วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 325 จิ่งหาวตัดสินใจ

ตอนที่  325  จิ่งหาวตัดสินใจ
จิ่วหาวเก็บสัมภาระของตน
 “ศิษย์พี่” ซินเมิ่งฉีเรียกอย่างอ่อนโยน นางแนะนำ “อย่าตำหนิอาจารย์เลย  เรื่องระหว่างเย่จิ่วกับอาจารย์ในอดีตทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าอาจารย์   เพราะเขากดดันเรา อาจารย์จึงทำอะไรไม่ได้  ตอนนี้อาจารย์ยังเสียใจกับเหตุการณ์ในอดีต”
 

 “ข้ารู้”  จิ่งหาวตอบโดยไม่เงยหน้า
 “ศิษย์พี่ตั้งใจจะไปกลุ่มดาวหมาป่าใช่ไหม?”  ซินเมิ่งฉีถาม
 “อืม” จิ่งหาวตอบขณะเก็บเของ  “ข้าจะไปแนะนำให้ถังเทียนมอบกระบี่ปลอดสำเนียงออกมา”
ซินเมิ่งฉีหัวเราะเบาๆ  “ศิษย์พี่ เมื่อท่านโกหก เสียงของท่านจะไม่ปกติ”  นางตอบอย่างอ่อนโยน  “ไม่ว่าศิษย์พี่จะทำอะไร, เมิ่งฉีจะเห็นด้วยกับท่าน  เพราะในใจของเมิ่งฉี ศิษย์พี่คือคนที่ใจใหญ่ที่สุดในโลก”
จิ่งหาวตื่นเต้น  เขาเงยหน้าและยืนอยู่ที่เดิมมองดูศิษย์น้องผู้สุภาพอ่อนโยนของเขา และความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ผุดขึ้นมาในใจเขา  แต่เขาได้แต่พูดออกมาไม่กี่คำ “ศิษย์น้อง  ข้าขอโทษด้วย”
 “ทำไมศิษย์พี่ต้องของโทษด้วยเล่า?”  ซินเมิ่งฉีหัวเราะด้วยท่าทางเรียบร้อย  “มักจะมีอยู่หลายเรื่องที่ไม่เหลือทางเลือกไว้เลย  และศิษย์พี่กำลังคิดว่าทำสิ่งที่สำคัญที่สุด  ข้าเชื่อใจศิษย์พี่!  คนที่ศิษย์พี่มองดูยกย่อง ต้องมีบุคลิกแข็งแกร่งมากเป็นแน่ ศิษย์พี่เตรียมพร้อมหรือยัง?”
จิ่งหาวส่ายหัว  “ข้าเข้าใจน้องถังดี  เขาจะไม่ยอมสละกระบี่ปลอดสำเนียงแน่นอน  ทั้งสี่คนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา  และพวกเขาอาจจะก่อการคิดต่อต้านสมาพันธ์ชาวยุทธ  คงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะต้องสู้กับเย่เฉาเกอ  สำหรับเรื่องนี้ อาจารย์ทำไม่ถูก  เขาเป็นอาจารย์ของข้า  และตามปกติข้าจะไม่ตำหนิเขา  แต่เนื่องจากนี่คือความผิดของเขา  ในฐานะที่เป็นศิษย์ข้ามีหน้าที่ช่วยเขา”
ซินเมิ่งฉีกังวลห่วงใยเขา  “ศิษย์พี่  ท่านต้องระมัดระวังตัว”
 “ฮ่าฮ่า!  จิ่งหาวหัวเราะ  เขาขจัดความคับข้องใจจากเมื่อไม่กี่วันออกไปและกล่าวอย่างยินดี  “ศิษย์น้องไม่ต้องห่วง  ศิษย์พี่ผู้นี้ไม่ใช่จิ่งหาวคนเก่าอีกต่อไปแล้ว”
 “อย่าบอกข้านะว่า...”  ซินเมิ่งฉีนัยน์ตาเป็นประกาย ปลาบปลื้มใจ
 “ใช่แล้ว ในที่สุดข้าก็ฝึกสำเร็จ”  จิ่งหาวตอบอย่างเก้อเขิน  “ข้าไม่สามารถรอให้ให้เย่เฉาเกอเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของข้า”
 “ศิษย์พี่ ยอดเยี่ยมที่สุด!  ซินเมิ่งฉีชูหมัดน้อยๆ ของนาง  ในหน้าของนางเต็มไปด้วยความปลื้มใจ  “ถ้าศิษย์พี่เคยพบกับความยากลำบาก  อย่าลืมว่าท่านยังมีศิษย์น้อง ข้าคือศิษย์น้องตัวร้ายของท่าน!
