วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก – ตอนที่ 4 ดาบนามว่าประหารปรปักษ์


เล่มที่ 9 สร้างชื่อสะท้านโลก ตอนที่ 4 ดาบนามว่าประหารปรปักษ์
ลินลี่ย์หันหน้ามามองน้องชาย  เขายิ้มพลางกล่าว  วอร์ตัน, บลูเมอร์ผู้นี้รู้วิธีการที่ได้ผลและยังท้าทายเจ้า ดูเหมือนเขามั่นใจมาก

วอร์ตันพูดด้วยความมั่นใจ  ไม่ต้องห่วงพี่ใหญ่  เรานักรบเลือดมังกรกลัวคนในระดับเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
 นั่นคือความเชื่อมั่นที่เจ้าควรมี
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบลูเมอร์ที่หายลับตาไป  ข้าสังเกตเห็นกระบี่ของบลูเมอร์ ดูเหมือนว่าจะมีความพิเศษ
 ใช่แล้ว กระบี่ของบลูเมอร์รวดเร็วมาก  เมื่อเขาเข้าร่วมแข่งขันคัดตัวเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ เขามีชื่อเสียงในเรื่องกระบี่ไว  แต่กระบี่ไวปกติจะไม่ทรงพลังนัก  เขาอาจจะเอาชนะศัตรูที่เป็นระดับเก้าธรรมดาได้  แต่เพราะพลังป้องกันของข้าต่อให้เขาฟันใส่ข้าได้  ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะไม่สามารถทำลายพลังป้องกันของข้าได้   วอร์ตันยังมั่นใจมากอยู่  ถ้าการแข่งคัดเลือกศิษย์กิตติมศักดิ์คัดเอาผู้ชนะเลิศในการแข่งขันทั้งหมด  มีแนวโน้มว่าผู้ชนะเลิศอาจไม่ใช่เขาก็ได้
ลินลี่ย์ยิ้มและใช้ไหล่เขากระทบไหล่วอร์ตัน  พอได้แล้ว, ศิษย์กิตติมศักดิ์ของวิทยาลัยเทพสงครามหรือ? ฮึ ไปกันเถอะ ได้เวลากลับบ้านกันแล้ว
ในฐานะเชื้อสายของตระกูลนักรบเลือดมังกร  ลินลี่ย์และวอร์ตันมีความภาคภูมิใจกันทั้งสองคน
บลูเมอร์รีบแจ้งให้จักรพรรดิโจฮันน์ทราบถึงเรื่องท้าประลอง และจักรพรรดิโจฮันน์ส่งคนไปถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับวอร์ตัน  หลังจากทรงทราบว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นแน่  โจฮันน์มีราชโองการทันทีให้จัดการตระเตรียมสนามประลองฝีมือระหว่างอัจฉริยะทั้งสองคน
ชาวเมืองหลวงทุกคนตื่นเต้นหลังจากที่ได้ทราบข่าวการประลองที่จะมีขึ้นนี้
คนหนึ่งบลูเมอร์เป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพสงคราม นักรบระดับเก้า
อีกคนหนึ่งสืบสายตระกูลนักรบเลือดมังกร วอร์ตันอัจฉริยะจากสถาบันโอเบรียน!
ที่สำคัญที่สุด...
