วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 297 คำเชิญของห้างสมบัติฟ้า

ตอนที่  297  คำเชิญของห้างสมบัติฟ้า
ห้างสมบัติฟ้า
เซี่ยกวงจงเป็นผู้จัดการร้านห้างสมบัติฟ้า และดูแลห้างสมบัติฟ้ามานานเกินกว่ายี่สิบปี  และในยี่สิบปีนี้ เขามีความระมัดระวังและรอบคอบ  เขาไม่กล้ามองข้ามรายละเอียดทุกอย่าง

เขารับฟังรายงานของบริวารอย่างไม่สบายใจ  เขารอจนกระทั่งรายงานจบ จากนั้นครุ่นคิดชั่วขณะ  แล้วพูดว่า “เจ้าบอกว่าพวกเขาจะใช้เงินพันห้าร้อยล้านให้หมดในวันเดียวใช่ไหม?”
 “ขอรับ” บริวารรายงานด้วยความเคารพ  “ตอนนี้การขายสมบัติดวงดาวในเมืองหย่งอันกำลังคึกคัก พวกเขาซื้อสมบัติระดับทองไปสามชุด  สมบัติดวงดาวระดับเงินอีกหกชุด มูลค่าแต่ละอย่างห้าสิบล้านเหรียญดาว สมบัติสิบชุดก็ราคายี่สิบล้านเหรียญดาว และสมบัติชุดเล็กอื่นอีกสิบชุด รวมแล้ว พวกเขาใช้จ่ายไปพันห้าร้อยล้านเหรียญดาว  ทั้งหมดเป็นสมบัติให้ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดได้ใช้  และร้านสมบัติทั้งหมดของเมืองหย่งอันนอกจากร้านในเครือเรา ล้วนแต่แวะไปเยี่ยมเยือนทั้งนั้น”
เซี่ยงกวงจงรับฟังข้อมูลสำคัญอย่างรวดเร็ว  “เจ้าบอกว่าพวกเขาใช้เงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญดาวซื้อสมบัติดวงดาวสำหรับผู้เชี่ยวชาญสายเลือด?”
 “ขอรับ!  บริวารของเขาได้สืบมาอย่างชัดเจนและกล่าว “มีคนแก่คนหนึ่งอยู่กับเขาด้วย รู้สึกว่าชื่อเฒ่าเฟ่ย เขาไม่ค่อยมีชื่อเสียงนัก อยู่ในเมืองหย่งอันมาเกินกว่าสิบปีแล้ว  แต่เขาก็ยังมีชื่อเสียงปานกลาง ข้าไม่รู้ว่าเขาจัดพลัดจับผลูเจอคุณชายซิงได้อย่างไร และยังทำให้เขายอมเชื่อถืออีกด้วย”
 “คุณชายซิง?”
บริวารของเขาตอบทันที  “คุณชายซิงมีเบื้องหลังลึกลับสวมหน้ากากอุรังอุตัง และยังหนุ่มมากดังนั้นทุกคนจึงเรียกเขาว่าคุณชายซิง”
เซี่ยกวงจงหัวเราะลั่น “คุณชายซิง (ดาว) มาจากดาวเหรียญ”
 “นายท่านช่างฉลาด” บริวารเขาประจบทันที  “คุณชายซิงยังมีอีกคนหนึ่งอยู่ข้างตัวของเขา นางชื่อติงตัง นางคือม้าเงินขององค์การวิญญาณมืด เมื่อก่อนตัวคนเดียว แต่จู่ๆ ก็ได้รับคัดเลือกให้ทำงาน”
 “ไม่ธรรมดาเลย” เซี่ยกวงจงคิด “สามารถดึงดูดม้าเงินองค์การวิญญาณมืดได้ เขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ผู้เชี่ยวชาญสายเลือดแซ่เฟ่ยดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาเช่นกัน  ห้องปฏิบัติการมูลค่าพันห้าร้อยล้านในเมืองหย่งอันมีเพียงสามแห่งเท่านั้น  คุณชายซิงนี้ใจใหญ่นัก”
 “นายท่านพูดถูก”
 “พอจะมีเบาะแสอะไรนำไปสู่เบื้องหลังเขาได้ไหม?” เซี่ยกวงจงถาม
