วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 44 เพื่อนบ้าน

เล่มที่ 8 เดินทางไกลหมื่นกิโลเมตร – ตอนที่ 44 เพื่อนบ้าน

เมืองเอกเบซิลคือฐานที่ตั้งของตระกูลชาร์คมาแต่โบราณกาลแล้ว  ที่นี่อยู่ในมณฑลพายัพ, ในมณฑลพายัพนี้ตระกูลชาร์คถือได้ว่าเหมือนกับเป็นกษัตริย์ประจำท้องถิ่น  ระหว่างที่มีการประชุมตระกูลประจำปีจะมีตระกูลสาขาต่างๆ เข้ามายังเมืองเอกของมณฑล

ในเมืองเอกของมณฑลพายัพนี้มีปราสาทที่ใหญ่โตโอฬารและเก่าแก่มาก  นี่คือที่ทำการของตระกูลชาร์ค
วันที่ 14 พฤศจิกายน ปี 10008 ตามปฏิทินยูลาน นี่คือวันที่ปราสาทตระกูลชาร์คมักถูกตกแต่งอย่างงดงามประณีตและสว่างไสวอยู่ตลอด  จำนวนของทหารยามเฝ้าประตูเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าเช่นกันเมื่อเทียบกับในอดีต  นอกจากนี้ สมาชิกตระกูลสาขาที่มาจากทั่วทุกมุมโลกจะต้องผ่านประตูนี้
 “พี่เจนน์, ปราสาทของตระกูลใหญ่กว่าของเราอย่างน้อยก็สิบเท่าเลย”  คีนมองผ่านม่านประตูรถม้าด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจ
รถม้าคันนี้มีคนอยู่สามคนคือ คีน ไอรีนและเจนน์
เจนน์จ้องมองประตูเช่นกัน นางพยักหน้ากล่าว  “ตระกูลมียอดฝีมือมากกว่าของเราเยอะ  ข้าสงสัยว่าท่านปู่ทวดคงจะอยู่ที่นั่นเช่นกัน”
ท่านปู่ทวดที่เจนน์พูดถึงก็คือแม็คเคนซี่
แต่ละปีที่จัดงานชุมนุมของตระกูล บางครั้งแม็คเคนซี่ก็เข้าร่วม แต่บางครั้งก็ไม่ร่วม  อย่างไรก็ตามเมื่อสองปีที่แล้ว  แม็คเคนซี่ได้ปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่ง  ภาพดังกล่าวสร้างความพอใจให้เจนน์และคีนซึ่งมีความปรารถนาจะได้พบเห็นวีรบุรุษที่ทุกคนในตระกูลเทิดทูนบูชา
 “เป็นไปได้มาก  ไอรีนยังไม่เคยเห็นท่านปู่ทวดเลย”  คีนจับมือภรรยา
ขบวนมาถึงปราสาทอย่างรวดเร็วและหยุดชะงัก  เจนน์ คีนและไอรีนรู้กฎกันทุกคน  พวกเขาลงจากรถม้า
 “เจนน์!  เสียงดีใจกระตือรือร้นดังขึ้น
ทันทีที่ได้ยินเสียงนี้ เจนน์ขมวดคิ้ว แต่จากนั้นนางก็ฉีกยิ้ม  นางหันหน้าไปมองบุรุษหนุ่มผู้ที่ผมเป็นประกาย “พี่อัลเบิร์ต”
 “พี่อัลเบิร์ต!  คีนและไอรีนทักทายอย่างสุภาพ
อัลเบิร์ตดูเหมือนเป็นคนที่มั่นใจในตนเอง  การได้รับการศึกษาตั้งแต่เขาอายุยังน้อยทำให้เขามีกลิ่นอายของตระกูลขุนนางหัวโบราณ  แต่เมื่อดูจากหน้าตาของเขา  ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่าคนผู้นี้เป็นเสือผู้หญิงสมองกลวง
แต่อัลเบิร์ตเป็นบุตรคนโตที่สุดของประมุขตระกูลชาร์คและจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อไป
ประมุขตระกูลในอนาคตของตระกูลชาร์ค ใครจะกล้าดูถูกอัลเบิร์ตและไม่ให้เกียรติเขาเล่า?