อัจฉริยะทั้งสองคนนี้กำลังหมายปององค์หญิงเจ็ด เพราะนิสัยของคนทั่วไปชอบมีส่วนร่วมในการนินทาอยู่แล้ว  หลายๆ คนเริ่มพูดว่าอัจฉริยะทั้งสองคนเปิดศึกชิงนางเพื่อองค์หญิงเจ็ด  ข่าวลือทั้งหมดเกี่ยวกับวอร์ตัน บลูเมอร์และนีน่าเริ่มเป็นที่พูดคุยกันตามถนน ตรอกเล็กซอกซอยในเมืองหลวง
เมืองแชนน์ด้านตะวันออก  คฤหาสน์ของเคานท์วอร์ตันบนถนนโบลเดอร์ ภายในลานฝึกฝีมือ
ลินลี่ย์และวอร์ตันต่างยืนอยู่ด้านตรงข้ามของสนามฝึกฝน  พ่อบ้านแอชลีย์, ฮิลแมน, บาร์เกอร์และคนอื่นๆ กำลังมองดูอยู่ห่างๆ
การประลองที่จะมีขึ้นวันที่ 4 กุมภาพันธ์นั้นวอร์ตันจะต้องชนะ
ลินลี่ย์จ้องมองวอร์ตัน  วอร์ตัน! เนื่องจากบลูเมอร์มีชื่อเสียงทางด้านใช้กระบี่ไวโจมตี  ข้าจะเป็นคู่ซ้อมให้เจ้าใช้กระบี่ไวโจมตี  จงอย่าลังเลแม้แต่น้อย ใช้พลังทั้งหมดของเจ้าสู้กับข้า
 ได้เลย, พี่ใหญ่ เขาเปลือยกายท่อนบน  วอร์ตันแปลงร่างของเขาทันที
เกล็ดมังกรสีฟ้าเริ่มครอบคลุมร่างทั้งหมดของวอร์ตัน  แขนและขาของเขาเริ่มปกคลุมไปด้วยเกล็ดเช่นกัน ขณะที่เล็บของเขาเริ่มงอกยาวออกมาและแหลมคม  หางมังกรผุดออกมาจากด้านหลัง และเขามังกรเดี่ยวงอกออกมาจากหน้าผาก
ตาของเขายังคงเป็นสีดำ มีประกายสีทองเป็นครั้งคราว
 นี่คือร่างนักรบเลือดมังกรที่มีอำนาจที่แท้จริงของตระกูลเรา  เมื่อเห็นร่างแปลงของน้องชาย ลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นมาก เขาตะโกนเสียงดังลั่นทันที  วอร์ตัน! โจมตีข้าสุดกำลัง เร็ว
 เข้าใจแล้ว
ตาของวอร์ตันเป็นประกายและกระโจนจากพื้นเต็มกำลังทำให้พื้นดินที่เขายืนอยู่สั่นสะเทือน  ร่างแปลงของวอร์ตันพลันพร่าเลือนขณะที่เขาจู่โจมใส่ลินลี่ย์ มือของเขาจับดาบศึกประหารปรปักษ์แน่นที่มีคราบโลหิตติดอยู่เสมอ
 กวัดแกว่งของเบาเสมือนเป็นของหนัก!”  เทพกระบี่เลือดม่วงในมือของลินลี่ย์แฝงไปด้วยพลังที่หนักหน่วงมหาศาล ดูเหมือนจะลอยขึ้นด้วยความเร็วที่เชื่องช้าเข้าหาดาบประหารปรปักษ์  มันสามารถต้านรับดาบพิฆาตได้ด้วยวิถีที่แปลกประหลาด
 ปัง!”  พลังทั้งสองปะทะกัน
ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาถูกดาวตกขนาดยักษ์กระแทกใส่ เนื่องจากพลังประหลาดจากแรงระเบิดถูกส่งผ่านเข้าไปในเทพกระบี่เลือดม่วงของเขา
 “เขาแข็งแรงอย่างเหลือเชื่อจริงๆ  แรงฟันปกติจากเขาเท่ากับเราในร่างมนุษย์ที่ใช้เคล็ดกวัดแกว่งของเบาเสมือนของหนัก”  ลินลี่ย์อดถอนหายใจชมเชยไม่ได้  นักรบเลือดมังกรมีระดับความแข็งแรงที่ทรงพลังจริงๆ
ลินลี่ย์บิดตัวเหมือนพายุหมุนหลบเฉียดวอร์ตันไปอย่างง่ายดาย
 “ควั่บ!”
ประกายม่วงปรากฏขึ้นเก้าครั้ง  นี่เป็นเพียงการโจมตีที่ใช้ระดับความเร็วธรรมดาของเทพกระบี่เลือดม่วง  ลินลี่ย์ยังคงกังวล แม้ว่ากระบี่ของบลูเมอร์จะไวมากก็ตาม แต่บางทีเขาน่าจะทำได้เพียงเข้าถึงความเร็วระดับนี้เป็นอย่างมากที่สุด
เมื่อเท้าของเขาแตะพื้นได้ วอร์ตันกระโจนกลับหลังหลบอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาใช้ดาบศึกประหารปรปักษ์ในมือป้องกันการโจมตีของลินลี่ย์
แต่แม้จะสามารถป้องกันการโจมตีได้หกครั้ง  แต่พลังโจมตีจากลินลี่ย์ถูกต้องร่างของวอร์ตันสามครั้ง  พลังโจมตีนี้เป็นพลังโจมตีปกติที่ลินลี่ย์ใช้ตอนอยู่ในร่างมนุษย์
 “แคล้ง  แคล้ง  แคล้ง!”