จิ่งหาวมองดูไหล่บอบบางของศิษย์น้อง  ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยแววจริงใจและใส่ใจ และอารมณ์อ่อนไหว
ทันใดนั้นเขาก้าวเดินเข้าหานางอ้าแขนกอดศิษย์น้องของเขา
ซินเมิ่งฉีตะลึง  ตัวของนางแข็งทื่อ  นางไม่กล้าส่งเสียง  นางฝันมาหลายครั้ง และพอกลายเป็นเรื่องจริง ใจของนางกลับว่างเปล่าทันที
หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดเขาไม่ขยับ  แต่กลิ่นและความอุ่นของนางทำให้จิ่งหาวรู้สึกเจ็บปวดใจ  ศิษย์น้องเขาก็รู้เช่นกันว่านี่อาจต้องใช้เวลาสองสามปี  เมื่อต่อสู้กับเย่เฉาเกอ เขาจะกลายเป็นกบฎต่อต้านสมาพันธ์ชาวยุทธ
 “ดูแลตัวเองด้วย ศิษย์น้อง!
หลังจากกอดแล้ว เขาปล่อยนาง และด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาแยกจากนางขณะที่หัวเราะ “ข้าไปละนะ”
เขาเดินออกไปโดยไม่ลังเล
เมื่อเงาหลังของเขาลับตาไป  หญิงสาวที่ร่างแข็งทื่อพลันหลั่งน้ำตา
*************
ปิงกลับมาที่ค่ายทหารใหม่
ไม่มีถังเทียนในค่ายทหารใหม่ มันรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้น  เจ้านั่น สงสัยจริงๆ ว่าจะเป็นยังไงบ้าง...
ปิงหยุดคิดชั่วขณะ  เขาไม่รู้ว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้องหรือไม่  เมื่อเขาจินตนาการว่าถังเทียนตายในห้องฆ่าตัวตาย  เขาเองก็คงจะหายไป  เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น นั่นเป็นเหมือนกับการเดิมพันของเขาเอง  ปิงหัวเราะเยาะเย้ยตนเอง  เขาโยนความคิดเช่นนั้นไว้เบื้องหลัง  เขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่มีทางผิดแน่นอน  ศักยภาพของถังเทียนยิ่งใหญ่กว่าที่เขารู้หรือคิดออก
เขานำแผนผังค่ายทหารที่เจ็ดออกมาด้วย  เขาต้องการให้เซรีนดูและรู้ว่านางสามารถซ่อมได้หรือไม่  เขาไม่ต้องการรออย่างว่างเปล่า กับค่ายทหารที่เจ็ด  เขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง  เขาเป็นหนึ่งในนายทหารที่รอดชีวิตจากไฟสงคราม  ดังนั้นความยากลำบากแบบไหนกันที่จะสั่นคลอนเขาได้
เขาสงบใจและไตร่ตรองความคิดของเขา
บทฝึกมรณะพิเศษครั้งนี้ มีค่าใช้จ่ายมากมายน่าทึ่ง  สมบัติดวงดาวทั้งหมดแพงมาก
ตาของเขาจ้องมองฟงโฉ่วที่ลอยวนเวียนไปมา และหลังจากคิด เขาหยุด “ฟงโฉ่ว เจ้ายังต้องการจะสู้อีกไหม?”
ฟงโฉ่วตอบทันที “ใช่ ข้ายังอยากจะสู้”
จากนั้นเขาตระหนักได้บางอย่าง และรู้ตัวทันที  ตาของเขาเบิกโพลง  เขาถามอย่างเหลือเชื่อ  “ท่านจะช่วยให้ข้าสามารถสู้ต่อได้หรือ?”
