ตอนที่ 395
อาเดรียน
บุรุษร่างสูงโปร่งสวมชุดดำยืนมองดูประตูเมืองที่มีการคุ้มกันในเมืองอันโดรเมดา
เขาจ้องมองลงมาในหุบเขา รู้สึกถึงบางอย่างที่รบกวนใจเขา
เขาคืออาเดรียนฉายานักล่านั่นเอง
“ระเบิดขนาดมหึมานั้นจำเป็นต้องใช้สมบัติระดับเงินอย่างน้อยยี่สิบชิ้นจึงจะสร้างผลลัพธ์ได้ขนาดนั้น”
อาเดรียนรำพึง
หลิวจงกวงโพล่งขึ้นมาด้วยความตกใจ “ฉีซานบ้าเกินไปแล้ว”
อาเดรียนยิ้ม
จงกวงเป็นคนซื่อ อาเดรียนหันไปทางเด็กหนุ่ม “อาซิ่ว แล้วเจ้าจะทำยังไง?
เด็กหนุ่มที่ถูกถามอายุเพียงสิบเจ็ดปี
ใบหน้าสะอาดไม่มีหนวดเคราและหน้าซีด
เขาเป็นบริวารมือขวาของอาเดรียน
เขามีนามว่าหรู่ซิ่ว บุปผาแห่งดาวนายพราน
เขาโคลงศีรษะไปมา “ข้าถอดความหมายไม่ออก แต่เกี่ยวกับข่าวกรองที่ได้รับ
ดูเหมือนว่าแอนเดรียนาจะมียอดฝีมือคอยแนะนำให้อยู่หลังฉาก”
หลิวจงกวงพยักหน้า “อาซิ่ว, เจ้าหมายถึงทาร์ตันใช่ไหม? แม่ทัพทาร์ตันนับว่าเป็นคนที่มีอำนาจมาก!”
อาซิ่วส่ายศีรษะ “ข้าไม่ได้หมายถึงแม่ทัพทาร์ตัน ทาร์ตันมีประสบการณ์และใจเย็นในการรบ ทำให้เขาเป็นนักรบที่สง่างาม แต่พฤติกรรมของเขาเป็นเรื่องปกติของนักรบ เขาเป็นคนเถรตรง คาดเดาได้และไม่เจ้าเล่ห์นัก”
“ถ้าอย่างนั้น เป็นใครกันแน่?” หลิวจงกวงไม่ถามการตัดสินใจของหลิงจงกวง เขามั่นใจในการวิเคราะห์ของเขา
นั่นยิ่งทำให้เขาสงสัยยอดฝีมือที่อยู่เบื้องหลังแอนเดรียนา
อาซิ่วไม่ตอบ
และยังคงอธิบายต่อไป “อูเซี่ยจากกลุ่มดาวหมีใหญ่เรียกกำลังเสริมเข้ามา
อย่างไรก็ตามข้าได้ยินมาว่าพวกเขาขัดแย้งกับแอนเดรียนาและทาร์ตัน
แอนเดรียนาต้องการให้สมบัติเหล่านั้นกับถังเทียน เพื่อแลกเปลี่ยนอสูรพลังงานเพิ่มขึ้น”
“เป็นสตรีที่ฉลาดจริงๆ” อาเดรียนตอบ
“ดูเหมือนเป้าหมายหลักของเราตอนนี้ก็คือถังเทียน”
“ยาก” อาซิ่วพูดแทรกขึ้น “ตามข่าวกรองที่ข้าได้รวบรวมมา
เป็นไปได้ว่าถังเทียนจะมอบสมบัติชุดนี้มาในจำนวนน้อยมาก และเขายังมีฉายาเฉพาะตนที่ไม่เหมือนใคร”
“แล้วชื่อเขาเรียกว่าไง?” อาเดรียนสงสัย
“หนุ่มชาวฟ้า
น่าสนใจไหมเล่า?” อาซิ่วตอบแบบประชด “ข้าได้ยินว่า
นั่นเป็นเรื่องปกติที่เขาจะใช้ชื่อนั้นในการแนะนำตัวเอง”
หลิงจงกวงกลั้นหัวเราะไม่ไหว “อย่างนั้นเขาก็เป็นคนหยิ่งคนหนึ่งเลยทีเดียว”
“ก็ไม่ง่ายอย่างนั้น ท่านรู้หรือไม่สมาพันธ์ชาวยุทธเปรียบเทียบเขาเหมือนกับอะไร? เขาถูกเรียกว่าหินลับมีด สมาพันธ์เชื่อว่าขอเพียงได้ถังเทียนช่วย อัจฉริยะของพวกเขาจะได้ตั้งหน้าตั้งตาฝึกฝนอบรมพลังปราณแท้ของพวกเขา
นี่เป็นการตัดสินครั้งแรกที่ข้าได้ยินมาจากสมาพันธ์” อาซิ่วส่ายศีรษะ “ข้าได้อ่านข้อมูลถังเทียนและสันนิษฐานได้ว่าเขาเป็นคนฉลาดและลึกซึ้ง”
หลิงจงกวงนิ่งงัน
“เจ้าพูดจริงหรือ?”
