วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 192 ซาลาเปานึ่ง กรงเล็บและฟัน

 
ตอนที่  192  ซาลาเปานึ่ง กรงเล็บและฟัน
ทุกคนตกตะลึง  พวกเขาไม่อาจเข้าใจภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา  แม้แต่อู่โหวก็ยังมีสีหน้าค้างและซึมเซาไปชั่วขณะ


เด็กหญิงร้องเรียกเบาๆ  “อาจารย์...”
อาจารย์!
พื้นที่เงียบสงบอยู่แล้ว ยิ่งเงียบกว่าเดิมราวกับป่าช้า อู่โหวที่เพิ่งจะเรียกสติได้ ถลึงมองจนตาแทบถลน
อาจารย์.....
ยาจกเร่ร่อนที่อยู่ต่อหน้าเขาคืออาจารย์ของหมิงจูจริงๆ หรือ!  เจ้าเด็กบัดซบท่าทางกวนโมโหเป็นอาจารย์ของหมิงจูจริงๆ!
นี่มันตลกร้ายแบบไหนกัน
หน้าของอู่โหวคล้ำ  แรงกดดันในพื้นที่ชัดเจนมากขึ้นทุกที  เด็กหญิงสังเกตอารมณ์สีหน้าของบิดาเธอได้  รู้ได้ทันทีว่าหลายๆ อย่างกำลังจะเลวร้าย  บิดาของเธอมักจะปล่อยตัวตามสบาย  แต่เมื่อมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอ เขาจะจุกจิกเป็นพิเศษ อาจารย์ของเธอทุกคนถูกคัดสรรโดยบิดาของเธอเป็นพิเศษ
ขณะที่อยู่ในดาวไพรมายา  จดหมายที่เธอส่งไปให้บิดาของเธอล้วนแต่ยกย่องถังเทียนสูงส่งเลิศเลอราวกับสวรรค์  หวังว่าบิดาของเธอคงไม่ดูถูกถังเทียน  เธอและถังเทียนลงนามทำสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธต่อกันแล้ว  ถ้าบิดาของเธอและถังเทียนสู้กันจริงๆ  อย่างนั้นเธอจะตกอยู่ในอันตราย สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าก็คือ ถ้าบิดาของเธอรู้ว่ามีสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ  เขาคงโกรธสุดขีดแน่นอน
อารมณ์ของถังเทียนก็ไม่ดีเช่นกัน  ถ้าเป็นคำพูดดีๆ หรือคำขอร้องกัน อย่างนั้นพวกเขาก็ยังพอคุยกันได้  ถ้าพวกเขาทำเรื่องให้ยุ่งยาก  อาจารย์น้อยของเธอคงไม่ยอมคุยและเริ่มต่อสู้ด้วยแน่นอน
คนอารมณ์ไม่ดีสองคน ถ้าพวกเขาต่อสู้กัน....
อำนาจของบิดาเธอคือผู้ปกครองที่นี่  แต่ด้านอาจารย์น้อยของเธอก็ไม่อ่อนแอเช่นกัน, หลิงซิ่ว, ปิง, ขลุ่ยวิเศษ  ถ้าทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน รัฐบาลอู่โหวคงได้ล่มสลายเป็นแน่
แต่...
แต่เมื่อเห็นถังเทียนผมที่ยุ่งเหยิงและใบหน้ามอมแม ตาสีเขียวเลือนราง เธออดตัดสินอย่างช่วยไม่ได้
※※※

