วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 198 หวีชิง

ตอนที่  198  หวีชิง
อู่โหวมองดูทหารระห่ำที่อยู่ข้างหน้าของเขาด้วยสีหน้าท่าทางสนใจ
เด็กหญิงตาเบิกกว้างเดินวนรอบๆ ทหารระห่ำอยู่สองสามรอบ “อาจารย์นึกยังไง ถึงได้ส่งอาวุธจักรกลที่น่าเกลียดนั้นมา”

ในสายตาของเด็กหญิงมันดูน่าเกลียดมาก เหมือนกับกระป๋องโลหะดำ  ถ้าไม่ใช่ลายเส้นที่บ่งบอกถึงตา จมูกและปาก มันค่อยดูงี่เง่าแต่น่ารักอยู่บ้าง  ดูแล้วไม่มีดีสักอย่าง
แต่อู่โหวรู้สึกว่ามันดูดี ภาพลักษณ์ดูห้าวหาญ  ลักษณะอย่างหนึ่งที่บอกได้คือมันสร้างจากหนังชั้นดี ข้างๆ เขาก็คือเหล่งฟงที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจเร่งด่วนของเขา
 “ใครเป็นนักสู้สายเครื่องจักรกลบ้าง?”  อู่โหวถาม
เหล่งฟงคิดอยู่ชั่วขณะ  “ข้าคิดว่ามีอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่าหวีชิง แต่พลังของเขายังแข็งแกร่งไม่เท่าไหร่ อยู่ราวๆ นักสู้ระดับสี่”
มาตรฐานนักสู้สายเครื่องจักรกลจะไม่สูงนัก  เนื่องจากตั้งแต่เริ่มแรก มาตรฐานอาวุธจักรกลยังไม่ก้าวหน้า  สำหรับหลายๆ คน  เส้นทางของนักสู้สายจักรกลดูไม่มีอนาคต  คนที่ยินดีเสียเวลาเป็นนักสู้สายจักรกลยอมทำเพราะใจรักมากกว่า
 “เรียกเขามาทดลองดู”  อู่โหวหาที่นั่งเองแล้วจิบน้ำชากล่าว “เรามาดูกันว่าอาวุธจักรกลที่อาจารย์น้อยถังให้พวกเรามาจะเป็นเช่นไร  เขาเองก็มียอดฝีมือนักสู้สายจักรกลอยู่ข้างตัวเขาเหมือนกัน และเขายังใช้อาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้เสียด้วย”
 “อาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้น่ะหรือ?”  เหล่งฟงประหลาดใจ “นั่นหามาไม่ได้ง่ายๆ เลยนะขอรับ”
 “เขาบอกว่าเขาต้องการจะไปหมู่ดาวกางเขนใต้ไม่ใช่หรือ?  อย่าบอกข้านะว่าเขาตั้งใจไปหาวิทยายุทธของอาวุธจักรกลจากกองทัพดาวกางเขนใต้?”  อู่โหวพึมพำกับตนเอง  “คนผู้นั้นมีใจทะเยอทะยานดีจริง”
เด็กหญิงเถียงอย่างไม่พอใจ  “ท่านพ่อ, นั่นไม่ใช่ความทะเยอทะยาน  เป็นความใฝ่ฝันต่างหาก”
อู่โหวค่อยรู้สึกตัว มองดูหน้าบึ้งของธิดาน้อยของเขา  เขาหัวเราะดังๆ  “ลูกสาวของพ่อฉลาดมาก ถูกแล้ว  ความใฝ่ฝัน  นั่นคือความใฝ่ฝัน”
เหล่งฟงไม่พูดอะไร  ได้แต่ส่งคำแนะนำลงไป
หลังจากนั้นไม่นาน ชายหนุ่มหุ่นผอมสะโอดสะองเดินเข้ามาในพื้นที่ เขามองดูอู่โหว  ใบหน้าแข็งและสงวนท่าที
 “ท่านโหว!  หวีชิงคำนับ
อู่โหวโบกมือ “ไม่ต้องมากมารยาท  ข้าเรียกเจ้ามาเพราะต้องการให้เจ้าทดสอบอาวุธจักรกลตัวนี้
เมื่อหวีชิงเข้ามา  เขาเห็นอาวุธจักรกลที่อยู่ต่อหน้าทุกคน และเขารู้ว่าเป็นเรื่องอะไร  ดังนั้นเมื่อท่านโหวพูดเช่นนั้น เขาสูดลมหายใจลึกกล่าวรับคำ “ขอรับ!
