วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 17 แพร่พิษในสายลม

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 17 แพร่พิษในสายลม
เมืองเรดแซนด์เป็นเมืองเล็กและมีพลเมืองเพียงสองสามหมื่นคนอาศัยอยู่
เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์ลงจากเรือ  พวกเขามุ่งหน้าตรงสู่เมืองเซียร์หัวเมืองปกครอง ระหว่างทางนั้นพวกเขาแวะเมืองเรดแซนด์เตรียมกินอาหารเช้าอย่างเร่งด่วน

ในห้องส่วนตัวชั้นสองของโรงแรม  เจนน์และคีนสองพี่น้องมีรอยยิ้มตื่นเต้นเต็มใบหน้า
 “ฮะฮะ คืนนี้เราจะไปถึงเมืองเซียร์แล้ว ถึงตอนนี้เราจะมีปัญหาน้อยลง” คีนหัวเราะ
เจนน์พยักหน้าเช่นกัน  “เมื่อเราไปถึงเมืองเซียร์ ท่านป้าของเราคงไม่เคลื่อนไหวต่อต้านเราอย่างเปิดเผยใช่ไหม?”
 “เจนน์, คีน, หลายเรื่องไม่ง่ายอย่างที่พวกเจ้าคิด”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น  “ทันทีที่เราถึงเมืองเซียร์ ความจริงจะมีอันตรายมากขึ้น ป้าของพวกเจ้าดูเหมือนนางจะเป็นคนไร้ยางอายและน่ากลัวไม่ใช่หรือ?”
เมื่อสตรีตั้งใจเป็นเหมือนอสรพิษ พวกนางสามารถทำเรื่องน่ากลัวได้
ระหว่างช่วงเวลาสามปีในเทือกเขาอสูรวิเศษ ลินลี่ย์เผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิตมาทุกรูปแบบ ป้าของเจนน์สามารถทำให้คีนถูกฆ่าตายในเมืองเซียร์ในลักษณะที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับนางเลย
 “จริงเหรอ?” ตอนนี้คีนชักกลัวขึ้นมาบ้าง  ที่สำคัญ เขาเป็นแค่เด็กอายุสิบสี่ปี
ลินลี่ย์หัวเราะ  “แต่ไม่ต้องกังวลมากไป  เรายังไม่จำเป็นต้องเร่งเข้าเมืองเซียร์ในตอนบ่ายนี้  พักให้เต็มที่ในเมืองเรดแซนด์ก่อน พรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง”
 “พรุ่งนี้เช้า?” เจนน์กับคีนมองหน้าลินลี่ย์ทั้งสองคน
 “ถ้าข้าคาดเดาได้ถูก คนของป้าเจ้าคงไปเฝ้าอยู่ที่แม่น้ำอย่างมิต้องสงสัยและคงรู้แล้วว่าเราขึ้นฝั่งไปก่อน  พวกเขาน่าจะคาดการณ์ได้ว่าเราจะไปถึงเมืองเซียร์ยามราตรี  ดังนั้น... มีโอกาส 80-90% ที่พวกเขาจะไปดักรอเราอยู่ที่นั่นในคืนนี้”
ลินลี่ย์สามารถอนุมานแผนง่ายๆ ได้อย่างนั้น
ตราบเท่าที่ใครก็ตามคิดผ่านมุมมองของอีกฝ่าย เขาย่อมจูงจมูกพวกนั้นได้โดยง่าย
 “พักเอาแรงกันเถอะ  พรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง”  ลินลี่ย์หัวเราะลั่น “ตอนนี้ไม่ต้องเร่ง กินอาหารกลางวันให้หนำใจกันเถอะ”
เจนน์กับคีนยิ้มเต็มใบหน้า
….

