วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 40 ร่างแปลงนักรบอมตะ

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 40 ร่างแปลงนักรบอมตะ
เมื่ออ่านข้อความในจดหมายเกี่ยวกับเรื่องวอร์ตัน  ลินลี่ย์อดเริ่มขมวดคิ้วมิได้

 “วอร์ตันลงสมัครเพื่อรับคัดเลือกในกระบวนการรับศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามหรือ?”  ลินลี่ย์ค่อนข้างงง และค่อนข้างไม่พอใจ  “ทำไมเขาต้องไปเข้าวิทยาลัยเทพสงคราม?  แม้แต่ศิษย์ที่เทพสงครามสอนด้วยตัวเองอย่างมากก็บรรลุระดับเซียน  แล้วยังไง นักรบเลือดมังกรไม่สามารถบรรลุระดับเซียนด้วยตนเองหรือ?”
ลินลี่ย์รู้ดีว่าการเข้าวิทยาลัยเทพสงครามจะไม่มีผลต่อการพัฒนาของเขามากนัก
ที่สำคัญ นักรบเลือดมังกรได้รับประกันแล้วว่าจะกลายเป็นนักสู้ชั้นเซียนระดับสูงในที่สุด  สำหรับสุดยอดนักรบไม่มีอะไรที่ไร้สาระ
เพื่อให้เป็นระดับเทพ...
แม้ว่าจะผ่านมาเป็นเวลาหลายปีแล้วตั้งแต่เทพสงครามโอเบรียนได้ก่อตั้งจักรวรรดิ ไม่มีศิษย์กิตติมศักดิ์หรือศิษย์ที่เรียนโดยตรงแม้แต่คนเดียวที่ถึงระดับเทพ ใช่ไหม?  ระดับเทพไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ระดับเทพจะสอนกันได้
 “ความเข้าใจเรื่องกฎและหลักการของโลกจะสอนกันได้ง่ายๆ ยังไง?  ทุกคนมีความรู้เป็นของตนเอง เส้นทางที่คนอื่นๆ ใช้อาจจะไม่เหมาะกับตัวเองก็เป็นได้”
ลินลี่ย์รู้สึกไม่สบายใจกับการตัดสินใจของน้องชายเรื่องการสมัครเพื่อรับคัดเลือกเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงคราม
อย่างไรก็ตาม  น้องชายของเขาเติบโตแล้ว
 “ข้าไม่สามารถตำหนิวอร์ตันในสิ่งที่เขาเลือกด้วยตนเองได้”  ลินลี่ย์ยังคงอ่านต่อ  ท้ายที่สุดสีหน้าขำขันก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าของลินลี่ย์  “ฮ่าฮ่า, อย่างนี้นี่เองเจ้าเด็กนี่  วอร์ตัน...ฮะฮะ...”
จดหมายที่เยลส่งให้นั้นอธิบายรายละเอียดถึงเหตุผลที่วอร์ตันลงสมัครเพื่อให้ได้รับโอกาสเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงคราม  เหตุผลหลักเป็นเพราะองค์หญิงเจ็ดแห่งจักรวรรดิ
 “ข้าหวังว่าวอร์ตันจะทำได้สมบูรณ์แบบ ชีวิตรักไม่ล่มสลาย  อย่างน้อยที่สุดก็ต้องไม่เหมือนข้า”  ลินลี่ย์อวยพรน้องชายในใจ
ความจริง เหตุผลที่วอร์ต้องการกลายเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามเพราะนางนั่นเอง  เนื่องจากปรมาจารย์ของวิทยาลัยสงครามก็คือเทพสงครามโอเบรียน จักรพรรดิผู้ก่อตั้งจักรวรรดิโอเบรียนนั่นเอง  เมื่อเข้าวิทยาลัยเทพสงครามได้  การได้สมรสกับองค์หญิงแห่งวังหลวงสำหรับวอร์ตันก็เป็นเรื่องง่าย
หลังจากอ่านจดหมายจบ เปลวเพลิงก็ลุกโชนจากมือของลินลี่ย์
 “แครก..”  จดหมายกลายเป็นเถ้าถ่าน
