วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 507 เศษเสี้ยวสมบัติวิญญาณ

ตอนที่  507  เศษเสี้ยวสมบัติวิญญาณ
ถังเทียนออกมาจากจวนที่ทำการเงียบๆ
เขามองดูจวนที่ทำการแล้วยิ้ม ลักษณะภายนอกของจวนแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง  ระหว่างลานด้านหน้า ตะวันออกและตะวันตก มีการเพิ่มถ้ำหินคลื่นเย็นตัดเป็นกากบาท และที่สำคัญที่สุดปิงดึงดูดคลื่นพลังเย็นจากภายใต้ออกมาที่กำแพงทำให้ความสามารถในการป้องกันของกำแพงเพิ่มขึ้นหลายเท่า
ปิงเอาแผนผังแนวป้องกันมาจากฟู่จือหงและเชื่อมต่อจวนที่ทำการกับเมืองหานกู่  ถังเทียนจำสีหน้าของฟู่จือหงได้เมื่อนางมีสีหน้าตะลึง

ถูกแล้ว ลุงปิงมีมาตรฐานบางอย่างแท้จริง  หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ต้องยอมรับแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
ถังเทียนพึมพำอยู่ในใจ  แต่ถังเทียนไม่คิดว่าเป้าหมายของปิงรอยประทับบนมือของเขา
 “ข้าเคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาก่อน  แต่ข้าจำได้เมื่อตอนข้าเห็นหลัวซือ  หลัวซือเคยใช้ มันมีประโยชน์อยู่สองอย่าง คือ หนึ่งช่วยให้เจ้าเข้าใจกฎต่างๆ และที่เหมาะกับเจ้ามากก็เพราะเจ้ามีร่างพลังกายเป็นศูนย์ ตราเครื่องหมายเหล่านี้ไม่มีพลังอยู่ในพวกมันเลย แต่ก็ยังได้รับการยกย่องเป็นตราดั้งเดิม  หลัวซือคาดว่ามันเป็นแหล่งที่มาของกฎต่างๆ ดังนั้นเขาจึงพยายามคลี่คลายตราเหล่านี้อยู่เสมอและผสานเข้าในอาวุธจักรกล แต่ว่าไม่สำเร็จ  เพราะตราดั้งเดิมถูกมองว่าทั่วไปและยากจะถอดรหัสออกมาได้  ไม่ใช่เพียงแค่นั้น  ความสามารถทำลายล้างก็แข็งแกร่งมาก  เมื่อผนึกมันในโลหะ มันจะทำลายโลหะเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อเขาค้นคว้าบรอนซ์หมายเลขเก้า  ในที่สุดเขาก็สามารถผนึกตราเครื่องหมายและทำของพิเศษที่เรียกว่า กล่องตราพลังต้นกำเนิด”
 “แน่นอนว่าสำหรับกองทัพดาวกางเขนใต้ ปกติพวกเขาไม่ใช้ของเล่นเล็กๆ อย่างนั้น  แต่สำหรับเจ้าในตอนนี้ มันมีประโยชน์สำหรับเจ้า”
ลุงปิงวิ่งกลับไปยังเมืองสามวิญญาณและสร้างกล่องสองสามกล่อง  แม้ว่าเซรีนและพวกที่เหลือจะย้ายออกจากเมืองสามวิญญาณไปแล้ว แต่ห้องปฏิบัติการยังมีคนสองสามคนอยู่ภายในคอยซ่อมแซมอาวุธจักรกลวิญญาณ  และไม่มีปัญหาอะไรกับการสั่งให้คนสองสามคนนั้นช่วยสร้างกล่อง
