ตอนที่ 540 เข็มทิศสามโลก
ดวงดาวถือกำเนิดดวงแล้วดวงเล่า
ก่อตัวเป็นหมู่ดาวแกะ
สนามพลังดารานภากาศขยายตัวออกไปอีก
พลังกว้างใหญ่ที่อธิบายไม่ได้ของดวงดาวทำให้เกิดแรงดึงดูดเกินกว่าจะคาดคิดในกับดักสนามพลังของชางเหยียน ภายใต้ผลกระทบของแรงโน้มถ่วงดารานภากาศ ศพของเพชรฆาตโบราณที่กำลังจะระเบิดค่อยๆ
ลอยขึ้นมาในอากาศ พวกมันดูเหมือนจะสง่างามกว่าเย่ว์หยางที่อยู่ในขอบเขตวงจักรอนันตกาล ร่างใหญ่โตมโหฬารของมันเบาราวกะขนนก
เย่ว์หยางใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจดูก็สามารถเห็นความลับของพลังที่น่าอัศจรรย์นั้น สนามพลังดารานภากาศนี้ก็ไม่ถึงกับน่าตื่นตาตื่นใจเพราะวิธีที่มันสามารถแยกย่อยกับดักสนามพลังที่ใหญ่ของชางเหยียน แต่เป็นเพราะพลังของมันเอง
ซากศพของเพชรฆาตโบราณทั้งหมดถูกห่อหุ้มอยู่ในพลังดวงดาวบางๆ
แม้ว่าชนวนของกับดักสนามพลังจะมีพลังประหลาดน่าทึ่ง แต่หลังจากถูกพลังดวงดาวแยกออกไป ก็ไม่สามารถจุดชนวนได้อีกต่อไป กับดักสนามพลังแทบจะไร้ประโยชน์ไปแล้วในตอนนี้ ขณะที่ชางเหยียนจะใช้ระเบิดต่อเนื่อง
จักรพรรดินีราตรีก็สามารถจัดการลบล้างได้อย่างง่ายดาย
เมื่อไม่มีชนวน
ต่อให้เขาต้องการจะทำ
กับดักสนามพลังของชางเหยียนก็ไม่สามารถระเบิดได้แต่อย่างใด ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากเพียงใด ก็กลายเป็นไร้ประโยชน์ในทันที
ชนวนคือจุดอ่อนที่สุดของกับดักสนามพลัง!
“มีอาหารเหลือเฟือ...”
นางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่เพิ่งถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ
เนื่องจากแรงระเบิดของซากศพอสูรเขี้ยวปีศาจถูกจุดชนวนโดยกับดักสนามพลัง
ปรากฏตัวอีกครั้ง เงาร่างที่ถูกระเบิดกระจายออกไปไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของนาง ก้านดอกหนามงอกออกมาจากพื้น
แล้วบานออกจนเป็นรูปเตียงนอนที่งดงามสุดจะบรรยาย
บนเตียงดอกไม้เป็นร่างจริงของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่ยังหาวงัวเงียอยู่ นางโบกมือที่งดงามดุจหยก ปรากฏดอกหนามนับไม่ถ้วนงอกออกมาในสนามพลังดารานภากาศ
ดอกหนามเหล่านั้นช่วยเพิ่มพลังดวงดาวของจักรพรรดินีราตรีโจมตีใส่กับดักสนามพลังของชางเหยียน
กวาดซากศพของเพชรฆาตโบราณที่กำลังลอยอยู่
เมื่อไม่สามารถกินเนื้อได้หมด
ดอกหนามยักษ์จึงพันหุ้มไว้เป็นพันๆ
ชั้นแล้วลากศพอสูรเพชรฆาตโบราณเหล่านั้นออกไป
จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณได้แต่โกรธ
แต่เพราะมันกลัวเย่ว์หยางที่มีเพลิงอมฤต
จ้าวอสูรจึงไม่กล้าห้ามสิ่งที่เกิดขึ้น
ในระยะห่างออกไป มันได้แต่พ่นไฟเผาต้นดอกหนาม
ต้นดอกหนามนับไม่ถ้วนถูกเผาเป็นเถ้าถ่านด้วยไฟความร้อนสูง แต่ดอกหนามต้นใหม่ก็งอกออกมามากกว่าเดิม กลับกลายเป็นทะเลดอกไม้ และพวกมันไม่สนใจจ้าวอสูร ยังคงลากศพของเพชรฆาตโบราณออกไป
ตาของชางเหยียนเป็นเหมือนน้ำแข็ง
เขาได้แต่มองอย่างเย็นชา
และไม่กล้าเข้าแทรกแซง
ส่วนแม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่ สายตาการมองเห็นของพวกมันยังไม่ฟื้นฟูดี
ได้แต่ดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่ในทะเลดอกไม้
แม้ว่าพวกมันจะได้รับบาดเจ็บจากแสงรังสีทำลายล้างของจื้อจุนก็ตาม แต่พวกมันก็ยังไม่ตาย ความจริง พวกมันมีพลังต่อสู้มากมาย
แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ทะเลดอกไม้ของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองจะจับพวกมันไว้ได้ ด้วยความช่วยเหลือของกับดักสนามพลัง แม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่
ก็ทำร้ายทะเลดอกหนามอย่างโหดเหี้ยมและหนีไปอยู่ข้างตัวชางเหยียน....
