วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 32 ตัดสินใจ

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร ตอนที่ 32 ตัดสินใจ
แม้ว่าเพอร์รี่จะมีอายุเกินสองร้อยปีแล้วก็ตาม แต่ในฐานะนักรบระดับแปดร่างกายของเขายังคงแข็งแรงมาก  แต่หลังจากซาสเลอร์ปักกรงเล็บในกะโหลกของเขา หน้าและร่างของเพอร์รี่เปลี่ยนเป็นสีขี้เถ้าขาวในเวลาเดียวกัน  ร่างของเขาเริ่มสั่นอย่างรุนแรงราวกับว่าเขาเป็นคนชราที่ป่วยหนัก

ลินลี่ย์มองดูภาพนี้อย่างระมัดระวัง
 “เซาะวิญญาณ”  นี่เป็นครั้งแรกที่ลินลี่ย์เห็นวิชาเวทแบบนี้  เนื่องจากเป็นหนึ่งในสามของนักเวทที่ทรงพลังที่สุด  พวกพ่อมดย่อมมีความสามารถที่น่ากลัวแน่
ผ่านไปประมาณสองนาที ดวงตาเรืองแสงสีเขียวของซาสเลอร์ก็กลับคืนสภาพสีปกติ
ซาสเลอร์เหลือบมองดูหน้าที่ขาวเทาของเพอร์รี่และหัวเราะอย่างน่ากลัว จากนั้นปล่อยตัวเขา  ซอมบี้ริ้วทองทั้งสองปล่อยเพอร์รี่เช่นกัน  สำหรับเพอร์รี่ถูกกรงเล็บเจาะกะโหลกและถูกเซาะวิญญาณ  เขาตายอย่างมิต้องสงสัย  เขาทรุดตัวกองลงกับพื้นเหมือนกับดินเหลวไม่ขยับอีกเลย
 “เจ้าคิดว่ายังไงบ้าง?”  ซาสเลอร์มองดูลินลี่ย์อย่างอารมณ์ดี
ยอดฝีมืออย่างซาสเลอร์โดยทั่วไปจะไม่รู้สึกภูมิใจเมื่อเห็นความประหลาดใจและชื่นชมจากคนธรรมดา แต่ช่วงเวลานี้ที่เขาใช้ชีวิตร่วมกับลินลี่ย์   เขาทำอะไรต่างๆ ให้ลินลี่ย์ชื่นชมเขาหลายอย่าง  หลังจากแสดงฝีมือแล้ว ซาสเลอร์มองดูสีหน้าที่แสดงความรู้สึกทึ่งของลินลี่ย์
มีแต่ความอัศจรรย์ใจของยอดฝีมือเท่านั้นจึงสร้างความหยิ่งภาคภูมิให้ซาสเลอร์
 “เหลือเชื่อจริงๆ”  ลินลี่ย์ถอนหายใจแสดงความรู้สึกทึ่งตามตรง
วิญญาณเป็นสิ่งที่น่าทึ่งและลึกลับ เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สุดของผู้คน  แต่คนที่รู้เรื่องวิญญาณมีอยู่เพียงน้อยนิด จะค้นหาความทรงจำของผู้คนจากวิญญาณของเขาเป็นสิ่งที่ลินลี่ย์ไม่สามารถคิดออกได้เลยแม้แต่น้อย
 “หึ หึ หึ” ซาสเลอร์หัวเราะอารมณ์ดี และจากนั้นซอมบี้ริ้วทองสองตัวที่ยืนอยู่ข้างเขาหายตัวไปทันทีกลับไปอยู่ที่ของมันในแดนยมโลก
 “ไปกันเถอะ”
ลินลี่ย์กระตุ้นเตือน
ในพริบตาเดียว คฤหาสน์ของเคานท์เพอร์รี่กลับสงบเหมือนปกติ  ตอนนี้ผู้คนทั้งหมดที่นี่ยังไม่ได้สติ  ขณะที่ซากศพของยอดฝีมือยังคงนอนอยู่บนพื้น
ภายในลานที่พักส่วนตัวของพวกเขา
เมื่อเปิดประตูห้องโถงใหญ่ รีเบ็คกาและลีนาจุดไฟอย่างว่าง่ายขณะที่ลินลี่ย์และซาสเลอร์เริ่มคุยกัน
 “ท่านพบอะไรในความทรงจำของเพอร์รี่บ้าง?”  ลินลี่ย์ถามอย่างใจเย็น
