ตอนที่ 335 เย่เฉาเกอผู้น่ากลัว
เม็ดแสงสีเงินค่อยๆ ลอยออกมาจากตัวของจิ่งหาว
เม็ดแสงสีเงินนี้ดูเหมือนดวงดาวลอยอยู่เหนือหัวจิ่งหาว
เลือดที่ไหลออกมาจากปากของจิ่งหาวอย่างต่อเนื่องก็ค่อยๆ
ลอยด้วยเช่นกัน
แสงเงินที่อยู่เหนือศีรษะของเขาดูเหมือนจะถูกดูดเข้าหากระบี่ของเขา มันถูกดึงดูดทีละเม็ดๆ
ต่อเนื่องจนดูเป็นสายเข้าหากระบี่
กระบี่ในมือของเขาถูกดันไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวล
“รังสีกระบี่แสง”
เหมือนก่อนนั้นแสงเงินนับไม่ถ้วนเข้าไปในตัวกระบี่ของเขา
ดวงตาของเย่เฉาเกอเบิกโพลงความรู้สึกถึงอันตรายเพิ่มขึ้นในใจทันที
รังสีเงินกระจายออกมาจากปลายกระบี่ของจิ่งหาว และกลายเป็นกระบี่แสงสีเงินยิงออกมา
แย่แล้ว!
สีหน้าของเย่เฉาเกอเปลี่ยน เขาพยายามหลบไปทางขวา แต่ลำแสงมาไวกว่าที่เขาคิด “ชี่...” เกิดรอยแผลเลือดที่อกของเขา
เลือดหยดลงมาจากอากาศ
ตาของเย่เฉาเกอเบิกกว้าง เขามีสีหน้าเหลือเชื่อ
เป็นไปไม่ได้
ลำแสงเงินยิงทะลุหน้าอกเขา
และเกิดรูขนาดหัวแม่มือที่หน้าอกของเขา
เขาถูกยิงจริงๆ... ด้วยความเร็วของเขา
เขาหลบไม่พ้นได้ยังไง?
เหมือนกับว่ามันเร็วเท่ากับแสง
สุดยอดวิชาโดดเด่นตามที่คาดจริงๆ น่าตื่นเต้นมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เย่เฉาเกอหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เลือดพุ่งออกมาจากอกของเขาย้อมเสื้อผ้าจนเปื้อน แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ ผมของเขาสั่นไหวอยู่ในอากาศ เหมือนกับว่าเขาได้รับข่าวที่มีความสุข
เขาหยุดหัวเราะสายตาจับจ้องมองมาทางจิ่งหาว
“จิ่งหาว
เจ้าไม่ทำให้การรอคอยของข้าต้องสูญเปล่า”
จิ่งหาวมีแสงสีเงินครอบคลุมตัวเผชิญหน้ากับเย่เฉาเกอผู้บ้าคลั่ง
เขาไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย เขาไม่พูด
และไม่พูดสิ่งที่เขาคิด
แต่เขาใช้วิชากระบี่ของเขาอย่างสงบและอดทนเชื่อมั่นในตนเอง
แม้ว่าในอดีต เมื่อเผชิญกับเย่เฉาเกอผู้โดดเด่นเสมอ เขาก็ไม่เคยกลัวและไม่เคยนับถือเขา เขายังคงเป็นเหมือนก้อนศิลาใหญ่บนภูเขา
นิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่เขามีโลกของเขาเอง
อย่างไรก็ตามคนที่แข็งแกร่งคือเขา คนที่อ่อนแอคือข้า
ข้ามีเป้าหมายของข้า
และข้าจะตระหนักถึงมัน
ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าก็จะอ่อนแอและไร้พลังอยู่เสมอ
ข้าจะเดินไปตามเส้นทางของข้าเอง ตลอดไป
ความสงบในดวงตาของจิ่งหาวพิสูจน์ว่าเขากระตือรือร้นและภาคภูมิใจ เขาชูกระบี่ในมือ แสงเงินรอบๆ
ตัวเขาปล่อยเส้นด้ายแสงสีเงิน และเส้นด้ายทั้งหมดวิ่งเข้าไปหากระบี่ของเขา
เย่เฉาเกอชูกระบี่ที่เต็มไปด้วยรอยบิ่นเหนือศีรษะเขา
แววจริงจังแฝงอยู่ในดวงตาของเขา
เขาฟันกระบี่ลง
ขณะเดียวกันจิ่งหาวก็ไสกระบี่ออกไป
รังสีกระบี่เงินที่ถูกปล่อยออกมาหนากว่าครั้งก่อนหลายเท่า
ปัง!
