วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 296 ผู้เฒ่าน้ำตาคลอ

ตอนที่  296  ผู้เฒ่าน้ำตาคลอ

ถังเทียนยังมีเงินเหลือ
หลังจากให้เซรีนและปิงสามพันล้านเหรียญดาว ซื้อการ์ดม่วงทองสองใบใช้ไปห้าร้อยล้าน และค่าหินดาวที่ใช้ในการฝึก ถังเทียนยังคงมีเหลืออยู่พันห้าร้อยล้านเหรียญดาว

ไม่ว่าสมบัติดวงดาวอะไรก็ตาม เขาเลิกคิดถึง  เงินทั้งหมดพันห้าร้อยล้านเหรียญเดี๋ยวนี้ถูกใช้วางแผนเพื่อห้องปฏิบัติการค้นคว้าพลังสายเลือด
เมื่อเขาใช้เงินหมด เขาสามารถสร้างรายได้คืนมาได้
แต่เกี่ยวกับพลังสายเลือด เป็นเรื่องที่เขาไม่รู้เรื่อง และเมื่อมันผุดขึ้นมา จึงเป็นสิ่งแรกที่เขาคิดอยู่เสมอ
เมื่อเห็นถังเทียนจ่ายเงินสามร้อยล้านเหรียญดาวได้ง่าย  เฒ่าจางตะลึงทันที  เงินตั้งสามร้อยล้านเหรียญดาว   ต่อให้สมบัติทั้งหมดนี้มีค่ามาก แต่เขาเก็บซ่อนไว้หลายปี มีคนหลายคนน้ำลายไหล แต่ไม่มีความสามารถรับเอาไปได้
ผู้ทรงอิทธิพลผู้นี้สามารถจ่ายเงินสามร้อยล้านเหรียญดาวออกไปได้ง่ายในอึดใจอย่างนี้ ไม่เคยมีมาในร้านของเขาก่อนเลย สำหรับคนที่อุดหนุนร้านเขาอาจเป็นพวกเข็ญใจเหมือนกับเฒ่าเฟ่ย
ผิดแล้ว เฒ่าเฟ่ยไม่ได้เข็ญใจอีกต่อไปแล้ว  เขารวยแล้ว
แค่เพียงฟังและไม่ทันได้กระพริบตา  เขาจ่ายสามร้อยล้านเหรียญดาวให้ผู้เฒ่าเฟ่ย  และเขายังต้องการซื้อเพิ่มขึ้นอีก  นั่นหมายความเฒ่าเฟ่ยสามารถตายตาหลับได้ไม่ใช่หรือ?  นึกถึงคำกล่าวว่า “ทหารยอมตายเพื่อสหายของเขา  เฒ่าเฟ่ยคงยอมขายวิญญาณให้ถังเทียนเป็นแน่
เฒ่าเฟ่ยสรรเสริญวิธีการของถังเทียน  ถ้าถังเทียนเริ่มต้นก่อนด้วยการโม้  เฒ่าเฟ่ยคงคิดว่าเขาก็แค่โอ้อวดและไม่น่าเชื่อถือ  แต่พูดเช่นนั้นหลังจากใช้เงินไป 300 ล้านเหรียญดาวนั่นนับว่าฉลาดจริงๆ
วิสัยทัศน์ขนาดนั้น  วิธีจัดการอย่างนั้น บุรุษหนุ่มสวมหน้ากากอุรังอุตังทิ้งความรู้สึกประทับใจลึกไว้ให้กับผู้เฒ่าจาง  แม้แต่หน้ากากอุรังอุตังดูน่าเกลียดและแว่นตาแปลกก็กลายเป็นเป็นสิ่งของน่าประทับใจไปด้วย
น่ากลัวมาก
ผู้เฒ่าจางมองดูหน้ากากและรู้สึกถึงพลังของมันที่เพิ่มขึ้น
ตามคาด ผู้เฒ่าเฟ่ยตื่นเต้นจนน้ำตาคลอ  แม้แต่ผมหงอกบนหัวเขากำลังกระพือ  เขาตื้นตันจนสั่นไปหมด
สวรรค์กำลังโปรดเขา
ข้า, เฒ่าเฟ่ย พบเจ้านายที่ฉลาดใจดีที่สุดแล้ว, เมื่อคิดถึงหลายปีมานี้ถูกเยาะเย้ยถูกหยัน  ในที่สุดก็มีคนเห็นคุณค่าของเขาและเห็นความดีในตัวเขา  ไม่ใช่แค่ดีแต่พูด แต่ด้วยการลงทุนกับเขาถึงสามร้อยล้าน  ห้องปฏิบัติการยังไม่ได้สร้างขึ้น  แต่ก็จ่ายเงินลงทุนไปถึงสามร้อยล้านเหรียญดาวแล้ว แสดงให้เห็นว่าถังเทียนเชื่อมั่นในตัวเขามากเพียงไหน
ผู้เฒ่าเฟ่ยมักจะคลุกคลีกับคนระดับต่ำเสมอ  ดังนั้นเขาพูดเสียงสั่น “นายท่าน, พอแล้ว, แค่นั้นก็พอ นายท่านไว้ใจเฒ่าเฟ่ย, ตาเฒ่าเฟ่ยจะไม่....”
