ตอนที่
590 ข้าไม่เคยเชื่อถือศัตรู
ที่ทางออกประตูลับ, นางพญากระหายเลือดหง,
มังกรไร้เขาเจี้ยงอิง, ผู้เฒ่าหนานกงและพะยูนนรกทั้งสองกำลังรอเย่ว์หยางอย่างสงบ เมื่อเขาออกมา
พวกเขาจะปิดประตูลับขังศัตรูไว้ข้างในตลอดไปทันที ต่อให้เขาไม่สามารถฆ่าศัตรูได้ทันที พวกเขาไม่ยอมให้ศัตรูจากไป นี่คือแผนแรกของเย่ว์หยาง
ฮุยไท่หลางเทียวไปเทียวมา
ขณะที่มันลากฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วที่บ่นเพ้อใกล้ตายออกมา
เสากักมังกรครอบคลุมตัวเป่ยฟงเจียสั่ว
ขณะที่โซ่จันทราบั่นเศียรพันอยู่รอบฟงจู้
พวกเขาไม่ได้ต่อสู้กันเอง แต่เป็นการปกป้องให้กันและกัน
ทั้งสองต่างฝ่ายต่างใช้สมบัติปกป้องให้กันและกัน
เสากักมังกรและโซ่จันทราบั่นเศียรไม่สามารถปกป้องเจ้านายของมันได้
ถ้าทั้งสองตั้งใจปกป้องศัตรูจากอันตรายภายนอก พวกมันเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด
ถ้าพวกเขาไม่ใช้เสากักมังกรและโซ่จันทราบั่นเศียรป้องกันความปลอดภัยให้กัน
ก็อาจจะตายเพราะการต่อสู้ระหว่างราชันย์พันปีศาจและเย่ว์หยางก็ได้
คลื่นอัดกระแทกที่ระเบิดออกมาจากการต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่เลือดเนื้อจะทนรับกันได้
ฟงจู้และเป่ยฟงเจียสั่วต้องใช้พลังของเขาทั้งหมด....
ฮุยไท่หลางพาทั้งสองออกมานอกประตูลับ จากนั้นจึงกลับไปช่วยเย่ว์หยาง แม้ว่าราชันย์พันปีศาจจะบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังทรงพลัง ต่อให้เย่ว์หยางมีนางฟ้านักรบอิคคา,
อาหมัน, ตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลีก็ตาม แต่ก็ยังยากที่พวกเขาจะได้เปรียบ ดังนั้นฮุยไท่หลางจึงวิ่งกลับมาร่วมสู้ด้วย
หลังจากส่งคนอื่นออกนอกประตูลับไปแล้ว
ในตอนแรก
ราชันย์พันปีศาจโกรธจัดใช้พลังที่น่ากลัวและไล่ตามจัดการเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางแทบจะไม่มีโอกาสได้พักหายใจ แต่โชคดีที่หลบเลี่ยงพลังโจมตีได้หมด
เสี่ยวเหวินหลีใช้ทักษะพันธนาการของเธอสองสามครั้งเพื่อหลบหนีจากพลังสายฟ้าฟาดที่อันตรายของราชันย์พันปีศาจ
ด้วยการเพิ่มเข้ามาของฮุยไท่หลาง
ความได้เปรียบเริ่มเทไปทางด้านเย่ว์หยาง
แม้ว่าอาหมันจะไม่ได้แข็งแกร่งทรงพลังเท่ากับร่างเหมือนที่หนึ่งซี่เหยียน แต่นางไม่รู้จักเหนื่อย
ดังนั้นไม่ว่าชี่เหยียนโจมตีนางหนักเพียงไหน
อาหมันก็สามารถลุกกลับมาได้อีกครั้งอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้ระหว่างร่างเหมือนที่สองชิงเยี่ยนกับนางพญาดอกหนามมงกุฎทองอยู่ในลักษณะยันกัน
พลังโจมตีของชิงเยี่ยนไม่มีผลต่อนางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่ว
แต่แม้ว่านางจะถือมีดที่เป็นร่างแปลงของอสูรทองน้อยนางก็ยังไม่สามารถเอาชนะชิงเยี่ยนผู้เจ้าเล่ห์ได้
การไล่ล่าเช่นนี้อาจต้องใช้เวลาสามวันสามคืนถึงจะตัดสินหาผู้ชนะได้
มีเพียงผู้เดียวที่ได้เปรียบก็คือเด็กสาวยักษ์
นางสู้กับผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วจนกระทั่งเขารู้สึกกดดันมาก
ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วมีพลังของนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม ทันทีที่เขาฟื้นฟูพลังได้ดังเดิม
เขาจะกลายเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสี่ชั้นสูง แต่เขากลับถูกเด็กสาวยักษ์เล่นงานอย่างมิอาจโกรธได้เลย
ปีศาจโบราณต้องพบกับไตตันโบราณที่มีพลังระดับเดียวกันนับเป็นเรื่องโหดร้ายทารุณยิ่งนัก ยิ่งกว่านั้น
ไตตันโบราณนี้ยังเป็นไตตันสายเลือดกษัตริย์เป็นเทพธิดาศึกพิทักษ์ดินแดนของชาวไตตันโบราณ....
