วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 193 ข้ายังมีชีวิตอยู่

ตอนที่  193  ข้ายังมีชีวิตอยู่
เสียงของเหล็กกระบี่ถูกกัดแตกหัก ฟังชัดเหมือนกัดขนมกรุบกรอบ และทุกคนสามารถได้ยิน ตัวใบกระบี่ครึ่งหนึ่งร่วงลงพื้นและแตกหักเป็นหลายชิ้น เหมือนกับกำลังฉายภาพสโลว์โมชัน ทุกอย่าง

ติง!
เสียงกระบี่หักชัดเจนในท่ามกลางความเงียบดังเสียดหู แต่ไม่มีใครพูดอะไรเนื่องจากตะลึงจากการโจมตีและผลที่ออกมา  แม้แต่อู่โหวและหมิงโหวก็ยังอึ้งไปชั่วขณะ
ขุนพลวิญญาณทั้งสามที่อยู่หลังประตูดวงดาวตะลึงนิ่งงันไปตามๆ กัน
 “นี่เราต้องมาพิจารณาเพิ่มมาตรฐานอาหารของเขาอีกหรือนี่?” ปิงปากอ้าค้าง  เขาฝึกทหารใหม่มามากมาย  แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ฟันกัดกระบี่ของคู่ต่อสู้จนหัก
และทุกอย่างเป็นเพราะซาลาเปาลูกหนึ่ง...
สีหน้าของขลุ่ยวิเศษผู้ฝึกฝนอบรมมาตามปกติถึงกับซึมเซา
จู่ๆ กรงเล็บภูตพรายก็พูด “อย่าได้ดูถูกความตะกละเรื่องอาหาร”
ควั่บ, ปิงและขลุ่ยวิเศษทั้งสองคนกวาดสายตามาพร้อมกัน พวกเขาจ้องมองกรงเล็บภูตพรายอย่างประหลาดใจ
กรงเล็บภูตพรายรับสถานการณ์เบาๆ อย่างสงบ
※※※

เป็นความสงัดอย่างน่าประหลาด  ถังเทียนทำให้สองผู้อาวุโสตกใจอย่างเห็นได้ชัด
ถึงตอนนี้ ชิงหลวนวิ่งแบกถุงใหญ่กระหืดกระหอบเข้ามา  นางรีบวิ่งเข้าไปในครัวกวาดของทุกอย่างที่กินได้ลงถุงและคว้าถุงแบกวิ่งกลับมาสุดกำลัง นางยังสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น
ถุงที่แบกมายังสูงใหญ่กว่านางมาก เหมือนกับนางแบกภูเขาเล็กๆ เมื่อตอนนางวิ่งเข้ามา
ปัง!
ถุงผ้าถูกโยนลงพื้น  ชิงหลวนอ้าปากหอบหายใจ  “ดูซิว่าพอไหม?”
ในท่ามกลางความเงียบสงัด  เสียงนางดังมาก
ถุงผ้าถูกเปิดออก และกองอาหารย่อมๆ ปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน  เนื้อทุกชนิด ผักและผลไม้ทุกอย่างกองเหมือนกับภูเขาสูงกว่าตัวนางเสียอีก
ถังเทียนที่ตอนนี้กำลังเคี้ยวซาลาเปา ตาลุกวาวทันที นัยน์ตาที่เป็นสีเขียวจางๆ เดิมจู่ๆ ก็มีแสงเข้มกว่าเดิม  เขาตะโกนและวิ่งตรงเข้าหากองภูเขาอาหารเหมือนกับสัตว์ป่า
เขากินอย่างตะกละตะกลามเหมือนกับพายุที่กวาดใบไม้แห้ง ทำให้คนที่เห็นถึงกับผมลุกชัน เสียงกินเสียงเคี้ยวบดอาหารได้ยินชัดเจนทั่วทั้งพื้นที่  ปากใหญ่ของถังเทียนเป็นเหมือนหลุมดำ ทันทีที่อาหารถูกยัดเข้าปากไปแล้ว  ก็ไม่มีอะไรหลุดออกมาอีก  ถังเทียนไม่ได้คายแม้แต่กระดูกออกมา
แครก  แครก!