 “เห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไร”  บริวารเขาลังเล “แต่ข้าสามารถตรวจสอบได้  ดูเหมือนว่าบริวารของเขาที่เป็นม้าองค์การวิญญาณมืดจะให้ความสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นของกลุ่มดาวหมาป่ามาก”
 “กลุ่มดาวหมาป่า”  ตาของเซี่ยกวงจงเบิกโพลง เขามีข้อมูลภายในมากกว่าคนอื่น และเขารู้ว่าในปัจจุบันนี้มีสายตาหลายคู่จับตามองกลุ่มดาวหมาป่า
องค์การวิญญาณมืด, สมาพันธ์ชาวยุทธ, สมาคมรวมตระกูล สามองค์กรมหาอำนาจทรงอิทธิพลขนาดใหญ่ที่ถ่วงดุลกันมาหลายปี บางทีคงก่อศึกใหญ่ในกลุ่มดาวหมาป่าก็เป็นได้
และนับเป็นครั้งแรกที่สมาคมรวมตระกูลมีการเคลื่อนไหวครั้งแรก ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
องค์การวิญญาณมืดเริ่มกลายเป็นภัยคุกคามต่อผู้อาวุโสหลายคน และมีข่าวลือแพร่กระจายอยู่ในองค์การวิญญาณมืดว่ากลุ่มดาวกางเขนใต้ในตำนานถูกใครบางคนกระตุ้นเติมเชื้อไฟ
ขณะที่สมาพันธ์ชาวยุทธยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด  แต่เพราะถังเทียนไม่ทราบว่าได้กองทัพมาจากที่ใด ทำให้อีกสองฝ่ายกังวล  ตอนนี้สถานการณ์สับสนมากยิ่งขึ้น
กลุ่มดาวหมาป่าเป็นแค่เพียงสถานที่กันดารของสวรรค์วิถี  แต่กลับกลายเป็นศูนย์กลางขององค์กรทรงอิทธิพล
พวกที่ให้ความสนใจกลุ่มดาวหมาป่าไม่ใช่แมลงเม่าเล็กน้อย
มีแต่กลุ่มอำนาจใหญ่และตระกูลชนชั้นสูงที่ให้ความสนใจในสถานการณ์
เบื้องหลังคุณชายซิงย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน
แต่เมื่อคิดดูแล้ว สำหรับคนที่สามารถจ่ายเงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านเหรียญในวันเดียวได้  ดูแล้วจะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?
เพราะศิษย์ของตระกูลใหญ่  จะมีอำนาจใช้จ่ายพันห้าร้อยล้านได้ในวันเดียว  ตำแหน่งของพวกเขาต้องไม่ต่ำทราม  เมื่อคิดดูอีกที ตระกูลชั้นสูงใหญ่ที่เซี่ยกวงจงได้ลบออกไปจากความคิดของเขา  พวกนี้มีน้อยคนที่จะกล้าซื้อสมบัติดวงดาว พวกเขามีวิธีทำหลายอย่างด้วยตนเองและคงไม่ไปจับจ่ายใช้สอยในร้านเล็กแน่นอน
เซี่ยกวงจงตัดสินว่าคุณชายซิงน่าจะเป็นคนที่มีเงินทุนมหาศาล แต่ไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวยที่สะสมความมั่งคั่งมาหายปี  ท่าทีการแสดงออกของคุณชายซิงและความทะเยอทะยานของเขาคล้ายกับครอบครัวสมัยใหม่
พวกเขาทะเยอทะยานมาก  แต่ไม่ค่อยระมัดระวัง
ครอบครัวแบบนี้เห็นได้ยาก  แต่ในทางตรงกันข้าม หลายครอบครัวปรากฏขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปี
ครอบครัวสมัยใหม่ทั้งหมดนี้เป็นลูกค้าที่ดีที่สุด  พวกเขาใจกว้างมาก ตราบเท่าที่พวกเขาได้ของที่ต้องการและในราคาที่เหมาะสมสำหรับพวกเขา
ไม่มีเจ้าของธุรกิจคนใดไม่ชอบลูกค้าประเภทนี้
หลังจากคิดแล้ว เซี่ยกวงจงก็พูด  “ในงานเลี้ยงคืนนี้ ส่งคนไปเชิญคุณชายซิงมา จำไว้ว่าให้เพิ่มบัตรทองเป็นของขวัญด้วย”
ห้องสมบัติฟ้าจะขายของคุณภาพระดับสูง  และวิธีการขายของพวกเขาแตกต่างจากพวกร้านค้าระดับต่ำแน่นอน
 “บริวารจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้ขอรับ”  บริวารของเขาตอบรับ
ผู้เฒ่าเฟ่ยมองดูภูเขาสมบัติดวงดาวต่อหน้าเขา คิดว่าเขากำลังฝันไป  เขาไม่เคยคิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่เขาได้เห็นสมบัติกองเหมือนภูเขา สมบัติดวงดาวทั้งชีวิตของเขา
กองภูเขาสมบัติน้อยๆ  สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือสมบัติระดับทองสามชิ้นสีทองแพรวพราว
นอกจากจานพลังงานทองแล้ว สมบัติอีกสองชิ้นคือเพลิงแสงฟีนิกซ์จากกลุ่มดาวฟีนิกซ์และท่อทดสอบพิณจากกลุ่มดาวพิณ
กลุ่มดาวฟีนิกซ์เป็นกลุ่มดาวในขอบฟ้าใต้  แต่เป็นกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในสี่สิบสองกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้  เพลิงแสงฟีนิกซ์มีขนาดเท่าฝ่ามือรูปสีทองสีสันสวยงาม จงอยปากฟีนิกซ์สามารถพ่นแสงเพลิงฟีนิกซ์  แต่มีระยะจำกัดแค่สามสิบเซนติเมตร และไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้  แต่สามารถใช้สำหรับทดสอบพลังสายเลือดได้อย่างสมบูรณ์ สามารถกลั่น ผสาน ฯลฯ มีประโยชน์ในการแยกสายเลือดสำหรับค้นคว้าวิจัย
กลุ่มดาวพิณเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  แต่หลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ไลรา กลุ่มดาวพิณยังไม่สามารถฟื้นตัวได้  แต่มีข่าวลือว่าสมบัติของกลุ่มดาวพิณถูกผนึกอยู่ในขุมสมบัติดาวพิณ  ดังนั้นเมื่อผู้เฒ่าเฟ่ยเห็นท่อทดสอบดาวพิณ  เขาจึงตื่นเต้นมาก  สมบัติอย่างท่อทดสอบดาวพิณไม่ได้ประกอบด้วยเพียงหนึ่งท่อทดสอบ แต่มีชุดทดสอบถึงยี่สิบสี่ท่อ ซึ่งถูกวางไว้เงียบๆ ในกล่องสวยงามมีแสงสลัวๆ ด้วยสีที่แตกต่างกัน แต่ละสีจะใช้ประโยชน์ต่างกัน
สมบัติชั้นทองถึงสามชิ้น แต่ละอย่างจะเป็นเสาหลักสนับสนุนงานค้นคว้าในห้องปฏิบัติการ
เมื่อมองดูสมบัติดวงดาวระดับเงินอื่นๆ ของที่ผู้เฒ่าเฟ่ยเลือกไว้เองทั้งหมดไม่ใช่ธรรมดา  ผู้เฒ่าเฟ่ยยินดียิ่งนัก เขายิ้มปากไม่หุบ ได้งานดีๆ  ช่างฝีมือย่อมต้องการเครื่องมือที่ดีที่สุด  ด้วยสมบัติดวงดาวเหล่านี้ ห้องปฏิบัติการค้นคว้าสายเลือดของเขาจะเป็นหนึ่งในห้องค้นคว้าระดับสุดยอดแน่นอน
เหมือนฝันจริงๆ