 “เจนน์, เจ้ายิ่งโตก็ยิ่งสวยขึ้นทุกปีเลยนะ  คีน ไอรีนอย่าเอาแต่ยืนบื้ออยู่ตรงนี้เลย  เข้ามาเถอะ”  อัลเบิร์ตพาเจนน์และคนอื่นเข้าปราสาทอย่างเป็นกันเอง
เพราะการชุมนุมของตระกูลจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน คนจึงมาถึงในวันที่ 14 น้อยมาก คืนวันที่ 14 ปราสาทชาร์คมีชีวิตชีวามากขึ้น
 “พี่เจนน์ รู้สึกระอาอัลเบิร์ตอีกแล้วเหรอ?”
คีนเดินมาที่ห้องเจนน์  เมื่อเห็นเจนน์ยืนอยู่ที่หน้าต่างและถอนหายใจ  เขาเดาได้ทันทีว่าเจนน์คิดเรื่องอะไรอยู่
เจนน์หันหน้ามามองน้องชายนาง  นางกล่าวอย่างหงุดหงิด  “อัลเบิร์ตนั้นไม่มีเจตนาที่ดี  แต่ละครั้งที่เราประชุมตระกูล  เขาจะมาคอยเกาะแกะกวนใจข้า หลายวันนี้คงไม่มีทางผ่านไปอย่างราบรื่น”
 “พี่”  คีนคว้ามือพี่สาวไว้  และพูดในเชิงขอโทษ  “ข้ารู้ว่าเหตุผลเดียวที่พี่ยังไม่ไปพร้อมกับพี่ลีย์เป็นเพราะพี่ต้องการใช้เวลาอยู่กับข้าต่ออีกหลายวัน”
 “คีน” เจนน์ลูบศีรษะน้องชายด้วยความรัก  “คีน, เดี๋ยวนี้เจ้าสูงกว่าข้าแล้ว”
คีนก้มหน้าเงียบ
เจนน์ดูแลคีนตั้งแต่พวกเขายังอายุน้อย  ตั้งแต่ตอนที่พวกเขามาถึงในสหภาพศักดิ์สิทธิ์  มารดาของพวกเขาก็ป่วยอยู่หลายครั้งครา  ดังนั้นเจนน์จึงต้องดูแลคีนเหมือนที่มารดาทำ
ความรักความผูกพันระหว่างสองพี่น้องนี้ลึกซึ้งมาก
 “เจนน์, น้องเจนน์”  เสียงอัลเบิร์ตดังขึ้นอีกครั้ง
เจนน์กับคีนขมวดคิ้วทั้งคู่  ไม่มีร่องรอยความยินดีอยู่ในใบหน้าพวกเขาในตอนนี้เลย  อัลเบิร์ตผู้นี้มักน่ารำคาญและอึดอัดตามพัวพันเหมือนกับงูเหลือม
ในพริบตา อัลเบิร์ตก็มาถึงที่ทางเข้าประตู
 “เจนน์,  โอวคีน, เจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย”  อัลเบิร์ตยิ้มกว้าง  “เจนน์, เรากำลังจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ที่โถงใหญ่ เจนน์, ไปด้วยกันเถอะ  ข้าให้คนจัดเตรียมชุดราตรีที่งดงามไว้ให้เจ้าหลายๆ ชุดแล้ว”
เจนน์ส่ายศีรษะ  “ไม่จำเป็น, ข้าไม่สบายและรู้สึกเวียนหัว”
 “ทำไมเจ้าถึงรู้สึกไม่สบายล่ะ?  ขอข้าดูซิ”  อัลเบิร์ตก้าวเข้ามาตั้งใจจะแตะหน้าผากเจนน์  เจนน์ถอยออกไปสองก้าวทันที
คีนหัวเราะคิกคักอยู่ด้านข้าง  “พี่อัลเบิร์ต, พี่สาวข้ารู้สึกไม่สบาย  ปล่อยให้นางพักก่อนเถอะ”
อัลเบิร์ตยืนอึ้งอยู่กับที่ครู่หนึ่ง จากนั้นหัวเราะและพยักหน้า  “ก็ได้”  จากนั้นเขาจ้องมองคีน  “คีนเจ้ามากับข้าสักเดี๋ยว  น้องเจนน์ พักผ่อนให้ดีล่ะ,  ถ้ามีอะไรที่เจ้าต้องการ ก็บอกให้พวกบ่าวทราบด้วย”  เขาทำท่ากับคีน
คีนพยักหน้า จากนั้นเดินตามอัลเบิร์ตออกไป
ภายในสวนดอกไม้
อัลเบิร์ตกับคีนกำลังเดินด้วยกัน  อัลเบิร์ตยังเงียบ และคีนก็ไม่พูดอะไร