แน่นอนว่าเนื่องจากลินลี่ย์คาดการณ์ได้ถูก  เภสัชกรโฮลเมอร์และกลุ่มของเขาตรงกลับไปที่เมืองเซียร์  คนของท่านหญิงเว็ดในเมืองเซียร์ก็ได้รับข้อมูลนี้เช่นกัน
บนกำแพงเมืองเซียร์
ท่านหญิงเว็ดเอนตัวพิงเชิงเทินจ้องมองนอกเมือง  ด้านหลังนางมีพี่ชายสองคนของนางและโฮลเมอร์  ขณะที่ทหารประจำเมืองแยกย้ายกันไปตามคำสั่งนาง
 “ท่านโฮลเมอร์, ข้าคงต้องรบกวนให้ท่านรออยู่ที่นี่สักคืน”  ท่านหญิงเว็ดหันหน้ามายิ้มให้โฮลเมอร์
เภสัชกรโฮลเมอร์รู้ขีดจำกัดของตนเองดี
โดยตัวเองแล้ว เขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งทรงพลัง อาวุธที่ทรงพลังที่เขาสามารถใช้ได้ก็คือพิษ โดยธรรมดาแล้วเขาคงไม่ต้องการทำร้ายคนร้ายกาจที่อยู่ต่อหน้าเขา นางคือผู้กุมอำนาจแท้จริงในเมืองเซียร์
 “ท่านหญิงเว็ดไม่ต้องเป็นห่วง สองพี่น้องนั่นจะต้องไม่รอดชีวิตมาถึงเมืองเซียร์แน่นอน”
โฮลเมอร์มั่นใจมาก  “ต่อให้พวกเขามีนักสู้ระดับเก้าอยู่ด้วยก็ตาม ฮึ่ม.. ตราบใดที่เขายังไม่ถึงระดับเซียน ข้ามั่นใจความสามารถของตนเองว่ารับมือเขาได้  แต่แน่นอน.. เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าข้าคือใคร”
ถ้านักสู้ระดับเก้ารู้จักเขาและใช้ปราณยุทธของเขา แค่ปราณยุทธอย่างเดียวก็สามารถขับพิษออกมาได้อย่างง่ายดาย
 “ท่านโฮลเมอร์ ตลอดหลายปีมานี้ ท่านพักอาศัยอยู่ในเมืองเซียร์แห่งนี้ ท่านไม่ใช่คนที่ชอบปรากฏตัวทั่วไป  จะมีสักกี่คนที่เคยเห็นท่าน? นอกจากนี้ ข้ายังได้ยินว่าท่านโฮลเมอร์มีความสามารถในการปลอมตัวได้ใช่ไหม?”  ท่านหญิงเว็ดหัวเราะพลางจ้องดูโฮลเมอร์
โฮลเมอร์หัวเราะอย่างมีความสุข พลางลูบเคราและกล่าว “ฮ่าฮ่า ท่านหญิงเว็ด ปลอมตัวน่ะหรือ? ท่านยกย่องข้ามากเกินไปแล้ว ทั้งหมดที่ข้าใช้ ก็แค่ยาบางชนิดที่ปรุงขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนสีผิวและผมของข้าและจากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตัวเล็กน้อย  แม้แต่คนที่รู้จักข้า ตราบใดที่พวกเขาไม่พินิจพิเคราะห์ข้าอย่างละเอียด ก็ไม่มีทางจำข้าได้”
ท่านหญิงเว็ดยิ้มและพยักหน้า  “อย่างนั้นข้าขอมอบให้ท่านจัดการทุกอย่าง  ท่านโฮลเมอร์ คืนนี้ข้าจะพักค้างในโรงแรมใกล้ๆ แถวนี้และรอฟังข่าวดีจากท่าน”
โฮลเมอร์หัวเราะอย่างมั่นใจ
….