กระบี่แสงสีเงินรวดเร็วกว่าปราณกระบี่ไร้สภาพของเย่เฉาเกอ เมื่อปราณกระบี่ไร้สภาพยิงออกมาในระยะใกล้
มันก็ปะทะกับลำแสงเงิน
พลังงานทั้งสองแข็งแกร่งพอกัน ทั้งเป็นมวลพลังขนาดใหญ่
เย่เฉาเกออยู่ใกล้กว่าไม่มีเวลาหลบ
เขาถูกดูดเข้าไปในคลื่นและกระเด็นออกไปเกินกว่าสิบเมตร
“สาแก่ใจนัก”
เย่เฉาเกอบาดเจ็บทั่วตัวก็ยิ่งตื่นเต้นมาก เขาตีลังกาขณะถูกเหวี่ยงกลับ
และใช้กระบี่เหล็กกล้าในมือฟันอีกครั้ง
ตัวกระบี่สั่นสะท้านด้วยความถี่ที่น่าอัศจรรย์
ทำให้เกิดระลอกรอบอากาศนับไม่ถ้วน รอยแตกที่ตัวใบมีด จากนั้นก็ รอยแตกขนาดเล็บนิ้วมือหลุดออกมาจากตัวกระบี่
จากนั้นก็กลายเป็นฝุ่นผง
วืดดดด
ปราณกระบี่ไร้สภาพปะทะเข้ากับรังสีกระบี่แสงอีกครั้ง
ปัง!
รังสีกระบี่แสงสลายทำให้จิ่งหาวครางด้วยความเจ็บปวดจากการสะท้อนกลับรุนแรง ปัง ปัง ปัง
ทุกๆ ย่างก้าวของเขาหนักหน่วงเป็นพันชั่ง
เนินทรายใต้เท้าระเบิดออก รอบๆ
พื้นที่มีฝุ่งทรายฟุ้งกระจาย
กระบี่เหล็กในมือของเย่เฉาเกอไม่สามารถทนรับได้ มันแตกหักกลางทันที
อากาศที่แหลมคมสร้างบาดแผลรอยเชือดเฉือนบนร่างกายของเขา
โลหิตหลั่งไหลออกมามากขึ้น
ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจ
เนื่องจากเขาตื่นเต้น
เขาพุ่งลงมาทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! เอาอีกครั้ง!”
เขายืมกำลังจากแรงโน้มถ่วง และเงื้อกระบี่หักในมือ
ในอึดใจเดียวสะบัดกระบี่ฟาดฟันถึงสิบครั้ง
จิ่งหาวมีเลือดอยู่ที่ริมฝีปาก ชุดของเขาฉีกขาด เมื่อเห็นเย่เฉาเกอเข้ามาใกล้ เขาตะโกน “ม่านกระบี่แสง”
แสงเงินทะลักออกมาจากปลายกระบี่อย่างรุนแรงและพุ่งขึ้นไปเหนือศีรษะของจิ่งหาว ขณะที่เขากุมกระบี่ด้วยมือทั้งสอง
ขณะเย่เฉาเกอกำลังเข้ามา
เขาฟันใส่
ปง ปง ปง!
ทุกครั้งที่กระบี่แสงปะทะใส่ปราณกระบี่ไร้สภาพ มือจิ่งหาวจะสั่น เขาจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยว
และใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดฟันใส่อีกครั้ง
แรงฟันที่แข็งแกร่งเปลี่ยนสภาพเป็นม่านแสงที่กว้างครอบคลุมเย่เฉาเกอไว้ภายใน
พอม่านแสงสัมผัสพื้น
ปัง!
แสงเงินแพรวพราวทำให้เกิดพายุทรายครอบคลุมไปทั้งท้องฟ้า
เมื่อพายุทรายหายไป
เกิดมีร่องลึกยาวตั้งแต่ด้านหน้าจิ่งหาวยืดขยายออกไปไกลจนสุดสายตา
“แฮก.... แฮก...
