เล่มที่ 8
เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 17 แพร่พิษในสายลม
เมืองเรดแซนด์เป็นเมืองเล็กและมีพลเมืองเพียงสองสามหมื่นคนอาศัยอยู่
เมื่อกลุ่มของลินลี่ย์ลงจากเรือ พวกเขามุ่งหน้าตรงสู่เมืองเซียร์หัวเมืองปกครอง
ระหว่างทางนั้นพวกเขาแวะเมืองเรดแซนด์เตรียมกินอาหารเช้าอย่างเร่งด่วน
ในห้องส่วนตัวชั้นสองของโรงแรม เจนน์และคีนสองพี่น้องมีรอยยิ้มตื่นเต้นเต็มใบหน้า
“ฮะฮะ คืนนี้เราจะไปถึงเมืองเซียร์แล้ว
ถึงตอนนี้เราจะมีปัญหาน้อยลง” คีนหัวเราะ
เจนน์พยักหน้าเช่นกัน “เมื่อเราไปถึงเมืองเซียร์
ท่านป้าของเราคงไม่เคลื่อนไหวต่อต้านเราอย่างเปิดเผยใช่ไหม?”
“เจนน์, คีน,
หลายเรื่องไม่ง่ายอย่างที่พวกเจ้าคิด”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
“ทันทีที่เราถึงเมืองเซียร์ ความจริงจะมีอันตรายมากขึ้น
ป้าของพวกเจ้าดูเหมือนนางจะเป็นคนไร้ยางอายและน่ากลัวไม่ใช่หรือ?”
เมื่อสตรีตั้งใจเป็นเหมือนอสรพิษ
พวกนางสามารถทำเรื่องน่ากลัวได้
ระหว่างช่วงเวลาสามปีในเทือกเขาอสูรวิเศษ
ลินลี่ย์เผชิญกับคนโหดร้ายอำมหิตมาทุกรูปแบบ
ป้าของเจนน์สามารถทำให้คีนถูกฆ่าตายในเมืองเซียร์ในลักษณะที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับนางเลย
“จริงเหรอ?” ตอนนี้คีนชักกลัวขึ้นมาบ้าง ที่สำคัญ เขาเป็นแค่เด็กอายุสิบสี่ปี
ลินลี่ย์หัวเราะ “แต่ไม่ต้องกังวลมากไป
เรายังไม่จำเป็นต้องเร่งเข้าเมืองเซียร์ในตอนบ่ายนี้ พักให้เต็มที่ในเมืองเรดแซนด์ก่อน
พรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง”
“พรุ่งนี้เช้า?”
เจนน์กับคีนมองหน้าลินลี่ย์ทั้งสองคน
“ถ้าข้าคาดเดาได้ถูก คนของป้าเจ้าคงไปเฝ้าอยู่ที่แม่น้ำอย่างมิต้องสงสัยและคงรู้แล้วว่าเราขึ้นฝั่งไปก่อน พวกเขาน่าจะคาดการณ์ได้ว่าเราจะไปถึงเมืองเซียร์ยามราตรี ดังนั้น... มีโอกาส 80-90%
ที่พวกเขาจะไปดักรอเราอยู่ที่นั่นในคืนนี้”
ลินลี่ย์สามารถอนุมานแผนง่ายๆ
ได้อย่างนั้น
ตราบเท่าที่ใครก็ตามคิดผ่านมุมมองของอีกฝ่าย
เขาย่อมจูงจมูกพวกนั้นได้โดยง่าย
“พักเอาแรงกันเถอะ พรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทาง” ลินลี่ย์หัวเราะลั่น “ตอนนี้ไม่ต้องเร่ง
กินอาหารกลางวันให้หนำใจกันเถอะ”
เจนน์กับคีนยิ้มเต็มใบหน้า
….
