วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 368 ประกาศสงคราม



ตอนที่  368  ประกาศสงคราม
ฉีซานยอมจำนน
เรื่องนี้ทำให้ถังเทียนประหลาดใจ เขาคิดว่าฉีซานจะสู้ตายเสียอีก  และคาดไม่ถึงว่าเขาจะยอมจำนน  สิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องไตร่ตรองก็คือประโยคสุดท้ายที่เขาพูดก่อนจะถูกมัด

 “พวกเจ้าไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าข้าเป็นคนทำ”
ถังเทียนชื่นชมเขา ประโยคนั้นมีพลังมาก  ถ้าฉีซานสู้ตายแทนภายใต้อารมณ์ปั่นป่วนและเสียชีวิตระหว่างต่อสู้  จะไม่มีใครสามารถพูดอะไรได้  แต่ตอนนี้เขาพูดเช่นนั้น ทุกคนจะต้องไตร่ตรองให้ดี
ฉีซานพูดถูก
ไม่มีหลักฐานเป็นรูปธรรมเพื่อพิสูจน์ว่าการตายของอัสตาและการเกิดระเบิดเป็นฝีมือของฉีซาน  แม้ว่าฉีซานจะลอบเข้าคฤหาสน์กุหลาบทำให้ทุกคนในเหตุการณ์เชื่อว่าเป็นฉีซานที่ก่อเหตุก็ตาม
แต่การคาดเดา ก็จะเป็นการคาดเดาตลอดไป  พวกเขาไม่มีข้อพิสูจน์ว่าฉีซานทำ  แม้ว่าฉีซานจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกเนื่องจากปัญหา  แต่ตระกูลของเขาหยั่งรากฝังลึกในสมาพันธ์ชาวยุทธ  ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานแน่นอน  พวกเขาสามารถดึงเขาออกมาช้าๆ ได้
จูหนิงทำท่ากวนชวนโดนด่าขณะปล่อยให้ทหารยามมัดเขา
คำพูดของฉีซานทำให้คนของเขามีการตัดสินใจ
ประโยคที่สองของฉีซานทำให้พวกเขาผ่อนคลายมากขึ้น
 “ข้าส่งข้อความไปที่สมาพันธ์ชาวยุทธแล้ว  และพวกเขาจะส่งคนมาที่นี่ทันที”  สีหน้าของฉีซานมั่นคงและแววตาของเขาเยือกเย็น  “ไม่มีใครสามารถทำอันตรายสมาพันธ์ชาวยุทธได้ ต่อให้พวกมันต้องการก็ตาม”
จูหนิงพูดอย่างเย็นชา  “วิธีการที่พวกเจ้ากำลังมัดคุณชายของข้า  คุณชายของข้าก็จะทำให้พวกเจ้าแก้มัดเขาเช่นกัน”
คนทุกคนแสดงความโกรธ  แต่ไม่มีใครทำอะไร  ความรู้สึกเจ็บปวดจากคำพูดของเขา  ถ้าฉีซานถูกใส่ร้ายจริงๆ   และการจับกุมเขาโดยไม่มีหลักฐาน  พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เขายังฉลาดอยู่บ้าง
ถังเทียนผู้อยู่ในความมืดให้ความสนใจ  ตาของเขามีชั้นน้ำแข็งบาง  แต่น่าเสียดาย เขาไม่ต้องการจะทิ้งศัตรูไว้เบื้องหลัง  เขากระซิบเบาๆ สองสามคำต่อแอนเดรียนา  ทำให้หน้าของนางซีดขาวทันที  นางสูดหายใจลึกยืดอกและเดินมาข้างหน้า
 “เราไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานอะไร”
ขณะที่ทุกคนรู้สึกอึดอัด ร่างแข็งแกร่งร่างหนึ่งเดินออกมาจากความมืด เป็นแอนเดรียนา
ผู้ใหญ่สองสามคนคำนับนางทันที