เขายังคงตื่นเต้นมาก แม้ว่าเจ้านายเขาจะขู่และเตือนเขาก็ตาม  แต่ผู้เฒ่าเฟ่ยก็ยังคงมุ่งมั่น  เพราะได้รับการนับถือและไว้วางใจ และคำขอและข้อพิจารณาของเจ้านาย แต่เขาก็ยังยินดีจ่ายเงินให้ผู้เฒ่าเฟ่ยถึงพันห้าร้อยล้านเหรียญดาว  นั่นแสดงว่าเขาเชื่อใจความสามารถของเขา  และนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการที่สุด
ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ข้าต้องเปิดเผยพลังสายเลือดที่ลึกลับของเจ้านายให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ผู้เฒ่าเฟ่ยตั้งเป้าหมายในใจ
ถังเทียนถอนหายใจโล่งอก  ในที่สุดเขาก็ได้ใช้เงินไปพันห้าร้อยล้านเหรียญดาว  เยี่ยม เนื่องจากไม่มีอะไรอื่นเหลือให้เขาแล้ว  แม้ว่าผู้เฒ่าเฟ่ยจะดูไม่น่าเชื่อถือมากก็ตาม  แต่ถังเทียนตัดสินใจไม่กังวลเกี่ยวข้อง
ทันใดนั้นมีคนมาเคาะหน้าประตู
ติงตังปรากฏตัวด้วยความสงสัยทันที  นางเดินตรงไปที่ประตู  “ใครกัน?”
 “ข้าเป็นตัวแทนจากห้างสมบัติฟ้า ผู้จัดการของข้าสั่งให้ข้ามามอบของขวัญบัตรเชิญให้กับคุณชายซิง” เสียงข้างนอกดังขึ้นอย่างเคารพ
ห้างสมบัติฟ้า?
ถังเทียนสงสัย ทำไมห้างสมบัติฟ้าถึงได้ส่งคำเชิญให้เขา?  เขาไม่เข้าใจสถานการณ์  จึงบอกติงตัง “ให้เขาเข้ามา”
ติงตังเชื่อและเปิดประตู
บุรุษคนหนึ่งอายุราวๆ สามสิบปีพูดอย่างสุภาพ “อีกสองวัน ห้างสมบัติฟ้าของเราจะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำ  เราได้ยินเรื่องที่คุณชายซิงมาถึงเมืองหย่งอัน ดังนั้นผู้จัดการห้างจึงสั่งให้บ่าวมาส่งบัตรเชิญให้คุณชาย หวังว่าคุณชายจะมาปรากฏตัวสักครั้ง”
เขาส่งจดหมายเชิญ
ถังเทียนรับไว้และเปิดหนังสือเชิญ สิ่งที่อยู่ข้างในเป็นบัตรทอง
บุรุษคนนั้นอธิบายทันที  “บัตรทองคือความตั้งใจดีของท่านผู้จัดการและหวังว่าคุณชายจะรับไว้ด้วยความยินดี”
ถังเทียนพยักหน้าและกล่าว “ช่วยขอบคุณท่านผู้จัดการแทนข้าด้วย, ข้าจะไปที่นั่นแน่”
บุรุษผู้นั้นถอนหายใจโล่งอก  “อย่างนั้นเราจะรอต้อนรับคุณชายในอีกสองวันด้วยความยินดี  เราจะส่งพาหนะมารับคุณชาย คุณชายสามารถพาสหายมาด้วยสองคน”
ถังเทียนคุยกับอีกฝ่ายชั่วขณะ ก่อนที่บุรุษผู้นั้นจะขอตัวลา
 “ห้างสมบัติฟ้าพยายามจะทำอะไรกันแน่?”  ถังเทียนถาม
 “ข้าคิดว่าการใช้จ่ายของเจ้านายสร้างความประหลาดใจให้พวกเขา” ติงตังหัวเราะ  “พวกเขาต้องการทำธุรกิจด้วย และด้วยความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของเจ้านาย  พวกเขาจะไม่สังเกตเห็นได้ยังไง?”
จากนั้นถังเทียนค่อยตระหนักถึงคำพูดของนาง จึงหัวเราะลั่น “น่าเสียดายที่ข้าใช้เงินข้าไปหมดแล้ว”
