วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 487 การคาดเดาของปิง



ตอนที่  487  การคาดเดาของปิง
เสียงหวีดหวิวต่ำดังมาจากด้านบนศีรษะและค่อยๆ ห่างออกไป  ในที่สุดทุกคนก็รู้สึกผ่อนคลาย  เมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร ทุกคนขุดชั้นน้ำแข็งออกแล้วปีนออกมาจากถ้ำใต้น้ำแข็ง ที่ราบน้ำแข็งเปลี่ยนสภาพไปเกินกว่าจะจำได้จากก่อนหน้านี้  ในพื้นที่ไกลเท่าที่พวกเขามองเห็น ต้นไม้ หิน เนินเขาเล็กทุกอย่างหายไปหมด พื้นที่ราบหิมะแต่เดิมในตอนนี้เต็มไปด้วยหลุมนับพัน

ปิงคิดอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นระเบิดถ้ำน้ำแข็ง ลบหลักฐานของร่มดวงดาว
ทันใดนั้นเสี่ยวเอ้อลอยตัวลงมาที่พื้นพร้อมกับร่ม เขาหยิบชิ้นผลึกสีน้ำเงินชิ้นหนึ่ง แครก แครก แครก เขากัดมัน  ถังเทียนสังเกตว่ามีผลึกน้ำเงินกระจายอยู่ทั่วพื้นหิมะ  รูปร่างของผลึกไม่เหมือนกัน มันเหมือนกับชิ้นน้ำแข็งสีน้ำเงินแตกหัก  ถ้าไม่ใช่เพราะสีที่แตกต่างจากพื้นหิมะ และมันปะปนอยู่ในพื้นหิมะ คงไม่มีใครจำแนกออกเป็นแน่
 “นี่คืออะไร?”  ถังเทียนยื่นมือไปหยิบขึ้นมา
ติงเฉินสีหน้าเปลี่ยน รีบห้ามเขาทันที  “นายท่าน ไม่ได้นะ!
ถังเทียนหยุดและหันมาถามด้วยความสงสัย  “ทำไม?”
 “ของพวกนี้คือผลึกคลื่นเย็น!  ติงเฉินรีบกล่าว  “ทุกครั้งหลังจากคลื่นพลังเย็นผ่านไป  จะมีบางส่วนของคลื่นพลังเย็นที่กลายเป็นผลึก  มันมีพลังกัดกร่อนปราณแท้ แข็งแกร่งกว่าคลื่นพลังเย็นในอากาศเป็นร้อยเท่า นักสู้ที่อ่อนแอพอสัมผัสมัน แม้แต่ตันเถียนก็ยังเยือกแข็ง  ดังนั้นจึงไม่ควรแตะต้อง ท่านไม่ควรจะเหยียบมันด้วย”
คำพูดเหล่านี้ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนทันที
 “ผลึกคลื่นเย็นคงอยู่ได้ไม่นาน  พวกมันจะกลับมาใช้ได้อีกครั้งและผสมเข้ากับอากาศ”  ติงเฉินกระตุ้นเตือน “ทุกคนต้องจำไว้ว่าอย่าแตะมัน เลิกสงสัยซะ”
ติงเฉินมองดูเสี่ยวเอ้อ เขาไม่สามารถค้นหาอะไรได้ เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับขุนพลวิญญาณที่สามารถกินผลึกคลื่นพลังเย็น  เสี่ยวเอ้อเป็นจิตวิญญาณยุทธ  ปราณของมันคล้ายกลับขุนพลวิญญาณมาก  ดังนั้นติงเฉินจึงสำคัญผิดว่ามันคือขุนพลวิญญาณ  แต่เขาไม่พูดสักคำ  ผลงานแห่งความกล้าหาญของเสี่ยวเอ้อทำให้เขาตกตะลึงสิ้นเชิง ขุนพลวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนั้น ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน
ปิงหูตั้งทันที  เขาหยิบผลึกคลื่นเย็นขึ้นมาชิ้นหนึ่งและเริ่มกัดเหมือนกับเสี่ยวเอ้อบ้าง เขาหลับตารู้สึกพอใจ หลังจากนั้นชั่วขณะเขาลืมตาและแสดงความเห็น “อร่อยดี!
 “ข้ากินบ้างได้ไหม?”  ถังเทียนกระตือรือร้นหลังจากเห็นพวกเขา  มีหยาหยาอยู่ข้างตัวเขาแสดงท่าทางเหมือนกับเขา
 “เจ้าไม่สามารถกินได้”  ปิงตอบตามตรง  “นี่เป็นอาหารเสริมชั้นดีสำหรับขุนพลวิญญาณ แต่ถ้าคุณภาพของขุนพลวิญญาณไม่สูงพอ  เขาคงไม่สามารถต้านทานพลังมันได้”
หยาหยาร่าเริง หยิบผลึกขึ้นมาชิ้นหนึ่งและเคี้ยว มันเริ่มกัดกินอย่างมีความสุข
ปิงมองดูพื้นน้ำแข็งที่กว้างใหญ่  สีหน้าแววตาเป็นประกายแปลก  ที่นี่เหมาะสำหรับใช้ชำระวิญญาณไม่ใช่หรือ?
สำหรับนักสู้ คลื่นพลังเย็นคือพิษร้ายแรง  แต่สำหรับขุนพลวิญญาณ  มันคืออาหารชั้นดีที่สุด  กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ที่ราบหิมะนี้ดีมากสำหรับการใช้ฝึก และเหมาะเป็นที่ชำระวิญญาณ
หัวใจของปิงเริ่มปั่นป่วน  เนื่องจากหิมะน้ำแข็งดึกดำบรรพ์เป็นพื้นที่ชำระวิญญาณชั้นดี และสำหรับกลุ่มดาวหมีใหญ่ก็เป็นสถานที่เติมเต็ม  ถังเทียนมีขุนพลวิญญาณจำนวนมากอยู่ภายใต้บัญชาการของเขา และถ้าพวกเขาสามารถบำรุงเลี้ยงที่นี่ได้  พวกเขาก็อาจมีความก้าวหน้ามากขึ้นก็ได้
เราควรยกกองทัพมาที่นี่เลยดีไหม...
โอว ไม่นะ, ข้าต้องไม่คล้อยตามเจ้าเด็กโง่นั่น  เพราะฉะนั้นความคิดของข้าควรเปลี่ยนไปที่กองทัพ  ปิงรีบกำจัดความคิดซึ่งก้าวร้าวและไม่พิจารณาต่อแต่อย่างใด
คนที่มีสติปัญญาระดับสูง ต้องใช้สติปัญญาคิด
ในบางความรู้สึก บางส่วนของที่ราบหิมะนี้ควรจะเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์
ชางหยางหวี่ตระหนักตรงจุดนี้หรือไม่?
ความคิดนี้ทำให้ตาปิงเป็นประกาย  แต่เขาปฏิเสธจะคาดเดาทันที
นักสู้ระดับทองอาจไม่สามารถตระหนักถึงการใช้คลื่นพลังเย็น  แต่นักสู้ระดับเซียนจะตระหนักได้แน่นอน เพราะนักสู้เซียนจะฝึกอยู่สนามพลังวิญญาณ  ดังนั้นความเข้าใจของพวกเขาเรื่องขุนพลวิญญาณคือสิ่งที่นักสู้คนใดไม่สามารถเทียบได้ 
ชางหยางหวี่จะเห็นเรื่องนี้ได้แน่นอน  ถ้าเขาไม่เห็นเรื่องนี้ ทำไมเขาไม่ใช้พื้นที่หิมะนี้เล่า?
ทันใดนั้นปิงพูดกับติงเฉินทันที  “ในลานหิมะกว้างใหญ่นี้ นอกจากพื้นที่ฝึก  ยังมีสถานที่อื่นอีกไหม?”
ติงเฉินพยักหน้า  “ถูกแล้ว  ไม่ไกลจากค่ายฝึก  ยังมีเมืองหนึ่งที่เรียกว่าเมืองหานกู่ อยู่ภายใต้การดูแลของธิดาของอาจารย์นามว่าฟู่จือหง  หลี่เหลียงชิวและคนอื่นเป็นทหารรักษาการณ์ในปกครองของแม่นางจือหง  แม่นางจือหงเป็นคนดี  ทุกคนเคารพนาง