ด้วยพลังนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสาม
นางพญาดอกหนามมงกุฎทองในตอนนี้ ยังไม่สามารถจับพวกมันได้แม้ว่าพวกมันจะบาดเจ็บหนักก็ตาม
เย่ว์หยางไม่ได้โจมตีพวกมัน
แต่สำหรับพวกจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณที่ใกล้จะตาย
เย่ว์หยางไม่มีความปราณี
เย่ว์หยางตั้งใจจะใช้พวกมันฝึกฝนคนของเขาขณะที่พวกมันดิ้นรนอยู่ในทะเลดอกหนาม นางพญากระหายเลือดหง, โคเงาอาหมัน,
มังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลีออกมาอย่างต่อเนื่อง
ชางเหยียนไม่สนใจว่าเย่ว์หยางจะเรียกอสูรพิทักษ์ตนใดออกมา ยังไม่สนใจเสวี่ยอู๋เสียผู้ถือคัมภีร์โบราณอยู่ในมือ
เขาเพียงแต่จ้องดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่สะพายดาบเทพจักรพรรดิอวี้
เขาไม่ได้มองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เขากำลังมองดูดาบเทพจักรพรรดิอวี้
นอกจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีแล้ว
ชางเหยียนไม่สนใจคนอื่น
แม้แต่นักสู้อย่างหวงฉวน,
เฝินเทียนและหวิ่นซิงที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสามและสอง
ก็เป็นเพียงแค่มดแมลงในสายตาของชางเหยียน
เขาไม่สนใจพวกนั้นแม้แต่น้อย
“ไม่มีความจำเป็นต้องให้ข้าโจมตีพวกเจ้าที่ไม่มีคะแนนเพียงพอ พวกเจ้าทุกคนจะต้องถูกรหัสโบราณกำจัดออกไป” ชางเหยียนแค่นเสียงมองดูจื้อจุน
เขารู้ว่าจื้อจุนมีคะแนนพอจะหลบหนีการลงโทษของรหัสโบราณได้ คนอื่นๆ ไม่มีโอกาสรอดเลยแม้แต่น้อย เพราะเหตุนี้ ชางเหยียนตัดสินใจไม่โจมตี ประการแรก
เพราะเขาไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าเขาจะสามารถเอาชนะจื้อจุนมนุษย์ผู้ลึกลับที่อยู่ในสนามพลังดารานภากาศได้ ประการที่สอง
เหตุผลใหญ่ที่สุดของเขาก็คือลงมาทำร้ายพวกนักสู้ฝีมือดีที่กำลังจะก้าวเข้าขอบเขตแดนสวรรค์
และไม่ต้องการเสียเวลากับคนธรรมดา
“....” หวงฉวนและคนอื่นๆ มองดูไม่สบายใจ
ก่อนนี้ เมื่อพวกเขาอยู่ภายใต้การคุกคามของมรณภัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาจะกังวลถึงคะแนนของพวกเขา
ตอนนี้ หลังจากชางเหยียนพูดออกมาดังๆ
พวกเขารู้สึกชาถึงหนังศีรษะ
เมื่อจื้อจุนชาวมนุษย์โจมตีและสังหารเพชรฆาตโบราณส่วนใหญ่ในรวดเดียว แม้ว่านางจะช่วยชีวิตของทุกคนได้ แต่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีรหัสโบราณได้
เพราะคะแนนของพวกเขาไม่เพียงพอ
พวกเขาควรทำเช่นไร?
