วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 294 กระบวนท่ากระบี่กระเรียนฟ้า

ตอนที่  294  กระบวนท่ากระบี่กระเรียนฟ้า
ในยามค่ำคืนบนเนินทรายห่างออกไปจากเผ่าราว 5 กิโลเมตร
อาเฮ่อนั่งขัดสมาธิลืมตา ท้องฟ้าในทะเลทรายยามราตรี ดารดาษไปด้วยดวงดาว  ความสงบไร้ขอบเขตทำให้ใจเขารื่นรมย์  อาเฮ่อค่อยผ่อนคลายร่างกายด้วยจังหวะเฉพาะตัว

ความคิดของอาเฮ่อเป็นเหมือนทะเลดวงดาว เงียบและสงบ  ไม่มีความตื่นเต้น  ดวงดาวในดวงตาสะท้อนถึงอารมณ์ของเขา
ท้องฟ้าเวิ้งว้างไร้ขอบเขต ทะเลดวงดาวกว้างใหญ่ จะเป็นอย่างไรเมื่อล้านปีที่แล้ว?  ต่อหน้าดวงดาวในท้องฟ้า เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็แค่สิ่งมีชีวิตที่ไม่สลักสำคัญอะไร  สิ่งที่เรียกว่าความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่และการปกครองโลกไม่มีอะไรมากไปกว่าเมฆฝนที่พัดผ่าน
อะไรคือความนิรันดร์?
เวลาเป็นดุจสายน้ำ  เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างจะถึงจุดสิ้นสุด  ไม่ว่าบรรพบุรุษรุ่นก่อนจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม  พวกเขาก็ไม่สามารถหลีกพ้นหรือต่อต้านเวลาได้เลย  เช่นเดียวกับสำนักกระเรียนฟ้าที่ตกต่ำลง  หลายปีผ่านไปสิ่งมีชีวิตรุ่งเรืองแล้วตกต่ำ ไม่มีอะไรคงอยู่นิรันดร์ มีแต่เวลากับดวงดาวเท่านั้น
ชีวิตคนเราอยู่ภายใต้สวรรค์และท้องฟ้าเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กน้อยที่ไม่สลักสำคัญอะไร  แต่ชีวิตก็ยังสวยงาม กล่าวได้ว่าเป็นความอมตะนิรันดร์กาลอย่างหนึ่ง
ตั้งแต่เวลาที่ทุกคนเกิด พวกเขาก็ค่อยๆ บ่ายหน้าเดินทางสู่ความตายของพวกเขา  ในช่วงไม่กี่สิบปีของชีวิต เทียบสรรพชีวิตในสวรรค์และโลกยังนับว่าสั้น ความตายครอบคลุมชีวิต ภายใต้ช่วงเวลาโหดร้ายกระชั้นสั้น  ก็สามารถเบ่งบานสว่างไสวได้
แต่ก็มีชีวิตที่งดงามนับไม่ได้ซึ่งก่อให้เกิดความงามนิรันดร์ภายใต้ท้องฟ้าและพื้นปฐพี
นี่คือชีวิตนิรันดร์ ไม่มีต่ำต้อย
ใจของอาเฮ่อเต็มไปด้วยอารมณ์ตื้นตัน ปราณแท้ในร่างของเขากำลังตื่นตัวและโคจรอย่างต่อเนื่อง  ศิษย์สำนักกระเรียนฟ้าทุกคนไม่ต้องแสวงหาวัตถุ ไม่ต้องสร้างมลพิษและไม่เกิดความคิดที่ไม่ดี มีจิตสำนึกที่สะอาดและชัดเจนไม่เตลิดฟุ้งซ่าน
กระบี่กระเรียนบนเอวของอาเฮ่อรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของเขาและเปล่งประกาย
พลังที่สงบเยือกเย็นหลั่งไหลออกมาจากตัวกระบี่เข้ามาในตัวของอาเฮ่อ  ทันใดนั้นเขาได้ยินเหมือนเสียงนกกระเรียนร้องดังผ่านม่านเมฆเหมือนกับกระบี่ได้ตัดผ่านชั้นบรรยากาศออกมา
เหมือนกับอาเฮ่อกำลังยืนอยู่ในทะเลเมฆ  ร่างที่สูงโปร่งยืนเด่นสง่าพร้อมกับกระบี่
ความคิดนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาในใจของเขาเหมือนสายน้ำ
