วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 458 สุนทรพจน์ปลุกใจ



ตอนที่  458  สุนทรพจน์ปลุกใจ
ฝูเยี่ยนร้องขอความช่วยเหลือมาถึงกลุ่มดาววาฬ และขณะเดียวกัน กองพลวาฬดำก็ขอความช่วยเหลือมาด้วยเช่นกัน

รายงานก่อให้เกิดโกลาหล ไม่มีใครคาดเลยว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่จะไร้ยางอายและใช้วิธีที่น่ารังเกียจและเอารัดเอาเปรียบ  การต่อสู้ครั้งก่อนของถังเทียนล้วนเป็นการรบโดยตรงซึ่งหน้าทำให้ผู้คนสรรเสริญความกล้าหาญของเขา  แต่การสู้ในปัจจุบันทำให้ลมเปลี่ยนทิศทันที
 “นี่ก็หมายความว่ากลุ่มดาวหมีใหญ่อับจนหนทางและหมดความสามารถของตนเอง!  พวกเขาไม่มีทางอื่นเพื่อหยุดยั้งเรา ทหารกล้าของกลุ่มดาววาฬทั้งหลาย ชัยชนะอยู่ข้างหน้า ตราบใดที่เรายังผลักดันต่อไป กลุ่มดาวหมีใหญ่จะตกเป็นของเรา!  วีรบุรุษผู้กล้าทั้งหลายผู้บุกเบิกดินแดนใหม่เพื่อกลุ่มดาววาฬ จะได้รับรางวัลอย่างดี  พวกเขาพยายามสู้กับโจรที่มาหยุดเรา แต่พวกเขาไม่รู้ พวกโจรหมาป่าชั้นต่ำเหล่านั้นจะต้องกลายเป็นหินลับมีดของนักสู้ชาววาฬของเรา!  พันธมิตรของเรา สมาพันธ์ชาวยุทธจะส่งผู้เชี่ยวชาญสายเลือดมาช่วยให้เราคว้าชัยชนะ ตอนนี้ข้าจะตั้งรางวัลค่าหัว  นักสู้หมาป่าจะมีรางวัลหมื่นเหรียญดาว!  ทหารผู้กล้าแห่งกลุ่มดาววาฬของข้า  พวกเจ้าทุกคนยังจะรออะไรอยู่อีก?”
คำพูดของกงชิงปลุกใจสร้างกำลังใจอย่างสูงทำให้นักสู้ชาววาฬทุกคนนัยน์ตาเป็นประกาย  โจรหมาป่าน่ะหรือ? พวกมันคือนักสู้ที่ถือกำเนิดมาจากดินแดนยากจนและกันดาร มีความหนาแน่นของพลังดวงดาวเพียง 1% ยิ่งกว่านั้นยังมีค่าหัวถึงหนึ่งหมื่น!
นั่นทำให้หลายคนที่ยังไม่เป็นนักสู้ที่ดีกระตือรือร้นทันที ใช่แล้ว พลังของพวกเขาธรรมดามาก  แต่เมื่อเทียบกับกระสุนมนุษย์กลุ่มดาวหมาป่าแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งมากกว่า
และด้วยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่สมาพันธ์ชาวยุทธส่งมา ทุกคนค่อยวางใจ
กลุ่มดาววาฬพากันตื่นเต้น
กงชิงพูดปลุกใจเสร็จก็ดื่มน้ำกลั้วคอ
ผู้เฒ่าจางยกย่องชื่นชม  “สุนทรพจน์ของฝ่าบาทน่าประทับใจ! ค่าหัวหมื่นเหรียญทอง นั่นเป็นความคิดที่ฉลาดและมองการณ์ไกลจริงๆ  มีเพียงฝ่าบาทที่คิดได้อย่างนั้นด้วยเหรียญดาว 10 พันล้านก็ใช้กำจัดนักสู้หมาป่าได้ล้านคน ข้าเชื่อมั่นฝ่าบาทจริง”
กงชิงรู้สึกยินดีและยิ้มออกมา “เขาต้องการใช้กลยุทธกับข้า เราสามารถร่วมกับพวกเขา  ใครจะรู้ ถ้าเผ่าพันธุ์หมาป่าถูกล้างเผ่าพันธุ์ ก็คงทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจจริงๆ”
 “ฝ่าบาทมีเมตตาจริงๆ!  ผู้เฒ่าจางยกย่องทันที
 “เรื่องผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือด  ข้าจะต้องขอร้องให้ผู้เฒ่าจางทำงานอย่างหนัก”
ผู้เฒ่าจางตอบทันที  “วางใจได้เลยฝ่าบาท  กลุ่มผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดส่งออกไปแล้ว  ผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดระดับสูงของสมาพันธ์พลังของเขายากจะหาใครเทียบได้”
กงชิงยิ้ม “งั้นข้าก็วางใจแล้ว”
*****

