วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 315 หลังเสร็จศึก

ตอนที่  315  หลังเสร็จศึก
กลุ่มดาววาฬ
กงชิ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ปลาวาฬ ฝ่ามือลูบคางคิดอย่างหนัก  เขาอายุหกสิบปีแล้วแต่ยังดูเหมือนคนวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี ไม่มีท่าทางของคนเจ้าโทสะมีลักษณะเหมือนบัณฑิตผู้คงแก่เรียน เขาเป็นเจ้าปกครองกลุ่มดาววาฬมานานกว่าสิบปีแล้ว เป็นที่เคารพรักและนับถืออย่างสุดซึ้งจากพลเมืองของเขา
ในตอนนี้ พลเมืองของเขาทุกคนโกรธ และรู้สึกเจ็บปวด

 “ท่านประมุข, เราจะปล่อยไปอย่างนั้นไม่ได้นะ!  กลุ่มดาววาฬของเราเป็นหนึ่งในสิบตำหนักระนาบกลาง  แม้ว่าเราจะไม่ชอบเดินทางไปที่ไกลๆ  แต่เราจะยอมทนทุกข์ทรมานได้อย่างไร?  ภายใต้การจับตาของทุกคน เขาย่างเท้าเข้ากลุ่มดาววาฬของพวกเราและสร้างสมบัติดวงดาวมืด  ฮึ่ม, กลุ่มดาวหมาป่านั่นก็แค่กลุ่มดาวขอบฟ้าใต้ พวกมันไม่มีคุณสมบัติหิ้วรองเท้าให้เรา  และเจ้าถังเทียนนั่น ก็แค่นักสู้ระดับแปด มันกล้าทำเหมือนกลุ่มดาววาฬของพวกเราเป็นหินหยั่งเท้า  คงจะเบื่อหน่ายชีวิตแล้วกระมัง...”
บุรุษผู้กล้าและทรงพลังแข็งแกร่งคนหนึ่งรูปร่างสง่างามกล่าว
ฝูเยี่ยนคือหนึ่งในบริวารฝ่ายขวาของกงชิ่ง  เขามีชื่อเสียงและแข็งแกร่งมากในกลุ่มดาววาฬ
คนอื่นๆ พากันผงกศีรษะของพวกเขา  การต่อสู้ในกลุ่มดาวหมาป่าเดิมทีไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกลุ่มดาววาฬ  แต่ไม่เคยคิดเลยว่าในท้ายที่สุดถังเทียนจะต่อต้านกลุ่มดาววาฬและสร้างสมบัติดวงดาวมืด  เหมือนกับว่าเป็นการทำร้ายจิตใจชาวกลุ่มดาววาฬและพวกเขาโกรธแค้นมาก
กงชิ่งไม่ได้เหลือบตาและถามเฉื่อยชา “พวกเจ้ามีความเห็นอะไรบ้าง?  พวกเจ้าเป็นผู้ใหญ่กลุ่มใหญ่จะวิ่งออกไปหาคนกลุ่มน้อยแล้วเข่นฆ่าเด็กๆ น่ะหรือ  ถ้าข่าวแพร่ออกไป เราคงหนีข้อครหาว่าเป็นผู้เข้มแข็งรังแกผู้อ่อนแอกว่าไม่พ้น”
 “เราสามารถไปที่สมาพันธ์ชาวยุทธเพื่อกดดันพวกเขา  และขอให้ถังเทียนวางมือจากสมบัติมืดซะ  ข้าน้อยพบว่า ถังเทียนมีตำแหน่งไม่สูงในสมาพันธ์ชาวยุทธ  แค่ระดับเดียวกับจิ่งหาว  ข้าเชื่อว่าแค่กดดันสมาพันธ์ชาวยุทธได้  พวกเขาจะไม่คัดค้านเรา”  บุรุษผู้คล้ายบัณฑิตก้าวออกมา  เขาชื่อจี๋ชิว เป็นที่ปรึกษาผู้โดดเด่น
 “นั่นเป็นความคิดที่ดี!” ฝูเยี่ยนกำหมัดแน่น และตอบด้วยความตื่นเต้น
กงชิ่งผงกศีรษะ  “นั่นสินะ, แต่ถ้าถังเทียนไม่ตอบสนองจะเกิดอะไรขึ้น?  เราต้องไปหาเรื่องกับเขาหรือไม่?  หนึ่งในตำหนักระนาบกลางไปหาเรื่องกับเด็กตัวแสบ  ต่อให้เราชนะ ก็เหมือนไม่ได้อะไรเลย”
จี๋ชิวกล่าวเฉลย  “ข้าน้อยได้ยินมาว่า เดิมทีถังเทียนตั้งใจจะไปกลุ่มดาวกางเขนใต้  ถ้าถังเทียนไม่ยอมวางมือ  เราสามารถปิดประตูดวงดาวระหว่างกลุ่มดาววาฬและกลุ่มดาวหมาป่าได้ ถือเป็นการลงโทษตอบโต้”
