วันอังคารที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 378 ต่อสู้ดุเดือด


ตอนที่  378  ต่อสู้ดุเดือด
 ร่างของถังเทียนหายไปในอากาศทันที


กระบี่แสงที่จีเสี่ยวหย่ากวัดแกว่งเพิ่งจะปรากฏออกมาครึ่งเดียว ม่านตาของนางหดลีบ, ไวมาก
ทันใดนั้นเงาร่างมาปรากฏที่ด้านซ้ายของนาง  ประกายแสงจากด้านซ้ายของนางทำให้นางตาพร่า  เป็นกรงเล็บโจมตีข้างหนึ่ง  นางใช้ฝ่ามือซ้ายป้องกันการโจมตีนั้น พลังนั้นทำให้ไหล่ซ้ายของนางรู้สึกชาจากการป้องกัน
พลังโจมตีทางกายภาพที่หนักหน่วงในระยะใกล้คือจุดอ่อนของนาง  พลังโจมตีดันนางถอยออกไปสองเมตร
แต่จีเสี่ยวหย่าเป็นนักสู้ระดับทอง  ที่สำคัญนางมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย  ขณะที่ฝ่ามือของนางป้องกันพลังโจมตีของกรงเล็บ  นางจัดการกระจายสลายพลังออกไปจากนาง  แม้ว่านางจะเสี่ยงต่อการโจมตีดังกล่าว
นางสามารถหลบการโจมตีได้
เหมือนกับว่าถังเทียนจะทราบการเคลื่อนไหวของนาง ขณะที่เขาหายไปอีกครั้งและรุกใส่อีกครั้ง
ทันใดนั้น นางสามารถได้ยินเสียงลมหวีดหวิวจากด้านหลังของนาง  จีเสี่ยวหย่าไม่ประมาท  นางสร้างกระบี่แสงและแปลงพลังเป็นโล่  มีเสียงดังปังและประกายไฟกระจาย  พลังดันนางไปเจ็ดเมตร
ขณะที่นางพยายามรักษาสมดุล เสียงหวีดหวิวที่ได้ยินชัดดังมาจากด้านบนอีก
จีเสี่ยวหย่ายื่นฝ่ามือซ้ายออกไปป้องการพลังโจมตี  ปัง!   พลังที่แข็งแกร่งกว่าการโจมตีสองครั้งก่อน  แขนของนางอ่อนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากพลังโจมตีบังคับให้นางต้องคุกเข่าลงกับพื้น
นางร่วงลงกับพื้นแรง ตุ้บ... ฝุ่นและทรายฟุ้งไปทั่วสนามต่อสู้
การแสดงพลังที่น่ากลัวทำให้นางต้องเพิ่มความระวังสำหรับการโจมตีที่จะมาจากทุกด้าน  ความโกรธในตัวนางรุนแรงจนถึงขีดสุด  นางไม่อยากเชื่อเลยว่านางจะถูกตรึงโดยนักสู้ที่อ่อนแอกว่า
เป็นเวลานานมากตั้งแต่นางพบเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก
นักสู้ระดับทองในสมาพันธ์ชาวยุทธล้วนได้รับความเคารพทุกคน  สาขาทองที่สิบสามอยู่ในศูนย์กลางอำนาจ  แต่ละสาขาจะมีนักสู้แข็งแกร่งทรงพลังนับไม่ถ้วน
พลังของนักสู้ระดับทองยิ่งใหญ่มากกว่าผู้อาวุโสคนใดๆ เสียอีก
นักสู้เหล่านี้ถือดีและถูกมองว่าเป็นนักรบที่ทรงพลัง  จีเสี่ยวหย่าเป็นนักสู้ระดับทอง ตัวนางเองในตอนนี้ถูกถังเทียนต้อนเข้ามุม ความหยิ่งที่นางมีมาเป็นเวลานานถูกบดขยี้ด้วยพลังที่คาดไม่ถึงของถังเทียน  แม้ว่าเขาจะใช้แต่เพียงความเคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่กี่ท่าก็ตาม