 “ที่นั่นมีอะไรถึงต้องใช้ทหารรักษาการณ์?”  ปิงถาม
ติงเฉินสะดุ้งชั่วขณะ  เขาส่ายศีรษะ “ข้าไม่รู้”
แต่ปิงตาเป็นประกาย เนื่องจากเขาคิดบางอย่างได้
เสี่ยวเอ้อบิดร่มดวงดาวในมือของมัน ผลึกน้ำแข็งบนพื้นเริ่มถูกดูดทีละก้อนๆ บินตรงเข้าหาร่มที่กำลังปั่นหมุน  ผลึกทุกก้อนปะทะกับร่มเปลี่ยนเป็นประกายและผงน้ำเงินโปร่งใสซึ่งถูกดูดซับเข้าไปในผิวของร่ม
หยาหยางงงวยไปชั่วขณะ และเริ่มเพิ่มความเร็วในการดูดบ้าง  แต่เมื่อเทียบกับเสี่ยวเอ้อแล้ว  ผลงานของมันแย่กว่า
ร่มดวงดาวหยุด ทันใดนั้นเสี่ยวเอ้อมองดูหยาหยาอย่างว่างเปล่า
หยาหยาลืมตากว้างแสดงความไม่พอใจ  หัวใจของมันเต็มไปด้วยความอิจฉาโดยไม่รู้ตัว
เสี่ยวเอ้อกวักมือเรียกหยาหยาทันที
หยาหยาอึ้งไปชั่วขณะ และร้องด้วยความดีใจแทน มันก้าวขาพุ่งเข้าหาเสี่ยวเอ้อ และในช่วงท้ายของการวิ่งมันบินขึ้นไปบนฟ้าตีลังกาสองสามรอบ
เสี่ยวเอ้อหันร่างมาโดยบังเอิญ
แปะ
หยาหยาแนบอยู่กับหลังที่เหมือนวุ้นของเสี่ยวเอ้อกอดคอเสี่ยวเอ้อ และส่งเสียงร่าเริง
ร่างของเสี่ยวเอ้อยืนมั่นคง สีหน้าว่างเปล่าไร้อารมณ์ เขาเริ่มหมุนร่มดวงดาวอีกครั้ง
วูบ... เสี่ยวเอ้อเหมือนกับพายุหมุนน้ำเงินบินไปตามพื้น ทุกที่ซึ่งเขาผ่านไปผลึกน้ำแข็งจะถูกดูดซับเข้าร่มดวงดาวไปหมด  ผลึกคลื่นเย็นที่หนาแน่นกลายเป็นหมอกเข้าไปในร่างพวกมันอย่างต่อเนื่อง
ปิงตาแดง เขาหยุดสูบบุหรี่และตะโกนแล้วพุ่งหาพายุหมุนทันที “เสี่ยวเอ้อ!  ยังมีข้าอีกคน  รอข้าด้วย....”
วูบบบ พายุหมุนสีฟ้าเหมือนกับสะดุ้งลอยห่างออกไปชั่วครู่
 “บัดซบ! พวกเจ้าไม่พาข้าไปด้วยจริง! พวกเจ้าอย่าให้ข้าจับได้ดีกว่า...” ปิงโวยวายด้วยความโกรธได้ยินแต่ไกล
ทุกคนมองหน้ากันเอง ภาพข้างหน้าพวกเขา ขุนพลวิญญาณเฒ่าที่คลุมเครือ  เป็นขุนพลวิญญาณคนเดียวกันกับที่ให้ความรู้สึกมีอำนาจเหมือนเมื่อครู่นี้หรือเปล่า?
ถังเทียนเบือนหน้า  เขาไม่สามารถทนดูได้
น่าเสียดายเขาไม่สามารถกินผลึกน้ำแข็งได้ แต่เท่าที่ดูเสี่ยวเอ้อและหยาหยามองดูเหมือนกับมีความสุข...
หลังจากผ่านไปราวสิบนาที เสี่ยวเอ้อก็หยุด ผลึกรอบตัวถูกกวาดเรียบ  ร่างของเสี่ยวเอ้อและหยาหยาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด  ผิวของหยาหยากลายเป็นงดงามเรียบเนียน และธงที่ปักอยู่ที่บั้นท้ายของมันกลายเป็นสีน้ำเงิน  สูทลินินของเสี่ยวเอ้อกลับดูประณีตงดงามมาก และใบหน้าที่ละเอียดอ่อนแต่เดิมตอนนี้เรียบเนียนเหมือนตุ๊กตาลายคราม ตาสีดำขลับเป็นประกาย ด้ามร่มดวงดาวในมือของเขาเป็นประกายแสงและโปร่งใสเหมือนผลึกน้ำแข็ง ในระหว่างดวงดาวไม่มีที่สุด ตอนนี้มีชั้นสลัวๆ ของเนบิวลา
