วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 333 หวงฝู่หง

ตอนที่  333  หวงฝู่หง

นอกจากอาเฮ่อและหย่งเซียนจงที่อยู่สภาวะแปลกประหลาด  การต่อสู้อีกด้านหนึ่งกลับตึงเครียดมาก
ปิงจับตามองกองทหารที่อยู่ข้างหน้าเขา เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นในปัจจุบัน  การจัดขบวนของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนามาก  ทหาร 500 นายยืนหยัดมั่นคงไม่มีเสียงแต่อย่างใด

ทั้งหมดนั้นสวมชุดเกราะที่ไม่เหมือนใคร ดูคล้ายกับเกราะแต่ว่าหนากว่า  มีกลไกเสริมช่วยมากมาย  ราวกับว่าเป็นอาวุธจักรกลอย่างง่าย แต่ว่าเบากว่าอาวุธจักรกล
ปิงคุ้นเคยกับอาวุธจักรกลดีอยู่แล้ว เพียงแค่เห็นเขาก็เข้าใจความคิดของศัตรู
อาวุธจักรกลน้ำหนักเบา?
เทียบกับอาวุธจักรกลดั้งเดิม มันยังเบากว่ามาก และมีความสามารถป้องกันระดับกลาง  วิศวกรจักรกลของฝ่ายตรงข้ามก็มีความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน  แต่ในแง่ความสำเร็จของวิชาจักรกล พวกเขายังอ่อนกว่าเซรีนมากมายนัก
การตั้งขบวนของฝ่ายตรงข้ามแน่นหนา  และเขาสามารถบอกได้ว่า พวกเขาได้รับการฝึกฝนและมีประสบการณ์การรบโชกโชน
 “อาโมรี่, เจ้ามีพลังแข็งแกร่งที่สุด  ตำแหน่งหัวธนูเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุด มีแต่เพียงเจ้าเท่านั้น!  พ่อหนุ่ม,  เราฝากความหวังไว้กับเจ้า!”
ปิงแนะนำอย่างอดทนและเป็นระบบแทบจะใช้สำเนียงปลอบโยนเหมือนกับผู้ใหญ่คุยกับเด็กน้อย
ปิงไม่หวังพึ่งสติปัญญาของอาโมรี่  แต่อาโมรี่คือผู้เชี่ยวชาญในการจู่โจมทำลาย  ดังนั้นงานนี้จึงต้องปล่อยให้เขา   ไม่ว่าจะเป็นการตั้งขบวนแบบไหน กับคนถึกและไร้เหตุผลวิ่งเข้าใส่โดยไม่ยั้งคิด  ย่อมจะต้องมีจุดอ่อนให้เห็นแน่นอน
อาโมรี่มีสีหน้าตื่นเต้น และเริ่มตบอก “ลุงนี่, ตาถึงอย่างคิดไว้จริงๆ!  วางใจได้!  นักสู้จอมห้าวผู้นี้จะฆ่าให้เรียบจนเลือดไหลเป็นลำธารเลย”
พร้อมกับรังสีฆ่าฟันที่ถูกปลดปล่อย  เขาเดินนำหน้าทุกคน และกวัดแกว่งดาบชี้ไปที่กองกำลังข้างหน้า  “พวกเจ้าไม่มีหวังแล้ว  นักรบจอมห้าวคนนี้จะกวาดล้างพวกเจ้าให้เรียบ”
ไม่มีใครยุ่งกับเขาสักคน
 “วัวแมงวัน, พวกมันดูถูกเจ้าอยู่นะ”  ซือหม่าเซียงซานพูดเย็นชา  “ไปเลย!  แสดงฝีมือให้พวกมันเห็นว่าเจ้าทำอะไรได้บ้าง!”
ตาของอาโมรี่เรืองแสงแดง  เขากู่ร้องและก้าวยาววิ่งเข้าหาศัตรู
ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ถูกปลุกระดม
หวงฝู่หงมองดูกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้าเขา  สีหน้าของเขาเยือกเย็นและจัดเจนไม่มีความดีใจหรือโกรธ  กองทหารเหล็กกล้าเป็นกองทัพของกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  เขาอยู่ในกองทัพมานานสี่สิบปีแล้ว   เขาเริ่มเป็นทหารตั้งแต่ยังมีตำแหน่งน้อย และเลื่อนขึ้นจนมีตำแหน่งเช่นวันนี้