“เกี่ยวกับฉายาว่าหนุ่มชาวฟ้านั้นเป็นแค่คราบภายนอกของเขา” อาซิ่วอธิบาย
“ลีลาท่าทางของเขาจะคล้ายกับฉายาของเขา อาจจะดูไม่ออก มองดูเหมือนโง่ แต่ก็ต้องค้นดูกันต่อไป
ข้าพบว่าแม้ว่าการกระทำของเขาในบางครั้งอาจดูบุ่มบ่าม
แต่ข้าไม่เชื่อว่าถ้าข้าเป็นเหมือนอยู่ในรองเท้าเขา
ข้าก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ดีเหมือนอย่างที่เขาทำ
ข้าสามารถพูดได้ว่า ทุกอย่างที่เขาทำนับว่ายากทั้งนั้น”
หลิวจงกวงไม่ยอมเชื่อ “ข้าไม่ปฏิเสธว่าเขาฉลาด แต่ถ้าบอกว่าเจ้าไม่สามารถทำได้ ข้าไม่เชื่อแน่”
“อาซิ่ว, เลิกถ่อมตัวเถอะ ข้าเชื่อว่าด้วยสติปัญญาและพลังของเจ้า
เจ้าสามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกมีปัญญาได้แน่” อาเดรียนยิ้ม
หลิวจงกวงเสริมต่อ “ใช่แล้ว อาซิ่ว,
แม้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นหนุ่มชาวฟ้าจริงหรือเป็นเทพ ข้าเชื่อว่าอาซิ่วก็เอาชนะเขาได้!”
อาซิ่วปลื้มใจ แต่ก็ละอายเช่นกัน
เนื่องจากเขาไม่เคยได้รับการยกย่องแบบนั้นมาก่อน
“เฮ้อ, ข้าอาจไม่รู้อะไรมาก แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ข้าแน่ใจ อาซิ่วเจ้าสามารถเอาชนะถังเทียนได้แน่นอน!” จงกวงยิ้ม
อาซิ่วสงสัย “อะไรนะ?”
“ดูท่าทางเจ้าสิ!” จงกวงหัวเราะลั่น “อาซิ่วของเราดูสวยขนาดนั้น แม้แต่สาวๆ ก็ยังอิจฉา”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” อาเดรียนหัวเราะอย่างสบายใจ “จงกวง อย่าแกล้งอาซิ่วเลย แต่อาซิ่ว
ไม่ว่าดูยังไงข้าก็เห็นด้วยตรงจุดนี้นะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ยานลงจอดและมีกองกำลังนักสู้รอต้อนรับอยู่ข้างล่างอยู่แล้ว ทาร์ตันเป็นคนนำกองทัพทั้งหมด
“ท่านอาเดรียน”
ทาร์ตันอ้าแขนและรับเขา
“แอนเดรียนาได้ยินว่าท่านต้องการมาเยือนนครเทพธิดา
นางชะเง้อรอคอยการมาถึงของท่านจนเมื่อคืนนี้นอนไม่หลับเลย นางขอให้ข้ามาต้อนรับท่านและเชิญท่านเข้าเมืองอันเป็นที่รักของเรา”
อาเดรียนคำนับด้วยความเคารพ “ขอบคุณท่านมากที่มาต้อนรับ แม่ทัพทาร์ตัน ข้าขอคารวะท่าน”
“ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว
นี่คือม้าที่พวกท่านจะใช้เดินทางเข้าเมืองของเรา” ทาร์ตันตอบ
ม้าอสูรดวงดาวหลายตัวถูกจูงผ่านกำลังเข้ามาและให้อาเดรียน
อาเดรียนปีนขึ้นม้า
ขณะที่เขามุ่งหน้าเข้าไปในเมือง
อาเดรียนมองดูทาร์ตัน “ข้าเคยได้ยินการจัดการทหารที่น่ากลัวของท่านทาร์ตันมาแล้ว หลังจากถึงวันนี้ ข้าเพิ่งได้เห็นประจักษ์กับตาตนเอง ได้ท่องเที่ยวไปตามกลุ่มดาวต่างๆ
ข้าได้เห็นรูปแบบกองทัพมามากแล้ว
แต่สิ่งที่ข้าได้เห็นจากกองทัพของท่านในวันนี้ หาได้ยากจริงๆ”
อาเดรียนมีเสน่ห์และมีสีหน้าที่ดึงดูดจูงใจเขา
เซียวซือหวินที่อยู่ด้านหลังทาร์ตันหน้าแดง
ตั้งแต่เมื่อคราวที่เขาไปเยี่ยมค่ายกองทัพหมาป่าแล้ว จากประสบการณ์ครั้งนั้น
เขามุ่งมั่นฝึกให้หนักกว่าเดิม
ทักษะฝีมือของเขาก้าวหน้าขึ้นมาก
