วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 468 พลังเกลียวอยู่ไหน



ตอนที่  468  พลังเกลียวอยู่ไหน
ร่างของถังเทียนมีพลังงานในกายเป็นศูนย์ซึ่งหาได้ยาก  แต่จิตวิญญาณยุทธของเขายังคงบริสุทธิ์ เรื่องนี้ในสายตาทุกคนเป็นเรื่องที่มิอาจหยั่งถึงได้เลย

แม้จนถึงบัดนี้ นักสู้ก็ยังไม่เข้าใจแก่นแท้ของจิตวิญญาณยุทธอย่างเต็มที่  แต่ไม่มีข้อสงสัยเลยว่ามีความเกี่ยวโยงกันอย่างสูงระหว่างจิตวิญญาณยุทธกับพลังภายใน  ตัวอย่างเช่น สนามพลังวิญญาณของเซียนนักสู้ก็คือการใช้จิตวิญญาณยุทธแทนกฎธรรมชาติและเลียนแบบพลังงาน
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกงงงันก็คือ ถังเทียนจะสู้ได้อย่างไร?  ไม่สำคัญว่าจิตวิญญาณยุทธจะบริสุทธิ์แค่ไหน เมื่อไม่มีพลังงาน ก็ไม่มีทางสร้างสนามพลังวิญญาณได้  อย่างนั้นจะใช้อะไรได้?
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนแสดงให้พวกเขาเห็นอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการรบที่น่ากลัวของเขา
คนแรกที่ต้องเจ็บตัวภายใต้มือมารของเขาก็คือเหออี้หมิง
การเสียทีเมื่อตอนถูกไล่ล่านานแล้วนั้น ถือว่าทำให้เขาเสียศักดิ์ศรีและเมื่อเหออี้หมิงได้ยินว่าถังเทียนต้องการให้เขาเป็นคู่ซ้อมมือ  เขาวิ่งเข้าไปอาสาโดยไม่พูดอะไรต่อไป
นอกจากจะพิสูจน์ตนเองแล้ว เซียนกระบี่เหอยังมีแผนการของตนเอง เนื่องจากมีเซียนนักสู้มากมาย นั่นคือวิธีที่เขาจะพิสูจน์ตนเอง มันมีข้อสงสัยที่น่าคิด  วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือให้หนุ่มน้อยถังยอมรับความสามารถของเขา
เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการแก้แค้นและสามารถฉวยโอกาสเอาเปรียบได้  เหออี้หมิงต้องการสู้จริงๆ เพื่อแสดงฝีมือของเขา
แม้ว่าถังเทียนจะแปลกประหลาดมาก  แต่เหออี้หมิงก็ยังเชื่ออย่างหนักแน่น การเป็นเซียนคือจุดหมายปลายทางของชีวิตนักสู้
เหออี้หมิงฝึกวิชากระบี่ และสนามพลังวิญญาณของเขาเรียกว่า คล้อยลม เมื่อสนามพลังวิญญาณเริ่มทำงาน เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนในอากาศรอบตัวระยะห้าร้อยฟุต และวิชากระบี่ของเขามีนามว่ากระบี่คล้อยลม เขาสามารถหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ได้จากความผันผวนในอากาศแม้เพียงเล็กน้อย
วิชากระบี่ของเขาสามารถปลดปล่อยพลังที่น่าอัศจรรย์ได้ตราบเท่าที่ยังมีอากาศ
เขาไม่กล้าประมาท กระตุ้นสนามพลังวิญญาณจนถึงระดับสูงสุด  เขาชี้ปลายกระบี่มาที่ถังเทียน และมีสีหน้าเคร่งขรึม
ถังเทียนกระตือรือร้นมาก เมื่อเร็วๆ นี้เขาก็เพิ่งถูกทุกคนทรมานมาเหมือนกัน และการทดสอบแปลกประหลาดทั้งหมดทำให้เขารู้สึกตัวเหมือนเป็นสัตว์ในคณะละครสัตว์  มีการทดสอบมากมายที่น่าเบื่อระอา  ที่สำคัญที่สุดยิ่งผ่านการทดสอบมาก ก็ยิ่งทำให้เขาคุ้นเคยกับร่างใหม่ของเขามากขึ้น
