไป
ฝ่ามือที่เป็นเหมือนแท่งหินหลัก หนักแน่น และมั่นคงเหมือนเหล็ก  บนผนึกฝ่ามือมีตราประทับสีแดงสองตรา
ศิลา!
ปราณที่หนาแน่นปกคลุมบรรยากาศในเสี้ยววินาที
ติง
รังสีกระบี่แดงแทงผ่านตราประทับได้สามนิ้วก่อนจะหายไป  แต่ผนึกฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ยังส่งเสียงหวีดต่ำ กระแทกเข้าใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้
แววหวาดกลัวเลือนลางฉายผ่านตาของตุ๊กตาหน้าร้องไห้  อากาศโดยรอบตัวมันเฉื่อยชาทันที  ดูเหมือนมันจะรู้ว่าตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ
มันทำท่ามือเหมือนเดิมและประกบมือเข้าด้วยกัน หน้าของมันย้อมด้วยปราณสีแดง
วืดดด!
รังสีกระบี่หนาสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากระหว่างฝ่ามือของมันและปะทะกับฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่
รังสีกระบี่สีแดงทรงพลังแทงเข้าไปในประทับหัตถ์ใหญ่  ขณะที่มันจะแทงทะลุ พอตราผนึกคำว่า “หิน” บนประทับหัตถ์ใหญ่เปล่งแสง ก็สามารถต้านทานรังสีกระบี่แดงทันที
ตราผนึกที่มีคำว่า “หิน” และรังสีกระบี่แดงหมองลงทันที
ตราคำว่า “หิน” เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีโปร่งแสง และใกล้จะหายไป รังสีกระบี่ถูกกระแทกใส่สลายเป็นจุดสีแดงนับไม่ถ้วน
ผนึกประทับหัตถ์ใหญ่ประทับใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้
ปัง!
ตุ๊กตาหน้าร้องไห้ถูกกระแทกป่นเป็นผุยผงทันที
ตุ๊กตาหน้าโกรธดูเหมือนจะยิ่งโกรธมากขึ้น  ดวงตาสีแดงดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์ที่เดือดดาล  มันปล่อยหมัดใส่ด้านหลังของถังเทียน
ตอนนี้ถังเทียนอยู่ในสถานการณ์ที่แปลก  เหมือนกับว่าการต่อสู้ทั้งหมดอยู่ภายในใจของเขา  ปิงกำลังต่อสู้กับตุ๊กตาอีกสองตัว  และเขาก็ไม่ได้เสียเปรียบ ด้วยวิธีที่ง่ายและหมดจด  ถังเทียนไม่รู้ชื่อวิชานั้น แต่ในเงื้อมมือของปิง วิชานั้นทรงพลัง เมื่อเทียบกับดาบกางเขนเขียวแดง ตอนนี้ปิงยังใช้ออกได้หมดจดกว่า
ปิงไม่เคยสอนวิทยายุทธอื่นให้เขา  มีแต่จับถังเทียนโยนใส่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้ถังเทียนปรับตัว
มีความคิดอยู่หลายเรื่องที่ปรากฏอยู่ในใจของเขา  แต่ตอนนี้  หัวใจของถังเทียนสงบผิดธรรมดา
โดยมิต้องหันศีรษะไปมอง  เขาสะบัดนิ้วทั้งห้าที่สวมถุงมือกระเรียนฟ้าอยู่  พลังงานกระเรียนโคจรเข้าถุงมือกระเรียนทันที ร่างกระเรียนที่คมชัดกู่ร้องทันที
เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนใช้ถุงมือกระเรียนฟ้าต่อสู้  เขารู้สึกว่ามีความแตกต่างจากเดิม
วังวนวิหคขาว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว วังวนที่คล้ายกับทอร์นาโดสีขาวส่งเสียงหวีดหวิวแล่นเข้าหาหมัดที่มีรัศมีแดงครอบคลุมราวกับมัจฉาคะนอง
หมัดรังสีแดงถูกดูดเข้าหาวังวนสีขาว
ควั่บ
หมัดรังสีแดงกับวังวนปะทะกันทันที และในทันใดนั้น  รังสีหมัดแดงถูกพลังวังวนสีขาวปั่นอย่างรวดเร็ว  หมัดถูกปั่นกระเด็นไปข้างๆ และวังวนขาวพุ่งเข้าใส่ตุ๊กตาหน้าโกรธอย่างร่าเริง
และถึงเวลานี้ วังวนขาวระเบิดพลังและเสียงหวีดหวิวออกมา ภายในวังวนแฝงไว้ด้วยพลังร่างกระเรียนซึ่งระเบิดออกมาฉับพลัน  วังวนขาวแต่ละวงเหมือนใบมีดที่หมุนปั่นด้วยความเร็วสูง
ประกายสีขาวแปลบปลาบทั้งหมดมองดูคล้ายกับนก
และพุ่งเข้าหาตุ๊กตาหินทุกทิศทางอย่างกราดเกรี้ยว
ตุ๊กตาหน้าโกรธกรีดเสียงโหยหวนและใช้วิธีของมันป้องกันประกายวิหคขาวที่พุ่งเข้ามา แต่เนื่องจากมีมากเกินไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันได้ทั้งหมด ควั่บ!  วังวนที่แฝงด้วยพลังร่างกระเรียนกระแทกใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่อง
การกระทบกระแทกในแต่ละครั้งทำให้ร่างของมันสั่น  รูหลุมเริ่มเกิดขึ้นบนร่างของมัน
ตุ๊กตาหินหน้าโกรธเหมือนกับที่ร่อนตะแกรง  มันสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ และร่างของมันมีหลุมรูมากมาย
