วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 30 ข้อตกลงห้าปี

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 30 ข้อตกลงห้าปี
คีนเจ้าเมืองเซียร์เป็นเด็กอายุเพียงสิบสี่ปี  แม้ว่าเขาจะมีเจนน์พี่สาวของเขาคอยช่วย  แต่ในความเป็นจริง เจนน์จะรู้ตัวเองมากแค่ไหน? เวลาส่วนใหญ่ยังคงเป็นบ่าวชราแลมเบิร์ตที่คอยช่วยเหลือ

เสื้อผ้าของแลมพ์เบิร์ตเรียบชัดและมีจีบ ผมของเขาหวีเรียบเป็นมันขณะเดินตรวจตราภายในปราสาท มีความเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว
 “ทำไมคุณหนูต้องคิดถึงท่านลีย์อยู่เสมอ?” แลมเบิร์ตถอนหายใจกับตัวเอง  เจนน์ต้องการไปเยี่ยมลินลี่ย์  แต่หลังจากลินลี่ย์บอกนางว่าเขาไม่อยากถูกรบกวนในระหว่างฝึกฝน  เจนน์ไม่มีทางเลือกได้แต่อยู่ในปราสาท  โชคไม่ดีที่เป็นเวลานานแล้ว  ลินลี่ย์ไม่ได้มาเยี่ยมที่ปราสาท
ขณะที่เขามองดูเจนน์ค่อยๆ ผอมลง แลมเบิร์ตรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
 “แลมเบิร์ต”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขา  เมื่อเขาหันมาเห็นลินลี่ย์กำลังเดินเข้ามาเอง  เขาสวมชุดนักรบสีฟ้า  เจนน์กับคีนได้สั่งไว้ก่อนแล้วว่าถ้าทหารรักษาปราสาทพบเห็นลินลี่ย์  ให้พวกเขาอนุญาตให้ลินลี่ย์เข้ามาได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ
 “ท่านลีย์!  แลมเบิร์ตมีความสุขมาก
 “ท่านลีย์ เชิญรออยู่ที่ห้องโถงใหญ่สักครู่ก่อน  ข้าจะไปแจ้งคุณชายและคุณหนูให้ทราบก่อน”
ในห้องโถงใหญ่
ลินลี่ย์นั่งอยู่บนเก้าอี้รออยู่เงียบๆ การเดินทางไปเมืองเบซิลครั้งนี้  เขาจะต้องพาซาสเลอร์ ลีนาและน้องสาวของนางไปด้วยซึ่งพวกเขาอาจจะต้องไปพักรอบๆ เมืองเบซิล
ที่สำคัญลินลี่ย์ต้องระมัดระวังว่าศาสนจักรเจิดจรัสจะลอบส่งยอดฝีมือระดับเซียนเข้ามา  เนื่องจากเมืองเบซิลมีแม็คเคนซีอยู่ด้วย  ศาสนจักรเจิดจรัสคงไม่กล้าทำอะไรป่าเถื่อน
 “พี่ลีย์”
เสียงที่ประหลาดใจและมีความสุขดังขึ้นจากทางเดิน  ลินลี่ย์หันหน้าไปเห็นเจนน์ นางหน้าแดง อยู่ในชุดสีแดงอ่อนกำลังวิ่งมาหา  อกของนางสะท้อนขึ้นลงและนางกำลังหอบหายใจ  แทบจะทันทีที่นางได้ยินข่าวว่าลินลี่ย์กลับมา  เจนน์วิ่งมาหาอย่างสุดฝีเท้าทันที
 “ทำไมเจ้าต้องรีบเร่งนักเล่า?  ดูสิถึงกับหอบหายใจ  นั่งก่อนเถอะ”  ลินลี่ย์หัวเราะ
 “ก็ได้”  เจนน์นั่งลงอย่างว่าง่าย
หลังจากนั้นไม่นานคีนและแลมเบิร์ตก็เข้ามาสมทบเช่นกัน  คีนบ่น  “พี่, พี่วิ่งเร็วมากเลยนะ ข้าตามท่านไม่ทันแล้ว”
เจนน์อายเล็กน้อย  นางค้อนคีน
 “พี่ลีย์  ไม่ได้พบท่านเสียนาน ครั้งนี้ท่านตั้งใจจะอยู่นานเท่าใด?”  คีนพูดกับลินลี่ย์
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ  “ครั้งนี้  ข้าจะมากล่าวคำอำลา  ข้าตั้งใจจะไปจากเมืองเซียร์”