โชคดีที่เด็กสาวยักษ์ยังไม่โตเต็มวัย
มิฉะนั้นผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วคงโดนทุบโดนเล่นงานอย่างหนักเป็นแน่
“จู่โจม!” เสียงเด็กสาวยักษ์ตวาดเหมือนกับฟ้าผ่า
สั่นสะเทือนทั้งโลก
ทุกครั้งที่นางบุกโจมตี
ผู้อาวุโสปีศาจโบราณเยี่ยนซั่วจะปลิวกระเด็นจากพลังโจมตี
ตรงกันข้าม ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วใช้พลังปีศาจและไฟนรก แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายนางได้
นั่นเป็นเพราะนางมีภูมิต้านทานต่อพลังงานด้านลบทุกอย่าง
แม้แต่ไฟนรกที่ปีศาจโบราณมีมาตั้งแต่เกิดก็ไม่สามารถทำร้ายนางได้
การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เย่ว์หยางค่อยๆ เปลี่ยนสถานการณ์การต่อสู้
ราชันย์พันปีศาจแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็เหนื่อยมาก
เขาไม่เหมือนอาหมันที่มีพลังหัวใจธรณีสารสามารถดูดซับพลังของโลกมาเป็นพลังของตนเองได้ ภายใต้การคุกคามของเย่ว์หยาง ทุกๆ
ความเคลื่อนไหวมีแต่จะทำให้เขาอ่อนกำลังลง
เมื่อต้องการโจมตีเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางผู้เจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอกจะหนีอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อราชันย์พันปีศาจเตรียมหนีจากไป เย่ว์หยางก็จะโจมตีเขาอีกครั้ง...
ราชันย์พันปีศาจรู้ว่าเย่ว์หยางมีวัตถุประสงค์บั่นทอนกำลังของเขา
แข่งขันความสิ้นเปลืองพลังของพวกเขา แข่งขันการยืนกราน
แข่งขันความอดทน
ถ้าเป็นในอดีต
ราชันย์พันปีศาจมีความมั่นใจสูงว่าจะเอาชนะเย่ว์หยางได้
แต่เดี๋ยวนี้ เขาไม่มีคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป
และสูญเสียทั้งเทวทูตตกสวรรค์ม่อเฟย, มังกรปีศาจแดนสวรรค์ไมโบน,
ยักษ์หิมะน้ำแข็งและปีศาจโบราณ
ที่สำคัญที่สุด เขาสูญเสียร่างเหมือนที่สามจื่อซั่ว
ถ้าเขายังคงต่อสู้กับเย่ว์หยางต่อไป ราชันย์พันปีศาจเชื่อว่า
ต่อให้เขาหลบหนีไปจากประตูลับไปได้
แม้ว่าจักรพรรดิมังกร, มารสัมฤทธิ์ฟ้า,
จักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนจะไม่โจมตีเขาก็ตาม
แต่ราชาเฮยอวี้และจักรพรรดิชื่อตี้คงไม่ยอมปล่อยเขา
ราชันย์พันปีศาจจะไม่สามารถทุ่มเทพลังทั้งหมดขณะที่เขาจำเป็นต้องใช้พลังในการหนี ดังนั้น เมื่อเย่ว์หยางโจมตีใส่เขา จึงทำให้เขาโกรธมาก เขาโจมตีผิวเผิน แต่ในใจกลับวางแผนหลบหนี
ถ้าเย่ว์หยางอยู่ตามลำพัง
คงเป็นเรื่องง่ายที่ราชันย์พันปีศาจจะหลบหนีได้
ปัญหาก็คือมีปีศาจอสรพิษน้อยซึ่งมีทักษะแฝงเร้นพันธนาการที่น่ากลัว,
เทพชั้นต่ำที่สามารถแปลงเป็นหมาป่าปีศาจทำลายโลก และทหารเทพโบราณ
นางฟ้านักรบ....
