วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 467 พลังกายเป็นศูนย์



ตอนที่  467  พลังกายเป็นศูนย์
ท้องฟ้าเปิดแล้วเพราะถังเทียนได้รับยกย่องว่าเป็นพญาหมี
ตั้งแต่เริ่มต้น พญาหมีกลายเป็นโครงการลับระดับสุดยอด
ผู้คนรอบตัวถังเทียนมีความกระตือรือร้นและหลงใหลโครงการพญาหมี

ผู้เฒ่าเฟ่ยจากเมืองสามวิญญาณได้จัดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยานำโดยหวังซวน เนื่องจากไม่มีพลังปราณแท้เลย อย่างนั้นพลังสายเลือดจึงกลายเป็นวิธีต่อสู้ขั้นต้นของถังเทียน และการผสมผสานพลังสายเลือดและจิตวิญญาณยุทธก็คือขอบเขตความเชี่ยวชาญขององค์การวิญญาณมืด  นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ผู้เฒ่าเฟ่ยยังรู้สึกว่างบประมาณของห้องค้นคว้าโลหิตวิทยายังไม่เพียงพอ ไม่ว่าต้องใช้โอกาสยังไงก็ตาม จะปล่อยถังเทียนให้หลุดมือไปไม่ได้
การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ไม่ใช่แค่เพียงผู้เฒ่าเฟ่ยเท่านั้น
สามเซียนนักสู้ที่ยอมแพ้ไปเมื่อเร็วๆ นี้ผู้ที่อย่างน้อยที่สุดก็หาโอกาสให้ได้มีส่วนร่วม  ถ้าพวกเขาสามารถคลี่คลายสถานการณ์ให้ถังเทียน ก็จะช่วยอนาคตของพวกเขาได้มาก  พวกเขารู้ว่าสภาพของถังเทียนหาได้ยากมาก  สำหรับเซียนนักสู้ถือเป็นวัตถุค้นคว้าอย่างดีที่สุด
กลุ่มเซียนนักสู้ทั้งสามคนขยายคนเพิ่มขึ้นกลายเป็นเก้าคนทันที ได้คนใหม่มาเพิ่มอีกหกคน  เป็นนักสู้ระดับเซียนสองคนคือเซียนหอกกุ้ยซินเหินและเซียนเภสัชติงม่าน  อีกสี่คนเป็นนักสู้สายจิตวิญญาณซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องจิตวิญญาณยุทธ  คนหนึ่งมีอายุมากแล้วเป็นคนที่หมกมุ่นอยู่ทฤษฎีการศึกษา  อีกคนคือท่านไกว้ที่ดูบ้าและมีแนวคิดที่แปลกประหลาด และอาจารย์สอนยุทธที่มาจากกลุ่มดาวเซ็กแทนส์
ปกติเหลียงฟงไม่ยอมจะล้าหลังอยู่แล้ว ขนาดโต้วหย่ง, เหออี้หมิง, ไป๋ซือซือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร  แต่เหลียงฟงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องได้หรือ ก่อนหน้านี้เขายังมีอำนาจ มีสถานะ  แต่บัดนี้สามเซียนปรากฏตัวขึ้น  แรงกดดันของเขาเพิ่มขึ้นทันที  เขากัดฟันเชิญสหายที่ดีที่สุดของเขามา นั่นคือเซียนดาบฟงเยี่ย
ในช่วงเวลาสั้นๆ จำนวนเซียนนักสู้ในกลุ่มดาวหมีใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดคนทันที
กุ้ยซินเหิน, ติงม่านและฟงเยี่ยที่เพิ่งมาใหม่มีความเชี่ยวชาญในงานพวกเขาเอง  พวกเขาทุกคนมาจากกลุ่มดาวชั้นกลางหรือไม่ก็เป็นเซียนนักสู้จากกลุ่มดาวเล็ก
การรบอย่างต่อเนื่องทำให้ถังเทียนถูกจับตา  แม้ว่าเทียบกับคนอื่นๆ อาณาเขตของเขาจะเล็กก็ตาม และมีข้อบกพร่องมากมาย  แม้แต่คนที่มองถังเทียนด้วยความรังเกียจ  พวกเขาก็อดยอมรับไม่ได้ ในสวรรค์วิถีปัจจุบันนี้ ถังเทียนเป็นตัวละครหลัก
