วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก – ตอนที่ 17 ก้าวขึ้นเวที


เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก ตอนที่ 17 ก้าวขึ้นเวที
วันที่ 12 เมษายน ปียูลานที่ 10009 นี่คือวันที่วอร์ตันกับนีน่าจะทำพิธีหมั้นในเมืองหลวง หนึ่งในคู่รักนี้คือน้องชายของยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูง  ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นราชธิดาของจักรพรรดิ พิธีหมั้นเช่นนี้ย่อมถูกจัดเป็นอย่างดี

ข้าราชสำนักที่อยู่ประจำในเมืองหลวงได้รับจดหมายเชิญรู้สึกภูมิใจมาก  ขุนนางทั่วไปหลายคนไม่มีคุณสมบัติพอได้รับเชิญให้เข้าร่วมเหตุการณ์นี้  ที่สำคัญ ถ้าขืนทุกคนได้รับเชิญ คฤหาสน์เคานท์คงไม่สามารถรองรับคนทุกคนได้
คฤหาสน์ของเคานท์มีงานเฉลิมฉลองในวันนี้  และด้านนอกของคฤหาสน์เต็มไปด้วยรถม้าเข้าออกไม่ขาดสายซึ่งกินพื้นที่ของถนนโบลเดอร์ไปถึงครึ่ง  องครักษ์และบ่าวไพร่ของขุนนางไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้ามาในคฤหาสน์ได้  ทุกคนต้องรออยู่ข้างนอก รวมๆ แล้วมีองครักษ์และบ่าวรับใช้ต้องรออยู่ด้านนอกหลายพันคน
คลื่นมหาชน!
รถม้าแต่ละคันประดับตกแต่งหรูหราเรียงกัน และสุภาพสตรีชนชั้นสูงที่อายุเยาว์แต่งชุดงดงามน่าหลงใหลกว่าครั้งใดๆ  งานเลี้ยงฉลองพิธีหมั้นที่คฤหาสน์ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญระดับสูงสุดของราชวงศ์และผู้ที่มาร่วมมีสถานะยิ่งใหญ่ทุกคน
 “พี่ใหญ่, ข้ารู้สึกอึดอัดเมื่อแต่งตัวแบบนี้”  วอร์ตันเสียเวลาเล็กน้อยอยู่ในห้อง  เขารู้สึกกังวลยิ่งกว่าที่เคยมีมาก่อน
ลินลี่ย์หัวเราะ  “พอเถอะ วอร์ตัน  เจ้าดูหล่อมากแล้ว มั่นใจหน่อยเถอะ”
วอร์ตันสูดหายใจลึก
 “ไปกันเถอะ  ได้เวลาไปต้อนรับแขกเหรื่อที่ห้องโถงได้แล้ว”  ลินลี่ย์แนะนำพลางหัวเราะ  “เจ้าจะปล่อยให้ปู่แอชลีย์ต้อนรับอาคันตุกะต่อไปไม่ได้นะ  ยกตัวอย่าง เมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึง  เป็นไปได้ไงที่เจ้าจะไม่ออกไปต้อนรับพระองค์?”
