ตอนที่ 614 ระบำอากาศ กลีบดอกกลืนวิญญาณ
สาวยักษ์เข่าอ่อนและนางแทบล้มลงบนพื้นดาดฟ้านั้นเอง
แต่นางกัดฟันทนไว้
นางใช้ปณิธานที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า พลังที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างนาง
นางยันตัวเองด้วยแขนขาและลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
เล็บเชื้อมังกรที่แทงเข้าที่ไหล่และท้องน้อยของนางปล่อยพิษใส่เป็นบาดแผลสีน้ำเงินบนร่างนางแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธเช่นนั้น
ต่อให้นางเป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับห้า สาวยักษ์ก็ไม่สามารถทนบาดเจ็บได้
“แปะ แปะ แปะ!” หัวหน้าโจรตัวตลกเสี่ยวโฉ่วหนีบไม้กายสิทธิ์ไว้กับข้อศอกและปรบมืออย่างมีความสุข
“ฝู่โถว?”
ตาของพี่น้องเผ่าวัวผู้ถูกมัดด้วยหนวดมังกรแดงด้วยความโกรธแค้น
พวกเขาคำรามอย่างบ้าคลั่งใส่ฝู่โถวผู้ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเรียกว่าสหาย
“พี่ใหญ่หญิง...”
มังกรตาเดียวและคนอื่นๆ ต้องการวิ่งเข้ามาช่วยพยุงสาวยักษ์
แต่นางโบกมือข้างเดียวและตะโกนให้ทุกคนออกไปห่างๆ น่าประหลาดใจที่สาวยักษ์ไม่โกรธ นางกลับใจเย็นถามฝู่โถวที่ตกใจค่อยๆ
ถอยหลังกลับไป “ทำไม? ถ้าข้าตายไป
กลุ่มเพลิงพิโรธก็จะมีเจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด
เจ้ามีศักยภาพมากที่สุด
ในไม่ช้าเจ้าอาจจะได้เป็นผู้นำกลุ่ม
ทำไมเจ้าถึงได้สมคบกับคนนอกมาทำร้ายข้า?
ข้าทำอะไรผิดต่อเจ้า? ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า คนอย่างเจ้า ถ้าข้าฆ่าเจ้าด้วยมือตนเอง ก็คงแปดเปื้อนมือข้าตลอดไป ตอนนี้ ข้าแค่ต้องการถามเหตุผลของเจ้า?”
“พี่ใหญ่หญิง, ข้ายังไม่อยากตาย พวกเขาบังคับข้า ข้าไม่มีทางเลือก!” ฝู่โถวร้องไห้ด้วยความอาย
“เจ้าไม่ต้องทำตัวเองให้ดูน่าสมเพชเกินไปได้ไหม?” ตัวตลกเสี่ยวโฉ่วหัวเราะเย็นชา นิ้วยาวๆ
ของเขาชี้มาที่ฝู่โถวและแค่นเสียงอย่างไร้น้ำใจ
“ใครเป็นคนสร้างปัญหาทั้งหมดนี้เล่า?
ก็ตัวเจ้านั่นแหละ,
ถ้าเจ้าไม่เข้ามาหากินในอาณาเขตของข้าและพยายามลักพาสาวงามที่ข้าหมายปองไป เจ้าก็คงไม่ถูกข้าจับกุมได้หรอก ถ้าเจ้าไม่โง่เกินไป
และตั้งใจจะลักพาสตรีที่ข้าตั้งใจจะยกให้จอมปีศาจจื้อกวง
ข้าเชื่อว่าจอมปีศาจจื้อกวงก็คงไม่ยอมลดตัวลงมาขัดแย้งกับพี่ใหญ่หญิงง่ายๆ
แน่ ฝู่โถว.. มีคำพูดที่ข้าจะสรุปง่ายๆ
ก็คือเป็นเจ้าคนเดียวที่ก่อเรื่องยุ่งยากครั้งนี้ หลังจากที่เจ้าถูกเราจับกุมได้ ใครคือคนที่คุกเข่ายอมจำนน
ใครคือคนที่ปล่อยข้อมูลความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดและเหยื่อล่าต่อไปของพวกเขา?