แต่เมื่อถึงเวลา ท่านหญิงเว็ดซึ่งอยู่ในโรงแรมที่ใกล้กำแพงเมืองที่สุดก็เริ่มสับสนมากขึ้น  เพราะในไม่ช้าประตูเมืองจะปิดในยามราตรีอยู่แล้ว
ตามกฎของเมืองเซียร์ก็คือเวลาสิบนาฬิกายามราตรี ประตูเมืองจะถูกปิด
แต่กลุ่มของเจนน์และคีนกำลังมา  เกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านหญิงเว็ดได้รับ กลุ่มของเจนน์มาถึงเมืองเรดแซนด์ตอนเวลาอาหารกลางวัน แม้ว่าพวกเขาจะเดินทางกันช้าตอนนี้ก็สมควรมาถึงกันแล้ว
เวลาสิบนาฬิกา
ประตูเมืองส่วนใหญ่เริ่มปิดช้าๆ ขณะที่ทหารรักษาเมืองจำนวนมากเริ่มดันปิดประตูเมือง  เภสัชกรโฮลเมอร์เตรียมการต่อสู้ครั้งนี้มาอย่างพิถีพิถัน เขาลงมาจากกำแพงเมืองพร้อมกับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเต็มที่  ท่านหญิงเว็ดเดินออกมาจากโรงแรม
 “ท่านหญิงเว็ด นี่มันอะไรกัน?”  ตอนนี้โฮลเมอร์หงุดหงิดจริงๆ
หลังจากได้รับข่าว เขายกโขยงเดินทางจากท่าเรือมาที่กำแพงเมือง การขับขี่เดินทางผ่านทางขรุขระสร้างความทรมานให้กับโฮลเมอร์ชายชราอายุ 300 ปี
และจากนั้นเขายังต้องมายืนแกร่วรออยู่ที่กำแพงเมืองถึงครึ่งคืนถูกลมหนาวเหน็บโกรกใส่ตลอดเวลา
และในตอนนี้ประตูเมืองกำลังปิด  แต่ไม่มีใครมาสักคน
 “ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มคนพวกนั้น  ข้าเกรงว่าพวกเขาอาจจะพักอยู่ที่เมืองเรดแซนด์ก็ได้  ท่านโฮลเมอร์ ทำไมท่านไม่พักอยู่ที่โรงแรมนี้ในคืนนี้เล่า? มาดูกันว่าพรุ่งนี้จะได้อะไรอีก”  ท่านหญิงเว็ดก็อารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน
 “นั่นเป็นทางเลือกเดียวของเราในตอนนี้” โฮลเมอร์ไม่พอใจอย่างมาก
….