วอร์ตันและลินลี่ย์เข้าไปในห้องโถงใหญ่  และทันทีที่พวกเขามาถึง  พวกเขาเพิ่งหายใจได้คล่อง  โอวสวรรค์, มีคนมากมายอยู่ตรงนั้น  ช่างมากมายจริงๆ  นอกจากนี้นั่นยังเป็นส่วนเล็กๆ ของขุนนางที่ปรากฏ  ขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายคนยังเดินทางมาไม่ถึง
 “เมืองหลวงสมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ  มีขุนนางอยู่ที่นี่มากมายกว่าเมืองเฟนไลเสียอีก”  ลินลี่ย์ถอนหายใจ
ในอดีตลินลี่ย์เคยเข้าร่วมพิธีหมั้นของอลิซและคาลัน จำนวนของผู้คนที่มาร่วมในวันนั้นน้อยกว่าจำนวนคนที่มาร่วมงานพิธีในวันนี้อย่างเห็นได้ชัด  และความสามารถของผู้คนยังต่ำกว่ามาก
ตระกูลขุนนางของราชอาณาจักรย่อมมีจำนวนน้อยกว่าตระกูลขุนนางในจักรวรรดิเป็นธรรมดา
ทันทีที่ลินลี่ย์และวอร์ตันเข้ามาในหอโถงใหญ่   พวกเขาตกเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจทันที โครงร่างที่ใหญ่โตของวอร์ตันสะดุดตาได้ง่ายมากและหลายคนเข้ามาทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง
 “วอร์ตัน, มาทางนี้”  พ่อบ้านแอชลีย์เรียกเขาทันที
วอร์ตันรีบเร่งไปที่ประตูใหญ่ของห้องโถงทันทีและเริ่มทักทายแขกเหรื่อที่มาถึงทีละคนๆ สำหรับลินลี่ย์ เขาเติมแก้วไวน์จากนั้นเดินไปกลางห้องโถงชนแก้วกับอาคันตุกะในงานอย่างต่อเนื่อง
ขุนนางเหล่านี้สำนึกตนเป็นอย่างดีและไม่พยายามเข้าไปใกล้ลินลี่ย์นักหรือรบกวนเขามากเกินไป ได้แต่ชูแก้วของพวกเขาอย่างสุภาพให้ลินลี่ย์จากระยะห่าง
อย่างไรก็ตาม...
สุภาพสตรีชั้นสูงบางส่วนชม้ายชายตาให้ลินลี่ย์  พวกนางรู้ว่าลินลี่ย์ยังไม่แต่งงาน  ยอดฝีมือระดับเซียนชั้นสูงอายุราวยี่สิบปี.. จะไปหาบุรุษอื่นอย่างนี้ได้ที่ไหนกัน?
 “ปวดหัวดีแท้”  ลินลี่ย์เห็นสุภาพสตรีผู้ดีสามคนแยกออกมาและเริ่มพยายามมาทางเขา  ลินลี่ย์แกล้งทำเป็นไม่เห็นพวกนาง
เมื่อสุภาพสตรีผู้ดีทั้งสามนางเข้ามาใกล้ลินลี่ย์ในระยะหนึ่งเมตร...
 “วูบบบบ”  ลมกระโชกสายหนึ่งเกิดขึ้นทันทีดันร่างของสตรีทั้งสามไว้  ไม่ว่าพวกนางจะพยายามยังไง สุภาพสตรีทั้งสามก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ลินลี่ย์ได้
และจากนั้น ลินลี่ย์ชูแก้วของเขาและยิ้มเล็กน้อย  ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่มุมห้องโถงและนั่งลง
 “นั่นคือ..อาจารย์ลินลี่ย์...”  สุภาพสตรีผู้งดงามเยาว์วัยผมทองและนัยน์ตาสีทองตื่นเต้น  “วิชาที่น่าตื่นเต้นนั่นคือวิชาแบบไหนกัน?”
สุภาพสตรีอีกสองคนไม่รู้เช่นกัน
ไม่รู้ย่อมไม่เป็นปัญหา นี่ไม่มีผลต่อสถานะของลินลี่ย์ในหัวใจพวกนาง  ความจริงกลับตรงกันข้าม นี่ทำให้ลินลี่ย์ดูเหมือนจะยิ่งทรงพลังและลึกลับสำหรับพวกนาง  ความจริงลินลี่ย์แค่ใช้การเคลื่อนพลังลมที่ง่ายที่สุด
 “เจ้าได้เห็นร่างแปลงมังกรของอาจารย์ลินลี่ย์ในวันนั้นที่สนามประลองไหม?  ดูเหมือนเขาดุร้ายและป่าเถื่อนมากเลย ข้าตื่นเต้นมาก”
 “เขาน่าตื่นเต้นจริงๆ  ข้าชอบผู้ชายแบบนี้  พวกผู้ชายที่โรงเรียนอ่อนเหมือนนุ่นกันทุกคน ไม่มีใครที่เหมือนกับเขาเลย”
โสตประสาทของลินลี่ย์ดีมากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่สุภาพสตรีสาวแต่ละคนคุยกัน ลินลี่ย์รู้สึกในใจอยากจะออกไปเสียเหลือเกิน  พวกนางเรียกร่างแปลงมังกรของเขาว่า ดุร้าย ป่าเถื่อน? และดูมีมาดบุรุษ?”