ก็เป็นเจ้านั่นแหละ เจ้ามันทรยศ
ถ้าเจ้าไม่บอกแผนการบุกเรือสำราญลอยฟ้ากับเรา
ผู้บัญชาการหลงเสียงคงไม่นำกองกำลังมาช่วยคนที่นี่เป็นแน่ ฝู่โถว,
เจ้าไม่เพียงแต่ทรยศพวกเขาและเผยแพร่ความลับของพวกเขาเท่านั้น เจ้ายังริเริ่มเข้าร่วมแผนการกับเราตั้งแต่แรก เจ้าฆ่าพี่ลิ่วลู่สหายของเจ้าและแกล้งทำเป็นถูกทำร้ายบาดเจ็บหนัก
ใช้เล็บเชื้อมังทำร้ายพี่ใหญ่หญิง.. ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า สวะอย่างเจ้า เมื่อเทียบกับข้าที่โดนไล่ออกจากกลุ่มเพลิงพิโรธเพราะกลัวการต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งในสงคราม เจ้ายังแย่กว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า พี่ใหญ่หญิง ข้าจำเป็นต้องพูด ครั้งนี้ท่านตัดสินนิสัยคนผิดไปแล้ว”
“ก็พวกเจ้าเป็นฝ่ายบังคับข้า ทุกอย่างทำให้ข้าไม่มีทางเลือก!” ฝู่โถวตะโกนแก้ตัว เขาตระหนักว่าเสี่ยวโฉ่วแกล้งเป็นไม่ได้ยินเขา
และจากนั้นเขาร้องไปทางสาวยักษ์แทน
“พี่ใหญ่หญิง
ข้าบรรลุเป็นนักรบปราณฟ้าขณะอายุยังน้อย ท่านเคยพูดถึงมาก่อนเช่นกัน
ข้ามีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่
ข้ามีอนาคตที่สดใสขนาดนั้น
ข้ายังไม่อยากตายจริงๆ! พวกเขาเป็นคนบังคับข้า พี่ลิ่วลู่ไม่ตาย
เขาปฏิเสธจะรับฟังข้าและต้องการจะฆ่าข้าอีกด้วย
ข้าไม่มีทางเลือก
ข้าไม่ได้ฆ่าเขา
พวกเขาร่วมมือกันฆ่าเขา
ข้าเพียงแต่ทำตามคำสั่งของเสี่ยวโฉ่วให้ตัดศีรษะของเขา ในตอนนั้น เขาตายไปแล้ว แม้ว่าข้าจะไม่ตัดหัวพี่ลิ่วลู่ เขาก็จะตายอยู่ดี!
และแผนการที่มีต่อท่านก็เป็นคำสั่งของพวกเขาทั้งนั้น ถ้าข้าไม่ทำตามที่พวกเขาบอก พวกเขาก็จะฆ่าข้า... พี่ใหญ่หญิง
ฝ่ายพวกเขามีคนมากมาย
เราไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้
เรายอมแพ้เถอะ!”
“ไม่มีเรา มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น!” มังกรตาเดียวถ่มน้ำลาย “จากวันนี้เป็นต้นไป เราขาดกัน
เราจะไม่เป็นสหายกับสวะอย่างเจ้าอีกต่อไป
แต่จะเป็นศัตรูไปจนวันตาย!”
“ข้าไม่ต้องการคุยกับพวกโง่ๆ
อย่างพวกเจ้า
พวกเจ้าไม่ได้เป็นกระทั่งนักสู้ปราณฟ้า
เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์พูดเหรอ?
