วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 288 การตัดสินของถังเทียน

ตอนที่  288  การตัดสินของถังเทียน

รังสีดาบไล่มาถึงด้านหลังพวกเขาและสองคนที่เอาแต่หนีอย่างบ้าคลั่งก็รู้สึกถึงได้  พวกเขาใจหายวาบ
ทั้งสองคนมีประสบการณ์ต่อสู้มากมายและรู้ว่าถึงเวลาสู้เพื่อเอาชีวิตรอดแล้ว

รังสีบนตัวของอันไป่กระพริบและร่างของเขาแยกเป็นหก  ร่างลวงตาแยกออกเป็นหกและวิ่งไปในทิศทางที่แตกต่างกันทันที
เหมาจวินร้องลั่น รอยเลือดแดงปรากฏบนหลังของเขาทำให้หน้าของเขาแดงก่ำ เหมือนกับว่ามีเลือดไหลออกและปีกแสงสีแดงจู่ๆ ก็ปรากฏอยู่บนหลังของเขา  ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นกลายเป็นเหมือนประกายแสง
ทั้งสองรู้ว่าพวกเขาไม่อาจชะงักงันได้ พวกเขาไม่ลังเลใจใช้วิชาเพื่อหนีเอาตัวรอด
อย่างไรก็ตาม รังสีดาบเย็นยะเยียบไวกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก  ร่างลวงตาทั้งหกของอันไป่เพิ่งไปได้สามก้าว  สามร่างทางด้านขวาก็ถูกตัดคอทั้งหมดโดยไม่มีอะไรขวางเลยแม้แต่น้อย
เหมาจวินกำลังหนีไปรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด และความเจ็บปวดแผ่ขยาย ขณะที่เลือดพุ่งกระจายในอากาศ แต่เขาไม่ยอมหยุด เขาเพิ่มความเร็วและหายลับไปจากสายตาของพวกเขา
ขณะนั้นเอง มีร่างหนึ่งส่งเสียงร้องออกมา  ร่างของอันไป่ล้มลงกับพื้นทราย ศีรษะของเขาปลิวหาย เขาโชคร้ายเกินไป เขาคือหนึ่งในสามร่างที่ถูกตัดคอ
ร่างอื่นๆ ของอันไป่ค่อยๆ จางหายไป
ถังอี้ยังมีสีหน้าเฉื่อยชา ม้าของเขาชะลอความเร็วลง เขายังอยู่ในท่าขวางดาบดูทรงพลัง
เกิดความปั่นป่วนประหลาดใจในท่ามกลางชนเผ่าทั้งหลาย และเมื่อพวกเขาออกมากันหมด  พวกเขามาทันได้เห็นพลังดาบของถังอี้และตกตะลึงทุกคน
ท่ามกลางความเงียบ ถังอี้พูดเฉื่อยชา “ไปฝึกกันต่อ”
ถังเทียนกับหลิงซิ่วยังคงประหลาดใจกับเพลงดาบของถังอี้
ดาบของเขาเกิดจากการแปรสภาพพลังของนักสู้ยี่สิบคนเบื้องหลังเขา  มันทรงพลังมากเกินกว่าทั้งสองคนจะนึกภาพออก  นักสู้ระดับสวรรค์วิถีสองคนเผชิญหน้ากับดาบของเขา คนหนึ่งตาย คนหนึ่งบาดเจ็บ
ตาของถังเทียนมีประกายลุ่มหลง เขาไม่รู้ว่าผลจะเป็นเช่นไรระหว่างกรงเล็บเพลิงภูตพรายกับรังสีดาบของถังอี้
หัวใจของหลิงซิ่วปั่นป่วนเพราะเหตุผลบางอย่าง  เขาคิดถึงพาหนะน้ำแข็งเงิน และเสียงเพลงประหลาดที่ดังออกมาจากกลุ่มเมฆ  เขาสะบัดศีรษะขับไล่ความคิดออกไป ยืดร่างกายตรง หมุนตัวเดินห่างออกมาพร้อมกับหอกในมือ ขณะเดียวกันก็แค่นเสียง  “ใช้คนมากมายเอาชัย นับเป็นความเข้มแข็งอะไรกัน”
ถังเทียนไม่เห็นด้วยกับเขา กล่าวพลางเกาศีรษะ “ข้าคิดว่ามันทรงพลังดี!
