วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 10 ดาบเดียว

เล่มที่ 8  เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร ตอนที่ 10  ดาบเดียว
 “ลีย์, เจ้าคิดว่าแม่นางเจนน์เป็นยังไงบ้าง? นางสวยมากไหม?”  แลนซ์พูดเสียงในลำคอ
 “นางงดงามมาก”  ลินลี่ย์พยักหน้ายอมรับ

ลูเธอร์ที่อยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามา  “นางไม่ใช่แค่งามเท่านั้น  ในหลายปีมานี้ ข้าเดินทางไปมาก็มาก ข้าเห็นสาวงามมานับไม่ถ้วน  แต่แม่นางเจนน์ หึ หึ นางสุดยอดแน่นอน  ลีย์!  เจ้าสนใจแม่นางเจนน์บ้างไหม?”
ลินลี่ย์กระพริบตาตกใจ
แลนซ์ยังคงจ้องมองลินลี่ย์โดยขยิบตาในทำนองที่บุรุษทุกคนเข้าใจได้  “ลีย์! เป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับผู้แข็งแกร่งทรงพลังที่จะมีหญิงงามหลายคน  ถ้าเจ้าไม่ฉวยโอกาส  หลังจากเจ้าออกจากคาราวานไปแล้ว  เจ้าจะไม่มีโอกาสอื่น”
 “ท่านทั้งสอง....”  ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
นานมาแล้วอลิซทำให้ลินลี่ย์ปิดกั้นหัวใจกับเรื่องความรักหนุ่มสาว  และตอนนี้ลินลี่ย์ยังไม่ถึงขั้นหิวกระหายต้องไล่ตามเกี้ยวเด็กสาวงามทุกคนที่เขาพบเห็น
 “แม่นางเจนน์และน้องชายของนางเพิ่งจะออกมา” ลูเธอร์พูดเสียงเบาทันที
ลินลี่ย์หันไปมอง  แน่นอนแม่นางเจนน์และคีนน้องชายของนางเดินตรงไปที่กองไฟซึ่งมีบ่าวรับใช้ชราอยู่ด้วย
คีนเด็กผู้ดีอดหันมามองดูเสือดำเมฆาอีกครั้งไม่ได้
เสือดำเมฆาแยกเขี้ยวเป็นประกายเยือกเย็นของมันทันที  คีนหวาดกลัวจนคว้ามือพี่สาวของเขาเอาไว้แน่น  เจนน์เหมือนกับจะรู้สึกอะไรบางอย่างได้จึงหันมาทางลินลี่ย์เช่นกัน
นางค้อมตัวเป็นการขอโทษลินลี่ย์  เจนน์พาน้องชายนางไปนั่งที่กองไฟถัดออกไป
….

