วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 511 แผนลึกซึ้ง



ตอนที่  511  แผนลึกซึ้ง
 “ป้อมปราการประตูเดี่ยวเป็นรูปแบบปราการโบราณที่สาบสูญไปนานแล้วและไม่เคยปรากฏมาเป็นเวลานาน ข้าคาดไม่ถึงเลยว่ามันกลับมาปรากฏได้อีกครั้ง”  ถงเก๋อประหลาดใจ  “จุดแข็งที่สุดของป้อมปราการประตูเดี่ยวก็คือบังคับให้ต้องสู้ตัวต่อตัว”

 “ตัวต่อตัว?”  เริ่นหรูไห่ขมวดคิ้ว  “เป็นแบบนั้นได้ยังไง?”
 “ความจริงก็อย่างที่บอก  ข้าไม่แน่ใจเช่นกัน”  ถงเก๋อส่ายศีรษะ  “ป้อมปราการรูปแบบนี้สาบสูญไปหลายร้อยปีแล้วและไม่มีใครรู้ที่มา  เมื่อพี่หลี่ยังอยู่  ท่านเคยได้ยินมาบ้างไหม?”
หลี่รั่วเนื่องจากเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ เขาพูดด้วยความโกรธ  “ต้องเป็นเจ้าแก่ประหลาดนั่น  ดูเหมือนเขากีดกันป้องกันข้าไว้นานแล้ว”
เริ่นหรูไห่สงสัย  “แต่พวกเขาไปเอาความมั่นใจการสู้ตัวตัวต่อตัวมาจากไหน?  ฟู่จงซานอาจจะมีฝีมือพอ  แต่เขาไม่แข็งแกร่งพอจะสู้กับข้าได้”
 “เราจะหาคำตอบที่หลัง”  ถงเก๋อหัวเราะ  “ข้าเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่สามารถทนอยู่ได้”
 “มีข่าวอะไรจากคนลึกลับและเย่เฉาเกอบ้างไหม?”  เริ่นหรูไห่ถาม
 “ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเลย  แต่ข้ารับรองได้ว่าเย่เฉาเกอยังไม่ตายในตอนนี้แน่!  ถงเก๋ออุทาน  เขารู้ว่าเย่เฉาเกออาจหายไปในการลงมือ  แต่เขาจะยังมีชีวิตอยู่แน่
 “เราควรจะไปดูที่ป้อมปราการประตูเดี่ยวกันก่อน”  เริ่นหรูไห่กล่าว
การต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับเย่เฉาเกอสร้างความวุ่นวายขนาดใหญ่ในพื้นที่  เวลาผ่านไปผู้คนก็พบว่าจวนที่ทำการเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เป็นเวลาบ่ายแล้ว  เห็นได้ชัดว่ารูปลักษณะที่แปลกประหลาดถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจตนา  พวกเซียนจะเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้เป็นส่วนใหญ่ เพราะใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็พบชื่อป้อมปราการประตูเดี่ยวซึ่งลักษณะพิเศษของป้อมปราการประตูเดี่ยวเปิดเผยให้เห็น
ตัวต่อตัวหรือ?
นี่สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
พวกเขาไม่เข้าใจว่าชางหยางหวี่ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน  พลังของฟู่จงซานนับว่าแข็งแกร่งในหมู่เซียนชั้นบรอนซ์  แต่เขาไม่ใช่สุดยอดนักสู้  นี่คือไพ่เด็ดที่ควรเก็บเอาไว้  ถ้าเขามีนักสู้ที่แข็งแกร่ง  แต่ชางหยางหวี่จะไปเอานักสู้มาจากไหน?  เป็นไปได้ไหมว่าชางหยางหวี่จะลงมาสู้ด้วยตนเอง