การต่อสู้ดำเนินต่อไป
สองชั่วโมงผ่านไป
เย่ว์หยางกลายเป็นมีเปรียบมากขึ้นทุกที
ภายใต้ความช่วยเหลือของเสี่ยวเหวินหลีและอสูรอื่น พวกเขาสามารถต่อสู้ในระดับเดียวกับราชันย์พันปีศาจได้
ราชันย์พันปีศาจพยายามหลบหนีอยู่หลายครั้งนับไม่ถ้วน แต่ว่าล้มเหลว
เพราะเขาถูกเย่ว์หยางสกัดไว้ได้ครึ่งทางทุกที
ยิ่งกว่านั้น เมื่อเขาคิดจะหนีไป
นางฟ้าศึกอิคคาและฮุยไท่หลางจะเริ่มโจมตีร่างเหมือนที่หนึ่งและที่สอง ถ้าเขาสูญเสียร่างทั้งสองไป
ราชันย์พันปีศาจรู้สึกว่าเขาคงอ่อนแอยิ่งกว่าราชาเฮยอวี้ ความฝันที่จะเอาชนะจักรพรรดิชื่อตี้ควบคุมหอทงเทียนหรือพิชิตแดนสวรรค์คงเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้หากปราศจากร่างแยกเหล่านี้
เขาจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ตลอดชีวิตที่เหลือของเขา
“บึ้ม....”
ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วใช้ทุกวิถีทาง แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเด็กสาวยักษ์ได้
จำไม่ได้เลยว่านางเล่นงานเขาล้มกับพื้นกี่ครั้งแล้ว
เพียงแต่ครั้งนี้ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วไม่อาจกระโจนลุกกลับมาได้เหมือนครั้งก่อนๆ
เขาร้องครวญครางกับราชันย์พันปีศาจ
“ข้าพยายามอย่างสุดฝีมือแล้ว... แต่ศัตรูแข็งแกร่งเกินไป
ฝ่าบาท..ไปเสียเถอะ เราสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว”
แม้แต่ร่างแยกที่หนึ่งชี่เหยียนและร่างแยกที่สองชิงเยี่ยนก็มีท่าทีเหนื่อยหนัก
พวกเขาต้องให้ราชันย์พันปีศาจตัดสินใจไปจากที่นี้เช่นกัน
แน่นอนว่า ถ้าราชันย์พันปีศาจตัดสินใจต่อสู้จนถึงที่สุด พวกเขาก็จะทำด้วยเช่นกัน
เด็กสาวยักษ์ก็ยืดอก หอบหายใจ ความจริงนางก็รู้สึกเหนื่อย
แต่พลังใจที่เข้มแข็งของนางช่วยให้นางสามารถบุกโจมตีใส่ศัตรูได้อีกครั้ง
“พวกเจ้าควรจะจากไปทันที ข้าจะระวังหลังให้”
ราชันย์พันปีศาจละทิ้งเย่ว์หยางและมาปรากฏตัวต่อหน้าผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วทันที
ทำให้เด็กสาวยักษ์ต้องถอยออกไป
ขณะเดียวกัน มีโล่พลังงานปรากฏอยู่ในอากาศ
มันช่วยหักเหรังสีที่นางฟ้าศึกอิคคายิงออกมา
และสะท้อนหักเหพลังขึ้นไปในท้องฟ้า
ราชันย์พันปีศาจรู้สึกหงุดหงิด
เนื่องจากเขาพลาดโอกาสฆ่าเย่ว์หยางในวันนี้ ในอนาคตเขาคงไม่มีโอกาสดีอย่างนั้นอีก
ด้วยความเติบโตก้าวหน้าของเย่ว์หยาง
เขาคงสามารถมาอยู่ในระดับพลังเดียวกันกับเขาภายในเดือนเดียวได้...