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าห่วงนางฟ้ามาอยู่กับแอนเดรียนาได้อย่างไร  แต่นางก็คือผู้สืบทอดอันดับที่สาม และพวกเขารู้จักนิสัยนาง  ดังนั้นพวกเขาเข้าใจชัดว่านางคือใคร  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีใครรู้อะไรทั้งนั้น  แต่ทุกอย่างที่ออกมา ผลที่มีต่อกลุ่มดาวอันโดรเมดายังนับว่ามีโชคดีในโชคร้าย
แอนเดรียนามีอำนาจกลายเป็นหนึ่งในผู้มีคุณสมบัติได้รับห่วงนางฟ้า และบิดาของนาง ทาร์ตันก็มีกองพลทหารราบ และนั่นคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด
กลุ่มดาวอันโดรเมดาซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในสภาพวุ่นวาย  ความมั่นคงคือสิ่งที่สำคัญที่สุด  ขอเพียงมีความมั่นคงทุกคนก็ย่อมได้รับประโยชน์
 “ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานหรือ?  งั้นพวกเจ้าทุกคนต้องการฆ่าศิษย์สำคัญของสมาพันธ์ชาวยุทธใช่ไหม?”  จูหนิงหัวเราะเหมือนกับว่าเขาได้ยินเรื่องที่น่าตลกที่สุดของปี  “เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและจะไม่มีทางเกิดขึ้น”
เมื่อเห็นจูหนิง แววเกลียดฉายผ่านดวงตาของแอนเดรียนา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นปรากฏขึ้นในใจนาง  นางเชิดหน้าและเดินตรงไปที่จูหนิง
จูหนิงพูด  “อะไร? เว้นแต่เจ้าต้องการ...”
ซวบ!
ก่อนที่จูหนิงจะพูดจบประโยค  สีหน้าและร่างของเขาชะงักค้าง  ขณะที่เขาจ้องมองแอนเดรียนาอย่างเหลือเชื่อ
แอนเดรียนาปล่อยมีดในมือนาง จากนั้นล้วงผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาเช็ดเลือด เพราะเหตุผลบางอย่างนางไม่ได้รู้สึกเหมือนฆาตกรแม้แต่น้อย  เหมือนกับว่านางยิ่งเห็นเขานานก็ยิ่งรู้สึกรังเกียจ ดังนั้นหัวใจนางจึงขุ่นมัว
นางหัวเราะเองในใจ
ทุกคนจ้องมองแอนเดรียนาอย่างตกใจ  แอนเดรียนาที่อยู่ต่อหน้านั้น พวกเขาไม่ค่อยคุ้นเคย
 “แพศยา!” ฉีซานโกรธจัดและยืดตัว เขาดิ้นรนสุดกำลัง แต่ชีพจรทั้งหมดของเขาถูกปราณแท้ผนึกไว้และไม่สามารถกระตุ้นพลังได้อีกต่อไป  เขาถลึงตามองนาง “ข้าจะย่ำกลุ่มดาวอันโดรเมดาให้ราบแน่นอน  ต้องทำอย่างแน่นอน”
 “เจ้าจะไม่มีโอกาส”
แอนเดรียนาเดินช้าๆ เข้าหาฉีซาน  แม้แต่ใบหน้าหล่อเหลาก็ยังทำให้นางรู้สึกรังเกียจ  ชีวิตที่มีอิสระของนางถูกเขาทำลาย ในช่วงไม่กี่วันมานี้ อิสระของนางดูเหมือนถูกพรากไปตลอดชีวิต  นางจะสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายทุกคืน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาประทานให้
ถ้าเขาไม่อยู่ที่นี่  นางจะยังใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ  พี่แรนดีจะกลายเป็นเจ้าปกครองกลุ่มดาว และทุกคนจะอยู่ในอุทยานหลังวังเทพธิดาจิบชาสนทนากัน
แต่ไม่มีความว่าถ้า  วังเทพธิดาหายไปแล้ว  แรนดีตายแล้ว  และอีกหลายคนตายแล้ว