นางจำได้ว่าผู้อาวุโสมอบหมายให้นางเชิญถังเทียนเข้าสำนักอย่างจริงใจ แต่ตอนนี้มีแต่เพียงความคิดในใจนางก็คือฆ่าถังเทียนเพื่อล้างแค้นที่ทำร้ายความภาคภูมิใจของนางจนขาดรุ่งริ่ง
กระบี่แสงตอนนี้เปลี่ยนสภาพเข้ามาอยู่ในฝ่ามือนางทั้งหมด  สายลมมาจากทางด้านขวาของนาง จากนั้นเพียงพริบตาก็ทำให้นางตาพร่า  นางสะบัดกระบี่นางไปทางตำแหน่งนั้นชิงรุกแทนรับ
เป๊ง!
เสียงเยือกเย็นเสียดถึงกระดูกสันหลังปะทะกันในอากาศ  รังสีเป็นประกายบินไปทั่วทั้งอากาศ
ขณะที่นางเหวี่ยงกระบี่  บ้านหลังเล็กอยู่ไม่ไกลออกไปถูกฟันกลายเป็นสองส่วนจากพลังโจมตี
โครม...
จากด้านล่างจีเสี่ยวหย่า รัศมีสามร้อยเมตรห่างจากเขตเมืองถูกทำลาย  ทั่วทั้งพื้นที่อยู่ในควันและฝุ่นและชิ้นส่วนเศษเล็กเศษน้อย
พลังของวิชากระบี่สร้างความตกใจให้กับผู้สังเกตการณ์มองดูการต่อสู้
สิ่งที่น่าตกใจก็คือ พื้นที่นี้คือพื้นที่ทำธุรกิจและร้านค้ามีอยู่หนาแน่น เพื่อป้องกันการถูกลักขโมย ร้านเหล่านี้ได้เสริมความแข็งแรงด้วยวัสดุที่แข็งแรง  นักสู้ทั่วไปไม่มีพลังพอจะทำลายผนังกำแพงเหล่านี้
แต่ด้วยการฟาดฟันกระบี่ของนาง  ร้านค้าเหล่านี้เหลืออยู่แต่เพียงซากอิฐปูน
พวกที่มองดูเหตุการณ์ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด  ตอนแรกพวกเขาคิดว่าระยะของพวกเขานั้นปลอดภัยเพียงพอจะดูการต่อสู้  แต่หลังจากเห็นพลังวิชากระบี่ของจีเสี่ยวหย่า  พวกเขาทุกคนในตอนนี้กลัวว่าพวกเขาจะอยู่ในวิถีของการต่อสู้
อย่างไรก็ตาม  ใช่ว่าผู้ดูทุกคนจะขลาดกลัว
บุรุษสองคนที่มีท่าทีดุร้ายกำลังสนทนากันอยู่พื้นหลัง
บุรุษศีรษะล้านหัวเราะ  “พลังโจมตีของจีเสี่ยวหย่ามีชื่อว่ารังสีกระบี่ฉลาม เป็นสุดยอดวิชาโดดเด่น ยังนับว่าดีกว่าวิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียน  ปัจจุบันนี้นางยังสวมเกราะครีบปลาบินซึ่งมาจากกลุ่มดาวปลาบิน  ข้าได้ยินว่านางใช้พลังภายในของนางปรับแต่งและเสริมพลังของเกราะเกินกว่าสิบปีโดยไม่เปลี่ยนมันเลย  พลังของมันในตอนนี้อาจจะเทียบเท่ากับสมบัติระดับเซียน แค่เป็นรองเกราะระดับทองเล็กน้อย
บุรุษผอมพูดอย่างใจเย็น  “ข้าได้ยินมาว่านางเป็นนักรบที่มีพรสวรรค์มีความอดทน แข็งแรงและมีความรู้ความสามารถมาก  แม้ว่าเกราะครีบปลาบินจะอยู่ในระดับต่ำ  แต่มันก็สามารถเสริมสุดยอดวิชาโดดเด่นทำให้มันใช้พลังได้เต็มที่  ถ้ากลุ่มดาวครีบปลาบินรู้เรื่องนี้  บางทีพวกเขาอาจไปร่วมกับกลุ่มดาวราชสีห์ก็เป็นได้”