หลิงซิ่วเดินห่างออกไปไม่สนใจถังเทียน
สายตาถังเทียนเป็นประกายแวววาว เขาตะโกนพร้อมกับโดดตัวเลย “สินสงคราม!
เขาหายไปราวกับม่านควันและพุ่งมาหยุดอยู่ที่ศัตรูล้มลง
นักสู้สวรรค์วิถีใจกว้างกันทั้งนั้น  นอกจากของเบ็ดเตล็ดอื่นๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเกราะเงินชุดหนึ่ง “เกราะขยายตัว” จากกลุ่มดาวแมลงวัน
อันไป่แยกร่างเป็นหกร่างก็คือวิชาร่างจำแลงกลุ่มดาวแมลงวันซึ่งเป็นวิทยายุทธของเกราะ
เมื่อเห็นเกราะ ถังเทียนคิดถึงอาโมรี่ขึ้นมาทันที
เจ้าวัวแมลงวัน คิดถึงชื่อนี้แล้วดูเหมาะสมกันดี
หลังจากบรรลุพลังระดับเจ็ด  พลังของถังเทียนก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดและพลังเกลียวเงินในร่างของเขาแกร่งกร้าวทนทาน เกราะเงินจากกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้คงไม่อาจทนทานต่อปราณแท้ของเขาได้อีกต่อไป
ดูเหมือนว่าดีที่สุดควรจะหาซื้อเกราะเงินจากกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือดีกว่า
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ถังเทียนค่อนข้างกระสับกระส่าย
สมาพันธ์ชาวยุทธขายเกราะจากกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนืออยู่เหมือนกัน  แต่เกราะทั้งหมดแพงมาก ราคาเริ่มต้นอย่างน้อยร้อยล้านเหรียญดาว  หลังจากมองดูชั่วขณะแล้ว เขารู้สึกอ่อนใจ  ของแพงขนาดนั้นซื้อมาย่อมไม่มีปัญหา  แต่เขาต้องซื้อเกราะให้เหมาะสมกับเขา
เขาตัดสินใจไปเมืองสามวิญญาณเพื่อถามติงตังก่อน และนับเป็นโอกาสดีที่จะได้คลายสงสัยในเรื่องพลังสายเลือดของเขา
เมื่อกลับมาเมืองสามวิญญาณ เซรีนเห็นที่ปิดตาของถังเทียนแล้วรู้สึกประหลาดใจ  “เกิดอะไรขึ้นกับตาของเจ้า?”
 “มีบางอย่างเกิดขึ้นจริงๆ นั่นแหละ”  เมื่อพูดถึงเรื่องตา  ถังเทียนรู้สึกขมขื่นใจ  เขาไม่เข้าใจมันเลย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตาของเขา  ดังนั้นเขาดึงที่ปิดตาออก  “ดูเอาเอง”
เซรีนเข้ามาดูใกล้ๆ และเกิดอาการงง “โหว, น่าสนใจดี! ตาแดงข้างหนึ่ง ตาฟ้าข้างหนึ่ง  คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเป็นคนประหลาด  ประหลาดจริงๆ”
 “ประหลาดเหรอ?  ประหลาดยังไง?”  ถังเทียนไม่สบายใจ  “ข้าเป็นมนุษย์ปกติชัดๆ”
เซรีนล้อเลียน “คนปกติมีตาแดงตาฟ้าที่ไหนกันเล่า?”