นอกจากนี้ ในสายของคนมากมาย  ข้อด้อยบกพร่องของถังเทียนกลับมีเสน่ห์  เขาไม่ได้มีคนอยู่ข้างตัวมากมายซึ่งก็หมายความว่ามีตำแหน่งให้เติมเต็ม หมายความว่ามีโอกาสมากขึ้น
เทียบกันแล้ว มหาอำนาจอื่นมีระบบคุมอำนาจที่มั่นคงมาก  คิดจะเข้าถึงแกนกลางผู้มีอำนาจปกครองเป็นเรื่องที่ยากมาก  ขณะที่ใจกลางอำนาจรอบตัวถังเทียน ไม่เป็นรูปเป็นร่าง  สำหรับคนเหล่านี้นับว่าน่าดึงดูดอย่างมิต้องสงสัย
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ถังเทียนกลายเป็นหัวหน้าองค์กรที่ทรงพลังที่สุดในสวรรค์วิถี
ภายในกลุ่มงานใหญ่ มีคนหนึ่งที่ไม่ธรรมดา นั่นคือเฉินจื่อหลินจากสำนักยุทธอมตะ  เขาเป็นศิษย์ไม่มีชื่อเสียงจากสำนักยุทธอมตะและอย่างน้อยก็มีชื่อเสียงอยู่ในวงการ  อย่างไรก็ตามเขาผ่านการทดสอบของหลงโส่วจิงและปิงและได้เข้าร่วมกับหน่วยงานลับ
พญาหมีคือโครงการสุดยอดของกลุ่มถังไม่ใช่เรื่องแปลก  เนื่องจากถังเทียนได้กำจัดทำลายกองทัพระดับตำหนักระนาบกลางถึงสามกองทัพ พลังที่น่ากลัวและตื่นตะลึงนี้ไม่เพียงแต่สร้างความหวาดกลัวให้กับสวรรค์วิถีเท่านั้น แต่ทำให้ปิงและพวกเห็นศักยภาพสะสมที่น่ากลัวบนตัวถังเทียนอีกด้วย
แม้ว่าพายุวังวนกระบี่จะมีขนาดมโหฬาร แม้ว่าจะมีกระดูกหมีเดียวดายช่วยเหลือ แต่พลังที่น่ากลัวซึ่งถังเทียนแสดงออกมาเป็นยุทธปัจจัย แม้ว่าพลังนั้นจะอ่อนลงสองสามเท่าแต่ก็ยังเป็นยุทธปัจจัยสำคัญอยู่ดี
นอกจากนี้  ถังเทียนยังไม่กลายเป็นระดับเซียน ถ้าเขากลายเป็นเซียนนักสู้  พลังของเขาจะเปลี่ยนสภาพไปอย่างไร?
มหาอำนาจใดๆ มีอำนาจของระดับกลยุทธสูงส่ง จะไม่มีทางตระหนี่กำลังพล พลังตนและแหล่งเงินทุนเลย
พายุวังวนกระบี่ที่ใหญ่เป็นประวัติการณ์ได้สร้างเป็นจิตวิญญาณยุทธรูปร่างมนุษย์ที่บริสุทธิ์เป็นประวัติการณ์  ทุกคนกระตือรือร้นอยากรู้อยากเห็น  ถ้าถังเทียนก้าวเข้าสู่ระดับเซียน สนามพลังวิญญาณของเขาจะเป็นอย่างไร
ทั่วทั้งสวรรค์วิถียังคงไม่สงบ  กองพลที่หกของกลุ่มดาวราชสีห์บุกจู่โจมสาขาทองที่เก้าของสมาพันธ์ชาวยุทธแบบไม่ให้ตั้งตัว  สาขาทองที่เก้าถูกกำจัดในที่นั้นเอง  จากนั้นพวกเขาแกล้งล่าถอยเตรียมลอบโจมตีและสร้างความเสียหายหนักให้กับสาขาทองที่เจ็ดที่ออกมาแก้แค้น แล้วจากไปง่ายๆ
จากนั้นแม่ทัพต้วนชิงที่ทำตัวไม่โดดเด่นกลับมีชื่อเสียงขึ้นมาทันที
กองพลที่สี่ของกลุ่มดาวเลโอน ภายใต้การนำของออกุสต์บุกโจมตีดาวสุนัขเล็กอย่างอุกอาจ และใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน กลุ่มดาวสุนัขเล็กก็ตกอยู่ในอันตรายจวนตัว  สมาพันธ์ชาวยุทธเข้ามาช่วยเหลือ แต่คาดไม่ถึง  พวกเขาถูกกองพลที่ห้าที่ซุ่มรออยู่ฆ่าตายและถูกกำจัดหมดสิ้น