เจ้าแนวหน้าชั้นต่ำ
มีสิทธิ์อะไรมาวิพากษณ์วิจารณ์ข้า?
ถ้าเป็นพวกเจ้าถูกจับไปบ้า
พวกเจ้ายังจะทำอย่างเดียวกับข้าไหมเล่า?
ข้าพนันได้เลยว่าเจ้าคงทำเลวยิ่งกว่าข้าแน่! มังกรตาเดียว
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้
พวกเจ้าทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้เท้าข้าทั้งนั้น พี่ใหญ่หญิงกล่าวไว้ก่อนแล้วว่านางจะยกตำแหน่งให้ข้าในอนาคต เจ้าคิดหรือว่าข้าต้องการยอมแพ้จริงๆ
หรือ?”
ฝู่โถวตะโกนใส่มังกรตาเดียวอย่างโกรธเกรี้ยว
“เข้าใจแล้ว” สาวยักษ์พยักหน้าอย่างเฉื่อยชา “ความจริง
นับเป็นเรื่องดีที่มีเรื่องเกิดขึ้น
อย่างน้อยในตอนนี้ ข้าสามารถเห็นน้ำใจของผู้คนได้ชัดเจน ข้าได้ประกาศไปแล้วว่าจะสลายกลุ่มเพลิงพิโรธ จากนี้เป็นต้นไป
จะไม่มีกองโจรเพลิงพิโรธอีกต่อไปในแดนสวรรค์ใต้ พี่น้องเผ่ามนุษย์วัว
เจ้าทั้งสองคนไปทำงานใต้บังคับบัญชาของราชาใจสิงห์เถอะ แม้ว่าเขาจะเป็นศัตรู แต่เขามีความเป็นธรรม
เจ้าทั้งสองจะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานภายใต้การปกครองของเขา”
“ไม่, พี่ใหญ่หญิง เราสองพี่น้องรับฟังแต่เพียงท่านเท่านั้น ถ้าพี่ใหญ่หญิงไม่มีชีวิตอีกต่อไป
เราสองพี่น้องก็จะไม่มีชีวิตอีกต่อไปเช่นกัน” พี่น้องเผ่ามนุษย์วัวคุกเข่าลงบนดาดฟ้า
“นี่คือคำสั่ง
ข้าไม่ได้ถามความเห็นของเจ้า”
สาวยักษ์ตะโกนสั่งเสียงเข้มดังราวกับฟ้าผ่า
“ก็ได้” พี่น้องเผ่ามนุษย์วัวคำนับครั้งแล้วครั้งเล่าและยืนขึ้น พวกเขาตะโกนต่อหน้ากลุ่มคน “ถ้าวันนี้
เราสองพี่น้องเผ่ามนุษย์วัวมีชีวิตรอดออกไป เราจะตามหาเจ้าฝู่โถวเพื่อล้างแค้นก่อน!”