กงชิ่งรู้สึกว่ามีเหตุผล  กลุ่มดาววาฬเป็นทางลัดที่สุดเพื่อมุ่งสู่กลุ่มดาวกางเขนใต้  ถ้าถังเทียนและพวกไม่ปฏิบัติตาม  นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องเดินทางอ้อมกันขนานใหญ่  ต้องใช้เวลาอีกมากมายและบางทีต้องเผชิญอันตราย  เนื่องจากเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่อยากขัดแย้งกับสมาพันธ์ชาวยุทธเช่นกัน  และไม่มีใครสามารถพูดเรื่องนั้นได้
เขาผงกศีรษะ “งั้นก็ทำตามนั้น”
หน้าของถูหรูไห่เขียวคล้ำ  เขารู้ว่าวันข้างหน้าคงไม่ดีแน่  เขาเสียหน้ามากหลังจากการต่อสู้ที่กลุ่มดาวหมาป่า  หกองครักษ์ตระกูลถูคือผลงานที่เขาต้องทุ่มเทเลือด หยาดเหงื่อและน้ำตา เป็นสิ่งที่เขาต้องทุ่มเทค่าใช้จ่ายมหาศาลในการสร้าง  และเรื่องที่ทำให้เขาโกรธมากขึ้นก็คือ การกระทำสุดท้ายของเหมิงเว่ย  นังแพศยานั่นไม่รู้วิธีตายที่สมควร กลับถ่ายเทพลังทั้งหมดเข้าไปในกระบี่ชำรุดเล่มหนึ่ง
ตอนนี้มีข่าวลือมากมายพูดกันว่าสถานะของเขาในฐานะผู้อาวุโสขอบฟ้าเหนือไม่มั่นคง
ผู้อาวุโสขององค์การวิญญาณมืดมีการจัดอันดับที่เข้มงวด  การจัดอันดับของพวกเขา คล้ายๆ การจัดชั้นของกลุ่มดาว มีขอบฟ้าใต้, ขอบฟ้าเหนือ, ขั้วขอบฟ้า, ตำหนักระนาบกลาง, ตำหนักระนาบสุริยุปราคา  ทั้งห้าระดับชั้น แต่ละชั้นจะมีการจำกัดเจาะจงจำนวนผู้อาวุโสซึ่งต้องทำตามกฎ  และได้เลื่อนระดับยากมาก  นอกจากสร้างผลงานที่พิเศษต่อองค์การ ผู้อาวุโสที่ต้องการจะเลื่อนอันดับ จำเป็นต้องมีตำแหน่งว่างที่สูงกว่า
ผู้อาวุโสขอบฟ้าใต้หลายคนอิจฉาตำแหน่งของเขา  และไม่สามารถรอให้ตำแหน่งของเขาตกต่ำได้
ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าแทนที่ข้า!
ถูหรูไห่ยืนขึ้น  เขาต้องหาความช่วยเหลือ  ช่วยให้เขาชนะการต่อสู้  ถ้าไม่อย่างนั้นผู้อาวุโสฝ่ายขอบฟ้าใต้จะเป็นเหมือนมังกรร้ายที่ไล่กวดหลังเขา ต้องการจะหั่นเขาให้เป็นชิ้นๆ
ไม่มีการอนุญาตให้ชิงดีชิงเด่นในองค์การวิญญาณมืด นั่นเป็นคำพูดลมๆ แล้งๆ พวกเขาจะไม่ทำกันต่อหน้า แต่จะใช้วิธีการที่เจ้าเล่ห์แทน
ด้วยความรู้สึกที่เร่งด่วน  เขารู้ว่าเขาจำเป็นต้องดำเนินการ
เขาเดินไปที่ประตู  แต่สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที และต้องถอยกลับมาครึ่งก้าว
ประตูข้างหน้าเขาเปิดเองอัตโนมัติ  และร่างหนึ่งพร้อมกับเคียวยมทูตขนาดใหญ่อยู่ที่หลังปรากฏตัวต่อหน้าเขา
 “เคียวยมทูตดำ”
หน้าของถูหรูไห่บิดเบี้ยวทันที  แต่ก็ยังเปล่งเสียงสั่น “ใคร..ใครจ้างเจ้ามา?  ข้าจะจ่ายให้เป็นสองเท่า ไม่สิสามเท่า”
อีกฝ่ายหนึ่งไม่สนใจ เคียวยมทูตหายวับเข้ามาอยู่ในมือเขาทันทีและประกายสีดำวาบผ่าน....
*******************************