 “พี่, อสูรเวทนั่นสง่างามมากเลยนะ!  ตาของคีนเป็นประกายราวกับอัญมณีและเต็มไปด้วยความต้องการ  “จะต้องเป็นเรื่องเยี่ยมยอด  ถ้าสักวันข้ามีอสูรเวทที่ทรงพลังด้วยเช่นกัน”
บ่าวชราหัวเราะเบาๆ  “คุณชายคีน, การฝึกอสูรเวทให้เชื่องไม่ใช่เรื่องง่าย  จะฝึกฝนอสูรเวทที่ทรงพลัง  ท่านจะต้องปราบมันให้อยู่ และจะปราบมันได้ ท่านจะต้องเอาชนะมันให้ได้โดยตรง  เท่าที่ข้ารู้ อสูรเวทประเภทเสือดำชนิดที่อ่อนแอที่สุดล้วนอยู่ที่ระดับเจ็ดทั้งนั้น ท่านลีย์นั้น ต้องเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง”
 “ที่อ่อนแอที่สุดเป็นอสูรเวทระดับเจ็ดเชียวหรือ?”  คีนสูดหายใจหนาวเหน็บ  “ปู่แลมเบิร์ต มันแข็งแกร่งทรงพลังเท่าปู่แลมเบิร์ตหรือเปล่า?”
ในใจของคีน คนที่เขาเทิดทูนที่สุดในโลกก็คือปู่แลมเบิร์ตของเขา
เมื่อเขากับพี่สาวอยู่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์  พวกเขาไม่มีใครให้พึ่งพาอาศัย  ตลอดเวลาที่ผ่านมาเป็นปู่แลมเบิร์ตคอยปกป้องพวกเขา  ถ้าไม่ใช่เพราะปู่แลมเบิร์ต  เหล่าขุนนางในเมืองที่พวกเขาอาศัยอยู่คงส่งคนไปจับพี่สาวเขานานแล้ว  เขาเห็นกับตาตัวเองว่าปู่แลมเบิร์ตต่อยโล่ของการ์ดขุนนางผู้นั้นจนแตกในหมัดเดียว  จากนั้นเอาชนะการ์ดอีกสิบคนได้อย่างง่ายดาย
 “ข้าน่ะหรือ?  ข้ามีฝีมืออยู่นิดเดียว เขาสามารถฆ่าข้าได้ง่ายๆ ในการโจมตีครั้งเดียว”  แลมเบิร์ตหัวเราะและลูบศีรษะคีน  “คุณชายคีน  เมื่อเราไปถึงจักรวรรดิโอเบรียน เจ้าต้องระมัดระวัง มียอดฝีมือมากมายในโลกนี้  ข้าแค่ปกป้องเจ้าได้ในที่อย่างเมืองเล็กๆ เหล่านั้นได้  แต่เมื่อเราไปถึงเมืองใหญ่....”
 “ไม่เป็นไร!  ครั้งนี้ เราจะไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองใช่ไหม?”  คีนเชิดหัวน้อยๆ อย่างถือดี “เมื่อข้าเป็นเจ้าเมือง  ข้ายังจะกลัวใครอีกเหรอ?”
เมื่อเห็นคีนอย่างนั้นเจนน์อดลูบศีรษะเขาอย่างเอ็นดูไม่ได้ “คีน!  ในอนาคตเจ้าจะต้องเป็นเจ้าเมืองที่สง่างาม
 “แน่นอน”  คีนมั่นใจมาก
………