ในวันที่สิบสองเจ้ากลุ่มดาวสุนัขเล็กก็ตกไปในเงื้อมมือของพวกเขา ออกุสท์ผู้ได้ชื่อว่าไม่เกรงกลัวอะไรบังคบให้เจ้ากลุ่มดาวสุนัขเล็กดูดพลังดวงดาวพื่อโจมตีสมบัติเซียนทำให้พลังดวงดาวของกลุ่มดาวสุนัขเล็กปั่นป่วนวุ่นวาย
หลังจากกองทัพใหญ่ทั้งสองถอนกำลังออกไป  พลังของกลุ่มดาวสุนัขเล็กก็ล่มสลาย  หลังจากวันนั้นประตูดวงดาวของกลุ่มดาวสุนัขเล็กก็หายไปอย่างสิ้นเชิง
จากนั้นเป็นต้นมากลุ่มดาวสุนัขเล็ก หนึ่งในตำหนักระนาบกลางถูกกำจัดออกไปจากสวรรค์วิถีไม่เคยพบเห็นอีกเลย
ในช่วงพันปีที่ผ่านมัน มันเป็นกลุ่มดาวแรกที่หายไปจากสวรรค์วิถี
ในช่วงเวลานั้น สวรรค์วิถีพากันเงียบเสียงหมด
หลังจากกลุ่มดาวนายพรานพ่ายแพ้  เมื่อพญาราชสีห์ทำการเคลื่อนไหว มันทรงพลังราวกับสายฟ้าฟาด  เขาใช้เลือดที่แข็งแกร่งการกระทำที่เยือกเย็นบอกกลุ่มดาวต่างๆ ของสวรรค์วิถีว่าเขาสร้างกลุ่มดาวจากโลหิตและเพลิงไม่กลัวการท้าทายใดๆ ทั้งนั้น
กลุ่มดาวที่ได้รับการยกย่องจากสมาพันธ์ชาวยุทธพากันเก็บตัวอยู่เงียบๆ ด้วยความกลัวทันที
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งภายนอกไม่มีอะไรเกี่ยวกับกลุ่มดาวหมีใหญ่  เนื่องจากพวกเขาหล่อเลี้ยงพญาหมีอยู่เงียบๆ
ถังเทียนกำลังหอบหายใจ  ก่อนนั้นเขาพูดไว้ก่อนให้ทุกคนที่โกรธแค้นเขาระบายใส่เขาได้ตามชอบใจ  แค้นของทุกคนมีมากเท่าที่เขาพอใจแน่นอน
ถังเทียนเป็นเหมือนหนูทดลอง ถูกขอร้องให้ดำเนินการทดสอบที่ซับซ้อนและแปลกประหลาดครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อเห็นถังเทียนซึ่งหลั่งเหงื่อพรั่งพรูราวกับฝนตก  หวังซวนอดอุทานไม่ได้  “ร่างแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียวหรือนี่”
ด้านข้างเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญโลหิตวิทยามีสีหน้าเหลือเชื่อ ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น หน้าของคนอื่นก็เขียวคล้ำ  ตั้งแต่ถังเทียนฟื้นฟูเต็มที่ เขามีสภาพร่างกายที่ดูมีอำนาจมาก
 “สัตว์ประหลาดแท้ๆ”  เหลียงฟงพึมพำกับตัวเอง
หวังซวนชำเลืองมองบันทึกในมือของเขา  เขาเห็นด้วยกับคำว่า “สัตว์ประหลาด” จากส่วนลึกของหัวใจ  แต่แน่นอน เขาไม่โง่พอจะเห็นด้วย เหลียงฟงเป็นเซียนนักสู้พูดคำนั้นออกมา เขาก็ต้องระวังตัวเอง
 “คุณภาพร่างกายของเจ้านายพูดอย่างไม่เกรงใจไม่ด้อยไปกว่าพลังสายเลือดระดับทองเลย” หวังซวนสรุป  “นี่คือร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบเห็นมา  พลังทำลายของเจ้านายจากการโจมตีเต็มกำลังสามารถกระแทกเป้าบรอนซ์หมายเลขสิบสามลึกลงไปถึงสิบสองเซ็นติเมตร  ในเรื่องของการระเบิดพลังออกมา ระยะเร่ง 50 เมตรของเจ้านายก็บรรลุความเร็วเหนือเสียงได้ ในเรื่องความอดทน เกินกว่าระดับ 90% สูงกว่าภูตอสูรดวงดาวที่รู้จักกันทุกตัว”