ทุกคนยังไม่สามารถผ่อนคลายจากฉากภาพที่กระบี่ถูกทำลายทำให้ศีรษะของพวกเขาพองโตมึนชา
ชิงหลวนเพิ่งจะสังเกตว่าสภาพรอบด้านเงียบสงบกว่าปกติมากเกินไป  และถังเทียนก็ก้มหน้าก้มตาอยู่เหมือนกับว่าไม่มีใครอื่นปรากฏตัวและเคี้ยวกินอย่างมีความสุข  นางถึงกับตะลึงทันที
ชิงหลวนจะเคยพบสถานการณ์ที่ประหลาดอย่างนั้นได้ยังไง?
ฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้านางแปลกประหลาดจนนางแทบจะร้องไห้
สายตาของทุกคนจ้องมองนาง  แต่ไม่มีเสียงหลุดออกมาจากพวกเขาแม้แต่คนเดียว
ชิงหลวนมองไปทางเด็กหญิงน้อยด้วยสายตาวิงวอน  แต่เธอก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน  สายตาเธอเบิกกว้าง  ขณะที่เธอยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นมองดูถังเทียนกินเหมือนหมาป่า
เธอตะลึงกับฉากภาพที่ถังเทียนกัดกระบี่เหล็กของเซี่ยอัน
หลังจากครึ่งค่อนวัน เธอจึงรู้สึกตัว  นัยน์ตาของเธอเป็นประกาย  อารมณ์ของเธอปั่นป่วน  อาจารย์น้อยของเธอ..ก้าวร้าวเกินไป
ต้องเป็นการก้าวร้าวแน่นอน
หัวหน้ารัฐบาลที่แข็งแกร่งสองคนจากสิบสามรัฐบาล  และผู้อาวุโสสองคนจากคณะผู้อาวุโสยังมองดูถังเทียนที่เพลินกับอาหารอย่างเงียบๆ  ฉากภาพเช่นนี้ถือว่าอุกอาจมาก
อาการตกใจของทุกคนค่อยๆ ลดลง และทุกที่ต่างก็จ้องมองอย่างมึนงง
ทุกคนตระหนักได้ทันที กองอาหารที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนหายไป  ถังเทียนนอนลงกับพื้น มองเห็นท้องที่โป่งนูนและเขากางแขนกางขาออก
เด็กหญิงเพิ่งรู้ตัวหลังจากผ่านไปชั่วขณะ  สีหน้าเธอเปลี่ยน ไม่ดีแน่ เขาหลับแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่เธอเห็น เธอเห็นเขาหลับได้ต่อหน้าเธอ
เด็กหญิงจ้องมองอย่างตื่นเต้น  นี่ไม่ใช่เวลามาหลับนะ
เธอเตรียมจะวิ่งออกไปข้างหน้า
ทันใดนั้นมีแสงสามสายฉายออกมาอยู่ข้างตัวถังเทียน และขุนพลวิญญาณสามคนปรากฏตัวออกมาจากแสงทันที
ขลุ่ยวิเศษพูดกับเด็กหญิงอย่างสุภาพ  “ปล่อยให้เขาหลับสักครู่เถอะ  เขาเหนื่อยมากเกินไป”
กรงเล็บภูตพรายมีใบหน้าเย็นชาสายตาทอดต่ำ  ปิงกำลังควบคุมเสือเขี้ยวดาบจ้องมองไปรอบๆ เหมือนกับเสือจ้องเหยื่อ
ขณะที่ขุนพลวิญญาณทั้งสามปรากฏ รัศมีของเขากวาดไปทั่วพื้นที่ พวกที่รู้สึกกระวนกระวายถอยออกทันที  ขณะที่ใบหน้าของอู่โหวและหมิงโหวเปลี่ยนไปมากกว่า  และผู้อาวุโสทั้งสองก็ประหลาดใจมาก
พวกเขาเป็นคนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร  พวกเขารู้ตามธรรมดาว่าสิ่งใดทรงพลัง
กลิ่นอายที่แข็งแกร่งนัก!