เมืองสามวิญญาณ
 “ข้าเพียงแต่รับสมัครคนมาได้เพียงเท่านี้”  ติงตังกล่าวอย่างจนใจ
ถังโฉ่วชำเลืองมองนักสู้ที่ด้านหลังของติงตัง ราวๆ สี่สิบคน ทุกคนมีพลังปราณและความแข็งแกร่ง  ยากจะหยั่งถึง  โลกในปัจจุบันปั่นป่วน และสถานะของนักสู้ยังมีพัฒนาการตามสถานการณ์ ที่สำคัญยิ่งกว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะรับสมัคร เนื่องจากมีคนรวยหลายคนในช่วงปีนี้ และตราบใดที่พวกเขามีความสามารถ จะมีคนสามารถจ่ายได้ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน
การป้องการฐานมักจะมีปัญหา  แม้ว่าพวกเขาจะจัดแนวป้องกันที่เป็นอาวุธจักรกลเป็นชั้นๆ  และมีกองทหารรักษาการณ์ในฐาน  แต่ถ้าเผชิญกับยอดฝีมือก็มักจะมีปัญหา  ถ้าไม่ใช่เพราะถังอี้มาถึงทันเวลา  พวกเขาคงต้องต่อสู้กันอย่างยากลำบาก
เพราะเหตุนั้นถังโฉ่วจึงเสนอให้จัดระเบียบการป้องกันฐาน มติผ่านอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันนี้ความสำคัญของเมืองสามวิญญาณสำคัญมากและแม้ว่าจะมีนักสู้อยู่หลายคนในเมืองสามวิญญาณ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นนักสู้สายจักรกล ในอดีตที่ผ่านมาหลายปี  นักสู้สายจักรกลล้วนอ่อนแอกันหมด  และแม้จะมีพลังเพิ่มจากการตั้งกองทัพ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือก็ยังเป็นเรื่องยาก
ทุกคนคิดว่าพวกเขาจำเป็นต้องได้การป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นและการรับสมัครมอบให้ติงตังรับผิดชอบ
ติงตังผู้รับหน้าที่ในการหาข่าวมีเครือข่ายสหายอยู่มากและแม้จะใช้ช่องข่าวกรอง แต่หลังจากนั้นนางยังคงรับสมัครนักสู้มาได้สี่สิบคน
 “พวกเขาทุกคนเป็นนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีแต่ไม่ได้เป็นนักสู้ระดับทอง  ตอนนี้มีนักสู้ระดับทองที่ว่างอยู่น้อยมากในสี่สิบคนนี้ มีสิบคนมีระดับช่วง 4000-6000 และที่เหลือ 27 คนมีระดับเกิน 6000 ทุกคน นี่คือข้อมูลทั้งหมดของพวกเขา ข้าจะมอบให้เจ้า”
ติงตังยื่นข้อมูลนักสู้ให้กับถังโฉ่ว เขาขอบคุณนางอย่างสุภาพ
ติงตังมองดูถังโฉ่วด้วยท่าทางแปลก ในฐานะคนที่ทำงานข่าวกรอง นางมีความรู้สึกไวมากต่อการเปลี่ยนแปลง และสามารถรู้สึกได้ว่าถังโฉ่วมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่าง แม้ว่าถังโฉ่วมักจะสุภาพอยู่เสมอ
มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา...
ความคิดนั้นผ่านใจนางไปอย่างรวดเร็ว  แต่นางก็ไม่คิดเรื่องนั้นมาก  ถังโฉ่วเป็นหนอนตำราสำหรับนาง ต่างจากขุนพลทหาร ปกติจะสอนนักสู้สายจักรกลและทำสิ่งที่ขุนพลวิญญาณทหารไม่ค่อยทำกัน
ใต้เท้าปิงบอกว่าถังโฉ่วคือผู้นำทหารประเภทประจำสำนักงาน ผู้นำทหารประจำสำนักงานเป็นแบบนั้นหรือ?  แต่ผี่ผาก็ยังชื่นชมถังโฉ่วมาก่อน  แม้ว่าทั้งสองจะถกเถียงกันบ่อย
