ตอนที่ 486
เสี่ยวเอ้อกางร่ม
คลื่นความเย็นที่ไล่หลังพวกเขาส่งเสียงดังหวีดหวิวน่ากลัวพร้อมกับเสียงดังกระแทกกระทั้นไม่หยุด ถังเทียนเห็นกับตาตนเองว่าศพสองสามร่าง
แม้แต่ชิ้นส่วนสมบัติที่แตกกระจายถูกปั่นกันทั้งหมดกลายเป็นผุยผงสีน้ำเงินละเอียดพอๆ
กับแป้ง
นั่นทำให้ผมขนทั่วตัวของเขาลุกชันทันที
คุณสมบัติของสมบัติเครื่องมือนั้นล้วนโดดเด่นกันทั้งนั้น
บวกกับสะสมพลังดวงดาวมาเป็นเวลาแรมเดือนแรมปี
สมบัติเหล่านั้นจึงยากมากที่จะทำลาย
แต่เมื่อเห็นคลื่นที่กราดเกรี้ยวที่เกิดจากคลื่นความเย็นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่เขมือบกินทุกอย่าง
แม้แต่สมบัติก็ยังแตกสลายป่นเป็นธุลีได้อย่างง่ายๆ
หัวใจของถังเทียนสั่นสะท้านทันที
ไม่ว่าจะมีความคิดบุกย่ำยีกลุ่มดาวเซกซ์แทนส์เพียงใดก็ตาม
ความคิดนั้นก็ล้วนหายไปหมด ถ้าร่างส่วนไหนเข้าไปในคลื่นความเย็น เขาก็คงกลายเป็นธุลีสีน้ำเงินเป็นแน่
น่ากลัวมาก!
เชียนฮุ่ยคงชอบกองฝุ่นสีน้ำเงินไม่ลงอย่างแน่นอน!
ความคิดเช่นนี้ทำให้ถังเทียนไม่ทราบว่ามีเรี่ยวแรงมาจากที่ใด
วูบ... เขาลากคนทั้งเจ็ดวิ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง
เขาหันไปตะโกนใส่ติงเฉิน “ถ้ำน้ำแข็งอยู่ตรงไหน?”
“อยู่ข้างหน้าท่าน!” ติงเฉินไม่กล้าหันหัว
เขาตะโกนสุดเสียงพร้อมกับก้มหน้าก้มตาวิ่งอย่างเดียว
คลื่นความเย็นน้ำเงินใกล้เข้ามาทุกที
ปัง, หินเล็กก้อนหนึ่งที่ปลิวกระเด็นโดยคลื่นความเย็นพุ่งเข้าใส่ก้นหยาหยาเหมือนลูกธนู หยาหยากระเด็นออกไปอย่างไม่มีอะไรป้องกัน แต่ถังเทียนตาไว
มือของเขายื่นออกมารวดเร็วราวกับสายฟ้า
เขาจับหยาหยาโดยไม่ตรวจหยาหยาและวางมันไว้บนหัวของเขา
หยาหยากำลังงง มันเกาะยึดเส้นผมของถังเทียนสุดชีวิต
ถังเทียนเจ็บจนหน้าบิดเบี้ยว
ไอ้ตัวแสบ คอยดูเถอะ ข้าจะคิดบัญชีทีหลัง
ติงเฉินตะโกนอย่างบ้าคลั่งตื่นเต้น “ข้างหน้า
มันอยู่ข้างหน้านี้”
ถ้ำน้ำแข็งมีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรปรากฏอยู่ต่อหน้าทุกคน
จะพูดว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งก็คงไม่ถูกนัก
ความจริงเป็นลานน้ำแข็งที่มีรอยแยก เป็นรอยแยกที่ชัดเจนขยายออกไปสองด้าน
ทุกคนฟื้นคืนจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
ทุกคนดูมีความสุข พวกเขากระโดดลงไปในถ้ำน้ำแข็งกันทีละคน
ปัง!