 “เป็นการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่ง” ปิงกล่าวเฉื่อยชา  “เจ้าสามารถกลืนการ์ดวิทยายุทธและกลายเป็นขุนพลวิญญาณทหารเหมือนถังอี้  แต่เจ้ายังเหลือความสามารถพิเศษอยู่  พูดถึงวิชาดาบของเจ้า  ถ้าเจ้ามีความอดทนพอนะ  แน่นอนว่าก็มีโอกาสล้มเหลวด้วย และเจ้าอาจจะออกมาอย่างไม่เหลืออะไรเจ้าไตร่ตรองดูให้ดี”
 “ไม่มีความจำเป็นต้องไตร่ตรอง” ฟงโฉ่วส่ายหน้าและพูดต่อ  “ข้ายอมรับ!  ตราบใดที่ข้าสามารถสู้ต่อได้  ข้าไม่ต้องการอย่างอื่น”
 “เจ้าคิดให้มากๆ จะดีกว่า”  ปิงเตือน
 “ไม่จำเป็น”  ฟงโฉ่วสั่นหัว  “ข้าเพียงแต่ค้นหาความหมายของการต่อสู้”
ปิงไม่เตือนเขาอีกต่อไป และพยักหน้า  “ก็ได้ รอจนข้ากลับมาและเตรียมสิ่งของให้เจ้าก่อน”
 “ขอรับ!  ฟงโฉ่วรับคำ
*******************

ภายในห้องฆ่าตัวตาย ไม่มีที่สิ้นสุดและเปิดกว้าง
ถังเทียนสูดลมหายใจ  ต่อหน้าเขา มีคนๆ หนึ่งที่ดูเหมือนเขาซึ่งกำลังสูดลมหายใจเหมือนกัน
ยากมากจริงๆ
เหงื่อไหลลงตามใบหน้าของถังเทียน  ลมหายใจก็หนักหน่วงเหมือนโค  ในที่สุดเขาก็ประสบกับสิ่งที่เป็นเหมือนกันต่อสู้กับเขา  และเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก สิ่งที่เขามีและรู้  ฝ่ายตรงข้ามมีและรู้ทั้งหมด  แม้แต่เมื่อผ่านไปไม่กี่วัน  เมื่อเขาก้าวหน้า  ฝนตรงข้ามก็ก้าวหน้าเช่นกัน
การต่อสู้ผ่านไปสามวัน  แต่ถังเทียนยังหาทางทำให้ตนเองได้เปรียบไม่ได้
ข้าจะเอาชนะได้ยังไง?
ก่อนที่เขาจะทันคิดจบ  ฝ่ายตรงข้ามก็วิ่งเข้าหาเขาอีกครั้ง
บุคลิกนิสัยฝ่ายตรงข้ามเหมือนกันกับถังเทียน  เหนียวแน่นและไม่รู้จักกลัว  ชอบใช้สัญชาตญาณบุกเข้าโจมตีและโจมตีอย่างหนักหน่วง
ถังเทียนสามารถหยุดคิดได้เพียงแค่ชั่วขณะ  แต่ที่จะกัดฟันและสู้ตอบโต้ เขาต้องตั้งสมาธิให้ดี  พลังทั้งหมดของเขาสามารถป้องกันพลังโจมตีที่ดุร้ายรุนแรงของถังเทียนได้
กรงเล็บเพลิงภูตพรายก็เหมือนกัน  รังสีก็เป็นอย่างเดียวกัน  เหมือนกับมังกรสองตัวกางเล็บพุ่งเข้าโรมรันพันตูกันอย่างดุร้าย
เกิดแรงระเบิดรุนแรงหนักหน่วงออกมาต่อเนื่อง  ขณะที่ร่างทั้งสองแยกออกจากกันแล้ววิ่งเข้าปะทะกันใหม่
กรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียนมีข้อบกพร่องที่เล็กมากกว่าแต่ก่อน  แต่ถังเทียนฝ่ายตรงข้ามยังคงมีเนตรราชันย์มยุรา และสามารถค้นหาจุดอ่อนเล็กน้อยได้ในทันที
ทั้งสองฝ่ายยังคงค้นหาข้อตำหนิของกันอย่างต่อเนื่อง  ทั้งพยายามลดข้อบกพร่องของตนเองไปด้วย
ทั้งสองต่างก็รู้เป้าหมาย  ทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้จักกันดีจนถึงว่า พวกเขาไม่สามารถจะทำความคุ้นเคยชินกันได้อีกต่อไป
ถังเทียนรู้สึกกดดันผิดหวัง  เขาพยายามกระตุ้นการทำงานตาแดง  แต่ตาแดงก็ใช้งานไม่ได้  ไม่ว่าเขาจะพยายามหนักเพียงไหนก็ตาม  ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งก่อน
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนกลัวมากขึ้นทุกทีก็คือ ถังเทียนอีกฝ่ายหนึ่งก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อกระตุ้นการทำงานของตาแดงด้วย
ถ้าฝ่ายตรงข้ามกระตุ้นการทำงานของตาแดงได้สำเร็จ  เขาคงอยู่ในอันตรายเป็นแน่
โธ่เว้ย!