ลินลี่ย์เดินกลับคฤหาสน์เคียงข้างกับรีเบ็คกา
วันคืนแห่งการฝึกฝนที่สงบสุขของเขายังคงดำเนินต่อไป  ลินลี่ย์ยังคงติดตามเรื่องราวของวอร์ตัน  ตามรายงานในจดหมาย องค์หญิงเจ็ดแห่งจักรวรรดิเป็นหญิงที่งดงามมากและนางมีความน่ารักและจิตใจดี  นางยังได้รับการดูแลจากพระชนกและชนนีเป็นอย่างดีเป็นเหตุผลที่ทำให้นางมีคนติดพันนางอยู่หลายคน
หลายคนมีสถานะทางสังคมที่สูงส่งและยศศักดิ์สูงกว่าวอร์ตัน
อย่างไรก็ตาม...
องค์หญิงเจ็ดแห่งจักรวรรดิมีสัมพันธ์ไมตรีที่ดีกับวอร์ตัน  นางมักจะไปเล่นและหยอกเย้าเขาอยู่บ่อยๆ
ปีต่อมาการแข่งขันเพื่อเข้าวิทยาลัยเทพสงครามก็เริ่มขึ้น  นี่คือปีที่สี่ซึ่งลินลี่ย์และพวกพ้องอาศัยอยู่ที่นี่หมู่บ้านยอดเมฆ
 “พี่ลินลี่ย์คะ, มีจดหมายค่ะ”
รีเบ็คกาเอาจดหมายมาส่งให้เขาอีกครั้งหนึ่ง  ลินลี่ย์เปิดจดหมายและเริ่มอ่านทันที  เมื่อว่าเรื่องของเหตุการณ์เวลา  จดหมายนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการแข่งขันใหญ่
เพราะด้วยความสามารถของน้องชายเขา  เขาน่าจะประสบความสำเร็จได้
 “โอว? เขาพลาดหรือ?”  เมื่ออ่านเนื้อความในจดหมาย ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
การแข่งขันเพื่อรับคัดเลือกเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามส่งผลให้บุรุษหนุ่มนามบลูเมอร์ได้ตำแหน่งนั้น  ผลการแข่งขันเช่นนี้ไม่ใช่แบบที่บุรุษที่เหลือคนสุดท้ายจะได้รับตำแหน่ง
เป็นชุดผู้แข่งขันที่เข้ารอบสิบคนสุดท้าย  จากสิบคนสุดท้ายเหล่านี้  เทพสงครามหรือศิษย์ที่เขาสอนส่วนตัวจะเลือกศิษย์กิตติมศักดิ์เอง
วอร์ตันกลายเป็นหนึ่งในสิบคนสุดท้าย  แต่ในที่สุดวิทยาลัยสงครามเลือกบลูเมอร์
 “ยังมีอัจฉริยะคนอื่นด้วยหรือ?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจมาก
บลูเมอร์ปัจจุบันอายุ 32 ปี แต่ก็เป็นนักรบระดับเก้าแล้ว  พรสวรรค์ธรรมชาติที่น่าทึ่งอย่างนี้นับว่าเหลือเชื่อจริงๆ
 “แต่ในเรื่องของพรสวรรค์  วอร์ตันน่าจะอยู่เหนือกว่าเขา  ปีนี้วอร์ตันเพิ่งจะ 21 ปี แต่ก็เป็นนักรบระดับแปดแล้ว”  ลินลี่ย์เพิ่งรู้มาเดือนหนึ่งแล้วว่าวอร์ตันเป็นนักรบระดับแปด
อายุ 21 ปีเป็นนักรบระดับแปดก็นับว่าน่าทึ่งเช่นกัน
 “หืม?” เมื่ออ่านข้อมูลเบื้องหลังของบลูเมอร์ มีสิ่งที่สะดุดตาของลินลี่ย์
 “พี่ชายของบลูเมอร์ก็คือกระบี่เซียนอัจฉริยะ โอลิวิเยร์หรือ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจมาก  โอลิวิเยร์คืออัจฉริยะผู้เข้าถึงระดับเซียนไม่นานก็เอาชนะเซียนดาบดาราดิลลอนได้
มิใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เซียนชั้นต้นจะเอาชนะเซียนที่เข้าสู่ระดับเซียนมาเป็นเวลาหลายปี