 “จักรพรรดิเสด็จมาถึงแล้ว!
เสียงของผู้ประกาศต้อนรับอาคันตุกะที่ประตูใหญ่ดังขึ้นทันที  เห็นได้ชัดว่าเขาใช้ปราณยุทธตะโกนทำให้แขกเหรื่อในห้องโถงใหญ่ได้ยินชัดเจนทั่วกัน
ขุนนางที่เต็มอยู่ในห้องโถงใหญ่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบขณะมองไปที่ประตูใหญ่กันทุกคน  ด้านนอกห้องโถงก็มีขุนนางอยู่มากมายเช่นกัน วันนี้มีแขกเหรื่อมากมายเกินไป และห้องโถงใหญ่ไม่สามารถรองรับทุกคนในภายในได้
 “โจฮันน์มาถึงแล้ว?”  ลินลี่ย์ยืนขึ้นและเดินออกไปนอกห้องโถง
 “ใต้เท้า” เกรทส์อยู่ในชุดเครื่องแบบร้องเรียกลินลี่ย์
วันนี้ห้าพี่น้องบาร์เกอร์แต่งชุดเครื่องแบบดูภูมิฐาน ขณะที่พวกเขาเดินตรวจไปรอบๆ คฤหาสน์โครงร่างขนาดมหึมาของพวกเขาทำให้พวกขุนนางสั่นสะท้าน ขุนนางทุกคนลอบถอนหายใจ.. ตระกูลนักรบเลือดมังกรมีชื่อจริงๆ  แม้แต่องครักษ์ของพวกเขาก็ยังดูเหลือเชื่อขนาดนั้น
จักรพรรดิโจฮันน์ปรากฏในสายตาเหมือนอย่างที่คุ้นเคย  เขาจูงหัตถ์ราชินีเดินเข้ามาโดยมีราชองครักษ์เดินตามสองสามคน
 “วอร์ตัน”  จักรพรรดิโจฮันน์เห็นวอร์ตันจากกลุ่มผู้คนทันที  เมื่อเห็นว่าวอร์ตันดูหล่อและแข็งแรงเพียงไหน จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพอพระทัย  “ไม่เลว  ไม่เลว”
ลินลี่ย์เข้ามาถึง
 “ถวายบังคมฝ่าบาท เชิญเสด็จข้างในพะยะค่ะ”  ลินลี่ย์หัวเราะ
 “ได้, เรามีเรื่องอยากจะสนทนากับเจ้ามาก อาจารย์ลินลี่ย์”  จักรพรรดิโจฮันน์ตรัสอย่างเป็นกันเอง  ทั้งสองเข้าไปในห้องโถงต้อนรับอาคันตุกะทันที  ขณะที่ขุนนางอำมาตย์หลีกเปิดทางให้กับพวกเขา
ข้าราชสำนักประจำเมืองหลวงมากมายมาถึงในวันนี้  แต่ลินลี่ย์ไม่ได้ออกมาต้อนรับใครเลย  ขุนนางทุกคนรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา  จะให้นักสู้ระดับเซียนมาต้อนรับพวกเขาหรือ?  จะเป็นไปได้หรือ?
 “ประธานหอการค้าดอว์สันเดินทางมาถึง!