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พอประตูเมืองเปิด โฮลเมอร์ก็เริ่มไปรอการมาถึงของพวกเขาเงียบๆ เวลาเก้านาฬิกาตอนเช้า โฮลเมอร์โกรธหงุดหงิดจริงๆ
โฮลเมอร์วิ่งลงมาจากกำแพงเมืองและดิ่งตรงไปที่ชั้นสองของโรงแรม
 “ท่านหญิงเว็ด,  ถ้าพวกมันไม่มาหาเรา  ข้าก็จะไปหาพวกมันเอง”  โฮลเมอร์พูดตรงๆ “ขอคนให้ข้าจำนวนหนึ่ง ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่รู้จักสองพี่น้องนั่น”
ท่านหญิงเว็ดยอมตามแนวความคิดนั้น  “ก็ได้ อย่างนั้นข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว ท่านโฮลเมอร์คงต้องเดินทางในครั้งนี้”
 “ครั้งนี้ข้าจะต้องให้คนพวกนี้ได้ลิ้มรสพลังของข้าจริงๆ บ้าง”  โฮลเมอร์พูดเบาๆ ตาของเขาเต็มไปด้วยแววอำมหิต
หลังจากซื้อรถม้าในเมืองเรดแซนด์ เจนน์กับคีนเข้าไปนั่งในรถโดยมีแลมเบิร์ตบ่าวชราเป็นสารถี ส่วนลินลี่ย์เขาขึ้นขี่หลังเสือดำเมฆาแฮรุ
แฮรุมีขนาดตัวสูงมากกว่าสองเมตรและมีหลังบึกบึน  ขนของมันนุ่มสลวยเงางาม
เมื่อได้ขับขี่อยู่บนหลังเสือดำเมฆา ลินลี่ย์ไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกกระทั้นตามถนนเลย ยิ่งขี่ไกลก็ยิ่งรู้สึกว่าสะดวกสบายมากกว่าขี่ม้าหรือรถม้านัก ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือเสือดำเมฆาวิ่งอยู่บนภูเขาได้ง่ายพอๆ กับวิ่งอยู่ในทุ่งหญ้า
 “พี่ลีย์ ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว?”  คีนโผล่หัวออกมานอกรถและถามลินลี่ย์
ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขา  “อย่าใจร้อน เพิ่งจะสิบนาฬิกาเอง เราจะถึงเมืองเซียร์ในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา”
เสือดำเมฆาที่ลินลี่ย์กำลังขับขี่นั้นมีความสง่างามน่าเกรงขาม  ทุกคนที่มองเห็นลินลี่ย์พากันหลีกทางให้ก่อนเปิดทางให้ลินลี่ย์
 “ไฮ่ย่า, ไฮ่ย่าห์!”
ในที่ไกลออกไป ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าชัดเจน  ในไม่ช้าก็มองเห็นอัศวินขี่ม้าสามคนจากระยะไกล  แต่ทันทีเมื่อพวกเขาเห็นลินลี่ย์  ทั้งสามคนต่างหวาดกลัวและหยุดชะงักกันหมด
 “เสือดำตัวใหญ่เหลือเกิน”  หนึ่งในอัศวินถอนหายใจจ้องมองดูเสือดำที่ลินลี่ย์กำลังขับขี่
 “หยุดจ้องได้แล้ว  ไปกันเถอะ”  อัศวินอีกคนหนึ่งกล่าว
ในเวลานั้นเอง มีม้าแกลบอีกตัวหนึ่งวิ่งเหยาะๆ ผ่านมาทางพวกเขา คนที่ขับขี่ม้าแกลบตัวนี้คือชายที่ดูแก่หง่อมหลังโกงผมขาวโพลน ความเร็วของม้าที่ชายชราขี่นั้นค่อนข้างช้า และมันวิ่งเหยาะไปข้างหน้า
 “ฮ่าฮ่า ดูเขาสิ แก่หง่อมเชียว แต่ยังอุตส่าห์ขี่ม้า ฮ่าฮ่า...” หนึ่งในอัศวินหัวเราะลั่น
 “ไปเถอะ เรามีธุระต้องไปจัดการ”
อัศวินทั้งสามคนหัวเราะอย่างใจเย็น และเดินทางต่อ เวลานี้ชายชราหลังโกงนั้นเงยหน้ามองกลุ่มของลินลี่ย์  ชายชราหลังโกงผู้นี้ก็เข้าใจได้ทันที
ตามแผนที่พวกเขาได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า  ถ้าพวกเขาเผชิญพบกับเป้าหมาย อัศวินจะพูดว่า “ฮ่าฮ่า, ดูเขาสิ แก่หง่อมขนาดนั้น แต่ยังอุตส่าห์ขี่ม้าอีก”  นอกจากนี้ โฮลเมอร์ยังรู้ว่ายอดฝีมือลึกลับนั้นมีเสือดำเป็นสัตว์เลี้ยง
….