แต่หลังจากได้ฟังคำชมเชยของอาเดรียน
เขาไม่ได้รู้สึกอะไร
กลับดูเหมือนว่าเขาไม่พอใจ
เขารู้ดีว่าแม้กองพลทหารราบจะมีความก้าวหน้าขึ้น แต่ทักษะก็ยังห่างไกลจากกองทัพหมาป่า
โชคดีที่คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ศัตรูของกลุ่มดาวอันโดรเมดา ซือหวินมีความยินดี
แต่ก็รู้สึกผิดที่คิดอย่างนั้น
รอยยิ้มหายไปจากหน้าทาร์ตัน “ในอดีต
ข้ามีความภูมิใจในทักษะฝีมือของทหารของข้า
แต่บัดนี้ ข้าตระหนักแล้วว่า ข้าค่อนข้างไม่รู้และยังใจแคบในการประเมินความสามารถของเรา”
อาเดรียนชะงักเล็กน้อย “ข้าสงสัยจริงว่าแม่ทัพที่ไหนสามารถทำให้ท่านทาร์ตันรู้สึกแบบนี้ได้?”
ทาร์ตันตอบ
“บางทีนะท่านอาเดรียน ท่านอาจจะพบคนผู้นั้นด้วยตนเองสักวัน”
อาเดรียนยิ้ม “โอว...
แม่ทัพทาร์ตันยิ่งทำให้ข้าสงสัยใคร่รู้เสียแล้ว”
บุรุษทั้งสองคนต่างยิ้มให้กัน
การมาถึงของอาเดรียนทำให้เมืองอันโดรเมดาคึกคักอีกครั้ง อังเดรได้รับการยอมรับนับถือ
เนื่องสถานะของเขาและอิทธิพลที่ไม่มีจำกัดของเขา
แต่สำหรับอาเดรียน แม้ว่าเขาจะขาดอำนาจและอิทธิพลทั้งสองอย่าง แต่เขาก็ยังได้รับการยอมรับนับถือจากผู้คน
อาเดรียนคือหนึ่งในยอดฝีมือที่น่านับถือในกลุ่มดาวนายพราน เขาจบการศึกษาในวัย 21
ปีและกลายเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนเดิมของเขา
สถาบันเนบิวลา
ภายในหนึ่งทศวรรษสถาบันเนบิวลามีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดภายในกลุ่มดาวนายพราน เนื่องจากอัจฉริยะที่สถาบันผลิตออกมา เนื่องจากชีวิตที่น่าตื่นเต้นของเขามาจากการดูแลสถาบันเนบิวลา ทำให้เขาไม่ได้ฝึกฝนทักษะตลอดสิบปีที่ผ่านมา ดังนั้น ตอนอายุสามสิบเอ็ด
เขาตัดสินใจเกษียณจากการทำหน้าที่ผู้อำนวยการและเริ่มเดินทางข้ามไปยังกลุ่มดาวต่างๆ
ไม่มีใครรู้ว่าเขาผ่านพบอะไรมาบ้างในช่วงเวลาเดินทาง
12 ปี
เมื่อเขาอายุ
43 เขากลับมายังสถาบันเนบิวลา
เขากลับมาพร้อมกับกลิ่นอายลึกลับ
ตอนนั้นกระบี่เซียนของกลุ่มดาวนายพราน เยี่ยซินเข่อพบเขาและยกย่องอาเดรียนว่ามีกลิ่นอายเหมือนกับอยู่ในขอบเขตเซียน
เนื่องจากขีดจำกัดของเขาในครั้งก่อนในโรงเรียน
อาเดรียนมีความสุขเพลิดเพลินกับการสอนเด็กหนุ่ม นี่ทำให้เขาได้รับความนิยมในกลุ่มดาว แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่วัง แต่เขามีสิทธิ์เข้าวังได้ เจ้าหน้าที่ระดับสูง
คนชั้นสูงแม้แต่พลเมืองธรรมดาก็ยังให้เกียรติต่อความสำเร็จของอาเดรียนเป็นอย่างสูง
การมาถึงของอาเดรียนในกลุ่มดาวอันโดรเมดาทำให้นักสู้รุ่นเยาว์กระตือรือร้นจะพบกับเขา
พวกเขาเชื่อว่าด้วยการให้แนวทางและแนะนำของอาเดรียนจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาในอนาคต
ขณะที่นักสู้รุ่นเยาว์เหล่านั้นเชื่อว่าพวกเขามีพรสวรรค์ธรรมชาติในเรื่องของวิชาต่อสู้
พวกเขาหวังจะได้รับความสนใจจากอาเดรียน
พวกที่อาเดรียนยกย่องด้วยตัวเอง