เขายินดีจะทุ่มเทและซื่อสัตย์เป็นที่สุด ไม่เคยมีใครที่มองเขาด้วยการให้ความสำคัญและให้ความนับถือขนาดนั้น  เขารู้สึกพอใจแล้ว
แต่...ถังเทียนยังไม่หนำใจ
ถังเทียนโบกมือ และตัดบทเฒ่าเฟ่ย จากนั้นหันหน้าไปทางเฒ่าแก่จาง  “ยังมีสมบัติดีๆ อย่างอื่นอีกไหม?”
เหมือนกับเป็นคำร่ำลือโดยทั่วไป  คนน่ากลัวมักทำตัวมีมาตรฐานและมีระดับอย่างแน่นอน
เมื่อได้เห็นวันนี้ นับว่าสมคำร่ำลือ
ผู้เฒ่าจางให้ความนับถือถังเทียนเต็มหัวใจ ความเคลื่อนไหวของเขา น้ำเสียงของเขา ความมุ่งมั่นควรแก่การสรรเสริญแน่นอน  เขาแสดงความมุ่งมั่น ความมุ่งมั่นที่มั่นคง  นั่นเป็นการแสดงถึงอะไร?  เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเฒ่าเฟ่ยและนับถือเฒ่าเฟ่ย เป็นการตัดสินว่าเฒ่าเฟ่ยเป็นผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือ
เมื่อเขาโบกมือข้างหนึ่งก็เรียกเมฆได้ โบกอีกข้างหนึ่งก็เรียนฝนได้ และมันจะเป็นเช่นนั้น
เฒ่าจางชื่นชมถังเทียนครั้งแล้วครั้งเล่า และกล่าวขึ้นทันที  “นายท่านล้อเล่นแล้ว อาวุธสมบัติระดับทองนี้ ข้าจะมีอีกชิ้นได้ยังไง  ตาเฒ่าเฟ่ยนี่โชคดีมากจริงๆ ที่ได้พบเจ้านายที่มีสายตาสูงส่ง
ผู้เฒ่าเฟ่ยพยักหน้าเห็นด้วย  เขารู้สึกว่าคำพูดของเฒ่าจางถึงจะเอาใจเขา แต่เขาก็เห็นด้วย  “นายท่าน ด้วยจานพลังงานทองนี้ก็นับว่าเพียงพอแล้ว”
ถังเทียนไม่สนใจเฒ่าเฟ่ย และถามเถ้าแก่จางต่อ “ท่านไม่มีอีกแล้วใช่ไหม?”
วางท่าเกินไป!  เจ้าวางท่าเกินไปแล้ว!  นี่เจ้าจะแกล้งกันให้ดูเป็นจริงเป็นจังเชียวหรือนี่
นักแสดงกระมัง
หัวใจเถ้าแก่จางปั่นป่วน แต่หน้าของเขาแสดงความมุ่งมั่น  เขายืนยัน “ไม่”
แต่เขามีคำพูดตามมา “แต่ข้ามีสมบัติชั้นดีสองสามชิ้น  ห้องปฏิบัติการก็หาสมบัติดีๆ ได้ยาก....”
 “งั้นไปกัน”  ถังเทียนพูดตามตรง
เถ้าแก่จางตะลึง
คะ คน ผะ ผู้นี้ หยิบบทพูดมาผิดหรือเปล่า....