“....” ฝู่โถวหน้าซีดลงเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไร
เขาเพียงแต่ถอยกลับไปเงียบๆ และยืนอยู่ด้านหลังเสี่ยวโฉ่ว
“ข้าหลงเสียงในฐานะเป็นตัวแทนของราชาใจสิงห์ยินดีต้อนรับพี่น้องเผ่ามนุษย์วัวในฐานะเป็นหนึ่งในแปดขุนพลของกองทัพข้า
และจะมอบบรรดาศักดิ์บารอนและคฤหาสน์ในเมืองหลวงให้ ในฐานะผู้บัญชาการ ข้าอนุญาตให้ขุนพลเผ่ามนุษย์วัวไม่ต้องเข้าร่วมในศึกครั้งนี้”
จอมพลหลงเสียงในชุดเกราะทองรับพี่น้องเผ่ามนุษย์วัวไว้ทันที
แม้ว่าตัวตลกเสี่ยวโฉ่ว
มนุษย์โครงกระดูกและจอมปีศาจหัวโล้นจะไม่พอใจเรื่องนั้นก็ตาม
พวกเขาไม่ต้องการต่อต้านราชาใจสิงห์ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแดนสวรรค์ใต้ ความจริงโจรตัวตลกคาดการณ์ไว้แล้วว่าหลงเสียงจะไม่คำนึงถึงความเกลียดชังในครั้งเก่าก่อน ที่สำคัญ ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน
ผู้คนจะสู้เพื่อให้ได้เป็นนักสู้ปราณฟ้า
“เราขอขอบคุณท่านจอมพล”
พี่น้องเผ่ามนุษย์วัวตั้งใจสู้ตาย
แต่ตอนนี้พวกเขาจะต้องมีชีวิต
เพราะพวกเขาต้องการล้างแค้น
พวกเขาเข้าใจความตั้งใจของพี่ใหญ่หญิง
ถ้าพวกเขาต่อต้านทำตามที่ตนเองต้องการ
ทุกคนที่นี่ก็จะตาย
นางเลือกสู้ตามลำพัง
ตอนนี้ แม้ว่าสองพี่น้องเผ่ามนุษย์วัวต้องการจะสู้ตายร่วมกับนาง แต่ยังมีคนหนึ่งที่ยังไม่ตาย ผู้นั้นก็คือฝู่โถว คนผู้นี้เป็นนักสู้ปราณฟ้า นอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีใครสามารถตามแก้แค้นได้
สองพี่น้องเผ่ามนุษย์วัวตัดสินใจมีชีวิตต่อไป
หลังจากพวกเขาแก้แค้นได้สำเร็จ
พวกเขาจะตายเพื่อพี่ใหญ่หญิง
สองพี่น้องมองหน้ากันและพยักหน้าให้กัน
พวกเขาคุกเข่าและคารวะยักษ์สาวเป็นการอำลา
“พี่ใหญ่หญิง เราจะจากไปก่อน เมื่อวันใดที่เราได้หัวศัตรูมา
เราจะได้พบพี่ใหญ่หญิงอีกครั้ง”
ตายในการต่อสู้นั้นง่ายและเป็นความตายที่มีความหมายมาก!
แต่รักษาชีวิตต่อไปเพื่อล้างแค้นนั้นยากมาก
มันเป็นชีวิตที่ขมขื่น...
พี่น้องเผ่ามนุษย์วัวกัดฟัน ภายใต้ความพยายามควบคุมของนักสู้ปราณฟ้าหกคน
พวกเขาพยายามกลั้นน้ำตาที่เอ่อท้นและกู่ร้องขึ้นฟ้าเหมือนกับหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ
พวกเขาออกจากเรือสำราญไปอย่างรวดเร็วและตามไปกับหน่วยอัศวินกริฟฟินสายฟ้าไปทางทิศตะวันออก
เพื่อล้างแค้น
พวกเขายินดีรับใช้ราชาใจสิงห์ชั่วคราวและเลิกคิดต่อสู้เคียงข้างพี่ใหญ่หญิงเพื่อสู้ตาย
“พวกเจ้ายังไม่ไปหรือ?”
สาวยักษ์มองดูมังกรตาเดียวและทหารรับจ้างร่างผอม
“เรา...พี่ใหญ่หญิง โปรดให้เราอยู่ด้วยเถอะ
ในฐานะหัวหน้ากลุ่มโจรผู้กล้าหาญ
ท่านจะไม่มีทหารสองสามคนตายร่วมกันได้ยังไง นอกจากนี้เราทุกคนเป็นสวะอยู่แล้ว
แต่ให้เราต้องการยอมแพ้ก็จะไม่มีใครให้โอกาสเรา” เมื่อมังกรตาเดียวพูดเช่นนี้
สหายที่อยู่เคียงข้างพวกเขาทุกคนเริ่มหัวเราะ
พวกเขาชักอาวุธของตนออกมาพร้อมกัน ใบหน้าไม่มีความกลัวต่อศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าเขาเป็นพันเท่า
พวกเขาไม่กลัวความตาย แล้วยังมีอะไรในโลกที่ทำให้พวกเขากลัว?