เสียงโลหะดังก้องได้ยินสามครั้ง  เส้นขาวเลือนรางสามขีดปรากฏอยู่บนเกล็ดสีฟ้าของวอร์ตัน
 “ฮ่าฮ่า...วอร์ตัน ดูเหมือนว่าข้าไม่ได้ใช้พลังสักนิดนะ  ข้าไม่สามารถทำร้ายเจ้าได้เลยแม้แต่น้อย”
วอร์ตันมองดูพี่ชายอย่างจริงจัง  “พี่ใหญ่ ไม่ต้องออมมือ”
 “ในร่างมนุษย์ ลินลี่ย์เป็นเพียงนักรบระดับเก้าชั้นต้น
แต่ตอนนี้วอร์ตันเป็นนักรบเลือดมังกรระดับเก้าชั้นสูงแล้ว  ในแง่ของความแข็งแกร่ง ปราณยุทธ หรือพลังป้องกันตัว เขาโดดเด่นกว่าลินลี่ย์มากมาย
 “ใต้เท้า ถ้าท่านยังออมมือต่อไป ข้าเกรงว่าวอร์ตันจะล้มท่านได้ง่ายๆ”  เกทส์ตะโกนลั่นจากข้างๆ
ลินลี่ย์หัวเราะส่ายศีรษะ
 “วอร์ตัน ระวังให้ดี”
ลินลี่ย์เคร่งขรึมมากขึ้น และจากนั้นเขาเริ่มเร่งความเร็วทันที  ลานฝึกทั้งหมดดูเหมือนจะเต็มไปด้วยลมพัดกระโชกรุนแรงทันทีเนื่องจากร่างของลินลี่ย์ใช้ความเร็วระดับที่น่ากลัว
 “ควั่บ!”  เทพกระบี่เลือดม่วงฟันใส่วอร์ตันและดูเหมือนจะกดข่มวอร์ตันไว้ในพื้นที่รอบตัวเขา
เคล็ดกำหนด!
วอร์ตันรู้สึกว่าแรงกดดันที่เหลือเชื่อกำลังมาทางเขา  แต่เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์อันตรายนี้เลือดมังกรในกายของเขาเริ่มเดือด  วอร์ตันคำรามลึกระเบิดปราณเลือดมังกรในตัวทำให้พลังป่าเถื่อนนี้ระเบิดออกมาจากดาบศึกประหารปรปักษ์ของเขา
 “ควั่บ”
อากาศที่กักตัวเขาไว้ถูกตัดเปิดและดาบศึกปะทะเข้ากับเทพกระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์โดยตรง
แต่เทพกระบี่เลือดม่วงของลินลี่ย์เพียงสั่นเล็กน้อย  จากนั้นเปลี่ยนเป็นเงากระบี่หกสาย  ในช่วงเวลากระชั้นเช่นนั้นวอร์ตันไม่สามารถใช้ดาบศึกของเขาป้องกันได้
 “ฮ่าาาาห์!” วอร์ตันกำลังหมัดซ้ายซึ่งมีแสงสีฟ้าครอบคลุม
 “ปัง  ปัง  ปัง ปัง!”
เงากระบี่หกสายเปลี่ยนเป็นตัวกระบี่เลือดม่วงแท้อีกครั้งหนึ่งแทงใส่วอร์ตันอีกครั้งมันแฝงรังสีทะลุทะลวงน่ากลัวจนทำให้วอร์ตันสั่น
การกวัดแกว่งของเบาเสมือนเป็นของหนัก! รวดเร็วดุจสายฟ้า!
ในพริบตา  ลินลี่ย์แทงใส่จุดเดิมบนร่างวอร์ตันถึงสี่ครั้ง  การแทงซ้ำๆ เหล่านี้แทงผ่านปราณยุทธและเกล็ดป้องกันตัวของวอร์ตันตอกเข้าไปในเนื้อของเขา
ไม่ช้าเขาก็แทงผ่านเกล็ดได้  อย่างไรก็ตามลินลี่ย์รั้งกระบี่และถอยกลับออกมา
วอร์ตันยืนตะลึงอยู่กับที่  จากนั้นเงยหน้ามองดูลินลี่ย์ เขาพูดด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ  “พี่ใหญ่, ท่านเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร?”  เขาไม่มีความสามารถพอตั้งตัว  จากตรงนี้ ใครๆ ก็พอจะจินตนาการในสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาโจมตีสั้นๆ  แต่ลินลี่ย์ก็ยังโจมตีเต็มที่ได้สี่ครั้ง!