ถ้าถังโฉ่วแข็งแกร่งมากขึ้น นั่นจะเป็นเรื่องที่ดี  แม้ว่าปัจจุบันอันตรายทั้งหมดที่ฐานเผชิญค่อนข้างอ่อนแอ แต่ก็ยังทำให้ติงตังกังวล  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองสามวิญญาณนั้นเพิ่มความสำคัญมากขึ้นทุกทีและกลุ่มคนต่างๆ ที่เมืองสามวิญญาณเกี่ยวข้องด้วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมืองสามวิญญาณเหมือนกับชิ้นขนมอร่อยที่ทุกคนต้องการชิม  แม้ว่าในสายตาของสวรรค์วิถี พลังของเมืองสามวิญญาณยังไม่นับว่าแข็งแกร่ง
ติงตังก็ให้ความสนใจทางลับ  ดังนั้นเมื่อข้อเสนอของถังโฉ่วผ่าน ติงตังจึงลงมืออย่างรวดเร็วและสามารถรับสมัครนักสู้แข็งแกร่งได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ระหว่างช่วงเวลาที่สามารถรับสมัครนักสู้ผู้แข็งแกร่งนั้นมีน้อย    แน่นอนเงินเดือนของยอดฝีมือก็น่าทึ่งเช่นกัน ทุกคนมีค่าตัวเกินพันล้าน ยี่สิบคนก็หมายถึงยี่สิบพันล้าน   แต่ก็ถือว่าเป็นความปลอดภัยที่แท้จริง  เนื่องจากเมืองสามวิญญาณในปัจจุบัน ถือว่ามีอิทธิพลในท้องถิ่น
 “เชิญตามข้ามา”
ถังโฉ่วไม่ไม่ดูข้อมูลนักสู้ในมือของเขาและเดินนำทาง  ติงตังสงสัยว่าถังโฉ่วจะสั่งการนักสู้อย่างไรดังนั้นนางจึงเดินตาม
นักสู้ไม่ได้แสดงความเย่อหยิ่งในเมื่อความสำเร็จทางอาชีพของพวกเขาค่อนข้างสูง  ที่สำคัญยิ่งกว่า ก่อนมาถึง ติงตังให้พวกเขาดูภาพบันทึกของการสู้กับกลุ่มโจรสายลมและบอกพวกเขาว่าคนที่นำกองทหารก็คือถังโฉ่ว
ชื่อของโจรสายลมมีศักดิ์ศรีและรู้จักกันดีทำให้พวกนักสู้ต้องการพบกับถังโฉ่ว
ถังโฉ่วพาพวกเขามาที่สนามฝึกและเริ่มการทดสอบที่ซับซ้อนและละเอียด การทดสอบมีหลายอย่างต่างกัน  หลายคนไม่เคยได้ยินมากก่อนทำให้พวกนักสู้มีความสนใจ  และพวกเขาทุกคนทดสอบด้วยความสนใจแบบขัดเคืองบ้างจนเสร็จสิ้น
ในเวลาอันรวดเร็ว ถังโฉ่วให้พวกเขาได้สังเกตดูและรู้สึกถึงความสามารถของเขาโดยตรง
 “ฉีเหล่ย, พื้นที่โจมตีที่ถนัดที่สุดของท่านคือด้านขวา พื้นที่ระหว่างสองเมตรถึงสิบเมตรห่างจากช่วงความยาวแขน พลังโจมตีเริ่มแรก 75% และท่านมีความคุ้นเคยพื้นที่นี้แล้ว รูปแบบการปล่อยพลังของท่านบางทีอาจสูงถึง 83% ในการโจมตีพื้นที่ส่วนนี้และซี่โครงซ้ายล่างคือจุดของท่าน”
 “หวังปัว, วิชาพลองของเจ้ารุนแรงมาก แต่ปัญหาคือตราบเท่าที่เจ้ารุกโจมตีมากกว่าหกครั้ง จังหวะของเจ้าจะผิดปกติ และข้อผิดพลาดระหว่างวิชาพลองยังมีการชะงักอย่างเห็นได้ชัดซึ่งจะกลายเป็นจุดอ่อนของเจ้า และแผ่นเกราะเจ้าต่ำเกินไป แม้ว่าจะช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงมั่นคงยิ่งขึ้นแต่จะจำกัดพื้นที่ในการโจมตีของเจ้าไว้”
……