 “อะไรนะ?”
คีนและแลมเบิร์ตตกใจทั้งคู่  ทั้งสองคนหันหน้าไปมองเจนน์พร้อมกัน   แต่ก่อนนั้นเจนน์มีสีหน้าที่แดงด้วยความตื่นเต้นและเขินอาย แต่ตอนนี้นางมีสีหน้าตกตะลึง
 “พี่ลีย์  ท่านจะไปที่ไหนหรือ?”  เจนน์ถามขึ้นก่อน
 “สำหรับตอนนี้ ข้าตั้งใจจะไปเมืองเอกเบซิลก่อน”  ลินลี่ย์ตอบ
เมืองเอกเบซิลและเมืองปกครองเซียร์ค่อนข้างห่างไกลกัน  คนธรรมดาต้องใช้เวลาสองสามวันนั่งรถม้ากว่าจะไปถึงที่นั่นได้
 “พี่ลีย์  ข้าจะไปกับท่านดวย”  เจนน์รวบรวมความกล้าของนางและกล่าว
ลินลี่ย์ถอนหายใจกับตัวเอง  เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเจนน์คิดอะไรกับเขา?  แต่สำหรับเจนน์ ลินลี่ย์ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่าคนรัก  เขาแค่รู้สึกเหมือนน้องสาว  นี่เป็นความคุ้นเคยความรักฉันท์เพื่อน
 “พอเถอะ, เจนน์  ข้ากำลังไปงานธุระของตัวเอง  อาจต้องเผชิญกับอันตราย  เจ้าไม่จำเป็นต้องติดตามข้าไป”  ลินลี่ย์ปฏิเสธ
เจนน์ส่ายศีรษะอย่างแน่วแน่  “ข้าไม่กลัว”
เมื่อเห็นเจนน์ ลินลี่ย์รู้ว่าถ้าเขาไม่ปฏิเสธนางอย่างเปิดเผยและแน่วแน่  นางคงไม่ยอมแพ้  ลินลี่ย์ถอนหายใจยาว  “เจนน์, ทั้งหมดที่ข้าใส่ใจตอนนี้คือการฝึกฝน, ไม่มีอย่างอื่น  เจนน์,  ไม่มีทางที่ข้าจะดูแลเจ้าได้”
ลินลี่ย์พูดอ้อมค้อม  แต่เจนน์จะไม่เข้าใจความหมายของเขาได้อย่างไร?
หน้าของเจนน์ซีดขาว  ตั้งแต่นางอายุแปดปี  นางอาศัยอยู่ที่ชนบท ชีวิตที่นางอยู่มีทั้งความสงบและความโหดร้ายพอกัน  การเดินทางสู่เมืองเซียร์นี้  ลินลี่ย์ปกป้องพวกเขาตลอดเวลาซึ่งเป็นเหตุผลให้น้องชายของนางรอดชีวิตระหว่างเดินทางและได้รับตำแหน่งเจ้าเมือง
 “พี่ลีย์, ข้าไม่ต้องการหักห้ามความรู้สึกของข้า  พี่ลีย์, ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบข้าในทำนองอย่างนั้น ข้าไม่ต้องการขออะไรมากเกินไป  ทั้งหมดที่ข้าต้องการก็คือขอให้ท่านยอมให้ข้าติดตามท่าน  พี่ลีย์, ข้ายินดีเป็นหญิงรับใช้ของท่าน  ตราบใดที่ได้อยู่ข้างๆ ท่าน ข้าจะมีความสุข”  เจนน์พูดอย่างมีความหวัง
คีนและแลมเบิร์ตเงียบทั้งสองคน
ลินลี่ย์รู้สึกกังวลใจเช่นกัน เจนน์เป็นเด็กสาวที่ดีมากจริงๆ...แต่..
 “เจนน์, ไม่มีความจำเป็นที่เจ้าต้องติดตามข้าและพาตัวเข้าไปอยู่ในอันตรายก็ได้ ตอนนี้ เจ้าเป็นสตรีสูงศักดิ์แล้ว  ในเมืองปกครองเซียร์ มีบุรุษหนุ่มที่โดดเด่นติดตามสนใจเจ้าอยู่”  ลินลี่ย์กล่าว
เจนน์กัดริมฝีปาก จากนั้นส่ายศีรษะยืนยัน ดวงตานางเริ่มมีน้ำตาคลอ
 “พี่ลีย์”  คีนกล่าว  “โปรดยอมรับคำขอร้องของพี่สาวข้าเถอะ  ช่วงเวลาเหล่านี้เมื่อท่านไม่อยู่ที่นี่   นางแทบไม่มีแก่ใจทำอะไร ผ่ายผอมขึ้นทุกวัน”
ดวงตานางมีน้ำตา เจนน์มองลินลี่ย์ด้วยสายตาอ้อนวอน