เจ้าเมืองอ้วนหลี่เปิดขวดเหล้า หน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และรินใส่แก้วให้ม่อเว่ยเทียน “น้องม่อ ท่านต้องส่งอาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านั้นทั้งหมดมาเร็วๆ ข้ายังต้องการสร้างกองทัพ”
ม่อเว่ยเทียนดูเหมือนมีความในใจ  แต่รู้สึกตัวโดยเร็ว  “ท่านเจ้าเมืองหาผู้นำทหารได้แล้วหรือ?”
 “ไม่ ผู้นำทหารใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ”  เจ้าเมืองอ้วนหลี่หัวเราะ  “แต่ข้ามีเงินมาก”
ม่อเว่ยเทียนผงะ  “ท่านเจ้าเมืองร่ำรวยมาอีกแล้วหรือ”
 “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!  เจ้าเมืองหลี่ยิ้มอย่างมีความสุข  “ห้าเมืองหลุดจากอำนาจของถูหรูไห่แล้ว  สองเมืองกลับคืนมาอยู่ในเงื้อมมือข้า  นอกจากนี้ ข้ายังส่งคำพูดออกไปว่าข้าไม่ต้องการสามเมืองที่เหลือ หึ หึ แมลงเล็กแมลงน้อยจะโผเข้าตะครุบแน่  ถูหรูไห่จบสิ้นแล้ว”
 “ไวขนาดนั้นเชียวหรือ?”  ม่อเว่ยเทียนประหลาดใจ
 “ถูหรูไห่ทำงานอย่างราบรื่นมามากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา  เขาทำข้อผิดพลาด เคลื่อนไหวอย่างประมาทพลาดท่าพ่ายทั้งกระดาน  เขาคงถูกลืมเลือนไปนาน”  เจ้าเมืองหลี่จิบไวน์ในมือและกล่าวต่อ  “ถ้าเขามีเวลาได้อีกสิบวัน  เขาอาจจะมีโอกาสฟื้นคืนอีกครั้ง  น่าเสียดาย ข้ารอวันนี้มานานแล้ว”
เขาทำท่าเชือดคอ
ม่อเว่ยเทียนตาเบิกกว้าง  เขาไม่อยากเชื่อ  “อย่าบอกนะว่า....”
เจ้าเมืองหลี่หัวเราะและรินเหล้าใส่แก้วอีกครั้งและกล่าวอย่างมีความสุข  “บอกข้าที  ข้าควรจะฉลองหรือเปล่า?”
ม่อเว่ยเทียนตะลึง
*********************