ติงตังสามารถเห็นได้ชัดว่านักสู้ทุกคนมีสีหน้าอึดอัดใจ และสองสามคนหลั่งเหงื่อเยียบเย็นกระชับอาวุธของพวกเขาแน่น  ติงตังประหลาดใจมาก เป็นไปได้หรือนี่ ถังโฉ่วเห็นนักสู้แต่ละคนๆ จากการทดสอบจริงๆ?
นางรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือเกินไป เนื่องจากในสายตานาง การทดสอบทั้งหมดยุ่งเหยิงและเป็นการทดสอบสุ่มๆ และนางไม่สามารถเข้าใจการใช้งานเลยแม้แต่น้อย
จุดที่ถังโฉ่วชี้และวิจารณ์ทีละจุดนั้นสร้างความตกใจให้กับนักสู้อย่างสิ้นเชิง
นักสู้ที่สามารถฝึกฝนมาจากสถานที่ของพวกเขา ถึงกับตกตะลึงงันกันไปหมดได้อย่างไร?
ตอนแรกพวกเขาตกใจและโกรธ  ตกใจกับความจริงที่ว่าถังโฉ่วอ่านพวกเขาทะลุหมด โกรธจากความจริงที่ว่าจุดอ่อนของพวกเขาถูกประกาศออกมาทำให้พวกเขารู้สึกอันตราย
ถังโฉ่วรู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร และเขาพูดหนึ่งประโยคทำให้พวกนั้นสงบได้ทันที
 “ทุกท่านได้ลงนามสัญญาจิตวิญญาณยุทธไปแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป พวกท่านทุกคนเป็นหน่วยเดียวกัน มันเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าสำหรับทีมพวกท่านต้องเข้าใจจุดอ่อนของพวกท่านมากกว่าให้พวกเขารู้ข้อได้เปรียบของตัวพวกท่าน  เพราะเพื่อนร่วมงานข้างหน้าท่านสามารถกำหนดความเป็นความตายท่านได้ และเพื่อนร่วมงานข้างหลังก็สามารถช่วยให้ท่านได้ชัยชนะได้”
หลังจากลงนามสัญญาจิตวิญญาณยุทธแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่พวกเขาจะทรยศหักหลัง ดังนั้นสายตาของนักสู้จึงมีความเป็นมิตรมากขึ้นทันที
 “เพื่อประโยชน์บรรลุผลการต่อสู้ที่ดีกว่า เราจำเป็นต้องทดสอบเป็นกลุ่มต่างๆ กันและจำเป็นต้องจัดกลยุทธ์ที่สอดคล้องกัน”
เสียงของถังโฉ่วสงบมากและให้พลังที่น่าเชื่อถือ
นักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถีที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตั้งใจฟังเหมือนกับนักเรียนที่ว่าง่าย
เขา...ดูเหมือนจะกลายเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริง...
ติงตังมองดูถังโฉ่วและไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง
**************
ในแผนกงานโลหิตวิทยา คำพูดที่ไม่จริงจังและไม่สำคัญของปิงดังก้องทำให้ผ่อนคลายและเรียกเสียงหัวเราะเป็นครั้งคราว
 “หึหึ, คณะนักโลหิตวิทยา โอว นักโลหิตวิทยาผู้มีประสบการณ์มากที่สุดของสมาพันธ์ชาวยุทธ  เมื่อได้ยินข่าวนั้น ทำเอาข้าอึ้งไปเลย หลังจากนั้นข้าค่อยรู้สึกตัว เอ่, ดูเหมือนพวกเขาจะมาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ... เอ.. สมาพันธ์ชาวยุทธมีนักโลหิตวิทยาด้วยเหรอ? เอ.. สมาพันธ์ชาวยุทธต้องการวัดฝีมือกับยอดฝีมือนักโลหิตวิทยาของเรา... โอว น่ากลัวเหลือเกิน”
 “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ทั้งผู้เฒ่าและผู้มีประสบการณ์ข้างล่างหัวเราะขำขันกันไม่หยุด  พวกเขาส่วนใหญ่จะมาจากองค์การวิญญาณมืดและเมื่อได้ยินว่าสมาพันธ์ชาวยุทธและต้องการแข่งขันกับพวกเขาผู้เชี่ยวชาญงานด้านโลหิตวิทยาและยาพิษ  พวกเขามีความสุข
 “ความจริงข้าไม่เลือกปฏิบัติกับสมาพันธ์ชาวยุทธนะ จริงๆ ด้วย”
 “แต่ถ้าเราปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญงานโลหิตของพวกเขาอยู่รอดได้  นั่นคงเป็นเรื่องน่าอายอย่างแท้จริง เฮ้ เฮ้  ข้าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าพวกท่านต้องการให้ข้าทน ข้าไม่สามารถ....”
 “ฆ่าพวกมัน!  ใครบางคนตะโกนลั่น
ความดุร้ายและกระวนกระวายผุดขึ้นในใจพวกเขา  ทุกคนเริ่มโห่ร้อง เริ่มทำสีหน้าที่น่ากลัว, รังสีอำมหิตท่วมท้น!
 “ฆ่าพวกมันให้หมด!

7 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ตายแน่ๆนักโลหิตวิทยาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ

Unknown กล่าวว่า...

ตายๆๆ ไม่มีความหวังเลย เอาคนที่มาช่วยนี้มัน จะไปช่วยอะไรได้ มวยคนละรุ่นเลย ยิ่งกว่าเดิมอีก ตายธรรมดา(?)ไม่พอ ได้ตายแบบไม่เหลือซากแน่นอน คราวนี้

Unknown กล่าวว่า...

ชุดก่อนของทัพปลาวาฬยังโดนพิษเองเลย ชุดนี้มีรอดหรอ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ลุงปิงแม่งโหด ไปปลุกระดมอีก เหอๆ

Sunrise กล่าวว่า...

ต่างคนต่างมั่นใจ โอ๊ยยยยสนุก

แสดงความคิดเห็น