หิวจัง... หิวจัง.... หิวจังเลย...
ถ้าเพียงแต่คนที่อยู่ข้างหน้าเป็นสัตว์เป็นอสูรที่กินได้ นั่นก็คงจะดี...
กินพวกมัน!  กินพวกมัน!  กินพวกมัน!
ดวงตาเขียวจางของถังเทียนกวาดมองข้ามไปทั่วทุกคน  ใจของเขาร้องโหยหวนอย่างบ้าคลั่ง  เพื่อมุ่งมั่นกับการฝึก  เขาต้องกินอาหารแห้งที่น่าสะอิดสะเอียนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา  เมื่อเห็นอะไรที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์จะทำให้เขาน้ำลายไหลทันที
เพราะเหตุผลบางอย่าง คนผู้อยู่สายตาเขียวจางของถังเทียน  ต่างก็รู้สึกหนาวยะเยือกในหัวใจกันทุกคนและอดสะท้านอย่างช่วยไม่ได้  นักสู้ที่อ่อนแอกว่าถึงกับถอยไปหนึ่งก้าวเล็กๆ  แม้แต่อู่โหว เมื่อถังเทียนกวาดสายตาใส่เขา ร่างเขาก็แข็งค้างทันที
สายตาเช่นนั้น  ป่าเถื่อนรุนแรง!
เหมือนมีความต้องการจะกัดพวกเขา.. นั่นเป็นสายตาชนิดนั้น
อู่โหวประหลาดใจเป็นอย่างมาก  เขาตัดสินใจจับตาดูก่อนที่เหตุการณ์จะพลิกผัน
เด็กหญิงช่วยคลี่คลายปัญหา และขึ้นเสียงของเธอ “ไม่มีใครได้ยินหรือ? เขาต้องการกิน!  ไปที่ห้องครัว เอาอาหารมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อ”
 “ข้าจะไปเอง” ชิงหลวนอาสา นางเคยเห็นมาก่อนแล้วว่าถังเทียนกินอย่างไร และไม่ต้องพูดอะไรสักคำ  นางวิ่งไปที่ห้องครัว
อู่โหวประหลาดใจกับเรื่องนั้น  เขาเป็นคนพบชิงหลวนและมองดูนางเติบโตเลี้ยงดูนางเหมือนกับเป็นธิดาตนเอง  แม้ว่านางจะมีนิสัยเที่ยงธรรม แต่ก็เป็นคนท่าทีแข็งกร้าว มีความทะเยอทะยานสูง และยอมรับคนอื่นได้ยาก
จับตาดูต่อไป...
เมื่อได้ยินคำว่า “เนื้อ” ถังเทียนกลืนน้ำลายเอื๊อก เสียงดังจนทุกคนได้ยิน
ทุกคนทำหน้าย่น  อาจารย์ขององค์หญิง ความจริง...
หลังจากหลายปีมานี้ที่เด็กหญิงเติบโตขึ้นมา เธอไม่เคยรู้สึกอับอายมาก่อน   ถ้าทำได้เธอคงแทรกแผ่นดินหลบหนีไปซ่อนความอับอายแล้ว  เจ้าอาจารย์บ้านี่! เธอได้แต่กัดฟัน  แต่เธอรู้ว่า เธอต้องเย็นเข้าไว้  ใจเย็นเข้าไว้
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะลั่นเยาะเย้ยก็ดังออกมา “ฮ่าฮ่า ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าการเรียนการสอนของรัฐบาลอู่โหวจะน่ารังเกียจขนาดนี้!
อู่โหวหน้าเขียวคล้ำอยู่แล้วก็ยิ่งเขียวคล้ำกว่าเดิม  “ธุระของรัฐบาลอู่โหวของข้า  อนุญาตให้หมิงโหวเข้ามาวุ่นวายตั้งแต่เมื่อไหร่?”
คนๆ หนึ่งกร่างเกินเหตุ