มักจะมองตนเองว่ามีสถานะทางสังคมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ที่พักของอาเดรียนจะอยู่ในที่ซึ่งนักสู้รุ่นเยาว์พลุกพล่านเป็นประจำ
************
ถังเทียนยืนอยู่บนชายฝั่งทะเล สีหน้าของเขาโศกเศร้า ความสงบของทะเลตรงกันข้ามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วๆ
นี้ ซึ่งดูเหมือนกับเป็นฝันร้าย
ในฝันร้ายนั้น
เขาพบกับชีวิตของจอมมารพันมือ
เมื่อเขายังเยาว์วัย เขาเกียจคร้าน
เวลาย้อนกลับไปสมัยเขาเยาว์วัย
ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความสำนึกผิดและเสียใจ แม้ว่าเขาจะพบกับหญิงสาวที่เขาชอบ
เขาไม่สามารถเหนี่ยวรั้งการเดินทางของเขาซึ่งถูกลิขิตไว้ว่าต้องไปให้ถึงเป้าหมายล้างแค้นให้ได้
ตอนแรก ถังเทียนรู้สึกว่าเขาเป็นแค่คนดู แต่ความฝันประจักษ์ชัดเจน เขารู้สึกว่าได้รับผลกระทบจนฝีมือก้าวหน้าโดยไม่รู้ตัว
ต่อสู้ ลอบสังหาร ล้างแค้น..
การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขา
ทำให้เขาต้องจบชีวิตลง
มือปีศาจพันแปลงของเขาไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ เมื่ออยู่บนปากเหวแห่งความพ่ายแพ้ จู่ๆ ถังเทียนก็ระลึกถึงคำพูดของจอมมารพันมือได้ทันที
อย่าปล่อยให้สายตาหลอกเจ้าได้
ทันใดนั้น
พลังของมือปีศาจพันแปลงของถังเทียนเพิ่มขึ้น
ทำให้เขาเอาชนะศัตรูได้ ปลดปล่อยตนเองจากฝันร้าย
แต่ถังเทียนตระหนักแล้วว่าในความเป็นจริง จอมมารพันมือและศัตรูของเขา ทั้งสองมีชะตาต้องทำลายล้างซึ่งกันและกัน
มีแต่คนที่สามารถบังคับถังเทียนให้ยอมรับตัวเขาเองและเปลี่ยนเขาเป็นการ์ดวิญญาณก็คือท่านหญิงฟง
สตรีที่ยังปรากฏอยู่ในความฝันของเขา
เขาต้องการจะกลับไปพบนางอีกครั้งหนึ่ง
เขาต้องมีเรื่องราวมากมายที่ยังไม่ได้พูดและเขาต้องการจะบอกนาง
บอกนางว่าเขาแก้แค้นให้ตัวเขาเองสำเร็จแล้ว
บอกนางว่าไม่ต้องรอเขา
ต้องบอกนาง....
ถังเทียนถูกความเสียใจครอบงำ แต่เขายังคงรู้สึกว่าเขาเศร้า วิญญาณของจอมมารพันมือค่อยๆ
สลายไปนานแล้ว
ท่านหญิงฟงแยกจากไปเมื่อหลายร้อยปีแล้ว
แม้นางก็อาจมีลูกมีหลานไปแล้ว
ผู้อาวุโสจอมมารพันมือ
ท่านต้องเข้าใจนะว่าความแค้นไม่ควรให้ความสำคัญมากกว่าคนที่ยังมีชีวิต
ถังเทียนยืนมองดูทะเลกว้างอย่างเงียบงัน
และรำพึง “จอมมารพันมือ นี่ก็ไม่เลวหรอกนะ
แม้ว่าท่านต้องการเป็นวิทยายุทธของนาง เพื่อปกป้องนาง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง นางจะต้องทุกข์ทรมาน การคุ้มครองรูปแบบนี้จะกลายเป็นภาระ นั่นคือเหตุผลว่า
การจัดการในตอนนี้มีความเหมาะสมดีแล้ว”
ทะเลที่สงบในตอนนี้มีลมกระโชกรุนแรง
ถังเทียนรู้สึกดีขึ้นมากหลังทำใจในช่วงเวลาสั้นๆ
รอยยิ้มค่อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา
เขาตะโกนก้องท้องทะเล
“จอมมารพันมือ ท่านเองก็คิดเหมือนกันไม่ใช่หรือ”
ประตูบานหนึ่งค่อยๆ
ปรากฏออกมาจากใต้ทะเล
3 ความคิดเห็น:
ตื่นมาเจอ...ตาสว่างเรย ^^
ขอบใจหลายยยย
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น