แม้แต่หวงฉวนผู้สงบที่สุดก็ยังกระวนกระวาย
คลื่นความโกรธเกิดขึ้นในใจเขา
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ท่านมีความคิดดีๆ ยังไงบ้าง?” หวงฉวนข่มความกลัวเต็มที่ เขาสามารถรู้สึกถึงโอกาสอยู่รอดได้โดยสัญชาตญาณ
และนั่นก็คือเชื่อมั่นเย่ว์หยาง
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้นี้จะไม่ยอมรอให้ความตายมาถึงแน่นอน เขาไม่ใช่คนเช่นนั้นแน่นอน เขาไม่ยินดีตาย
ดังนั้นเขาอาจคิดหาแผนการหลบหนีการลงโทษของรหัสโบราณได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็เชื่อถือเย่ว์หยาง
“แผนน่ะหรือ? ข้ามีอยู่อย่างหนึ่ง แต่อาจไม่ค่อยดีนัก...” แน่นอนว่าเย่ว์หยางคงไม่รอความตาย
เมื่อเขาเห็นสายตาวิงวอนของหวงฉวนและพวกที่เหลือ เขามีความยินดีและจงใจถ่อมตัว
“ข้า, เรา, เราเชื่อเจ้า!”
เฝินเทียนคิดว่าถ้าเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วยังมีคนไม่เชื่อใจเย่ว์หยางอยู่อีก คนผู้นั้นต้องเป็นคนโง่งม
“พวกเจ้าทุกคนจะไม่มีทางหนีพ้นการลงโทษของรหัสโบราณ เพราะข้าจะกลับไปแดนสวรรค์ จะไม่มีเพชรฆาตโบราณมาเพิ่มอีก พวกเจ้าทุกคนจะไม่มีคะแนนสะสมเพียงพอ จงฆ่ากันเองอย่างสิ้นหวังอยู่ในที่นี่เถอะ” ชางเหยียนกวักมือทั้งสองข้าง
จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณและแม่ทัพเพชรฆาตโบราณต่างเข้ามารายล้อมตัวเขา
ไม้เท้าแพลตตินัมปรากฏอยู่ในมือของชางเหยียน
ไม้เท้าหวนกลับ
ไม้เท้าหวนกลับระดับแพลตตินัมนับเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับแดนสวรรค์
แม้ว่าจะมีมากถึงสิบชิ้น
แต่ก็หาพบได้แต่ในแดนสวรรค์เท่านั้น
หรือบางทีอาจเป็นสมบัติของตำหนักกลางแดนสวรรค์ ไม่มีใครอื่นเป็นเจ้าของได้
รังสีขาวสว่างแพรวพราวพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า
เกิดกระแสคลื่นนับไม่ถ้วนกระจายอยู่ในกับดักสนามพลัง เมื่อแสงสีขาวไปถึงจุดสูงสุดในท้องฟ้า
ก็ระเบิดเหมือนกับพุแตก รังสีขาวหกสายยิงโค้งลงมาที่ตัวชางเหยียน, จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ
และแม่ทัพเพชรฆาตโบราณทั้งสี่
หวงฉวน
เฝินเทียนและหวิ่นซิงไม่สามารถต่อต้านคลื่นกระแทกที่ทรงพลังจากกับดักสนามพลังของชางเหยียนถูกเหวี่ยงกระเด็นไปหลายกิโลเมตร
ชางเหยียนพาจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณและแม่ทัพเพชรฆาตโบราณเทเลพอร์ตหายตัวไปจากลานแก้วผลึกพร้อมกับเขา
พวกเขากลับไปยังแดนสวรรค์
กระบวนการทั้งหมดเป็นเรื่องที่แปลกมาก
เพราะไม่มีใครได้รับการลงโทษจากรหัสโบราณ
จากเหตุนี้เอง
เห็นได้ชัดว่าสังเวียนมรณะอยู่ภายใต้การควบคุมของใครบางคน พวกเขาต้องใช้ช่องโหว่ภายในรหัสโบราณเปลี่ยนสนามรบโบราณแห่งนี้เป็นลานประหารพวกแดนสวรรค์ระดับต่ำของพวกเขา
ถ้าจื้อจุนไม่ได้มา
ชางเหยียนมีแนวโน้มว่าจะไม่ต้องทอดทิ้งราชาเฮยอวี้และหลบหนีกลับแดนสวรรค์ในทันที
แต่แม้ด้วยการสนับสนุนจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี ก็ยังไร้ประโยชน์
ศัตรูเตรียมกับดักไว้นานแล้ว
รอให้เหล่านักสู้จากโลกระดับต่ำกว่าและจับกุมพวกเขาทั้งหมด
“นี่เราจะต้องกลายเป็นเนื้อขึ้นเขียงจริงๆ หรือ?”
เฝินเทียนทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไม่รู้จะทำยังไง
ตอนนี้ชางเหยียนหนีกลับแดนสวรรค์ไปแล้วและไม่มีนักฆ่าอื่นๆ เข้ามาอีก
พวกเขาจะต้องตายเพราะคะแนนไม่เพียงพอ
“ตอนนี้เรายังจะมีทางเลือกอะไรอื่นอีกเล่า
เราน่าจะร่วมมือกันต่อสู้รั้งตัวชางเหยียนไว้ที่นี่อย่างสุดกำลัง” เวิ่งจินถอนหายใจ
ถ้าเพียงแต่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรียินดีก้าวเข้ามาขัดขวางไม่ให้ชางเหยียนหนีไป ต่อให้ชางเหยียนต้องการจะจากไป ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย! เวิ่งจินไม่เข้าใจว่าทำไมจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีถึงไม่ห้ามชางเหยียน
มันไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาที่ปล่อยให้ชางเหยียนไป ทำไมพวกเขาต้องทำเช่นนั้น?
“เราทุกคนมาช่วยกันคิดหาวิธีแก้ปัญหากันเถอะ บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์”
หวิ่นซิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
เขารู้สึกว่าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีได้ทำสิ่งที่พวกนางสามารถทำได้อย่างเต็มที่แล้ว
เป็นไปไม่ได้ที่พวกนางจะเอาชนะชางเหยียนได้
ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่พวกนางทำได้ขู่ขวัญจนชางเหยียนหนีไป พวกเขาก็คงตายอยู่ในกับดักสนามพลังของชางเหยียนไปแล้ว
“คุณชายสาม, ท่านคิดว่ายังไงบ้าง.....”
หวงฉวนมองดูเย่ว์หยางเต็มไปด้วยความหวัง
“เราไม่สามารถห้ามชางเหยียนไม่ให้หนีไปได้ หากว่าเขาต้องการ ยิ่งกว่านั้น
ข้าไม่มีความตั้งใจจะหยุดเขาเสียด้วย”
เย่ว์หยางกล่าว ทันใดนั้นเข็มทิศสีทองที่สว่างแพรวพราวกว่าไม้เท้าหวนกลับเป็นร้อยเท่าปรากฏขึ้น
นี่คือเข็มทิศสามโลกที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีให้เย่ว์หยางหยิบยืม
เครื่องมือเทพชนิดพิเศษ
ไม้เท้าหวนกลับนับว่าเป็นสมบัติที่น่าประทับใจแล้ว
เนื่องจากมันสามารถเทเลพอร์ตเข้าแดนสวรรค์ได้โดยตรงจากสังเวียนมรณะ อย่างไรก็ตาม
เมื่อเทียบกับเข็มทิศสามโลก
ไม้เท้าหวนกลับกลายเป็นเหมือนของเด็กเล่น
ตราบใดที่ท่านตั้งค่าไปที่ตำแหน่งใดหรือสิ่งของใดๆ เข็มทิศสามโลกสามารถส่งทุกคนได้ตามต้องการ ไม่เพียงแต่หอทงเทียน,
แดนอมตะและแดนสวรรค์เท่านั้น
ต่อให้เป็นแดนเทพเจ้าจากตำนาน ก็อาจเทเลพอร์ตส่งไปถึงที่นั่นได้ สิ่งกีดขวางทุกอย่างในโลกนี้ นอกจากรหัสโบราณแล้ว มิติคัมภีร์เทพและผนึกอมตะที่ไม่มีวันทำลายแล้ว
พวกผนึกหลุมดำที่ถูกเรียกว่าผนึกอมฤต
ก็ไม่มีมิติอื่นที่สามารถขัดขวางการเทเลพอร์ตที่ใช้โดยเข็มทิศสามโลกนี้