และปัจจุบันนี้ เซรีนและพวกพ้องมีความก้าวหน้าขนานใหญ่กับสูตรผสมโลหะและก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน  หลังจากรุ่นสามกองทัพมหาอำนาจแล้ว  วิชาอาวุธจักรกลตกต่ำลงไปมาก  แต่หลังจากนั้นวิศวกรผู้เคยพ่ายแพ้ไม่ยอมถอดใจและพยายามอย่างหนัก  ทำให้มีการพัฒนาปรับปรุงในสองสามเรื่องใหญ่ๆ  และสูตรโลหะก็เป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อเซรีนได้รับสูตรทำบรอนซ์จากกองทัพเก่าแล้ว  นางมีความก้าวหน้าอย่างมากมายในด้านนี้ เซรีนเริ่มทดสอบสร้างโลหะวิญญาณและสมบัติลับ  สิ่งที่เรียกว่าโลหะวิญญาณนี้คือการรวมกันของจิตวิญญาณยุทธและโลหะ  ขณะที่โลหะดวงดาวยังน่าทึ่งยิ่งกว่าซึ่งสกัดโลหะที่บริสุทธิ์ที่สุดออกมาจากสมบัติที่มีพลังเต็มที่
ห้องปฏิบัติการจักรกลในปัจจุบันนี้มีความโอ่อ่าภูมิฐานมาก  ให้บรรยากาศดูน่าคลั่งไคล้จริงๆ
กล่องตราพลังต้นกำเนิดในอดีตจะถูกจำกัดด้วยโลหะไม่กี่ชิ้น และไม่สามารถผลึกตราพลังงานระดับสูงได้  ตอนนี้ปิงคาดหวังตราเช่นนี้
สำหรับถังเทียน สามารถซื้อวัตถุที่มีตรแหล่งพลัง โดยไม่ต้องหวังกระดูกเซียนก็ได้  เพราะราคาสูงเกินกว่าจะรับได้แน่นอน  แต่เมื่อปิงพูดว่าหลัวซือได้ค้นคว้าเรื่องเช่นนี้ไว้ในอดีต  เขาไม่จำเป็นต้องใช้กระดูกเซียนอย่างแน่นอน
ทั้งสองคนช่วยกันพลิกดูหนังสือจิตวิญญาณและพบว่า เศษชิ้นส่วนของสมบัติวิญญาณ  เมื่อพวกเขาปรับแต่งสมบัติวิญญาณ สมบัติวิญญาณนั้นจะทิ้งเครื่องหมายตราเอาไว้  และภายในเครื่องหมายเหล่านี้จะบรรจุกฎต่างๆ เพื่อให้นักสู้เข้าใจ
วัสดุหลังที่จำเป็นต้องใช้ในการปรับแต่งสมบัติวิญญาณก็คือสมบัติดวงดาว และเป็นสมบัติดวงดาวใดๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงตลอดหลายปีนับไม่ถ้วน  สภาพที่มั่นคงนี้ก็คือม่านพลังที่ไร้ลักษณ์และจะทำลายม่านพลังของสมบัติ จำเป็นต้องใช้พลังมาก  แต่ก็ต้องเข้าใจกฎวิญญาณอย่างลึกซึ้งด้วย
การทำความเข้าใจกฎเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าพลัง  เพราะความเข้าใจยิ่งมากก็ยิ่งทำลายอุปสรรคของสมบัติดวงดาวได้ง่าย  ด้วยระดับความเข้าใจที่ตื้นเขิน  ไม่ว่าใครพยายามใช้อำนาจพลังมากแค่ไหน  ก็ยังคงนำไปสู่ความล้มเหลว  แม้ว่าพวกเขาจะมีความสำเร็จ  แต่พวกเขาก็ไม่สามารถปล่อยพลังที่แท้จริงของสมบัติวิญญาณออกมาได้
เมื่อผ่านกระบวนการปรับแต่ง  ความเข้าใจถอดรหัสในสมบัติจิตวิญญาณก็จะกลายเป็นตราผนึก  แน่นอนว่าตราผนึกนั้นไม่สามารถเทียบได้กับจิตวิญญาณเซียน  แต่สำหรับถังเทียนและตราเครื่องหมายนี้ ถือว่าสมบูรณ์อย่างเพียงพอแล้ว
ราคาของสมบัติจิตวิญญาณสูงเทียมฟ้า  แต่ราคาของเศษสมบัติจิตวิญญาณนั้นสมเหตุผลมากกว่า
ถังเทียนนึกย้อนกลับไปถึงการต่อสู้กับเย่เฉาเกอ