เขาคิดว่าเขาตกอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ที่ยากลำบาก  แต่เขาไม่เคยคิดว่าการต่อสู้ความจริงก็ยากลำบากอยู่แล้ว
พอถึงวันที่ห้า ทั้งสองฝ่ายก็หยุดในที่สุด
ทั้งสองฝ่ายต่างหมดพลังกันทั้งคู่  เป็นเวลาห้าวันห้าคืน  ทั้งสองฝ่ายแทบไม่หยุดหายใจ  และทั้งสองฝ่ายทุ่มเทต่อสู้กัน  เมื่อพวกเขาสู้จนหมดพลังปราณแท้  พวกเขาก็ใช้แรงเถื่อนล้วนๆ สู้กันไม่มีใครยอมใคร  และในที่สุด เหมือนกับว่าทั้งสองฝ่ายต่างถูกทุบจนสะบักสะบอม
จะทำยังไงดี?
ถังเทียนอ้าปากหอบหายใจ  และคิดหาวิธีต่อเนื่อง
ข้าจะไม่ยอมแพ้แน่นอน
อาโมรี่รู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด  หน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด  แต่เขาทนได้  แต่ในที่สุด เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป  เขาจะครางออกมาและหมดสติ  อุปกรณ์ไม้, ตะปูเหล็กและเตียงฟันเฟืองยังคงทุบใส่ร่างของเขาต่อไป
หลังจากทุกอย่างสงบลง  อาโมรี่ยังคงหมดสติ เนื้อที่แตกยับบนร่างกายของเขาจะปลดปล่อยรัศมีธาตุดินออกมาและเนื้อก็เริ่มงอกขึ้นมาทำให้แผลสมานได้อย่างน่าประหลาด
สามชั่วโมงต่อมา อาโมรี่ตื่นขึ้นในที่สุด  และร่างของเขาสมบูรณ์แบบเหมือนเดิม
เสียงไม้หวดแหวกอากาศดังผ่านมาอีกครั้ง  และมันเริ่มต้นอีกครั้ง  สีหน้าเขาเปลี่ยน วงจรครั้งใหม่เริ่มขึ้นแล้ว
ปัง  ปัง  ปัง!
เลือดกระเซ็นไปทุกที่  ความเจ็บปวดลึกจนถึงกระดูกของเขา  อาโมรี่ครางหน้าขาวซีดทันที ขณะที่เขาพยายามอดทนอย่างดีที่สุด
ครั้งต่อไป ข้าต้องให้ถังพื้นฐานมาลองที่นี่ให้ได้สักครั้ง....
นั่นคือความคิดสุดท้ายของอาโมรี่  เมื่อเขาหมดสติไปอีกครั้ง
*************

ห้องน้ำแข็งเย็นหนาวจัดเยือกเย็นมาก  หานปิงหนิงอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิตัวตรง  ตลอดทั้งร่างของนางแข็งเหมือนกับตุ๊กตาน้ำแข็ง  ขณะที่หัวใจของนางยังคงเต้นช้ามาก เหมือนกับว่าไม่มีสัญญาณชีพจร
ภายในกระแสน้ำเชี่ยวกราก  เหลียงชิวปัดตีบอลเหล็กซึ่งหล่นมาใส่เขาอย่างคล่องแคล่ว เป็นเหตุให้ลูกเหล็กเหล่านั้นบินพุ่งไปเหมือนกระสุน  ด้วยน้ำหนักลูกตุ้มที่คอยถ่วงมือทั้งสอง  หน้าของเขายิ่งเคร่งเครียดมากขึ้นทุกที  ขณะที่ความเร็วของสายน้ำมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกดดันเขาต่อเนื่อง และรุนแรงมากขึ้นทุกที
ปัง!