คนที่พูดก่อนหน้านั้นก็คือหัวหน้ารัฐบาลอีกแห่งหนึ่ง หมิงโหว  ในสิบสามรัฐบาลเทียนซิง หมิงโหวเป็นคู่แข่งโดยตรงของอู่โหว และพวกเขาทั้งสองมักทะเลาะต่อสู้กันอยู่เสมอ
เทียนซิงเป็นกลุ่มดาวเล็กกระจุกหนึ่ง มีดาวเคราะห์อยู่เพียงไม่กี่ดวง แต่ยังไม่ถึงกับเรียกว่าหมู่ดาว  ที่นี่สิบสามรัฐบาลถูกสร้างขึ้นเพื่อปกครองและควบคุมพื้นที่  รัฐบาลอู่โหวและรัฐบาลหมิงโหวเป็นสองในสิบสามรัฐบาลที่แข็งแกร่งที่สุด
หมิงโหวเป็นคนอ้วน ใบหน้ากลมและตาตี่  ในมือของเขาถือพัดกลมสีเขียวและยังคงโบกพัดใส่ตนเอง  แต่ไม่มีใครกล้าดูแคลนเจ้าอ้วนผู้นี้  เนื่องจากพลังของหมิงโหวมิได้ด้อยกว่าอู่โหวแต่อย่างใด  ทั้งสองคนต่อสู้กันมาหลายปีแล้ว  แต่ก็อยู่ในสถานะเสมอกัน
หมิงโหวพัดใส่ตนเองและเยาะเย้ย  “ข้าเพียงแต่สงสารสหายที่ยากจน หึหึ รัฐบาลอู่โหวกล้าลดตัวเองมากถึงขนาดเจ้ายังไม่สามารถกินได้อย่างเหมาะสม  ความจริงเซี่ยอันมาที่นี่เพื่อทำให้บุรุษน่าสงสารได้มีอะไรกินหรอกนะ”
เซี่ยอัน!
ม่านตาของอู่โหวหดลีบ บริวารของเขาในหน่วยข่าวกรองได้ส่งข้อมูลมาให้แล้ว เมื่อเร็วๆ นี้หมิงโหวได้ดึงยอดฝีมือเข้ามาร่วมงานด้วย นามว่าเซี่ยอัน!  พลังของเขาแข็งแกร่งมากมาย  เมื่อเขาเข้าร่วมกับรัฐบาลหมิงโหว  เขาจะกลายเป็นผู้สำคัญที่สุดเป็นลำดับสามในรัฐบาล
รัฐบาลหมิงโหวและรัฐบาลอู่โหวมีอำนาจพอกัน  พวกเขาทั้งสองเป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถี
เมื่อได้ทราบข่าวนี้ อู่โหวไตร่ตรองอย่างรอบคอบ  สามารถกลายเป็นบุคคลสำคัญอันดับสามของรัฐบาลหมิงโหว  พลังของเซี่ยอันมีแนวโน้มว่าใกล้เคียงระดับนักสู้สวรรค์วิถี
To Wu Hou Government, it was not a good thing.
สำหรับรัฐบาลอู่โหว นับว่าไม่ใช่ข่าวดี
เมื่อได้ยินคำพูดของหมิงโหว หัวใจของอู่โหวเต้นแรงโทสะลุกฮือ  นั่นหมายความว่าหมิงโหวกำลังตบหน้าเขา  ปัจจุบันเหล่งฟงยอดฝีมืออีกคนหนึ่งไม่ปรากฏตัว  และกับสถานะของอู่โหว ถ้าเขาลงมือกับเซี่ยอัน ก็หมายความว่าเขาเสียหน้า  เขาเข้าใจเจตนาของหมิงโหว เขามาที่นี่ในเวลานี้เพื่อแสดงพลัง  ถ้าเขาลงมือเอง หมิงโหวก็จะไม่นั่งเฉยเช่นกัน
เมื่อเซี่ยอันได้ยินหมิงโหว  เขาหัวเราะเยาะอย่างบ้าคลั่ง  “เด็กบัดซบอย่างนี้ กินแค่ซาลาเปานึ่งก็พอแล้ว”
หมิงโหวยังพัดตัวเองและหัวเราะ “ซาลาเปาก็นับว่าไม่เลวแล้ว เขาจะต้องชอบแน่”