สิ่งที่จำเป็นก็คือความเข้าใจและความรู้ในระดับที่สูงขึ้น
ตัวอย่างเช่น ลินลี่ย์ในตอนนี้ ระดับความรู้และความใจของเขาถึงระดับเดียวกับเซียนชั้นสูงแล้ว  เพราะความแข็งแกร่งภายนอกของเขาและปราณยุทธยังต่ำมาก  จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าสู่ระดับเซียนในตอนนี้
ทันทีที่พลังภายนอกและพลังภายในของเขาถึงระดับที่ต้องการแล้ว  เขาจะเข้าสู่ระดับเซียน
นี่คือเหตุผลที่ลินลี่ย์ในตอนนี้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการฝึกปราณยุทธของเขา  เขาต้องการบรรลุเป็นนักรบระดับเก้าให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้
 “ข้าสงสัยจริงว่าตอนนี้วอร์ตันจะรู้สึกยังไง”  ลินลี่ย์สงสัยอยู่ในใจ  เด็กน้อยฟันหลอแก้มยุ้ยจากเมื่อหลายปีก่อนตอนนี้โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว 
ลินลี่ย์เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูวอร์ตันจริงๆ
 “จักรพรรดิโอเบรียน  ถ้าจดหมายนี้ถูกต้อง ก็ควรจะรู้แล้วว่าวอร์ตันคือทายาทของตระกูลนักรบเลือดมังกร เนื่องจากพลังของวอร์ตัน เขาสามารถแปลงเป็นร่างมังกรแน่นอน  ในฐานะนักรบเลือดมังกร ทางราชวงศ์คงไม่รู้สึกเสื่อมเสียหากวอร์ตันจะแต่งงานกับพระธิดาขององค์จักรพรรดิ
ความจริง ลินลี่ย์ไม่ค่อยรู้สึกนับถือพวกเชื้อพระวงศ์หรือราชตระกูลเลย
สิ่งเดียวที่เขากลัวและเคารพก็คือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างแท้จริง อย่างเทพสงคราม, พรตสูงสุด, ราชันย์มือสังหารและราชันย์แห่งไพรทมิฬและเทือกเขาอสูรวิเศษ  คนผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก
ความรู้และความเข้าใจแจ่มแจ้งเป็นเรื่องที่สำคัญ พลังกายก็สำคัญเช่นกัน!  สำหรับลินลี่ย์ที่ระดับปัจจุบัน โดยเฉพาะพลังภายนอกและพลังภายในเป็นสิ่งที่เขาต้องการมาก
เมื่อใช้เคล็ดวิชาเดียวกันคือ ‘กวัดแก่วงของเบาเสมือนเป็นของหนัก’  พลังโจมตีของลินลี่ย์ยังอ่อนกว่านักสู้ระดับเซียนเป็นสิบเท่า
และเป็นความจริงที่เหมือนกันสำหรับเคล็ดสัจจะลึกซึ้งแห่งธาตุดิน
ในเวลานี้บางทีลินลี่ย์สามารถทำร้ายนักสู้ระดับเซียนให้บาดเจ็บหนักได้ถ้าเขาป้องกันตัว  แต่ถ้านักสู้ระดับเซียนใช้วิชานี้  เขาจะทำให้คู่ต่อสู้ตายได้ทันที
คลื่นสามชั้นก็เหมือน  แต่พลังของแรงสั่นสะเทือนก็มีระดับแตกต่างกันสิ้นเชิง  พลังสั่นสะเทือนที่ปล่อยออกมาโดยนักสู้ระดับเซียนจะสูงมากกว่าสิบเท่า
 “พื้นฐาน!”
ลินลี่ย์นั่งสมาธิอยู่บนเตียงของเขา  กล้ามเนื้อทั่วร่างทั้งหมดกระตุกราวกับว่ามีหนอนนับไม่ถ้วนไต่ยั้วเยี้ยอยู่ใต้ผิวหนัง  เส้นเลือดบนหน้าผากของลินลี่ย์ปูดโปนออกมาเช่นกัน
ปราณยุทธสีดำม่วงโคจรอย่างรวดเร็ว แต่ละรอบจะมีประสิทธิภาพเฉพาะตน บำรุง ส่งเสริมปราณยุทธเลือดมังกรที่ไม่ซ้ำกัน