นอกจากนี้เข็มทิศสามโลกยังเป็นสมบัติระดับเทพสามารถใช้งานได้สำเร็จแม้ว่าเจ้าของจะไม่ทรงพลังนักก็ตาม
นี่คือสมบัติชั้นเทพคุณภาพพิเศษสูงสุด
แม้ว่านี้คือสมบัติชั้นเทพของนางพญาผู้ปกครองแดนดิน แต่เพราะนางกับเย่ว์หยางทำสัญญาวิญญาณโลหิต
ตราบเท่าที่นางกำหนดไว้ เย่ว์หยางก็สามารถยืมมาใช้ได้
ในตอนนั้นเมื่อเย่ว์หยางเข้าไปขอความช่วยเหลือจากนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
นางล้วงเข็มทิศสามโลกนี้ออกมาหลังจากเข้าใจสถานการณ์แล้ว
ต่อมานางกลับพูดบางอย่างที่ทำให้เย่ว์หยางตกตะลึงอย่างหนัก “วิธีที่ดีที่สุดในการทำลายสนามรบโบราณก็คือบุกโจมตีแดนสวรรค์”
ปล่อยให้ชางเหยียนหนีกลับไปแดนสวรรค์เป็นส่วนหนึ่งของแผนของเย่ว์หยาง
จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี
มิฉะนั้น จื้อจุนคงไม่ปล่อยเขาไปแน่
แน่นอนว่าถ้าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไม่ได้มา เย่ว์หยางคงจนปัญญาต่อให้เขามีเข็มทิศสามโลกก็ตาม นี่เป็นเพราะชางเหยียนไม่ใช่คนที่เขาจะรับมือได้ ศัตรูจากแดนสวรรค์ไม่สามารถก่อกวนให้สับสนได้ หลังจากได้ยินแผนของเย่ว์หยาง
จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดเลย
โจมตีแดนสวรรค์เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าประทับใจ
ต่อให้ล้มเหลวก็สามารถสร้างความตื่นตะลึงได้ทั้งหอทงเทียน...
นอกจากนี้เย่ว์หยางยังได้รับคำแนะนำจากนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเองโดยตรง ต่อให้พวกเขาไม่สามารถโจมตีแดนสวรรค์ได้ เย่ว์หยางก็ยังมีวิธีกลับมาโดยปลอดภัย
“หวงฉวน, เฝินเทียน, หวิ่นซิง,
พวกท่านทั้งสามสามารถรั้งอยู่ข้างหลังได้
ข้าจะไม่บังคับพวกท่าน แผนของเราคือโจมตีแดนสวรรค์
ไม่มีทางที่เราจะยอมปล่อยชางเหยียนให้หนีไป! ข้าได้ทำเครื่องหมายไว้ที่จ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณไว้แล้วและเราสามารถเทเลพอร์ตไปยังที่อยู่ของมันได้ทันที
ตัดสินใจเอาเองว่าจะตามเราไปฆ่าชางเหยียนหรือว่าอยู่ที่นี่!” ขณะที่เย่ว์หยางออกปากชวนหวงฉวนและพวกทั้งสอง
เขายังคงถ่ายปราณก่อกำเนิดเข้าไปในเข็มทิศสามโลก
ต่างจากไม้เท้าหวนกลับ
มีภูตน้อยบินออกมาจากเข็มทิศสามโลกที่งดงาม นี่คือภูตของสมบัติชั้นเทพ เป็นภูตแฟรี่ขนาดเท่าฝ่ามือ
ภูตประจำสมบัติชั้นเทพมีปีกคู่เหมือนกับสายรุ้งและมีหางปลาที่งดงาม
มันดูเหมือนเสี่ยวเหวินหลีขนาดจิ๋วมากกว่า
แม้ว่าจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียวแต่ก็ยังน่ารักมาก
ภูตน้อยโบกมือน้อยๆของมัน