 “กระบี่หมื่นแปรเปลี่ยน เริ่มจากหนึ่งกลายเป็นกระบวนท่า
ใจของอาเฮ่อสั่นไหว
กระบวนท่ากระบี่กระเรียนฟ้า
กระบวนท่ากระบี่กระเรียนฟ้าคือสุดยอดวิชามรดกตกทอดของสำนักกระเรียนอย่างแท้จริง และมีแต่เพียงเจ้าสำนักแต่ละรุ่นเท่านั้นจะเรียนได้  กระบวนท่าวิชาพิเศษนี้ได้หายไปอย่างรวดเร็วและเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้หมู่ดาวกระเรียนฟ้าตกต่ำ
เพราะมีเพียงกระบวนท่ากระบี่กระเรียนฟ้าเท่านั้นจึงจะกระตุ้นการทำงานของกระบี่กระเรียนสมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าได้
การสูญเสียกระบวนวิชากระบี่กระเรียนฟ้าทำให้ทำให้กระบี่กระเรียนอยู่แต่ในฝัก ไม่มีใครสามารถรู้ว่าสมบัติระดับเซียนของกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าไม่ใช่แค่เป็นแค่เพียงสมบัติระดับทองและเป็นแค่กระบี่
ในที่สุดอาเฮ่อก็รู้ได้ว่ากระบวนท่าวิชากระบี่กระเรียนฟ้าไม่เคยสาบสูญ  มันหลับอยู่ในกระบี่เซียนระดับทองเสมอมา
มีกระบี่สองรูปแบบที่สามารถกลายเป็นกระบี่ระดับเซียนได้ คือหนึ่งเป็นกระบี่สมบัติระดับเซียนอยู่แล้ว  และอีกวิธีหนึ่งก็คือรับมอบโดยกระบี่เซียน
อาเฮ่อปิติตื่นเต้นมาก พยายามควบคุมอารมณ์  เขาจดจำทุกคำอย่างรอบคอบ
แต่เขาไม่เห็นว่ากระบี่กระเรียนที่เอวเขาไม่ได้เปล่งแสงสีทองทันที  ทันใดนั้นกระเรียนทองตัวหนึ่งออกมาจากแสงสีทองและบินขึ้นไปในท้องฟ้า  ขณะที่กลุ่มดาวกระเรียนฟ้าเปล่งรัศมีสว่างทันที เหมือนกับว่ามันได้ฟื้นฟูพลังแต่เก่าก่อนกลับมา
มีแต่คนที่จ้องมองท้องฟ้าเท่านั้นจึงจะสังเกตออก  ถ้าไม่อย่างนั้น จะไม่มีใครรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าเลย
ในขณะนั้น  กลุ่มดาวกระเรียนฟ้ามีประกายสกาวสุกใส
สมบัติกลุ่มดาวกระเรียนฟ้าทั้งหมด ไม่คำนึงว่าเป็นระดับบรอนซ์หรือเงิน  เปล่งแสงสว่างเรืองรอง อย่างที่ไม่เคยปรากฏลักษณะแบบนี้บนกลุ่มดาวกระเรียนฟ้ามาก่อน
หน้าของผู้อาวุโสกระเรียนมีน้ำตาไหลพราก
มีแต่เขาที่รู้ว่าเป็นเพราะกระบี่กระเรียนปลดผนึกได้แล้ว
กลุ่มดาวกระเรียนฟ้าจะกลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง
ในคืนหนึ่ง อาเฮ่อกำลังซึมซับวิชากระบี่กระเรียนฟ้าทั้งหมด  การฝึกฝนวิทยายุทธทางกายและทางจิตของสำนักกระเรียนทั้งหมด  เขาได้รับรู้หมดแล้ว  ปกติเขาจะต้องฝึกฝนอย่างหนักโดยไม่ย่อหย่อนซึ่งทำให้เหนื่อยมาก  แต่ตามวิชากระบี่กระเรียนฟ้า  อุปสรรคทั้งหมดได้รับการคลี่คลายในที่สุด
ร่างกระเรียนในตัวเขาเติบโตต่อเนื่องและได้รับความรู้อย่างต่อเนื่อง
เมื่ออาเฮ่อลืมตา นั่นเกือบเป็นวันใหม่แล้ว  ผมสีเงินของเขากลับเป็นสีดำสนิทอีกครั้ง  ผมสีเงินของเขาเกิดจากการฝึกที่ผิดพลาดเมื่อเยาว์วัย ทำให้เกิดการอุดตัน  ตอนนี้อุปสรรคของการฝึกฝนทั้งหมดหายไปแล้ว ผมเงินของเขากลับเป็นสีดำอีกครั้ง