 “ท่านโหวพูดถูก”  น้ำเสียงเซี่ยอันดุร้ายและโอหังมาก “และไม่ว่าท่านโหวให้อะไรมัน ต่อให้มันไม่ต้องการ มันก็ต้องกิน”
 “ก็เราชอบทำเรื่องดีงามอยู่แล้ว” หมิงโหวพัดใส่ตนเองอย่างพอใจ
 “บริวารก็ชอบทำแต่เรื่องดีงามด้วย”  เซี่ยอันแสยะยิ้ม  ในมือถือซาลาเปานึ่งลูกหนึ่งเขาเดินมาหาถังเทียนช้าช้า “เฮ้, อาจารย์สังกัดรัฐบาลอู่โหวผู้น่าสงสาร ข้าจะให้ซาลาเปาเจ้าลูกหนึ่ง”
ถังเทียนทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินเซี่ยอัน
ทันใดนั้นเซี่ยอันโยนซาลาเปาลงที่เท้าของถังเทียน  “เฮ้, รีบๆ กินเข้า ไม่ว่าท่านโหวให้อะไรเจ้า  เจ้าจะต้องปลื้มใจจนอยากกราบท่านด้วยตัวเอง”
ถังเทียนไม่ขยับแม้แต่น้อย
 “เป็นอะไร?  เจ้าไม่อยากกินหรือ?”  เซี่ยอันคำราม  “เจ้าบังอาจไม่เห็นแก่หน้าท่านโหวหรือ?  เบื่อหน่ายชีวิตแล้วหรือไง?”
เขาเดินตรงเข้าหาถังเทียน
ตลอดทางเขาลอบจับตาหลิงซิ่ว  ทั่วทั้งตัวหลิงซิ่วเปล่งกลิ่นอายที่ทรงพลังและดูอันตรายมาก
แต่หลิงซิ่วเพียงแต่ดูเขาทำท่าจะยิ้มแต่ไม่ถึงกับยิ้ม  เขาไม่มีเจตนาจะสกัดห้ามเซี่ยอันแม้แต่น้อย  หลิงซิ่วและเจ้าเด็กนี่เอาชนะไม่ได้ง่ายๆ งั้นหรือ?  หัวใจของเซี่ยอันรู้สึกแปลก  ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมเขาจึงแสดงสีหน้าอย่างนั้น?
แต่เมื่อหลิงซิ่วไม่เข้ามาแทรกแซง เซี่ยอันจึงค่อยวางใจ
จู่ๆ อู่โหวก็พูดเย็นชา “หมิงโหว!  เจ้ากินจนอิ่มแล้ว ยังต้องวิ่งเร่มาที่นี่อวดอ้างศักดาถึงหน้าประตูบ้านข้าด้วยหรือ?  ดูเหมือนว่าเจ้าจะคันไม้คันมือใช่ไหม่! มาเลย  มาสู้กันสักตั้ง”
หมิงโหวหัวเราะอย่างชั่วร้าย  “จุดประสงค์ที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้ก็คือข้าอยากมาปรึกษากับเจ้า ดูว่าเร็วๆ นี้เจ้ามีความก้าวหน้ายังไงบ้าง  แล้วเป็นไงบ้าง?  วันนี้ ผู้เฒ่าหวินและผู้เฒ่าหลินก็มาที่นี่ด้วยเหมือนกันเพื่อเป็นพยาน”
ถึงตอนนี้ อู่โหวถึงได้เห็นคนชุดแดงสองคนยืนอยู่ด้านหลังหมิงโหว ม่านตาของเขาถึงกับหรี่แคบ สองผู้อาวุโส!
13 รัฐบาลเทียนซิงได้รับการยกย่องเป็นอย่างดี  แต่ในทุกรัฐบาลเหมือนกำลังเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งเปราะบาง  และพวกเขาไม่กล้าก่อให้เกิดความแตกร้าวสักนิดเดียว  เหนือกว่าสิบสามรัฐบาลก็คือคณะผู้อาวุโสกลุ่มดาวน้อย  คณะผู้อาวุโสทุกคนจะถือข้อมูลพื้นหลังที่ลึกซึ้งไว้  กลุ่มผู้อาวุโสจะไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของสิบสามรัฐบาล  เนื่องจากพวกเขามีความคิดแบบนักสู้ และไม่สนใจในกิจการแบบนี้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคณะของผู้อาวุโสจะไม่มีอำนาจ  กลับตรงกันข้าม อำนาจที่พวกเขามีมากมายมหาศาลนัก การก่อตัวของสิบสามรัฐบาล ล้วนเป็นพวกเขาควบคุมและอำนวยความสะดวกให้