ติงตังดึงผู้เฒ่เฟ่ยมาอยู่ด้านหลังถังเทียน  ผู้เฒ่าเฟ่ยยิ้มแย้มแจ่มใส  เมื่อคิดถึงแผ่นพลังงานทอง เขาก็มีความสุขและพอใจแล้ว
เฒ่าแก่จางมองดูร้ายว่างเปล่าโดยไม่มีอาการสนองตอบ
เป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ...  เจ้าควรจะก้มหน้าและพูดเบาๆ ว่า “น่าเสียดาย, ถ้าทำแบบนั้น ข้าก็อาจขายของเพิ่มได้มากอีกสักเล็กน้อย”
มีแต่ติงตังที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ  นางมองเห็นความคิดเถ้าแก่จาง เพราะนางรู้ระดับปัญญาของเจ้านายนาง  เขาต้องการหว่านล้อมให้คนซื้อของอื่นของเขา  แต่นั่นเป็นไปไม่ได้
ทั้งสามคนเดินไปตามถนนใหญ่
ถังเทียนมองไปข้างหน้าและกล่าว “ที่ไหนขายสมบัติให้ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือด?”
ติงตังชำเลืองมองเฒ่าเฟ่ยที่ยังคงมีความสุข  นางรีบตอบ “ข้าคิดว่าห้างสมบัติฟ้าน่าจะมี แต่ก็คงไม่มาก”
 “งั้นไปที่นั่นกัน”  ถังเทียนตอบ
เมื่อได้ยินคำว่าห้างสมบัติฟ้า  ผู้เฒ่าเฟ่ยรู้สึกตัวทันที และกล่าวอย่างเหลือเชื่อ  “นั่น, นายท่าน, เราจะไปห้างสมบัติฟ้าจริงๆ หรือ?”
ถูกแล้ว”  ถังเทียนตอบ
 “งั้น, นายท่าน เราจะไปที่นั่นทำอะไร?” ผู้เฒ่าเฟ่ยพูดอย่างอ่อนแรง
ถังเทียนประหลาดใจ และหันหน้ามามอง  เขาไม่คาดว่าผู้เฒ่าเฟ่ยจะถามคำถามโง่ๆ แบบนั้น และหลังจากคิดแล้ว เขาตอบ “ซื้อสมบัติให้ท่าน”
ด้วยท่าทางของเจ้านายที่มองเขา เหมือนกับว่าเขามองดูคนงี่เง่าคนหนึ่ง  ผู้เฒ่าเฟ่ยเริ่มสั่น หน้าของเขาเริ่มกลายเป็นสีแดง
หะ ห้าง สะ สมบัติฟ้า.. นั่นคือสถานที่แพงที่สุด  เขาไม่เคยไปที่นั่น สถานที่ขายสมบัติดวงดาวระดับสูง
เพื่อเขา?
ผู้เฒ่าเฟ่ยตะลึง และจากนั้นหน้าเขากลายเป็นสีแดง ร่างของเขาสั่นหนัก
เพื่อเขา.... เพื่อเขา...
ความตื่นเต้นอย่างหนักจู่โจมหัวใจเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขามิอาจทนได้อีกต่อไปและเป็นลมล้มพับทันที
ติงตังสะดุ้งตกใจรีบตรวจลมหายใจและชีพจรทันที ก่อนจะคลายใจ “เขาตื่นเต้นจนเป็นลม”
 “โอว” ถังเทียนรั้งสายตากลับมา  เขากำลังคำนวณ นี่เขาลงทุนไปถึงพันสองร้อยล้านเหรียญดาว
เมื่อคิดถึงห้องปฏิบัติการของเซรีนและค่ายฝึกทหารของปิง เขาใช้จ่ายไปสามพันล้านในอึดใจเดียว  ห้องวิจัยค้นคว้าของผู้เฒ่าเฟ่ยใช้เงินเพียงพันห้าร้อยล้านเอง
หลังจากคิดชั่วครู่แล้ว  เขาไม่รู้ว่าจะใช้เงินทำอะไร และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เขาหันหน้าไปทางติงตัง “ปลุกเขาเถอะ”
ติงตังถ่ายปราณแท้เข้าไปในร่างของผู้เฒ่าเฟ่ยทันทีปลุกเขาให้ตื่นขึ้น  ประโยคแรกที่ดังออกมาจากปากเขาอย่างตะกุกตะกัก  “นะ นายท่าน ท่านจะซื้อของทุกอย่างให้ข้าจริงๆ หรือ”
 “โธ่” นอกจากต่อสู้แล้ว  ถังเทียนไม่ค่อยจะอดทนนัก คนผู้นี้โง่กว่าอาโมรี่อีกหรือนี่? คำถามง่ายๆ แต่ทำไมเขาถามตั้งหลายครั้ง?