แน่นอนว่าเนื่องจากลินลี่ย์คาดการณ์ได้ถูก เภสัชกรโฮลเมอร์และกลุ่มของเขาตรงกลับไปที่เมืองเซียร์
คนของท่านหญิงเว็ดในเมืองเซียร์ก็ได้รับข้อมูลนี้เช่นกัน
บนกำแพงเมืองเซียร์
ท่านหญิงเว็ดเอนตัวพิงเชิงเทินจ้องมองนอกเมือง
ด้านหลังนางมีพี่ชายสองคนของนางและโฮลเมอร์ ขณะที่ทหารประจำเมืองแยกย้ายกันไปตามคำสั่งนาง
“ท่านโฮลเมอร์,
ข้าคงต้องรบกวนให้ท่านรออยู่ที่นี่สักคืน”
ท่านหญิงเว็ดหันหน้ามายิ้มให้โฮลเมอร์
เภสัชกรโฮลเมอร์รู้ขีดจำกัดของตนเองดี
โดยตัวเองแล้ว
เขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งทรงพลัง อาวุธที่ทรงพลังที่เขาสามารถใช้ได้ก็คือพิษ
โดยธรรมดาแล้วเขาคงไม่ต้องการทำร้ายคนร้ายกาจที่อยู่ต่อหน้าเขา
นางคือผู้กุมอำนาจแท้จริงในเมืองเซียร์
“ท่านหญิงเว็ดไม่ต้องเป็นห่วง
สองพี่น้องนั่นจะต้องไม่รอดชีวิตมาถึงเมืองเซียร์แน่นอน”
โฮลเมอร์มั่นใจมาก “ต่อให้พวกเขามีนักสู้ระดับเก้าอยู่ด้วยก็ตาม
ฮึ่ม.. ตราบใดที่เขายังไม่ถึงระดับเซียน
ข้ามั่นใจความสามารถของตนเองว่ารับมือเขาได้
แต่แน่นอน.. เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าข้าคือใคร”
ถ้านักสู้ระดับเก้ารู้จักเขาและใช้ปราณยุทธของเขา
แค่ปราณยุทธอย่างเดียวก็สามารถขับพิษออกมาได้อย่างง่ายดาย
“ท่านโฮลเมอร์ ตลอดหลายปีมานี้
ท่านพักอาศัยอยู่ในเมืองเซียร์แห่งนี้ ท่านไม่ใช่คนที่ชอบปรากฏตัวทั่วไป จะมีสักกี่คนที่เคยเห็นท่าน? นอกจากนี้
ข้ายังได้ยินว่าท่านโฮลเมอร์มีความสามารถในการปลอมตัวได้ใช่ไหม?” ท่านหญิงเว็ดหัวเราะพลางจ้องดูโฮลเมอร์
โฮลเมอร์หัวเราะอย่างมีความสุข
พลางลูบเคราและกล่าว “ฮ่าฮ่า ท่านหญิงเว็ด ปลอมตัวน่ะหรือ?
ท่านยกย่องข้ามากเกินไปแล้ว ทั้งหมดที่ข้าใช้ ก็แค่ยาบางชนิดที่ปรุงขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนสีผิวและผมของข้าและจากนั้นก็แต่งหน้าแต่งตัวเล็กน้อย แม้แต่คนที่รู้จักข้า
ตราบใดที่พวกเขาไม่พินิจพิเคราะห์ข้าอย่างละเอียด ก็ไม่มีทางจำข้าได้”
ท่านหญิงเว็ดยิ้มและพยักหน้า “อย่างนั้นข้าขอมอบให้ท่านจัดการทุกอย่าง ท่านโฮลเมอร์ คืนนี้ข้าจะพักค้างในโรงแรมใกล้ๆ
แถวนี้และรอฟังข่าวดีจากท่าน”
โฮลเมอร์หัวเราะอย่างมั่นใจ
….