พวกเขาไม่สนใจในเรื่องราวเป็นงานเป็นการ  พวกเขาเพียงแต่สนใจผลผลิตของกลุ่มดาวน้อยนี้ จำนวนอัจฉริยะที่จะเข้าสู่องค์การวิญญาณมืดในทุกๆ ปี
ดังนั้นคณะผู้อาวุโสจึงมักสนับสนุนให้มีการแข่งขันระหว่างรัฐบาลทั้งลับและเปิดเผย  การแข่งขันระหว่างรัฐบาลก็สามารถทำให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายได้เหมือนกัน
รัฐบาลที่โดดเด่นในการแข่งขันจะได้รับรางวัลจากคณะผู้อาวุโส  โดยไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นรัฐบาลอู่โหวหรือรัฐบาลหมิงโหว พวกเขาทั้งสองจะได้รับผลประโยชน์จากการแข่งขัน
อู่โหวไม่คิดเลยว่าหมิงโหวจะมาอย่างกระทันหันและก่อเหตุยุ่งยากทันทีในวันนี้
เจ้าบัดซบนี่เตรียมการมาก่อนแล้ว!
อู่โหวรู้ว่าผลที่ออกมาวันนี้คงไม่มีอะไรดีแน่  แต่ในใจเขาไม่กลัวเลยสักนิด  พวกเขาทั้งสองคนสู้กันมาหลายครั้งแล้ว เกี่ยวกับพลังของฝ่ายตรงข้าม ต่างก็รู้ซึ้งดีแก่ใจ
เหล่งฟงก็ไม่อยู่ ขณะที่ยอดฝีมือของอีกฝ่ายอย่างหยางชิงก็ไม่อยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งสองคนถูกผู้อาวุโสใช้ไปทำภารกิจอื่นๆ ตัวแปรที่เหลือก็คือ เซี่ยอัน
It seems like he would lose out this time!
ดูเหมือนครั้งนี้เขาอาจแพ้ได้!
พอถึงตอนนี้ จู่ๆ เซี่ยอันใช้ปลายกระบี่จิ้มซาลาเปาและจงใจยั่วโมโห “เจ้าโง่เอ๊ย, เจ้าไม่ยอมกินซาลาเปา งั้นข้าจะป้อนเจ้าเอง”
ขณะที่เขาพูดเช่นนี้ ร่างของเขาพลันพร่าเลือนและมาปรากฏอยู่ข้างๆ ถังเทียน มือเขาถือกระบี่ที่เสียบซาลาเปาอยู่ที่ปลาย เขาแทงกระบี่เข้าไปที่ปากของถังเทียน
ทันใดนั้นถังเทียนหันหน้ามาจ้องเซี่ยอัน
ประกายตาสีเขียวเลือนรางมีแววเหยียดหยามเซี่ยอัน  เพราะเหตุผลบางอย่าง เซี่ยอันไม่เคยเห็นสายตาเช่นนี้มาก่อน  เขาเพียงแต่รู้สึกว่าความรู้สึกที่เยียบเย็นกวาดผ่านตัวเขาไป ทำให้เขาชะงักค้างโดยมิได้ตั้งใจ
เขาโกรธขึ้นมาทันที  เดิมทีเขาต้องการจะอวดฝีมือผลงานต่อหน้าหมิงโหวและสองผู้อาวุโส  แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแค่สายตาประหลาดของฝ่ายตรงข้ามก็ทำให้เขาแทบก่อความผิดพลาด