ความคิดเช่นนี้ทำให้คนหมู่มากเกิดความตื่นเต้น
มีเซียนที่ฝึกมาถึงสามคนนับว่ามีความสำเร็จที่โดดเด่น  ไม่มีใครรู้ว่าชางหยางหวี่แข็งแกร่งเพียงไหน  แต่อบรมศิษย์ให้เป็นเซียนได้ถึงสามคน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ  ใครก็ไม่กล้าดูแคลนเขา
ข่าวลือการปรากฏของป้อมปราการประตูเดี่ยวที่สาบสูญมานานและชางหยางหวี่ ไม่มีใครกล้าบุกทำลายแนวป้องกันเพื่อท้าทายเขา
ไม่มีใครกล้าล้ำออกมาจากกลุ่มผู้คน
ในที่สุด ในวันที่สาม ก็มีคนเข้าไปในป้อมปราการประตูเดี่ยวซึ่งดึงความสนใจจากคนมากมาย
เหตุผลเพราะป้อมปราการประตูเดี่ยวสามารถบังคับคู่ต่อสู้ให้สู้กันในสถานะตัวต่อตัว แทนที่จะปล่อยให้ศัตรูบุกเข้ามาพร้อมกัน เนื่องจากถ้ำมืดมิดสานตัดกันจนคู่ต่อสู้ต้องเสี่ยงเข้ามา และมีสถานที่ซึ่งสำคัญที่สุดมีถังเทียนคอยเฝ้าป้องกัน เรียกว่ากับดักทางเข้า!
สมบัติทองชิ้นหนึ่ง, สมบัติเงินสามสิบหกชิ้นและสมบัติบรอนซ์เจ็ดสิบสองชิ้น ปิงได้ติดตั้งไว้ในบริเวณนี้  ตรงนี้จะสร้างม่านพลังแสงซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กางเก้าสิบเมตร  สมบัติที่ใช้ควบคู่ไปกับคลื่นพลังเย็นและพลังดวงดาวสร้างเป็นม่านพลังแสงกับดักได้อย่างสมบูรณ์ แค่ยอมให้คนสองคนได้อยู่ภายในนี้
สิ่งนี้ควบคู่ไปกับถ้ำหินซึ่งวางกลยุทธไว้ด้วยทำให้เซียนยากจะถอนถอยจากการต่อสู้
เมื่อรู้สึกว่ามีคนมาถึง  ถังเทียนลืมตา
การป้องกันรักษาอยู่ที่นี่สามวัน ทำให้ถังเทียนเริ่มจะหมดความอดทน
ในที่สุดก็มีคนเข้ามา?
ถังเทียนสูดหายใจลึกและยืนขึ้น
ขณะเดียวกันเสี่ยวเอ้อซึ่งอยู่ภายในห้องจิตวิญญาณยุทธก็ลืมตาขึ้นเช่นกัน  มีคนกำลังมา?   เขาคาดการณ์ว่าจะมีการต่อสู้หลังจากเขาสร้างสมบัติวิญญาณชิ้นแรกสำเร็จ  ในที่สุดเขาก็หวังว่าจะได้ใช้ทดลอง
ช่วงเวลาสองสามวัน  เขาพยายามอย่างดีที่สุดหลบเลี่ยงถังเทียน  ทันใดนั้นเขานึกถึงปัญหาได้พบทันที  ถ้าถังเทียนพบว่าสถานะที่แท้จริงของเขาและด้วยนิสัยของถังเทียน  เสี่ยวเอ้อรู้ว่าวันเวลาที่เหลือของเขาคงลำบากเป็นแน่
เสี่ยวเอ้อรู้ว่าความคิดของถังเทียนที่มีต่อศัตรูมักแสดงออกอย่างป่าเถื่อน  และเขาเองก็เป็นศัตรูที่เล็ดรอดมาได้  เขาจะไม่แสดงความปราณีหากว่าเขาพบเจอ  แม้ว่าถังเทียนจะไม่ฆ่าเขา  แต่ก็สามารถข่มเหงเขาได้แน่
เสี่ยวเอ้อรู้ว่าเขาจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการปกปิดสถานะของเขาเพื่อไม่ใช่เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น
******