แต่เมื่อถึงเวลา
ท่านหญิงเว็ดซึ่งอยู่ในโรงแรมที่ใกล้กำแพงเมืองที่สุดก็เริ่มสับสนมากขึ้น
เพราะในไม่ช้าประตูเมืองจะปิดในยามราตรีอยู่แล้ว
ตามกฎของเมืองเซียร์ก็คือเวลาสิบนาฬิกายามราตรี
ประตูเมืองจะถูกปิด
แต่กลุ่มของเจนน์และคีนกำลังมา เกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านหญิงเว็ดได้รับ
กลุ่มของเจนน์มาถึงเมืองเรดแซนด์ตอนเวลาอาหารกลางวัน
แม้ว่าพวกเขาจะเดินทางกันช้าตอนนี้ก็สมควรมาถึงกันแล้ว
เวลาสิบนาฬิกา
ประตูเมืองส่วนใหญ่เริ่มปิดช้าๆ
ขณะที่ทหารรักษาเมืองจำนวนมากเริ่มดันปิดประตูเมือง
เภสัชกรโฮลเมอร์เตรียมการต่อสู้ครั้งนี้มาอย่างพิถีพิถัน เขาลงมาจากกำแพงเมืองพร้อมกับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเต็มที่ ท่านหญิงเว็ดเดินออกมาจากโรงแรม
“ท่านหญิงเว็ด นี่มันอะไรกัน?” ตอนนี้โฮลเมอร์หงุดหงิดจริงๆ
หลังจากได้รับข่าว
เขายกโขยงเดินทางจากท่าเรือมาที่กำแพงเมือง
การขับขี่เดินทางผ่านทางขรุขระสร้างความทรมานให้กับโฮลเมอร์ชายชราอายุ 300 ปี
และจากนั้นเขายังต้องมายืนแกร่วรออยู่ที่กำแพงเมืองถึงครึ่งคืนถูกลมหนาวเหน็บโกรกใส่ตลอดเวลา
และในตอนนี้ประตูเมืองกำลังปิด แต่ไม่มีใครมาสักคน
“ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มคนพวกนั้น
ข้าเกรงว่าพวกเขาอาจจะพักอยู่ที่เมืองเรดแซนด์ก็ได้ ท่านโฮลเมอร์
ทำไมท่านไม่พักอยู่ที่โรงแรมนี้ในคืนนี้เล่า? มาดูกันว่าพรุ่งนี้จะได้อะไรอีก” ท่านหญิงเว็ดก็อารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน
“นั่นเป็นทางเลือกเดียวของเราในตอนนี้”
โฮลเมอร์ไม่พอใจอย่างมาก
….
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
พอประตูเมืองเปิด โฮลเมอร์ก็เริ่มไปรอการมาถึงของพวกเขาเงียบๆ
เวลาเก้านาฬิกาตอนเช้า โฮลเมอร์โกรธหงุดหงิดจริงๆ
โฮลเมอร์วิ่งลงมาจากกำแพงเมืองและดิ่งตรงไปที่ชั้นสองของโรงแรม
“ท่านหญิงเว็ด,
ถ้าพวกมันไม่มาหาเรา
ข้าก็จะไปหาพวกมันเอง”
โฮลเมอร์พูดตรงๆ “ขอคนให้ข้าจำนวนหนึ่ง
ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่รู้จักสองพี่น้องนั่น”
ท่านหญิงเว็ดยอมตามแนวความคิดนั้น “ก็ได้ อย่างนั้นข้าคงต้องรบกวนท่านแล้ว
ท่านโฮลเมอร์คงต้องเดินทางในครั้งนี้”
“ครั้งนี้ข้าจะต้องให้คนพวกนี้ได้ลิ้มรสพลังของข้าจริงๆ