พวกเขาพร้อมจะตายจากก้นบึ้งหัวใจ
ยังจะมีพลังอะไรในโลกนี้ที่หยุดพวกเขาได้?
กลุ่มสมาชิกผู้แบกรับภาระครอบครัวของพวกเขาหมอบคำนับจนพวกเขารู้สึกเจ็บปวด พวกเขาต้องการสู้ด้วยเช่นกัน แต่พวกเขาทำไม่ได้
คนที่พวกเขารักอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู
ถ้าพวกเขาขัดขืนแม้แต่เพียงเล็กน้อย คนรักของพวกเขาก็จะตาย สิ่งที่สำคัญที่สุดในสายตาของสมาชิกหลายคน นี่คือการรบที่จะต้องแพ้อย่างแน่นอน
ต่อให้พวกเขารวมทั้งสตรี เด็กและคนชรา ศัตรูก็ยังมีจำนวนคนมากกว่าหลายเท่า
ไม่ว่าพวกเขาจะดิ้นรนต่อสู้อย่างหนักเพียงไหน ก็เป็นการเสียสละที่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น
นอกจากนี้ พี่ใหญ่หญิงประกาศยุบกลุ่มไปแล้ว
ตอนนี้แม้ว่านางเลือกจะทอดทิ้งการต่อสู้ ยังจะมีอะไรเหลือให้ต่อสู้?
“เข้ามาเลย” สาวยักษ์ดึงเล็บเชื้อมังกรออกจากร่าง
และโยนเล็บยาวเปื้อนเลือดทั้งสองลงบนดาดฟ้า
เลือดสดสีน้ำเงินปนม่วงฉีดพุ่งออกมาจากรูแผลที่ท้องน้อยและไหล่ของนางเหมือนกับน้ำพุ แต่สาวยักษ์ยังคงทำท่าไม่รู้สึกอะไร
เหมือนกับไม่ได้รับบาดเจ็บ ราวกับว่าอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นกับร่างกายคนอื่น นางกวักมือเรียกตัวตลกเสี่ยวโฉ่ว “โจมตีข้าพร้อมๆ กันเลยก็ได้ ข้าอยากเห็นนักว่าใครจะพบกับจุดจบด้วยความอ่อนแอที่น่ากลัวและซากศพกองพะเนิน ข้าไม่ได้คุยโว
แต่อย่างน้อยข้าสามารถลากไปได้สักคน เราจะดูกันว่าใครเป็นคนโชคร้าย!”
“ข้าน้อยผู้นี้มักจะให้ความเคารพและยำเกรงพี่ใหญ่หญิงอยู่เสมอ
เป็นไปได้ยังไงที่ข้าจะกล้าแตะต้องพี่ใหญ่หญิง อย่าล้อข้าเล่นเลย” เสี่ยวโฉ่วหัวเราะชั่วร้าย
“ใช่แล้ว ข้าก็เหมือนกัน
ข้าชื่นชมหัวหน้าลี่เยี่ยนจากใจจริงเสมอ”
มนุษย์โครงกระดูกตอบทำนองเดียวกัน
“อย่าโมโหนักเลย หัวหน้าลี่เยี่ยน
มานั่งคุยกันเถอะ หัวหน้าลี่เยี่ยน เจ้าเองก็ได้รับบาดเจ็บ
เจ้าน่าจะได้รับการรักษาก่อนนะ ฮะฮะ!” จอมปีศาจหัวล้านจื้อกวงยังทำเสแสร้งต่อไป
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าสาวยักษ์ถูกเล็บเชื้อมังกรแทงใส่และได้รับบาดเจ็บหนัก ความจริงภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ไป เขาพยายามลากถ่วงเวลาออกไป เพื่อที่ว่าจะได้โจมตีหลังจากพิษเล็บเชื้อมังกรซึมซาบเข้าไปในกระแสเลือดเสียก่อน
“....” สาวยักษ์สูดหายใจลึก ร่างของนางเริ่มขยายขนาดช้าๆ
นางรู้ว่ามีเวลาเหลือไม่มาและนี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของนาง
“เดี๋ยวก่อน” ครั้งนี้
เย่ว์หยางเดินเข้ามาข้างหน้าทันที
เขายิ้มและกล่าว
“ข้าเสียใจด้วยนะ
ที่บังเอิญข้าต้องเข้าร่วมสงครามระหว่างพวกท่านทุกคน ข้ามีบางอย่างต้องปรึกษากับหัวหน้าลี่เยี่ยน
ข้าหวังว่าพวกท่านจะให้เวลาข้าสักครู่ปล่อยให้ข้าลัดคิวก่อน ความจริง ข้าไม่รบกวนเวลาของทุกคนมากเกินไปนัก”
“เจ้าน่ะหรือ?”