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน...
 “คีน, รู้สึกยังไงบ้างที่ได้เป็นเจ้าเมือง?”  อัลเบิร์ตถามทันที
คีนสะดุ้ง เขาตอบช้าๆ “ก็ดีนะ”
อัลเบิร์ตหัวเราะและพยักหน้า  “แน่นอนว่าดี  เจ้าปกครองคนเป็นล้านๆนะคีน  เจ้าต้องเข้าใจว่าทั่วทั้งมณฑลพายัพมีเมืองปกครองหลักอยู่เพียงสิบเมือง  ตำแหน่งอย่างเจ้าเมืองเป็นที่ต้องการอย่างมาก  คนหลายคนจับตามองตำแหน่งเหล่านั้นตาเป็นมัน  ที่สำคัญคือตระกูลชาร์คเราเป็นตระกูลใหญ่”
ราวกับจะเข้าใจอะไรบางอย่าง คีนพยักหน้า
ตระกูลชาร์คเริ่มมีสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง  ตามปกติแต่ละรุ่นจะมีจำนวนมากกว่าที่ผ่านมา  ในอดีตเหตุผลที่บิดาของคีน เคานท์เว็ดถือว่ามีความโชคดีพอจึงได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองเพราะเขาสนิทมากกับประมุขตระกูลคนก่อน
ความจริงเจ้าเมืองในเมืองต่างๆ ถูกควบคุมและตัดสินโดยประมุขตระกูลชาร์ค
ที่สำคัญ ตระกูลชาร์คมีอำนาจบริหารจัดการมณฑลพายัพแต่เพียงตระกูลเดียว
 “คีน, เจ้าควรรู้ว่าญาติผู้น้องข้าหลายคนก็โตกันแล้ว  อย่างเช่นน้องสามของข้า ตอนนี้เขาเป็นคนสำคัญในกองทัพ  คนมากมายเหล่านี้อยากจะเป็นเจ้าเมืองกันทั้งนั้น”  อัลเบิร์ตมองดูคีนด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มและไม่ยิ้ม
คีนรู้ว่าอัลเบิร์ตจะพูดอะไร
 “และไม่ใช่แค่พี่น้องของข้า  ลุงๆของข้าก็เช่นกัน  ในอดีตพวกเขาไม่สามารถเอาชนะพ่อเจ้าได้  แต่พวกเขาไม่เคยยอมแพ้”
อัลเบิร์ตมองดูคีน  “คีน, ข้าประทับใจในตัวเจ้ามาก แต่เจ้าก็ต้องเข้าใจนะว่า  การจะได้บางสิ่งมา ก็ต้องมอบบางอย่างออกไป”
คีนยังคงเงียบ
 “คีน, เจ้าได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองไปแล้ว ใช่, แต่ข้า, คือประมุขตระกูลในอนาคต สามารถทำให้เจ้าสูญเสียมันไปได้เช่นกัน”
 “พี่อัลเบิร์ต  พูดความต้องการของท่านออกมาตามตรงดีกว่า”  คีนฝืนยิ้มเต็มหน้า
อัลเบิร์ตหัวเราะ  “ฮ่าฮ่า, เจ้าคือญาติผู้น้องของข้าจริงๆ  แน่นอน ข้าไม่บังคับเจ้าให้ทำอะไรแน่  ข้าแค่หวังว่าในอนาคตเราจะมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น  ตัวอย่างเช่น เจ้าสามารถยกพี่สาวเจ้าให้แต่งงานกับข้า  เจ้าคิดว่ายังไงบ้าง?”
คีนรู้สึกโกรธ
เขารู้ความตั้งใจของอัลเบิร์ตมานานแล้ว  สุภาพสตรีที่อ่อนโยน งดงามมีคุณธรรมอย่างเจนน์โดยเฉพาะหลังจากเริ่มฝึกเวทธาตุน้ำแล้วกลับขัดเกลาจนนางมีเสน่ห์มากขึ้น
อัลเบิร์ตลุ่มหลงนางมาตลอดเวลาช่วงนี้
แต่อัลเบิร์ตอายุสามสิบปีแล้วและมีภรรยาสามคน  ถ้าพี่สาวของคีนแต่งงานกับเขา  นางก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าภรรยาน้อยคนหนึ่งเท่านั้น