บ้าง” โฮลเมอร์พูดเบาๆ
ตาของเขาเต็มไปด้วยแววอำมหิต
หลังจากซื้อรถม้าในเมืองเรดแซนด์
เจนน์กับคีนเข้าไปนั่งในรถโดยมีแลมเบิร์ตบ่าวชราเป็นสารถี ส่วนลินลี่ย์เขาขึ้นขี่หลังเสือดำเมฆาแฮรุ
แฮรุมีขนาดตัวสูงมากกว่าสองเมตรและมีหลังบึกบึน ขนของมันนุ่มสลวยเงางาม
เมื่อได้ขับขี่อยู่บนหลังเสือดำเมฆา
ลินลี่ย์ไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกกระทั้นตามถนนเลย
ยิ่งขี่ไกลก็ยิ่งรู้สึกว่าสะดวกสบายมากกว่าขี่ม้าหรือรถม้านัก
ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือเสือดำเมฆาวิ่งอยู่บนภูเขาได้ง่ายพอๆ กับวิ่งอยู่ในทุ่งหญ้า
“พี่ลีย์ ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว?” คีนโผล่หัวออกมานอกรถและถามลินลี่ย์
ลินลี่ย์ชำเลืองมองเขา “อย่าใจร้อน เพิ่งจะสิบนาฬิกาเอง
เราจะถึงเมืองเซียร์ในเวลาสิบเอ็ดนาฬิกา”
เสือดำเมฆาที่ลินลี่ย์กำลังขับขี่นั้นมีความสง่างามน่าเกรงขาม
ทุกคนที่มองเห็นลินลี่ย์พากันหลีกทางให้ก่อนเปิดทางให้ลินลี่ย์
“ไฮ่ย่า, ไฮ่ย่าห์!”
ในที่ไกลออกไป ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าชัดเจน ในไม่ช้าก็มองเห็นอัศวินขี่ม้าสามคนจากระยะไกล แต่ทันทีเมื่อพวกเขาเห็นลินลี่ย์ ทั้งสามคนต่างหวาดกลัวและหยุดชะงักกันหมด
“เสือดำตัวใหญ่เหลือเกิน”
หนึ่งในอัศวินถอนหายใจจ้องมองดูเสือดำที่ลินลี่ย์กำลังขับขี่
“หยุดจ้องได้แล้ว ไปกันเถอะ”
อัศวินอีกคนหนึ่งกล่าว
ในเวลานั้นเอง
มีม้าแกลบอีกตัวหนึ่งวิ่งเหยาะๆ ผ่านมาทางพวกเขา
คนที่ขับขี่ม้าแกลบตัวนี้คือชายที่ดูแก่หง่อมหลังโกงผมขาวโพลน
ความเร็วของม้าที่ชายชราขี่นั้นค่อนข้างช้า และมันวิ่งเหยาะไปข้างหน้า
“ฮ่าฮ่า ดูเขาสิ แก่หง่อมเชียว
แต่ยังอุตส่าห์ขี่ม้า ฮ่าฮ่า...” หนึ่งในอัศวินหัวเราะลั่น
“ไปเถอะ เรามีธุระต้องไปจัดการ”
อัศวินทั้งสามคนหัวเราะอย่างใจเย็น
และเดินทางต่อ เวลานี้ชายชราหลังโกงนั้นเงยหน้ามองกลุ่มของลินลี่ย์ ชายชราหลังโกงผู้นี้ก็เข้าใจได้ทันที
ตามแผนที่พวกเขาได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ถ้าพวกเขาเผชิญพบกับเป้าหมาย อัศวินจะพูดว่า “ฮ่าฮ่า,
ดูเขาสิ แก่หง่อมขนาดนั้น แต่ยังอุตส่าห์ขี่ม้าอีก” นอกจากนี้
โฮลเมอร์ยังรู้ว่ายอดฝีมือลึกลับนั้นมีเสือดำเป็นสัตว์เลี้ยง
….