ถังเทียนตอบเสียงอ่อย “มันอาจเป็นปัญหาที่พลังสายเลือดของข้าก็ได้”
 “พลังสายเลือด?”  เซรีนทำตาประหลาดใจ เมื่อคิดเรื่องแปลกประหลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับร่างกายถังเทียน  นางไตร่ตรอง  “เจ้าคงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน”
 “นั่นคือสาเหตุที่ข้าต้องมาตามหาติงตัง”  ถังเทียนตอบอย่างจนใจ
 “ติงตังยังไม่กลับ” เวลานั้นผี่ผาเดินเข้ามา เมื่อได้ยินเสียงถังเทียน นางขออภัย “แต่นางน่าจะกลับมาในไม่ช้านี้”
 “ที่ปิดตาของเจ้ามันน่าเกลียดมาก”  เซรีนตบโต๊ะ  “ข้าจะทำของบางอย่างให้เจ้า”
พูดจบนางเดินเข้าไปในห้องทำงาน  หลังจากนั้น 15 วินาที นางถือของบางอย่างออกมา
 “แว่นตา?”  ถังเทียนประหลาดใจ  เขารับแว่นตาจากเซรีนมาสวมดู
เลนส์สีเทาหม่นปิดตาที่ผิดปกติของเขาได้  แต่สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือเลนส์สีเทาหม่นทำให้การมองเห็นของเขาเป็นปกติอีกครั้ง
 “เลนส์สร้างจากผลึกเทา  หลายๆ คนที่ฝึกใช้ตาปล่อยพลังยุทธบางอย่างจะมีความผิดปกติที่ตาของพวกเขา  ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จะใช้แว่นกระจกเทา”  เซรีนมีท่าทางดีใจ  “เทียบกับที่ปิดตาของเจ้าแล้ว  แว่นตาดูดีกว่ามาก”
 “ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น”  ถังเทียนส่องกระจกดูตนเอง เป็นครั้งแรกที่เขาใส่แว่นตา และเงาสะท้อนในกระจกของเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นคนอื่น  หน้าของเขาดูได้สัดส่วน เส้นหน้าแนวกรามให้ความรู้สึกของคนที่มีสุขภาพที่ดีแกร่งกร้าว  แต่พอสวมแว่นตา เขากลับดูมีท่าทีสุภาพขึ้นและดูเหมือนคนทรงภูมิปัญญา
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น เซรีนและผี่ผาก็ประหลาดใจเช่นกัน
 “ตอนนี้เจ้านายดูสุภาพมากขึ้น” ผี่ผาประหลาดใจมาก
เซรีนลูบคางนาง  นางถอยเล็กน้อย  “ใช่แล้ว  ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น  ข้าไม่เคยคิดเลยว่า เนื้อตัวที่มอมแมมของเจ้าจะมีแก่นแท้แบบนั้น”
ความทึ่งและประหลาดใจของเซรีนและผี่ผาทำให้ถังเทียนมีความสุขมาก
สุภาพ คำนั้นพูดถึงคนที่ได้รับการอบรมและมีสติปัญญา
ถังเทียนที่เป็นเหมือนพวกบ้านนอกเข้ากรุง เชิดหน้ายืดอก และพยายามอย่างหนักทำให้ตนเองดูเป็นผู้ได้รับการอบรมและมีภูมิรู้ปัญญา
 “ข้ากลับมาแล้ว”  เสียงของติงตังดังมาจากข้างนอกประตู
ถังเทียนลืมเรื่องท่าทางภูมิฐานของเขา และตะโกนอย่างดีใจ “ติงตัง!  ติงตัง!
ติงตังมองดูถังเทียน แม้ว่านางจะตกใจกับการแต่งตัวของถังเทียน แต่นางก็อดถอนหายใจไม่ได้ “เจ้านาย, ข้าจำเป็นต้องรายงานข่าวที่ไม่ค่อยดีสองเรื่องกับเจ้า  เบื้องหลังของอูเถี่ยหวี่ก็คือสมาคมรวมตระกูลที่แข็งแกร่ง  พวกเขาได้รับข้อมูลบางส่วนจากคนที่ชื่อตี๋หานมาว่า สมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวกางเขนใต้ตกอยู่ในมือของเจ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับสมบัติลับของกลุ่มดาวกางเขนใต้  ข่าวร้ายอีกข่าวก็คือ องค์การวิญญาณมืดยังคงมีคนร่วมเคลื่อนไหวด้วย  พวกเขาเลือกหวยไป่หัว และเป้าหมายของพวกเขาก็คือสมบัติเซียนแห่งกลุ่มดาวกางเขนใต้”
 “ตี๋หาน?  เจ้าตี๋หานนั่นน่ะหรือ?”  ถังเทียนประหลาดใจ  “เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ หรือนี่?”