สายตาของเสี่ยวโฉ่วฉายแววอำมหิต
“เจ้ามีเรื่องอะไรต้องคุยกับข้า?”
สาวยักษ์ตะลึงที่จู่ๆ เย่ว์หยางก็ปรากฏตัวออกมา นางรีบโบกมือ
“พ่อหนุ่ม, เจ้าไม่ใช่พวกเรา
หลีกไปข้างๆ นี่ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า”
“ใครว่าแบบนั้นกัน?”
เย่ว์หยางคัดค้าน
“ก็ท่านบอกว่าจะช่วยจัดงานแต่งงานให้กับเรา
ตอนนี้แขกเหรื่อก็มาพร้อมเพรียงกันแล้ว
ท่านต้องการจะยกเลิกหรือ?”
“ถูกแล้ว, พี่สาว, ท่านจะกลับคำพูดไม่ได้นะ!” อี้หนานยิ้มและผงกหัวรับมุขเย่ว์หยาง
ทุกคนตกตะลึงกับคำพูดของเย่ว์หยางและอี้หนาน
คู่รักหนุ่มสาวนี้ พวกเขาไม่กลัวตายหรือ?
ต่อให้พวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มโจรเพลิงพิโรธในตอนนี้ พวกเขาจะถูกกลุ่มโจรโครงกระดูกดำและโจรตัวตลกฆ่าพวกเขาอย่างเงียบๆ แต่ตอนนี้
พวกเขายื่นหน้าออกมาโดยไม่คำนึงถึงนักสู้ปราณฟ้าหลายคน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแต่งงาน นี่พวกเขาทั้งสองคนต้องการหาที่ตายงั้นหรือ?
สาวยักษ์เคลื่อนไหวอย่างลำบาก
นางรู้ว่าเย่ว์หยางกับอี้หนานกำลังสนับสนุนนาง
สหายของนางหลายคนร่วมต่อสู้กันมาหลายปีไม่อาจเทียบได้กับคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบหน้ากัน
นางไม่รู้จักกระทั่งชื่อของพวกเขา แค่เพียงพบกันครั้งเดียว
แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด
สองคนนี้ยังกล้ายืนยันสนับสนุนนาง...