 “อัศวินทั้งสามพวกนี้ไม่มีความกล้าหาญสมเป็นอัศวินเอาเสียเลย”  คีนที่มองเห็นเหตุการณ์ทางหน้าต่างทั้งหมดพูดอย่างไม่สบายใจเมื่ออัศวินทั้งสามจากไป
แต่ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะจ้องมองชายชราหลังโกง
ชายชราหลังโกงขี่ม้าในลักษณะที่ดูน่าห่วงจริงๆ จากที่มองเห็น ใครๆ ก็บอกได้ว่าเขาแก่มากแล้ว  แม้ว่าม้าจะไม่ได้เคลื่อนที่เร็วนัก แต่ชายชราหลังโกงก็ยังโงนเงนอยู่บนหลังม้า เหมือนกับว่าจะร่วงลงมาได้ทุกเมื่อ  ขาของเขาดูเหมือนจะยึดไม่มั่นคงขณะอยู่บนหลังม้า
ตอนนี้เองรถม้าคันหนึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังชายชราหลังโกงพอดี
 “โธ่เอ๊ย, ไอ้แก่” หนึ่งในอัศวินสบถด่าดังลั่น ชายชราหลังโกงหันเหม้าของเขาทันทีหลบหลีกไปที่ข้างถนน
 “อ๊า..”
เมื่อม้าอยู่ห่างจากกลุ่มของลินลี่ย์ราวๆ สิบเมตร ชายชราก็ตัวโงนเงนอีกครั้งและร่วงจากหลังม้า
 “ปู่คนนั้นร่วงแล้ว” คีนเห็นเหตุการณ์นี้จากทางหน้าต่าง จึงผลักเปิดประตูเตรียมออกมาช่วย
แต่ขณะที่ชายชราร่วงลง กลุ่มแก๊สสีฟ้าไหลออกมาจากร่างของเขา  แก๊สสีฟ้าอ่อนนั้นบางและเบามากจนถ้าใครบางคนไม่ตั้งใจมองก็ยากจะพบเห็นได้
ลมพัดมาจากทิศตะวันออกและพัดพาแก๊สเข้าหาลินลี่ย์โดยตรง  แต่แน่นอน คนแรกที่ได้รับผลกระทบจากแก๊สพิษก็คือคนในรถที่เพิ่งขับขี่ผ่านไป
 “โครม”
อัศวินคนหนึ่งร่วงตกจากม้าลงมาบนพื้น เลือดฉีดพุ่งออกทางจมูก
 “หืม?” ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่างในร่างกายเขา และเขารู้สึกมึนศีรษะ
 “แย่แล้ว พิษ” ลินลี่ย์ปรับตัวตามทิศทางลมก็สามารถรู้สึกได้ว่าแก๊สพิษสีฟ้าอ่อนกำลังแพร่มาทางตำแหน่งเขา ตอนนี้ลินลี่ย์สูดหายใจรับพิษไปสองอึดใจแล้ว
ปราณยุทธเลือดมังกรในร่างกายลินลี่ย์ถูกกระตุ้นขึ้นทันที และดูดซับแก๊สพิษในร่างลินลี่ย์ ไม่มีพิษอะไรทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย
แก๊สพิษนี้คือพิษที่โฮลเมอร์ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับมนุษย์ และกายพื้นฐานของมนุษย์
แต่โฮลเมอร์ไม่เคยคาดคิดเลยว่าลินลี่ย์จะมีความแตกต่างออกไปอย่างมาก  สภาพร่างกายของลินลี่ย์ต้องบอกว่าแตกต่างจากคนธรรมดา ภายในสายเลือดของเขาคือสายเลือดนักรบเลือดมังกร  และสายเลือดบรรพบุรุษซึ่งได้รับการยกย่องว่าสูงส่งกว่าสายเลือดของอสูรเวท  และในอดีตแม้แต่แก่นเวทของมังกรเกราะหนามที่ลินลี่ย์กลืนกินและดื่มเลือดมังกรไปในปริมาณน้อยก็ยังมีอยู่ในเลือดของลินลี่ย์ในเวลานั้น
คนธรรมดาไม่สามารถนึกภาพหรือเข้าใจความสามารถและคุณลักษณะพิเศษของสี่สุดยอดนักรบในตำนานได้