อย่างช้าๆ คนในคาราวานส่วนใหญ่เริ่มทยอยกันหลับ  มีเพียงทหารรับจ้างสองสามคนยังคงตื่นอยู่คอยป้องกันพื้นที่โดยรอบ  ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ดาบหนักอดาแมนเทียมพาดอยู่บนตักเขาอยู่เสมอ
ลินลี่ย์ไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของตระกูลเขาฝึกการใช้ดาบหนักระดับสาม ระดับกำหนด ได้ยังไง แต่วิธีฝึกของลินลี่ย์ทำให้วิญญาณของเขากลายเป็นหนึ่งกับแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งกับสายลมที่ไร้ขอบเขต
แผ่นดินมีชีพจรที่เต้นได้เป็นของตนเองอย่างน่าอัศจรรย์
ชีพจรเฉพาะนั้นเต้นมีจังหวะเป็นของตนเองซึ่งลินลี่ย์ฝังตัวจดจ่ออยู่  ขณะที่สายลมที่ไร้ขอบเขตซึ่งเต็มอยู่ในท้องฟ้าทั้งมวล มีความเกี่ยวโยงที่ลึกซึ้งกับอวกาศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญทำให้เขาสามารถเข้าใจแก่นแท้ของระดับ กำหนดได้
ฝังตัวอยู่ในธรรมชาติ.... เข้าใจธรรมชาติ....
ในสภาวะนี้ลินลี่ย์ไม่ทันสังเกตเวลาที่ผ่านไปแม้แต่น้อย  แต่ในช่วงครึ่งคืนหลัง เมื่อคนในคาราวานส่วนใหญ่นอนหลับ มีเพียงทหารรับจ้างเพียงไม่กี่คนที่ยังคอยเฝ้าระวัง
 “วิ้วว, วิ้ววว”
ตกดึก สายลมเย็นพัดและไล้เข้ากับปอยผมของลินลี่ย์ ตาที่หลับของลินลี่ย์พลันลืมขึ้นทันที จากนั้นสะพายดาบหนักไว้กับหลัง
 “ลุกขึ้น” ลินลี่ย์ปลุกแลนซ์และลูเธอร์พร้อมกัน
แลนซ์และลูเธอร์เป็นทหารรับจ้างทั้  งสองคนใช้ชีวิตอยู่บนคมหอกคมดาบมาแล้ว  พวกเขาเป็นพวกนอนไว  และลุกขึ้นทันที  แลนซ์กับลูเธอร์เห็นว่ายังคงเป็นกลางคืนอยู่
 “ลีย์, มันดึกแล้ว ทำไมเจ้ายังไม่นอน?”  แลนซ์ไม่พอใจเล็กน้อย  แต่เขาไม่กล้าบ่น”
 “พวกโจรกำลังมา”  ลินลี่ย์พูดตามปกติ
 “โอว”
ลูเธอร์หลับตาอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องลืมตาโพลงทันทีจ้องดูลินลี่ย์ด้วยความตกใจ  “ลีย์!  เจ้าพูดอะไร?  พวกโจรกำลังมาหรือ?”
 “มาเป็นกลุ่มราวๆ ร้อยคนกำลังเข้ามาใกล้จากด้านหน้าห่างออกไปราวสามร้อยเมตร  พวกมันตรงมาทางนี้อย่างช้าๆ”  ลินลี่ย์พูดต่อ
ตอนนั้นลินลี่ย์เชื่อมโยงกับชีพจรแผ่นดินและกระแสไหลเวียนของสายลม
ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ชัดถึงฝีเท้ากำลังเข้ามาห่างออกไปราวร้อยเมตร  ปกติภายใต้สถานการณ์ธรรมดา ลินลี่ย์จะไม่สามารถตรวจพบพวกเขาได้เร็วนัก  แต่หลังจากกลายเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ  ความรู้สึกอ่อนไหวของเขากว้างไกล
ลูเธอร์ตกใจกลัว
 “อย่ายืนบื้ออยู่ตรงนั้นเจ้าโง่  ปลุกพี่น้องของเราทุกคน”  แลนซ์สงบมากกว่า
 “โอว เข้าใจแล้ว”  ลูเธอร์ออกไปปลุกทหารรับจ้างทีละคน  ขณะที่แลนซ์ไปเตือนทหารรับจ้างทุกคนให้เตรียมพร้อม