ซาสเลอร์หัวเราะอย่างสบายใจขณะที่เขามองดูลินลี่ย์  “ลินลี่ย์, ในอดีต, ข้ารู้เรื่องของเจ้าน้อยมาก ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเป็นคนที่เหลือเชื่อขนาดนั้นได้”
 “ท่านค้นพบเรื่องของพี่ลีย์หรือ?”  ดวงตากลมโตน่ารักของรีเบ็คกาเบิกกว้างขณะที่นางถามด้วยความสงสัย
ซาสเลอร์หัวเราะ คิ้วขาวของเขาขยับขึ้นลง “รีเบ็คกา, ลีนา พี่ลินลี่ย์ของเจ้ามีชื่อเสียงโด่งดังมากตอนอยู่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์  ความสามารถเชิงประติมากรรมหินแกะสลักแทบจะทัดเทียมกับปรมาจารย์พรูกซ์  เจ้ารู้ไหม?  เมื่อเขาอายุสิบหกปี เขาแกะสลักผลงานชิ้นพิเศษออกมา  เจ้าเดาได้ไหมงานประติมากรรมชิ้นนั้นราคาเท่าไหร่”  ซาสเลอร์ถามพลางหัวเราะ
 “งานประติมากรรม?”
รีเบ็คกาและลีนามองหน้ากันเอง
สำหรับพวกนางงานประติมากรรมแกะสลักคืองานที่ทำได้ยากมาก  แกะสลักงานประติมากรรมชิ้นหนึ่งให้แม่นยำและละเอียดประณีตก็ยากพออยู่แล้ว  และยิ่งพูดไม่ออกถ้าสร้างผลงานจนมีราศีเปล่งประกายเป็นพิเศษ
 “กี่เหรียญทองหรือ?”  รีเบ็คกาและลีนาถามด้วยความสงสัย
 “สิบล้านเหรียญทอง!  ซาสเลอร์ประกาศ
ซาสเลอร์เก็บข้อมูลมาจากใจของเพอร์รี่ได้หมด  เคานท์เพอร์รี่ได้รับคำสั่งฆ่าจากศาสนจักรเจิดจรัสในเรื่องเกี่ยวกับลินลี่ย์  เป็นธรรมดาที่คำสั่งฆ่านี้จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับลินลี่ย์มากมาย
 “สิบล้านเหรียญทอง สำหรับประติมากรรมชิ้นหนึ่ง?”  รีเบ็คกาและลีนาอ้าปากค้าง
 “ไม่ใช่แค่งานประติมากรรมเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ของพี่ใหญ่ลินลี่ย์ของพวกเจ้าในฐานะจอมเวทในอดีตที่ผ่านมาดีที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ แต่ตอนนี้มีแนวโน้มว่าในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของทวีปยูลานถือได้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแล้ว  สำหรับพรสวรรค์ในฐานะนักรบพวกเจ้าก็รู้ดีอยู่แล้ว”  ซาสเลอร์ชื่นชมลินลี่ย์จากใจจริง
อัจฉริยะ
ไม่มีใครสงสัยว่าเขาคืออัจฉริยะ  การแสดงออกของลินลี่ย์ได้พิสูจน์ทุกอย่างแล้ว
รีเบ็คกาและลีนามองดูลินลี่ย์ทันที  นัยน์ตาของพวกนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจและเทิดทูน
 “พอเถอะ ซาสเลอร์” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะหัวเราะ  “พอเถอะ เรื่องเหล่านี้มันผ่านไปแล้ว  บอกข้าทีว่าท่านพบอะไรจากความคิดของเพอร์รี่บ้าง”
ซาสเลอร์พยักหน้า หยุดยิ้ม