แอนเดรียนาหลั่งน้ำตานองหน้า  แต่นางอดกลั้นทุกสิ่งอย่าง  หลังจากผ่านไปสองสามวัน นางถึงได้รู้ว่าน้ำตาช่วยอะไรไม่ได้  แม้ว่านางจะไม่สามารถทำตัวเยือกเย็นและไร้ความรู้สึกได้อย่างเขา แต่นางก็ก้าวหน้าได้เช่นกัน
นางจ้องมองฉีซาน ใจของนางสงบอย่างประหลาด
 “จากวันนี้เป็นต้นไป  กลุ่มดาวอันโดรเมดาขอประกาศสงครามกับสมาพันธ์ชาวยุทธ!
ฉีซานตกใจมองดูแอนเดรียนา  “เจ้าบ้าไปแล้ว!  เจ้าต้องบ้าอย่างแน่นอน!  เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไร?  เจ้าต้องการทำให้กลุ่มดาวอันโดรเมดาพินาศใช่ไหม?  เจ้าพวกมดแมลง บังอาจประกาศสงครามกับสมาพันธ์ชาวยุทธเชียวหรือ?”
แอนเดรียนาไม่มองเขา  นางหมุนตัวพลางมองคนอื่นทุกคนซึ่งอยู่ในอาการตกใจ
 “กลุ่มดาวอันโดรเมดาของเราอ่อนโยนและรักสันติไม่เคยต่อสู้รบพุ่งกับกลุ่มดาวอื่นมาก่อน!  กลุ่มดาวอันโดรเมดาของเราปฏิบัติต่อผู้คนอย่างสันติและเป็นกันเองและแม้กับคนหยิ่งจองหองอย่างนั้น  เราก็ยังปฏิบัติกับพวกเขาเป็นอย่างดีด้วยหัวใจของเราทั้งหมด!  หลักฐานเล่า?  เราต้องการหลักฐานจริงๆ หรือ?  หลักฐานเรื่องนี้อยู่ที่ไหน?  นี่คือกลุ่มดาวอันโดรเมดา!  บ้านของเรา!  สถานที่บรรพบุรุษของเราอยู่อาศัยและสร้างมันขึ้นมา  นี่คือแผ่นดินเกิดของเรา, และมันต้องการให้เราปกป้องมันด้วยชีวิตของพวกเราทุกคน!  ศักดิ์ศรีของพวกเราถูกย่ำยี, พวกผู้นำและผู้อาวุโสของเราถูกลอบสังหาร, ไม่มีใครรอดชีวิต  พวกเรายังต้องหลักฐานไหม?  หลักฐานทำให้คนตายมีชีวิตไหม?  หลักฐานทำให้วังเทพธิดากลับมาปรากฏดังเดิมหรือเปล่า? หลักฐานสามารถนำพาชีวิตแบบเก่าของเรากลับมาได้หรือ? ไม่, ไม่มีทาง! เราไม่มีทางถอยได้!  เราถูกบีบบังคับที่หน้าประตูของเรา, และทุกพื้นที่นองไปด้วยเลือด  ขณะที่เบื้องหลังของเราคือครอบครัวตระกูลของเรา, ญาติพี่น้องเรา, คิดจะถอยหรือ?  เรายังจะถอยไปไหนได้, ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว,  เราถอยไม่ได้แล้ว”
แอนเดรียนาไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป
เสียงของนางกังวานกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า และดูเหมือนหมู่เมฆยังสั่นเพราะน้ำเสียงของนาง
พลเมืองชาวกลุ่มดาวอันโดรเมดาทุกคนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนเริ่มหลั่งน้ำตา  กลุ่มดาวอันโดรเมดาไม่เคยเห็นไฟสงครามมาก่อน ความสามารถต่อสู้ของทุกคนมีขีดจำกัดและมีมาตรฐานต่ำมาก ไม่เคยมีใครมีประสบการณ์เจ็บปวดและทุกข์ทนจากสงครามมาก่อน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สูญเสียญาติ  ทุกคนเริ่มสะอื้นอย่างเจ็บปวด
