วันพุธที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 391 แผนรบที่หนึ่ง



ตอนที่  391  แผนรบที่หนึ่ง



กงจิ่วคิดว่าชัยชนะในการต่อสู้จะตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา  แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่า ฝ่ายศัตรูจะต่อต้านเขาได้อย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง

เฒ่าบอดซอกำศรวลก็มีพลังมากกว่าที่เขาคิด และสามารถสร้างความเสียหายให้กับอาหมิงได้  พอรุกไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็ถูกคุณชายขลุ่ยวิเศษขัดขวางอีก  แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงขุนพลวิญญาณ  แต่พลังของเขาก็ยังใช้ได้ดี ทำให้น้องสี่ตายและน้องห้าบาดเจ็บ  กงจิ่วยังดีใจที่คุณชายขลุ่ยวิเศษเป็นแค่เพียงขุนพลวิญญาณและไม่ใช่คนมีชีวิต
คนผู้นี้ต้องแข็งแกร่งทรงพลังมากเมื่อยามมีชีวิต
แต่กงจิ่วยังคงโกรธจัด  เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนั้น
โชคดีที่อุปสรรคถูกกำจัดไปในที่สุด  ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเป็นกองกำลังที่แสดงท่าทางเข้มแข็งแต่อ่อนแอมากกว่าที่เขาคาด  กงจิ่วปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันและตะโกนใส่ข้างบน  “ฆ่า!”
เมืองหย่งอันสร้างกองทัพจักรกล  แต่กงจิ่วไปตรวจสอบมาด้วยตนเองแล้ว  และในสายตาเขา กองทหารที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาเป็นแค่ตัวตลก  กงจิ่วแสยะยิ้มอย่างถือดี  อย่างไรก็ตาม อาวุธจักรกลวิญญาณก็ดึงดูดความสนใจเขาอยู่ดี  เมื่อสังเกตดูรายละเอียดเขาพบว่าถ้าเขาสามารถจับอาวุธจักรกลวิญญาณเหล่านี้ได้  พลังของกลุ่มโจรสายลมก็จะเพิ่มทวีคูณ
อาวุธจักรกลวิญญาณในปัจจุบันยังอยู่ในสภาพตั้งไข่  ถ้าเขาสามารถได้มาครองก่อนคนอื่น  เขาสามารถทิ้งชีวิตการเป็นโจรและกลายเป็นผู้ปกครองเผด็จการของสวรรค์วิถีได้อย่างแท้จริง
นักสู้ของกลุ่มโจรสายลมบุกเข้าหากลุ่มอาวุธจักรกลวิญญาณเหมือนคลื่นกระหน่ำใส่หน้าผา  ไม่มีใครที่ไม่ถูกความกระหายเลือดต้องการฆ่าครอบงำ
ไม่มีคนอ่อนแออยู่ในกลุ่มโจรสายลม  เสียงโห่ร้องประกาศศึกของพวกเขาลดลงเมื่อเข้าสู่สนามต่อสู้
ม่อจื่อหวีพยายามข่มความวิตกกังวลของเขา  จากการได้ฝึกฝนที่นี่มายาวนานนี่เป็นครั้งแรกของเขาในสนามรบ ใช้อาวุธจักรกลวิญญาณร่วมกับหินดวงดาวระดับหก พร้อมกับการ์ดวิทยายุทธอีกสามใบ  พวกเขาเตรียมพร้อมมากขึ้นต่อสู้เพื่อชีวิตพวกเขา
 “หน่วยที่หนึ่ง  เตรียมดำเนินตามกลยุทธที่หนึ่ง”
ม่อจื่อหวีตะโกนสุดเสียงจนรู้สึกเจ็บคอ  เขาก็เหมือนกับนักเรียนคนอื่นเช่นกันที่ตื่นเต้น  แผนรบแรกคือกลยุทธที่พวกเขาฝึกฝนด้วยกันเป็นส่วนใหญ่และพวกเขาคุ้นเคยกับการปฏิบัติการนี้ที่สุด
 “ฆ่า!”
ม่อจื่อหวีตวาดลั่นเปิดศึกแรกของกลุ่มเขา
อาวุธจักรกลวิญญาณสามแถวแรก ตั้งขบวนก้าวไปข้างหน้า แขนบรอนซ์มหึมาเรืองแสงระยิบระยับ
มีดบินยาวสามเมตรมากกว่าสามสิบเล่มบินตรงเข้าใส่กลุ่มโจรเหมือนกับม่านมีด
วิทยายุทธระดับหก หัตถ์มีดใหญ่