ความต้องการสู้ของเขารุนแรงมาก
จะเกิดอะไรขึ้นกับความต้องการสู้อย่างกะทันหันของข้า...
เขาจ้องมองเหออี้หมิงจริงจัง  หมัดของเขากำแน่นจนเสียงกระดูกลั่น เขาตะโกนลั่น “ข้าบุกละนะ”
ก่อนเขาพูดจบ อากาศต่อหน้าเขาระเบิดออกทันทีและคลื่นหมอกขาวระเบิดสนั่นกระจายตัวขยายเป็นวงออกไป
มันเป็นการทะลุผ่านกำแพงเสียง
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าความเร็วของถังเทียนทะลุผ่านกำแพงเสียงไปแล้ว แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความรู้สึกถึงแรงกดดันที่รุนแรง  นั่นทำให้แม้แต่เหออี้หมิงต้องหรี่ตา
เร็วมาก!
กระแสอากาศที่ปั่นป่วนและบ้าคลั่งในสายตาของเหออี้หมิงสามารถเห็นได้ชัดเจน  เขาสามารถตัดสินจุดอ่อนของถังเทียนได้ชัดเจน เขาสะบัดข้อมือเพื่อควงกระบี่
แม้ว่าถังเทียนจะไม่มีปราณแท้ ทำให้เขาไม่สามารถสร้างสนามพลังวิญญาณได้  แต่จิตวิญญาณยุทธที่บริสุทธิ์ของเขาทำให้สัญชาตญาณและการตัดสินใจของเขาถึงระดับที่มิอาจคาดคิดได้
ข้อมือเหออี้หมิงเพิ่งจะขยับ ก่อนที่กระบี่จะสามารถพุ่งออกมา สายตาถังเทียนเบิกกว้างอย่างรวดเร็ว  เขาเห็นจุดที่กระบี่เล็งเป้าหมาย เขาสลับก้าวและหมอบลงทันที
การเปลี่ยนแปลงของถังเทียนทำให้เหออี้หมิงพูดไม่ออก  กระบี่นี้ยังไม่ทันเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตามเขายังเป็นเซียนนักสู้คนหนึ่งและมีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชนจึงยังสงบอยู่ได้  ถังเทียนมีจุดอ่อนมากมาย ไม่มีสนามพลังวิญญาณ ตลอดทั้งร่างของเขาก็เต็มไปด้วยช่องว่าง  เหออี้หมิงสะบัดข้อมืออีกครั้ง ปลายกระบี่สั่นและเตรียมโจมตี
สายตาของถังเทียนมีประกายยิ่งกว่าเดิม  ร่างของเขาเหมือนกับใบไม้ในสายลมเคลื่อนไหวได้เกินกว่าจะบรรยาย
ไม่ว่าจะมองในแง่ไหน ก็ไม่นับว่าเป็นการตอบโต้ที่ดี  ในการสู้จริงการทำตัวให้ใหญ่กว่าหมายถึงการเปิดเผยช่องว่างมากขึ้น เพราะถังเทียนทำเช่นนั้น จึง...
จุดอ่อนบนปลายกระบี่ของเหออี้หมิงหายไป
เหออี้หมิงรู้สึกยากจะทนทานได้ เขาสะบัดข้อมือ ตำแหน่งปลายกระบี่เปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง
นึกไม่ถึงว่าถังเทียนเป็นเหมือนมนุษย์สปริง  เขากลับมาอยู่ในท่าปกติและเหมือนกับเป็นนักทำนาย เขาคาดการณ์ความเคลื่อนไหวครั้งต่อไปได้  ปลายกระบี่ของเหออี้หมิงแค่ชะงักก็เคลื่อนไหวได้ต่อเนื่อง
ในช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งสองคนเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า  พวกเขาเปลี่ยนวิชาต่อเนื่องกันถึงห้าครั้ง เหงื่อปรากฏที่หน้าผากของเหออี้หมิง กระบี่ในมือไม่อาจแทงออกไปข้างหน้าได้
ถังเทียนพุ่งเข้ามาข้างหน้าเขา และใช้หมัดโจมตีใส่อย่างไม่มีอะไรซับซ้อน
