วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 462 เคลื่อนพายุวังวนกระบี่



ตอนที่  462  เคลื่อนพายุวังวนกระบี่
....สู้...
เสียงเลือนรางอยู่ในอากาศเหมือนกับเสียงกระซิบ
ทั้งที่ร่างยังสั่นอยู่ เขาก้าวเดินก้าวแรก ทำให้ร่างในตาพายุซวนเซ

พายุวังวนกระบี่สั่นสะเทือนอาคารที่ปะทะเหมือนกับเขย่ากล่องของเล่น มันสั่นสะเทือนจะเหมือนจะพังทลายได้ทุกเมื่อ  จิ่งหาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ สามารถเห็นชั้นรังสีกระบี่นับไม่ถ้วนเคลื่อนตัวเหมือนกับหิมะถล่มทำให้เขาขนลุกชัน
เจ้าเด็กนี่.... จะทำอะไรกันแน่?
ใจของจิ่งหาวระวังมากขึ้นกับความรู้สึกอันตราย
ครืนๆ
พายุวังวนกระบี่ซวนไปเซมาเหมือนกับคนเมา และค่อยๆ เคลื่อนไปยังตำแหน่งหนึ่ง
จิ่งหาวตะลึง  เจ้าสิ่งนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้จริงๆ...
นะ..นี่ นี่ นี่... คือวิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณจริงๆ หรือนี่?
เขาตกตะลึง เขารู้เรื่องวิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณ เนื่องจากเป็นมือกระบี่คนหนึ่ง  เขาเข้าใจวิชากระบี่ของสำนักต่างๆ และวิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณคือวิชาขัดเกลาวิญญาณที่รุนแรงที่สุด  แล้วเขาจะไม่รู้จักมันได้อย่างไร?  ไม่เพียงแต่เขารู้จักเท่านั้น เขายังค้นคว้าเป็นพิเศษมาช่วงเวลาหนึ่งอีกด้วย  สำหรับคนที่สร้างวิถีกระบี่เองอย่างเขา  เขาสนใจเคล็ดวิชาที่เกี่ยวกับกระบี่ทั้งหมด
วิชาวังวนกระบี่ทอนวิญญาณ  ข้าไม่เคยได้ยินว่ามันสามารถเคลื่อนที่... สิ่งนี้ใช้เพื่อฝึกฝนขัดเกลาจิตวิญญาณยุทธ  ไม่เคยวิ่งอาละวาดไปในที่ต่างๆ
หลังจากผ่านไปสองสามนาทีจิ่งหาวก็เรียกความรู้สึกกลับมา  จริงสินะ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับถังเทียน ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็คงดูจะเป็นเรื่องผิดปกติ  และถ้าสิ่งเหล่านั้นไม่เปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นสิ่งแปลกประหลาด  อย่างนั้นของนั้นก็คงจะเป็นสิ่งประหลาดโดยตัวมันเอง!
คุณค่าของเจ้าเด็กบ้านั่นก็คือป่วนโลกจนผิดเพี้ยนไปหมด
แต่..ยังไงก็ขอให้ปลอดภัยเถอะ
แววกังวลฉายผ่านในดวงตาของเขา เขาถือกระบี่บินไล่ตามพายุวังวนกระบี่ที่กำลังเคลื่อนไหว
เซียนนักสู้ทั้งสามที่อยู่บนเนินเขาตกตะลึง
 “มันกำลังตรงมาหาเราหรือ?”  โต้วหย่งถาม
 “ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น”  สีหน้าของเหออี้หมิงซึมเซา
ไป๋ซือซือตะลึงมองดูพายุวังวนกระบี่ครืนๆ และฝืนใจกล่าว “เขาเป็นตัวประหลาดแบบไหนกันแน่?”