นอกจากนี้พี่สาวของเขากำลังติดตามลินลี่ย์
 “พี่อัลเบิร์ต  ข้าบอกท่านไปแล้วว่าในอดีตพี่สาวข้ามีคนที่นางชอบอยู่แล้ว”  คีนตอบอย่างจนปัญญา
 “ตลกน่ะ”  อัลเบิร์ตแค่นเสียง  “คีน ถ้าพี่สาวเจ้ามีคนที่นางชอบ ทำไมนางถึงยังไม่แต่งงาน?  และถ้านางชอบใครคนหนึ่ง  เราก็แค่ส่งคนไปฆ่าเขาก็สิ้นเรื่อง”
อัลเบิร์ตต้องการเจนน์มานานแล้ว  ไม่เพียงแต่นางงดงามเท่านั้น  นางยังเป็นจอมเวทคนหนึ่ง  หลังจากที่คนๆ หนึ่งฝึกเวท อายุของพวกเขาจะยืนยาวขึ้น  มีแนวโน้มว่าแม้เมื่อนางจะอายุถึงหกสิบหรือเจ็ดสิบปี  เจนน์ก็ยังคงดูเหมือนสุภาพสตรีอายุสามสิบ  อัลเบิร์ตย่อมต้องการได้ภรรยาอย่างนี้เป็นธรรมดา
 “ท่านไม่สามารถฆ่าเขาได้  คนที่พี่สาวข้าชอบเป็นยอดฝีมือระดับเก้า”  คีนปั้นเรื่องในใจ
 “นักสู้ระดับเก้า?”  อัลเบิร์ตไม่พอใจ
นี่เป็นเรื่องลำบาก  ถ้าปัจจุบันเขาเป็นประมุขตระกูล  เขาสามารถใช้ทหารที่แข็งแกร่งของตระกูลออกไปฆ่ายอดฝีมือระดับเก้าก็ย่อมได้  แต่เขาเป็นเพียงผู้สืบทอด  คนที่อยู่ในมือของเขามีค่อนข้างจำกัด ทั้งพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก
 “คีน, จะให้ดีที่สุด เจ้าอย่าโกหกข้าก็แล้วกัน”  อัลเบิร์ตจ้องคีนอย่างเย็นชา
คีนคำนับเล็กน้อย  “พี่อัลเบิร์ต  ข้าย่อมไม่โกหกแน่นอน  พี่สาวข้าชอบเขา เรื่องนั้นข้าทำอะไรไม่ได้  พี่อัลเบิร์ต  ข้าไม่รบกวนท่านอีกต่อไปแล้ว  ขออำลา”
อัลเบิร์ตแค่นเสียงเย็นชาจ้องมองดูคีนเดินจากไป
 “ห้าปี”  อัลเบิร์ตจ้องมองตำแหน่งห้องของเจนน์  “ครั้งนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจนน์หลุดมือไปอีกอย่างแน่นอน  ดังนั้นต่อให้เขาเป็นยอดฝีมือระดับเก้า แล้วไงเล่า?  เขากล้ารุกรานตระกูลชาร์คหรือ?”  นัยน์ตาของอัลเบิร์ตดุร้ายเหมือนหมาป่า
วันที่ 15 ลินลี่ย์ไปที่ทำการหอการค้าดอว์สันแต่เช้าตรู่  เขาใช้ป้ายตราแสดงสถานะผู้อาวุโส ส่งคนไปที่หมู่บ้านยอดเมฆเพื่อแจ้งซาสเลอร์และคนอื่นว่าเขาจะไปถึงล่าช้าหน่อย
และจากนั้นลินลี่ย์พักอยู่เงียบๆ ในโรงแรมไนล์
มีเรือนเกินกว่าสิบหลังอยู่ที่โรงแรมไนล์ ทั้งหมดมีขนาดสูงและสร้างปล่องไฟไว้  ลินลี่ย์พักอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง
ภายในลานบ้านของเขา ลินลี่ย์เพิ่งเสร็จงานแกะสลักและจากนั้นเขาเริ่มควงดาบหนักอดาแมนเทียมด้วยความพอใจ
บีบีและแฮรุทั้งสองพักอยู่บนพื้นอย่างเกียจคร้าน