เมื่อเทียบกับพวกนักสู้แล้ว  พวกเซียนร่ำรวยมากกว่า  และเมื่อก้าวเข้าสู่เขตแดนเซียนอย่างแท้จริง ก็จะรู้ว่า ถ้าครอบครัวของเขาไม่ดีพอ  พวกเซียนจะมีวันเวลาที่ยากลำบาก  พวกเซียนอิสระทั้งหมดนี้ไม่มีผู้หนุนหลังที่ร่ำรวยพอ  ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ชีวิตอย่างตระหนี่ไปในแต่ละวัน
และมีเซียนหลายคนในเมืองหานกู่ และมีเซียนสองสามคนในนี้ที่คิดจะทำมาหากินโดยเริ่มธุรกิจของตนเอง ในชีวิตประจำวัน ทุกคนจะอยู่ในพื้นที่ของตนเองและงดเว้นจากการพบปะกัน  เพราะเมื่อทุกคนมาพบกัน  พวกเขาจะเริ่มแลกเปลี่ยนสิ่งของที่พวกเขามี  โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เซียนหลายคนก็สนใจและเริ่มร่วมกันดำเนินธุรกิจเหมือนกัน
ถังเทียนมาถึงร้านอาหารเมืองหานกู่ และมีเซียนคนหนึ่งชื่อเฉียนเซินเช่าสถานที่ทำธุรกรรมอยู่  โถงของร้านอาหารมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่หลายแผ่น ในนั้นจะเขียนชื่อสิ่งของที่พวกเขาครอบครอง และมีหลายอย่างที่พวกเขาต้องการแลกเปลี่ยน  ขณะที่เจ้าของพักอยู่ในห้อง นับเป็นครั้งแรกที่ถังเทียนเห็นธุรกรรมของเซียนและสนใจขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นถังเทียนมาถึง ตาของเฉียนเซินเป็นประกายทันที  เศรษฐีใหม่มาแล้ว!
ราคาของแสงอรุณที่ขายไปสูงมากซึ่งข่าวถูกปล่อยกระจายไปรอบๆ ถนนเมืองหานกู่อย่างรวดเร็ว  ในเมืองหานกู่  สมบัติวิญญาณที่สมบูรณ์แม้จะเป็นของระดับต่ำสุด สมบัติวิญญาณบรอนซ์ระดับต่ำ  ราคาของมันอาจขายได้ถึง 50 พันล้านเหรียญดาว เคล็ดการปรับแต่สมบัติวิญญาณระดับต่ำไม่ได้ลึกซึ้ง  แต่ความยากนั้นไม่ต่ำทรามเลยและสิ้นเปลืองพลังงานมาก  เซียนโดยทั่วไปจะหาสมบัติเป็นของพวกเขาเอง ก็ต้องใช้เวลา 2-3 ปีเพื่อปรับแต่งสมบัติจิตวิญญาณ
ราคาของสมบัติวิญญาณยังมากแม้ยิ่งขึ้นไปกว่านั้น
เมื่อทุกคนรวมตัวกันเพื่อวิเคราะห์ พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าคนลึกลับนั้นเตรียมการไว้แล้วถึงได้ขุดกระเป๋าของพวกสมาพันธ์ชาวยุทธได้ลึก  เมื่อทำได้เช่นนั้นทำให้ทุกคนมีความสุข  แต่คนที่ขุดกระเป๋าได้ลึกมากและใช้ความพยายามมากก็ทำให้ทุกคนอิจฉาเหมือนกัน
 “โอว...ข้ากำลังคิดอยู่ว่าทำไมนะ เช้านี้ถึงได้เป็นวันที่วิเศษ นี่เป็นเพราะการมาถึงของอาคันตุกะผู้มีเกียรตินั่นเอง!  เฉียนเซินรีบเข้ามาทักทาย  “ร้านเล็กๆ แห่งนี้มีของดีๆมากมายหลายอย่าง มีกระบี่วิญญาณบรอนซ์เล่มหนึ่ง คุณภาพระดับชั้นกลางและมีความโดดเด่นมาก ราคาเพียง 200 พันล้านเหรียญดาว....”