คนที่ห้ามองค์หญิงหมิงจูอย่างนุ่มนวลก็คือขลุ่ยวิเศษ ลักษณะของเขาต่างจากธรรมดา  อาวุธจักรกลที่นักสู้จักรกลกำลังใช้ เห็นได้ชัดว่าเป็นอาวุธจักรกลที่กองทัพดาวกางเขนใต้สร้างมา!
อีกคนที่ไม่ธรรมดาก็คือกรงเล็บภูตพราย เขาเป็นคนแก่ที่อ่อนแอและผอมแห้ง  ในสามขุนพลวิญญาณนั้น เขาดูธรรมดาที่สุด  แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง  เมื่อมองดูชายชราธรรมดาผู้นี้  สายตาที่เย็นชาของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกว่า เขามีความมั่นใจในพลังของตนเอง
เดี๋ยวก่อน....
เจ้าผู้นี้ ความจริงมีขุนพลวิญญาณถึงสามตน!
ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที
หน้าของเซี่ยอันยังคงอับอายและคับแค้น  ตั้งแต่อายุยังน้อย  เขาไม่เคยได้รับความอับอายใหญ่หลวงขนาดนี้และต่อหน้าทุกคน
เขาสามารถนึกภาพออกว่าเมื่อพรุ่งนี้มาถึง  ข้อมูลจะกระจายไปทั่วเหมือนติดปีก  กระบี่ของซี่ยอันแตกทำลายเพราะคนบ้าใช้ปากงับกระบี่จนพัง!  และเจ้าบ้านั่นยังกินกองภูเขาอาหารต่อหน้าทุกคนและนอนหลับได้เฉย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว  ความโกรธและความอับอายยิ่งชอนไชอยู่ในใจของเขา
บัดซบเอ๊ย!
เซี่ยอันตวาดก้องได้ยินกันทั้งหมด  เขาโกรธจัด ปราณแท้ในร่างเขาถูกเร่งขึ้นถึงขีดสุด รวดเร็วเหมือนสายฟ้า แม้ว่ากระบี่ที่เขาถือจะหักแล้ว  แต่พลังที่ปลดปล่อยออกมายังทรงพลังดุจสายฟ้า!
สีหน้าของอู่โหวรู้สึกไม่ดี!
แต่ระยะห่างระหว่างเขากับถังเทียนในตอนนี้ห่างกันมาก และหมิงโหวคั่นอยู่กลาง  เขาไม่สามารถเข้าไปขัดขวางได้
 “ให้ข้าเอง”
กรงเล็บภูตพรายที่หลับตาอยู่พูดขึ้นทันที  ขณะที่ขุนพลวิญญาณอีกสองคนไม่แปลกใจนัก  กรงเล็บภูตพรายแตกต่างจากปิงและขลุ่ยวิเศษ  สภาพของเขาได้รับความเสียหายมากที่สุด ทำให้เขาต้องใช้แก่นพลังวิญญาณทุกครั้งถึงจะออกมาได้  ตอนแรกปิงไม่ตั้งใจจะปล่อยกรงเล็บภูตพรายออกไป  แต่กรงเล็บภูตพรายพูดออกมาเอง  เมื่อนั้นปิงจึงตระหนักได้ว่า  กรงเล็บภูตพรายตั้งใจจะออกไปสู้
ดังนั้นปิงจึงไม่ลังเลที่จะใช้แก่นพลังวิญญาณเรียกกรงเล็บภูตพรายออกมา
ขลุ่ยวิเศษยิ้มแย้มและถอยออกมาก้าวหนึ่งโดยอัตโนมัติ  แสดงว่าเขาเปิดทางให้  ปิงทำตามและถอยออกมาครึ่งก้าวใบหน้ามีความคาดหวังจะได้เห็นการแสดงที่ดี
กรงเล็บภูตพรายที่หลับตาอยู่ตลอดเวลาพลันลืมตาทันที
แสงในดวงตาหม่นเทาสว่างขึ้นทันที  ความตั้งใจสู้ของเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อน  เขาต้องยอมรับว่าความบากบั่นหมั่นเพียรของถังเทียนกล้าแข็งกว่าเขาตอนเยาว์วัยเสียอีก
แม้ว่าเขาจะไม่พูดออกมาตามปกติ  แต่ก็เห็นประจักษ์ทั้งหมดด้วยตาตนเอง
ผลงานรังสรรค์ของเขาเองมีผู้รับสืบทอด และสำหรับขุนพลวิญญาณอย่างเขาที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ถือว่าได้มาเกินเป้าหมายของชีวิตแล้ว  นั่นคือผลงานสร้างสรรค์ของเขาเอง อีกอย่าง...