 “เจนน์...”
ในที่สุด ลินลี่ย์ก็ใจอ่อน  “ห้าปี  ข้าจะให้เวลาเจ้าห้าปี และเจ้าก็ต้องให้เวลาข้าห้าปีเช่นกัน  ห้าปีจากนี้ไป  ข้าจะกลับมาพบเจ้า  ถ้าถึงเวลานั้นเจ้ายังตัดสินใจได้เด็ดเดี่ยว  ข้าจะยอมให้เจ้ามากับข้าด้วย”
เวลาคือยารักษาที่ดีที่สุด
ห้าปีจากนี้ไป เจนน์จะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและความคิดของนางและความเชื่อจะเปลี่ยนไปเช่นกัน  ลินลี่ย์เชื่อว่าบางทีเพราะเจนน์ไม่มีบิดามารดาคอยดูแลนางเมื่อนางยังเล็ก  จิตใจนางคงจะเปลี่ยน  ถึงเวลานั้นลินลี่ย์คงไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันใดๆ
 “ห้าปี ก็ได้”  ความหวังปรากฏอยู่ในดวงตาของเจนน์อีกครั้ง
 “เจนน์”
ลินลี่ย์มองดูเจนน์  “ก่อนที่ข้าจะไป  ข้าต้องบอกอะไรบางอย่างกับเจ้า  ชื่อจริงของข้าไม่ใช่ชื่อ ลีย์  ข้าชื่อลินลี่ย์ บาลุค”
 “ลินลี่ย์ บาลุค?”  เจนน์พึมพำ
 “ลินลี่ย์?  ท่านลีย์  ท่านคือยอดประติมากรอัจฉริยะหรือนี่?”  แลมเบิร์ดประหลาดใจ  ก่อนนั้นแลมเบิร์ตเคยอาศัยอยู่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์  ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์  ลินลี่ย์มีชื่อเสียงมาก
 “หวังว่าพวกท่านจะไม่เปิดเผยสถานะหรือที่อยู่ของข้านะ  ลาก่อน”
ลินลี่ย์เค้นรอยยิ้มเล็กน้อย  จากนั้นหมุนตัวก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องโถงทันที
ขณะที่นางมองด้านหลังของลินลี่ย์  น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตาของเจนน์ในที่สุด  นางกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือนาง
บนถนนของเมืองเซียร์
รีเบ็คกาและลีนานั่งอยู่บนหลังของเสือดำแฮรุ  บีบีพักอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดของลีนา  ขณะที่ลินลี่ย์อยู่ในชุดนักรบเดินเคียงคู่กับซาสเลอร์ซึ่งสวมชุดยาวของจอมเวท
พวกเขาเดินทางตรงไปยังเมืองเบซิลด้วยความเร็วสูง
เบซิลเมืองหลวงของมณฑลเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้แต่ไกล
และเช่นเดียวกัน กลุ่มของลินลี่ย์เข้ามาใกล้และเข้าไปในเมืองเบซิล
 “ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งหาเพอร์รี่ผู้นั้นในตอนนี้ ไปหาที่พักกันก่อน”  ลินลี่ย์กล่าว
ซาสเลอร์พยักหน้าเช่นกัน
ในเมืองเบซิลมีคนค่อนข้างน้อยที่ใช้ชื่อว่าเพอร์รี่  มีแนวโน้มว่าจะหาได้แน่เพียงแต่ต้องใช้เวลา  ดังนั้นลินลี่ย์และซาสเลอร์จึงไปหาที่พักค้างและได้บ้านเดี่ยวสำหรับให้กลุ่มของเขาได้พักในเวลานี้
สองวันหลังจากกลุ่มของลินลี่ย์มาถึงเมืองเบซิล  เหยี่ยววายุฟ้าของเคานท์เพอร์รี่ก็ถูกส่งมาถึงเกาะศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรเจิดจรัส
เกาะศักดิ์สิทธิ์คือสถานที่โดดเดี่ยวตั้งอยู่นอกทวีปยูลาน
ทั่วเกาะศักดิ์สิทธิ์มีความยาวไม่กี่สิบกิโลเมตร  ความจริงในอดีต นี่คือฐานทัพลับของศาสนจักรเจิดจรัส  ตอนนี้ถูกใช้เป็นที่ทำการใหญ่
มีวิหารเจิดจรัสซึ่งสูงถึงเก้าชั้น
วิหารเจิดจรัสนี้ไม่มีขนาดมหึมาเท่ากับวิหารเจิดจรัสในเฟนไล  แต่ก็ได้รับการก่อสร้างอย่างละเอียดประณีตโดยศาสนจักรเจิดจรัส  ซึ่งใช้ค่าใช้จ่ายและความพยายามอย่างมาก
บนชั้นเก้าของวิหารเจิดจรัส
ไฮเดนส์นั่งอยู่ที่หน้าต่าง  มองผ่านหน้าต่างไป  เขาสามารถเห็นพื้นมหาสมุทรสีครามไร้ขอบเขตไกลออกไปจากเกาะ
เร็วๆ นี้ไฮเดนส์ยังคงมีอารมณ์ที่ดีอยู่ หน่วยงานยอดฝีมือระดับเก้าที่เขาส่งไปทำงานได้จับพ่อมดจอมเวทซาสเลอร์สำเร็จแล้ว  และอีกสองวันต่อมาเขาได้รับข่าวดีเพิ่มอีก ในดินแดนแปดแคว้นอิสระ  กองกำลังของเขามีการค้นพบยิ่งใหญ่ ร่างประทับระดับแปดที่มีศักยภาพห้าร่าง
กล่าวโดยทั่วไป คนธรรมดาคนหนึ่งสามารถฝึกร่างภายนอกพวกเขาได้ถึงระดับหก   นั่นเป็นขีดจำกัดระดับสูงแล้ว
อัจฉริยะบางคนสามารถเข้าถึงระดับเจ็ดได้โดยเน้นที่การฝึกร่างกายของพวกเขา
แต่ในแปดแคว้นอิสระภาคเหนือ  กองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสพบห้าพี่น้อง ทุกคนมีความแข็งแกร่งและอดทนยอดเยี่ยม  ไม่มีใครในพวกเขาที่มีปราณยุทธ  แต่พวกเขาทุกคนมีพลังเทียบเท่านักรบระดับแปด  เฉพาะพลังภายนอกเท่านั้น
 “ร่างประทับระดับแปด  นั่นเพียงพอให้ทูตสวรรค์หกปีกแสดงพลังของพวกเขาได้”  ไฮเดนส์อดตื่นเต้นไม่ได้  “ร่างระดับแปดห้าร่าง เมื่อทูตสวรรค์ประทับร่างพวกเขา  พวกเขาก็สามารถเปลี่ยนเป็นนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงถึงห้าคนเลยทีเดียว”
นักสู้ระดับเซียนชั้นต้น, ชั้นกลางและชั้นสูงคือความแตกต่างกันของระดับพลัง
ปัจจุบัน ศาสนจักรเจิดจรัสทั้งหมดมีนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงห้าคน  แต่เมื่อจัดส่งมนุษย์ที่มีร่างระดับแปดมา  ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงภายใต้การดูแลของศาสนจักรเจิดจรัสจะมีเพิ่มเป็นทวีคูณ!
 “เมื่อเป็นเช่นนั้นลัทธิเงาจะต่อต้านเราได้หรือ?”  หน้าของไฮเดนส์มีรอยยิ้ม
 “ฝ่าบาท”
 “เข้ามา”  ไฮเดนส์มีสีหน้ากลับคืนเป็นปกติ
ไวคาร์ (ผู้ช่วยบิช็อพ) เดินเข้ามาส่งจดหมายให้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ด้วยความเคารพ  “ฝ่าบาท นี่คือสาส์นลับจากหัวหน้าผู้ดูแลกิจการในมณฑลพายัพของจักรวรรดิโอเบรียน”
 “โอว?”  ไฮเดนส์เลิกคิ้ว
ผู้ดูแลกิจการในพื้นที่ภายนอก  นอกจากรายงานประจำปีก็แทบจะไม่เคยส่งสาส์นลับเลย  ถ้าสาส์นลับถูกส่งออกมา อย่างนั้นก็หมายความว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