เขามีประสบการณ์โชกโชน
ความจริงเขาไม่เห็นด้วยกับภารกิจ  ขณะที่เขารู้สึกว่ามีความหมายลึกๆ ซ่อนอยู่  เขาใช้ความเพียรพยายามมากมายสร้างกองทัพเหล็กกล้า  นอกจากระดับของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือแล้ว  เขารู้น้ำหนักของตัวเอง
แต่ทำอย่างไรได้  เจ้านายของเขาโดนเย่จิ่วกดดันจนต้องเข้าร่วม
กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ไม่นับว่าเป็นกลุ่มดาวที่มีกองทัพที่แข็งแกร่งในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  และเพียงสิ่งเดียวที่มีค่าก็คือกองกำลังทหารเหล็กกล้าที่มีราคาแพง  เจ้าของกองทัพหมกมุ่นอยู่กับวิชาจักรกลอย่างลึกซึ้ง และเนื่องจากว่าเจ้าของค่ายก้าวร้าวและทะเยอทะยาน  ด้วยความตื่นเต้นของเขา เขาสร้างกองทัพจักรกลขึ้นมา
หลังจากหวงฝู่หงรับดูแลกองทัพ  เขาพบช่างจักรกลคนหนึ่งที่ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องเล็กน้อยทั้งหมด และจากนั้นช่วยให้เขาสร้างกลยุทธ์พิเศษ  เพียงเท่านั้นกองทัพเหล็กกล้าก็เริ่มแสดงคุณค่าของมัน
หวงฝู่หงปกติบัญชาการกองทัพเหล็กกล้าและชนะมาได้สองสามศึกทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งเป็นจรวดในขอบฟ้าเหนือ
เหตุผลที่เขาต้องการสู้ก็เพราะฝ่ายตรงข้ามเป็นขุนพลวิญญาณผู้นำทหารที่แข็งแกร่ง  รังสีควบคุมที่น่าทึ่งและโดดเด่นนั้นทำให้หวงฝู่หงสูดลมหายใจหนาวเหน็บ  หวงฝู่หงมีความมั่นใจในตนเองเสมอ  แต่เมื่อเห็นรังสีควบคุมที่น่าหวาดหวั่นกับตาตนเอง  เขาคิดว่าเขาเองคงไม่มีทางมีความสำเร็จได้ขนาดนั้นแน่  สำหรับกองทหารเหล็กกล้าเมื่อต้องเผชิญกับขุนพลวิญญาณผู้นำทหาร  หวงฝู่หงรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก
กองทัพเหล็กกล้า มีมูลค่ามหาศาลก็จริง  แต่ในสายตาของเขา ก็ยังไม่มีความโดดเด่นพอ ถึงที่สุดแล้ว เจ้าปกครองดวงดาวก็ไม่ยังไม่ยอมทุ่มทุนในกองทัพอย่างเพียงพอ  เนื่องจากกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์มีความสงบสุขเกินไป  ดังนั้นสถานการณ์ของกองทัพจึงมิสู้ดี
แต่เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามีเพียงห้าคน  หวงฝู่หงก็สงบใจได้
กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์เป็นกลุ่มดาวที่สงบสุข  ดังนั้นงานของกองทัพเหล็กกล้าส่วนใหญ่ก็คือกำจัดโจร  จัดการกลุ่มเล็กๆ ราวสิบคน เพื่อให้ประสบการณ์ของหวงฝู่หงมากขึ้น
เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามวิ่งตรงเข้าหาคนของเขาอย่างสับสนโดยไม่เปลี่ยนกระบวน ประกายตาเยือกเย็นของหวงฝู่หงวาบขึ้นมาทันที