บนเส้นแนวขอบฟ้าทะเลทรายระดับไกล มีชั้นแสงสีทอง ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น
 “ขอแสดงความยินดีด้วยคุณชาย!  หญิงสาวนางหนึ่งมีผ้าคลุมหน้าปรากฏตัวคารวะอาเฮ่อแสดงความยินดี
นางเห็นประจักษ์ถึงการเปลี่ยนแปลง ทำให้หัวใจนางตื่นเต้นมาก
 “ไม่ได้พบกันนานเลยนะ เสี่ยวตั่วเอ๋อ”  อาเฮ่อหัวเราะเมื่อเห็นหญิงสาว เขาไม่รู้สึกประหลาดใจ
เมื่อเห็นคุณชายผู้สุภาพและหมดจดของนาง  หน้าเบื้องหลังผ้าคลุมของแดงด้วยความอาย  นางเชิดหน้า “นายท่านสั่งให้บ่าวมาที่นี่เพื่อเตือนคุณชาย  มีนักสู้ที่แข็งแกร่งอยู่ที่นี่  สถานการณ์ซับซ้อนมากและอยากให้คุณชายระวังตัวไว้ให้ดี”
 “ขอบคุณท่านป้า ฝากคารวะท่านป้าแทนข้าด้วย”  อาเฮ่อมีความเห็นมากมายต่อท่านป้าผู้แข็งแกร่งของตระกูลเขา  เรื่องของแม่และพ่อเขาในปีนั้น ท่านป้าเกี่ยวข้องอยู่ด้วยและพยายามขัดขวางเรื่องทั้งหมด
แต่ตอนนี้ สภาพจิตใจของเขาอยู่ในระดับที่พิเศษ  พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาก ขอบเขต มุมมองความใจกว้างของเขามากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ความไม่พอใจในปีนั้นได้ผ่านไปนานแล้ว
ต้นกล้าเล็กๆ ในปีนั้นได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
หวินตั่วตะลึงกับอารมณ์หยอกล้อของอาเฮ่อ  ในความทรงจำของนาง คุณชายจะดื้อรั้นยืนกรานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้านายของนาง  เขามักจะเย็นชาและเปลี่ยวเหงาเสมอ  และสำหรับนิสัยเจ้านายนางผู้มีแต่แข็งกร้าวขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวนาง  นางคงพาอาเฮ่อกลับบ้านนานแล้ว
ความสัมพันธ์ของพวกเขามักไม่ราบรื่นอยู่เสมอ
หวินตั่วมีอารมณ์แจ่มใส่ และกล่าว  “ถ้านายหญิงรู้ถึงความสำเร็จของคุณชาย นางคงยินดีมาก”
อาเฮ่อยิ้มและยืนขึ้น  สายลมพัดเส้นผมดำของเขา  ใบหน้าดุจหยกของเขาดูสะอาด และชุดดำสนิทของเขาทำให้เขาดูห้าวหาญ ไม่มีมลทิน
หวินตั่วมองดูอย่างทึ่ง
นางเคยเห็นคุณชายเฮ่อหลายครั้งแล้ว   เขามักจะมั่นใจและฝึกฝนมาในอดีต  แต่ที่ผ่านมาระหว่างคิ้วของเขามักแฝงด้วยความเศร้าและปัจจุบันนี้ เขาดูสงบมากและตาของเขาลึกซึ้งเหมือนท้องฟ้ายามราตรี
เหมือนกับคนที่ออกมาจากภาพวาด
ความคิดนั้นผ่านเข้ามาในใจนาง  พอนางรู้ตัว หน้าของนางก็แดงแล้ว
อาเฮ่อไม่รู้ความคิดของหวินตั่ว  ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาคิดถึงถังเทียน เจ้าผู้นั้นออกไปในสถานที่แห่งหนึ่งอีกแล้ว  เขาส่ายศีรษะและหัวเราะ
ในที่สุดเขาก็ไม่มีความเครียดอะไร