เขามีความเห็นแก่ตัวน้อยมาก
เดิมทีก็เป็นแค่ความคิดที่ลืมเลือนไปจากใจของเขานานแล้ว  จนกระทั่งวันที่กู้เสวี่ยใช้ท่าราชันย์ถวิลรัก  ความทรงจำของเขาจึงได้ทะลักออกมาราวกับน้ำไหลบ่า
วิชาระดับปรมาจารย์!
นั่นคือฝันของเขา  ความฝันที่ยังไม่สมบูรณ์ที่เขาละทิ้งไว้
หลังจากเห็นประจักษ์ท่าราชันย์ถวิลรักด้วยตนเองแล้ว  ความคิดนี้ติดอยู่ในใจเขาเสมอ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าถังเทียนฝึกฝนหนักและเสี่ยงชีวิตอยู่เสมอ  ทันใดนั้นเขาค่อยมีสายใยความหวังอยู่เล็กน้อย
เหมือนกับว่าโลกของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง  หัวใจที่ตายด้านมานานยังคงมีความอุ่นก็เริ่มเต้นอีกครั้ง
เขาพบเหตุผลเพื่อการมีชีวิต
วิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายระดับปรมาจารย์!
เป้าหมายนี้ยังคงไกล  แต่ยังไม่มีอะไรเทียบสิ่งนี้ ก็คือแรงผลักดันความปรารถนาจะมีชีวิตของเขา
และผลักดันให้เขาต่อสู้!
ภาพเซี่ยอันในดวงตาเขาขยายใหญ่ขึ้นทุกที กลิ่นอายประหลาดและพลังกดดันเพิ่มขึ้นทุกที  เหมือนกับว่ากรงเล็บภูตพรายสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ  แต่กรงเล็บภูตพรายไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว และนัยน์ตาเทาของเขาดูเหมือนมีไฟลุกโชน
เข้ามา!  เข้ามาเลย!
เสียงที่หายไปนานและเงียบเหงาในใจเขาดูเหมือนกับจะเป็นเสียงตะโกน  เขารู้สึกว่าหัวใจที่เย็นเฉียบดุจน้ำแข็งของเขากำลังร้อนเหมือนโลหะถูกหลอม
มีความฝันบางอย่างที่มักเรียบง่าย
มีเหตุผลบางอย่างที่มักเรียบง่าย
และมีการต่อสู้บางศึกที่ไม่ยินยอมให้ท่านเป็นตัวของตัวเอง
ทันใดนั้นกรงเล็บภูตพรายยืดหลังที่งอ  รูปร่างที่ดูอมโรคอ่อนแอ กลับดูแข็งแรงห้าวหาญอีกครั้ง  ในช่วงเวลานั้น เขาเป็นเหมือนตนเองในช่วงวัยหนุ่ม กระหายการต่อสู้!  ในทันใดนั้นเขาสามารถรู้สึกได้ว่าตนเองกลับมามีชีวิต
แคล้ง!
กรงเล็บทั้งห้ากางออกพร้อมกับเสียงเสียดอากาศดังออกมา เสียงที่เหมือนมีดหลุดจากฝักดังก้องไปทั้งพื้นที่
กรงเล็บภูตพรายตั้งท่ากรงเล็บงองุ้ม
ซี่......