เสียงฟังชัดดังขึ้นอีกครั้ง  ประธานหอการค้าดอว์สัน หนึ่งในสามหอการค้าใหญ่ของทวีปยูลาน  แม้ว่าหอการค้าดอว์สันจะไม่มีมียอดฝีมือระดับเซียนแต่อย่างใด แต่ก็ยังมีพลังทางเศรษฐกิจที่น่าทึ่ง
แม้แต่จักรพรรดิโจฮันน์ก็ยืนรับและคุยกับลินลี่ย์  “หอการค้าดอว์สันคือหนึ่งในมิตรที่ดีของเรา”
ลินลี่ย์ก็ลุกขึ้นเช่นกัน
เยลมั่นใจว่าต้องมาพร้อมกับมอนโร ดอว์สันด้วย  แน่นอนว่าลินลี่ย์จะต้องต้อนรับพวกเขาแน่นอน
 “ฮ่าฮ่า...” มอนโร ดอว์สันร่างใหญ่ลงพุงเดินนำหน้าโดยมีเยลเดินเคียงข้างบิดาของเขา  เมื่อเห็นจักรพรรดิโจฮันน์ มอนโร ดอว์สันคำนับเล็กน้อยทันที  “มอนโรขอถวายบังคมฝ่าบาทจักรพรรดิโจฮันน์”
จักรพรรดิโจฮันน์ทรงแย้มอย่างเป็นกันเอง  “มอนโร วันนี้ลินลี่ย์เป็นเจ้าภาพสถานที่นี้ ไม่จำเป็นต้องมากมารยาทกับเราก็ได้”
 “อาจารย์ลินลี่ย์และข้าพระองค์เป็นสหายกันมานานแล้ว  เพียงแต่ ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา อาจารย์ลินลี่ย์จะมีความสำเร็จถึงระดับนี้แล้ว ฮ่าฮ่า...”  มอนโร ดอว์สันหัวเราะจนตาหยีด้วยอารมณ์ร่าเริง
 “ลุงดอว์สัน เรียกข้าลินลี่ย์เฉยๆ เถอะ”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะกล่าว เขากับเยลเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน เป็นธรรมดาที่เขาต้องให้เกียรติบิดาของเยลด้วย
 “วอร์ตัน มาทักทายลุงดอว์สันก่อน”
วอร์ตันเข้ามาหาเช่นกัน
 “ช่างเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาสง่างามจริงๆ” ตาของมอนโร ดอว์สันเป็นประกายเมื่อเห็นวอร์ตันชัดเจน  ขนาดและสัดส่วนของวอร์ตันทำให้เขาประหลาดใจ
ขุนนางคนแล้วคนเล่าเดินทางมาถึง และแม้แต่บลูเมอร์ก็มา  วันนี้บลูเมอร์แสดงมารยาทของสุภาพบุรุษเต็มที่  และใช้เวลาชั่วครู่กล่าวแสดงความยินดีกับวอร์ตัน
แต่ในใจของวอร์ตันยังคงรู้สึกอึดอัดมากกว่าเมื่อบลูเมอร์อยู่แถวนั้น  เขายังคงรู้สึกได้ว่าบลูเมอร์ไม่ได้พูดจากใจจริง
 “บลูเมอร์, วันนี้พี่ชายเจ้าไม่ได้มาด้วยหรือ?”  จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลขณะตรัสกับบลูเมอร์
 “พี่ชายของข้าพระบาทในตอนนี้ปิดประตูฝึกสมาธิ เพื่อเตรียมการประลองกับท่านเฮนด์เซนเดือนหน้าพะยะค่ะ”  บลูเมอร์ยิ้ม
 “โอว สมเหตุผลดีแล้ว”  จักรพรรดิโจฮันน์พยักหน้า
จากนั้นบลูเมอร์มองไปทางวอร์ตันที่กำลังต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าประตูใหญ่  ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นชา  ในใจของเขา บลูเมอร์ไม่พอใจที่วอร์ตันทูลขอแต่งงานกับนีน่าได้สำเร็จ
 “เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนเดินทางมาถึง!”
เมื่อมีเสียงดังขึ้น, จักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์ มอนโร ดอว์สันและอีกหลายคนลุกขึ้นยืนทันทีและหันหน้าไปที่ทางเข้า
 “เฮนด์เซนมา?”  ลินลี่ย์ประหลาดใจระคนยินดี  เขาคิดว่าเฮนด์เซนจะวุ่นวายกับการเตรียมตัวประลองในเดือนหน้า
ในเวลาไม่นานเฮนด์เซนในชุดยาวสีเทาเดินเข้ามาด้วยตนเอง  จักรพรรดิโจฮันน์ ลินลี่ย์ วอร์ตันและคนอื่นๆ ออกไปต้อนรับเขาทุกคน
 “ฮ่าฮ่า วอร์ตัน ขอแสดงความยินดีด้วย”  รอยยิ้มที่เป็นมิตรปรากฏอยู่บนใบหน้าของเฮนด์เซน จากนั้นเขามองลินลี่ย์ พูดเชิงหยอกล้อ  “น้องชายเจ้ากำลังจะหมั้น  แล้วเจ้าผู้เป็นพี่ชายเล่า?”