หวีชิงกำเนิดจากครอบครัวฐานะร่ำรวยปานกลาง เขามีครอบครัวเป็นฐานการเงินที่สำคัญ  แต่ก็ยังไม่เพียงพอสนองให้กับความหลงใหลในอาวุธจักรกลของเขา  เขาคุ้นเคยกับอาวุธจักรกลมาก  อาวุธจักรกลทั้งหมดในตลาดเขาเคยเล่นมาทั้งหมดแล้วอย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง
แต่หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเห็นอาวุธจักรกลที่อยู่ต่อหน้าเขา  อาวุธจักรกลที่หน้าตาอัปลักษณ์ขนาดนั้น เขาเพิ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะคำสั่งท่านโหว, เขาคงไม่เหลียวมองอาวุธจักรกลนี้แม้แต่น้อยอย่างแน่นอน  พระเจ้า  เมื่อได้เห็นหนามโลหะบนข้อต่ออาวุธจักรกลที่มีจำนวนมหาศาล  งานชุ่ยห่วยแตกเสียขนาดนั้น  ใครจะรู้กันว่ามาตรฐานอาวุธขยะแบบนั้นเป็นเช่นไร  ด้านข้างของหัวเกราะก็คดเคี้ยวไม่สม่ำเสมอ  แต่สิ่งที่เขาไม่สามารถยอมรับได้มากที่สุดก็คือ เขาเห็นรอยปะรอยใหญ่
รอยปะ!
บ้าหรือเปล่า นี่มันอาวุธจักรกลหรือนี่?
นี่มันรุ่นพัฒนาของขอทานหรือนี่?
จะใช้รอยปะ  อย่างน้อยก็ควรใช้สีที่ดูคล้ายโลหะสิ  ใช้สีนี้ทุกคนจะคิดว่าเป็นจุดสำคัญ  ต้องเป็นความจงใจ
จงใจแน่นอน!
หวีชิงข่มความรังเกียจและความโกรธในใจของเขา และเริ่มตรวจสอบทหารระห่ำ  เขาเริ่มวาดภาพในใจว่า คนสร้างมันไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการโจมตีใดๆ ไว้บนอาวุธจักรกลห่วยแตกนี้
มันคือความอัปยศสำหรับโลกของอาวุธจักรกล!
ไม่มีความสวยงามแม้แต่น้อยบนเจ้าของสิ่งนี้
หวีชิงยังคงแอบด่าและดูถูกอาวุธจักรกลนี่ต่อไป  แต่ท่าทางมือของเขามิได้หยุดตรวจสอบมัน  ตอนนี้เขาอยู่ใต้การตรวจสอบของท่านโหวเช่นกัน  เขารู้สึกว่าถ้าเขาแสดงท่าทีไม่เป็นมืออาชีพออกไป  เขาจะถูกท่านโหวเปลี่ยนเขาให้เป็นไอ้เศษสวะหรือไม่?