ต่อไปอีกหลายปี เด็กคนนี้จะเหนือกว่าเขา
ไม่ว่าจะต้องพยายามหนักเพียงไหน
ราชันย์พันปีศาจก็ยังต้องการอดทนจนกว่าจะฆ่าเย่ว์หยางได้
คุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็เหนื่อยหนักเช่นกัน แต่เขากัดฟันทน
ตราบใดที่เด็กคนนี้มีจุดบกพร่องบางอย่างที่เขาสามารถใช้ประโยชน์ได้ อย่างนั้นเขาก็จะตายแน่
น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่ว, ร่างแยกที่หนึ่งชี่เหยียนและร่างแยกที่สองชิงเยี่ยนไม่สามารถต่อสู้ได้ต่อไป ถ้าเทวทูตตกสวรรค์, มังกรปีศาจแดนสวรรค์,
ยักษ์ภูเขาหิมะและอสูรอื่นๆ ยังไม่ตาย
เขาคงไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ราชันย์พันปีศาจรู้ว่าเขาไม่มีความสามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป ถ้าเขายังสู้กับเย่ว์หยางต่อไป ก็คงไม่มีประโยชน์อะไรต่อไป นอกจากอันตรายมาก
คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะเย่ว์หยาง
ต่อให้เขาเอาชนะได้ เขาอาจจะถูกโจมตีจากจักรพรรดิชื่อตี้,
ราชาเฮยอวี้,
ร่างใหม่ของวิญญาณจ้าวปีศาจโบราณ, มารสัมฤทธิ์ฟ้า, จักรพรรดิมังกร,
จักรพรรดิใต้พิภพ, จักรพรรดินีราตรีหรือจื้อจุน เมื่อเขาหลบหนีผ่านประตูลับออกไป ร่างแยกที่หนึ่งชี่เหยียน,
ร่างแยกที่สองชิงเยี่ยนและผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่วบาดเจ็บหนักและยังฟื้นฟูพลังได้ไม่เต็มที่เป็นผู้ช่วยชุดสุดท้ายของเขา
ถ้าเขาสูญเสียคนใดคนหนึ่งไปก็จะมีผลกระทบใหญ่ต่ออำนาจโดยรวม
ไม่มีคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่สามารถสูญเสียสิ่งอื่นได้อีกต่อไป
“ไปซะ” ราชันย์พันปีศาจใช้พลังทั้งหมดป้องกันการโจมตี
และรับพลังโจมตีทั้งหมดจากคู่ต่อสู้
“เข้าใจแล้ว”
ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่ว, ชี่เหยียนและชิงเยี่ยนไม่ยอมเสียเวลา
แต่วิ่งไปที่ประตูลับทันที
“ปล่อยราชันย์พันปีศาจให้ข้าเอง ข้าพอรับมือเขาได้ พวกเจ้าตามไปฆ่าพวกนั้น...
ฉวยโอกาสนี้ฆ่าเขา ขณะที่เขาพลาดท่า!
วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะฆ่าราชันย์พันปีศาจ!”