ประโยคนั้นกระทบใจของนักสู้อีกสองคน
พายุวังวนกระบี่มีขนาดใหญ่มากส่งเสียงดังกระหึ่มตรงไปที่พวกเขา  แม้ว่าทั้งสามจะเป็นนักสู้ระดับเซียน แต่เมื่อเผชิญกับพลานุภาพที่น่ากลัวขนาดนั้น ก็ทำให้จิตใจของพวกเขาไขว้เขวได้เช่นกัน
นั่นคือพลังของสวรรค์อย่างแท้จริง...
 “เราจะทำยังไงดี?”  โต้วหย่งถามตามตรง  “เจ้าตัวประหลาดนั่นกำลังตรงมาหาเรา”
 “หนี!” เหออี้หมิงบอกตามตรงเช่นกัน
 “หนี!” ไป๋ซือซือทวนคำพูดของเขา
โต้วหย่งมองดูอีกสองคน  “ทำแบบนั้น มันน่าขายหน้าไปหน่อย  เฮ้.. เราทั้งสามเป็นเซียนนักสู้นะ!”
 “อย่างนั้นเจ้าไปลองดูก่อนไหมเล่า?”  ตาของเหออี้หมิงมองให้กำลังใจ
ดวงตาคู่งามของไป๋ซือซือมองดูโต้วหย่ง
 “เผ่นเถอะ!” โต้วหย่งก้มหน้าตาวิ่งออกไปก่อน
ทั้งสามเร่งความเร็วสุดฝีเท้า  จากนั้นพายุวังวนกระบี่ที่ดูเป๋ไปเป๋มาก็เร่งความเร็วเพิ่มขึ้นเช่นกัน เสียงครืนๆ ด้านหลังพวกเขาอยู่ไม่ห่างเลย มีแต่จะดังใกล้เข้ามาทุกที
ทั้งสามคนถูกกดดันจนต้องเร่งความเร็วขึ้น
 “ซือซือ ใช้พิณของเจ้า” เหออี้หมิงตะโกน
ไป๋ซือซือสั่น ดึงพิณกู่ฉินหยกขาวออกมาทันที ไม่สนใจภาพลักษณ์ของนาง มือซ้ายถือพิณ มือขวาเริ่มดีดสายพิณ
ติง ติง ติง!
เสียงเพลงนุ่มนวลชวนให้โลกทั้งใบสงบลง ท่วงทำนองเพลงใคร่ครวญในความสงบ  เป็นเพลงที่สร้างชื่อให้ไป๋ซือซือ นางผสานเสียงร้องของนางพร้อมกับบรรเลง ทำนองเพลงเพื่อจิตวิญญาณซึ่งสามารถทำให้ใจของผู้คนสงบลง
ต่อให้เป็นภูตอสูรดวงดาวระดับเก้าที่กำลังคลั่ง เมื่อได้ยินท่วงทำนองนี้ ก็ยังสงบลงได้
บ้าจริงๆ... พายุวังวนกระบี่ยังตามไล่เราเร็วกว่าเดิมอีก
ไป๋ซือซือกัดริมฝีปาก  เปลี่ยนท่วงทำนองบรรเลงพิณจากใคร่ครวญในความสงบ  กลายเป็นเพลงที่ดุดันมากขึ้นจนแทบทำให้เลือดลมพลุกพล่าน ด้วยเพลงมนต์ปีศาจ นางสร้างภาพเทพธิดา เพื่อสร้างความสับสนและภาพลวงตา
แม้แต่นักสู้ระดับทอง ภายใต้ท่วงทำนองนี้  เส้นโลหิตของพวกเขาจะต้องระเบิด หัวใจจะเต้นแรงจนตายเนื่องจากการสันดาปของร่างกาย
บ้าจริง..  พายุวังวนกระบี่ยังคงเพิ่มความเร็วขึ้นอีก
ทั้งสามคนสามารถรู้สึกได้ถึงกระแสพายุรังสีกระบี่ไล่หลังพวกเขากำลังตัดอากาศสร้างระลอกโจมตี เป็นพลังที่แม้แต่นักสู้ระดับเซียนถึงกับเย็นสันหลังวาบ
 “แยกย้ายกันหนี!” เหออี้หมิงตะโกน
ทั้งสามคนแยกย้ายกันบินไปสามทิศทาง
ทั้งสามคนสามารถรู้สึกได้ทันทีพายุหมุนกระบี่ชะงักเล็กน้อย ฮ่าฮ่า เจ้าจะทำยังไงต่อไป!  ทั้งสามคนถอนหายใจโล่งอก วินาทีต่อมาพายุหมุนกระบี่ก็พุ่งเข้าหาเหออี้หมิงที่อยู่ตรงกลางอย่างไม่ลังเล