ฐานที่มั่นตระกูลซือหม่า
ชิวจื่อจวินพูดอย่างใจเย็น  “ข้อมูลที่เรารวบรวมมาได้เกี่ยวกับอูหวังไห่มีน้อยนิด  แต่เราพบว่าเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว  น่าสงสัยว่าขุนพลวิญญาณของอูหวังไห่ปรากฏตัวใกล้ๆ กับกลุ่มดาวกางเขนใต้”
 “กลุ่มดาวกางเขนใต้?”  ซือหม่าเซี่ยวหยิบอาหารรสโอชะใส่ปาก และพูดทั้งที่อาหารเต็มปาก  “คนของเราเข้าถึงข้อมูลได้ลึกซึ้งดี  มีเบาะแสอื่นอีกไหม?”
 “ไม่มี” ชิวจื่อจวินส่ายหัว
 “ดูเหมือนเราทำได้แต่เพียงใช้ชีวิตอยู่กับมัน”  ซือหม่าเซี่ยวมีสีหน้าจนใจ
 “แผนการที่เจ้าพูดไว้เรื่องจะชิงตำแหน่งประธานสมาคมจบสิ้นแล้วนะ”  ชิวจื่อจวินกล่าว  “ข้าได้รับข่าวว่า เหล่าผู้อาวุโสคิดว่าสาขาตระกูลที่หนึ่งเสียสละมากเกินไป  จึงตัดสินใจส่งเสริมสาขาที่หนึ่งดังนั้นพวกเขาจะยังยึดตำแหน่งนั้นต่อไป”
 “ไม่มีทางเลือก, พื้นฐานของเรายังอ่อนเกินไป”  ซือหม่าเซี่ยวโบกมือ และพูดอู้อี้ “แต่ไม่ว่ายังไง ข้าก็หาผู้นำทหารดีๆ ได้แล้ว  ตราบใดที่เราสร้างกองทัพของเราได้  จะได้ตำแหน่งประมุขหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
 “ใครกัน?”  ชิวจื่อจวินถาม
 “กลุ่มดาวฟีนิกซ์ เต๋อหรงผู้ได้รับฉายาว่าถุงมือเหล็ก”
ชิวจื่อจวินประหลาดใจ  “เจ้ามั่นใจเขาหรือ?”
 “ไม่กี่ปีมานี้ข้าได้ยินว่าธิดาของเขาป่วยด้วยโรคประหลาด  และตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ข้ามองหาวิธีรักษาให้เขา  โชคดีที่ข้าหาวิธีนั้นพบเมื่อเร็วๆ นี้”  ซือหม่าเซี่ยวหัวเราะ  “กลุ่มดาวฟีนิกซ์ไม่มีกองทัพ และเต๋อหรงไม่ได้เป็นทายาทโดยตรง  เขาใช้เวลาในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ฆ่าเวลา  และไม่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อะไร  สามารถหากองทัพได้ที่นี่  เขาจะไม่มีความสุขได้ยังไง?”
ชิวจื่อจวินผงกหัว  “มาตรฐานของเขาดี   ความสำเร็จของเขาในกองทัพครั้งก่อนที่เราจะจ้างไว้ โดดเด่นจากอดีต  แม้ตั้งแต่เขาออกมา กองทหารก็อยู่ได้ไม่นาน  แต่ข้าได้ยินว่าเขาดื้อรั้นหัวแข็งมาก  ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมรับคำสั่งจากเบื้องบนในกลุ่มดาวฟีนิกซ์”
 “คนมีพรสวรรค์คนไหนไม่ดื้อบ้าง?”  ซือหม่าเซี่ยวหัวเราะ  “ถ้าข้าไม่ใจกว้างเท่านี้ ข้าจะมีความสำเร็จได้ยังไง?  กองทัพที่มอบให้เขา เขาจะทำอะไรก็สุดแท้แต่  ข้าไม่ถามไถ่”
จากนั้นชิวจื่อจวินถามต่อ  “อย่างนั้นเรื่องหยางอู่เล่า?”
หยางอู่คือคนที่ซือหม่าเซี่ยวเลือกไว้ก่อนนั้น และตอนนี้เขามีเต๋อหรง  หยางอู่จึงไม่มีประโยชน์
ซือหม่าเซี่ยวหัวเราะ  “ให้เขาแข่งกัน  ผู้แพ้กลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา  นั่นยุติธรรมมากกว่า และไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วย