ภายในพื้นที่ตันเถียนของเขา
ปราณยุทธของเขามีระดับความหนาแน่นสูงอยู่แล้ว  ปราณยุทธที่เหมือนของเหลวโคจรไปช้าๆ ต่อเนื่องเข้าไปในกลางตันเถียนของเขา
 “เฮ้อออ”
ลินลี่ย์ระบายลมหายใจยาวและเมื่อเขาระบายลม หมอกที่เขาพ่นออกมาจากปากของเขาเป็นเหมือนกับตัวกระบี่
 “ใครจะรู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดกว่าจะก้าวหน้าจากระดับแปดชั้นสูงเป็นนักสู้ระดับเก้า”  ในอดีตสี่ปีที่แล้วลินลี่ย์เพิ่งเข้าถึงระดับแปดชั้นสูง แต่เมื่อฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจุดเชื่อมต่อที่สำคัญที่สุด ดูเหมือนต้องใช้เวลามากที่สุด
ตอนนี้ เมื่อลินลี่ย์แปลงร่าง  เขาจะยังเป็นนักสู้ระดับเก้าชั้นสูง
ตราบใดที่เขาบรรลุสู่ระดับเก้า  ลินลี่ย์จะเป็นกลายเป็นนักสู้ระดับเซียนชั้นต้นในร่างแปลงมังกร
ระดับเก้าชั้นสูงถึงระดับเซียนชั้นต้นคือการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง มีความแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวงระหว่างสองระดับนี้
 “ฮ่าฮ่า...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”  ทันใดนั้น เสียงหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังดังขึ้นมาจากนอกห้อง  ลินลี่ย์ลุกจากเตียง มึนงง  “ทำไมพี่น้องบาร์เกอร์ถึงได้มีความสุขนัก  นี่ยังเช้าตรู่อยู่เลยไม่ใช่หรือ?”
เวลานี้ท้องฟ้าแทบยังไม่สว่างและพื้นโลกยังมีหมอกหนาปกคลุม  คนธรรมดาจะไม่สามารถเห็นคนที่อยู่ห่างเกินห้าเมตร  ทั้งหมดที่จะเห็นได้ก็คือหมอก
 “พี่บาร์เกอร์ ทำไมพวกท่านเอะอะกันแต่เช้ามืดอย่างนี้เล่า?  เราพี่น้องยังต้องการหลับต่อนะ!  รีเบ็คกาส่งเสียงไม่พอใจ
สายตาของลินลี่ย์กล้าแข็งมากกว่าคนธรรมดา  ทันทีที่มองเขาสามารถบอกได้ว่าพี่ใหญ่ของห้าพี่น้อง บาร์เกอร์ดีใจจนควบคุมตัวเองไม่ได้
 “พี่ใหญ่ทำไมเจ้าดีใจมากนักเล่า?”  พี่น้องอีกสี่คนรุมล้อมเข้ามาในห้องด้วยเช่นกัน
 “ข้าสำเร็จแล้ว  ข้าสำเร็จผ่านระดับเก้าไปแล้ว”  บาร์เกอร์ตื่นเต้นพูดกับน้องชายทั้งสี่คน  “ฮ่าฮ่า เมื่อข้าแปลงกาย ข้าสามารถบรรลุพลังชั้นเซียนระดับต้นได้”
ร่างแปลงของนักรบอมตะจะคล้ายคลึงกับนักรบเลือดมังกรในส่วนที่เกี่ยวข้องนี้  ถ้าในร่างมนุษย์ปกติของพวกเขา  พวกเขาจะเป็นนักรบระดับเก้า  เมื่อแปลงร่างพวกเขาจะเป็นระดับเซียน
 “ระดับเซียนชั้นต้นหรือ?”  ซาสเลอร์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องตัวเองตกใจเช่นกัน
ลินลี่ย์, สองสาวพี่น้องและพี่น้องบาร์เกอร์อีกสี่คนตะลึงเช่นกัน
ลินลี่ย์นัยน์ตาเป็นประกาย
 “บาร์เกอร์, ท่านก้าวหน้าไประดับใหม่จริงๆ หรือนี่?”  ลินลี่ย์ตื่นเต้นจนควบคุมตนเองไม่ได้