“อัศวินทั้งสามพวกนี้ไม่มีความกล้าหาญสมเป็นอัศวินเอาเสียเลย” คีนที่มองเห็นเหตุการณ์ทางหน้าต่างทั้งหมดพูดอย่างไม่สบายใจเมื่ออัศวินทั้งสามจากไป
แต่ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะจ้องมองชายชราหลังโกง
ชายชราหลังโกงขี่ม้าในลักษณะที่ดูน่าห่วงจริงๆ
จากที่มองเห็น ใครๆ ก็บอกได้ว่าเขาแก่มากแล้ว
แม้ว่าม้าจะไม่ได้เคลื่อนที่เร็วนัก แต่ชายชราหลังโกงก็ยังโงนเงนอยู่บนหลังม้า
เหมือนกับว่าจะร่วงลงมาได้ทุกเมื่อ
ขาของเขาดูเหมือนจะยึดไม่มั่นคงขณะอยู่บนหลังม้า
ตอนนี้เองรถม้าคันหนึ่งปรากฏอยู่ด้านหลังชายชราหลังโกงพอดี
“โธ่เอ๊ย, ไอ้แก่” หนึ่งในอัศวินสบถด่าดังลั่น
ชายชราหลังโกงหันเหม้าของเขาทันทีหลบหลีกไปที่ข้างถนน
“อ๊า..”
เมื่อม้าอยู่ห่างจากกลุ่มของลินลี่ย์ราวๆ
สิบเมตร ชายชราก็ตัวโงนเงนอีกครั้งและร่วงจากหลังม้า
“ปู่คนนั้นร่วงแล้ว”
คีนเห็นเหตุการณ์นี้จากทางหน้าต่าง จึงผลักเปิดประตูเตรียมออกมาช่วย
แต่ขณะที่ชายชราร่วงลง
กลุ่มแก๊สสีฟ้าไหลออกมาจากร่างของเขา
แก๊สสีฟ้าอ่อนนั้นบางและเบามากจนถ้าใครบางคนไม่ตั้งใจมองก็ยากจะพบเห็นได้
ลมพัดมาจากทิศตะวันออกและพัดพาแก๊สเข้าหาลินลี่ย์โดยตรง แต่แน่นอน คนแรกที่ได้รับผลกระทบจากแก๊สพิษก็คือคนในรถที่เพิ่งขับขี่ผ่านไป
“โครม”
อัศวินคนหนึ่งร่วงตกจากม้าลงมาบนพื้น
เลือดฉีดพุ่งออกทางจมูก
“หืม?”
ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกว่ามีสิ่งผิดปกติบางอย่างในร่างกายเขา และเขารู้สึกมึนศีรษะ
“แย่แล้ว พิษ”
ลินลี่ย์ปรับตัวตามทิศทางลมก็สามารถรู้สึกได้ว่าแก๊สพิษสีฟ้าอ่อนกำลังแพร่มาทางตำแหน่งเขา
ตอนนี้ลินลี่ย์สูดหายใจรับพิษไปสองอึดใจแล้ว
ปราณยุทธเลือดมังกรในร่างกายลินลี่ย์ถูกกระตุ้นขึ้นทันที
และดูดซับแก๊สพิษในร่างลินลี่ย์ ไม่มีพิษอะไรทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย
แก๊สพิษนี้คือพิษที่โฮลเมอร์ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับมนุษย์
และกายพื้นฐานของมนุษย์
แต่โฮลเมอร์ไม่เคยคาดคิดเลยว่าลินลี่ย์จะมีความแตกต่างออกไปอย่างมาก
สภาพร่างกายของลินลี่ย์ต้องบอกว่าแตกต่างจากคนธรรมดา
ภายในสายเลือดของเขาคือสายเลือดนักรบเลือดมังกร
และสายเลือดบรรพบุรุษซึ่งได้รับการยกย่องว่าสูงส่งกว่าสายเลือดของอสูรเวท
และในอดีตแม้แต่แก่นเวทของมังกรเกราะหนามที่ลินลี่ย์กลืนกินและดื่มเลือดมังกรไปในปริมาณน้อยก็ยังมีอยู่ในเลือดของลินลี่ย์ในเวลานั้น