 “การ์ดทองคือของชั้นดี  ห้างสมบัติฟ้าจะควบคุมสมาชิกและไม่เปิดให้เข้าพื้นที่บางส่วนได้นอกจากสมาชิกที่มีการ์ดทอง  การ์ดทองจะแพงกว่าการ์ดอื่นๆ มากมาย ให้สิทธิ์ตั้งมากมาย อย่างในเมืองหย่งอัน นี่คือเครื่องหมายบ่งบอกสถานะ  การ์ดนี้ถ้าท่านขาย ข้าคิดว่าจะมีคนทุ่มเงินซื้อถึงยี่สิบล้านเหรียญดาว”
 “อิทธิฤทธิ์มากขนาดนั้นเชียวหรือ?”  ถังเทียนตะลึง จากนั้นก็มีความสุขทันที  “ไม่เลว ไม่เลว ผู้จัดการห้างสมบัติฟ้าฉลาดมาก วันนั้นข้าจะพาพวกท่านทั้งคู่ไปชมโลก ข้าไม่เคยไปดูในที่มากพลังอย่างนั้นมาก่อน”
ถังเทียนไม่ติดขัดหรือรู้สึกอึดอัดที่จะพูดแบบนั้น  แต่กลับมีความสุขและเชื่อมั่นแทน
ติงตังฝืนหัวเราะกับแนวคิดทื่อๆของเจ้านาย ได้พบกับคนพวกนั้นใครจะรู้ว่าเป็นยังไง
 “นายท่าน, ข้าคงไม่ไป” ผู้เฒ่าเฟ่ยส่ายหน้า  “ข้าต้องเก็บสัมภาระบ้านข้าในอีกสองวัน เมื่อถึงเวลาไปจะได้ง่ายขึ้น ข้ายังมีเรื่องต้องคิดและจัดลำดับ”
แม้ว่าผู้เฒ่าเฟ่ยจะดูไม่น่าเชื่อถือ  แต่งานของเขาก็ยังมีมาตรฐาน
ถังเทียนผงกศีรษะ “ก็ดีเหมือนกัน”
********************
หวินตั่วใช้มือปิดปากตนเอง หน้าของเขามีอาการตกใจอย่างหนักกับภาพที่ปรากฏต่อหน้าเขา
อูเถี่ยหวี่จ้องมองบุรุษชุดดำต่อหน้าเขา และเอ่ยปากอย่างยากลำบาก “จะ..เจ้า..เป็น..ใคร..กันแน่?”
 “ข้าคืออาเฮ่อ, ศิษย์สำนักกระเรียน”  คำพูดที่สงบของอาเฮ่อเหมือนกับลมพัดกรอกหูอูเถี่ยหวี่
 “สำนักกระเรียน....”  หน้าของอูเถี่ยหวี่เต็มไปด้วยความสับสน เขาเคยได้ยินชื่อของสำนักกระเรียนมาก่อน เป็นสำนักที่อ่อนแอมาก แต่...
เมื่อคิดถึงความทะเยอทะยานของตนเอง อูเถี่ยหวี่มีอาการขมในปาก
รอยเลือดยาว ปรากฏระหว่างคิ้วของเขาทันที จากนั้นขยายลามเป็นเส้นยาวไปตามตัวเขาด้วยความเร็วน่าประหลาดใจ  ร่างของเขาถูกผ่าครึ่ง
โลหิตฉีดพุ่งกระจาย
ขณะนั้นเอง แสงอาทิตย์สีแดงเฉิดฉายส่องมาจากด้านหลังบุรุษหนุ่ม
หลิงซิ่วปาดเลือดออกจากริมฝีปากเขา  เขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างหนัก  เมื่อมองดูหวยไป่หัวที่กลายสภาพเป็นเงิน  เขาชำเลืองดูร่างที่ตื่นกลัวในระยะไกลและแค่นเสียง เดินเข้าหาหวยไป่หัว เขากระเทาะผิวของหวยไป่หัวออกอย่างหมดจด
หลิงซิ่วโดดขึ้นฟลามิงโก จากนั้นวิ่งออกไปราวกับสายลมเงินและหายไปในทะเลทรายที่กว้างขวาง
 

6 ความคิดเห็น:

คมศักดิ์ กล่าวว่า...

ซิ่วน้อย กับ เฮ่อน้อย แอบไปฟาร์มบอส ตอนบักถังไม่อยู่ซะแล้ว

YOU กล่าวว่า...

ลาก่อน มินิบอสทั้งสองนาย

Unknown กล่าวว่า...

รออาถังมาปิดบอสใหญ่ทั้งสองฝ่าย

Unknown กล่าวว่า...

อดรูดของเลยงี้ ถังถัง

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น