หลังจากฝึกด้วยดาบหนักมาสักพัก ลินลี่ย์ก็หยุด ทันใดนั้นเขาเกิดความคิดในใจ  “เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วตั้งข้าถึงระดับแปดชั้นสูง ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้  ข้ามักจะมีความรู้สึกว่าข้าสามารถบรรลุระดับใหม่ได้  แต่เพราะเหตุผลบางประการ ยังมีส่วนพลาดเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง”
สำหรับคนธรรมดาการจะบรรลุจากระดับแปดชั้นสูงเป็นระดับเก้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
แต่สำหรับสุดยอดนักรบ  ความแตกต่างระหว่างระดับทั้งสองนั้นยิ่งใหญ่มาก  เมื่อเข้าสู่ระดับเก้า  ลินลี่ย์ในร่างมังกรแปลงจะเป็นนักสู้ระดับเซียน
 “ข้าไม่อาจเร่งเกินไปได้  ความเร็วในการฝึกฝนของข้าก็นับว่าเร็วมากอยู่แล้ว”  ลินลี่ย์ยังคงสงบ เมื่อจ้องไปทางทิศใต้ลินลี่ย์เริ่มคิดถึงเรื่องราวของวอร์ตันน้องชายของเขาอีกครั้ง  “เมื่อข้าบรรลุระดับเก้า  ข้าจะไปยังเมืองหลวงเพื่อพบกับน้องชาย  ข้าไม่ได้พบวอร์ตันมาเป็นเวลานานแล้ว”
ตั้งแต่วอร์ตันจากบ้านไปเมื่อเขาอายุหกปีมุ่งสู่จักรวรรดิโอเบรียนพร้อมกับพ่อบ้านแอชลี่ย์ สองพี่น้องก็ไม่เคยพบกันอีกเลย
ตอนนี้ วอร์ตันอายุยี่สิบสองปีแล้ว อีกเดือนหนึ่งเขาจะอายุยี่สิบสามปี
 “หืม?”  ทันใดนั้นลินลี่ย์หันไปมองที่ลานกำแพง
บ้านเดี่ยวดำเนินกิจการโดยโรงแรมอยู่ใกล้กันทั้งหมด และจะมีที่ดินกั้นแบ่งไว้  เวลานี้ในบ้านหลังที่ติดกับลินลี่ย์ มีคนเช่าพักอยู่และคนผู้นั้นปีนกำแพงและแอบมองมาทางตำแหน่งนี้
แขกที่เข้าพักนี้เป็นสุภาพสตรีที่น่ารักมาก  ดวงตาที่กระจ่างของนางจ้องมาทางลินลี่ย์  แต่สายตานางจับจ้องอยู่ที่เสือดำเมฆาที่อยู่บนพื้น
 “โหว, เสือดำอะไร ตัวใหญ่จัง”  สุภาพสตรีผู้นั้นกระโดดข้ามกำแพงมาอย่างคล่องแคล่วและวิ่งตรงมาที่แฮรุ
 “อย่าแตะต้องเขา”  ลินลี่ย์ตะโกนทันที
หญิงสาวนั้นชะงักทันที นางยิ้มและหัวเราะให้ลินลี่ย์  “พี่ชาย ข้าไม่เคยเห็นเสือดำที่ตัวใหญ่และน่ารักอย่างนั้นมาก่อน  ขอแตะหน่อยได้ไหม?”
สุภาพสตรีผู้นี้มีผมสีเงิน และดวงตาของนางทอประกายปัญญา  นางยิ้มเต็มหน้า  แต่นางชุดที่นางสวมเป็นชุดนักรบหญิง
ลินลี่ย์ประเมินเด็กสาวผมเงินผู้นี้
พลังของนักรบยากจะประเมินได้แค่การมอง  แต่ลินลี่ย์สามารถบอกได้จากราศีของเด็กสาวนี่ว่านางอย่างน้อยเป็นนักรบระดับเจ็ด หรืออาจสูงมากกว่านั้น
 “แฮรุไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้อง”  ลินลีย์พูดอย่างใจเย็น
เด็กสาวผมเงินอดทำกระเง้ากระงอดมิได้ นางเชิดจมูกใส่ขณะทำท่าไม่พอใจ “ฮึ, ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก, อสูรเวทของอาจารย์ข้ายังยอมให้ข้าแตะต้องได้บ่อยๆ เลย” สตรีผมเงินวิ่งเข้าไปหาแฮรุ
 “โฮกกกก” แฮรุยืนขึ้นทันทีขณะที่มันแยกเขี้ยวใส่เด็กสาวผมเงินอย่างเย็นชา