แฮก...”
จิ่งหาวหอบหายใจ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นทั่วร่าง
มือทั้งสองที่ยังจับกระบี่กำลังสั่นอย่างควบคุมมิได้ ใจของเขาว่างเปล่า เขาดึงพลังทั้งหมดของเขาออกมาโจมตีและไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้ว
เผียะ เผียะ เผียะ
ทันใดนั้นร่างของเขา มีรอยเลือดและบาดแผลนับไม่ถ้วน
พลังโจมตีจากปราณกระบี่ไร้สภาพทำให้เกิดบาดแผลนับไม่ถ้วนบนร่างกายของเขา เพียงแต่จิ่งหาวใช้พลังทั่วร่างเพื่อโจมตี
จึงทำให้กล้ามเนื้อของเขาตึงเครียดเหมือนเหล็กและเลือดไม่สามารถไหลได้ หลังจากคลายใจแล้วบาดแผลจึงเริ่มปรากฏ
โลหิตเริ่มไหล
เราชนะหรือเปล่า...
นั่นคือความคิดสุดท้ายของจิ่งหาว ขณะที่ตาของเขาสูญเสียการรับรู้
เขาล้มลงกับผืนทราย
“หึ หึ
หึ “
ร่างๆ หนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดพยายามเดินกลับมาด้วยระยะที่ไกลเกินกว่าสองสามกิโลเมตร เห็นได้ชัดว่าเป็นเย่เฉาเกอ สารรูปของเขาดูน่าสมเพช
ตลอดทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดและทราย
ที่สะดุดตาที่สุดก็คือบาดแผลบนไหล่ซ้ายของเขาที่พาดยาวมาทางขวาจนถึงท้อง
เหมือนกับว่าอกของเขาจะแตกหักและเปียกชุ่มไปด้วยเลือด
กระบี่ในมือของเขาเหลืออยู่แต่ด้ามเท่านั้น
“ข้า...
ไม่ได้รออย่างสูญเปล่า...”
เย่เฉาเกอลากเท้าเข้าหาจิ่งหาวทีละก้าวๆ ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการเจ็บปวดอะไร
แต่ตรงกันข้าม เป็นความสุขที่มิอาจพูดได้
“น่าเสียดาย มันยังไม่พอ,
ยังไม่พอ, ความเกลียดของเจ้ายังกล้าแกร่งไม่พอ วิธีนี้, ข้าสามารถทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้,
และเป็นคู่ต่อสู้ที่แกร่งกล้าขึ้น”
เย่เฉาเกอพึมพำกับตัวเอง
แผลบนร่างของเขาฟื้นฟูเยียวยาในตัวมันเองอย่างรวดเร็ว พอเวลาผ่านไปเมื่อเขามาถึงร่างจิ่งหาว ร่างของเขาก็แทบจะสมบูรณ์
มีเพียงแต่ขาวซีดเท่านั้น
เขาแบกตัวจิ่งหาวที่หมดสติขึ้น
รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์และเย็นชาฉายอยู่บนใบหน้าของเขา
“ข้าต้องการให้เจ้าเห็น วิธีที่ข้าสังหารพวกมันทุกคน”
**************
ค่ายทหารที่เจ็ด
ปัง!
ห้องฆ่าตัวตายระเบิดทันที
ท่ามกลางควันหนาทึบ มีร่างๆ
หนึ่งกวัดแกว่งกระบี่สองเล่มเดินออกมาจากควันช้าๆ
ตลอดทั้งร่างของถังเทียนมีเปลวเพลิงที่หมองและใสครอบคลุม ตาของเขาเย็นชามาก
ฉัวะ, ถังเทียนหายไป
พลังงานทะลักไหลเข้ามาในร่างถังเทียนโดยไม่เหลือ
ก้าวย่างลมพรางของเขาถูกใช้จนอยู่ในสภาพที่ดียอดเยี่ยมที่สุด
ความเร็วของเขาเร็วพอๆ กับสายฟ้าปรากฏเป็นภาพพร่าเลือนไล่ตามหลัง ราวกับว่าเป็นเพียงสายลม
เร็วเข้า,
ข้าต้องเร็วขึ้น, ต้องเร็วขึ้น
ถังเทียกัดฟัน
ในใจของเขากังวลมาก
เขายังคงกระตุ้นปราณแท้ในร่างกายของเขา ขณะโดดออกมาจากป่าบรอนซ์
ทุกคน, อดทนเอาไว้!