สีหน้าของเหออี้หมิงเปลี่ยน เขายกกระบี่ตั้งป้องกันไว้  หมัดกระแทกใส่กระบี่อย่างรุนแรง
เหออี้หมิงรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังทนต่อสู้กับสัตว์ป่าที่ดุร้าย  ในที่สุดเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่สามารถโจมตีใส่เป้าหมายเลขสิบสามที่หนาถึงสิบสองเซนติเมตร
ร่างของเขาปลิวละลิ่ว
ถังเทียนกระแทกพื้นทันใดระเบิดพลังพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ปัง.. เขาทลายกำแพงเสียงอีกครั้ง บังเกิดเป็นภาพเงาวิ่งตาม และเขามาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเหออี้หมิง
ปล่อยหมัดและเตะ!
ทั้งหมดนั้นเป็นวิชาหมัดมวยพื้นฐาน  แต่กลับต่อยออกมาด้วยความถี่สูง ที่ตาของเหออี้หมิงก็มองไม่ทัน และที่ย่ำแย่ที่สุดก็คือทุกๆ การโจมตีนั้นรุนแรงและหนักหน่วงขึ้น  เหออี้หมิงรู้สึกว่าร่างของเขากำลังถูกฝูงสัตว์ป่าเหยียบย่ำอย่างบ้าคลั่ง
จู่โจม
คลื่นความเจ็บปวดแล่นออกมาจากปลายคาง ก่อนที่เขาจะหมดสติ เหออี้หมิงก็ยังไม่เข้าใจว่าเขาแพ้ได้อย่างไร
ปัง!
เหออี้หมิงปลิวออกไปราวกับกระสอบทราย ลอยโด่งร่วงลงมากระแทกกับพื้นหมดสติทันที
พื้นที่รอบๆ เงียบราวกับป่าช้า
ทุกคนตกตะลึง ปากของพวกเขาอ้าค้างกว้าง  ขณะที่พวกเขาจ้องมองถังเทียนอย่างว่างเปล่า  เงียบขนาดได้ยินเสียงเข็มตก
นาฬิกาจับเวลาของหวังซวนบอกเวลาต่อสู้ไว้ชัดเจน 6.8 วินาที!
ไม่มีใครเข้าใจว่าถังเทียนชนะได้อย่างไร  พวกเขาเห็นข้อมือของเหออี้หมิงสั่นเหมือนกับว่าเกร็งค้าง  จากนั้นก็ไม่ขยับ  เขาเป็นเหมือนเสาหลักที่ถูกถังเทียนต่อยใส่
เอาชนะเซียนนักสู้ใน 6.8 วินาที ไม่เคยมีใครได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน  ต้องเป็นเหออี้หมิงที่มีปัญหาแน่
สายตาทุกคนหันไปมองโต้วหย่งและไป๋ซือซือ
 “เล่าเหอ...” โต้วหย่งคิดถึงความเป็นไปได้  เขามีสีหน้าที่ดูน่าสงสาร “บางทีสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งล่าสุดคงมีผลฝังใจเขาอยู่ลึกๆ เป็นแน่...”
ทุกคนตระหนักได้ทันทีว่า คำอธิบายของโต้วหย่งสมเหตุผล
เมื่อคิดดูแล้ว ถ้าพวกเขาถูกพายุวังวนกระบี่ไล่กวดทั้งวันทั้งคืนถึงสองสามวัน  ทั้งเห็นประจักษ์ตอนที่พายุหมุนกระบี่กำจัดและทำลายทุกคนเลือดท่วมไปหมด  ไม่ว่าจะเป็นคนที่อดทนเพียงไหน ก็ต้องได้รับผลทางจิตใจอยู่บ้าง
ถังเทียนรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ทันใดนั้นเขาตระหนักว่าดูเหมือนว่าเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนมากนัก เขาคิดได้ทันทีว่าเมื่อก่อนนี้เขาก็โจมตีกำจัดเซียนนักสู้ผู้ไม่มีความคิด เอาแต่โจมตีล้างแค้น
แม้ว่าจะไม่มีปราณแท้อยู่ในร่างกาย  แต่มาตรฐานร่างหยาบของเขาก็มีประสิทธิภาพพลังมากขึ้น  ด้วยการต่อสู้อย่างไม่คิดอะไร พลังของเขากลับจะแข็งแกร่งขึ้น