แม้ว่าการทดสอบเหล่านี้จะมองเห็นจากสายตามากมาย  แต่เมื่อได้ยินข้อสรุปของหวังซวน ทุกคนก็ยังอดชื่นชมไม่ได้
อาวุธจักรกลเหมายเลขสิบสามที่ห้องค้นคว้าผลิตออกมาเป็นบรอนซ์ที่แข็งแกร่งทนทานที่สุด เป้าหมายของการผลิตหนาสิบเซนติเมตร ซึ่งมีแต่นักสู้ระดับเซียนเท่านั้นจึงจะทำลายได้
ขณะที่วิ่งระดับความเร็วเสียงคือหนึ่งในสัญลัญลักษณ์ของนักสู้ระดับเซียน
สัตว์ประหลาดชัดๆ!
เขาเป็นสัตว์ประหลาดแท้ๆ 100%
มีแต่คำนั้นเท่านั้นจึงจะเหมาะกับเขา
ไม่มีใครคาดการณ์ผลลัพธ์ทั้งหมดนี้  ทุกคนคิดว่าจิตวิญญาณยุทธของถังเทียนถูกขัดเกลาจนอยู่ในระดับที่บริสุทธิ์ที่สุด  แต่ไม่มีใครคิดว่าร่างของถังเทียนจะกลายเป็นดุดันผิดธรรมดา  เรื่องนี้ทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างมาก  ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มแทงเข็มเข้าในตัวถังเทียนและทดสอบตามมาอย่างเข็มงวดเป็นชุด  และผลที่ได้ก็น่าประหลาดใจ
หวังซวนทำสีหน้าแปลกประหลาด  “และการเพิ่มขึ้นของพลังของเจ้านายไม่สัมพันธ์กับพลังสายเลือด  เพราะร่างกายของเจ้านายไม่มีสายเลือดเลย
ทุกคนสะดุ้งฮือฮา
 “มันเป็นไปได้ยังไง?  แม้ว่าปราณแท้สามารถขัดเกลาร่างกายได้  แต่นั่นเป็นเพียงมาตรฐานอย่างต่ำ  ร่างกายที่แข็งแก่งนี้ นอกจากพลังสายเลือดแล้ว ข้าไม่สามารถคิดหาวิธีอื่น”  ติงม่านเป็นคนกล่าว ในฐานะเป็นเซียนเภสัช นางมีอำนาจพอในสายงานนี้
ถึงตอนนี้ ผู้เฒ่าเฟ่ยซึ่งอยู่ข้างๆ หวังซวนยืนขึ้นและกล่าว “เราได้ตรวจดูสภาพร่างกายของเจ้านายแล้ว ไม่มีเส้นชีพจรอยู่เลย
เพียงแค่นั้น ทุกคนก็เงียบสงัด
ความแข็งแกร่งเชี่ยวชาญของกลุ่มนักโลหิตวิทยาค่อนข้างดีมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีความทะเยอทะยานในองค์การวิญญาณมืด  แต่พลังความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวนั้นโดดเด่น  และผู้เฒ่าเฟ่ยยังได้เลือกมือดีมาช่วย  ดังนั้นทุกคนมีความเชี่ยวชาญหลายอย่าง  เป็นไปได้ว่าคนๆ เดียวอาจผิดพลาดกันได้  แต่ด้วยจำนวนคนมากมาย กลับได้ผลอย่างเดียวอย่างนั้นก็คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน
อาเฮ่อพูดขึ้นทันที  “ข้าเคยได้ยินมาก่อนว่ามีวิธีการนอกรีตใช้ขัดเกลาร่างกายก่อนที่จะใช้วิชาวังวนกระบี่วิญญาณ”
จิ่งหาวชำเลืองมองดูด้วยความประหลาดใจ  เขาไม่คิดเลยว่าอาเฮ่อจะรู้และได้เห็นเรื่องที่ยากอย่างน้น  และเขาพยักหน้า  “มีวิชาอย่างนั้นแน่ เรียกว่ากระบี่ขัดเกลาร่าง  แต่เป็นวิชาต่อสู้ของสำนักเล็กๆ และสาบสูญการสืบทอดไปแล้ว”
ติงม่านอ้าปาก  “ขอข้าตรวจดูก่อน”