การโจมตีเป็นกลุ่มของนักสู้ เพราะความหนาแน่นของพลังโจมตี และยิ่งตกใจหนักกับการผสานพลังโจมตี  เป็นไปได้หรือที่คนสามสิบคนจะฝึกฝนในวิทยายุทธชนิดเดียวกัน?
รังสีเจิดจ้าจากมีดทั้งสามสิบสายมองดูละลานตา  เสียงมีดฝ่าอากาศดังหวีดหวิว
โชคดีที่พวกเขามีประสบการณ์การต่อสู้แบบนั้นมาก่อน   พวกที่มีวิชาตัวเบาก็หลบหลีกพลังโจมตีอย่างรวดเร็ว  พวกที่ไม่มีก็เตรียมตั้งรับการโจมตีที่กำลังจะมาถึง  วิทยายุทธที่ใช้ป้องกันถูกนำมาใช้  ขณะที่คนอื่นใช้สมบัติดวงดาวป้องกัน
บึ้ม!  บึ้ม!
พลังของหัตถ์มีดใหญ่ช่างน่ากลัว  ไม่มีเสียงครางเจ็บปวดจากนักสู้ผู้ซึมซับพลังโจมตีให้ได้ยิน
นักสู้คนหนึ่งที่หลบหลีกพลังโจมตีที่น่ากลัวด้วยวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม  ปล่อยให้เขาหลบหลีกอย่างช่ำชอง  เขาหลบการโจมตีสองครั้ง  แต่พลังรุนแรงมากจนเขารู้สึกว่ากระแสอากาศเฉือนแก้มของเขา
ฉัวะ!
เขารู้สึกเจ็บแปลบที่อกของเขา เลือดฉีดพุ่งออกมาจากรูขนาดกำปั้นที่อกของเขา
ใคร...
เขาดูสับสน รังสีเทาสิบสายหรือมากกว่านั้นเหมือนกับฝูงปลาที่คล่องแคล่วพุ่งเล็ดลอดมาระหว่างปลายมีด เหมือนกับนักล่าเงียบ พวกมันค่อยๆ เลือกเอาชีวิตพวกที่มันโจมตี
พวกที่หลบการโจมตีที่น่าทึ่งนี้จะไม่ได้ตั้งท่าป้องกันตัว รังสีเทาเล็ดลอดออกมาจากช่องว่างของรังสีดาบนับไม่ถ้วนไม่สามารถจะหลบหลีกได้
ฉัวะ.. โลหิตฉีดพุ่งกระจายทุกที่
นักสู้ที่โชคร้ายคนหนึ่งพยายามหลบอย่างเร่งร้อนถูกดาบฟันที่ศีรษะขาด
ฉากภาพที่น่ากลัวเช่นนั้นเกิดจากวิทยายุทธระดับหก ดรรชนีลอยลม
ผู้ที่รอดชีวิตจากการโจมตีก็คือพวกที่มีวิทยายุทธป้องกันที่น่ากลัว  พวกเขายังคงยืนปักหลักกับพื้น มองดูพี่น้องที่ล้มลงของพวกเขา  มีรูจำนวนมากในร่างของพวกเขา โลหิตฉีดพุ่งออกมาจากร่าง  บางคนได้รับบาดเจ็บบ้าง  ไม่มีผู้ใดไม่ได้รับบาดเจ็บหนัก
ทันใดนั้นม่านตาของพวกเขาหดลีบ หลังจากเห็นสิ่งที่อยู่ต่อหน้าของพวกเขา
โดยไม่สามารถจับร่องรอยที่เกิดขึ้น อาวุธจักรกลวิญญาณกระโจนขึ้นในอากาศ  แต่ละเครื่องมีรังสีหอกถืออยู่ในมือพวกเขา
มีอาวุธจักรกลวิญญาณบรอนซ์สามสิบชุด  แต่ละชุดสูงสามเมตรพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าใส่เหล่านักสู้เป็นภาพที่น่าทึ่ง
รังสีหอกระดมพุ่งลงมาดุจสายฝน
ผู้เหลือรอดของกลุ่มโจรสายลมถูกหอกแทงใส่ร่างกายมากมาย
วิทยายุทธระดับหก รังสีหอกเจิดจ้า
ปัง!
อาวุธจักรกลบรอนซ์ทั้งสามสิบลงมายืนบนพื้นพร้อมกัน  พื้นที่ต่อสู้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปหมด
ม่อจื่อหวีไม่อาจทำความเข้าใจกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่ข้างหน้า  เขามองดูพวกที่ล้มลง  ทุกคนนอนหมดแรงและเลือดไหลนองในพื้นที่
อาวุธจักรกลวิญญาณหน่วยที่หนึ่งมีการ์ดระดับหกสามใบใส่ไว้คือ หัตถ์มีดใหญ่, ดรรชนีลอยลมและรังสีหอกเจิดจ้า
กลยุทธที่หนึ่งความจริงก็คือการผสานวิทยายุทธที่แตกต่างกันสามวิชาและดำเนินการสอดคล้องประสานกัน