สือฟงไม่ต้องการเด่นล้ำฝูงคน แต่เขาตัดสินใจลองดู เนื่องจากเขารู้สึกว่าโชคอาจจะอยู่ข้างเขา  สือฟงอาศัยอยู่ในกลุ่มดาวโลมาซึ่งเป็นหนึ่งในสิบเก้ากลุ่มดาวฟากฟ้าเหนือ  ในช่วงเวลาเช่นนี้ สือฟงต้องการลองดูว่าเขาจะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่
เขาเตรียมตัวหนีหากเห็นสัญญาณยุ่งยาก
ไม่มีการซุ่มทำร้ายในถ้ำศิลามืด ขณะที่เขาคืบหน้าไปจนกระทั่งถือกับดักทางเข้าประตูเดี่ยว  เขากังวลแต่ขณะเดียวกัน  เขารู้ว่าถ้าไม่เสี่ยง แล้วจะได้กำไรยังไง?  เขากัดฟันแน่นและก้าวเข้าไปในกับดักทางเข้าแสง
เมื่อเข้าไปในกับดักทางเข้าแสง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ
เขายกมือเพื่อพยายามหลบหนีออกจากกับดักทางเข้าทันที  ไม่ว่าเขาจะใช้แรงพยายามมากเท่าใด  เขาก็ไม่สามารถหลบหนีได้เลย
เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาต้องสู้เพื่อเบิกทางออกไปจากที่นี่!  เขาตัดสินใจ
 “เสี่ยวเอ้อ!
เสียงสะท้อนก้องปลุกความรู้สึกของสือฟง
นี่เป็นศึกแรกและถังเทียนจะไม่แสดงความปราณี  การเริ่มต้นที่ดีสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด  ทั้งเสี่ยวเอ้อและหยาหยาวิ่งออกมาจากที่ซ่อน ขณะที่ถังเทียนบุกตรงเข้าหาสือฟง!
เมื่อสือฟงเห็นพวกเขากำลังบุกจู่โจมใส่เขา  เขาตกตะลึงสิ้นเชิงเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาด
นี่..คือบุรุษลึกลับที่จับตัวเย่เฉาเกอไปนี่...
สือฟงแทบไม่เชื่อสายตา  ทำไมเขาถึงได้แยกออกมาจากกลุ่มผู้คนและเข้าสู่สถานการณ์ดังกล่าว
ถังเทียนสูดหายใจลึกและตะโกน  “มาเลย  เข้ามาสู้เสี่ยงชีวิตกัน”
สือฟงยืนนิ่งกับที่ สู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย... เย่เฉาเกอประสบชะตากรรมเดียวกันแน่  ใครจะรู้กันว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่..
ถังเทียนเอียงคอเดินเข้ามาเหมือนกับว่าเขาเตรียมบุกจู่โจมใส่สือฟง
 “ข้ายอมแพ้!
สือฟงของยอมแพ้โดยตรง  เพราะถังเทียนยั้งตัวเองกระทันหันเนื่องจากเขาเตรียมตัวจะกระโจนเข้าจู่โจม  เขามีสีหน้าตกใจขณะมองดูสือฟง
 “ข้าจะติดตามนายท่านจากนี้เป็นต้นไปและจะขอเชื่อฟังคำสั่งท่าน!
สือฟงพยายามยิ้มอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะกระวนกระวายก็ตาม
คนด้านนอกไม่สามารถเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในปราการได้  แต่พวกที่อยู่ภายในถ้ำมืดอย่างฟู่จงซานและคนที่เหลือต่างเห็นทุกอย่างประจักษ์กับตาตนเอง  พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น  เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมถึงมีเรื่องเช่นนี้?