บาร์เกอร์พยักหน้า  “ถูกแล้วท่านลินลี่ย์,  ข้าบรรลุระดับใหม่จริงๆ”  ในอดีตพี่น้องบาร์เกอร์ก็เรียกลินลี่ย์ว่าท่านอยู่แล้ว  ตอนนี้ที่พวกเขาอยู่ในหมู่บ้าน  ทุกคนปฏิบัติตัวเหมือนกับลินลี่ย์เป็นคนชั้นสูงและห้าพี่น้องเป็นองครักษ์คุ้มกัน  ดังนั้นพวกเขาจึงนับถือลินลี่ย์เป็น “ท่าน” ต่อไป
หลังจากผ่านไปสี่ปี ทุกคนก็คุ้นเคยกับสถานะเช่นนี้
ที่สำคัญห้าพี่น้องบาร์เกอร์เป็นคนซื่อตรงห้าวหาญ  จิตใจของพวกเขาไม่มากเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวเหมือนลินลี่ย์และซาสเลอร์  การตัดสินใจในกลุ่มนี้จะมีลินลี่ย์เป็นหลัก
 “ไปที่ลานว่างด้านตะวันตกกันเถอะ  เราไปดูพลังในปัจจุบันของท่านกัน”  ลินลี่ย์พูดทันที
ทุกคนตื่นเต้นวิ่งออกไปจากคฤหาสน์ไปยังลานว่างฝั่งตะวันตก  เพราะพระอาทิตย์ยังไม่ทันขึ้น ชาวบ้านในหมู่บ้านจึงยังหลับอยู่ ไม่มีผู้ใดเห็นสักคน
 “ทันทีที่เขาแปลงกาย  เขาจะเป็นระดับเซียน  นายท่านต้องใช้เวลานานเท่าใดข้าจึงจะบรรลุระดับนั้นได้บ้าง” เสือดำเมฆาแฮรุพูดเรื่องค้างคาใจบางอย่างกับลินลี่ย์
แฮรุเป็นอสูรเวทระดับเก้าชั้นสูงมานานแล้ว
 “โกรววว”  บีบีคำรามใส่เขาอย่างขุ่นเคือง  “แฮรุ อย่านึกว่าข้าไม่เข้าใจเจตนาเจ้าเล่ห์ของเจ้านะ  เจ้าเล็งแก่นเวทระดับเซียนที่เจ้านายมีอยู่น่ะสิ”
ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขาลูบศีรษะมัน
สำหรับอสูรเวทระดับเก้าชั้นสูงจะบรรลุเป็นระดับเซียนพวกมันจำเป็นต้องบรรลุด้วยตัวเอง  แต่แน่นอน  ถ้าพวกมันได้กินแก่นเวทระดับเซียนในสายธาตุเดียวกันกับตัวเอง  ก็มีโอกาสสูงที่พวกมันจะบรรลุระดับสูงได้ทันที
แต่แน่นอน โอกาสล้มเหลวก็มีเช่นกัน
 “โกรววว”  แฮรุคำรามใส่บีบีเช่นกัน  “บีบี ข้าไม่เหมือนเจ้า  เจ้าแข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลาสี่ปี  แต่ข้าหยุดนิ่ง”
บีบีคืออสูรเวทแบบไหนไม่มีใครตอบได้อย่างแน่นอน
แต่บีบีก็เป็นอสูรเวทแบบหนึ่งที่มีพรสวรรค์ธรรมชาติที่น่ากลัวยิ่งกว่าเสือดำเมฆา  แม้ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา  บีบีก็มีพลังเทียบเท่าแฮรุแล้ว  ความจริงบีบียังคงเติบโตและพัฒนาต่อเนื่อง
หลังจากสี่ปีที่ผ่านมานี้ ระดับของบีบีในปัจจุบันนี้ก็อาจกำจัดเสือดำเมฆาได้อย่างง่ายดาย
ในเรื่องความเร็วหรือพลังป้องกัน บีบีนับว่าน่ากลัวมาก
 “มีแนวโน้มว่าแม้แต่นักสู้ระดับเซียนคงต้องใช้ความพยายามมากถึงจะฆ่าบีบีได้  หัวใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความชื่นชม สี่ปีที่แล้วพลังป้องกันของบีบีก็สูงมากอยู่แล้ว  ตอนนี้ยิ่งสูงมากจนบอกไม่ถูก