แค่ 200 พันล้านเหรียญดาว....
ถังเทียนทวนคำในใจ  เขาเพิ่งใช้เงินรวมจำนวนมหาศาลไปกับการจัดตั้งหน่วยเซียน  และนั่นมากพอให้เขารู้สึกว่าโอ้อวดเกินไป  ตอนนี้ได้ยินว่าสมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่งราคา 200 พันล้านเหรียญดาว  เขามีความคิดอย่างหนึ่งว่าเงินของเซียนไม่ใช่เงินอีกต่อไปแล้วกระมัง? ในช่วงเวลานั้นถังเทียนรู้สึกเศร้าใจ  ทำไมเขาไม่เป็นเซียนของกลุ่มดาวอควาเรียส  เขาได้ยินมาว่าเซียนกลุ่มดาวอคาเรียสมีไหสมบัติเต็มไปด้วยเหรียญดาว
ถังเทียนกระแอม  “ท่านมีเศษชิ้นสมบัติวิญญาณบ้างไหม?”
เฉียนเซินสะดุ้ง เศษชิ้นสมบัติวิญญาณน่ะหรือ?
 “ไม่มีใช่ไหม?”  ถังเทียนขมวดคิ้ว  เขากระทำไปตามสัญชาตญาณ  แต่สำหรับคนอื่น เขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมหาญ
เฉียนเซินใจสั่นสะท้าน  เขาคือผู้เชี่ยวชาญในการประเมินผู้คน  ผู้คงแก่เรียนล้วนมีราศีแห่งปัญญา และนักสู้ผู้แข็งแกร่งจะมีราศีแห่งพลังของนักสู้ผู้แข็งแกร่ง ทุกคนมีคุณสมบัติเป็นของตนเอง สำหรับราศีที่สง่างามและเหี้ยมหาญเช่นนั้น ถ้าพบกับคนระดับสูงไม่ใช่เรื่องแปลก ตัวอย่างเช่นผู้อาวุโสสำนักหรงปัวก็มี แต่เพราะคนผู้นี้ก็มีด้วย....
คงเป็นเพราะรู้สึกไปเอง...
 “ได้ ได้ ได้!  เขาตอบทันที ก็ได้.. คนรวยๆ มักมีนิสัยแปลกประหลาดทั้งนั้นมาที่นี่เพื่อซื้อของถูกๆ
เศษชิ้นสมบัติวิญญาณถือว่าเป็นสินค้าราคาถูก, และปกติมีแต่เซียนผู้ไม่สามารถซื้อหาสมบัติวิญญาณได้  แต่ตั้งใจจะปรับแต่งสมบัติของตนเองจึงมองหาเศษสมบัติพวกนี้  พวกเขาต้องการจะรื้อดูเศษซากสมบัติวิญญาณเพื่อทำความเข้าใจวิธีปรับแต่งสมบัติเซียนและขยายเส้นทางการค้นคว้าของตนเอง
เจ้าผู้นี้ชอบปรับแต่งสมบัติวิญญาณงั้นหรือ?