 “และดูเหมือนเขาจะเข้าร่วมกับสมาคมรวมตระกูลด้วย”  ติงตังเสริม
 “อ้อ” ถังเทียนเข้าใจ  แต่เขายังทำท่ามั่นใจ  “สมบัติลับแห่งกลุ่มดาวกางเขนใต้น่ะ? อุ๊บ... ข้ายังไม่เคยเห็นแม้แต่เหรียญดาวสักชิ้นมาก่อน  ปิงเจ้าบ้านี่ก็ยังล้างผลาญเงินของข้าไปมากมายด้วยซ้ำ ฮึ่ม ฮึ่ม, ขอให้เขาไม่มีสมบัติอะไรดีกว่า  ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะต้องทำให้เขาคายทุกอย่างออกมาให้ได้”
ปิงเพิ่งเข้าประตูมา พอได้ยินคำพูดโมโหของถังเทียน หัวใจเขาสั่น และค่อยๆ ถอยออกมาเงียบๆ
 “สมาคมรวมตระกูลและองค์การวิญญาณมืดทั้งสององค์กรทรงพลังมาก” ติงตังอดเตือนถังเทียนไม่ได้ สมองเจ้านายมอดไหม้หมดแล้วหรือไง?
ถังเทียนโบกมือ “ใครจะไปสนเล่า, ข้าจะฆ่าพวกมันให้หมดรวดเดียวเลย”
ติงตังไม่รู้จะพูดยังไง  นางไม่เข้าใจบุรุษหนุ่มที่อยู่ต่อหน้านางเลย  เขาจะเอาแต่กวาดทุกอย่างลงใต้พรมได้อย่างไร  เขาไม่รู้ว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ใดหรือ? เขาไม่เข้าใจพลังขององค์การวิญญาณมืดและสมาคมรวมตระกูลว่า พวกเขาทรงพลังแค่ไหน?
นางกระวนกระวายใจทันที  แต่ถังเทียนไม่สนใจ
 “ข้ามาที่นี่ครั้งนี้ด้วยเหตุสองประการ”  ถังเทียนพูดตามตรง “เรื่องแรก ข้าต้องการทำความเข้าใจ พลังสายเลือดที่มีอยู่ในตัวข้าเป็นแบบไหนกันแน่  เรื่องต่อมา ข้าอยากซื้อเกราะมาตรฐานของกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  ติงตังเจ้ามีการติดต่ออะไรได้บ้างหรือไม่?”
ติงตังผงะ  “พลังสายเลือด?  พลังสายเลือดของเจ้านายน่ะหรือ?”
ถังเทียนถอดแว่นตาออกและอวดตาแดงตาฟ้าของเขา
ติงตังตกตะลึง  “เจ้านาย!  เกิดอะไรขึ้นกับตาเจ้า?”
 “นั่นคือเรื่องที่ข้าต้องการค้นหา”  ถังเทียนตอบจริงจัง  “องค์การวิญญาณมืดมีการค้นคว้าพลังสายเลือดมามาก, ข้าคิดว่าพวกเขาสามารถค้นหาคำตอบให้ข้าได้ว่า พลังสายเลือดแบบไหนกันแน่ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายข้า”
 “ข้าเข้าใจแล้ว” ติงตังพยักหน้า  “เมื่อทุกอย่างจบแล้ว  ข้าจะพาไป  อยู่ไม่ไกลนักหรอก  อาจใช้เวลาเดินทางสามวัน ข้ารู้จักผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่เก่งอยู่คนหนึ่ง”
 “เราจะไปกันเดี๋ยวนี้” ถังเทียนตอบ
 “ตอนนี้...” ติงตังรู้สึกว่านางกำลังจะบ้า  เจ้านายนางไม่เห็นหรือไง ตอนนี้อันตรายเพียงไหน?  เจ้านาย, โปรดจริงจังกว่านี้ได้ไหม?  นั่นคือองค์การวิญญาณมืดและสมาคมรวมตระกูล!