สีหน้าของฉีซานซีดขาว  ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว,  นางบ้าไปแล้ว!
แอนเดรียนาปาดน้ำตา  นางถอดห่วงนางฟ้าจากข้อมือและชูขึ้นเหนือศีรษะนาง  ห่วงนางฟ้าเปล่งแสงแพรวพราวเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์  นครเทพสตรีสว่างจ้า  พลังของกลุ่มดาวอันโดรเมดาค่อยๆ ถูกกระตุ้น  ระลอกพลังกระจายออกไปทุกซอกมุมของกลุ่มดาวอันโดรเมดา
ร่างของแอนเดรียนาพร่าเลือนอยู่ในภายแสง มีแต่เสียงที่ยืนยันและแน่วแน่ของนางดังก้องไปทั้งกลุ่มดาวอันโดรเมดา
 “ถ้าศักดิ์ศรีของเราจำเป็นต้องกอบกู้คืนมาด้วยเลือด อย่างนั้นเราจะใช้เลือดกอบกู้คืนมา!  ถ้าเราจำเป็นต้องปกป้องบ้านเกิดของเราด้วยชีวิต  อย่างนั้นพวกเราจะสละชีวิตเพื่อทำเช่นนั้น!  ความโกรธเกลียดและหนี้เลือดของเราจะต้องชดใช้ด้วยเลือด!  ข้า แอนเดรียนา เจ้าปกครองกลุ่มดาวอันโดรเมดา ในนามตัวแทนผู้แค้นเคืองขอประกาศสงครามกับสมาพันธ์ชาวยุทธ!
ดวงตาที่แพรวพราวของแอนเดรียนาทำให้ทุกคนมีอารมณ์โกรธ  “สงคราม!
 “สงคราม!
เสียงตะโกนดังไปทั่วกลุ่มดาวอันโดรเมดาเหมือนกับพายุ
ฉีซานดูเหมือนจะสูญเสียวิญญาณ  สีหน้าของเขาตื่นตระหนก
 “ฆ่าเขา!
แอนเดรียนาตะโกนอย่างเคร่งขรึม
ฉัวะ ฉัวะ ฉัว!
สารพัดอาวุธต่างแทงฟันใส่ฉีซาน
ถังเทียนกับหมิงเยี่ยเผชิญหน้ากัน  ทันทีที่แอนเดรียนาเดินออกมา หลังจากพูดกับถังเทียน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงยอดฝีมืออำพรางตัวและสอดแนมดูทุกอย่าง เขาคาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นสตรีอาณาจักรกระบี่
 “ปฏิบัติการที่ดี!  วิธีการที่ยอดเยี่ยม!” เมื่อได้ยินคำพูดของแอนเดรียนา  หมิงเยี่ยอดตื่นเต้นไม่ได้  การกระทำและคำพูดของแอนเดรียนาทำให้หมิงเยี่ยรู้สึกชื่นชมนาง  แม้ว่าดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจหุนหันพลันแล่นที่ประกาศสงคราม  แต่จะไม่มีอันตรายมากนัก
เพราะมีกลุ่มดาวราชสีห์อยู่ด้วย  พวกเขาคงไม่ยอมนั่งดูเฉยๆ เป็นแน่
ศัตรูของศัตรูเราก็คือสหายเราไปโดยปริยาย  เรื่องง่ายเช่นนี้พระยาราชสีห์เลโอนย่อมรู้แน่นอน
 “นั่นไม่ใช่ปฏิบัติการที่ดีนัก”  ถังเทียนพูดทันที  เขาสามารถได้ยินความเจ็บปวดใจของแอนเดรียนา  การประกาศสงครามเป็นความคิดของเขา  แต่คำพูดและอารมณ์ของแอนเดรียนาเป็นของจริง
 “ฉีซานไม่ควรตายที่นี่”  หมิงเยี่ยพูด แต่เมื่อพูดออกมา  นางรู้ว่านางพูดเรื่องไม่ควร
ตามคาด เสียงของถังเทียนเต็มไปด้วยความเย้นหยัน เขากล่าว “แต่เขาก็ตายแล้ว”
 “ท่านเป็นใครกันแน่?”  หมิงเยี่ยมองถังเทียนกล่าว “ซ่างหวั่นถิงไม่เคยมีลูกศิษย์”
 “แล้วอาณาจักรกระบี่เล่า?”  ถังเทียนพูดเย็นชา  “กฎสำหรับศิษย์อาณาจักรกระบี่ไม่อนุญาตให้พวกเขาออกจากที่เว้นแต่บรรลุขั้นเซียน”