ทุกคนหน้าผากเขียวคล้ำ คลื่นความเย็นวิ่งผ่านไหลไปเหมือนน้ำเฉียดผ่านเหนือศีรษะของพวกเขาไป
เสียงแตกดังขึ้นทำให้ทุกคนรู้สึกหนังศีรษะชา
เสียงกระแทกอยู่เหนือพวกเขาคอยทำลายถ้ำน้ำแข็งเหนือหัวพวกเขาไม่หยุดทำให้ชั้นน้ำแข็งหนามีเสียงแตกดังน่ากลัว ถังเทียนอยู่ข้างในรอยแยกมองดูชั้นน้ำแข็งเหนือศีรษะของเขา
10 เมตรมีรอยแตกเกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เขารู้สึกตกใจมาก
ถ้าชั้นน้ำแข็งหนาพังถล่ม
พวกเขาได้ถูกฝังทั้งเป็นแน่...
ในช่วงเวลาฉุกเฉิน
มือของถังเทียนเต็มไปด้วยหินดวงดาว
เขาไม่สนใจดูจำนวนหินดวงดาว ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยพลัง เป๊าะ
หินดวงดาวทั้งหมดถูกเขากระแทกแตก
พลังงานหนาแน่นครอบคลุมทั่วพื้นที่
ถังเทียนตะโกนอย่างโมโห “เสี่ยวเอ้อ
กางร่ม!”
เสี่ยวเอ้อกำลังลอยตัวอยู่เหนือหัวถังเทียนได้ยินเสียงของเขาก็เลื่อนมือขวาที่ถือร่มมาไว้ระดับอกมือซ้ายก็จับร่มเช่นกัน มือทั้งสองค่อยๆ ดึงและบิดร่มอย่างนุ่มนวล
ควั่บ!
พลังงานกระจัดกระจายราวกับว่ากำลังถูกดึงดูด
มันลอยขึ้นสูงอย่างรวดเร็วไปยังร่มที่เต็มไปด้วยดวงดาว
รังสีแสงแพรวพราวหมุนตามร่มที่กำลังปั่นหมุนกระจายเป็นวง เสี่ยวเอ้อแหงนศีรษะ ตาที่ดำขลับของเขาเป็นประกายแต่ยังว่างเปล่ากลับแสดงสีหน้าจริงจังอย่างหาได้ยาก เขากางแขนทั้งสอง ขายืนชิดกันจนร่างคล้ายกับรูปไม้กางเขน
สูทลินินสีน้ำเงินบนร่างของขยับโดยไม่มีลม
ทำให้เสียงแตกนั้นปลดปล่อยรังสีปราณที่แข็งแกร่ง
ที่ข้างหน้าเขา
ร่มดวงดาวขยายออกอย่างรวดเร็ว
ปัง!
ร่มดวงดาวขยายขนาดใหญ่ขึ้นเป็นเหมือนพลังของดาบ
แทงลึกลงไปในผนังน้ำแข็ง
ปัง
หิมะที่ร่วงลงมาจากท้องฟ้ามาพร้อมกับเสียงที่น่ากลัว ตกใส่ร่มอย่างรุนแรง
แสงดาวบนร่มเริ่มหมุนเร็ว แครก... ร่มร่วงลงมา
ถังเทียนเห็นบางอย่างผิดปกติ เขาจับเศษหินดวงดาวแตกอีกครั้ง
ขณะที่เขาตะโกนอย่างเร่งร้อน “เสี่ยวเอ้อ!”