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร  สีหน้าเขาเคร่งขรึม  ทหารของเขารู้ว่าจะต้องทำยังไง
รูปขบวนของแนวนักสู้ชั้นนอกถอยกลับทันที
อาโมรี่ไม่กลัวและไม่สนใจความเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น  เหมือนกับสัตว์ป่าคลั่งตัวหนึ่ง  เขาวิ่งเอาหัวนำไปก่อน
ทหารโล่สองคนก่อแนวป้องกันขวางอยู่ข้างหน้าเขา  หอกยาวสามเล่มโผล่ออกมาจากช่องว่าง
ทันใดนั้นรูปขบวนกลายสภาพเป็นอันตรายไม่มีช่องว่างทันที
อาโมรี่คำราม รัศมีเหลืองครอบคลุมดาบในมือ เขาฟันลงใส่หอกยาวทั้งสามเหมือนกับค้อนทุบทำให้หอกกระเด็น  อาโมรี่มองหาช่องว่างขณะที่เขาฟันใส่โล่ตรงๆ
แก๊ง
นักสู้สองคนรู้สึกปวดสะท้านข้อมือทันที พลังที่ดุเดือดรุนแรงผ่านตรงเข้ามาเหมือนกับสัตว์ป่ากระแทกใส่อย่างรุนแรง  ร่างของพวกเขาปลิวทันที  นักสู้สองคนข้างหลังไม่ทันมีเวลาได้ตั้งแนวป้องกันและสี่หรือห้าคนถูกกระแทกล้ม
อาโมรี่ยังคงวิ่งเข้าใส่ต่อ และรังสีหอกเจ็ดถึงแปดสายแทงใส่ที่หน้าอกและชายโครงเขาอย่างคล่องแคล่วเพื่อทำร้ายเขา
ติง ติง ติง กระบี่เงินปรากฏด้านขวาเขาทันที คลื่นกระบี่นุ่มนวลพลันแตกกระจายรังสีออกมาทันทีต้านรับรังสีหอกสองสามสาย  คลื่นความเย็นถูกปล่อยใส่ในทุกๆ กระบี่อย่างอ่อนช้อยงดงาม
เสียงทึบของลูกตุ้มเหล็กดังขึ้นกระแทกใส่รังสีหอกจนสลายหายไป
ความตือรือร้นของอาโมรี่เพิ่มมากขึ้น  เขาตวาดลั่น “ย่าห์ๆๆ  เจอดาบของข้าบ้าง!”
เขาก้าวยาวพอถึงครึ่งทางเขาบิดเอวตวัดดาบของเขา
รังสีดาบเหลืองเป็นทางยาวเหมือนขีดเขียนปากกา  แม้แต่ท่าที่แปลกประหลาดของอาโมรี่ก็ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในรังสีดาบ
นักสู้ที่อยู่ต่อหน้าอาโมรี่ประหลาดใจและยกอาวุธป้องกันอกพวกเขาไว้
ปัง!
นักสู้สามคนที่ข้างหน้าอาโมรี่เสียหลักถอยหลังไปห้าหกก้าวทุกคนก่อนจะหยุดนิ่งได้  แต่สิ่งที่แปลกก็คือพวกเขากลายเป็นเหมือนหุ่นไม้ แครก แครก แครก เกราะบนตัวพวกเขาทั้งหมดมีรอยแตกร้าวเหมือนใยแมงมุมปรากฏ มีเลือดไหลออกมาตามรอยแตกร้าวแดงฉาน
ทั้งสามคนตายทันที
สีหน้าของอาโมรี่ดุร้าย  กล้ามเนื้อทั่วตัวเขาเปล่งประกาย
พลัง!  พลังของเขามากกว่าเมื่อก่อนสามเท่า พลังของสายเลือดเผ่าพันธุ์หมีโบราณบริสุทธิ์ 50 % ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้น  ปกติพลังเถื่อนถึกของเขาก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว และด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นอีกสามเท่านี้ กลับกลายเป็นพลังที่น่ากลัวมาก  พลังของดาบวายุปฐพีในมือของเขาก็ใช้ได้อย่างน่ากลัว