เมื่อเห็นเส้นทางจากระยะไกล เขาวิ่งทันทีโดยไม่ลังเลใจ
หยาหยาที่กำลังขุดพื้นที่อยู่ไกลๆ โบกมือให้อย่างตื่นเต้น
มันร้องแล้วกระโจนไล่ตามหลังถังเทียน
แต่ถังเทียนจะมีเวลาสนใจมันในตอนนี้ได้ยังไง? เขาไม่ลดความเร็วลงและวิ่งอย่างบ้าคลั่ง
เหงื่อที่พรั่งพรูหลั่งไหลจากหน้าของเขาปลิวกระเด็นไปเบื้องหลังเขาทั้งหมด เขาไม่สนใจแม้แต่จะปาดออกจากใบหน้า
มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเขา เร็วขึ้น
เร็วขึ้น เร็วขึ้น!
หยาหยาพอไม่ได้รับความสนใจก็โกรธ ทันใดนั้น นัยน์ตาของมันเป็นประกาย
มันโดดขึ้นหลังแพะภูเขาบรอนซ์ และดึงเต่าและกระรอกบรอนซ์มากับมันด้วย
แพะภูเขาบรอนซ์วิ่งอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน อสูรจักรกลที่แต่เดิมกำลังขุดเจาะ
พากันตามมาเป็นพรวนกันหมด ในพริบตากองทัพอสูรจักรกลก็มุ่งหน้าไปทิศทางที่ถังเทียนวิ่งไป
บนหลังของแพะภูเขา หยาหยาท้าวสะเอว สีหน้าของมันองอาจ
มันดูสง่างามคล้ายกับว่าผ่านการตัดสินใจอะไรบางอย่าง
******************
สายตาของจางเจิ้งจับจ้องอยู่ที่ถังอี้
และทันใดนั้นเขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยความพอใจ เขารู้ว่าเขาไม่แข็งแกร่งและจะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ ดังนั้นเขาได้เตรียมกับหลุมพรางไว้สองสามอย่าง
แต่ก็ยังมีคนโง่ถูกหลอกจนได้
จางเจิ้งตะโกนทันที
“ฆ่า!”
แสงรังสีร้อยสายวาบขึ้นในท้องฟ้า
และปกคลุมเหนือศีรษะของเขาในทันใด รังสีดาบและหอกเกินกว่าร้อยเล่มก่อตัวเป็นวังวน
อากาศรอบๆ ถูกตัดทำลายอย่างต่อเนื่องจนปั่นป่วนเป็นพายุ
แรงเหวี่ยงจากการเข้ามาถึงของถังอี้นั้นเร็วอย่างน่าประหลาด
เขาปรากฏตัวอยู่ในวังวนทันทีและไม่มีเวลาจะถอนตัวออกไป
จางเจิ้งไม่สามารถอดกลั้นความยินดีไว้ได้ กระบวนวิชานี้ทดสอบมาแล้วได้ผลดีน่าพอใจ
เพียงชั่วเวลานั้น
รังสีแพรวพราวเปล่งประกายสว่างจากภายในวังวนทันที
หน้าของจางเจิ้งแข็งค้างทันที นี่มัน...
“ทำลาย!”
เสียงตวาดทุ้มต่ำแต่ดังปานสายฟ้าผ่าดังขึ้น
จางเจิงได้แต่มองกลุ่มแสงสีขาว จากนั้นก็ไม่เห็นอะไร
เขาเริ่มตื่นตกใจ
เขาเริ่มถอยหลังออกมาอย่างไม่คิดอะไรทั้งนั้น
ปัง!
