วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 454 อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ



ตอนที่  454   อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ
ไข่หมี
จิ่งหาวดูเหมือนกับว่าเขาถูกฉุดขึ้นมาจากน้ำ  ใบหน้าของเขามีแววอ่อนล้า  แต่ดวงตายังคงสดใสดุจดวงดาว

การหอบหายใจจากคนห้าหมื่นคนพร้อมกันทำให้เกิดเสียงดังครืนเหมือนฟ้าคำราม ทุกคนเหงื่อท่วมตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  วิธีการฝึกฝนแบบใหม่จำเป็นต้องให้ทุกคนรักษาระดับสมาธิที่สูงส่งไว้ในช่วงเวลาสั้นๆ ให้ได้
อาซิ่วอยู่ใกล้ๆ จิ่งหาว หน้าของเขาซีดเผือด มีไอน้ำระเหยออกมาจากทั่วตัวของเขา  เขาต้องคอยสนับสนุนจิ่งหาวเหมือนเป็นผู้ช่วย แรงกดดันทั้งหมดจิ่งหาวรับเอาไว้  แต่แม้ว่าสิบเปอร์เซ็นต์ของคนห้าหมื่นสองพันคน สำหรับเขาแล้วเป็นแบบทดสอบที่หนักหนามาก
มันทรมานทุกครั้ง แต่อาซิ่วกัดฟันอดทน  เขารู้ว่ามันคือบททดสอบกำลังใจและถ้าเขาสามารถทนผ่านไปได้  พลังของเขาก็จะทะยานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน  อาจารย์ให้ตำแหน่งสำคัญกับเขา เชื่อใจเขาและฝึกฝนเขา
อาซิ่วมองดูจิ่งหาว ใจของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม  แรงกดดันที่จิ่งหาวแบกรับไว้ยังมากกว่าเขาหลายเท่า  ทุกครั้งที่การฝึกจบลง  จิ่งหาวจะดูเหมือนกับปลาที่ถูกดึงขึ้นจากน้ำ  แต่ว่าตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ สีหน้าของเขาไม่ค่อยเปลี่ยนไปมาก
เป็นคนที่อดทนดีเหลือเกิน!
การกระทำของจิ่งหาวส่งผลต่ออาซิ่วอย่างมาก ดังนั้นเขาต้องทนให้ได้
นักสู้ทุกคนที่อยู่บนเชือกลุกขึ้นกันหมด และทยอยกันออกไปอย่างเป็นระเบียบ  จิ่งหาวหลับตาพักเพื่อฟื้นฟูกำลังกายและรอการฝึกรอบต่อไป นี่พิสูจน์ได้แล้วว่าวิธีฝึกของอาเดรียนเต็มไปด้วยประสิทธิภาพมาก  เขาสามารถรู้สึกถึงปราณแท้ของเขาได้อย่างชัดเจนและควบคุมได้ดียิ่งขึ้น
 “การผสานกันได้อยู่ที่ 72%  อาเดรียนกล่าวอย่างใจเย็น  “ประสิทธิภาพการฝึกเพิ่มขึ้น 8% นั่นอยู่ในระดับที่ดีมาก”
ผลของการฝึกเพิ่มขึ้น 8% จิ่งหาวผงกศีรษะ  อัตราการเพิ่มขนาดนั้นถือว่าทรงประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
สมกับที่เป็นอธิการบดีพรานนักล่าแห่งสถาบันอันดับหนึ่งแห่งกลุ่มดาวนายพรานจริงๆ มาตรฐานการอบรมขัดเกลานักสู้ของเขามีคุณภาพสุดยอดอย่างแท้จริง
 “ถ้าเราสามารถเพิ่มการผสานกันได้ถึง 90% หรือสูงกว่านั้น ประสิทธิภาพการฝึกจะเพิ่มขึ้นถึง 15%  เสียงสงบของอาเดรียนเต็มไปด้วยความคาดหมาย เพิ่มประสิทธิภาพการฝึกเป็นปัญหาที่เจอกันทั้งโลก และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 15% นั่นเป็นความสำเร็จอย่างงดงาม มีแต่เพียงองค์กรใหญ่อย่างสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา, สมาพันธ์ชาวยุทธหรือองค์การวิญญาณมืดก็มีวิธีสำเร็จที่ดีกว่า