 “ฮ่าฮ่า นั่นสินะ”  บุรุษหัวล้านตอบพลางหัวเราะพลาง  “ถ้าจีเสี่ยวหย่าสามารถปรับแต่งและพัฒนาเกราะครีบปลาบินให้เป็นสมบัติชั้นทองได้จริงๆ  สมาพันธ์ชาวยุทธคงจะต้องการพิชิตกลุ่มดาวปลาบินด้วยตัวเองเพื่อสร้างเกราะสมบัติแห่งกลุ่มดาวปลาบินแน่”
บุรุษผอมตอบ  “พวกเขาคงไม่กล้า  เพราะมันจะทำให้เป็นศัตรูกับกลุ่มดาวอื่นทั้งหมดในสวรรค์วิถี  สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธที่กลายเป็นองค์กรใหญ่ในวันนี้คล้ายกับองค์การวิญญาณมืดของเรา เป็นเพราะไม่ได้พยายามกลายเป็นเจ้าปกครองจักรวาล  ถ้าพวกเขาทำลายกฎนี้  สมาพันธ์ของพวกเขาจะต้องเผชิญกับความโกรธแค้นของกลุ่มดาวอื่น”
 “เจ้าพูดถูกเรื่องนั้น”  บุรุษศีรษะล้านพยักหน้า  “ข้าประหลาดใจกับศักยภาพของถังเทียน  แต่ในยามเผชิญหน้ากับจีเสี่ยวหย่า  เขาก็ยังไม่พลาดพลั้งจากพลังโจมตีของนาง  หลายๆ คนพยายามเชี่ยวชาญสุดยอดวิชาโดดเด่น, ท่าเท้าลมพราง แต่มีคนประสบความสำเร็จได้น้อย  อย่างไรก็ตาม ถังเทียนสามารถเชี่ยวชาญได้ในระยะเวลาสั้นๆได้  แม้แต่วิชากรงเล็บเพลิงภูตพรายของเขาก็เชี่ยวชาญจนกลายเป็นสุดยอดวิชาโดดเด่น ข้าต้องการรู้จริงๆว่าสภาพใจของเขาทำงานยังไงจึงเชี่ยวชาญวิชาเหล่านี้ได้รวดเร็วนัก”
บุรุษผอมพูดไม่ออก  เขาก็เช่นกันที่ประหลาดใจกับพลังของถังเทียน
อาเฮ่อและหลิงซิ่วอ้าปากสูดหายใจลึก  แต่ไม่มีใครกล้าละสายตาจากการต่อสู้ เหงื่อไหลย้อยมาตามใบหน้าของพวกเขา  พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา
ข้างหน้าของพวกเขามีนักสู้ร่างสูงใหญ่ปรากฏตัว  เขามีร่างที่สูงเด่นและสง่างาม
 “ข้าลู่ไห่คนของสาขาทองที่สิบสามแห่งสมาพันธ์ชาวยุทธ”
เสียงอู้อี้ของเขาดูเหมือนจะลากความกลัวออกมาจากศัตรูของเขา  ด้วยส่วนสูงสี่เมตรและร่างล่ำสัน ทำให้เขาดูเหมือนยักษ์แต่ครั้งโบราณกาล  ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือย อุดมไปด้วยมัดกล้ามเป็นลอนเหมือนคลื่น  ไหล่ของเขาซึ่งกว้างกว่าต้นขาด้านบนของเขาสักเป็นรูปปีศาจสีทองคลุมทั้งหมด
เขามีท่าทางขึงขัง  ทุกย่างก้าวที่เดินทำให้พื้นสั่นสะเทือน
 “พวกเจ้าจะยอมแพ้หรือยอมตาย!
เสียงทุ้มลึกดังใกล้เข้ามา
หลิงซิ่วลุกขึ้นยืนทันทีและขยับคอได้เสียงเสียงกระดูกลั่นแครก จากนั้นเขากล่าว “เฮ้, เสี่ยวเฮ่อ ถอยไปก่อน”