เมื่อได้เห็นความเคลื่อนไหวที่ชำนาญของหวีชิง  อู่โหวผงกศีรษะเบาๆ เขาเห็นว่าหวีชิงคุ้นเคยกับสิ่งที่เขากำลังทำ  เขาเป็นคนแปลกประหลาดสำหรับนักสู้สายจักรกล  แต่เขาก็ไม่ถูกตำหนิต่อว่า  ในรัฐบาลอู่โหว แม้แต่ในบรรดายอดฝีมือของหมู่ดาวน้อยเทียนซิง  ไม่มีนักสู้สายจักรกลเลยสักคน
ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อใด  แต่นักสู้สายจักรกลกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับต่ำไปได้
ในสายตาของคนธรรมดา  แม้ว่านักสู้สายจักรกลและช่างเครื่องกลพูดว่าพวกเขาต้องการฟื้นฟูยุคจักรกล แต่ในสายตาคนอื่นคิดว่า นั่นเป็นการเพ้อเจ้อเหลวไหล
ไม่มีใครสนใจเรื่องของพวกเขา นั่นเป็นแค่เพียงกลุ่มคนรวย หนอนช่างฝันที่น่าสงสาร
ในยุคปัจจุบันซึ่งให้ความสำคัญกับพลังความเข้มแข็ง วลีที่แพร่หลายโด่งดังและชัดก็คือ หมัดใครแข็งกว่ากัน  ตราบใดที่ท่านยังมีพลัง  ท่านก็ทำให้คนอื่นอิจฉาได้ ไม่มีพลังใดๆ และความทรงจำเกี่ยวกับความรุ่งเรืองในอดีต  นั่นเป็นแค่เพียงคำปลอบใจตนเองและหลักฐานความล้มเหลว
นักสู้สายจักรกลกลายเป็นกลุ่มสังคมขนาดเล็ก
พลังฝีมือของหวีชิงไม่สูง  แต่ในเขตปกครองของรัฐบาลอู่โหว เขาเป็นคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง  ชื่อของเขาไม่เกี่ยวกับพลังความแข็งแกร่งของเขา  แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับบทบาทอีกครึ่งหนึ่งของเขา  ในฐานะนักสู้สายจักรกล  เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญครึ่งหนึ่ง และเป็นช่างจักรกลอีกครึ่งหนึ่ง  คนที่รู้ดีเชี่ยวชาญทั้งสองอย่างเป็นเรื่องที่เห็นได้ในวงการยากเหลือกเกิน
มาตรฐานของเขาไม่สูง แต่เขามีความรู้และประสบการณ์แน่นอน
แม้ว่าจะมีความรังเกียจมากอยู่ในใจ  แต่เขาก็ไม่กล้าหลอกอู่โหว
น่าเกลียดมาก,  น่าเกลียดมาก,  อัปลักษณ์สุดๆ....
ทุกพื้นที่งานคุณภาพไม่น่าสนใจเลย  ทำให้เขากลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า  แต่ในทันใดนั้น  เขาหยุดตะลึง
 “เอ๋...!
เสียงของเขาได้ยินอย่างชัดเจนในลานฝึกที่เงียบสงบ  อู่โหวที่หลับตาตลอด ลืมตาขึ้นทันที  อู่โหวเองก็มีประสบการณ์  หวีชิงเชื่อว่าเขาเก็บอาการของเขาได้ดีแล้ว  แต่อู่โหวเหมือนอ่านความคิดของเขาได้ทั้งหมด
แม้ว่าอู่โหวจะผิดหวังเล็กน้อย  แต่เขาไม่สนใจมันมากนัก และหลับตาพักอย่างไม่อนาทร  ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าอาวุธจักรกลนั้นถังเทียนเป็นคนให้มา  เขาคงโยนลงถังขยะไปนานแล้ว  ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากขนาดไหน  ก็ไม่มีความหมายต่อเขา  สิ่งที่สำคัญก็คือท่าทางที่ถังเทียนพยายามมอบมันให้กับเขา
เมื่อได้ยินเสียงแหลมของหวีชิง  เขาประหลาดใจ และถามตามปกติ  “มีปัญหาอะไรไหม?”