ถังโฉ่วรู้ว่าเขามีทักษะควบคุมรังสีไม่ดี  ดังนั้นเขาทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการฝึกในเรื่องแผนการรบและฝึกเพลงกระบี่ของเขา  ทุกส่วนของแผนรบในหน่วย ถังโฉ่วจะใส่ใจและวิญญาณทำความเข้าใจ  ใช่ว่าการ์ดวิชาฝีมือทุกรูปแบบจะสะสมกันได้ถึงร้อยใบ  และแต่ละใบจะมีคุณภาพที่คล้ายใบอื่นๆ
ความจริง ถังโฉ่วมีฝีมือสร้างแผนการรบที่น่ากลัวขึ้นมาก  แต่เขามีความสามารถจำกัดจึงต้องรับการ์ดวิญญาณที่มีคุณภาพระดับเดียวกัน
แม้ว่าจะเป็นเพียงการ์ดวิทยายุทธสามวิชา  แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาสามารถสะสมไว้ได้มากมายขนาดนี้
ขณะที่ถังโฉ่วกำหนดสร้างกลยุทธเหล่านี้ เขามักจะถูกนักเรียนถาม เนื่องจากไม่มีใครเคยทำเช่นนั้นสำเร็จมาก่อน  การ์ดวิทยายุทธปกติจะใช้พัฒนาอาวุธจักรกลวิญญาณ  แม้ว่าอาวุธจักรกลวิญญาณ จะมีการ์ดวิชาใส่เข้าไปในนั้น  แต่เป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะปล่อยพลังและอำนาจที่คล้ายกันขณะเปรียบเทียบพวกเขาที่ฝึกฝนการ์ดเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้นักเรียนมากยิ่งขึ้นก็คือการ์ดที่จะนำมาใช้จะถูกใช้ในการโจมตีหลัก
ทั้งม่อจื่อหวีและม่ออู๋เหว่ยไม่เข้าใจว่ากองทัพจะดำเนินการรุก แต่ทำตามแผนของถังโฉ่วได้ยังไง
ถังโฉ่วมีฝีมือที่สูงส่งเมื่อใช้ร่วมกับกลยุทธ  วิธีการใช้หัตถ์มีดใหญ่ เมื่อใช้ดรรชนีลอยลมจะต้องใช้กี่ครั้ง  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกระโจนสูง
จากมุมมองตรงนี้ สามารถเห็นได้ว่าถังโฉ่วมีมาตรฐานสูงในการประสานงาน  แต่ในทางกลับกันเขาไม่ได้เน้นการฝึกท่ารุกทั้งสามแบบ  เขาใช้เวลาเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์สงครามให้พวกเขาฟัง
ทุกคนตกตะลึง
พวกเขาฝึกกันทุกวัน  ตราบใดที่มีช่องว่างให้โจมตี  พวกเขาต้องเริ่มโจมตีจากด้านบน
ในไม่ช้า ไม่มีใครในกลุ่มที่ตามนับจำนวนครั้งที่พวกเขาได้ฝึกรุกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลับหลังแล้วมีนักเรียนบางคนคุยกันเกี่ยวกับเรื่องแผนรบของถังโฉ่ว พวกเขากล่าวว่ากลยุทธของถังโฉ่วเชยเหมือนชื่อเขา ทั้งน่าเบื่อและน่าเกลียด
แต่...
ม่อจื่อหวีและนักเรียนหน่วยที่หนึ่งยืนอย่างหวาดกลัว  เพราะสังหารไปตามแผนรุกของถังโฉ่ว  ศพเปื้อนโลหิตเกลื่อนอยู่บนพื้น
ไม่มีใครอยากเชื่อสิ่งที่พวกเขาเห็น
กลศึกที่น่าเบื่อและง่ายๆ อย่างนั้น มันสามารถสร้างพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่รุนแรงได้ยังไง
สนามต่อสู้ตกอยู่ในความเงียบ
กงจิ่วยืนตะลึงด้วยความกลัว  กลุ่มโจรสายลมได้ถูกก่อตั้งและได้ยืนหยัดเคียงข้างเขาต่อสู้ผ่านสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน  ระลอกพลังโจมตีที่เขาได้เห็นประจักษ์ทำให้เขาเย็นสันหลังวาบ
ทหาร!
นี่คือวิธีการต่อสู้ของกองกำลังทหารที่น่าทึ่ง
เขาสู้ศึกมานับไม่ถ้วนพิชิตศึกมาหลายเมืองหลายดวงดาว  แต่ทั้งหมดนี้เขาแพ้เพียงสองครั้งเท่านั้น  และทั้งสองครั้งเป็นการแพ้ให้กับกองทัพ  ในแต่ละครั้ง เขาจะมีทหารผู้แข็งแกร่งอยู่ใต้บังคับบัญชา ในทุกครั้งกระบวนศึกของเขาจะน่ากลัวมากกว่าครั้งก่อน แต่ก็ยังเป็นการพ่ายแพ้ให้แก่กองทัพ