อาโมรี่บรรเทาอารมณ์ลง และฉีกเสื้อของเขาทันที  ใครๆ สามาถเห็นร่างของเขาซึ่งเหมือนกับหลอมขึ้นจากทองแดงกับโลหะ เห็นชั้นผิวเป็นมันวาวอย่างเห็นได้ชัด
เขาคำรามและวิ่งเข้าใส่กระบวนทัพทันที
เมื่อเผชิญหน้ากับรังสีดาบและปลายหอก  ความจริงเขาไม่ได้หลบ แต่ปล่อยให้กระทบใส่ร่างของเขา
กระบี่และหอกที่สามารถแทงและตัดแผ่นเหล็กได้ เพียงแต่ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างของอาโมรี่  เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย และฉวยโอกาสฟันใส่อีกสองคน
ผิวทองแดงกระดูกเหล็ก!
ม่านตาของหวงฝู่หงหดลีบ  ความเหี้ยมหาญของคู่ต่อสู้เกินไปกว่าที่เขาคาดไว้มาก  และในการปะทะเพียงครั้งเดียว  เขาสูญเสียมือดีไปถึงสองคน
ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่ง  ช่างเป็นคนที่น่ากลัว
หวงฝู่หงลดมือลงและดึงขึ้นเล็กน้อยทันที
ทันใดนั้น นักสู้รอบๆ ตัวอาโมรี่และที่เหลือพากันถอยและสร้างพื้นที่ว่างวงกลม
หัวใจปิงเต้นเร็ว  เขารู้แผนของคู่ต่อสู้ทันที และตะโกนด้วยความกังวล  “เข้าไปในกลุ่มคน”
เพียงเวลาไม่นาน หอกและรังสีดาบระดมลงมาเหมือนกับฝน โจมตีมาจากทุกทิศ
 “ให้ข้าเอง”
เสียงเยือกเย็นและชัดใสดังขึ้น  หานปิงหนิงสะบัดข้อมือและกระบี่มังกรเงินฟันเป็นรูปวงกลมและมีรังสีกระบี่ระเบิดออกไป
รังสีกระบี่ของหานปิงหนิงมีลักษณะเฉพาะตัวมาก เนื่องจากมีกลุ่มหมอกถูกเกล็ดก้อนน้ำแข็งสร้างขึ้น
หลังจากดูดกลืนสายเลือดหัวใจดาวแปดเหลี่ยน ระหว่างทุกอิริยาบถเคลื่อนไหวของนาง  จะมีปราณเย็นแผ่ออกมา  วิชากระบี่ของนางเป็นวิชาที่สมบูรณ์แบบ  พลังน้ำแข็งที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนางมีระดับความเย็นสูงสุด  ความเข้าใจเรื่องความเย็นของนางลึกซึ้งมากขึ้น ดังนั้นความเข้าใจพลังน้ำแข็งของนางก็มากขึ้นเช่นกัน
ไอระเหยของรังสีกระบี่กระจาย ทำให้ระลอกปราณเย็นแทรกซึมออกมา
หอกและดาบที่กวาดใส่หมอกเย็นมีชั้นน้ำแข็งเกาะและกลายเป็นน้ำแข็งหลังจากกวาดผ่านแค่เพียงระยะสั้นๆ
พวกเขาฉวยโอกาสย่นระยะห่างระหว่างพวกเขากับศัตรู
ซือหม่าเซียงซานติดตามมาด้านหลังเหมือนภูตพราย  การแสดงความแข็งแกร่งของอาโมรี่และหานปิงหนิงทำให้เขาประหลาดใจมาก
ทันใดนั้น เสียงของปิงดังเข้าหูของเขา
 “ให้สังเกตว่ามีคนประหลาดอยู่ข้างใน  เราต้องหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้าม  เขาซ่อนตัวอยู่ภายในนั้น  ตราบใดที่เราหาเขาพบ  เราจะชนะ”
ปิงหาร่องรอยผู้บัญชาการไม่พบแม้แต่น้อย  ผู้บัญชาการหลายคนเหมือนซ่อนตนเองอยู่ในกลุ่มทหาร  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สั่งการที่ไม่แข็งแกร่ง และเพื่อป้องกันการถูกศัตรูจับตัว  พวกเขาจะปะปนอยู่ในหมู่ทหาร นับว่าเป็นความคิดที่แยบยลอย่างหนึ่ง