พลังงานกำลังแผ่กระจายไปทั่วทุกที่
ใบหน้าละเอียดอ่อนน้อยๆ
ของเสี่ยวเอ้อดูมีอารมณ์ว่างเปล่าเฉยชาอีกครั้ง
ร่างของเขาค่อยๆ หายไป และแทบจะเวลาเดียวกัน
เขามาปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน
เขาจ้องมองถังเทียนด้วยสีหน้าเฉยเมย
แต่ถังเทียนมั่นใจว่าเสี่ยวเอ้อจ้องมองเขา
ในความว่างเปล่า
เขาไม่ได้ใช้ประโยชน์จากพลัง เข่าของเขางอเล็กน้อย
จากนั้นพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้าเหมือนกับธนูไฟ เขากางแขน ร่างหมุนไม่หยุด
พลังงานที่บ้าคลั่งบินเข้าหาฝ่ามือทั้งสองของเขาอย่างบ้าคลั่ง
เสี่ยวเอ้อหมุนปั่นขึ้นไป
และกางแขนทั้งสองพร้อมกับมีสายคาดแสงสองสาย
ความเร็วของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกที
เมื่อเขาเตรียมจะบินเข้าหาร่ม เขาเปลี่ยนสภาพเป็นลูกธนูแสงตรง
ปัง!
ธนูแสงเข้าไปในด้ามร่ม
และความสว่างของดวงดาวบนร่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดวงดาวบนร่มสว่างเหมือนกับดวงดาวไร้ขอบเขตนับไม่ถ้วน มองเห็นเป็นเนบิวลา
ดวงดาวน้อยใหญ่จำนวนนับล้านดึงดูดความสนใจจากทุกคน
ดวงดาวบนร่มเริ่มหมุนโคจรช้าๆ จากนั้นแสงร่มเบาบาง และมีกลิ่นที่รุนแรงทันที
เสี่ยวเอ้อถือร่มลอยตัวขึ้นไปในอากาศเงียบๆ
ใบหน้าที่ละเอียดอ่อน
ก้มศีรษะลงมองดูอย่างว่างเปล่า
ปัง ปัง ปัง
ร่างของทุกคนล้มลงกับพื้น
ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
พวกเขาตกตะลึงการกระทำที่กล้าหาญของเสี่ยวเอ้อ รวมทั้งถังเทียนด้วย
เจ้าตัวเล็กนี่... เก่งจริงๆ...
ทำไมข้าถึงไม่ตระหนักมาก่อน
เสี่ยวเอ้อไม่ได้โง่จริงๆ...
เทียบกับถังเทียน
ใบหน้าของคนอื่นตกใจกันหมด และกลัวสุดขีด
พวกเขาไม่เคยเห็นวิชาต่อสู้ที่บ้าระห่ำและน่ากลัวอย่างนั้นมาก่อน
หิมะร่วงกราวลงมาจากด้านบนตกลงมาเป็นจำนวนมาก แต่แสงจากร่มที่เบาบางไม่ขยับหวั่นไหวเลย
“อี๊ อี๊ อี๊!”
เสียงร้องแหลมของหยาหยาดังขึ้นทำลายความเงียบ
ถังเทียนตกใจสะดุ้งคว้าหยาหยาที่กำลังจับผมเขาอยู่ทันที เขามองหยาหยาแล้วหัวเราะจนท้องแข็งทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า, หยาหยา เจ้ามันน่าสงสารเหลือเกิน
หินเล็กก้อนหนึ่งฝังลึกอยู่ในก้นของหยาหยา ก้นหยาหยาแต่เดิมค่อนข้างเจ้าเนื้อ
เหมือนวุ้นเยลลี่
แต่ตอนนี้มีก้อนหินฝังอยู่ก้อนหนึ่งคล้ายหมุดที่ปักลง
แม้แต่เนื้อรอบก้อนหิน ถูกกดแบนอย่างชัดเจน ไม่ว่ามองมุมไหนก็ดูตลกทุกครั้ง
เมื่อได้ยินถังเทียนหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ
หยาหยากระวนกระวายใจทันที มันส่ายก้นอยู่หน้าถังเทียนไม่ยอมหยุด
พยายามให้ถึงเทียนช่วยดึงหินออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า หยาหยา