สาวยักษ์สูดหายใจลึกและเพลิงที่เผาลนอยู่ในก้นบึ้งจิตใจนาง
นางพยายามใช้น้ำเสียงนุ่มนวลและอ่อนโยนที่สุดคุยกับอี้หนาน “น้องสาว
ข้าไม่อาจช่วยจัดงานแต่งงานให้เจ้าได้ในตอนนี้
แต่ข้าขออวยพรให้เจ้ามีความสุขและปลอดภัยตลอดไป”
อี้หนานจับมือเย่ว์หยาง
มีเขาสนับสนุนอยู่
นางจะเต็มไปด้วยความมั่นใจและกล้าหาญ
อี้หนานไม่กลัวแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับนักสู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน
นางใช้เสียงที่ชัดใสเหมือนสายน้ำสร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคน “ถ้าไม่สะดวกสำหรับพี่สาว อย่างนั้นเรายินดีจะช่วย
เราจะช่วยให้อาคันตุกะที่มาร่วมดื่มฉลองได้เข้าใจว่าแขกประเภทใดสมควรได้รับการต้อนรับ ที่บ้านเกิดของพวกเรา คนที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตมักจะหาเรื่องเจ็บตัว และเมื่อมีการเจ็บตัวบ้างแล้ว
พวกเขาจะกลายเป็นคนฉลาด
ข้าคิดว่าวิธีนี้ก็สามารถเอามาใช้ที่นี่ได้”
เย่ว์หยางยกหัวแม่มือให้นาง
หลังจากต่อสู้มานับไม่ถ้วน
สาวน้อยอี้หนานแข็งแกร่งมากขึ้น
ถ้านี่ยังเป็นในอดีต นางคงไม่มีความกล้าขนาดนั้น
กลับกลายเป็นว่า ไม่ใช่แค่ตัวเขาเองที่เปลี่ยนไป ทุกคนก็เติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน
แม้แต่อี้หนาน นางก็กลายเป็นนักรบที่ไม่กลัวต่ออะไรเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าสาวคนรักของเขามีความก้าวหน้าขนาดนั้นเย่ว์หยางอบอุ่นในหัวใจจริงๆ...
ตัวตลกจ้องมองด้วยสายตาเยือกเย็นน่ากลัว
เขาโบกมือให้ให้นักสู้ปราณดินระดับห้ามือสังหารออกมาและลงมือสังหารเย่ว์หยางกับอี้หนาน
ขณะที่เย่ว์หยางเตรียมพร้อมลงมือ อี้หนานรั้งเขากลับมาและยิ้มอย่างมั่นใจ “ปล่อยให้ข้าสักสองสามคนเถอะ ข้าจะปล่อยคนที่แข็งแกร่งมากให้ท่าน
คนพวกนี้ข้าสามารถจัดการได้
ไม่ต้องห่วง จักรพรรดินีราตรีและแม่สี่สอนท่าพิเศษให้ข้าไว้มากมาย ข้ายังไม่มีโอกาสแสดงให้เจ้าได้ดู แต่เมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าอยากให้เจ้าดูความก้าวหน้าของข้า...
ความจริงปิงเอ๋อกับข้าและทุกคนฝึกฝนกันอย่างหนักจริงๆ วันนี้ข้าจะพิสูจน์ตัวของข้า”
อี้หนานไม่ได้ออกมาจากข้างกายเย่ว์หยางทันที
นางจะไม่ยอมบุ่มบ่ามออกมาจากข้างกายเขา
นางจะไม่ยอมให้ศัตรูมีโอกาสลอบทำร้าย
นอกจากนี้ พลังจิตโจมตีของนางสามารถเดินทางผ่านมิติและระยะทางห่างได้
นางสามารถโจมตีจากที่ไกลโดยไม่จำเป็นต้องออกห่างข้างกายของเย่ว์หยาง
รัศมีทองเปล่งแสงขณะที่นางเรียกคัมภีร์แพลตตินัมของนางออกมาทันที
เมื่อนักรบมือสังหารปราณดินระดับห้าสี่คนพุ่งมาหาพวกเขา อี้หนานเรียกภูตกระจก, ผีเสื้อหลอนประสาทและแฟรี่น้อยอสูรพิทักษ์ของนางออกมาอย่างใจเย็น แต่ที่ต่างจากอดีตคือ
นางไม่ได้ใช้วิธีโจมตีก่อนอย่างที่เย่ว์หยางเคยสอนนาง แต่นางกลับใช้วิธีที่เย่ว์หยางไม่เคยเห็นมาก่อน
นางหลับตาและเหยียดมือออกไปและทำท่าส่ายเหมือนกับดอกไม้ต้องสายลม
พลังจิตของนางทั้งหมดก่อให้เกิดเวทีที่คล้ายกับสนามพลัง
เทียบกับสนามพลังที่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้าสามารถใช้ได้ เวทีนี้มีมนต์ขลังคล้ายกับพลังรหัสโบราณ
แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังตะลึง
เขาเกือบคิดว่าอี้หนานใช้พลังรหัสโบราณ
แต่หลังจากรู้สึกได้
เขาก็ตระหนักได้ว่าไม่ใช่
มันเป็นเพียงแค่พลังที่คล้ายกับพลังรหัสโบราณ มันมีพลังมาก
แต่ดูเหมือนจะควบคุมได้ไม่ยากและอี้หนานสามารถควบคุมได้
“ขยาย!”