 “แฮรุ, แก่นเวทระดับเซียนที่เจ้านายมีเป็นแก่นเวทชนิดธาตุมืด  แต่เจ้าเป็นอสูรสองสายธาตุคือธาตุลมกับธาตุมืด ถ้าเจ้ากินไปโอกาสล้มเหลวก็มีสูงเช่นกัน  มันไม่คุ้มกัน  ส่วนข้าเป็นอสูรเวทธาตุมืดล้วนๆ  เมื่อข้าถึงที่สุดของการพัฒนาโอกาสที่ข้าจะพัฒนาก้าวหน้าหลังจากกินแก่นเวทก็ยังสูงกว่าเจ้าอยู่ดี”  บีบีพูดอย่างหยิ่งยโส  “อะไร, เจ้าไม่พอใจเหรอ?  จะลองกรงเล็บข้าใช่ไหม?”
แฮรุครางเบาๆ จากนั้นก็เงียบ
บีบีเชิดหัวน้อยๆ อย่างหยิ่งยโส  แฮรุเป็นอสูรเวทที่หยิ่งมากแต่ก็ยังหงอต่อบีบี
เวลานี้บาร์เกอร์เตรียมแปลงร่าง
 “บีบี พอได้แล้ว”  ลินลี่ย์เพ่งมองบาร์เกอร์ที่ยืนอยู่หน้าทุกคน
 “ฮ่าฮ่า ทุกคน ดูให้ดี”
บาร์เกอร์ตื่นเต้นมาก  เสียงกล้ามเนื้อพองตัวจนได้ยิน กล้ามเนื้อทั่วร่างของเขามีเสียงแตกดังต่อเนื่อง กล้ามเนื้อบนร่างของบาร์เกอร์เริ่มขยายอย่างรวดเร็ว ขณะที่ในเวลาเดียวกันสีผิวและกล้ามเริ่มเปลี่ยนไปเช่นกัน
เสียงแตกดังราวกับฟ้าร้อง!
บาร์เกอร์ที่แต่เดิมสูง 2.2 เมตรแต่ร่างกายขยายพร้อมกับกล้ามเนื้อที่ปูดขึ้น ในพริบตาบาร์เกอร์กลายร่างจนดูเหมือนยักษ์ใหญ่ที่น่ากลัว แข็งแกร่ง สูงราวสามเมตร
ผิวทั่วตัวของบาร์เกอร์เปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน
ผิวและกล้ามเนื้อของเขาเหมือนกับว่าสร้างขึ้นมาจากหินและกล้ามเนื้อขนาดใหญ่นั้นเห็นได้ชัดว่ามีพลังมากจนมิอาจหยั่งได้  แค่มองดูเขาใครๆ ก็บอกเรื่องนี้ได้และจากนั้นผิวสีเขียวอ่อนนั้น เริ่มปรากฏชั้นเกราะที่เหมือนกับหินอ่อนสีขาวทันทีและคลุมไปทั้งตัวนอกเหนือจากใบหน้า  แม้แต่ศีรษะของเขาก็มีหมวกหินอ่อนสีขาวคลุม
ชุดเกราะและหมวกที่เพิ่มขึ้นมาทั่วร่างกายของเขา ดูแปลกและน่ากลัว
จากนั้นบาร์เกอร์ลอยขึ้นไปในอากาศทันทีบินเป็นวงโฉบไปมาในอากาศ
 “ฮ่าฮ่าระดับเซียน  นี่คือพลังระดับเซียน”  บาร์เกอร์กระแทกหมัดยักษ์ทั้งสองเข้าด้วยกัน เมื่อเขาทำเช่นนั้นก็มีระลอกพลังกระจายออกมา
นี่คือนักรบอมตะระดับเซียน!

14 ความคิดเห็น:

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

zyntatar กล่าวว่า...

ทีหลังดังกว่า

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ตามเมนท์บน

ฝุ่น กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

Tiger กล่าวว่า...

ฮักซ์ ชัดๆ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Bubble กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

thank you

Unknown กล่าวว่า...

โกเลมใส่เกราะชัดๆ

Unknown กล่าวว่า...

น้องมีคนรักแล้วจะแต่งแล้ว พี่ยังปิดใจไม่มีเป็นตัวเป็นตนยุเลย 4แล้ว ขอลุ้น สัญญา5ปีหน่อย
อย่ายืดเรื่องตอนนี้ ไปต่ออีกปีด่วน

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Janjao555 กล่าวว่า...

ฮักก็มาว่ะ

แสดงความคิดเห็น