หน้าของเหออี้หมิงซีดขาว ผมตั้งชันหนังศีรษะชา เขาไม่สนใจภาพพจน์ตนเองและวิธีที่จะหนีต่อไป เขากระตุ้นปราณแท้ทั้งหมดในร่างปลดปล่อยพลังลงที่เท้า แล้วเร่งหนีสุดกำลัง
เมื่อเห็นว่าเหออี้หมิงดึงความสนใจพายุหมุนกระบี่และหายลับขอบฟ้าไป โต้วหย่งและไป๋ซือซือหันมามองหน้ากัน ทั้งสองคนมีสีหน้าดีใจ
 “พี่เหอจะตายไหม?” ไป๋ซือซือห่วงใย
 “ข้าจะสวดภาวนาและทำบุญกรวดน้ำให้เขาแน่” โต้วหย่งสาบาน
ไป๋ซือซือหยุดพูด
 “เจ้าอยากช่วยเขาหรือ?”  โต้วหย่งถามหลังจากเห็นนางทำท่าอย่างนั้น
ไป๋ซือซือส่ายศีรษะ “ไม่, ข้ากำลังคิดว่าจะไปสวดภาวนาให้เขาที่ไหนดี”
ทั้งสองคนพูดไม่ออก
เมื่อสายลมพัดผ่าน ทั้งสองคนรู้สึกหนาวเล็กน้อย
โต้วหย่งมองดูสถานที่รกร้างและพูดทันที  “ข้ามีลางสังหรณ์อัปมงคล”
ไป๋ซือซือได้แต่เงียบ
 “การตัดสินใจของฝ่าบาท บางทีอาจผิดพลาด” โต้วหย่งพึมพำ  “ข้าไม่เคยเห็นคนแปลกประหลาดแบบนั้นมาก่อน  ข้าคิดว่าถ้าถังเทียนไม่ตายตอนนี้  เขาจะกลายเป็นเหมือนราชสีห์เลโอน”
 “มีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น”  ไป๋ซือซือกล่าวต่อ  “ถ้าถังเทียนไม่ตายภายใต้พายุหมุนกระบี่ที่ทรงพลังอย่างนั้น จิตวิญญาณยุทธจะถูกขัดเกลาจนอยู่ในสภาพที่น่ากลัว  การที่เขาจะกลายเป็นนักสู้ระดับเซียนได้นั้นเป็นเรื่องของเวลา  แต่คงไม่นานแน่ ตราบใดที่เขาเข้าสู่ขอบเขตเซียน จิตวิญญาณยุทธของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าใคร  และนั่นจะทำให้เขาน่ากลัวมากขึ้น”
โต้วหย่งมองดูไป๋ซือซือ  เขาสะดุ้ง บุคลิกของไป๋ซือซือเป็นคนสงบนิ่ง และนี่เป็นครั้งแรกที่โต้วหย่งได้ยินนางพูดมากมายขนาดนั้น
แต่คำพูดของนางทำให้เขาเงียบ
หลังจากนั้นชั่วขณะ เขาเงยหน้าและมองดูไป๋ซือซือ  “อย่างนั้นเราจะทำยังไง?”
ทั้งสองคนเงียบอีกครั้ง
ถ้าถังเทียนไม่ตาย  อย่างนั้นกลุ่มดาววาฬคงล่มสลายแน่นอน  แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเซียนนักสู้  แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่คิดถึงอนาคตของพวกเขา  การกระทำของผู้ชนะและการให้อภัยอีกฝ่ายหนึ่ง พฤติกรรมของเจ้าปกครองที่ดีนั้น มีแต่เพียงในหนังสือเท่านั้น  ยิ่งเป็นเจ้านายผู้กล้าก็ชอบให้ชำระหนี้พวกเขา  ในอดีต มีเซียนนักสู้สามคนเป็นเหตุให้กองทัพของเลโอน เกิดการตายและบาดเจ็บมากมาย หลังจากที่พวกเขาพ่ายแพ้  เซียนนักสู้ทั้งสามต้องการหลบหนี แต่พวกเขาถูกทหารของเลโอนจับฆ่า
มีเซียนนักสู้ที่โดดเดี่ยวไม่กี่คน เนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่มีตระกูลคอยหนุนหลัง เซียนนักสู้ที่ไม่มีครอบครัวก็ยังมีศิษย์คอยสืบทอดวิชา
สายลมดูเหมือนจะเย็นยะเยือกขึ้น
******