แก๊สพิษชนิดนี้ไม่สามารถทำร้ายนักรบเลือดมังกรได้แม้แต่น้อย
 “สายลม”
ด้วยความเชี่ยวชาญในธาตุลมเนื่องจากเขาเป็นจอมเวทสายธาตุลม ลินลี่ย์ควบคุมอากาศรอบตัวเขาบังคับให้ลมหวนทันที  แก๊สพิษถูกพัดกลับไปทางทิศตะวันออก  ตอนนี้หน่วยอัศวินที่อยู่ระหว่างโฮลเมอร์ชายชราหลังค่อมและลินลี่ย์ตายกันทั้งหมด
แก๊สพิษพัดกลับไปหาโฮลเมอร์  แต่เขาไม่หลบ เขาไม่กลัวพิษของตนเอง  แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือ ลินลี่ย์
 “ไฮ่ย่าห์ ไฮ่ย่าห์” โฮลเมอร์กลับกลายเป็นคนคล่องแคล่วทันที กระโจนขึ้นบนหลังม้าและควบม้าไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
 “แฮรุ” ลินลี่ย์พูดเสียงเย็นชา
 “ควับ”
ความเร็วของเสือดำเมฆามีระดับที่น่ากลัว  ไวกว่าม้าแกลบธรรมดาหลายเท่า
ในพริบตามันพุ่งไปได้หลายร้อยเมตร และแซงโฮลเมอร์ไปดักอยู่ด้านหน้าของเขา  ทั้งหมดที่เห็นได้ระหว่างที่มันเคลื่อนไหวก็คือภาพเงาร่างเลือนรางสีดำ
เมื่อเห็นลินลี่ย์ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาทันที  โฮลเมอร์ยิ่งตื่นตระหนกทันที
 “สหาย, ข้าจะชดใช้ให้สำหรับการกระทำครั้งนี้  ถ้าเจ้ายินดีจะไว้ชีวิตข้า  ข้าจะให้ทองเท่าที่เจ้าต้องการ”  แม้ว่าโฮลเมอร์จะมีอายุถึงสามร้อยปี แต่เขายังไม่อยากตาย
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกกลัวอยู่
โชคดีที่เขาตั้งตัวได้ทันเวลาและเป่าแก๊สพิษกลับไปก่อนที่มันจะเข้าไปในรถโดยสาร
 “แก๊สพิษ? เจ้าเป็นพ่อมดหรือ?” ลินลี่ย์มองดูโฮลเมอร์
 “พ่อมด?” โฮลเมอร์สะดุ้ง จากนั้นสั่นศีรษะ “ไม่, ข้าเป็นเภสัชกร สหาย ข้าร่ำรวยมาก หมื่นเหรียญทองเป็นยังไง?  สองหมื่นเหรียญทอง? หรือว่า แสนเหรียญทองก็ได้?”  ในเวลาอย่างนี้ โฮลเมอร์ยังพยายามประหยัดเงิน
แต่ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจคำพูดของเขา
 “แฮรุ จัดการมัน”
ลินลี่ย์กระโดดลงจากหลังเสือดำ หันหน้ากลับไปยังรถม้า   ขณะที่เสือดำเมฆา แยกเขี้ยวและกระโจนเข้าใส่โฮลเมอร์
 “อ๊า! ล้านหนึ่ง! สิบล้าน! อ๊า!!!” ก่อนที่โฮลเมอร์จะร้องออกมา เขาถูกอุ้งเท้ายักษ์ของเสือดำเมฆาตบบี้แบนในครั้งเดียว

5 ความคิดเห็น:

geass กล่าวว่า...

โธ่นึกว่าจะแน่5555

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ฉิบผาย ปูความเมพซะหลายตอน มาตกม้าตายในตอนเดียวเนี่ยนะ

tho กล่าวว่า...

แม่งก่อนลงสนามสรรพความเทพนี่คุณอย่างแมพ555 เอาจริงตบเบา ๆ เน่า

ชัชวาล กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

KiattisakPleng กล่าวว่า...

เหมือนบี้ยุง55 ทีเดียวแบน

แสดงความคิดเห็น