ทรายสาดกระเซ็นโดนหลังของเขา ด้วยพลังที่มากมหาศาลอย่างประหลาด
เขาสั่นด้วยความเจ็บปวด
แสงรัศมีกระจายหายไป
ใบหน้าของจางเจิ้งมีทรายเกาะเต็มไปหมด
ขณะที่เขามองดูหลุมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางห้าเมตร หน้าของเขาซีดขาว และร่างของเขาสั่นอย่างมิอาจระงับได้
น่ากลัว...น่ากลัวเกินไป!
ถังอี้ตวาดก้อง ใช้พลังดาบทั้งที่อยู่บนหลังม้าอีกครั้ง
ใบหน้าของเขาสงบเหมือนน้ำเย็น เขาชูดาบสูงและตะโกนกึกก้อง “สู้!”
กองกำลังหมาป่าต่างก็ตื่นตระหนกเพราะพลังดาบที่ร้ายกาจของถังอี้ และเริ่มรู้เลือดลมพลุกพล่าน
ราวกับว่ามีบางอย่างติดขัดอยู่ที่อกไม่สามารถระบายออกได้ พวกเขาอดไม่ที่จะชูดาบโค้งและตะโกนอย่างแข็งขัน
“สู้!”
เสียงโห่ร้องของคนสองร้อยคนดังกึกก้องต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ
ทหารค่ายหางแฉกกลับมีสีหน้าแตกต่าง
ภายในกระบวนศึกของศัตรู ถังอี้ค่อยๆ
กระตุ้นม้าเดินราวกับว่าเป็นที่ไม่มีคนอยู่
เหล่านักสู้รอบๆ ตัวเขาไม่มีใครกล้าสู้กับเขา ต่างหลบเปิดทางให้เขาเดินผ่านไป
ถังอี้ชูดาบฟันขาม้า
ดาบฟันขาม้าสีดำสนิทเป็นเหมือนกับธงศึก
สายตาของทุกคนจับตาอยู่ที่สัญลักษณ์ในสมรภูมิ
กองทัพชาวหมาป่ารวมตัวอยู่หลังถังอี้อย่างรวดเร็ว ทุกคนสั่นด้วยความตื่นเต้น การต่อสู้ของพวกเขากำลังขึ้นสู่จุดสูงสุด
“ขบวนเงื่อน! รีบตั้งขบวนเงื่อน!”
เสียงตกใจของจางเจิ้งดังเนื่องมาจากภายในขบวนทัพของศัตรู ศัตรูยังคงถอยต่อเนื่อง
ต้องการจะเพิ่มระยะห่างอีกครั้ง
บนหลังม้า
ถังอี้นั่งตัวตรงมองดูพวกเขาอย่างสงบ ขณะที่พวกเขาพยายามตั้งขบวน
ความสงบและความสง่างามปรากฏอยู่ในดวงตาเขา
ซึ่งเต็มไปด้วยความภูมิใจ
ถ้าข้าไม่สามารถโค่นเจ้าพวกร้ายกาจนี้ แล้วข้ายังจะมีหน้าใช้ชื่อกองทัพที่ไม่เหมือนใครนี้ได้ยังไง?
ดวงตาที่สง่างามของเขาเบิกกว้างทันที รังสีเยือกเย็นระเบิดออกทันที เขาใช้เท้ากระตุ้นที่ท้องม้า ตะโกนลั่น “ฆ่า!”
“ฆ่า!”
ทหารชาวหมาป่าตะโกนอย่างแข็งขัน
เหมือนกับว่าพวกเขาเชื่อมโยงผูกพันกันด้วยด้ายที่มองไม่เห็น พวกเขาทุกคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ในเวลาเดียวกัน
ดาบของทุกคนส่องประกายพร้อมกับเรืองแสงขึ้น
ถ้ามองมาจากด้านบนที่สูง
ท่านจะตระหนักได้ว่ารังสีดาบทั้งหมดครอบคลุมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันรายล้อมกองทัพหมาป่าจนดูเหมือนสิ่วที่แหลมคม
ก่อตั้งกระบวนสิ่ว
4 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
หยาหยา น่ารัก
หยาหยา จาปายสุ้ด้วย55
เอาจักกลขุดดินมาเพื่อ55 เต่าแพะกระรอกยังสุ้ได้
แต่พระเอกดาบคู่นี่มันเท่จิงๆนะ55นึกว่าคิริโตะ
แสดงความคิดเห็น