แต่น่าเสียดาย อัตราการเติบโตไม่สามารถใช้ได้ทั่วโลก  หากไม่มีวิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณของถังเทียน พวกเขาจะไม่สามารถสร้างเขตพลังดวงดาวที่หนาแน่นได้ และหากไม่มีจิ่งหาวและความอดทนของเขา ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้
แม้แต่นักสู้ผู้เข้าร่วมฝึกฝนก็เพียงแค่ค้นพบแต่ไม่ต้องการต่อเนื่อง
แม้ว่าวิธีการของเขาจะดี  แต่ข้อกำหนดก็สูงมากและทุกช่วงของการฝึกต้องให้พวกเขาใช้พลังและความแข็งแรงกันทุกคน  จึงจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการฝึกฝนระดับสูงได้  นักสู้ชาวหมาป่าไม่บ่นและฝึกกันอย่างเงียบทุกคน
ตอนเริ่มแรก นักสู้ชาวอันโดรเมดาและนักสู้ชาวดาวมังกรพากันบ่นไม่พอใจตรงกันข้ามกับนักสู้ชาวหมาป่า  อาเดรียนจัดการย้ายนักสู้ที่แสดงความอึดอัดคับข้องใจไปด้านหลังทันที และนั่นเป็นการปิดโอกาสของนักสู้สองกลุ่มดาวทันที และหลังจากนั้น นักสู้ชาวหมาป่าแสดงพลังใจที่น่าประหลาดและสอดคล้องกัน ทำให้นักสู้จากกลุ่มดาวอื่นกดดันมากขึ้น บวกกับถูกตระกูลที่สนับสนุนตักเตือนอย่างหนัก  ทัศนคติว่าการฝึกในไข่หมีเป็นเรื่องดี สิ่งที่อาเดรียนทำนั้นไม่เคยเห็นประจักษ์มาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นถังเทียนหรือจิ่งหาว นักสู้ทุกคนล้วนน่าสรรเสริญ  ขอเพียงพวกเขาทุกคนรวมตัวกันและฝึกฝนตามก็สามารถได้ผลสำเร็จเช่นนั้นได้
ในเวลาอันรวดเร็วนักสู้กลุ่มใหม่ก็เข้ามานั่งประจำตำแหน่งอีกครั้ง
จิ่งหาวฟื้นฟูพลังเรียบร้อย มีพลังชีวิตเต็มเปี่ยมอีกครั้ง อาเดรียนมองดูอาซิ่วซึ่งมีสีหน้าเคร่งขรึม อาเดรียนจดบันทึกความก้าวหน้าของอาซิ่วไว้
ถังเทียนสามารถรองรับวิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณได้นานก็ยิ่งดี...
ความคิดนั่นแว่บผ่านเข้ามาในใจของอาเดรียนทำให้เขาหัวเราะหึหึทันที ถังเทียนอดทนมาถึงหกสิบวันแล้ว กล่าวโดยทั่วไปวิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณหายากที่จะคงอยู่เกินห้าสิบวัน ของถังเทียนอาจจะสั้นกว่าเนื่องจากความหนาแน่นของวังวนกระบี่รอบตัวเขา  พูดอีกอย่างก็คือ ความเข้มข้นในการขัดเกลามากเป็นประวัติการณ์ และส่วนใหญ่น่าจะขัดเกลาจิตวิญญาณยุทธของเขาสำเร็จมาก่อน
ข้าสงสัยจริงๆ จิตวิญญาณยุทธของถังเทียนจะเป็นยังไงหลังจากขัดเกลาสำเร็จแล้ว
จากนั้นอาเดรียนกลับมาเพ่งความสนใจต่อ ทิ้งความคิดฟุ้งซ่านไว้เบื้องหลังและตวาด “เริ่มได้!
*******