ผลึกน้ำแข็งโดยรอบถูกเก็บกวาดเรียบ ว่างเปล่า ถ้ามาจากด้านบน หิมะที่ปกคลุมด้วยจุดน้ำเงิน มีเพียงรอบๆ ถังเทียนและที่เหลือเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีจุดน้ำเงินเลย
 “เสี่ยวเอ้อ เก็บผลึกน้ำแข็งรอบๆ นี้และนำมาตรงนี้  “ปิงรีบเตือน
คราวนี้เสี่ยวเอ้อเหมือนกับว่าจะฉลาดมากขึ้น  อากาศมีลมพัดเป็นวังวนกวาดเอาผลึกคลื่นเย็นทั้งหมดน้ำมากองรวมกัน
ทันใดนั้น ถังเทียนหูไว เขาตะโกนพอได้ยิน “มีคนมาที่นี่!
เสี่ยวเอ้อ หยาหยาและปิงหายไปทันที
ติงเฉินพูดเบาๆ “ให้ข้ารับสถานการณ์เอง  ทุกคนใจเย็นไว้”
มีจุดสองสามจุดปรากฏอยู่ในท้องฟ้า ในพริบตาเดียวพวกเขาก็ลงมาอยู่ต่อหน้าทุกคน หัวหน้าเป็นคนหน้าดำร่างใหญ่
หน้าของติงเฉินมีแววแปลกใจและร้องเสียงดัง “ผู้กล้า!
บุรุษหน้าดำกวาดตามองดูทุกคน ทุกคนอยู่ในสภาพเสียใจ  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพิ่งประสบหายนะมา สีหน้ายังคงมีวี่แววสั่นด้วยความกลัว  เขาพูดอย่างอ่อนโยน  “ติงเฉิน เจ้าโชคดีมากเลยนะ ดีแล้วที่เจ้ายังรอดชีวิตได้  เจ้าพาพวกเขาไปซ่อนอยู่ที่ไหน?”
ติงเฉินชี้ไปที่ถ้ำน้ำแข็งซึ่งพังทลายด้านหลังพวกเขา  เสียงเขาสั่นเล็กน้อย  “พวกท่านยังจำได้ไหมว่ามีถ้ำน้ำแข็งอยู่ตรงนี้?  โชคดีที่เราอยู่ไม่ห่างจากถ้ำน้ำแข็งนัก  ถ้าไม่อย่างนั้น....”
บุรุษหน้าดำคิดว่าติงเฉินกลัว เขาถอนหายใจกล่าว  “นับว่าโชคดีจริงๆ”
เขามองดูถ้ำน้ำแข็งที่พังถล่ม  คนจำนวนมากรู้จักถ้ำน้ำแข็งนี้  ปกติผู้คนที่ลาดตระเวนจะมาพักที่นี่เพื่อหลบลมและหิมะ
 “เจ้าเห็นหน่วยของหลี่ฟู่บ้างไหม?” บุรุษหน้าดำถามขึ้นกระทันหัน
 “ไม่เห็นเลย” ติงเฉินส่ายศีรษะ เขาตื่นตัวเสียงสั่นทันที  “เป็นไปได้ไหมว่าหน่วยของหลี่ฟู่...”
 “หวังว่าเขาจะมีโชคเช่นกัน” บุรุษหน้าดำส่ายศีรษะถอนหายใจ จากนั้นเขากล่าว  “เจ้าพาพวกเขาไปค่ายฝึกเถอะ ช่วงนี้จะสับสนวุ่นวายบ้าง เราเองก็มีเวลาที่ลำบากอยู่เหมือนกัน  ดังนั้นดีที่สุดพวกเจ้าจงอยู่ในค่ายฝึก  ขนาดของคลื่นพลังเย็นครั้งนี้เกินคาดจริงๆ  นายท่านและอาจารย์หลี่จะมาถึงพรุ่งนี้  รีบกลับไปซะ  ข้าจะไปค้นหาต่อ”
ติงเฉินอุทาน  “ขอบคุณท่าน”
เมื่อบุรุษหน้าดำหันหน้าและจากไปทันที  ทุกคนถอนหายใจโล่งอก
ติงเฉินกล่าวเบาๆ  “ท่านเมื่อครู่นี้ เขาเป็นทหารรักษาเมืองหานกู่  กับท่านหลงไห่หวี  พวกเขาเป็นศิษย์ของอาจารย์ และเป็นศิษย์พี่ของแม่นางที่ดูแลเมือง  แข็งแกร่งมาก