พอถูกปลุกจากฝันหวานในตอนกลางดึก  ทหารรับจ้างทุกคนไม่พอใจเป็นธรรมดา
 “โจรกำลังมา”  แต่แค่เพียงประโยคสั้นๆ นั้นก็เพียงพอให้พวกเขาตื่นตกใจได้
 “พวกมันอยู่ไหน?”  พลางกวาดตามองไปทุกที่ในราตรีที่มืดมิด  ทหารรับจ้างที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นแม้แต่เงาโจรสักคน  ทุกคนเริ่มแสดงความไม่พอใจ
หัวหน้าทหารรับจ้างเคราครึ้มกระชากคอเสื้อแลนซ์  “เจ้าบอกว่ามีโจร  มันอยู่ไหน?”
 “ไม่ใช่ข้า แต่เป็นลีย์ ที่บอกว่ามีโจร”  แลนซ์รีบอธิบาย
 “งั้นเหรอ?”  บุรุษเคราครึ้มตกใจ  เกี่ยวกับยอดฝีมือผู้นี้ซึ่งเขารับไว้ระหว่างเดินทางของเขา  แค่ดูจากเสือดำ บุรุษเคราดกก็รู้ว่านี่ไม่ใช่คนที่เขาสามารถตอแยได้  เมื่อยอดฝีมือกล่าวอ้างอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาคงไม่ได้กลั่นแกล้งกันแน่
และในทันใดนั้น  บุรุษเคราดกครึ้มก็ได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วมากดังมาแต่ไกล
เมื่อพิจารณาจากพลังของบุรุษเคราดกแล้ว  ตอนนี้เขาสามารถได้ยินเสียงชัดเจนแล้ว
 “พวกโจร, เตรียมตัว เตรียมตัว!  เสียงคำรามที่น่ากลัวของบุรุษเคราครึ้มปลุกคนอื่นทันที  แม้แต่พ่อค้าที่หลับไหลหลายคนและสารถีของพวกเขาก็พลอยตื่นขึ้นด้วย
ทหารรับจ้างเหล่านี้มีราวๆ ร้อยคนตั้งแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
 “ฮ่าฮ่า เจ้าเครามาโลน ข้านักไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะตื่นเร็วนัก  หลายปีมานี้เจ้ามีความก้าวหน้าอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าการลอบโจมตีของเราจะล้มเหลว  งั้นเราคงต้องโจมตีซึ่งหน้า”  เสียงหัวเราะดังลั่นได้ยินทั่ว  จากนั้นร่างหนึ่งในชุดดำปรากฏตัวอยู่หน้าขบวนคาราวาน
 “เป็นเจ้าหรือ?”  หน้าของบุรุษไว้เคราเปลี่ยนไป ขณะที่เขาจ้องมองบุรุษผมทองตาเดียว
อสรพิษตาเดียวแม็คคินเลย์  ในเส้นทางที่ยาวไกลซึ่งไม่มีใครควบคุมนี้  ชื่อนี้เป็นชื่อที่โด่งดังมาก  คนผู้นี้มีชื่อเสียงอื้อฉาวทั้งในเรื่องความชั่วร้ายและพลังของเขาด้วย
 “แว้...” ทารกในกองคาราวานด้านหลังเริ่มร้องไห้
 “โจร!  หลายคนเริ่มแตกตื่น
 “เงียบบบบบ!  บุรุษเคราครึ้มคำรามด้วยความโกรธ  หลายๆ คนในคาราวานเริ่มจับกลุ่มทันทีเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนอยู่ด้วยกัน เด็กหนุ่มหลายคนมีอาวุธพร้อมต่อสู้
บุรุษเคราดกมองดูบุรุษตาเดียวผมทอง “อสรพิษตาเดียว อย่ากดดันกันเกินไป ข้าขอเสนอห้าพันเหรียญทองให้เจ้า และเจ้าปล่อยให้พวกเราผ่านไป ตกลงไหม?”
 “ห้าพันเหรียญทอง?”  บุรุษตาเดียวหัวเราะเย็นชา  “มาโลน เจ้าเห็นข้าแม็คคินเลย์เป็นขอทานงั้นหรือ?  ฟังนะ หนึ่งแสนเหรียญทอง แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป มิฉะนั้น ฮึ่ม...”