เปลวประกายไฟสองสายสว่างวาบ หนึ่งซ้าย หนึ่งขวาเหมือนแนวไฟฉายที่ส่องกวาดผ่าน  แสงสว่างเจิดจ้าจนคนที่อยู่รอบๆ ตาพร่าทันที
ติง!
เซี่ยอันชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ใบหน้าชั่วร้ายของเขาแข็งค้างกับที่ ขณะที่เขาจ้องมองกรงเล็บภูตพรายผู้เข้ามาจนเกือบถึงอย่างว่างเปล่า  กระบี่หักในมือของเขาถูกกรงเล็บภูตพรายคว้าเอาไว้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
ไม่!
เขากดกรงเล็บลง!
เล็บทั้งสิบของกรงเล็บภูตพรายเจาะผ่านกระบี่หักของเขา  นิ้วทั้งสิบแทงเข้าไปในตัวกระบี่ทะลุออกอีกข้างหนึ่ง
เซี่ยอันไม่ได้เตรียมพร้อมและทุ่มพลังโจมตีสุดตัว จะได้รับบาดเจ็บ แต่ในช่วงเวลานั้น เขาไม่ทันได้สังเกต ได้แต่จ้องมองกรงเล็บภูตพรายที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างว่างเปล่า
นั่นเป็นไปได้ยังไง....
เห็นได้ชัดว่าเขาทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในท่านั้น
แคร็ก!
กรงเล็บภูตพรายสะกิดนิ้วลงกระบี่หักที่ยังเหลือครึ่งหนึ่งถูกบดกระจายเป็นชิ้นๆ ทันที
ตาของเซี่ยอันแดงเหมือนเลือด มือทั้งสองเปลี่ยนเป็นสีทอง  เขากราดฝ่ามือในท่วงท่ากระบี่และแทงใส่กรงเล็บภูตพราย
การโจมตีโหดเหี้ยมนี้มุ่งที่ดวงตา ทั้งฉับพลันและรวดเร็ว
ติง!
กรงเล็บทั้งห้าซึ่งเป็นเหมือนตะขอ หดกลับมาอยู่ด้านหน้าเมื่อใดไม่ทราบและสะกัดฝ่ามือกระบี่ของเซี่ยอันไว้ได้ทำให้ประกายไฟกระจายไปทั่ว
กรงเล็บอีกข้างหนึ่งกราดขวางและคว้าฝ่ามือกระบี่อีกข้างของเซี่ยอันไว้ได้
หน้าของเซี่ยอันเปลี่ยนสีทันที
ถึงตอนนี้ เขาจึงได้ตระหนักว่าความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม เป็นสิ่งที่เขาไม่มีทางต้านรับได้  เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว  ยอมถอนถอยออกมา  ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปว่า  ยอมเสียหน้าดีกว่าเอาชีวิตไปทิ้ง!
ในพริบตา  เขาถอยอยู่ห่างเกินกว่าสิบเมตร
แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมคู่ต่อสู้ถึงไม่ยอมไล่ตาม  แต่ในที่สุดเขาก็สามารถพักสูดหายใจได้  ระยะไกลขนาดนั้น  โดยพื้นฐานศัตรูคงทำอะไรเขาไม่ได้ และในที่สุดเขาจึงได้รู้ตัวว่าเขาได้ทำสิ่งที่ถูก
ทันใดนั้น ร่างของเขาจู่ๆ ก็ไม่สามารถขยับได้  สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวทันที
แสงแพรวพราวปรากฏในสายตาเขาทันที
 “ไม่....”
เสียงสิ้นหวังและหวาดกลัวของเขาดังเบานักภายใต้ลำแสงแพรวพราวที่ทะลวงผ่าน
เมื่อแสงแพรวพราวหายไปในที่สุด  ร่างอ่อนแอที่ยืนอยู่ตรงนั้นดูสูงส่งและทรงพลัง

6 ความคิดเห็น:

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันค้างงงงงงงงงงง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มาใหม่ไว ๆนะครับ ค้าง

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น