 “เจ้าเรียกนั่นว่าเร็ว?  ถ้าข้าใช้จนถึงขีดจำกัดข้า  แล้วในสถานการณ์อย่างนั้น ข้าจะยังโจมตีได้อีกหกกระบี่  นี่อาศัยความเร็วล้วนๆ ไม่ได้อาศัยความลี้ลับหรือความรู้แจ้งกฎที่ลึกซึ้งเลย  ถ้าข้าใช้เคล็ดระลอกลม...”  รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของลินลี่ย์  “ในพริบตาเดียวข้าสามารถใช้กระบี่โจมตีได้หลายร้อยทีหรืออาจมากกว่านั้น!”
ที่ใดมีลม กระบี่ของเขาสามารถปรากฏได้
พลังของเคล็ดระลอกลมอยู่บนพื้นฐานคำๆ เดียวคือ ‘เร็ว’  เร็วมากจนดูเหมือนเป็นการเทเลพอร์ต  แต่เพราะความเร็วในการเข้าถึงดังกล่าวก็หมายความว่าพลังโจมตีในแต่ละครั้งจะไม่สูงมากนัก  แต่ด้วยพลังโจมตีของกระบี่เป็นร้อยผสานเข้าด้วยกัน พลังโดยรวมจึงสูงส่งอย่างน่าประหลาด
 “โจมตีร้อยกระบี่?”  วอร์ตันตกใจ  “แต่... ยังดีที่ความเร็วของบลูเมอร์ยังด้อยกว่าท่านมาก  พี่ใหญ่, ถ้าเขาไวขนาดนี้ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ดีกว่า”
 “อย่าหวังแต่อาศัยโชค”  ลินลี่ย์เตือนอย่างเย็นชา  “วอร์ตัน, เจ้ามั่นใจมากพอนะว่าเจ้ารู้จักความเร็วสูงสุดของบลูเมอร์?”
 “ไม่, ข้าไม่รู้”  วอร์ตันส่ายศีรษะ
 “ใช้พลังของเจ้าทั้งหมดจู่โจมใส่ข้า”  ลินลี่ย์กล่าวจริงจัง
 “ได้เลย พี่ใหญ่”  วอร์ตันเคร่งขรึมขึ้นเช่นกัน  “การโจมตีนี้เป็นสิ่งที่ข้าพัฒนาขึ้นมาจากความเข้าใจเคล็ด ‘กวัดแกว่งของหนักเสมือนของเบา’  ชื่อของท่าก็คือ ‘ดาบเดี่ยวสังหาร’ วอร์ตันจับดาบศึกประหารปรปักษ์ด้วยมือทั้งสอง  และเงาโลหะสะท้อนอยู่ที่คมดาบ
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของลินลี่ย์
 “นั่นคือชื่อที่ข่มขวัญดี”  ลินลี่ย์กวัดกระบี่เลือดม่วงในมือเดียว
 “ควั่บ!” วอร์ตันเร่งความเร็วในระดับสูงสุด และปรากฏตัวต่อหน้าลินลี่ย์ในพริบตา ดาบศึกประหารปรปักษ์ดูเหมือนจะร่ายรำอยู่ในมือของเขาคล่องแคล่วเหมือนกับใบไม้ร่วง  “วืด!” มันฟันเข้าใส่ลินลี่ย์
แม้ความประทับใจที่มันแสดงออกดูเหมือนกับจะเคลื่อนไหวได้ช้า  แต่ในพริบตาก็มาถึงหน้าลินลี่ย์แล้ว  เมื่อเผชิญกับพลังฟันเช่นนี้ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงพลังอำมหิตและกระหายเลือดที่แฝงมากับดาบ
ลินลี่ย์ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
 “แคล้ง  แคล้ง  แคล้ง....”