ตั้งแต่แรก ถังเทียนมักจะสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับเขา  เขามักจะก้าวหน้าในระดับที่น่าประหลาดใจ และเป็นเหตุให้อาเฮ่อรู้สึกถึงแรงกดดันที่ไร้สภาพในครั้งแรก  ในสำนักกระเรียน อาเฮ่อคืออัศวินที่สวมเกราะฉายประกาย ฝึกซ้อมฝีมืออยู่ในระดับแถวหน้าฝีมือทิ้งคนอื่นห่างไกล
จนกระทั่งวันที่เขาพบถังเทียน  จากนั้นเขาจึงเข้าใจในที่สุดว่า เหนือเขายังมียอดเขา  เหนือคนยังมีคน  เจ้าบ้าหลิงซิ่วก็ไม่ด้อยไปกว่าเขา ระดับความก้าวหน้าของเขาก็น่าทึ่ง ส่วนถังเทียนนับเป็นตัวประหลาดโดยแท้  ความก้าวหน้าของเขาโดดเด่น ทำให้ทุกคนประหลาดใจงงงวยไปตามกัน
อาเฮ่อที่มีความภูมิใจอยู่ภายในถึงกับมีความเครียดอย่างมาก
จนกระทั่งการก้าวหน้าสู่ขอบเขตใหม่ในวันนี้ ทำให้ความกดดันของเขาหายไป
เขาสั่นศีรษะหัวเราะ  ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่เบ่งบานในหัวใจอาเฮ่อ
เขามองดูท้องฟ้า ความรู้สึกยามเช้าตรู่  พระอาทิตย์อุทัยฉายแสงเริ่มลอยสูงในทันใด  พืชพันธุ์และสัตว์อาบแสงสีทองของดวงอาทิตย์
กระบี่กระเรียนในมือของเขาส่งเสียงหึ่งๆ เล็กน้อย  เนื่องจากมันรู้สึกถึงหัวใจที่ต้องการต่อสู้ของอาเฮ่อ มันจึงตื่นเต้นที่จะได้สู้
เขาหันมายิ้มทันที  “เสี่ยวตั่วเอ๋อ เจ้ารู้จักสถานที่ที่อูเถี่ยหวี่อยู่ใช่ไหม”
หวินตั่วตะลึง และสีหน้าของนางเปลี่ยน
หลิงซิ่วชำเลืองมองเนินทราย  เขาเห็นแสงที่บินอยู่ในท้องฟ้าโดยบังเอิญ
เจ้านั่นก็บรรลุระดับใหม่แล้ว!
เขารั้งสายตากลับ และเริ่มการฝึกอีกครั้ง  เขาไม่ใส่ใจ เนื่องจากเป้าหมายที่เขาฝึกฝนในวันนี้ ยังหาไม่พบ  เขากระตุ้นฟลามิงโกตัดสินใจเลือกตำแหน่งฝึกหอกที่ไกลออกไป
เขาไม่รู้ว่าทำไม ช่วงสองสามวันมานี้ เพลงโบราณและภาพเงินมักจะมาปรากฏในฝันของเขาเสมอ
จังหวะในการแทงรูปแบบต่างๆ
ภาพเงินในใจเขาดูเหมือนจะฝึกซ้อมอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่เขาเห็นภาพเงิน ความรู้สึกคุ้นเคยที่แปลกประหลาดมักผุดขึ้นมาในใจของหลิงซิ่ว  หลิงซิ่วเตือนตนเองอย่างดีที่สุด ว่าเป็นแค่ความฝัน  แต่ความรู้สึกนั้นกระจ่างชัดและเหมือนจริงเสมอ
มันต้องเป็นกระพรวนที่ทำเรื่องนั้นแน่นอน
ในอดีต ไม่เคยมีความฝันผุดขึ้นมาก่อน  หลิงซิ่วคิดจะโยนกระพรวนลมเขาแกะทิ้งหลายครั้ง  แต่เขาก็ไม่ทำ
อาจารย์ต้องมีกระพรวนลมเขาแกะของตัวท่านเองด้วยใช่ไหม?  ข้าสงสัยว่ามันเป็นแบบนี้สำหรับเขาด้วยหรือเปล่า
เมื่อคิดถึงอาจารย์ของเขา  หลิงซิ่วยกเลิกความคิดนั้นทันที  เมื่อสองวันที่แล้ว การได้เห็นดาบของถังอี้  ทำให้หลิงซิ่วตะลึง  หอกคืออาวุธสงครามโดยธรรมชาติ  แม้แต่หอกทะเลจุดของเขา ก็ไม่มีเคล็ดการใช้น้ำหนักที่มาก
ดาบนั้นทำให้เลือดหลิงซิ่วเดือด และความตั้งใจสู้ของเขาลุกโชน