 “เกี่ยวกับข้อมูลความทรงจำของเพอร์รี่ กองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสในจักรวรรดิโอเบรียนค่อนข้างอ่อนแอ  พวกเขาอยู่กันอย่างซ่อนตัวทั้งหมด พวกเขาไม่กล้าขัดขืนเทพสงคราม  ดังนั้นในจักรวรรดิโอเบรียน ศาสนจักรเจิดจรัสจึงมียอดฝีมืออยู่น้อยมาก”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
 “จากความทรงจำของเพอร์รี่  ข้าค้นพบสถานะของผู้จัดการกิจการมากมายทั่วมณฑลพายัพที่ทำงานให้ศาสนจักรเจิดจรัส  ตอนนี้เราสามารถทำลายเครือข่ายอำนาจพวกเขาในแถบนี้ได้”  ซาสเลอร์หัวเราะอย่างชั่วร้าย
สร้างมาอย่างยากลำบาก  ทำลายนั้นง่ายดาย
การจัดวางกลุ่มคนในพื้นที่โดยไม่กระตุ้นความสงสัยเป็นเรื่องที่ยากมาก
แต่จะทำลายเครือข่ายอิทธิพลนี้มีแต่ต้องสังหารคนเหล่านั้นเท่านั้น
 “และในเมืองอื่นเล่า?”  ลินลี่ย์ถาม
เท่าที่ลินลี่ย์กังวล แค่ทำลายเครือข่ายอิทธิพลในมณฑลนี้ยังไม่พอ  ขอเพียงทำลายปฏิบัติการของศาสนจักรเจิดจรัสในจักรวรรดิโอเบรียนจะทำให้ลินลี่ย์มีความสุขอย่างแท้จริง
 “ถ้าเราฆ่าหัวหน้าผู้ดูแลและผู้ดูแลคนสำคัญทุกคนในเจ็ดมณฑล  กองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสก็จะเป็นเหมือนมังกรไร้หัว  นอกจากนี้ โครงสร้างกองกำลังของศาสนจักรเจิดจรัสในพื้นที่เหล่านี้จะมีการเกี่ยวข้องโยงใยกัน เมื่อหัวหน้าผู้ดูแลและผู้ดูแลตายกันหมด มีแนวโน้มว่าเครือข่ายอิทธิพลจะล่มสลาย”
ยิ่งสร้างผลกระทบให้ศาสนจักรเจิดจรัสได้มากเท่าใด ลินลี่ย์ก็มีความสุขมาก
ซาสเลอร์ส่ายศีรษะ  “ก็อย่างที่ผู้ดูแลในเมืองแต่ละแห่งก็เพียงรายงานต่อเพอร์รี่ และเพอร์รี่เองเพียงแต่รายงานให้หัวหน้าผู้ดูแลในจักรวรรดิโอเบรียนหรือไม่ก็ที่สำนักงานใหญ่ของศาสนจักรเจิดจรัส”
 “หัวหน้าผู้ดูแลกิจการทั่วจักรวรรดิโอเบรียนหรือ?”  ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
อย่างนั้นในจักรวรรดิโอเบรียนก็มีหัวหน้าผู้ดูแลระดับสูงดูแลกิจกรรมทั่วจักรวรรดิงั้นหรือ?  ถ้าพวกเขาจับคนผู้นี้ได้และเซาะวิญญาณเขาก็มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะได้ข้อมูลอีกมาก
 “น่าเสียดาย แม้แต่เพอร์รี่ก็ยังไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใคร”  ซาสเลอร์ส่ายศีรษะ  “เพอร์รี่เพียงแต่รู้สถานที่ซึ่งเขาสามารถแลกเปลี่ยนข้อความได้
ลินลี่ย์พยักหน้า
แต่ซาสเลอร์เริ่มหัวเราะทันที  “แต่จากความทรงจำของเพอร์รี่  ข้าพบข่าวที่น่าสนใจอีกชิ้นหนึ่ง”
 “พูดไป” ลินลี่ย์มองดูซาสเลอร์