พวกเขาไม่รู้ว่าการต่อสู้ที่ถังเทียนจับเย่เฉาเกอได้นั้นกลายเป็นเรื่องถูกเล่าลือพูดคุยกันทั่วเมืองหานกู่    แม้ว่าจะพูดคุยกันมาก แต่ไม่มีใครรู้ว่าเปลวไฟที่อยู่ในหมัดของถังเทียนนั้นคืออะไร  มันไม่ใช่วิชาจิตวิญญาณธรรมดา  เนื่องจากถังเทียนสามารถข่มวิชาแสงสางได้  แต่ไม่มีใครอธิบายที่มาของวิชานี้ได้  นี่ทำให้เซียนหลายคนสงสัยว่าเคล็ดวิชานี้คืออะไรกันแน่
นอกจากผนึกต้นแหล่งพลังของถังเทียนแล้ว ยังมีอีกหลายคนวิเคราะห์การดำเนินการต่อสู้ของถังเทียน
ทุกคนได้ข้อสรุปร่วมกันก็คือถังเทียนเป็นบุคคลอันตราย
เขาไม่ลังเลใจที่จะฆ่า และวิชาของเขาโหดร้ายและอำมหิต  เพื่อชัยชนะในยี่สิบกระบวนท่า เขายินดีเสียสละมือทั้งสอง  เขาเป็นคนที่ไม่ควรตอแยด้วย และด้วยสัญชาตญาณต่อสู้ที่สั่งในการสู้แต่ละครั้งมาพร้อมกับพลังแข็งแกร่งที่น่ากลัวของเขา ทำให้เขาเป็นคนอันตรายที่ต้องสู้ด้วย
ระหว่างที่เขาเผชิญหน้ากับเย่เฉาเกอครั้งแรก  ถังเทียนเพียงแต่ใช้ร่างจิตวิญญาณ  ยังไม่มีเพลิงแดงลึกลับให้เห็นมาก่อน  เพื่อให้เย่เฉาเกอหยุดค้าง  ถังเทียนยินดีเสียสละแขนทั้งสอง
แต่ครั้งนี้หลังจากหรงปัวจากไป  ถังเทียนแสดงพลังที่แท้จริงออกมาในที่สุด เขาไม่ได้ใช้ร่างวิญญาณเมื่อเขาเอาชนะเย่เฉาเกอได้อย่างง่ายดาย
ระหว่างพูดคุยปรึกษาทุกคนแสดงมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ควรสร้างความเป็นปฏิปักษ์กับถังเทียน!  มีเซียนบางคนถือสิทธิ์ทำบัญชีบุคคลอันตรายที่ไม่ควรเข้าไปตอแยด้วย  ถังเทียนมักอยู่ในในรายชื่อบนๆ เสมอ
นอกจากนี้พวกเขายังให้เหตุผลสำคัญที่ไม่ควรเลือกสู้กับเขา  ไม่ใช่แค่เพราะความกล้าหาญของเขา  แต่ยังเป็นความดุร้ายโหดเหี้ยมของเขาที่ทำให้เขาแตกต่างจากนักสู้ทุกคน  เมื่อมีคนตอแยเขา ผู้นั้นจะไม่รู้เลยว่าถังเทียนจะลงมือกับพวกเขาเมื่อไหร่
ดังนั้น เมื่อสือฟงเห็นถังเทียน  เขารู้เลยว่าโชคสุดท้ายของเขาหมดไปแล้ว  และเมื่อเขาเห็นร่มของเสี่ยวเอ้อ  เขาตัวสั่นทันที  ถังเทียนยังคงมีไพ่ตาย!  ก่อนจะถึงวันนี้ เขาไม่เคยเห็นใครถืออาวุธมาก่อนสือฟงมีประสบการณ์เกี่ยวกับสมบัติวิญญาณ และได้ทำการค้นคว้ามาอย่างกว้างขวางในก่อนหน้านี้  เมื่อเขาเห็นร่มหยาหยา  เขารู้ว่ามันคืออาวุธที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม
ถังเทียนสมกับที่เขาร่ำลือแน่นอน  เขาน่ากลัวอย่างแท้จริง
ยิ่งเขาคิดเรื่องนี้  เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้น  เขารำพึงเงียบๆ ถึงความเป็นไปได้ว่าเมืองหานกู่ทั้งหมดจัดตั้งมาเพื่อคุกคามหรือเปล่า? ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมถังเทียนถึงปรากฏตัวขึ้นมากะทันหันในจวนที่ทำการนี้  หรือว่าเขาอยู่เบื้องหลังการเผชิญหน้าที่แท้จริงนี้?
ช่างเป็นนักสู้ที่น่ากลัวจริงๆ  ในฐานะเซียนธรรมดา เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับเขา
ดังนั้น...
สือฟงยอมแพ้โดยไม่ลังเลใจ
พวกเซียนอยู่ด้านนอกจวนที่ทำการกำลังดูการต่อสู้  เพียงแต่เห็นม่านแสงเปลี่ยนเป็นสีเขียวจากสีแดงซึ่งปรากฏไม่นาน  ทุกคนสูดหายใจลึก