เลือดลมของเขาพลุกพล่านทันที  “ใครต่อไป?”
ภาพร่างเงาที่เยือกเย็นถือดาบเดินเข้ามาในที่ต่อสู้  “ข้าเอง”
เซียนดาบฟงเยี่ยที่เหลียงฟงเชิญมาตกเป็นที่สนใจของทุกคนทันที  นักสู้ระดับเซียนที่ไม่คุ้นเคยในกลุ่มพวกเขาเอง และทุกคนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นสนามพลังของผู้อื่น
ฟงเยี่ยก้าวเข้าในสนามต่อสู้  ใต้ขาของเขาเป็นมีดวงเดือน มีลักษณะโค้งเหมือนพระจันทร์เต็มดวง  ฟองอากาศเริ่มลอยออกมาจากดาบวงพระจันทร์ฟองแล้วฟองเล่าและลอยอยู่รอบตัวเขา เหมือนกับฟองน้ำเดือด
สนามพลังวิญญาณของฟงเยี่ยมีความโดดเด่นเฉพาะตนมาก มีนามว่าพระจันทร์เดือด
เซียนนักสู้อื่นแสดงสีหน้าประหลาดใจ  พลังงานในพื้นที่รอบตัวฟงเยี่ยหนาแน่นดูมีชีวิตชีวา
ดาบในมือของฟงเยี่ยสั้นมากราวๆ ห้าฟุต รูปร่างโค้งเหมือนวงพระจันทร์
ทันทีที่ถังเทียนเห็นว่าฟงเยี่ยเตรียมตัวเสร็จแล้ว  เขาตะโกนลั่น  “เริ่มกันเลย!
เขาทำลายกำแพงเสียงอีกครั้ง!
ร่างของถังเทียนกลายสภาพเป็นพร่าเลือน
ฟงเยี่ยไม่ตื่นเต้น ดาบวงพระจันทร์ในมือของเขาเคลื่อนไหวแผ่วเบา ฟองน้ำรอบตัวเขาถูกดูดเข้าหาดดาบวงพระจันทร์ของเขาทันที และดาบวงพระจันทร์ตวัดฟันใส่ถังเทียน!
ปัง!
ทันใดนั้นรังสีดาบแพรวพราวพุ่งออกจากมือของฟงเยี่ยและตรงเข้าหาถังเทียนทันที
ทุกคนตกตะลึง รังสีดาบมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่มีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ละรังสีจะมีความคมและเยือกเย็น
ถังเทียนตกตะลึงเช่นกัน  แต่ทันใดนั้นเขามีปฏิกิริยาทำให้ทุกคนสะดุ้ง
ในกลางอากาศถังเทียนแนบกำปั้นไว้ข้างตัวทันที  ร่างของเขาโค้งเหมือนคันธนู  ดวงตาของเขามีประกายร้อนแรง  เขาพุ่งเข้าหารังสีดาบโดยไม่หลบเลี่ยง
ช่วงเวลาที่ทั้งสองจะปะทะสัมผัสกัน ถังเทียนตวาดลั่นทันทีและปล่อยหมัดออก
ปัง!
เสียงเหมือนกับทุบใส่แนวปะการัง  รังสีดาบแตกสลายในพริบตา
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
เป็นวิชาหมัดพื้นฐานที่เรียบง่าย  แต่ไวที่สุด มีอำนาจทำลายล้างที่รุนแรงเหมือนพายุ จนรังสีดาบกระจายไปต่อหน้าถังเทียนกลายเป็นโล่โปร่งแสง  รังสีดาบกระดาบกระแทกใส่เกิดเสียงกระทบดังลั่น  แต่ไม่สามารถทำลายโล่นั้นได้
ฟงเยี่ยไม่รู้สึกประหลาดใจ ดาบวงพระจันทร์ใต้เท้าเขาเปล่งแสงสว่างมากขึ้น รังสีดาบกลายเป็นคมกล้ามากขึ้นและมีพลังควงสว่านเพิ่มขึ้นทะลักเข้าหาถังเทียนอย่างดุดัน
ถังเทียนรู้สึกเครียดทันที  ทุกๆ รังสีดาบจะมีพลังหมุนเกลียวซึ่งเพิ่มพลังให้มันทันที
ถังเทียนปล่อยหมัดอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาไม่สามารถยั้งร่างเขาไว้ได้ เนื่องจากเขาค่อยๆ ถูกรังสีดาบดันถอยหลัง ไม่ว่าเขาจะใส่ความสามารถเช่นใดก็ตาม ร่างของเขาค่อยๆ ถูกดันถอยหลัง