หน้าของทหารรับจ้างทุกคนเครียดทันที
แสนเหรียญทอง?  ค่าจ้างสำหรับภารกิจนี้ของพวกเขาก็แค่เพียงหกหมื่นหรือเจ็ดหมื่นเหรียญทองเท่านั้น  ถ้าพวกเขายอมมอบแสนเหรียญทองออกไป  เงินพวกเขาคงเกลี้ยงกระเป๋า  ที่สำคัญคือ ตามกฎของทหารรับจ้าง เมื่อพวกเขายอมรับภารกิจแล้ว ต่อให้พวกเขาต้องจ่ายบางส่วนให้โจร กลุ่มกิจการของทหารรับจ้างก็ต้องควักกระเป๋าเอง
 “อสรพิษตาเดียว อย่ารุกล้ำจนเกินไปนัก  เจ้าควรจะพอใจกับราคาห้าพันเหรียญทองโดยที่คนของเจ้าไม่ตายสักคนเดียว”  บุรุษเคราดกชูขวานศึกของเขา  “มิฉะนั้น เราต้องมาดูกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน”  บุรุษเคราดกมาโลนค่อนข้างมั่นใจ  ในอดีต เขาเคยสู้กับแม็คคินเลย์และพวกเขามีระดับพลังเสมอกัน  เขาเชื่อว่าด้วยการลอบโจมตีที่ล้มเหลว  แม็คคินเลย์คงไม่กล้าเสี่ยงทุ่มกำลังโจมตีแน่
 “ก็ควรเป็นเช่นนั้น  พี่น้อง..บุก!  แม็คคินเลย์ตะโกนลั่น
ทันใดนั้นโจรทุกคนชักอาวุธและโห่ร้องเกรี้ยวกราด เริ่มบุกใส่ทันที เรื่องนี้สร้างความตกใจให้มาโลนจริงๆ
ควับ ควับ ควับ!
พลธนูทั้งสองฝ่ายเริ่มยิงธนูโต้ตอบกันอย่างไม่ปราณี  แต่ในการต่อสู้ขนาดเล็กอย่างนี้แต่ละฝ่ายมีพลธนูเพียงร้อยคน ไม่มากพอจะสร้างผลกระทบทั่วทั้งสนามรบ
 “มาโลน, ตายซะเถอะ!  แม็คคิลเลย์บุกตรงเข้ามาพร้อมกับง้าวแหลมคม เขากระโจนขึ้นในอากาศและฟันใส่มาโลนสุดกำลังด้วยอานุภาพปานฟ้าผ่า
มาโลนยกขวานศึกขึ้นต้านรับ ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอ
 “ปึ้ก...” รังสีดำครอบคลุมง้าวและทวีความรุนแรงขึ้นทันที
 “บึ้ม!
มาโลนรู้สึกว่ามือของเขาชา และเขาถอยไปสองสามก้าวอย่างช่วยไม่ได้
 “เจ้า....?”  มาโลนจ้องแม็คคินเลย์อย่างประหลาดใจ  เขารู้แน่ว่าแม็คคินเลย์แข็งแกร่งขนาดไหน ถ้าว่ากันในเรื่องสู้กันซึ่งหน้า อาวุธของเขาเองได้เปรียบแม็คคินเลย์  แต่ตอนนี้คู่ต่อสู้กลับได้เปรียบเหนือเขา นี่....
 “เจ้าคาดเดาได้ถูก  ข้าเป็นนักรบระดับแปดแล้ว”  หน้าของแม็คคินเลย์เต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
 “มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่กังวลเรื่องการโจมตีซึ่งหน้าแม้แต่น้อย” ตอนนี้มาโลนเข้าใจแล้ว
 “เจ้านาย, มีหญิงงามคนหนึ่งอยู่ที่นี่” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทันที
แม็คคินเลย์หันหน้าและเห็นเจนน์  ใบหน้านางขาวซีดจากอาการตกใจกลัว  ตอนนี้เจนน์ปกป้องน้องชายของนางอย่างเต็มที่  ใบหน้าที่น่าเวทนาของนางดูตื่นเต้น
 “ฮ่าฮ่า, สตรีคนนั้นเป็นของข้า!  แม็คคินเลย์ตื่นเต้นมากทันที
….