เมืองสามวิญญาณ
การต่อสู้ในมุมหนึ่งสร้างความประหลาดใจให้หลายๆ คน  ทุกคนตกตะลึงกับพลังของเหวินเจียง  นักสู้ระดับสูงยี่สิบคนที่รุมล้อมเขากำลังสู้กับเขา  แต่เหวินเจียงก็ยังสามารถต้านรับได้
วิชาต่อสู้ที่ดูเหมือนธรรมดา  แต่เมื่ออยู่ในมือของเหวินเจียง กลับกลายเป็นทรงพลังมาก
นักสู้ทั้งยี่สิบคนไม่สามารถทำอะไรกับเหวินเจียงได้  นักสู้สายจักรกลหลายคนที่กำลังฝึกอยู่เตรียมช่วยเป็นกำลังเสริม  แต่ในเวลารวดเร็ว ทุกคนได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่า พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ช่วย!
คำสั่งที่ส่งลงมาทำให้พวกเขารู้สึกแปลก  แต่พวกเขาทุกคนยังคงยืนดูอยู่ด้านข้างจนถึงที่สุด
ตำแหน่งของถังโฉ่วยังคงเหมือนเดิม เมื่อดูรายละเอียดการต่อสู้ทั้งหมด  ตาของเขาเป็นประกายประหลาด เขาทุ่มเทสมาธิเต็มที่ ปากกาในมือของเขายังคงถูกใช้งานด้วยความเร็วที่น่าประหลาด เขายังคงจดลงในสมุดต่อไป
นักสู้ระดับเซียนกำลังถูกถอดรหัสด้วยสายตาของเขา  การวิเคราะห์รายละเอียดทุกอย่างเป็นไปได้ดี  รายละเอียดทุกอย่าง  ทุกๆ การต่อต้านในการต่อสู้ อยู่ในใจเขาทั้งหมด ทั้งหมดนั้นถูกแบ่งลงเป็นข้อมูล
การโจมตีที่น่าตื่นตาตื่นใจถูกลอกออกเป็นชั้นๆ เหมือนกับเสื้อผ้ากลายเป็นสภาพล่อนจ้อนในสายตาของเขา
กระดาษขาวข้างหน้าเขาเต็มไปด้วยข้อมูลรูปแบบและการออกแบบ ทุกมุมกระดาษถูกเขียนไว้
การจ้องมองอย่างประหลาด เขียนอย่างเมามันของเขา กระดาษเต็มไปด้วยคำและลายมือเขียนสำเร็จลงอย่างรวดเร็ว
ขลุ่ยวิเศษปรากฏตัวด้านหลังถังโฉ่วเงียบๆ โดยไม่รบกวนเขา
ถังโฉ่วหยุดทันที วางปากกาในมือ เขาถามโดยไม่หันหน้ามามอง “ทำไมเจ้ามาอยู่ที่นี่?”
 “เสร็จแล้วหรือ?”  ขลุ่ยวิเศษถาม
 “ใช่, เสร็จแล้ว” ถังโฉ่วยืดเอว แววประหลาดในดวงตาของเขากลับสู่ความเยือกเย็นอีกครั้ง  “ข้าได้รับข้อมูลเพียงพอแล้ว และต้องการศึกษาให้ดี”
 “เจ้ามีบางอย่างใช้ต้านทานในระดับเดียวกันบ้างไหม?”  ขลุ่ยวิเศษหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของเขาสดชื่น
 “ข้าจะต้องกลายเป็นผู้นำทหารระดับชั้นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงให้ได้และนักสู้ระดับเซียนคือเป้าหมายที่ข้าจะต้องเอาชนะผ่านไปให้ได้”  จากนั้นถังโฉ่วเตือน  “เจ้าต้องระวังให้มาก เราจะต้องทำให้สมาพันธ์ชาวยุทธต้องเจ็บปวด  พวกเขาจะต้องคิดหาทางเอาชนะเราแน่ เมื่อมีโอกาสดี พวกเขาจะต้องไม่พลาดแน่”
เมื่อถังโฉ่วพูดจบ เสียงต่อสู้ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของฐานทัพ
 “อาโฉ่ว, เจ้ารอบคอบเหลือเชื่อจริงๆ”  ขลุ่ยวิเศษสรรเสริญ
 “แม้ว่าข้าจะไม่ต้องการรบกวนเจ้า  แต่ครั้งนี้ เราต้องการเวลาบ้าง”  ถังโฉ่วพูดอย่างใจเย็น  “จะดีที่สุดถ้าเจ้าเปิดการแสดงที่อลังการเพื่อข่มขู่พวกเขาบ้าง”
ขลุ่ยวิเศษแนะนำเขาอย่างเป็นกันเอง  “รังสีฆ่าฟันของเจ้ารุนแรงมากเหลือเกิน”
 “ขุนพลคนหนึ่งประสบผลสำเร็จเหนือพันโครงกระดูก  และข้าต้องการเป็นขุนพลที่มีชื่อ แล้วข้าจะไม่ฆ่าได้ยังไง?”  ถังโฉ่วไม่เงยหน้ายังคงจดจ่ออยู่กับกระดาษ  “ไม่เพียงต้องฆ่าเท่านั้น  แต่ข้าต้องการฆ่าพวกเขามากๆ เสียด้วย”
ขลุ่ยวิเศษหัวเราะอย่างจนใจ จากนั้นเหาะออกไป
การเลื่อนระดับพลังของถังโฉ่วทำให้บุคลิกภาพของเขายิ่งใหญ่และมุ่งมั่นมากขึ้น เทียบกับครั้งล่าสุด เขาดูสง่าขึ้นมาก  และถังโฉ่วพูดถูก วิถีของทุกคนต่างกัน
ขลุ่ยวิเศษกระโจนขึ้นไปหอสูงสุดของฐานมองดูทั่วสถานที่ ลูบขลุ่ยบรอนซ์เป็นประกายในมือ แววตาที่เป็นกันเองของเขาดูเยือกเย็น
ข้าไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากตายมาหลายปีแล้ว ข้ายังจะมีโอกาสกลับมาแข็งแกร่งได้
ชีวิตช่างไม่แน่นอนจริงๆ
สายลมพัดผ่านหน้าเขา  เป่าผมและชุดยาวสะบัดพลิ้วตามลม
เขาดูท่าทางเหมือนกับคุณชายตระกูลสูงส่ง หันหน้าเข้าหาสายลม ชุดขาวพัดพลิ้วตามสายลม
ความทรงจำทั้งหมดที่เลือนรางผุดขึ้นมาในใจเขา เขารู้สึกตื้นตันและผ่อนลมหายใจช้าๆ ความวุ่นวายในสมัยเยาว์วัยหลั่งไหลพรั่งพรู
ถ้าตอนนั้น  ถ้าในยุคนั้น  ข้าบรรเลงเพลงจากหัวใจข้า เพลงของข้าผ่านกระแสเวลามาหลายปี
แต่จู่ๆ ในวันนี้ แต่ในวันนี้ ข้ายืนอยู่ท่ามกลางสายลม ได้บรรเลงทำนองเจ็ดสังหารอีกครา
เขาถอนหายใจช้าๆ คุณชายตระกูลชั้นสูงสงบใจ เขาขมวดคิ้วและจ่อขลุ่ยบรอนซ์ที่ริมฝีปาก