 “นั่นเป็นความคิดที่ดี”  ชิวจื่อจวินตัดสินและถามขึ้นทันที  “ทำไมเจ้าถึงมองเรื่องนี้ในแง่ร้ายนัก?  หรือข้าควรบอกว่า ทำไมเจ้าถึงรู้สึกว่าถังเทียนจะมีผลต่อแผนการของเราจริง?”
ใบหน้าซือหม่าเซี่ยวมีรอยยิ้ม  “ข้าไม่รู้ แต่เตรียมตัวไว้จะดีกว่า จะได้ไม่เกิดเรื่องแย่”
เขายิ้มทันทีอีก “และท่านไม่คิดหรือว่าสองสามวันมานี้เงียบเกินไป?”
ถังเทียนเพิ่งเข้ามาในประตูแสง  เมื่อร่างสีดำวิ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าเขาและหยุดทันทีด้วยความกลัวเขา
เป็นหยาหยา
นั่นมัน..
 “เฮ้, หยาหยา เจ้าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”  ถังเทียนมองดูหยาหยาที่รอบๆ ตัวมีแต่ควันและตะลึง
ตลอดทั้งตัวของหยาหยาดำเหมือนกับว่าโผล่ออกมาจากปล่องไฟ และเต็มไปด้วยเขม่า มีแต่เพียงตาของมันที่ขาว
หยาหยาชูมือทั้งสอง และเริ่มสารภาพผิด มันทำเสียงดูดที่ปาก
ถังเทียนสับสน และหลังจากนั้นชั่วขณะ เขาถาม “เจ้า..กำลังบอกว่า เจ้า..กลืนควันเข้าไปในตัวเจ้าหรือ?”
หยาหยาชี้ที่พุงของมันอย่างมีความสุข และเสนอหน้าว่า ท่านยกย่องข้าจะดีกว่า
ถังเทียนบีบจมูกของมันและมืออีกข้างตีก้นมันและจับมันมาวางข้างหน้า
 “สกปรกชะมัด ข้าบอกเจ้าไว้เลยนะ อย่ามาปีนป่ายข้าอีกต่อไป  หึ หึ อย่างกะเครื่องขุด  ดีนะว่าเจ้าดูดไอ้ควันโง่ๆ นั่น  มันเสียงดังมาก” ถังเทียนกล่าวทันที “แต่ข้าขอบอกเจ้า  เจ้าตัวเล็ก  การสูบไม่ดีต่อร่างกายเจ้า”
หยาหยาดิ้นหลุดจากถังเทียนที่จับจมูกกับก้นของมัน
มันร้องอย่างไม่พอใจ หมัดของมันทุบที่หน้าอกแสดงว่ามันทนและแข็งแกร่ง
 “หวา.. แกเจ้าตัวเล็ก  อย่านึกว่าย้อมดำแล้ว เจ้าจะมีอะไรอย่างอื่น”  ถังเทียนหัวเราะ  สีหน้าของเขาแสดงอาการขำขัน
หยาหยาโกรธ  และทำท่างอแขนเบ่งกล้ามแสดงพลังของมัน
ถังเทียนมองดูธงที่บั้นท้ายหยาหยาสั่นพร้อมหยาหยาซึ่งดูขำขันมาก  เขาถึงกับงอตัวหัวเราะขำขัน และใช้นิ้วโบกธงน้อยๆ
หยาหยาล้มลงกับพื้นเพราะถังเทียนควบคุมมันได้
หยาหยายิ่งโกรธ ปัง ปัง ปัง  มันเดินและกระโดดสองครั้ง  ในที่สุดถังเทียนก็ไล่ตามมันทันอีกครั้ง จับธงที่อยู่ตรงบั้นท้ายหยาหยาอีกครั้ง
หยาหยายึดธงไว้ทันทีและรีบวิ่งหนีไปห่างๆ ก่อนจะหยุด
ครั้งนี้ถังเทียนเล่นจนพอแล้ว เขาแค่ยืนหัวเราะ  “ฮ่าฮ่า  ก็ได้ วันนี้เลิกเล่นแค่นี้ก่อน  ข้ามีเรื่องต้องทำ...”
หยาหยาตะโกนคำหนึ่งออกมาอย่างกระตือรือร้น
 “ฮั่วอี”
หมัดสีดำและคมกริบถูกปล่อยออกมาทันที
ถังเทียนตัวแข็งทื่อ และม่านตาของเขาหดลีบทันที
 

6 ความคิดเห็น:

คมศักดิ์ กล่าวว่า...

หยา หยา เลเวลอัพ! 5555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

B กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

หยาหยา น่ารักขึ้นทุกวัน น่าจะพูดรุ้เรื่องจะน่ารักกว่านี้
สรุปไม่ฝึกหมัดกลืนแสงแล้ว55หยาหยาดูดหมด

แสดงความคิดเห็น