 “หัวหน้าผู้ดูแลกิจการของจักรวรรดิโอเบรียนออกคำสั่ง อีกประมาณหนึ่งเดือนจะมีหน่วยคุ้มกันนักโทษอีกทีมหนึ่งเข้ามาในมณฑลพายัพ และหัวหน้าผู้ดูแลใหญ่ได้สั่งเพอร์รี่ให้ช่วยเหลืออย่างระมัดระวังและคอยต้อนรับคนกลุ่มนี้และต้องเก็บรักษาเป็นความลับ”  ซาสเลอร์ฉีกยิ้ม  “สำหรับคำสั่งนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญหน่วยนี้ในระดับสูง  หน่วยคุ้มกันนี้มีความสำคัญไม่น้อยกว่าหน่วยที่คุ้มกันข้า”
 “โอ?”  ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
สำหรับความสำคัญของหน่วยนี้สูงมากก็หมายความว่าคนที่คนพวกนี้คุ้มกันส่งย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
 “ท่านรู้ไหมจุดแรกที่พวกเขาจะเข้าสู่มณฑลพายัพอยู่ตรงจุดไหน?” ลินลี่ย์ถาม
 “น่าจะเป็นเมืองเดโก เกี่ยวกับแผนการเดินทางตอนแรกของพวกเขา  พวกเขาจะไม่ผ่านไปตามเมืองเอกของมณฑล”  ซาสเลอร์กล่าว
ลินลี่ย์พยักหน้า  เขาสามารถเข้าใจเหตุผลนี้ เมืองเบซิลมียอดฝีมือระดับเซียนอย่างแม็คเคนซีปรากฏตัวอยู่ เส้นทางของพวกเขาจึงต้องหลีกเลี่ยงที่แห่งนี้เป็นธรรมดา
 “เมืองเดโกอยู่ห่างออกไปอีกแปดร้อยกิโลเมตร” ซาสเลอร์คุ้นเคยกับภูมิศาสตร์จักรวรรดิโอเบรียนเป็นอย่างดี
ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น  “แปดร้อยกิโลเมตร?  ถ้าวิ่งไป จะไปถึงที่นั่นภายในวันเดียว”
ถ้าเสือดาวเมฆาแฮรุวิ่งอย่างสุดฝีเท้าของมัน เขาคงไม่ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวัน  แต่ถ้าวิ่งเป็นเวลานานก็หมายความว่าเขาไม่สามารถรักษาระดับพลังสูงสุดได้ตลอดเวลา
แต่ถ้าพวกเขาวิ่งด้วยความเร็วระดับธรรมดาและออกเดินทางในเวลาเช้า  พวกเขาก็สามารถไปถึงตอนกลางคืนแน่นอน
 “ในเวลาครึ่งเดือน เราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองเดโก”  ลินลี่ย์กล่าว
ซาสเลอร์ผงกศีรษะเช่นกัน
เวลาผ่านไป ซาสเลอร์และสองพี่น้องยังคงรั้งอยู่ภายในที่พักแห่งนี้  ซาสเลอร์เตรียมพิธีสอนคาถาพ่อมดเบื้องต้นให้สองสาวพี่น้อง  ขณะที่ลินลี่ย์ไม่ยอมเสียเวลาเช่นกัน เนื่องจากเขาฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ลินลี่ย์ไม่มีโอกาสเห็นพิธีรับเวทพ่อมดขั้นต้นกับตาตนเอง
มีแต่เพียงรีเบ็คกาและลีนาอยู่ภายในห้อง ขณะที่พวกเขาเริ่มพิธีรับเวทพ่อมดขั้นต้น  ใช้เวลาระยะสั้นๆ ซาสเลอร์ก็ออกมาจากห้องแล้วสั่งลินลี่ย์ไม่ให้รบกวนทั้งสองคน
ใช้เวลาสามวันสามคืนเต็ม รีเบ็คกาและลีนาจึงออกมาจากห้องอย่างภูมิใจ
ช่วงเวลาสามวันที่ผ่านมา พวกนางปรับตัวให้เข้ากับพิธีรับเวทขั้นต้น  ตามที่ซาสเลอร์กล่าว สองพี่น้องปรับตัวได้เร็วมาก
ส่วนลินลี่ย์ เขายังคงฝึกดาบหนักระดับสี่ต่อเนื่อง ‘สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน
ในพื้นที่รกร้างกว้างใหญ่ ร่างที่สวมชุดยาวบินผ่านที่ราบสุดสายตาไปเหมือนพายุหมุนมุ่งไปทางทิศตะวันออกด้วยความเร็วสูง
เขามีร่างผอม ปราดเปรียวและผมสั้นสีเงินเป็นประกายมองดูเหมือนลวดโลหะ
เขาสวมชุดยาวดำคลุมทั้งตัว และตาของเขาคมกล้า เขาจ้องไปทางทิศตะวันออกขณะที่บินไปในอากาศด้วยความเร็วสูง
 “ร่างประทับระดับแปดห้าร่าง”  สเตลห์ยังจำคำสั่งย้ำของไฮเดนส์ได้
ห้าพี่น้องซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มกันของกองกำลังจะปล่อยให้หนีไปไม่ได้  ไม่ว่ายังไงก็ตาม  ร่างทั้งห้าเป็นร่างระดับแปด!  เมื่อทูตสวรรค์ลงประทับ พวกเขาทั้งห้าคนจะเปลี่ยนเป็นนักสู้ชั้นเซียนระดับสูง
 “เป็นเวลานานมาแล้วตั้งแต่ข้าสังหารนักสู้ระดับเซียน”  หน้าของสเตลห์มีรอยยิ้มที่เย็นยะเยือกและน่ากลัว
ไฮเดนส์ระบุแล้วว่าถ้านักสู้ระดับเซียนแทรกแซงเข้ามา ข้าสามารถฆ่าได้  ศาสนจักรเจิดจรัสจะรับผิดชอบการกระทำของเขาทุกอย่าง
เช้าวันที่สิบหลังจากเคานท์เพอร์รี่ตาย
ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย  หมอกยามเช้าปกคลุมภาคพื้นดิน  เมื่อเร็วๆ นี้ชีวิตของลินลี่ย์มีความสงบสุขมากแม้ว่าเจ้าหน้าที่เมืองจะสืบสวนการตายของเพอร์รี่ก็ตาม
แต่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับลินลี่ย์และกลุ่มของเขา
ทันใดนั้นลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน ดาบหนักอดาแมนเทียมในมือของเขาแทงออกไปตรงๆ ทันที เกิดเสียงหวีดหวิวแหวกอากาศแสบแก้วหู
ผนังข้างหน้าห่างไปห้าสิบเมตรข้างหน้าลินลี่ย์สั่นสะเทือนทันที  ชั้นฝุ่นชั้นเดียวกำลังสั่น
 “บึ้ม” ผนังบริเวณขนาดเท่ากำปั้นกลายเป็นฝุ่นทันที  เศษหินที่หลุดออกมาเหมือนกับทรายค่อยๆ ไหลออกมาปรากฏรูขนาดกำปั้นอยู่บนผนัง
ไม่ได้ใช้ปราณยุทธยิงออกไป แค่แทงไปในอากาศ  ลินลี่ย์ก็สร้างรูที่ผนังซึ่งอยู่ห่างไปห้าสิบเมตรได้
 “สัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน – คลื่นสามชั้น”
ลินลี่ย์พึมพำเบาๆ  “คลื่นสามชั้นแห่งเคล็ดสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดินระดับพื้นฐานนี้สำเร็จจนได้”  หลังจากออกจากเมืองเซียร์ ลินลี่ย์ไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
และตอนนี้ ในที่สุดลินลี่ย์ก็เชี่ยวชาญพลังโจมตีพื้นฐานสุดของเคล็ดสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน  คลื่นสามชั้น”
เมื่ออำนาจของปราณภายในและพลังภายนอกใช้โจมตีถูกเปลี่ยนรูปแบบสั่นสะเทือน ยิ่งพลังสั่นสะเทือนที่สามารถสร้างการแปลงพลังได้ในระดับสูง ด้วยการสูญเสียพลังน้อยนิด วิชาคลื่นสามชั้นแปลงพลังได้สูง แต่ทรงพลังมาก