บัดซบเอ๊ย!
คิดว่าเจ้าเป็นคนเดียวที่รู้จักพลังเกลียวหรือ?
ถังเทียนหวั่นไหวและโกรธ เมื่อมองดูด้วยความโกรธ การใช้พลังเกลียวของเด็กหนุ่มผู้นี้คือสิ่งที่เขาเชี่ยวชาญที่สุด ก็ว่าได้ การตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะเคล็ดวิชาที่เขาเชี่ยวชาญนั้น ทำให้ถังเทียนไม่พอใจและความโกรธในใจเขาเริ่มเพิ่มมากขึ้น  ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขาสร้างพลังงานเกลียวตอนนั้น  เขาปิติภูมิใจและดื่มด่ำกับความสำเร็จนั้นนานมาก
ไม่มีทาง!  ข้าจะใช้พลังงานเกลียวเหมือนกัน!”
ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจ  ใจของถังเทียนก็กวาดคิดอื่นๆ ออกไปหมด
แต่ในตอนนี้เขาเป็นคนที่มีพลังกายเป็นศูนย์ ไม่มีปราณแท้แม้แต่นิดเดียวในร่างเลย  เมื่อไม่มีปราณแท้แล้วเขาจะมีพลังเกลียวได้อย่างไร?
ถังเทียนไม่เคยคิดเรื่องนั้นตั้งแต่แรก  ความคิดเช่นนั้นไม่สมเหตุสมผล   ไม่ว่าทฤษฎีพื้นฐานนั้นจะจริงหรือไม่ พลังจะมีหรือไม่ก็ตาม เขามีเพียงความคิดเดียวคือ เขาต้องใช้พลังเกลียว
และต้องเป็นพลังเกลียวที่แข็งแกร่งมากกว่าของฟงเยี่ย
ถ้าฟงเยี่ยรู้ความคิดของถังเทียนทันที  เขาคงหัวเราะจนน้ำตาเล็ดแน่
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนเริ่มประยุกต์ความคิดของเขา  เขาเริ่มพยายามส่งพลังเกลียวไปที่หมัดของเขา  แต่ผลที่ออกมายังไม่ดี  เพราะมันทำให้ความถี่ของหมัดของเขาลดลงอย่างมาก  เขาพยายามใช้วิธีอื่นหลายวิธี  ในที่สุดเขาก็ได้ตระหนักว่า ไม่มีปราณแท้  ก็เป็นไปไม่ได้ที่พลังงานเกลียวจะก่อตัวขึ้น
ไม่มีปราณแท้.... ไม่มีปราณแท้...
ถังเทียวควงหมัดไปตามสัญชาตญาณป้องกันรังสีดาบของฟงเยี่ยไว้ ปากพึมพำบางอย่าง ทันใดนั้น นัยน์ตาเขาแข็งค้าง
รังสีแตกกระจาย...
รังสีเจิดจ้าแตกกระจายอยู่รอบตัวของเขาดูเหมือนจะก่อตัวเป็นหมอกซึ่งเหมือนจะสร้างเป็นรูปหมอก ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยรังสีดาบที่โจมตีใส่เขา รังสีถูกต่อยแตกกระจาย  รังสีที่แผ่กระจายก็ยังคงเป็นพลังงานเช่นกัน..
ความคิดที่ชัดเจนเริ่มก่อตัวในใจของเขา เหมือนกับมีไฟฟ้ากระตุ้นในหัวใจเขา

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

6.8วิ น๊อคนักสู้ระดับเซียน เหอๆ

jj กล่าวว่า...

อย่ายอกนะว่าจะเอาังงานรอบนอกมาเป็นปรานช่วยสู้

Unknown กล่าวว่า...

+1

dvdkeeper กล่าวว่า...

เริ่ม op ขื้นเรื่อยๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sunrise กล่าวว่า...

ขอบใจหลายยยย

Unknown กล่าวว่า...

ไม่มีพลังงานในตัวก็เอานอกตัวมาใช้หรอ...
มหาเวทย์ดูดดาวคนละเรื้องละ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ค้าง ครับ

แสดงความคิดเห็น