เฉียนเซินคิดเซียนผู้เอาดีในเรื่องปรับแต่งสมบัติวิญญาณจะเป็นเซียนที่พวกพ่อค้าชอบที่สุด  สมบัติวิญญาณคือสินค้าที่ราคาสูงมาก  แต่ก็ยังต้องเก็บไว้เผื่อได้พบคนที่ต้องการ เนื่องจากมีผู้มีอำนาจอยู่มากมายนั่นเอง
เมื่อคิดถึงเรื่องนั่นแล้ว เฉียนเซินมีอารมณ์หลงใหลทันที และพลิกบันทึกของเขา  “เรามีกองเศษชิ้นส่วนจากสมบัติวิญญาณเพื่อเอาไว้ขายอยู่ในร้านของข้า  เชิญตามข้ามา”
เฉียนเซินพาถังเทียนไปที่ห้องหนึ่ง จากนั้นเขาเอาหีบออกมาจากตู้เก็บของอควาเรียส ภายในหีบเต็มไปด้วยเศษของสีสันต่างๆ ประกายรัศมีของสิ่งของเหล่านี้หมองแล้วทำให้มองดูเป็นภาพแปลกประหลาด
 “ของในนี้ทั้งหมดคือเศษสมบัติวิญญาณ ราคาชิ้นละ 100 ล้านเหรียญดาว”  เฉียนเซินแกล้งทำเป็นใจกว้างและกล่าว “เจ้าต้องเข้าใจราคาตลาดให้ชัดก่อน และโดยปกติแล้วจะไม่มีใครเลือกเศษชิ้นส่วนที่เหลือนี้ได้  แต่เมื่อข้าเห็นเจ้า  ข้ารู้สึกว่าเหมือนกับเป็นคนกันเอง  ดังนั้นเจ้าสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองเลย”
แพงมาก!
สำหรับเศษชิ้นสมบัติราคาร้อยล้านต่อชิ้น  พวกเซียนชอบเผาเหรียญดาวทิ้งกันจริงๆ
ถังเทียนรู้สึกเจ็บปวดใจ  เขามองดูไปรอบๆ  “และที่นี่มีอยู่กี่ชิ้น?”
เฉียนเซินกระตือรือร้น  เขาเป็นเศรษฐีใหม่ตัวจริงแท้!
เมื่อคิดดูแล้ว เจ้าผู้นี้ต้องเป็นเศรษฐีใหม่ที่ต้องการซื้อเศษสมบัติวิญญาณ เขาแตกต่างจากคนอื่น ราศีแบบนั้น ลักษณะเช่นนั้น  โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก เขากางนิ้วห้านิ้ว “510 ชิ้น ข้าสามารถคิดเป็นราคา 500 ชิ้น ราคา 50 พันล้าน!
ถังเทียนผงกศีรษะ จากนั้นหยิบหัวหอกดาวผมเบเรนิสออกมา  “หัวหอกกลุ่มดาวผมเบเรนิสนี้ตีราคาเท่าใด?”
เฉียนเซินหยิบหัวหอกดาวผมเบเรนิสและตรวจสอบอย่างระมัดระวังแล้วตอบอย่างมืออาชีพ  “สมบัติชิ้นนี้คุณภาพไม่สูงนัก เป็นระดับบรอนซ์ชั้นต่ำ  แต่เป็นงานเก่าและฝีมือที่สร้างมาทำได้ดี  เป็นของประณีตในสมบัติบรอนซ์ระดับล่างๆ  ราคาควรจะอยู่ที่ราวๆ 80 พันล้าน”
 “ข้าจะขายให้ท่าน 70 พันล้าน” ถังเทียนพูดตามตรง  หลังจากปล่อยให้เสี่ยวเอ้อเล่นอยู่สองวัน  เขาโยนมันกลับคืนมาให้ถังเทียนอย่างเหยียดหยาม  และบอกว่ามันอาจจะขายได้
เฉียนเซินยอมรับโดยไม่ลังเล  “ตกลง!
เขารายงานราคาไป 80 พันล้าน แต่ค่อนข้างจะเป็นราคาขั้นต่ำ เขามั่นใจว่าจะขายหัวหอกดาวผมเบเรนิสได้ถึง 100 พันล้าน ซื้อมันในราคา 70 พันล้านและทำกำไร 30 พันล้าน  ราคาเศษสมบัติวิญญาณราคา 50 พันล้านกำไรไม่มาก แต่ก็ยังถึง 5 พันล้านเหรียญดาว  ถ้าคิดอย่างนี้ เขาจะทำกำไรได้ถึง 35 พันล้านเหรียญดาว!
ทำธุรกิจกับคนมีอิทธิพลอำนาจนี่ช่างดีจริงๆ!