 “เป็นไปได้หรือ..?”  ทันใดนั้นไฮเดนส์จำได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ แลมพ์สันและคนของเขาเพิ่งจะคุ้มกันพ่อมดจอมเวทไปยังเมืองของมณฑลพายัพ
ไฮเดนส์รับจดหมายมาเปิดซองทันที
ทันทีที่เขาเห็นเนื้อความในจดหมาย  หน้าของไฮเดนส์สลด  “เรียกท่านสเตลห์มาพบข้า”
 “ใต้เท้าสเตลห์?”  ไวคาร์ประหลาดใจ
ในศาสนจักรเจิดจรัส  หัวหน้าของโยคีก็คือท่านใบไม้ร่วง  ขณะที่หัวหน้าของมือปราบพิเศษของศาลศาสนจักร  หัวหน้าของพวกเขาก็คือสเตลห์
ท่านสเตลห์เป็นเพียงมือปราบพิเศษคนหนึ่ง
แต่ในเรื่องของพลัง  เขาเทียบเท่ากับหัวหน้าตุลาการศาลศาสนจักร แพรตเตอร์ โอเซนโน  ทั้งสองคนเป็นนักสู้ชั้นเซียนระดับสูง  ในช่วงเวลาที่สงบ  ศาสนจักรเจิดจรัสยากจะยอมส่งนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงออกไปทำภารกิจ
 “เร็วเข้า”  ไฮเดนส์สำทับ
ไวคาร์รู้สึกตัวทันที และรีบกล่าว  “พระเจ้าค่ะ ฝ่าบาท”
เมื่อเห็นไวคาร์แยกออกไป  ไฮเดนส์เริ่มขมวดคิ้ว  “ดูเหมือนว่าหน่วยของแลมพ์สันจะมาถึงมณฑลพายัพเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว  แต่ไม่มีข่าวจากชายแดนของเราแจ้งข้าถึงการกลับมายังสหภาพศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา  ดูเหมือนว่า...พวกเขาจะถูกสังหารจริงๆ”
แลมพ์สันและยอดฝีมือระดับเก้าคนอื่นๆ อีกสิบคนตายหมด
ความสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก  แต่ไฮเดนส์ยังคงรักษาความสงบไว้ได้
ที่สำคัญ  สิ่งที่ศาสนจักรเจิดจรัสต้องพึ่งพาอาศัยก็คือนักสู้ระดับเซียน ตราบใดที่นักสู้ระดับเซียนยังคงเหลืออยู่  ศาสนจักรเจิดจรัสจะไม่ถูกคุกคามถึงแก่นกลาง
 “แลมพ์สันและผู้คุ้มกันซาสเลอร์อีกห้าคน ด้วยความสามารถของพวกเขา ด้วยนักสู้ระดับเก้าคนหรือสองคนไม่สามารถจัดการพวกเขาได้”  ไฮเดนส์ขมวดคิ้ว  “หรือว่าจะเป็นนักสู้ระดับเซียน?  แม็คเคนซีแห่งมณฑลพายัพ?”
ไฮเดนส์ไม่คิดถึงความเป็นไปได้อย่างอื่นนอกจากแม็คเคนซี
 “แม็คเคนซี!”  ไฮเดนส์เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
สำหรับไฮเดนส์นักสู้ระดับเก้าสิบเอ็ดคนรวมกันยังไม่มีค่าเท่ากับซาสเลอร์คนเดียว  คุณค่าที่แท้จริงของซาสเลอร์ไม่ใช่อยู่ที่ตัวเขาเอง  แต่เป็นการฝึกฝนวิถีเวทพ่อมด  เวทแบบนั้นเทียบเท่ากับเวทศักดิ์สิทธิ์มีพลังมาก
ยังรวมถึงเวทคำสาป แก๊สพิษ  คาถาโรคระบาด ทาสผีดิบและความสามารถในการเรียกภูตผี เวทเหล่านี้ล้วนทรงพลังทั้งนั้น
ศาสนจักรเจิดจรัสไม่ปฏิเสธพ่อมดในเรื่องระดับยศของพวกเขา
ตราบใดที่พ่อมดยินดีรับใช้พวกเขา พวกเขายินดีจะมอบตำแหน่งพ่อมดของหน่วยมือปราบพิเศษ งานด้านมืดของศาสนจักรเจิดจรัสก็คือศาลศาสนจักรที่มียอดฝีมือประเภทนั้นอยู่ประจำ