พ่ายแพ้รวดเร็วเกินไป...
การโจมตีรวดเดียวจะนำเขาไปสู่หายนะเชียวหรือ?
มีคุณลักษณะพิเศษบางประการของป้อมปราการประตูเดี่ยวที่คนทั่วไปสังเกตได้ก่อนหน้านั้น  เมื่อแสงกับดักทางเข้าเป็นสีแดง ก็หมายความว่าการต่อสู้ยังไม่จบ  เมื่อเปลี่ยนเป็นสีเขียว นั่นเป็นเครื่องหมายว่าเสร็จสิ้นการต่อสู้
แม้จะเป็นเซียนจากเมืองเล็กๆ  แต่สือฟงก็เป็นที่รู้จักกันว่ามีพื้นฐานวิชาต่อสู้ที่แข็งแกร่ง  เขาพ่ายแพ้ในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างนั้นได้ยังไง?
พวกเซียนที่รู้จักสือฟงและเคยพูดกับเขามาก่อนมีสีหน้าประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ต้องไม่ใช่ฟู่จงซานแน่นอน!
เป็นไปได้ไหม... อาจเป็นเจ้าสำนักชางหยางหวี่?
ถงเก๋อและคนของเขาไม่คิดว่าจะเป็นไปได้  หลี่รั่วกล่าว  “เป็นไปไม่ได้!  ไม่น่าเป็นไปได้!  เจ้าแก่นั่นเปลี่ยนเป็นจิตวิญญาณยุทธไปแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะสู้ได้อีกต่อไป!
 “อย่างนั้นจะเป็นใครไปได้?”  เริ่นหรูไห่ประหลาดใจ
ถงเก๋อตอบอย่างใจเย็น  “ดูเหมือนยอดฝีมือที่แท้จริงปรากฏตัวเสียแล้ว!”
จากนั้นไม่นาน เซียนผู้กล้าอีกคนหนึ่งไม่เชื่อเรื่องภูตผีปีศาจ  เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟันได้ก้าวขึ้นแท่นเพื่อเข้าไปในป้อมปราการประตูเดี่ยว  ภายในสิบวินาที  ม่านพลังก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที
รอบนี้เกิดความเงียบอยู่ในท่ามกลางกลุ่มคน  ไม่มีใครกล้าหายใจแรง  ทุกคนตกตะลึงสิ้นเชิง!
ใครอยู่ในนั้นกันแน่?
ต้องเป็นเซียนที่น่ากลัวคอยป้องกันพื้นที่ภายในแน่นอน!
 “หรือว่าจะเป็นวิชาจิตวิญญาณที่ทรงพลัง?”  บางคนกระซิบ
ทุกคนตาเป็นประกาย  นั่นน่ะสิ บางทีอาจมีวิชาจิตวิญญาณที่ทรงพลังและพิเศษ  นี่แบบนี้ต้องทรงพลัง ซึ่งจะทำให้พลังหมดสิ้นลง
เซียนอีกคนหนึ่งรวบรวมความกล้าและเข้าไปในป้อมปราการ  สิบวินาทีต่อมาแสงที่ม่านพลังก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอีกครา
พออีกคนหนึ่งเข้าไป ก็มีผลตามมาเหมือนเดิม
หลังจากเซียนคนที่ห้าเข้าไปและแสงม่านพลังเปลี่ยนเป็นสีเขียวอีกครา  ก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียง  ในมุมมองของพวกเขาตอนนี้ ป้อมปราการกลายเป็นสัตว์ประหลาดกระหายเลือดที่กลืนกินเซียนพวกนี้ไปเสียแล้ว
 “ฮึ, ข้าอยากจะเห็นด้วยตาของข้าเองนัก เซียนที่อยู่ข้างในจะเก่งกาจเพียงไหน!”  เสียงห้าวหาญกร้าวแกร่งดังก้องในกลุ่มผู้คน
กลุ่มผู้คนถอยผงะ  คนผู้นี้มีนามว่ามอนตา  เขาเป็นหนึ่งในเซียนที่ทรงพลังที่สุดในเมืองหานกู่  ค่าพลังวิญญาณของเขา 136 จุดและมีชื่อเสียงมาหลายปีเนื่องจากประสบการณ์การต่อสู้
มอนตาเดินตรงเข้าไปที่ป้อมปราการประตูเดี่ยวอย่างใจเย็น