กองทหารที่แข็งแกร่งซึ่งอยู่ต่อหน้าเขาโดยรวมนั้นน่าชื่นชมทั้งความแข็งแกร่งและกลยุทธที่ใช้  ศักยภาพทั้งหมดถูกปลดปล่อยออกมาเต็มที่
ภาพที่เหลือในความทรงจำและภาพปัจจุบันนั้นคล้ายกันมาก
เขาหลงกล!
กงจิ่วเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งทรงพลังและรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล
เขาตะโกนขึ้นโดยไม่ลังเล “ถอย!
กลุ่มโจรสายลมทั้งหมดถอยออกไปเหมือนกับคลื่นบนชายหาด
คุณชายผู้สังเกตการณ์รบอยู่ในที่ไกลตกตะลึงกับความแคลื่อนไหวของพวกเขา “ทำไม... ทำไมพวกเขาถึงได้ถอนกำลัง?”
พี่ชายของเขานั่งลงแล้ว ท่าทางที่น่าประหลาดใจบนใบหน้าของเขาหายไป  เขายืนขึ้นพึมพำ “ศัตรูของพวกเขาคือกองทัพ  นั่นถือว่าเป็นกองทัพอาวุธจักรกลเท่าที่เคยเห็นจริงๆ”
 “กองทัพ?  กองทัพอาวุธจักรกล?”  คุณชายเจ้าสำอางตอบ  จากนั้นยิ้มแล้วชี้ไปที่กลุ่มอาวุธจักรกลที่อยู่ในระยะไกล  “พี่,  ท่านกำลังพูดถึงกองกำลังตุ๊กตาเหล่านั้น...”
ใบหน้าของพี่ชายเขามีท่าทางเคร่งขรึม  รอยยิ้มของคุณชายค่อยๆ จางหายไป  “พี่, เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่ไหม...”
 “ข้าไม่ได้ล้อ”  พี่ชายเขาตอบขึงขัง  “ข้าต้องรายงานความสูญเสียครั้งนี้ให้ท่านพ่อทราบโดยเร็ว”
คุณชายเกออุทาน “พี่!
สถานการณ์นี้ร้ายแรงจนต้องรายงานให้ท่านพ่อรู้ด้วยเหรอ?
 “ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ในช่วงนี้อย่าเคลื่อนไหวสร้างปัญหาใดๆ เด็ดขาด!  พี่ชายของเขากล่าว  “ผลของการรบครั้งนี้เกินกว่าที่เราคาดหมายแน่นอน”
คุณชายเกอสิ้นหวัง
บุรุษหนุ่มชุดยาวหันไปกล่าวกับนักสู้ผมทองผู้นั่งอยู่ใกล้คุณชายเกอ  “ดูแลคุณชายให้ดี”
นักสู้ผมทองรู้ว่าคุณชายผู้พี่สั่งให้เขาจับตาดูคุณชายผู้น้อง  “ขอรับ”
แค่เพียงสะบัดแขน บุรุษหนุ่มชุดยาวก็หายและออกไปจากห้อง
ข่าวของการรบด้วยกองกำลังอาวุธจักรกลมีค่าและบุรุษชุดยาวตื่นเต้นที่ได้รับทราบข่าวนั้น
ปิงเพ่งมองความเคลื่อนไหวของกองกำลังทั้งฝ่ายของเขาและและศัตรู จากนั้นวิเคราะห์หลักสูตรการต่อสู้
เขาเตรียมพร้อมเข้าต่อสู้ทุกเมื่อ  แต่ก็ต้องชะงักเพราะพลังของกองกำลังถังโฉ่ว
เขารู้สึกทึ่งกับแผนการรบของถังโฉ่ว  นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คาดไว้ก่อน
เขาไม่เคยตระหนักเลยว่าถังโฉ่วจะสร้างผลกระทบได้  เขามีการจัดตั้งกองทัพและการฝึกฝนเป็นอย่างดี  และถังโฉ่วมีความมั่นใจพอ สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่หลังจากการแสดงฝีมือครั้งนั้น
คำพูดของผี่ผาและกลศึกของถังโฉ่วดูเหมือนจะเปิดประตูเขาเข้าสู่โลกวิชาต่อสู้
เขาเพิ่งจะได้เห็นจากคนรุ่นใหม่
 

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sunrise กล่าวว่า...

ขอบใจหลยายยยย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณนะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

คนไทย กล่าวว่า...

เยี่ยมครับ

แสดงความคิดเห็น