ที่สำคัญ นี่ยังแตกต่างจากการโจมตีที่นักสู้ใช้โดยกระตุ้นปราณภายในและพลังภายนอก
 “ลินลี่ย์”  ซาสเลอร์กำลังยืนอยู่ที่ทางเดินและมองดู “นั่นเป็นพลังโจมตีแบบไหน?” ซาสเลอร์ประหลาดใจมากเช่นกัน
ซาสเลอร์เคยเห็นการโจมตีจากนักสู้ระดับเซียนมาแล้ว
แต่โดยทั่วไป สิ่งที่พวกเขาทำคือฟันดาบลงไป ขับเคลื่อนปราณยุทธโจมตีระยะไกล  แต่ซาสเลอร์ไม่เคยเห็นคนอย่างลินลี่ย์ซึ่งไม่ใช้พลังภายในหรือพลังอื่น สามารถสร้างรูในผนังที่อยู่ระยะไกลอย่างเงียบๆ ได้ นี่ช่างน่าทึ่งมาก
 “ต่อให้ข้าบอกท่านไป  ท่านก็คงไม่เข้าใจ”  ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น
หลังจากชี่ยวชาญคลื่นสามชั้นระดับเบื้องตน ลินลี่ย์รู้ว่ายิ่งไปได้ไกลเท่าใดก็ยิ่งยากขึ้นและจะต้องใช้เวลาในการฝึกมากขึ้น
 “ก๊อก ก๊อก ก๊อก!”
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก  ลินลี่ย์เดินไปเปิดประตูทันที
บริกรโรงแรมพูดอย่างนอบน้อม  “ท่านขอรับ สุภาพบุรุษท่านนี้ต้องการพบท่าน” บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างบริกร
บุรุษวัยกลางคนชำเลืองมองบริกรผู้นั้น และบริกรถอยออกไปด้วยมารยาทอย่างดีทันที
บุรุษวัยกลางคนยิ้มให้ลินลี่ย์  “สวัสดี, ท่านลินลี่ย์”
ลินลี่ย์สีหน้าเปลี่ยนอย่างช่วยไม่ได้  มีคนน้อยคนมากที่รู้จักสถานะของเขา
 “ท่านลินลี่ย์ไม่ต้องกังวลมากเกินไป  ท่านประมุขตระกูลข้าต้องการจะพบกับท่าน”  บุรุษวัยกลางคนยิ้ม
 “ประมุขตระกูลของท่านเป็นใคร”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
 “ท่านลินลี่ย์  ถ้าท่านอ่านจดหมายนี้ ท่านจะเข้าใจ”  บุรุษวัยกลางคนดึงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากชุดของเขาแล้วส่งให้ลินลี่ย์

15 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เอาอิ๊กๆๆๆ สนุกมากกกกก

Unknown กล่าวว่า...

นั่งกด. F5 ตั้งนาน

Et009 กล่าวว่า...

อืมบรรลุระดับเซียนแล้วรึ

Frankmartinn กล่าวว่า...

พี่น้อง อยากเจอหน้าสินะ

Tong คนป่วย กล่าวว่า...

ชัดเลย เจอะน้องละ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

อาจจะเป็นพวกที่หมายหัวบักลี่ก็ได้

donnthai กล่าวว่า...

Thank You

ชิงาย กล่าวว่า...

สนุกครับ เอาอีกวันละสองตอนได้ไหมเนี่ยยยย+++

มีงาน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

zyntatar กล่าวว่า...

ค้างงงงงงงง

ชัชวาล กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ สนุกมาก

sittichok กล่าวว่า...

ขอบคุณมากนะคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น