ถังเทียนกลับส่ายหน้าอย่างคาดไม่ถึง  “เนื่องจากเจ้าบอกว่าเป็นองค์การวิญญาณมืดและสมาคมรวมตระกูลกำลังมา   อย่างนั้นเรื่องนี้จะยังไม่เกิดขึ้นชั่วคราว”
 “ทำไมหรือ?” ติงตังโพล่งออกมา
 “เพราะพวกเขายังกังวลคุมเชิงกันเองอยู่  เนื่องจากเหยื่อมีเพียงรายเดียว และนักล่ามีสอง  การล่าจะยังไม่เริ่มขึ้นเร็วนัก”  ถังเทียนพูดด้วยความมั่นใจ  เขาไม่รู้ว่าปัจจุบันเขาเหมือนกับเป็นอีกคนหนึ่งไปโดยปริยาย มีความใจเย็นมากขึ้น
ติงตังกับเซรีนตกใจกับพฤติกรรมของถังเทียน
ตาของผี่ผามีประกายงดงาม “เจ้านายพูดมีเหตุผล”
ได้รับคำชมจากผี่ผาผู้ฉลาด  หัวใจถังเทียนยิ่งมีความสุขมาก  เขาเท้าสะเอวเชิดหน้าแหกปากหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า ของมันแน่อยู่แล้ว, หนุ่มชาวฟ้า..ฉลาดมากจริงๆ”
ติงตังที่ตกใจกับความหน้าหนาของถังเทียนก่อนนั้น  นางไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเจ้านายของนาง แท้จริงเป็นคนแบบไหน
แต่ถ้าแม้แต่ผี่ผาก็ยังเห็นด้วยว่ามีเหตุผล  อย่างนั้นก็ต้องมีเหตุผลแน่  เนื่องจากติงตังเชื่อการตัดสินใจของผี่ผา
ติงตังดึงหลอดแก้วออกมา และข้างในมีเลือดอยู่หยดหนึ่ง
 “นี่คือเลือดหย่งอัน”  ติงตังอธิบาย  “เจ้านาย, ทันทีที่เจ้าดูดซับเลือดนี้  เจ้าจะสามารถเข้าเมืองหย่งอันได้  ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสายเลือดพักอยู่อย่างสันโดษในที่นั้น”
ติงตังดึงฝาของหลอดแก้วออกและให้เลือดไว้ในมือถังเทียน
เลือดหย่งอันซึมเข้าไปในผิวของถังเทียนทันที  และถังเทียนรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่กระพริบเข้ากระพริบออก
 “การเข้าเมืองวิญญาณมืดอย่างเมืองหย่งอันจำเป็นต้องไปให้ถึงภูมิภาควิญญาณ  เจ้านายต้องตั้งสมาธิและเชื่อมโยงจากนั้นบริกรรมคำว่าหย่งอันในใจ...”
 “หยดเลือดหย่งอันหนึ่งหยด มีราคาประมาณแปดแสนเหรียญดาว  เจ้านาย ท่านต้องจ่ายเงินให้ข้าด้วย”
โดยมิทันได้พูดสักประโยค  ถังเทียนที่อยู่หน้านางก็หายไป
ติงตังตะลึง  ร้ายกาจนักนะ?  ข้าแค่ทวงเงินเท่านั้นเอง....

4 ความคิดเห็น:

aloha777 กล่าวว่า...

5 5 5 5+ 8แสนหรอคนสวย อย่าหวังง

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

สรุปพี่ถังเราฉลาดใช่ไหม 555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น