อาเฮ่อยืนขึ้นขณะที่เขาปาดเหงื่อจากหน้าผาก  เขาค่อยๆ ดึงขวดน้ำออกมาและอธิบาย “ข้าต้องการให้ตัวเองมีความชุ่มชื้นมากขึ้น  ข้าเสียเหงื่อมากเกินไปหน่อย”
หลิงซิ่วไม่พอใจ  “เฮ้, เจ้าคนสุขุมาลชาติ  ก็แค่ให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่เข้ามาแทรกแซงเมื่อข้าสังหารเจ้ายักษ์โง่นี่ในหอกเดียว”
อาเฮ่อเตือนอย่างสุภาพ  “ในฐานะพยาน ข้ายังคงมีส่วนแบ่งในเหตุการณ์นี้  เจ้าแบกรับไว้คนเดียวไม่ใช่วิธีปฏิบัติต่อสหายที่ดี”
 “ฮ่า” เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาจากปากหลิงซิ่ว  ใบหน้าที่ห้าวหาญและม่านตาสีเพลิงของเขาที่เหมือนมอดมานาน บัดนี้กลับลุกโชนเหมือนเป็นทะเลเพลิงอีกครั้ง
นักสู้ระดับทอง?
เขาเลียริมฝีปากของเขาด้วยลิ้นแดง ขณะที่เขากวาดตาจากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง เหมือนกับเขากำลังจับจ้องเหยื่อเตรียมพร้อมกระโจนเข้าใส่ได้ทุกเมื่อ
หอกเงินปรากฏในมือของเขาขณะที่เขาค่อยๆ ลูบมันซึ่งเหมือนอสูรมีเขี้ยวแหลมคมมองเหยื่อ
ด้านล่างเขา นกฟลามิงเงียบเป็นพิเศษ ตอนนี้มันพร้อมแล้ว
อาเฮ่อดื่มน้ำช้าๆ เขาพริ้มตาขณะดื่มด่ำกับรสชาติของเครื่องดื่ม ชุดนักสู้สีดำของเขาพัดพลิ้วเป็นระลอกในสายลม
ทันใดนั้นยิ้มที่อบอุ่นของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นเหมือนมีกระแสนุ่มนวล  ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาที่สามารถทำให้หญิงสาวสะเทิ้นอาย กลับมีราศีที่เฉียบคม
เขายังยืนอยู่ในความเงียบ ร่างสูงโปร่งของเขากับรอยยิ้มบนใบหน้าที่สุดหยั่งคาดค่อยๆ กลายสภาพเป็นเฉยชา
 “อะไร?”
ลู่ไห่หยุดอยู่กับที่ นัยน์ตาครึ่งหลับครึ่งตื่นของเขาตอนนี้เบิกกว้าง
นี่ชักน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักสู้ระดับทอง วิชาอย่างนั้นไม่มีอะไรน่าตกใจพอจุดประกายเรียกความสนใจของเขา
 “ฆ่า!
หลิงซิ่วโห่ร้องขณะกระตุ้นฟลามิงโกของเขาซึ่งลากตัวมันเป็นเพลิงยาวเหมือนสายเพลิง
ทัศนวิสัยการมองของหลิงซิ่วเริ่มพร่ามัวและลมแรงกระโชกใส่ซึ่งเกิดจากความเร็วของฟลามิงโกทำให้เขายากจะเห็นได้ รู้สึกเหมือนกับว่าเขาตกอยู่ในเพลิง  รัศมีร้อนแรงของฟลามิงที่แผ่ไปทั่วพื้นที่ราบ
ร่างที่ปรากฏในสายตาของเขาขยายใหญ่ขึ้นและชัดเจนขึ้นขณะที่มันใกล้เข้ามาจากระยะไกล
นักสู้ระดับทอง  นั่นคือนักสู้ระดับทองจริงๆ ด้วย