ลินลี่ย์สะดุ้ง  เขานึกไม่ถึงว่าเฮนด์เซนจะถามคำถามเช่นนั้น
 “ฮ่าฮ่าฮ่า...”  จักรพรรดิโจฮันน์ทรงพระสรวลด้วยเสียงดัง พลางพยักหน้าย้อนถาม “ลินลี่ย์  ได้เวลาที่เจ้าจะต้องแต่งงานแล้วนะ  ถ้าเจ้าหมายตาผู้ใดไว้ แค่บอกเรา เราจะส่งหญิงสาวผู้โชคดีผู้นั้นไปให้เจ้าแน่นอน”
ลินลี่ย์ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
 “ใต้เท้าจากวิทยาลัยเทพสงครามเดินทางมาถึง!”
เสียงร้องเรียกจากหน้าประตูคราวนี้ทำให้ลินลี่ย์เป็นอิสระไม่ต้องคอยตอบคำถาม เนื่องจากทุกคนไปต้อนรับคนจากวิทยาลัยเทพสงคราม
 “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าวิทยาลัยเทพสงครามจะส่งคนมาร่วมด้วย”  จักรพรรดิโจฮันน์ถอนหายใจอย่างปลาบปลื้มใจ
เฮนด์เซนก็พยักหน้าเช่นกัน  วิทยาลัยเทพสงครามเป็นหนึ่งในองค์กรที่สำคัญที่สุดในทวีปยูลาน  พวกเขาไม่ค่อยมาร่วมงานหมั้นหรืองานแต่งงาน  เว้นแต่จะเป็นงานคนของพวกตน  และมักจะเป็นศิษย์อื่นมาเข้าร่วม
แลงค์และคาสโตรเดินเคียงไหล่กันเข้ามา
คาสโตรยิ้ม  “ฮ่าฮ่า, น้องวอร์ตัน ขอแสดงความยินดีด้วย” เนื่องจากคาสโตรพบว่าอาจารย์แสดงออกต่อวอร์ตัน ดังนั้นวอร์ตันจึงมีคุณสมบัติพอให้เขาเรียกเป็นน้องวอร์ตัน
แต่สถานะนี้ทำให้ลินลี่ย์ โจฮันน์ เฮนด์เซนและคนอื่นๆ งง
สมาชิกของวิทยาลัยเทพสงครามล้วนถือดีกันทั้งนั้น
พวกเขายากจะให้ความสนใจคนอื่น  ทัศนคติของคาสโตรทำให้ผู้คนรู้สึกงงงวยจริงๆ
 “วันนี้ เราสองคนผู้เป็นศิษย์มาที่นี่ในฐานะเป็นตัวแทนของวิทยาลัยเทพสงครามเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเจ้า วอร์ตันในโอกาสที่เป็นมงคลนี้  และนี่คือของขวัญที่อาจารย์ของเราสั่งเราด้วยตนเองให้เรานำมามอบให้เจ้า”  คาสโตรยื่นกล่องบุไหมให้วอร์ตัน
อาจารย์?
ทุกคนที่อยู่รอบๆ พวกเขาตะลึง  เทพสงครามมอบของขวัญด้วยหรือ?