เด็กสาวผมเงินสะดุ้งทันที  นางถอยออกไปสองก้าว
 “ข้าบอกเจ้าแล้ว แฮรุไม่ชอบให้ใครแตะต้อง  พอเถอะ เจ้ากลับไปที่ของเจ้าได้แล้ว”  ลินลี่ย์ขอให้นางจากไป
หญิงสาวผมเงินยิ้มยั่วยวนให้ลินลี่ย์  “อาจารย์ของข้าบอกข้าว่าอสูรเวทประเภทเสือดำน่ากลัวมาก  อย่างนั้นพี่ชาย  ท่านก็ต้องแข็งแกร่งมากเช่นกัน  ข้าขอซ้อมมือกับท่านได้ไหม?”
 “ซ้อมมือ?”  ลินลี่ย์ไม่ชอบให้ชีวิตของเขาต้องถูกคนอื่นรบกวน
 “ข้าขอแนะนำตัวเองก่อน  ข้าชื่อดันลิน”  หญิงสาวผมเงินพูดพร้อมกับยิ้มน่ารัก
 “เจ้าเรียกข้าว่าลีย์ก็ได้  แต่ข้าไม่มีเวลาให้เจ้า  ตอนนี้เจ้ากลับไปได้แล้ว”  ลินลี่ย์ยังคงพูดอย่างเยือกเย็น  สำหรับเด็กสาวที่อย่างน้อยเป็นนักสู้ระดับเจ็ด  นางไม่โผล่ออกมาง่ายๆ เป็นแน่
เด็กสาวผมเงินทำท่างอนอย่างช่วยไม่ได้  “โอว เข้าใจแล้ว” และจากนั้นนางหันหลังจากไป  แม้ว่าใจนางจะเต็มไปด้วยความหงุดหงิด  “ลินลี่ย์ผู้นี้เย็นชาจริงๆ  จะเข้าใกล้เขาเป็นเรื่องยาก  แต่ข้าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่ ถ้าข้าสามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆ ข้าก็จะทำ”
เด็กสาวผมเงินผู้นี้ก็คือลินดอน
แต่ว่ากันในเรื่องของอารมณ์ ลินดอนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง  ในอดีตนางเป็นเทวทูตที่เย็นชา  แต่ตอนนี้นางกลับกลายเป็นน่ารักกระตือรือร้น  ต้องยอมรับว่าฝีมือในการแสดงของนางนั้นเข้าขั้นน่ากลัวจริงๆ
 “โอว, พี่ลีย์ ท่านเป็นประติมากรหรอกหรือ?”  ลินดอนมองดูรูปสลักที่ลินลี่ย์เพิ่งสลักเสร็จและวิ่งมาดูด้วยความตื่นเต้น  นางจ้องมองดูอย่างมีความสุข  “อาจารย์ของข้าชอบรูปแกะสลัก แต่เขาไม่รู้วิธีแกะสลักด้วยตนเอง”  ขณะที่นางกล่าว  ลินดอนตรวจดูรูปแกะสลักด้วยความอยากรู้เป็นอย่างมาก
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วไม่พอใจ
เด็กสาวผมเงินผู้นี้น่ารำคาญจริงๆ!
 


14 ความคิดเห็น:

Frankmartinn กล่าวว่า...

เฮิร์บ

Toffee กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีงาน กล่าวว่า...

มากมุขเดิมอีกและเดียวก้อใจออนอีก

Bubble กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

เดี๋ยวได้รู้

donnthai กล่าวว่า...

Thank You

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณคร๊าบบบบบ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

ทำสัญญานายบ่าวได้ไหม555สาวงามๆ
อยากเข้าใกล้นักจับเป็นลูกน้องเลย เทวฑูตเลยนะ

Unknown กล่าวว่า...

แอ็บได้น่า...จริงๆ

เซียนเต๋าทุกชั้นฟ้า กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น