ไฮเดนส์ไม่รู้ว่าคนที่ฆ่าแลมพ์สันและคนของเขาก็คือลินลี่ย์  ถ้าเขารู้  ไฮเดนส์คงโกรธจัดจนเต้นแน่นอน
 “ฝ่าบาท” เสียงเยือกเย็นดุจน้ำแข็งดังขึ้น
 “สเตลห์ เข้ามา”  ไฮเดนส์พูดอย่างเป็นกันเอง
สเตลห์สูง 1.7 เมตร ในทวีปยูลาน  เขานับว่าเป็นคนตัวผอมเล็ก เขาไว้ผมหงอกสั้น และตาของเขาคมดุจใบมีด ตัดสินจากลักษณะของเขาดูเหมือนเขาเป็นบุรุษวัยกลางคน
 “ฝ่าบาท มีบัญชาเรียกหาข้าหรือ?”  สเตลห์ถามโดยตรง
ไฮเดนส์พูดโดยตรงเช่นกัน  “ตามที่เราได้รับรายงาน แลมพ์สันและคนของเขามีแนวโน้มว่าจะตายกันทั้งหมด  มีโอกาสสูงที่คนฆ่าก็คือนักสู้ระดับเซียนของจักรวรรดิโอเบรียน”
สเตลห์ยังคงเงียบ
 “ข้าจะส่งเจ้าไปมณฑลพายัพของจักรวรรดิโอเบรียน  เมื่อเจ้าไปถึงที่นั่น เจ้าจะต้องไปพบอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งกำลังคุ้มกันนักโทษจำนวนหนึ่งมา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  เจ้าต้องแน่ใจว่าพี่น้องทั้งห้าคนจะถูกส่งกลับมายังเกาะศักดิ์สิทธิ์”
 “แล้วถ้าข้าเผชิญกับนักสู้ระดับเซียนของจักรวรรดิโอเบรียนเล่า?”  สเตลห์ถาม
 “ฆ่าพวกมันและบินกลับมาพร้อมกับคนทั้งห้าด้วยความเร็วสูงสุด” ไฮเดนส์พูดเฉื่อยชา
เมื่อพวกเขาใช้ร่างประทับระดับแปดทั้งห้าคนนั้นเพื่อให้เทวทูตประทับ  ศาสนจักรเจิดจรัสจะสร้างนักสู้ระดับเซียนชั้นสูงออกมาได้อีกห้าคน  เพื่อประโยชน์เช่นนั้น  ถือว่าคุ้มค่าแม้ต้องรุกรานจักรวรรดิโอเบรียนอยู่บ้าง  ที่สำคัญ ต่อให้พวกเขารุกรานจักรวรรดิโอเบรียน  อย่างแย่ที่สุดสหภาพศักดิ์สิทธิ์ก็แค่ชดเชยให้กับจักรวรรดิโอเบรียน
 “ขอรับบัญชา,   ข้าจะออกไปคืนนี้เลย”  สเตลห์พูดเฉื่อยชา

18 ความคิดเห็น:

geass กล่าวว่า...

ความมันกำลังจะเร้่ม ขอบคุณมากครับ

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะเตรียม ๆ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณน้าา

Unknown กล่าวว่า...

มีโปรโปรโมชั่นไหม

Frankmartinn กล่าวว่า...

เด๋วเจอ ระดับเทพ แล้วจะหนาวววววว

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

5ปีเลยเหรอ

donnthai กล่าวว่า...

Thank You

ชิงาย กล่าวว่า...

แปลหลายๆตอนไหวไหมครับแอด

ชิงาย กล่าวว่า...

เอาอีกๆๆๆ

ชิงาย กล่าวว่า...

ใครเห็นด้วย +1

22 กล่าวว่า...

สเกลการรบกำลังอัพระดับ ตีอาณาจักรกันและที่นี้

ชัชวาล กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

zyntatar กล่าวว่า...

เมื่อไหร่ลินลี่จะเป็นเซียนน

Reeds กล่าวว่า...

ขอบคุณคะ

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

เศร้าไปอีก ผญ. แต่ละคน
55นึกว่าจะลา แบบ เดเลีย ฝากภาพไว้ในใจพระเอก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น