ฮัวเฉินหวินยืนอยู่ที่ประตูไม่ไกลจากที่ถังอี้ยืนเฝ้า  ถังอี้ทำเป็นเหมือนมองไม่เห็นฮัวเฉินหวิน ไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งสองยังคงเงียบ  แต่ฮัวเฉินหวินรู้สึกได้ถึงแรงกดดันหนาแน่น  รังสีฆ่าฟันมีอยู่รอบตัวถังอี้ทำให้เขาสงสัยว่าถังอี้จะปลดปล่อยพลังดาบใส่เขา
ถังอี้มองดูอยู่เป็นเวลานานรู้สึกจนใจ  ผู้อาวุโสสำนักบอกไว้ก่อนแล้ว จะมีอาคันตุกะสำคัญมาเยี่ยม...
เขารู้สึกเบื่อ ทั้งยังรู้สึกอึดอัดมากกับความเงียบ เขาตัดสินใจพูดเปิดหัวข้อสนทนา  “แม่ทัพถังอี้ ท่านต้องยืนเฝ้าที่นี่ด้วยตนเองหรือ?”
ถังอี้ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินอะไร ไม่แม้กระทั่งกระพริบตา
ข้าถูกละเลยเสียแล้ว....
ฮัวเฉินหวินเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นอ้าปากเอ่ยอีก  “แม่ทัพถังอี้ วันนั้นพลังของท่านน่าตกใจจริงๆ! ข้าไม่เคยคาดว่าแม่ทัพถังไม่เพียงแต่เป็นผู้บัญชาการที่โดดเด่นแล้ว แต่วิชาดาบของท่านก็ทรงพลังมาก
ถังอี้ยังคงเงียบต่อไป
ข้าถูกละเลยอีกแล้ว
ฮัวเฉินหวินมองดูถังอี้เงียบๆ ก็ได้ ข้าก็เบื่อเหมือนกัน
ทันใดนั้น ถังอี้ลืมตา
ในที่สุดก็มีความเคลื่อนไหวจนได้หรือ? ฮัวเฉินหวินถอนหายใจโล่งอกขณะที่เขาเชิดหัวมองถังอี้
เอ๋?
ทันใดนั้นฮัวเฉินหวินตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มือซึ่งเดิมทีจับอยู่ที่ดาบ  มือที่เดิมทีพาดอยู่บนดาบเลื่อนมาจับด้ามดาบทันที  ถังอี้ซึ่งแต่เดิมเหมือนกับรูปปั้นเปลี่ยนเป็นสัตว์ร้ายยืนรอเตรียมลงมือทันที
ขณะนั้นเองคนกลุ่มหนึ่งปรากฏเข้ามาในสายตาของเขา  ดูเหมือนพวกเขาเดินตรงมาที่ฐาน
ถังอี้มีนัยน์ตาเป็นประกายเงื้อดาบฟันขาม้าที่น่ากลัว
ฮัวเฉินหวินสะดุ้งและมีปฏิกิริยาทันที สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นแตกตื่น “เดี๋ยวก่อน...”
คลื่นรังสีดาบปรากฏทันที  แสงแพรวพราวครอบคลุมทั่วตัวเขาทันที  ใจของฮัวเฉินหวินว่างเปล่า  เขากุมศีรษะไม่ต้องการเชื่อสายตาตนเอง
โอว ไม่นะ!
ผ่านไปนานเท่าใดไม่ทราบ ฮัวเฉินหวินค่อยรู้สึกตัว  เมื่อเขารู้สึก รังสีดาบก็หายไปแล้ว และร่องลึกยาวตรงจากขาถังอี้ยืดยาวออกไป...
ฮัวเฉินหวินกลั้นหายใจหันหน้าไปมอง  เมื่อเขาเห็นร่องยาวขยายไปถึงเท้าบุรุษตัวใหญ่ร่างหนึ่ง เขาผ่อนคลายทันที  ในช่วงเวลานั้น เหมือนกับว่าเขาโบยบินจากนรกขึ้นสู่สวรรค์
ปัง!
รังสีดาบแพรวพราวครอบคลุมสายตาเขาอีกครั้ง  ฮัวเฉินหวินที่เพิ่งคลายใจได้ตะลึงค้างอีกครั้ง เขาใช้มือทั้งสองกุมศีรษะ สีหน้าท่าทางชะงัก
เมื่อรังสีดาบหายไปอีกครั้ง ฮัวเฉินหวินสั่นสะท้านทันที เขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป เขาวิ่งไปอยู่ข้างหน้าถังอี้แล้วตะโกน  “อาคันตุกะ!  เราเป็นอาคันตุกะ!
ดาบของถังอี้หยุดค้างกลางอากาศ