 “ไม่, ไม่มีปัญหา!  หวีชิงอย่างหวาดหวั่นและตื่นเต้น
 “เหรอ!  อย่างนั้นเชิญตรวจต่อไป”  อู่โหวสามารถเห็นได้ว่าหน้าของหวีชิงไม่ปกติ  แต่เขาไม่พูดอะไร และยังคงหลับตาพักผ่อน
เมื่อเห็นอู่โหวหลับตา  หวีชิงผ่อนลมหายใจ  สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่แบบสายเดินพลังแท้ที่อยู่ภายในอาวุธจักรกล  สีหน้าอารมณ์ของเขาซับซ้อน  ด้านนอกสร้างขึ้นมาอย่างน่าเกลียดไม่ใส่ใจถึงคุณภาพ  แต่การออกแบบวงจรภายในของสายเดินพลังแท้เป็นผลงานศิลปะที่งดงามโดยแท้  เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เห็นวงจรพลังแท้ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและสวยงามขนาดนี้  เส้นสายวงจรสีน้ำเงินช่างงดงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
แต่สิ่งที่เขาพบยิ่งเหลือเชื่อมากกว่า ทำให้เขาไม่เข้าใจมันเลย!
นั่นทำให้เขากลัว
จำนวนอาวุธจักรกลที่เขามีอยู่ในมือนั้น มีมากกว่าร้อย  ในแต่ละวันพออาวุธจักรกลของใครก็ตามมีการทำงานผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ  พวกเขาก็จะวิ่งแจ้นมาหาเขาเพื่อให้ช่วยซ่อม  และมีแม้กระทั่งนักสู้สายจักรกลจากดาวอื่นก็มาเยี่ยมเขาเป็นพิเศษเพื่อขอความช่วยเหลือ ในวงการอาวุธจักรกล ตัวเขาเองนับได้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้ดีคนหนึ่ง
แต่, เขากล้าสาบานได้เลยว่าเขาไม่เคยเห็นวงจรพลังแท้ที่ซับซ้อนอย่างนี้มาก่อน
เมื่อเขาเห็นสายไฟเดินพลังครั้งแรก เขาจึงได้ตะลึง  ความแตกต่างสุดขั้วทั้งสองอย่างทำให้เขาอุทานเสียงแหลมออกมา  เมื่อเขารู้ตัวในที่สุด  หน้าของเขาเปลี่ยนไปมาก
แต่ท่านโหวยังจับพิรุธเขาไม่ได้  ดังนั้นเขาจึงซ่อนความกระวนกระวายใจไว้ และเริ่มศึกษาชุดอาวุธจักรกลต่อไป  หวีชิงเริ่มหลั่งเหงื่อกาฬ  ท่านโหวปกติจะอารมณ์ผันผวนรุนแรง  ถ้าเขาไม่สามารถอธิบายการทำงานของเจ้าสิ่งอัปลักษณ์นี้  เขาคงไม่มีชีวิตดีๆ อย่างแน่นอน
เนื่องจากเขาไม่สามารถเข้าใจวงจรของพลังแท้ได้  เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น  นอกจากทดสอบมันดู
หวีชิงปาดเหงื่อออกไป ขณะที่เขาเริ่มรู้สึกกดดัน  การสบตาท่านโหวตรงๆ และพูดโกหก เขายังไม่มีความกล้าขนาดนั้น
หลังจากนั้น เขาเห็นภาพช่องใส่การ์ด นี่ไม่เคยปรากฏในอาวุธจักรกลมาก่อน และนี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น
เม็ดเหงื่อไหลย้อยถึงหลังของเขา  หวีชิงกดดันทวีคูณ  อาวุธจักรกลมีช่องใส่การ์ดตั้งแต่เมื่อใด?
ช่องใส่การ์ดนี้ คงสร้างมาเป็นเครื่องประดับ...
ทันใดนั้น หวีชิงมือสั่น จู่ๆ เขาก็นึกถึงข่าวเล็กน้อยที่เขาเคยได้ยินมาก่อน  วิศวกรจักรกลผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การวิญญาณมืด เริ่มศึกษาวิจัยการร่วมกันทำงานของอาวุธจักรกลกับการ์ดวิญญาณ
อย่าบอกข้านะว่า...
นี่มันไม่จริง.....
หวี่ชิงกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากเคล็ดลับเครื่องกลดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างค้นคว้าและวิจัย  อย่างนั้นก็ต้องหมายความว่าพวกมันเป็นผลผลิตรุ่นแรกของการวิจัย  เป็นไปได้ยังไงที่จะมาปรากฏในตัวอาวุธจักรกลกระป๋องตัวนี้?