ถังเทียนที่แทบจะเหนื่อยล้าถูกติงม่านเรียกมาตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
พอตรวจได้ ถังเทียนก็เผลอหลับ
ยิ่งนางตรวจมากเท่าใด สีหน้าของติงม่านก็เขียวคล้ำมากขึ้น
ติงม่านยืนขึ้นหลังจากที่นางตรวจสอบและพูดอย่างจริงจัง  “ร่างของเขาแปลกประหลาดมากไม่มีเส้นชีพจรเลย  แม้แต่ปราณแท้ที่เคยกลมกลืนกับร่างของเขาก็หายไป  ร่างของเขาสะอาดมากกว่าทารก  ปัจจุบันนี้เขามีพลังกายแค่ศูนย์”
พลังกายศูนย์!
ทุกคนตะลึง  พลังกายศูนย์ ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
ตั้งแต่เริ่มต้นของการฝึกทุกคนมีความเชื่อโดยทั่วไปว่าปราณแท้คือเหตุผลสำคัญสำหรับพลังของนักสู้  นี่ยังเป็นเหตุผลหลักในปัจจุบันของวิชาต่อสู้ รวมทั้งสายเลือดไม่มีทางพ้นจากหมวดนี้ไปได้  ความบริสุทธิ์ของพลังสายเลือดคือสิ่งที่ทำให้อุดมไปด้วยปราณแท้
ระบบของวิทยายุทธขยายตัวออกมาจากสิ่งที่พื้นฐานที่สุดซึ่งเป็นความสามารถในการใช้พลังงานและพลังงานที่เปลี่ยนแปลงในร่างกายซึ่งจะมีความได้เปรียบโดยธรรมชาติ  ดังนั้นเราจะเปลี่ยนพลังงานในร่างกายได้อย่างไร นี่คืออุดมการณ์หลัก
วิทยายุทธมีความแตกต่างกันไปในสำนักนิกายต่างๆ  แต่แนวคิดพื้นฐานไม่มีความต่างกัน
ถังเทียนเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่มีพลังงานในร่างกายเป็นศูนย์
แม้แต่ทารกก็ไม่มีปราณแท้ในร่างเป็นศูนย์  ต่อให้ท่านไม่ได้ฝึกวิทยายุทธและอยู่ไปตามธรรมชาติก็ตาม  พลังงานในอากาศก็ยังไหลเข้ามาในสะสมอยู่ในร่างท่าน  เมื่อมารดาตั้งครรภ์ พลังจะส่งผ่านจากพ่อแม่และสะสมอยู่ในร่างกายทารกอ่อน
ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน  จะมีอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ถ้าไม่มีพลังงานนั้นอยู่ภายใน?
พลังร่างกายของถังเทียนเป็นศูนย์  เพียงแค่วันนี้ก็พลิกคว่ำระบบวิชาต่อสู้ไปอย่างสิ้นเชิง
เงียบสงัดราวป่าช้า  แต่ละคนต่างพยายามจะสลายความตื่นตกใจในใจออกไป และจากนั้นทุกคนจึงตระหนักว่าบนใบหน้าของพวกเขามีทั้งความกลัว คาดหมาย สูญเสียและตื่นเต้น
 “ดูเหมือนว่าเราได้ค้นพบบางอย่าง ที่น่าประทับใจมาก”

7 ความคิดเห็น:

Sunrise กล่าวว่า...

ป๊าดดด พระเอกเรามาจากดาวไหนเนี่ย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

มันคือ มนุษย์ ดาวนาแมก

dvdkeeper กล่าวว่า...

พลังเป็นหนึ่งเดียวกับร่างเปล่า สายเลือดกับพลังเก่ารวมกันหมดแล้ว

Unknown กล่าวว่า...

มันเกินมนุษย์ไปเเล้วสินะ....

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ยังมีอะไรให้แปลกใจได้เรื่อยๆเลยวุ้ย

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

แสดงความคิดเห็น