 “เจ้าอยากตายใช่ไหม!  ถึงได้บังอาจรานน้ำใจข้าผู้นี้....”
คำพูดของเซี่ยอันชะงักโดยอัตโนมัติ  ภาพในสายตาของเขา นัยน์ที่เรืองแสงเขียวลางๆ จู่ๆ ก็ละลานตากลายเป็นเส้นสายสีเขียวสองเส้น และดูเหมือนสุนัขป่าหิวโซที่อยู่ในความมืดมิด สายตานั้นปลดปล่อยแสงสีเขียวได้
สิ่งที่ทำให้เขาตื่นกลัวยิ่งขึ้นก็คือนิ้วของฝ่ายตรงข้ามตะปบคว้าอยู่บนตัวกระบี่ของเขา
ในช่วงเวลาที่อึดอัดสิ้นหวังนี้ เขาพยายามจะดึงกระบี่ของเขากลับมา  แต่ไม่ว่าเขาจะออกแรงมากเพียงไหนก็ตาม  กระบี่ของเขาเหมือนกับเหล็กที่ถูกหลอม ไม่ขยับเลยสักนิ้ว  ฝ่ามือดำสกปรกนั้นเป็นเหมือนคีมเหล็กจับกระบี่ของเขาไว้แน่นหนา
สีหน้าของเซี่ยอันเปลี่ยน  เขาตวาดลั่น “ปล่อยมือ!
ปราณแท้ในตัวเขาเริ่มเคลื่อน ตัวกระบี่บิดทันทีและหมุนอย่างรวดเร็ว
เจ้าโง่เอ๊ย ใช้นิ้วของเจ้าจับกระบี่ของข้า! ข้าจะเปลี่ยนเจ้าให้เป็นเนื้อสับ!
เซี่ยอันหัวเราะเย็นชา  แต่นัยน์ตาเขาลดประกายลงอย่างรวดเร็ว  สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ประกายไฟนับไม่ถ้วนแพรวพราวขึ้นมาทันที แสงสว่างวาบขึ้นจากตัวกระบี่ของเขา
เป็นไปได้อย่างไร....
ประกายไฟนับไม่ถ้วนออกมาจากพุ่งออกมาจากการเสียดสีระหว่างนิ้วกับตัวกระบี่  ขณะที่นิ้วของคู่ต่อสู้ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน  เซี่ยอันไม่อยากเชื่อภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาเอง
แต่ในช่วงเวลาที่เหมือนกับการแสดงดอกไม้ไฟที่งดงามนี้ ตาคู่สีเขียวพลันปรากฏอยู่ข้างๆ ตัวกระบี่
ฟันสองแถวเห็นได้ชัดจากประกายไฟงับลงที่ซาลาเปาที่เสียบอยู่บนปลายกระบี่
หลังจากนั้นสิ่งที่ตามมาทันที
แครก!
เสียงของตัวกระบี่แตกหักกระจายเป็นชิ้น และเสียงของกระดูกแตกดังขึ้นมาพร้อมกัน
ทั่วทั้งพื้นที่เงียบสงัดเป็นป่าช้า

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เจอของจริง เข้าแล้วไง ฮ่าๆ

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตบบ๊องหูมันให้ตายไปเลยยยยยยยยยยยยย

Umurei กล่าวว่า...

มาช่วยกู้หน้าให้หนุ่มชาวฟ้าพอดี

Unknown กล่าวว่า...

ว๊าวๆๆๆนิ้วทรงพลังสุดๆๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ว่าแต่กินซาลาเปาไปพร้อมกระบี่หรือเปล่าฮะเนี้ย

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ใจเย็นๆ จะกินกระบี่เลยเรอะ 55

แสดงความคิดเห็น