22 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เห็นร่มหยาหยา ก็ขี้หดตดหายแหละ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ยืนถึงนาทีป่าว เจอร่มหยาหยา หยองแน่นอน

Unknown กล่าวว่า...

จับนักสู้เซียนเข้ากองทัพได้อย่างเยอะเลย

Unknown กล่าวว่า...

ประตูสวรรค์มีไม่เดิน ประตูนรกปิดยังจะเปิดเข้าไป แล้วจะรู้ว่า นรกมีจริง เพราะมียมบาลถัง หึหึ

Pcha กล่าวว่า...

อะไรจะโหดปานนั้น

JaOurPaLa กล่าวว่า...

ได้ลูกน้องเยอะเลย 5555

Unknown กล่าวว่า...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
22 กล่าวว่า...

กำลังเปิดโต๊ะรับกำลังเสริม 555

Unknown กล่าวว่า...

มอนตาเป็นประเทศเล็กๆในทวีปยุโรป

Unknown กล่าวว่า...

ค้างจริงๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

555555

มีงาน กล่าวว่า...

พี่ถังกูไม่ได้ออกโรงเลยแค่เห็นหน้าก้อยอมแพ้และ

Unknown กล่าวว่า...

จะยินดีกับพี่ถังหรือสงสารพี่ถังดี คนยิ่งชอบอาราวาดอยู่🤣

Unknown กล่าวว่า...

10 วิ จอดดดด!!! พี่ถังกุหัวร้อนแน่ๆ เดี่ยวบุกออกมาถล่มแม่งทีเดียว ยิ่งมีความอดทนกะเขาสูงอยุ่ 55555555!!!!

Neoplasm24 กล่าวว่า...

จบงานนี้พี่ถังอาจมีรับน้อง เตรียมตัวไว้ด้วยนะสมาชิกใหม่ ฮ่าๆ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ยังกะเปิดรับสมัครคนจริง ๆ 555

LVTHN กล่าวว่า...

แรกๆบทเซียนมานี่อย่างโหด ตอนนี้บทยังกะพวกกีกี้ จะบ้าตาย

Unknown กล่าวว่า...

จะไร้เทียมทานเกินไปแล้ว

Tong คนป่วย กล่าวว่า...

ฟาร์มขุนพลชัดๆ

Et009 กล่าวว่า...

เดียวมันยอมแพ้กันง่ายไปไหมแล้งถังเทียนตูจะได้ขัดเกลาพลังยุทธ์ไหม

แสดงความคิดเห็น