เหล่าทหารรับจ้างต่อสู้อยู่กับพวกโจร  โจรคนหนึ่งฆ่าทหารรับจ้างได้คนหนึ่ง และจากนั้นก็ถูกทหารรับจ้างอีกคนหนึ่งเสียบหน้าอก
 “ถอยก่อน ถอย!  มาโลนตะโกนขณะที่เขาถอยอย่างรวดเร็ว  ทหารรับจ้างของเขาทุกคนถอยมารวมกับเขาเช่นกัน
 “ท่านลีย์, ข้าขอวิงวอนท่าน  ได้โปรดช่วยกองคาราวานของพวกเราด้วยเถิด” มาโลนพูดกับลินลี่ย์ด้วยความเคารพร้อมขอความช่วยเหลือจากเขา  ตอนนี้ทหารรับจ้างก่อขบวนเป็นวงกลม พ่อค้าทั้งหมดอยู่ในวงกลมชั้นใน  ลินลี่ย์และมาโลนทั้งสองคนยืนอยู่ที่วงกลมชั้นนอก
เมื่อเจอกับคำขอร้องของมาโลน ลินลี่ย์พยักหน้าครั้งหนึ่ง
 “ข้าจะช่วยท่านจัดการกับหัวหน้าเท่านั้น”  ลินลี่ย์กล่าว  มาโลนตื่นเต้นนัยน์ตาเป็นประกายทันที  ถ้าแม็คคินเลย์ถูกฆ่า  พวกเขายังจะกลัวพวกโจรที่ยังเหลือด้วยหรือ?
เจนน์กอดน้องชายนางอยู่ใกล้กองไฟไว้แน่น
 “พี่, หัวหน้าทหารรับจ้างนั้นดูเหมือนกำลังขอร้องท่านลีย์” นัยน์ตาของคีนเป็นประกายขณะที่เขามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้  เจนน์หันไปมองลินลี่ย์เหมือนกัน
ลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางถนนมองดูพวกโจรอย่างใจเย็น
 “บัดซบ!  แม็คคินเลย์ควงง้าวในมือและบุกใส่ด้วยความเร็วสูง  เขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงมาก  และร่างของเขากระพริบวาบจากซ้ายไปขวาเหมือนกับว่าเขาแยกออกเป็นสองร่างทำให้คู่ต่อสู้ยากจะกำหนดว่าใครคือแม็คคินเลย์ตัวจริง ใครคือภาพลวงตา
ดาบลวงตา!
นี่คือไม้ตายพิเศษประจำตัวของแม็คคินเลย์ อสรพิษตาเดียว
 “น่าขัน” ลินลี่ย์บรรลุถึงระดับ กำหนด ไปแล้ว แค่เพียงเคล็ดวิชาระดับนี้ย่อมไม่มีผลต่อเขาแต่ประการใด
 “ตาย!” ประกายตาที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงและดุร้ายปรากฏอยู่ในดวงตาของแม็คคินเลย์
ลินลี่ย์ชักดาบหนักอดาแมนเทียมจากฝักดาบด้านหลังของเขา  ท่วงท่าชักดาบนี้เต็มไปด้วยความน่าทึ่ง มีราศีสง่างาม ขณะที่พื้นที่รอบดาบถูกแช่แข็งทันที
ดาบหนักอดาแมนเทียมฟันใส่แม็คคินเลย์อย่างเรียบง่าย
แม็คคินเลย์อยากหลบทันที แต่ก็ต้องหวาดหวั่นเมื่อเขาพบว่าพื้นที่รอบตัวเขามีแรงบีบอัดหนาแน่นจนขยับไม่ได้  ในทันใดนั้นแม้แต่เสียงก็ยังหลุดรอดไปจากพื้นที่นั้นไปไม่ได้
เขาไม่มีที่ให้หลบ และความจริงไม่เห็นอะไรอื่น ตาของเขามองอยู่แต่ที่ดาบหนักอดาแมนเทียมที่เข้ามาใกล้ทุกขณะ
เขาต้องการยกง้าวของเขาขึ้นป้องกัน  แต่กลับรู้สึกว่าเหมือนติดอยู่ในหลุมทรายดูดลึกไม่สิ้นสุด  ง้าวของเขาให้ความรู้สึกเหมือนกับหนักขึ้นเป็นหมื่นปอนด์และช้ามาก
 “บึ้ม!
ดาบหนักอดาแมนเทียมฟาดเข้าที่ร่างของแม็คคินเลย์  ในทันใดนั้นทั่วร่างแม็คคินเลย์ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าเปลี่ยนสภาพเป็นกองเนื้อเละ  พวกโจร ทหารรับจ้าง เจนน์ คีนและคนอื่นๆ ต่างเพ่งมองอย่างพิศวงปากอ้าตาค้าง
 “โจรเล็กโจรน้อยที่เหลือ พวกท่านรับมือเอาเอง”  ลินลี่ย์เก็บดาบเข้าฝักขณะที่พูดกับเจ้าเคราดกมาโลนอย่างใจเย็น

10 ความคิดเห็น:

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

ชัชวาล กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ผู้ชื่นชม กล่าวว่า...

เยี่ยมคับสนุกขอเป็นกำลังใจนะคับ

Reeds กล่าวว่า...

ขอบคุณคะ

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

KiattisakPleng กล่าวว่า...

มา2ตอนตายซะละ55

แสดงความคิดเห็น