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

จวนแล้วถังๆกับคุณชายขลุยจะโชว์โหด

Sunrise กล่าวว่า...

ป๊าดดดดดดดอีกแล้วววค้างง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

Pari Tna กล่าวว่า...

พี่ถังโชว์เทพตั้งนาน คุณชายขลุ่ยมาแป๊บเดียวแย่งบทพระเอกไปเลย อย่างเท่

Mr.kong กล่าวว่า...

ขุนพลวิญญาณที่เข้าไปในประตูบรอนซ์แล้วต้องเปลี่ยนเป็นนายทหาร แต่ขลุ่ยวิเศษไม่เปลี่ยนแฮะ หรือแค่ไปดูเฉยๆไม่ได้เข้าไป

Hemm กล่าวว่า...

หอวิญญาณวัตถุประสงค์ใช้สร้างและรักษาขุนพลวิญญาณ
ถังอี้ - คือเศษเสี้ยวจิตวิญญาณยุทธของผุ้เฒ่าหนงกรงเล็บภูตพราย พออัพเกรดจึงไม่เหลือีความจำอยู่เลย
ถังโฉ่ว - เดิมเป็นขุนพลวิญญาณจอมดาบที่ถูกทำลายจนเหลือแต่หัว พอเอามาซ่อมพลังเดิมและความทรงจำหายหมด จึงกลายเป็นขุนพลวิญญาณที่ติดปณิธานเดิมต้องการเป็นยอดฝีมือมาด้วย แต่กลับกลายเป็นขุนพลวิญญาณทหารที่เด่นในเรื่องการวางกลยุทธ
ขลุ่ยวิเศษ - ขุนพลวิญญาณที่ใกล้สลายเพราะหมดอายุการใช้งาน ได้การ์ดวิชาพิเศษโดดเด่นซึ่งมีจิตวิญญาณยุทธแข็งแกร่งมาช่วยต่ออายุ และเพิ่มพลังไปด้วย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็ว่า 2ถัง ทำไมถึงเปลี่ยนบุคลิก เพราะอย่างนี้นี่เอง

กิลด์นี้โหดทุกทาง วิทยายุทธ+จักรกล+วิญญาณ /0/

แสดงความคิดเห็น