คนธรรมดาไม่สามารถนึกภาพหรือเข้าใจความสามารถและคุณลักษณะพิเศษของสี่สุดยอดนักรบในตำนานได้
แก๊สพิษชนิดนี้ไม่สามารถทำร้ายนักรบเลือดมังกรได้แม้แต่น้อย
“สายลม”
ด้วยความเชี่ยวชาญในธาตุลมเนื่องจากเขาเป็นจอมเวทสายธาตุลม
ลินลี่ย์ควบคุมอากาศรอบตัวเขาบังคับให้ลมหวนทันที
แก๊สพิษถูกพัดกลับไปทางทิศตะวันออก
ตอนนี้หน่วยอัศวินที่อยู่ระหว่างโฮลเมอร์ชายชราหลังค่อมและลินลี่ย์ตายกันทั้งหมด
แก๊สพิษพัดกลับไปหาโฮลเมอร์ แต่เขาไม่หลบ เขาไม่กลัวพิษของตนเอง แต่สิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือ ลินลี่ย์
“ไฮ่ย่าห์ ไฮ่ย่าห์”
โฮลเมอร์กลับกลายเป็นคนคล่องแคล่วทันที
กระโจนขึ้นบนหลังม้าและควบม้าไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
“แฮรุ” ลินลี่ย์พูดเสียงเย็นชา
“ควับ”
ความเร็วของเสือดำเมฆามีระดับที่น่ากลัว ไวกว่าม้าแกลบธรรมดาหลายเท่า
ในพริบตามันพุ่งไปได้หลายร้อยเมตร
และแซงโฮลเมอร์ไปดักอยู่ด้านหน้าของเขา
ทั้งหมดที่เห็นได้ระหว่างที่มันเคลื่อนไหวก็คือภาพเงาร่างเลือนรางสีดำ
เมื่อเห็นลินลี่ย์ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาทันที โฮลเมอร์ยิ่งตื่นตระหนกทันที
“สหาย,
ข้าจะชดใช้ให้สำหรับการกระทำครั้งนี้
ถ้าเจ้ายินดีจะไว้ชีวิตข้า
ข้าจะให้ทองเท่าที่เจ้าต้องการ”
แม้ว่าโฮลเมอร์จะมีอายุถึงสามร้อยปี แต่เขายังไม่อยากตาย
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
ลินลี่ย์ยังคงรู้สึกกลัวอยู่
โชคดีที่เขาตั้งตัวได้ทันเวลาและเป่าแก๊สพิษกลับไปก่อนที่มันจะเข้าไปในรถโดยสาร
“แก๊สพิษ? เจ้าเป็นพ่อมดหรือ?”
ลินลี่ย์มองดูโฮลเมอร์
“พ่อมด?” โฮลเมอร์สะดุ้ง จากนั้นสั่นศีรษะ “ไม่,
ข้าเป็นเภสัชกร สหาย ข้าร่ำรวยมาก หมื่นเหรียญทองเป็นยังไง? สองหมื่นเหรียญทอง? หรือว่า แสนเหรียญทองก็ได้?” ในเวลาอย่างนี้ โฮลเมอร์ยังพยายามประหยัดเงิน
แต่ลินลี่ย์ไม่ใส่ใจคำพูดของเขา
“แฮรุ จัดการมัน”
ลินลี่ย์กระโดดลงจากหลังเสือดำ
หันหน้ากลับไปยังรถม้า ขณะที่เสือดำเมฆา
แยกเขี้ยวและกระโจนเข้าใส่โฮลเมอร์
“อ๊า! ล้านหนึ่ง! สิบล้าน! อ๊า!!!”
ก่อนที่โฮลเมอร์จะร้องออกมา เขาถูกอุ้งเท้ายักษ์ของเสือดำเมฆาตบบี้แบนในครั้งเดียว
5 ความคิดเห็น:
โธ่นึกว่าจะแน่5555
ฉิบผาย ปูความเมพซะหลายตอน มาตกม้าตายในตอนเดียวเนี่ยนะ
แม่งก่อนลงสนามสรรพความเทพนี่คุณอย่างแมพ555 เอาจริงตบเบา ๆ เน่า
ขอบคุณครับ
เหมือนบี้ยุง55 ทีเดียวแบน
แสดงความคิดเห็น