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ไม่พอใจ  ผู้เฒ่าเฟ่ยเงียบด้วยความกลัวทันที
ถังเทียนพูดต่อ  “ท่านเริ่มคิดหาวิธีดีกว่า  สมบัติแบบไหนจะช่วยย่นระยะกระบวนการค้นคว้าพลังสายเลือด”
ผู้เฒ่าเฟ่ยลังเลชั่วขณะ จากนั้นถาม “นายท่าน ท่านคิดว่าเวลาเท่าใดจึงจะเหมาะสม?”
ถังเทียนประหลาดใจ  “นี่ข้าสามารถประเมินเวลาได้ด้วยหรือ?”
ผู้เฒ่าเฟ่ยอาย “ไม่ ไม่ใช่ประเมินเวลา”  จากนั้นเขารีบอธิบาย  “นายท่าน, ท่านต้องรู้ไว้เกี่ยวกับปริศนาหลายอย่างที่ท่านมี จะเปิดเผยพลังสายเลือดของท่าน ไม่มีใครรู้กำหนดเวลาที่แน่นอน”
 “ถามถึงสิ่งที่ข้าคำนวณได้สินะ” ถังเทียนหงุดหงิด  คนผู้นี้โง่มาก ทำไมต้องมาถามคำถามไร้สมองกับเขาด้วย?
จากนั้นผู้เฒ่าเฟ่ยพำพึม  “สิ่งที่สามารถวัดได้... สิ่งที่สามารถวัดได้...”
หลังจากคิดแล้ว เขาก็ยังไม่รู้ว่าถังเทียนต้องการให้วัดค่าปริมาณอะไร  การค้นคว้าพลังสายเลือดต้องมีโชคและโอกาส  สิ่งที่สามารถวัดได้... จากนั้นผู้เฒ่าเฟ่ยนึกขึ้นได้  “นายท่าน ท่านตั้งใจใช้งบประมาณยังไง? กับสิ่งที่สามารถวัดได้คำนวณได้นี้”
ในที่สุดก็มีคำถามที่เหมาะสม  ถังเทียนชื่นชมความคิดเขา  “ข้าตั้งใจจะใช้เงินราวพันสองร้อยล้านเหรียญ
เอิ๊ก!
ผู้เฒ่าเฟ่ยสิ้นสติสมปฤดีอีกครั้ง  แม้แต่มือของติงตังก็ยังไม่หยุดสั่น
 “ปลุกเขาก่อน” น้ำเสียงของถังเทียนขึงขังไม่พอใจ
คนผู้นี้เชื่อถือได้ไหมนี่...
ผู้เฒ่าเฟ่ยฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
ถังเทียนไม่สนใจกับเงินพันห้าร้อยล้านเหรียญ แต่ไม่ว่าเขาจะคลี่คลายพลังสายเลือดลึกลับได้หรือไม่  เขาตัดสินใจทดสอบผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่ดูไม่น่าเชื่อถือนี้
 “ขอบอกท่านไว้ล่วงหน้าเลยนะ  ข้าจะลงทุนพันห้าร้อยล้านกับท่าน  ท่านจะเป็นอยู่ดีขึ้นด้วยพันห้าร้อยล้านนี้ แต่ถ้าท่านชักช้าและไม่มีผลงานหลังจากเวลาผ่านไปนานละก็ หึ หึ”
คำพูดขู่เข็ญเมื่อเข้าหูผู้เฒ่าเฟ่ย ทำให้เขาหน้าซีดทันที เขาร้องเอิ๊ก แล้วเป็นลมอีกครั้ง
ถังเทียนชักเริ่มกังวล  ถ้าคนผู้นี้เอาแต่เป็นลมหรือไม่ก็ถามคำถามโง่ๆ เขาควรจะเปลี่ยนคนทำงานดีหรือไม่?”