นี่เขาเรียกว่ามีความแข็งแม้ในความอ่อนหยุ่น และยังเรียกว่าตูดดอกไม้หรือลักยิ้มติดตูด คนอื่นยังมีลักยิ้มที่แก้มกันเลย หยาหยามีลักยิ้มที่ตูด..ก๊ากๆๆๆ”
ลุงเป็นอีกคนหนึ่งที่หัวเราะไม่ยอมหยุด
ถังเทียนหัวเราะจนน้ำตาไหล
แต่เขายังคงพยายามยืนขึ้นและจับหยาหยาเตือนมันในขณะเดียวกัน “ถ้าเจ้าบังอาจผายลมตอนนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าแน่”
ก้นหยาหยาเป็นเนื้อ
ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงที่ใด ถังเทียนพบมีดสมบัติเล่มหนึ่ง คิดจะใช้แคะหินออก แต่เขาไม่มีเครื่องมืออื่นอยู่ในมือของเขา
และไม่สามารถใช้เครื่องมือที่เขามีได้
คาดไม่ถึงเลยว่า
ไม่ว่าถังเทียนจะใช้แรงมากเพียงไหน
หินก็ติดอยู่ที่ก้นของหยาหยาแน่น ไม่ว่าจะแงะยังไงก็ตาม
เขาก็แงะไม่ออก
ถังเทียนรู้สึกแปลกอยู่บ้าง
ไม่ว่าเขาจะใช้แรงยังไงก็ตาม เป๊าะ
มีดในมือของเขาหัก
ถังเทียนตะลึง ปิงที่กำลังพ่นควันบุหรี่สะดุ้งเช่นกัน
แม้ว่ามีดจะเป็นแค่เพียงสมบัติชั้นทองแดง แต่มันก็คืออาวุธสมบัติ เป็นธรรมดาที่ถังเทียนสามารถทำมันพังได้ แต่มันพังเพราะก้อนหิน นั่นไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ปิงวิ่งเข้ามาและพูดด้วยความประหลาดใจ “ไม่ธรรมดาแล้ว หยาหยา เจ้ามีโชคลาภมหาศาลแล้ว หินก้อนนี้ดูเหมือนจะพิเศษ”
ถังเทียนเรียกติงเฉินเข้ามา “เจ้าเคยเห็นหินแบบนี้บ้างไหม?”
ติงเฉินมองดูใกล้ๆ มันเป็นแค่ชิ้นหินสีดำ มันมีสีฟ้าเป็นระลอกเมื่อยามสัมผัสให้ความรู้สึกที่มั่นคงมาก เขาส่ายศีรษะ
“นายท่าน ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”
เขาเพิ่งเห็นมันเมื่อหยาหยาถูกหินซัดใส่
และกล่าว “เรียนนายท่าน หินนี้ไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน มันไม่แตกสลายเป็นฝุ่นในคลื่นพลังเย็น ข้าน้อยไม่เคยได้ยินมาก่อน สมบัติระดับทองและที่ต่ำกว่าลงมา เมื่ออยู่ในคลื่นพลังเย็น
จะสลายป่นเป็นธุลีหมด
เศษหินที่สามารถทนต่อแรงกระแทกปะทะคลื่นพลังเย็นได้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน”
ถังเทียนผายมือ “หยาหยา เจ้าได้สมบัติไปแล้วนะ! โอวไม่ ข้าผิดไปแล้ว
เจ้าเป็นผู้ที่สมบัติเลือกไว้แล้ว! มิน่าเล่า หยาหยาของเรา โชคดีขนาดนี้ไม่มีใครเทียบได้เลยนะ”
หยาหยาเบะปากนอนลงกับพื้นโก่งก้นเหมือนกับหนอนกระดืบ ตามีน้ำตานองมองถังเทียนอย่างน่าสงสาร
เมื่อเห็นสีหน้าของหยาหยา ถังเทียนรู้สึกเห็นใจมัน
จากนั้นเขาดึงธงเล็กที่เหน็บอยู่ก้นของหยาหยาออก และบังหินเอาไว้ได้
“เอาล่ะ แค่นี้ก็บังอยู่แล้ว เฮ้ เฮ้
เป็นลูกผู้ชายหน่อย เจ้าจะมาทำท้อแท้เพราะมีลักยิ้มที่ตูดเล็กๆ น้อยๆ ได้ไง ขุนพลวิญญาณน้อยของหนุ่มชาวฟ้า กะอีแค่หินก้อนเล็ก มันจะเอาชนะเจ้าได้ยังไง?”