ถุงมือกระเรียนฟ้าช่วยเพิ่มพลังร่างกระเรียนมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้  นอกจากนี้วังวนวิหคขาวยังถูกเสริมพลังด้วยพลังร่างกระเรียนทำให้มันทรงพลังมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้
ในช่วงเวลานั้นเอง  ถังเทียนก็เข้าใจได้
ในอนาคตจากนี้ไป  เขาจะตั้งชื่อมันว่าวังวนกระเรียนขาว
ถังเทียนไม่ยอมให้ตุ๊กตาหน้าโกรธตั้งตัวได้  แค่ขยับตัวครั้งเดียว เขาก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าตุ๊กตาหินหน้าโกรธและปล่อยพลังฝ่ามือออกไป
ประทับหัตถ์ใหญ่
พลังจากฝ่ามือถูกส่งเข้าไปในร่างของมัน
ปัง!  ตุ๊กตาหินหน้าโกรธระเบิดเป็นชิ้นๆ
ถังเทียนยืนรำลึกการต่อสู้อยู่ตรงนั้นเอง  เขามีความก้าวหน้าอย่างมากมายแน่นอน  เขาไม่รู้สึกประหลาดใจที่สามารถเข้าใจเคล็ดสังหารของวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ได้  สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจจริงๆ ก็คือพลังที่น่ากลัวของวังวนกระเรียนขาวต่างหาก
ก่อนหน้านี้ เขาได้ลองรวมพลังร่างกระเรียนให้เป็นวังวนวิหคขาว  แต่เมื่อเทียบกับพลังนี้แล้ว ห่างไกลคนละโลก  จุดสำคัญตรงนี้ก็คือถุงมือกระเรียนฟ้า    พลังกระเรียนฟ้าต้องแข็งแกร่งเพียงพอก่อนจึงจะสามารถใช้วิธีเร่งศักยภาพจนสูงสุด  ขอเพียงอาศัยถุงมือกระเรียนฟ้าและพลังกระเรียนฟ้าเพื่อเพิ่มพลังให้เขา  สมบัตินี้ย่อมช่วยเขาเป็นอย่างดี
ดูเหมือนเขาจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวให้คุ้นเคยกับการใช้ถุงมือกระเรียนฟ้า
น่าเสียดายที่ถุงมือกระเรียนฟ้าสามารถสวมใส่ได้แค่เพียงมือ
ถ้าสามารถสวมได้ถึงขา  อย่างนั้นเมื่อใช้ร่วมกับพลังร่างกระเรียน ท่าเท้าถานถุ่ยจะแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงไหน
ถังเทียนหัวเราะ  เขาก็เป็นคนโลภเหมือนกัน  ด้วยวังวนกระเรียนขาว  พลังของเขาจะแตกต่างไปจากเดิม  วังวนวิหคขาวเดิมใช้ก่อกวนศัตรูเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้มีพลังในการทำลายล้าง
เขาเริ่มกลับมาสู่ความเป็นจริงช้าๆ  ถังเทียนตกใจกับเสียงตวาดกึกก้องสองสามครั้ง ปิงจัดการกับตุ๊กตาหินสองตัวได้สบายๆ  ทางด้านกรงเล็บภูตพรายก็ฝังกรงเล็บทั้งห้าเข้าที่อกของตุ๊กตาหินดอกไม้
ถังเทียนตกตะลึง  ส่วนอกของตุ๊กตาหินเหล่านี้แข็งแกร่งมาก ขนาดถังเทียนใช้ดาบเท้าถานถุ่ยก็ยังไม่สามารถทิ้งร่องรอยลงบนตัวตุ๊กตาหินได้  แต่กรงเล็บภูตพรายสามารถเจาะผ่านได้สบายๆ
ช่างเป็นพลังกรงเล็บที่แข็งแกร่งและเกรี้ยวกราดนัก
ทันใดนั้น ถังเทียนเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหินหน้าร้องไห้ที่โดนประทับหัตถ์ใหญ่เล่นงาน  มีทับทิมแดงเม็ดหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขา
เอ๋?  อะไรกันนี่?
เขาหยิบทับทิมแดงขึ้นมา  มันคือสีเดียวกับตาของตุ๊กตาหิน  ถังเทียนตื่นเต้นในใจ  เขารีบวิ่งไปที่ตุ๊กตาหน้าโกรธและเริ่มค้นหา  เขาพบทับทิมแดงคล้ายๆ กัน
ในไม่ช้า เขาก็พบทับทิมแดงในตุ๊กตาอีกสามตัวทั้งหมด
ทับทิมทั้งห้าเม็ดวางเรียงอยู่ในฝ่ามือของเขา  จู่ๆ ทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเหมือนแอ่งเลือด และรวมตัวเป็นร่างมนุษย์เลือนลางร่างหนึ่ง
หลังจากนั้น ชั้นเลือดชั้นนอกเริ่มลอกออก   รูปสลักหินขนาดนิ้วชี้ปรากฏอยู่ที่ฝ่ามือของถังเทียน ตาของตุ๊กตาแดงก่ำ  บนหน้าผากของมัน ฝ่ามือซ้ายขวามีดวงตาที่แดงฉาน
รูปสลักห้าตาทำให้ถังเทียนถึงกับผมตั้งชัน
กู้เสวี่ยพอรู้ว่าใครชนะในการต่อสู้จึงรีบเข้ามาทันที  เมื่อนางเห็นตุ๊กตาในมือของถังเทียน  นางถึงกับสีหน้าเปลี่ยน และอุทานออกมา
 “เทวรูปห้าตา”

6 ความคิดเห็น:

ก็แค่ชีวิตเล็กๆในโลกใบนี้ กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ สนุกจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

บอบคุณครับ

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น