 “เจ้าต้องการให้ข้าจ่ายเจ้า 20 พันล้านเหรียญดาวเลยไหม?” เฉียนเซินถาม
 “ท่านมีหนังสือจิตวิญญาณเรื่องการปรับแต่งสมบัติวิญญาณบ้างไหม?”  ถังเทียนถาม
เฉียนเซินแทบสำลัก  “อย่าบอกนว่าเจ้าไม่รู้วิธี....”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเสียใจทันที โอว... ข้าไม่ล่วงเกินเจ้าผู้ทรงอิทธิพลอำนาจผู้นี้ดีกว่า  ถ้าไม่อย่างนั้น กำไร 35 พันล้านของข้าคงบินหายไปแน่!
 “โอว, ข้าก็แค่คิดว่ามันน่าสนใจกว่า และต้องการจะลองทำดู”  ถังเทียนพูดโดยไม่ใส่ใจ
เฉียนเซินมีความสุขมาก  ถูกเรียกเป็นผู้มีอิทธิพลเพราะเขาต้องการเอาดีเรื่องการปรับแต่งสมบัติ ถึงกับโยน 70 พันล้านทิ้งไม่ไยดี นี่เขาคงคลั่งไคล้มากเป็นแน่ “ได้ ได้ ได้! ใช่แล้ว เล่นเรื่องการปรับแต่งสมบัติ สามารถฝึกฝนใจของผู้ทำได้, สง่างามมากจริงๆ!  เจ้าเพิ่งจะเริ่ม ดังนั้นข้าขอแนะนำให้เจ้าซื้อไปเป็นชุดทั้งหมด  เอาตั้งแต่หนังสือปรับแต่งพื้นฐานจนถึงระดับชั้นสูง รวมๆ กันแล้วก็ประมาณ 12 พันล้าน ถ้าเจ้าต้องการไปปรับแต่งเอง อย่างนั้นเจ้าต้องใช้วิชาจิตวิญญาณเพลิง  พอดีข้ามีการ์ดวิชาเพลิงวิญญาณดีๆ อยู่ชุดหนึ่ง  วิชาเพลิงเย็นแห่งกลุ่มดาวหงส์ราคาแปดพันล้านพอดี”
 “ตกลง!  ถังเทียนตอบทันที
เฉียนเซินมีความสุขมากจนเขาไม่สามารถปิดบังความดีใจได้  ธุรกิจของเขาเป็นไปด้วยดีทีเดียว แต่มันเป็นการขายตรง  ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เงินของตนเองทดรองจ่ายไปก่อน  ข้อตกลงธุรกิจมูลค่าเกือบ 100 พันล้าน นับเป็นครั้งแรกของเขา  ที่สำคัญที่สุด กำไรส่วนใหญ่ตกอยู่ในกระเป๋าของเขา
ถังเทียนต้องรีบเร่งทำเวลา  หลังจากได้รับของทุกอย่างแล้ว  เขาโยนของทั้งหมดในห้องจิตวิญญาณยุทธให้เสี่ยวเอ้อดู
เขาปล่อยให้การปรับแต่งสมบัติวิญญาณเป็นหน้าที่ของเสี่ยวเอ้อ
เมื่อเฉียนเซินส่งถังเทียนออกไปจากร้านอาหารเมืองหานกู่ด้วยมารยาทอันดี  เมื่อเขาเพิ่งออกมาได้  ก็ต้องหยุดทันที
คนที่อยู่ในระยะไกลกำลังยืนยิ้ม
เป็นความจริงที่ว่าศัตรูมักจะพบจะได้พบกันในทางแคบเสมอ!

5 ความคิดเห็น:

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

บักเฉาเกออีกแล้ว?

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Et009 กล่าวว่า...

เย่เฉาเกอสินะ

Tong คนป่วย กล่าวว่า...

คราวนี้โดนละ บักเฉา มีออพชั่นใหม่มาให้ลองด้วย ไฟปีศาท อิอิ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

แสดงความคิดเห็น