หยาหยาเปลี่ยนอารมณ์จากร้องไห้มาหัวเราะได้
มันโดดลงจากพื้นแล้วกระโดดไปตามผนังน้ำแข็ง เหมือนกับกระรอก ในพริบตาเดียว
มันกระโดดสูงขึ้นไปเท่าจุดที่เสี่ยวเอ้ออยู่
หยาหยาหันก้นและส่ายอวดเสี่ยวเอ้อให้เห็นเครื่องประดับชิ้นใหม่ของมัน
เสี่ยวเอ้อชำเลืองมองเย็นชา
จากนั้นกลับสู่สีหน้าเฉยชาอีกครา
ทุกคนค่อยๆ รู้สึกตัวจากอาการตกใจ
เสียงหวีดหวิวบนศีรษะยังคงดำเนินต่อไป
แต่เพราะแยกจากน้ำแข็งและหิมะหนา จึงไม่น่ากลัวขนาดนั้นอีก
รังสีแสงจากร่มดวงดาวยิงลงมาจากข้างบน
เหมือนกับท้องฟ้ายามราตรีเต็มไปด้วยดวงดาว มันสว่างจนน่าทึ่ง
ปิงเรียกติงเฉินเข้ามา “ข้าขอถามอะไรสักอย่าง”
ติงเฉินพูดอย่างรวดเร็ว “เชิญถามได้เลยนายท่าน!”
“ข้าได้ยินเรื่องระลอกพลังงานของพื้นที่สนามต่อสู้ปรากฏขึ้นเมื่อเร็วๆ
นี้ เจ้ารู้อะไรบ้างหรือเปล่า?”
ปิงถามเสียงเบา
“มีเรื่องเช่นนี้แน่” ติงเฉินตั้งใจทันที เขาพูดอย่างจริงจัง
“เรื่องนี้เกิดขึ้นที่สำนักส่วนใน ทุกๆ
ช่วงเวลาหนึ่งจะมีระลอกคลื่นประหลาด ทุกคนพูดกันว่าเจ้าสำนักมีของพิเศษบางอย่าง แต่ไม่มีใครเคยเห็นอะไร การรักษาความปลอดภัยในสำนักส่วนในแน่นหนามาก
ซึ่งศิษย์ชั้นนอกไม่สามารถเข้าไปได้”
ปิงรู้สึกว่างเปล่าไปชั่วขณะ ใจของเขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ “รอเดี๋ยว
เจ้าพูดบางอย่างเกี่ยวกับศิษย์ชั้นในและศิษย์ชั้นนอกได้ไหม?”
ติงเฉินอธิบาย “ศิษย์ในสำนักแบ่งออกเป็นสามกลุ่มคือ
ศิษย์ส่วนตัว, ศิษย์ชั้นในและศิษย์ชั้นนอก
ศิษย์ชั้นนอกจะประจำค่ายฝึกฝนด้านนอก
ซึ่งพวกเขาจะพาออกไปเรียนรู้และฝึกฝนขั้นพื้นฐาน
ค่ายฝึกฝนน้ำแข็งดึกดำบรรพ์ของเราเป็นค่ายส่วนนอกที่สำคัญที่สุด”
ซึ่งก็หมายความว่าระลอกไม่มีอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” ใบหน้าของปิงมีอาการตะลึง
สนามฝึกฝนของศิษย์ชั้นใน
อยู่ไกลจากที่นี่มากมายนัก” ติงเฉินอธิบาย
บุหรี่หล่นลงพื้นทันที เขาตะลึง
5 ความคิดเห็น:
ได้ปล้นแร่อีกเพียบแหงม
ขอบคุณครับ
มาไวได้ใจเลย ขอบคุณครับ
งง งง คิดไม่ทันลุงปิง
ลุงคิดไม่ถึงว่าอิถังจะถูกส่งมาชั้นนอกอะดิ
แสดงความคิดเห็น