ถังเทียนพยักหน้า  “แม้ว่าจะแข็งแกร่งมากกว่าหลี่เหลียงชิว  แต่ก็ยังมีนักสู้ระดับทองถึงสี่คนอยู่ข้างตัวเขา”
ปิงลอยออกมาและกล่าว  “เราจะไปยังค่ายฝึกฝน”
 “ทำไมล่ะ? เราจะไม่เข้าไปพื้นที่ฝึกฝนชั้นในหรือ? เรามีเวลาไม่มากแล้ว!  ถังเทียนงง
ปิงส่ายศีรษะ  “ที่ราบหิมะดึกดำบรรพ์นี้ ต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน  สองเซียนถึงกับมาที่นี่  เจ้าไม่พบว่ามันแปลกบ้างหรือ? การปรากฏตัวของหลี่รั่วเป็นเรื่องธรรมดา  ลูกชายของเขาพบกับสถานการณ์ลำบาก  แต่ฟู่จงซานเล่า? มาพบธิดาเขาอย่างนั้นหรือ?  ถ้าเป็นเรื่องธรรมดาก็พอจะอภัยได้  แต่กลุ่มดาวเซกซ์แทนส์มีความเคลื่อนไหวในมุมมืด  ดังนั้นหลายคนเริ่มก่อกวน  แล้วยังจะมีเวลาออกมาได้ยังไง?”
ปิงถามติงเฉินทันที  “คลื่นพลังเย็นมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?”
 “จะมีคลื่นพลังเย็นทุกปี แต่ขนาดจะไม่ใหญ่  ครั้งนี้คลื่นพลังเย็นนับว่าใหญ่ที่สุดแล้ว ครั้งก่อนคลื่นลูกใหญ่ๆ ก็ต้องเมื่อหกปีก่อน  ครั้งนั้นอาจารย์ทั้งสามก็มาเหมือนกัน”  ติงเฉินพยายามระลึกถึง
ปิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น  “สำนักฝึกฝนชั้นนอก เป็นที่แบบไหนกันถึงมีค่าพอให้นักสู้ชั้นเซียนทั้งสามคนมาที่นี่?  ที่นี่ไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การมา  นั่นเป็นเรื่องแปลก!  อีกทั้งยังเป็นดินแดนกันดารรกร้าง ทำไมจึงต้องใช้ยอดฝีมือปกป้องเป็นจำนวนมาก? มีอะไรต้องปกป้องอยู่หรือ?”
ถังเทียนส่ายศีรษะ  “แต่ สิ่งที่คุ้มค่าอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับ...”
ปิงขัดจังหวะ  เขากลัวว่าเจ้าโง่ถังเทียนจะพูดคำว่าดวงตาเซกซ์แทนส์ออกมา  เขาพูดอย่างจริงจัง “ไม่มีปัญหา  เรายังไม่รีบร้อนในช่วงสองวันนี้  เราจะได้รับข่าวสารใหม่แน่”
เขาโบกมือขึ้นอย่างกระตือรือร้น  “เสี่ยวเอ้อ หยาหยา รีบไปเก็บผลึกน้ำแข็งกัน!

7 ความคิดเห็น:

dvdkeeper กล่าวว่า...

ฟาร์มของจริงๆด้วย แต่นึกว่าจะได้แร่ที่ปักก้นหยาหยา ดันได้อีกอย่างซะงั้น

Tong คนป่วย กล่าวว่า...

ไม่ใข่ ดวงตาแห่ง... คือ ไอ่ที่ติดตูดอบู่นะ ฮาเลยนะ

JaOurPaLa กล่าวว่า...

อันนี้จะพีคมากเลย

Unknown กล่าวว่า...

ไอ่ที่ติดตูดคือสิ่งที่พวกระดับเซียนมาตามหา
คงจะฮาน่าดู....

Unknown กล่าวว่า...

ลุงปิง บุกก็บุกเลย พวกเรารู้ว่า ใจท่านนั้นอยากแน่ๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

แสดงความคิดเห็น