 “เราขอบคุณและซาบซึ้งเป็นอย่างมาก”  ลินลี่ย์เป็นคนแรกที่รู้สึกตัวก่อน  เขายิ้มและยอมรับของขวัญแสดงความยินดี  “ท่านคาสโตร, ท่านแลงค์เชิญนั่งพักตรงนี้”
กล่าวโดยทั่วไป บ่าวทาสจะเป็นผู้รับของขวัญร่วมแสดงความยินดีที่หน้าประตู... แต่พนักงานลงทะเบียนของขวัญในคฤหาสน์ท่านเคานท์จะกล้ารับของขวัญของคนจากวิทยาลัยเทพสงครามหรือ?  ต่อให้พวกเขามามือเปล่า  นั่นก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้ว
คฤหาสน์ท่านเคานท์มีเสียงดังจอแจ  ขุนนางชั้นสูงหลายคนเช่น ดยุคและเคานท์ต่างก็สนทนาในกลุ่มพวกเขากันเอง  ขณะที่ลินลี่ย์ จักรพรรดิโจฮันน์ มอนโร ดอว์สัน  คาสโตร  แลงค์  เฮนด์เซนและคนอื่นๆ ก็สนทนาเช่นกัน
แขกเหรื่อในงานพิธีหมั้นหมายล้วนดูเหลือเชื่อกันทั้งนั้น
แค่เพียงแต่ดูการจัดแถวที่นั่ง  ที่โต๊ะของลินลี่ย์ มีคนที่ไม่ได้เป็นนักสู้ระดับเซียนก็คือ จักรพรรดิ, ประธานหอการค้า ในขณะนี้เท่านั้น
 “นักสู้ระดับเซียนกำลังบินอยู่โน่น”  หลายคนร้องบอก  ลินลี่ย์มองผ่านประตูไปที่ท้องฟ้า  และเป็นความจริง เมื่อเห็นบุรุษผู้หนึ่งทะยานผ่านกลุ่มเมฆออกมาอย่างสง่างาม
ลินลี่ย์  จักรพรรดิโจฮันน์และคนอื่นๆ ลุกขึ้นยืนด้วยความสับสน
แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร เนื่องจากท่านผู้นี้เป็นนักสู้ระดับเซียน  พวกเขาก็ต้องเห็นแก่หน้าเขา
แค่ชั่วประกายวูบขึ้นในกลางอากาศบุรุษผู้นั้นก็มาถึงประตูใหญ่  นี่คือชายชราผมขาว มีเครายาวเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนยุคเก่า แต่ดวงตาสีฟ้าเหมือนฝันดูคมชัด
 “ฮ่าฮ่า ข้ามาโดยมิได้รับเชิญ  ข้าหวังว่าที่นี่คงจะไม่ถึงกับไม่ต้อนรับข้านะ?”  ชายชราผมขาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
เขาไม่ได้แม้แต่จะมองดูลินลี่ย์และคนอื่นๆ  แต่กลับบินเข้าไปที่ซึ่งลินลี่ย์และคนอื่นๆ นั่งอยู่แล้ว  ขณะที่เขาเข้าไปใกล้  เฮนด์เซนและคาสโตรรีบหลีกทางให้เขา และชายชราผมขาวนี้นั่งบนเก้าอี้ที่เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนนั่งอยู่ก่อนหน้านั้น
 “ที่นั่งนี้ดี  ข้าจะนั่งตรงนี้”  ชายชราผมขาวหัวเราะลั่น
จักรพรรดิโจฮันน์ขมวดคิ้ว  บุรุษผู้นี้ไร้มารยาทไปหน่อย  ลินลี่ย์ก็รู้สึกเช่นกันว่าชายชราผมขาวผู้นี้ยโสเกินไปบ้าง
 “ข้าขอถาม...” ก่อนที่ลินลี่ย์จะมีโอกาสพูดจบคำ  เซียนดาบจ้าวภูผาเฮนด์เซนรีบพูดด้วยน้ำเสียงที่สุภาพทันที  “ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าท่านจะมาถึงที่นี่ ใต้เท้า  นับว่าสร้างความประหลาดใจให้เราอย่างคาดไม่ถึง”
คาสโตรและแลงค์ที่ยืนเคียงข้างกันพยักหน้าอย่างนอบน้อม  ท่าทีของพวกเขาอ่อนน้อมอย่างเหลือเชื่อ

9 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

เทพสงคราม???

สุดยอด กล่าวว่า...

เอาแล้วไง 555

Unknown กล่าวว่า...

นักพรต แน่เลย

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BB กล่าวว่า...

พอลินลี่โดนถาม คิดถึงดีเลียเลย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น