หลิงซิ่วถลึงมองอย่างดุดัน  เขาหมอบต่ำและถือหอกเงินในแนวนอน  นิ้วที่จับหอกคลายจากการยืดช้าๆ
ลู่ไห่ผงะ เนื่องจากที่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอัศวินหลังม้าที่ขี่อสูรจักรกล  เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นอัศวินขี่อสูรจักรกลในการรบที่มีมาตรฐานสูง  ปกติจะใช้อสูรดวงดาวแทน
อสูรจักรกลรวดเร็วมากและมีพลังที่แข็งแกร่งซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับลู่ไห่  รังสีนักสู้ของอัศวินผู้ขับขี่ดูเหมือนจะหลอมรวมกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน
พลังที่น่ากลัวจริงๆ
ลู่ไห่ผิดหวัง  ถ้าคนแบบนี้ร่วมกับสาขาทองของพวกเขา  เขาสามารถฝึกฝนให้เป็นนักสู้ระดับทองได้  ไม่น่าแปลกใจเลยว่าหัวหน้าสาขาถึงได้เตือนแล้วเตือนล่าว่าต้องการเขา
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือคนทั้งสองนี้
ลู่ไห่ไม่ประหลาดใจ  อัจฉริยะมักจะหยิ่งผยอง  แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาพอใจ
ทันใดนั้นเขาตั้งท่าสู้ทันทีและยกแขนเสมอไหล่ จากนั้นรอยสักทองที่คลุมอยู่ที่แขนของเขากลายเป็นมีชีวิต แขนของเขาใหญ่อยู่แล้วพลันเพิ่มขนาด ตอนนี้ใหญ่พอๆ กับอกของเขา
เขาปลดปล่อยพลังเป็นเสียงระเบิดเสียงดัง ขณะที่เขาค่อยๆ รวบกำปั้น
เขาจับตามองหลิงซิ่วที่กำลังใกล้เข้ามา
หลิงซิ่วใช้หอกเงินซึ่งเหมือนกับมังกรรอการเข้าจู่โจม
พลังของหลิงซิ่วและฟลามิงโกถูกควบรวมอยู่ใหอก รัศมีที่ทรงพลังรวมกันอยู่ที่ปลายหอกทำให้ลู่ไห่ประหลาดใจ
จังหวะเวลาที่ดี!
พลังภายในดวงตาของลู่ไห่พลันเพิ่มขึ้นพรวดพราด  จากนั้นเขาปล่อยพลังโจมตีใส่หมัดขวา
ทันใดนั้นเขาเปลี่ยนสายตา
ร่างสูงโปร่งเลือนรางปรากฏอยู่เหนือหัวเขาทันที
มันมาพร้อมกับภาพกระบี่ที่พลิ้วไหวจากในระยะไกลเหมือนสายลม
 

8 ความคิดเห็น:

Muramasa กล่าวว่า...

โอ้ยยย. ปานจะขาดใจ

Sunrise กล่าวว่า...

หืมมมมมมมมมมมมมมมมม

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ มาแบบรัวๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

กะแล้วว่าต้องค้าง แต่ก็ยอมค้าง ฮื่อๆๆ

ธงชัย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

หมูน้อย กล่าวว่า...

ทุกวันนี้เหมือนติด อยู่บนยอดมะพล้าว จะลงก็ลงไม่ได้ ไครก็ได้หาทางลงให้ที

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เป็นตอนที่สู้มันโคตร ทั้งสองฝั่งเลย

แสดงความคิดเห็น