 “ถังอี้, อย่าเสียมารยาท!  เสียงปิงดังมาจากด้านหลัง
ถังอี้ลดดาบลงทันทีและหลีกไปยืนด้านข้าง
 “เร็วๆ นี้มีเรื่องยุ่งยากมาก ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาข้ากังวลอยู่บ้าง ข้าขออภัยจริงๆ ที่เข้าใจผิด ข้าคือปิง ยินดีต้อนรับ!” ปิงคำนับขออภัย
บุรุษร่างใหญ่ผู้รับดาบของถังอี้ยืนหันข้างเผยให้เห็นร่างของผู้อาวุโสด้านหลัง สีหน้าของเขาดูไม่ดีขณะที่เขามองดูถังอี้ ใจเขาลอบสะท้าน
รังสีดาบที่ทรงพลังเหลือเกิน...
ห่างจากระดับเซียนแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น   จิตวิญญาณยุทธขนาดนั้น แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ...
ใบหน้าเย็นชาของผู้อาวุโสมีรอยยิ้มทันที  “เป็นแม่ทัพที่กล้าหาญและมีวิชาโดดเด่นยิ่งนัก  มิน่าเล่าหนุ่มชาวฟ้าถึงได้ไร้เทียมทาน และสามารถยึดกลุ่มดาวหมีใหญ่ได้”
ปิงยิ้มอย่างมีมารยาท  “กลุ่มดาวหมีใหญ่เป็นดินชนบทและคงเป็นเรื่องตลกเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกท่าน หมื่นหัตถกรรมแห่งดาวคันชั่ง นั่นคือแดนจาริกของช่างฝีมือแห่งสวรรค์วิถีอย่างแท้จริง”
 “ท่านปิงชมเชยเกินแล้ว”  ผู้อาวุโสหน้าเย็นชากล่าว “วิชาจักรกลเมืองสามวิญญาณโดดเด่นเป็นเอกในสวรรค์วิถีและวัตถุประสงค์การมาเยี่ยมชมของเราครั้งนี้ เราถือทัศนคติที่รอบคอบ และเราหวังว่าท่านปิงและอาจารย์เซรีนจะใจกว้างให้คำแนะนำบ้าง”
 “คำพูดของผู้อาวุโสเซียวทำให้เรารุ่นผู้เยาว์รู้สึกละอายใจนัก เชิญ เชิญเข้ามาเถิด” ปิงพูดทันที
ผู้อาวุโสเซียวมองดูปิงและยิ้ม  สำหรับปิงนั้นสามารถเปิดเผยสถานะของเขาได้  นั่นพิสูจน์ถึงความพร้อมของพวกเขา แต่ก็เป็นไปตามคาดของเขา
กลุ่มคนเดินสนทนาและคุยกันขณะที่พวกเขาเข้าไปในฐาน
สนามฝึกฝนในฐานทัพที่มีชีวิตชีวาดึงดูดสายตาคนกลุ่มนี้ทันที  เมื่อเห็นพวกเขาสนใจ ปิงรู้ว่าเขาต้องการซื้ออย่างมากจึงอธิบายและแนะนำอย่างสุดฝีมือทันที
 “การฝึกนี้หมายถึงการเพิ่มขีดความเร็วของนักสู้สายจักรกล  ความคล่องตัวของอาวุธจักรกลวิญญาณต้องอาศัยฐานจากจักรกลเป็นหลักไม่ใช่วิชาตัวเบา ดังนั้นเพื่อให้พวกเขาสามารถกระตุ้นพลังของอาวุธจักรกลวิญญาณได้ดี  พวกเขาจำเป็นต้องเข้าอบรมการฝึกฝนแบบดั้งเดิมนี้...”
 “นี่คือการฝึกความสามารถในการตอบสนอง  เป้าหมายก็คือเพิ่มความคุ้นเคยของนักสู้สายจักรกลกับอาวุธจักรกลวิญญาณ  อาวุธจักรกลวิญญาณแตกต่างจากอาวุธจักรกลรุ่นเก่าอย่างสิ้นเชิง  อาวุธจักรกลวิญญาณคือเรือนร่างที่สามารถเข้าใจได้ เนื่องจากตัวมันมีจิตวิญญาณยุทธ และส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับนักสู้สายจักรกลก็คือ พัฒนาการสื่อสารระหว่างพวกเขากับจิตวิญญาณยุทธ เนื่องจากจิตวิญญาณยุทธของอาวุธจักรกลก็ต้องการเติบโตเช่นกัน...”
……