หนึ่งในลูกเหล็กที่เหมือนกับปลาที่เล็ดลอดข่าวเข้ามาได้ กระแทกเข้าที่ไหล่ซ้ายทำให้เขารู้สึกชา  เขาส่งเสียงคราง และพลังป้องกันของเขาพังทลายทันที
หลังจากนั้นชั่วขณะ  เขาก็ต้องดิ้นรนออกจากภายในกระแสน้ำในที่สุด
เขาเหมือนกองดินเหลวนอนอยู่ข้างสายน้ำ  มีรอยเลือดสายหนึ่งที่มุมปากของเขา  ทั่วร่างมีรอยฟกช้ำ และเขาไม่เหลือเรี่ยวแรงอยู่ในตัวแม้แต่นิดเดียว  เขาได้แต่ฝืนยิ้ม
ข้าอยากจะนอนอยู่อย่างนี้...
และข้ายังจะต้องสู้กับสมาพันธ์ชาวยุทธ... ชีวิตคือโศกนาฏกรรม...
โศกนาฏกรรมที่ทำให้การมีชีวิตอยู่เหมือนกับตาย....
หลังจากโหยไห้ในใจ เขาตะเกียกตะกายลุกกลับมานั่งเดินพลังปราณ
ซือหม่าเซียงซานมีบาดแผลถูกฟันและฟกช้ำตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  ในความมืดชุดของเขาถูกเลือดย้อมเป็นสีแดง  แต่เขาดูเหมือนไม่ใส่ใจ ขณะที่ตาของเขาพยายามรู้สึกถึงสภาพรอบตัวอย่างระมัดระวัง แม้แต่ความเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ทันใดนั้น ความเคลื่อนไหวคุกคามที่แทบไม่สามารถจับได้โผล่มาจากด้านหลังของเขา
ซือหม่าเซียงซานบิดร่างโดยไม่ต้องคิด ร่างท่อนบนของเขาเหมือนติดสปริง และยืดตัวหลบไปได้
วืดดด
รอยบาดแผลปรากฏบนหน้าของเขาและเลือดซึมออกมาจากบาดแผลนั้นหยดหนึ่ง
ซือหม่าเซียงซานยกมือแตะบาดแผล ขณะที่เลือดหยดลงบนนิ้วของเขา  เขาเลียเบาๆ  ฉากภาพเช่นนั้นทำให้เขาดูชั่วร้ายน่ากลัวอย่างยิ่งยวด
เจ้าต้องการชีวิตข้า  นั่นไม่ง่ายนักหรอก
ม่านตาของซือหม่าเซียงซานเย็นชาเหมือนงู
หลิงซิ่วพ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง  อัศวินน้ำแข็งเงินที่อยู่ต่อหน้าเขาโจมตีอย่างหนักหน่วง หอกของเขารวดเร็ว ทั้งหมดนี้เคยปรากฏในความฝันของเขามาก่อน  เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักวิชาเหล่านั้น  แต่เขาไม่เข้าใจเหตุผลที่พลังที่ปลดปล่อยมา ทำไมจึงทรงพลังมากมายนัก
หอกทะเลจุดของหลิงซิ่วเผชิญกับรังสีหอกของฝ่ายตรงข้าม กลับถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
พอประสบเจอด้วยตัวเองจริงๆ ช่างแตกต่างจากความฝันของเขา
มีความแตกต่างของทั้งสองเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด  แต่การได้เห็นประจักษ์คราวแรกเขาไม่รู้คืออะไร  ไม่รู้ทั้งนั้นไม่ว่าจะมองจากมุมมองไหน
นี่คือหอกทะเลจุดที่แท้จริงหรือ?  อาจารย์สอนหอกทะเลจุดข้าผิดจริงๆ หรือ?
หลิงซิ่วจิตใจหวั่นไหว
 

4 ความคิดเห็น:

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

♈♉♊♋♌♍♎♏♐♑♒♓

แสดงความคิดเห็น