และทุกชีวิตในระยะสิบเมตรจากตัวเย่ว์หยางถูกทำเครื่องหมายอักษรรูนสีทองไว้
หวงฉวน เฝินเทียนและหวิ่นซิงมองหน้ากันเองและรีบวิ่งเข้ามาทันที แน่นอน พวกเขาต้องการเข้าร่วมแผนการบ้าระห่ำโจมตีแดนสวรรค์ครั้งนี้
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าที่นั่นจะมีศัตรูอยู่เท่าไหร่ โอกาสรอดน้อยยังดีกว่าต้องตายในสังเวียนมรณะ
อยู่ที่นี่หมายถึงต้องตายแน่นอน
ไม่ต้องพูดถึงพวกที่อยู่ใกล้ๆ
แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพที่เฝ้าสังเกตอยู่แต่ไกลก็ยังวิ่งเข้ามาร่วมด้วย
พวกเขาตั้งใจแน่วแน่จะร่วมกันตอบโต้แดนสวรรค์ให้ได้
แม้ว่าพวกเขาอาจไม่ได้กลับมาก็ตาม
สามารถบุกโจมตีแดนสวรรค์เป็นความปรารถนายาวนานของนักสู้ทุกคน
แม้ว่าพวกเขาจะต้องตายในการต่อสู้ ก็ยังนับว่าคุ้มค่า
ก่อนเทเลพอร์ตเข้าแดนสวรรค์
เย่ว์หยางตะโกนใส่พื้นที่ว่างเปล่า
“ราชาเฮยอวี้,
เจ้าเต่าหดหัวในกระดอง
เจ้าจะรอความตายอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
“รหัสโบราณฆ่าข้าไม่ได้หรอก คุณชายสาม
เจ้าจะไม่มีทางเข้าใจว่าผู้ทรยศที่แท้จริงเป็นเช่นไร!” หลังจากเย่ว์หยางและพวกหายไปแล้ว ราชาเฮยอวี้ปรากฏตัวเงียบๆ ลอยตัวในอากาศ
เขาค่อยๆ ยกมือของเขาปลดเกราะศักดิ์สิทธิ์บนตัวของเขา
และถือกระบี่ทมิฬศักดิ์สิทธิ์ไว้
เขาเก็บทุกอย่างไว้ในคัมภีร์อัญเชิญ เหลือแต่ตัวเองยืนอยู่ในอากาศ สุดท้ายเขาพึมพำกับตัวเอง “ผู้ทรยศที่แท้จริงสามารถทรยศต่อตนเอง...
การทรยศครั้งล่าสุด ไม่ใช่แค่เพียงความภักดีของบ่าวทาส น้ำตาของคนรัก
ความคุ้มครองของอสูรพิทักษ์และพันธมิตรระหว่างสหายร่วมกลุ่ม แม้แต่ชีวิตตัวเอง.. ข้า เฮยอวี้
ก็ไม่ต้องการมัน”
การลงทัณฑ์ของรหัสโบราณได้ใช้พลังสายฟ้าทำลายล้างจนราชาเฮยอวี้กลายเป็นเถ้าถ่านทันที
ทันใดนั้น แสงสีขาวปรากฏขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย
มันยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า
เงาร่างของราชาเฮยอวี้กระพริบวาบอยู่ภายในแสงสีขาวแล้วหายไปทันที...
15 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
ไม่ยอมง่ายๆ ราชาเฮยอวี้ บทยังไม่หมดสินะ
หา? นี่แปลว่ามันเกิดใหม่ได้เหมือนกันน่ะสิ เซ็งนะ อยู่ร่วมโลกกับคนแบบนี้
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
มันคือตัวอะไร ราชาเฮยอวี้เนี่ย
ขอบคุณครับ
ตายยากตายเย็นจริงๆ เจ้าดำนี่เนี่ย ขนาดรหัสโบราณยังฆ่าให้ตายอย่างแท้จริงไม่ได้เลย -0-
ป.ล. ตอนหน้าได้มันส์แน่!
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
Thx
แสดงความคิดเห็น