 “โอว, พวกนี้คือหมูสี่ตัวของตระกูลอีวาน...”
ฝีเท้าของทุกคนสับสนทันทีและหยุดพร้อมกัน  พวกเขาหันไปมองดูคนสี่คนที่ถูกมัดอยู่กลางแสงไฟ และในทันใดนั้นกลายเป็นความเงียบที่น่าอึดอัด
 “พวกเขาคือคนของตระกูลอีวานจากกลุ่มดาววัวหรือ?”  ผู้อาวุโสเซียวถามหลังจากพิจารณาแล้ว
 “อา ใช่แล้ว” ปิงลูบคางแววตาชื่นชมและหัวเราะ  “ข้าได้ยินมาว่าครอบครัวของตระกูลอีวานมีสถานะที่เข้มแข็ง  ข้าสงสัยจริงว่าคนเหล่านี้จะแลกเปลี่ยนเหรียญดาวได้เท่าใด”
ถือโอกาสในช่วงเวลานี้ ฮัวเฉินหวินอธิบายความคับข้องใจระหว่างตระกูลอีวานและเซรีนให้พวกเขาฟัง
ผู้เฒ่าเซียวมีความรู้สึกร่วมกับทุกคน  แต่ไม่แสดงความรังเกียจ  แม้ว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นในตระกูลโง่ๆ บ่อยก็ตาม  แต่จับคนแขวนประจานไว้อย่างนั้นน่าละอายจริงๆ
คนทั้งสี่ถูกแขวนประจาน ล้วนหน้าแดงกันทุกคน
ผู้เฒ่าเซียวหัวเราะ  แม้ว่าตระกูลอีวานจะทรงอำนาจ  แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดทำให้เขากลัว  เขายังคงเดินชมฐานต่อไป
ปิงเดินพาคณะทัวร์ชมฐานใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มก่อนจะสรุป  ในกระบวนการทั้งหมดนี้ สายตาของผู้เฒ่าเซียวเต็มไปด้วยความสนใจ
หลังจากนำชมเสร็จ  ปิงพาพวกเขาไปที่หอประชุมใหญ่เพื่อดื่มชาและพักผ่อน
ขณะที่พวกเขานั่งลงในฐานะเจ้าภาพและแขก  ทุกคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและจุดประสงค์กัน “เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้เป็นเพราะข้าต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อยจากฝ่ายของท่าน”

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

มาเช่ากองทัพเขาแม่นบ่ 555++

Unknown กล่าวว่า...

ใครฟร่ะเคยออกมายังลืมไปแล้ว คิดถึงพี่ถังมากๆแล้ว

dvdkeeper กล่าวว่า...

ทรมาณอีกกี่วันหว่า แต่เป็นการฟาร์มเวลยกตี้ที่ดีเลยทีเดียว

Unknown กล่าวว่า...

ไม่ใช้ยกตี้แต่ยกทังกิล

Neoplasm24 กล่าวว่า...

60วันเลยเรอะพี่ถัง ยังงี้อัพดวลยกกิล์จริงๆแน่

แสดงความคิดเห็น