 “ปลุกเขา!” ถังเทียนกัดฟันพูด
หลังจากฟื้นขึ้นแล้ว  เขาใช้เวลาคิดหนัก แต่รู้สึกว่าตนเองกำลังจะพังทลาย  เขาก้มหน้า ถามอย่างน่าสงสาร “นายท่าน ข้าขอปฏิเสธเงินพันห้าร้อยล้านได้ไหม?”
 “ไม่ได้”  ถังเทียนตวาดแว้ด
ผู้เฒ่าเฟ่ยนัยน์ตาหมอง เขาเกือบเป็นลมอีกครั้ง
ถังเทียนคำราม  “อย่าคิดว่าท่านโชคดีนะ  ท่านควรเริ่มคิดดีกว่าต้องการซื้ออะไรที่เหลืออีกพันสองร้อยล้าน  ไม่ว่ายังไง ข้าต้องใช้เงินพันสองร้อยล้านในวันนี้ให้ได้”
ผู้เฒ่าเฟ่ยคร่ำครวญ  จอมเผด็จการนี่ไม่มีความเป็นมิตรอีกต่อไปแล้ว
ความคิดของถังเทียนนั้นแสนง่าย ความเร็วในการใช้ห้าร้อยล้านย่อมเร็วกว่าใช้สามร้อยล้านแน่นอน  และพันห้าร้อยล้านก็ย่อมต้องใช้ได้ไวกว่าห้าร้อยล้านแน่
จะต้องลังเลทำไม?  ก็ใช้มันทั้งพันห้าร้อยล้านเสียเลย
ในที่สุดผู้เฒ่าเฟ่ยก็ตั้งสติจากการคุกคามของถังเทียนได้  หลังจากได้ยินแล้ว ถังเทียนไม่ได้ล้อเล่น  ถ้าเขาไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้ เขาคงจบลงแย่ยิ่งกว่าแต่ก่อน
แต่พันห้าร้อยล้านเหรียญดาว...
พันห้าร้อยล้านเหรียญดาว ห้องปฏิบัติการจะดูเหมือนอะไรได้?
ผู้เฒ่าเฟ่ยผู้น่าสงสารพยายามจินตนาการ  แต่ก็ไม่สามารถคิดได้ว่าห้องปฏิการราคาพันห้าร้อยล้านเหรียญดาวจะมีลักษณะเหมือนอะไร
ทันใดนั้น ผู้เฒ่าเฟ่ยกล่าว “นายท่าน, เราจะไม่ไปห้างสมบัติฟ้า”
 “ทำไม?”  ถังเทียนชะงัก
ผู้เฒ่าเฟ่ยสงบจิตใจได้แล้ว หลังจากตั้งหลักได้ เขาก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ได้ในที่สุดและพูดขึ้น  “นายท่าน แม้ว่าเครื่องไม้เครื่องมือจากห้างสมบัติฟ้าจะเป็นของดี  แต่ราคาของเกินความเป็นจริงไปมาก เราจะกวาดเอาร้านเล็กร้านน้อยทั่วเมืองหย่งอันในรวดเดียว อย่าดูถูกร้านเล็ก  เพราะร้านเล็กทุกร้านจะต้องมีเครื่องมือพิเศษสักชิ้นสองชิ้นซึ่งคุ้มค่าดีกว่าเมื่อเทียบกับห้างสมบัติฟ้า”
เขาไม่พูดเกินกว่าหนึ่งประโยค ซึ่งเป็นเหตุให้เจ้าเด็กบ้านนอกเข้ากรุงไม่อาจได้เข้าไปห้างสมบัติฟ้า
 “คล้ายๆ กับจานพลังงานชั้นทองหรือเปล่า”  ถังเทียนถาม
 “ถึงไม่ใช่ แต่ก็ใกล้เคียง” ผู้เฒ่าเฟ่ยกระตือรือร้น  เขาอาศัยอยู่ในเมืองหย่งอันมานานแล้ว ใครก็ตามที่จะซ่อนของดีบางอย่างไว้  มีหรือที่เขาจะไม่รู้?
พันสองร้อยล้านเหรียญดาว
ตาของผู้เฒ่าเฟ่ยแดงก่ำ  รังสีฆ่าฟันพุ่งทะยาน
 

4 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

555 ลูกน้องเฒ่าเจอพี่ถังสายเปย์ถึงกับสลบ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น