ร่างของอี้หนานหมุนอย่างงดงาม
พลังงานรอบตัวนางเปลี่ยนสภาพกลายเป็นกลีบดอกไม้เริงระบำอยู่รอบตัวนาง
อีกครึ่งเมตรพลังโจมตีของนักสู้ปราณดินระดับห้าทั้งสี่คนจะถึงศีรษะของอี้หนาน
พวกเขาถูกพลังกลีบบุปผาของอี้หนานทำร้ายกระเด็นออกมาทั้งหมด กลีบดอกไม้เหล่านั้นที่ดูเหมือนไม่มีอันตรายกลับไม่สนใจร่างที่แข็งแกร่งของนักรบปราณดิน
กลับตัดเกราะผ่าเข้าไปในร่างของพวกเขา
ในทันใดนั้น วิญญาณของนักรบทั้งสี่คนนี้ถูกทำลาย
พลังจากการโจมตีของพวกเขาถูกดูดซับไว้โดยกลีบดอกไม้ที่งดงามกลายเป็นคลื่นกระแทกผลักร่างทั้งสี่กระเด็นออกไปร้อยเมตร
แม้ว่านักรบทั้งสี่ยังไม่ตาย
แต่พวกเขาจะมีแต่ร่างกายที่ว่างเปล่า
ตอนนี้ร่างกายของพวกเขาหยุดนิ่งสนิทไม่รู้สึกตัว เหลือแต่ร่างกายหยาบๆ
การพ่ายแพ้เช่นนั้นอาจกล่าวได้ว่าน่ากลัวกว่าตายเป็นสิบเท่า
เมื่อเห็นพลังโจมตีของอี้หนาน
ทุกคนหน้าซีด
ตัวตลกตะโกนลั่น “พลังกฎรหัสโบราณ? นี่เป็นกฎรหัสโบราณแบบไหน?”
16 ความคิดเห็น:
ขอบใจหลายยย
โอ้วววเยสสจุใจเลยครับตอนนี้
ขอบคุณ๕รับ เทพแล้วๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคครับ
ตอนหน้า คงมัน ยกกำลัง 10
ขอบใจหลายยย
ฮิฮิ ต้องงี้สิ!! อี้หนานไม่อ่อนแอ สาวๆในฮาเร็มไม่อ่อนแอนี่แหละดีเยี่ยม!!
ขอบคุณครับ
มหกรรมเก็บซองงานแต่ง(ตบทรัพย์)เชิญแขกทั้งหลายร่วมงาน
สนุกครับ
ขอบคุณ ครับ
ขอบคุณครับ
เหอะๆ เริ่มปล่อยของละ ตอนนี้สำหรับคนที่ชอบบอกว่าอี้หนานไร้ประโยชน์นะครับ หุหุ ใต้ร่มธงแม่ทัพหาญไหนเลยขาดขุนพลไร้ฝีมือ ตามสุภาษิตจีนเลยนะเนี่ย
Thx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น