รังสีฆ่าฟันของเย่ว์หยางพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาเอาเสาเจ็ดดาวและตั้งลงกับพื้น ขณะเดียวกัน เขาเรียกสนามพลัง “โลก”
จากคัมภีร์อัญเชิญเพื่อเพิ่มพลังให้เขา
แต่ทางฝั่งราชันย์พันปีศาจ โลกตกอยู่ในความยุ่งเหยิง และ “โลก”
กำลังดูดซับพลังงานรอบๆ ตัวของเขา
พลังเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่เย่ว์หยางสามารถสั่นสะท้านจิตใจราชันย์พันปีศาจด้วยหมัดเดียวได้
ทั้งสองคนไม่ประมาทและใช้อาวุธสมบัติหรืออสูรป้องกันตนเอง
ทั้งสองปะทะพลังหมัดกัน
ทั้งสองฝ่ายมีความอึดอดทน
เมื่อเผชิญกับหมัดสังหาร ทั้งคู่ไม่กล้าถอยหลัง หลังจากต่อสู้ยาวนาน
เขาจึงตระหนักได้ว่าเย่ว์หยางยังเก็บกักพลังที่ไม่ได้ใช้ออก
ถ้าเขาไม่ต้องการจะหลบหนีออกไปทางประตูลับ
เด็กคนนี้คงจะซ่อนความลับต่อไปและแกล้งอ่อนแอต่อสู้กับเขา
“สู้
สู้ สู้ สู้ สู้....” เย่ว์หยางระดมปล่อยหมัดเป็นพายุ
หมัดของเขามีความเร็วระดับเดียวกับราชันย์พันปีศาจ
จากนั้นก็เพิ่มความเร็วและมีพลังมากกว่าพลังโจมตีของราชันย์พันปีศาจ จนกระทั่งเขาไม่มีทางเลือกได้แต่เป็นฝ่ายตั้งรับ
“โธ่เว้ย..” ราชันย์พันปีศาจมีความรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์หยางจะแข็งแกร่งมากมายขนาดนี้
นี่เขาจะตายอยู่ที่นี่จริงๆ หรือ?
ราชันย์พันปีศาจรู้สึกตกใจและพลังของเขาระเบิดออก
ทำให้เย่ว์หยางกระเด็นถอยหลัง และเขารีบหลบหนีไปทางอื่นมุ่งหน้าสู่ประตูลับ
เย่ว์หยางไล่ตามเขาอย่างไม่ลดละ เขาไม่ยอมปล่อยให้ราชันย์พันปีศาจหนีห่างเขามากกว่าพันเมตร ถ้าราชันย์พันปีศาจหนีได้มากกว่าพันเมตร
เขาจะสามารถใช้การเทเลพอร์ตหรือผลึกเทเลพอร์ตหลบหนีออกไปนอกประตูลับหลบออกไปนอกโลกหิมะน้ำแข็งได้ ตราบใดที่เย่ว์หยางยังคงรักษาระยะพันเมตรไว้ได้
ราชันย์พันปีศาจไม่มีทางหลบหนีได้สำเร็จ
ราชันย์พันปีศาจหนีไปยังตำแหน่งตรงข้ามกับประตูลับ เขาไม่ตั้งใจจะหนีไปทันที
เขาต้องการสร้างโอกาสให้ผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่ว,
ร่างเหมือนที่หนึ่งชี่เหยียนและร่างเหมือนที่สองชิงเยี่ยนได้หลบหนี
ชี่เหยียน,
ชิงเยี่ยนและผู้อาวุโสปีศาจเยี่ยนซั่ววิ่งไปที่ประตูลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นประตูลับกำลังจะปิด...
หญิงสาวสองคนที่เข้าไปในคัมภีร์อัญเชิญเห็นได้ว่านางอยู่ด้านนอกประตูกำลังจ้องพวกเขาอย่างเย็นชา พวกนางถืออาวุธเทพอยู่ในมือ ถ้าพวกเขาคนใดคนหนึ่งวิ่งเข้าหาประตูลับ
คงโดนอาวุธเทพเล่นงานจนล้มลงตรงนั้นจากนั้นถูกประตูลับบดขยี้จนตาย
พวกเขาอยู่ในอาการสิ้นหวัง
ต่อให้หนึ่งในพวกเขาสามารถหลบหนีไปได้ แต่อีกสองคนคงไม่สามารถทำได้ ราชันย์พันปีศาจเจ้านายพวกเขายังคงอยู่ข้างใน
ชี่เหยียนและคนอื่นๆ
หยุดมองประตูลับปิดอย่างจนใจ
ศัตรูควบคุมประตูลับไว้ได้ตั้งแต่แรก
พวกเขาต้องการหลบหนีแต่ทำไม่ได้
พวกเขาได้แต่จนใจ...