ช่างเป็นคนที่น่ากลัว  น่ากลัวเหลือเกิน!
เมื่อคิดเรื่องนี้แล้ว เขาตัดสินใจทดสอบด้วยตนเอง เขาใส่การ์ดวิญญาณระดับสี่เข้าไปในช่องเสียบการ์ด  การ์ดวิญญาณระดับสี่คุณภาพก็ธรรมดาๆ วิชาหมัดค้อนเหล็ก
วี้......
การ์ดวิญญาณเปล่งแสงทันที หลังจากนั้นการ์ดวิญญาณและช่องเสียบการ์ดก็หายไปทันที
แครก!
อาวุธจักรกลที่เหมือนหม้อดำน่าเกลียดตั้งท่าทันที มือเหล็กขนาดใหญ่ที่ดูน่าเกลียดกำหมัดแน่นทันที  ภายใต้สีหน้าตกตะลึงของหวีชิง  หมัดทั้งสองกลายเป็นเหมือนค้อนคู่และหวดลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง
บึ้ม!
พื้นที่รอบๆ หมัดค้อนคู่เป็นรอยร้าวขยายออกไปเหมือนใยแมงมุม
 “หมัดค้อนเหล็กระดับสี่เปิดการใช้งานแล้ว  จำนวนวิทยายุทธที่ยังเหลือให้ใช้งาน : 2”
เมื่อได้ยินเสียงที่อู้อี้แข็งๆ  สมองของหวีชิงเหมือนกับถูกเคาะจนตื่นตัว
เปิดการใช้งานหมัดค้อนเหล็ก.. จำนวนวิทยายุทธที่ยังเหลือให้ใช้งาน : 2
ช่องการ์ดนั่นเป็นของจริง...
หวีชิงยืนงงตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก  ทันใดนั้น เขาสั่นสะท้าน หน้าซีดราวกับคนตาย
เดี๋ยวก่อน!
เสียงนั่น.... ทำไมถึงมีเสียงได้
เว้นแต่... เว้นแต่...มันคือจิตวิญญาณพลังยุทธ?
จู่ๆ หวีชิงก็นึกถึงข่าวลืออีกเรื่องขึ้นมาได้ เท่านั้นเองเลือดถึงกับขึ้นหน้าเขาทันที
ตาของอู่โหวแทบถลนออกจากเบ้า  หมัดค้อนเหล็กระดับสี่! หมัดเจ้าหุ่นกระป๋องดำดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นค้อนได้  นั่นคือหมัดค้อนเหล็ก! อู่โหวจ้องมองค้อนเหล็กและรอยแตกแยกสลับกัน เขานิ่งงันจนพูดไม่ออก หมัดนั้นถูกมองว่าอยู่ในระดับกลางๆ  แต่เขาเห็นหวีชิงเพิ่งให้ความสนใจการ์ดวิญญาณ  เมื่อเห็นว่ายังมีช่องเสียบการ์ดเหลืออยู่อีกสองช่อง  ก็หมายความว่ามันยังสามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ได้อีกสองวิชา
นักสู้ไม่ว่าคนใดก็ตาม  ถ้าพวกเขามีวิทยายุทธระดับกลางสามวิชา  รูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาจะก้าวหน้าดูดีเป็นอย่างมาก
อู่โหวเห็นคุณค่าของมันได้ทันที
ทันใดนั้นเขาลุกขึ้นยืนทันที  จิตวิญญาณพลังยุทธผันแปร!
อาวุธจักรกลชุดนี้ ความจริงมีความผันแปรเทียบเท่ากับจิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติดวงดาว
อู่โหวมีสีหน้าประหลาดใจ
ขณะที่หวีชิงที่ดูแล้วเกินกว่าประหลาดใจ  นัยน์ตาเขาเหลือกกลับทันทีเหมือนกับคนเสียสติ เป็นลมร่วงลงกับพื้นทันที

5 ความคิดเห็น:

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะครับ

Sky กล่าวว่า...

ตื่นเต้นไปด้วยเลยเนี่ยยยยยยย

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น