ตาของหมิงเยี่ยเป็นประกาย  “ท่านคุ้นเคยกับอาณาจักรกระบี่จริงๆ!  ท่านมาจากตำหนักไหน?  เป็นศิษย์ของใคร?”
ถังเทียนไม่สนใจนาง  ทุกคนที่มาจากอาณาจักรกระบี่เป็นพวกบ้า ชายก็บ้า หญิงก็เพี้ยน  แม้ว่าพวกเขาจะมีวาสนาอยู่บ้าง  แม้เสียงของนางจะสุภาพ  แต่แววหยิ่งยโสทำให้ถังเทียนไม่ชอบนาง
 “ถ้าเจ้าไม่พูด  อย่างนั้นข้าจะค้นหาด้วยตัวเอง!  หมิงเยี่ยแค่นเสียง  ร่างของนางไวราวกับสายฟ้า กระบี่ขาวของนางไม่ได้ชักออกจากฝัก
รังสีอำมหิตของถังเทียนกระจายออก แม้ว่าเขาจะกังวลเรื่องฉากหลังของนาง  แต่เพราะนางยังคงตอแยต่อไป ทำให้เขารู้สึกอยากฆ่านาง  เขารู้สึกแต่เพียงว่าเขายุ่งยากพอแล้ว   และไม่ต้องการรุนแรงมากไปกว่านี้  ไม่ใช่เพราะเขาเก็บงำความกลัวต่ออาณาจักรกระบี่แต่อย่างใด
และถังเทียนสงสัยว่าหมิงเยี่ยจะหาเรื่องยุ่งให้กับเขาผ่านแอนเดรียนา  เขาหาผู้รับใช้ที่เหมาะสมได้อย่างยากลำบาก เขาไม่ต้องการให้นางตายเร็วเกินไป
คงจะดีกว่าถ้าเขาฆ่านาง!
ทันทีที่รังสีอำมหิตทะลักออกมาจากใจของถังเทียน  หมิงเยี่ยรู้ได้ และใจนางสั่นสะท้าน  แต่สิ่งที่ทำให้นางกลัวก็คือ เขารู้ว่านางเป็นศิษย์จากอาณาจักรกระบี่  แต่เขาก็ยังสามารถเปล่งรังสีฆ่าฟันได้  นั่นหมายความว่าเขาไม่กลัวอาณาจักรกระบี่
เขาคือใครกันแน่?
หมิงเยี่ยหมุนตัวกลางท้องฟ้าทันที และบินไปในท้องฟ้าเหมือนกับนกสีขาว
 “เราคงได้พบกันอีก”
เสียงเย็นชาของหมิงเยี่ยดังอยู่ในท้องฟ้า
ถังเทียนรู้สึกปวดศีรษะทันที  นางรู้สัมพันธ์ระหว่างเขากับแอนเดรียนา และนั่นอาจเป็นอันตรายแน่นอน
เมื่อหันไปมองตำแหน่งที่หมิงเยี่ยหายไป สีหน้าเขาแสดงอารมณ์อยู่ชั่วขณะ จากนั้นเขาเก็บอารมณ์ทั้งหมดลงสู่ความมืดมิดต่อไป
นั่นคือวันที่เจ็ด
เวลาเหลืออยู่ไม่มาก  เขายังมีอยู่สองสามเรื่องที่เหลือต้องเตรียมตัว และเขาไม่มีเวลาจะเสียให้กับสตรีประหลาด  เสียงของแอนเดรียนาประกาศสงครามทันทีสร้างความประหลาดใจให้เขา  แต่เมื่อคิดดูแล้ว และสาเหตุของเรื่องนั้น ก็ไม่ห่างจากที่เขาวางแผนไว้
เวลาสิบห้าวันช่างสั้นเสียจริง

11 ความคิดเห็น:

mikgi กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
mikgi กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มา 2 ตอนเลย

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

อีกสองเรื่องสินะ..หวังว่ามันจะเป็นเรื่องดี

Unknown กล่าวว่า...

ติดเรื่องนี้มอมแมมเลย ตั้งเวลาไว้บ่าย3 ตื่นมาอ่านทุกวันกันเลยทีเดียว555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

thay64 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น