ฮุยไท่หลางรวดเร็วที่สุด, อาหมัน,
ตั่วตั่ว, นางฟ้านักรบอิคคาและเด็กสาวยักษ์ไล่ตามพวกเขาไม่ห่างมากนัก
ถึงตอนนี้ ราชันย์พันปีศาจหยุดทันที
เหมือนกับว่าเขาเห็นว่าประตูลับปิดแล้ว
เขาถอนหายขอร้องเย่ว์หยางอย่างคาดไม่ถึง
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ข้าเกลียดเจ้าและเจ้าก็เกลียดข้าเช่นกัน แต่เราไม่จำเป็นต้องสู้กันจนตายในวันนี้
การทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้ราชาเฮยอวี้และจักรพรรดิชื่อตี้ชอบใจ อย่าลืมสิ ร่างใหม่ของวิญญาณจ้าวปีศาจโบราณยังอยู่ในหอทงเทียน เขายังเป็นเหมือนพยัคฆ์จ้องล่าเหยื่อ
เขาอาจแทรกซึมอยู่ในตระกูลของเจ้าและแอบอ้างเป็นสมาชิกก็ได้
การฆ่าข้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อให้เจ้าฆ่าข้า ข้าก็สามารถลากเจ้าไปกับข้าได้
เจ้าจะบาดเจ็บสาหัส และหลังจากนี้
เจ้าอาจไม่มีทางฟื้นคืนพลังและศักยภาพของเจ้าได้
คุณชายสามตระกูลเย่ว์
เราค่อยหาโอกาสประลองเสี่ยงชีวิตกันใหม่ก็ได้ เจ้าสามารถไปฆ่าราชาเฮยอวี้และจักรพรรดิชื่อตี้ก่อนก็ได้
เนื่องจากข้าไม่เป็นภัยคุกคามใหญ่ของเจ้าต่อไป ถ้าเจ้ายินดีจะปล่อยข้าไป ข้าจะบอกวิธีระบุถึงร่างใหม่ของวิญญาณจ้าวปีศาจโบราณเป็นการแลกเปลี่ยน
เจ้าไม่ต้องการรู้ว่าวิญญาณของจ้าวปีศาจโบราณกลายเป็นผู้ใดในวัฏฏจักรของเจ้าหรือ?”
“ข้าเกือบถูกเจ้าเกลี้ยกล่อมเสียแล้ว” เย่ว์หยางผงกศีรษะและพูดจริงจัง “สิ่งที่เจ้าพูดก็สมเหตุสมผลดี แต่ข้าอยากจะบอกเจ้าว่า ข้าไม่มีทางเชื่อถือศัตรู ต่อให้ศัตรูตายแล้วก็ตาม ข้าก็จะไม่มีทางเชื่อ ราชันย์พันปีศาจ เสียใจด้วยนะ
เจ้าไม่ควรเป็นศัตรูกับข้า
มีผลประการเดียวสำหรับการเป็นศัตรูกับข้า
และนั่นก็คือ..ตาย!”
15 ความคิดเห็น:
สุดยอดมาก ประโยคเด็ดเลย
จะเชื่อได้ยังไง ศัตรูแต่ละคนแม่ม หัวเสกันทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
ขอบคุณ๕รับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากคับ
“สู้ สู้ สู้ สู้ สู้....” เย่ว์หยางระดมปล่อยหมัดเป็นพายุ
ทำเอานึกถึง โอร่าๆๆๆๆๆ จากเรื่องโจโจ้เลยแฮะ 555+
ป.ล. ดูศึกนี้ชุลมุนแท้หนอ มีคนมากมายข้างนอกรอรวมแจมเต็มไปหมด
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับบบ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
#กาฝากหน่อยฮะ เทพมังกร / เทพสายฟ้า
https://www.facebook.com/noveldum
ความจริงมีเพียงหนึ่งเป็นศัตรูกูรคือตายนี่ล่ะความจริงพี่เย่
Thx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น