ปิงไม่ใช้ตาของเขา  แต่มองดูประกายหอกดาบอย่างระมัดระวัง
มีอยู่หลายวิธีที่ผู้นำทหารจะใช้พลังควบคุมของเขา  แต่ก็ยังมีกฎที่ต้องปฏิบัติตาม  มีเพียงผู้นำทหารผู้ฉลาดสามารถซ่อนเร้นและปิดบังเครื่องหมายของพวกเขาได้  การปกปิดก็เป็นแค่เพียงการปกปิดเท่านั้น  ผู้นำทหารก็คือหัวใจของการควบคุมรังสีของกองทัพ  และพวกเขาคือจุดศูนย์กลางของการรบ
แต่หลังจากคลื่นโจมตีสองระลอกผ่านไปแล้ว  ปิงก็ยังหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามไม่เจอ
เป็นผู้นำที่ฉลาด
เขาอยู่ที่ไหนกันแน่?
ปิงคิดในใจอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์แบบไหนที่ผู้นำทหารแบบนี้เกลียดที่สุด?
คำตอบแทบจะออกมาทันที ..... ความวุ่นวาย!
ใช่แล้ว ผู้นำทหารเหล่านี้จะเกลียดความสับสนวุ่นวาย  ยิ่งมีความสับสนวุ่นวายเพิ่มเข้ามา  ก็ยิ่งยากจะทำให้เขาควบคุมสถานการณ์ได้อยู่  และตราบใดที่เขาสร้างความวุ่นวายสักสองสามที่  รังสีควบคุมของของฝ่ายตรงข้าก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายสับสน  ประสิทธิภาพจะลดลงอีกมากมาย
ตราบเท่าที่ประสิทธิภาพลดลงมากมาย  ร่องรอยของผู้สั่งการจะปรากฏออกมาอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาจะสามารถค้นหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้ามได้!
ตราบใดที่เขาหาผู้บัญชาการหลักของฝ่ายตรงข้ามได้  ชัยชนะจะตกอยู่ในมือของเขา  ผู้บัญชาการของคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่ง และความจริงข้อนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเขา
 “ใช่แล้ว  มันต้องเป็นอย่างนั้น!
 “ทุกคน, แยกย้ายกันโจมตี!
เสียงของปิงดังออกมาจากพยัคฆ์ฟ้า  ขณะที่พยัคฆ์ฟ้าเป็นเหมือนสายฟ้าและวิ่งเข้าหาตำแหน่งศัตรู
เมื่อตระหนักได้ถึงแผนของเขา  อีกสองสามคนก็แยกกันโจมตี
ปิงเข้าไปใกล้พวกทหารเกราะได้อย่างง่ายดาย จิตใจเขานึกถึงยุคเก่าก่อนทันที
ทันใดนั้นเขาเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เมื่อหมื่นปีที่แล้ว  ในสมรภูมิที่มีควันสงครามลอยกรุ่นอยู่ในอากาศ  ปีกของพยัคฆ์ฟ้ากางออกและบินตรงเข้าหาทันที  เป็นคนร่างใหญ่ที่ตะโกน  ปิงสามารถควบคุมพยัคฆ์ฟ้าได้โดยสัญชาตญาณ
 “ฮึ.. กองทัพกางเขนใต้...บุก!
คำพูดเหล่านี้พึมพำออกมาเบาๆ  ขณะที่สายตาเยือกเย็นของเขาเป็นประกาย
 

5 ความคิดเห็น:

Shark กล่าวว่า...

สวดยอดครับ

windwolf กล่าวว่า...

กำลังมัน ต่อ ๆ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

จัดๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น