ภาพร่างเงินในฝันของเขาปรากฏถี่ขึ้น และแสดงวิชาหอกที่คล้ายกัน  แต่ไม่ว่านักสู้พาหนะน้ำแข็งเงินจะเดียวดายเพียงใด  หอกเงินของเขาก็ไม่มีขีดจำกัด  และลักษณะที่น่าเกรงขามของเขานั้นต่อต้านถังอี้  ปราณที่ป่าเถื่อนและเย็นชาพลุกพล่าน
หลายครั้งเมื่อหลิงซิ่วจมอยู่กับการฝึกมากเกินไป  เขาจะเผลอใช้ท่าเหมือนกับนักสู้พาหนะน้ำแข็งเงินในฝันของเขา
จนกระทั่งวันนี้ เขาไม่สามารถอดกลั้นความรู้สึกนั้นได้
บางที ข้าน่าจะลองใช้วิชาหอกในความฝันดูบ้าง?
หลังจากลังเลอยู่นาน  ในที่สุดหลิงซิ่วก็ทดลองดู  แต่เขาไม่ต้องการให้คนอื่นพบ  ดังนั้นจึงกระตุ้นฟลามิงโกและเดินออกไปไกลหลายกิโลเมตร  เขาหยุดและเลือกตำแหน่งที่ตรงกันข้ามกับอาเฮ่อ และไกลออกไปจากหมู่บ้านมาก  หมู่บ้านมีถังอี้คอยคุ้มกันแล้ว  ดังนั้นเขาจึงว่างขึ้นมาก  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นตัดสินจากระยะไกลแล้ว เขาเชื่อว่าเขาสามารถมองเห็นและตั้งตัวได้ทัน
เนื่องจากเขาตัดสินใจเลียนแบบนักสู้พาหนะน้ำแข็งเงิน  เขาจึงละทิ้งความคิดรบกวนใจเสีย และเพ่งอยู่กับความเคลื่อนไหวของนักสู้พาหนะน้ำแข็งเงินในความฝันของเขา
เขาคุ้นเคยกับท่าเหล่านั้น
แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ก็ไม่มีความก้าวหน้าอะไร  วิชาหอกของนักสู้พาหนะน้ำแข็งเงิน  เทียบกับหอกทะเลจุดของเขาแล้วคล้ายกันมาก  ด้วยข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยนี้ สร้างความอึดอัดให้หลิงซิ่วมากมาย
มีบางครั้งที่เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องเร่งหอกอีกเล็กน้อย  แต่ปลายกระบี่มักบังคับให้เขากลับมาในตำแหน่งดั้งเดิม
หลังจากฝึกหอกทะเลจุดมาสิบปี  มันฝังแน่นอยู่ในกระดูกเขาแล้ว  การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากมาก
ดูเหมือนจะเป็นแค่ความฝันจริงๆ
หลิงซิ่วพยายามต่ออีกหนึ่งชั่วโมง  แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ และเขายังคงส่ายหัว  เขาวางแผนจะฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน และไม่มีเวลาจะเสียอีกต่อไป
ทันใดนั้นหลิงซิ่วสังเกตว่ากระพรวนลมเขาแกะ เคลื่อนไหวเงียบๆ เหมือนกับว่ามันถูกพลังไร้สภาพดูดและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
หลิงซิ่วหรี่ตาและมองดู  มีคนอยู่
หลิงซิ่วกระตุ้นฟลามิงโกให้เคลื่อนไหว
ศัตรูผู้ได้ยินนกเคลื่อนไหว คิดว่าหลิงซิ่วแค่ตรงมาทางด้านเขา แต่สังเกตได้ว่าเขาไม่หยุด และเพิ่มความเร็วขึ้น  สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที
ไม่ดีแน่
ข้าถูกจับได้แล้ว
ปัง!
เนินทรายข้างหน้าเขาระเบิด!
 

5 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เป็นใครกลุ่มไหนนะเนี่ย

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น