ดูเหมือนลินลี่ย์จะกลายเป็นดวงอาทิตย์ขณะที่เขาแผ่รัศมีสีม่วงเป็นล้านสาย ประกายแสงสีม่วงนี้สว่างเจิดจ้าเข้าปะทะกับดาบศึกประหารปรปักษ์  พลังโจมตีที่น่ากลัวของดาบศึกประหารปรปักษ์ที่เดิมทีครองพลังที่ช้า แต่กลับต่อต้านสลายโดยแสงเจิดจ้าสีม่วงนับล้านๆ สาย
 “ปัง!”  ดาบศึกถูกส่งกระเด็นไป และวอร์ตันเองถูกประกายสีม่วงฟันหลายครั้งส่งผลให้เขาปลิวกระเด็นเช่นกัน
วอร์ตันไอสองครั้งและลูบอกขณะลุกขึ้นยืน
 “ไม่เลว มันทรงพลังมาก”  ลินลี่ย์พูดอย่างเห็นด้วย  “ความจริงต้องใช้ถึงสิบ..ไม่ใช่สิ สิบหกกระบี่ของข้าโจมตีจึงจะสลายพลังโจมตีของเจ้าได้”  เมื่อใช้ระลอกลม ทุกกระบี่ที่ฟันใส่ค่อนข้างอ่อนแอ
ความจริงถ้าลินลี่ย์ต้องโจมตีเต็มกำลัง การฟันแต่ละครั้งจะมีพลัง 25% ของแรงฟันของวอร์ตัน
พูดให้ถูกก็คือ ลินลี่ย์สามารถสลายพลังโจมตีของวอร์ตันด้วยการฟันเพียงสี่ครั้งเท่านั้น
 “ตามหลักการ ไม่น่าจะมียอดฝีมือระดับเก้าที่รับมือเจ้าได้ เว้นแต่พวกเขาจะเป็นสุดยอดนักรบ  ในกรณีของเจ้า เจ้าอาจสู้ด้วยฝีมือเจ้าได้” ลินลี่ย์พูดทำนองเห็นด้วย
 “นอกจากนี้”  ลินลี่ย์มองวอร์ตัน  “เจ้าจำเป็นต้องเรียนรู้ควบคุมปราณยุทธของเจ้าให้คล่องแคล่วขึ้น และวิธีเคลื่อนไหวให้ว่องไว  เจ้าไม่ควรปล่อยให้คู่ต่อสู้โจมตีใส่ที่จุดเดียวซ้ำๆ หลายครั้ง”
วอร์ตันพยักหน้า
 “ใต้เท้า”  บ่าวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาแสดงความเคารพ  “ใต้เท้า มีคนผู้หนึ่งบอกว่าชื่อเรย์โนลด์แจ้งว่ามาขอพบท่านลินลี่ย์”
 “เรย์โนลด์?”  ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
ลินลี่ย์ไม่สนใจคุยกับน้องชายต่อไปรีบวิ่งออกไปนอกคฤหาสน์  ลินลี่ย์ไม่ได้พบน้องสี่เรย์โนลด์มาเก้าปีเต็ม
เมื่อไปถึงลานหน้าคฤหาสน์ลินลี่ย์ชะลอฝีเท้าลง
เมื่อเห็นร่างที่อยู่นอกประตู  ลินลี่ย์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาย้อนเวลากลับไปช่วงเวลาเยาว์วัยที่สุขใจที่สุดซึ่งได้ใช้เวลาร่วมกับพี่น้องของเขา  เมื่อเด็กหนุ่มทั้งสี่คนไปที่สวรรค์วารีหยกเพื่อดื่มกินและสนุกสนาน
วันเวลาที่ห่างไกลเหล่านั้นสนุกสนานมาก
และตอนนี้  เรย์โนลด์ในปัจจุบัน...
เรย์โนลด์สวมชุดยาวเรียบง่าย  แต่เอวของเขาตอนนี้ตั้งตรง  เขาใช้เวลาอยู่ในกองทัพนานปีจึงทำให้เขามีราศีของทหาร  และตอนนี้เรย์โนลด์สูง 1.9 เมตร
 “น้องสี่!”
เรย์โนลด์กำลังรออยู่หน้าประตูได้ยินเสียงตะโกน  เขาชะเง้อมองทันที และตาเขาเป็นประกาย  ลินลี่ย์เปลี่ยนไปเช่นกัน อัจฉริยะที่แพรวพราวตอนนี้สำรวมและสงบมากขึ้นกว่าเดิม  “พี่สาม!”
 “ฮ่าฮ่า...”
สองพี่น้องวิ่งเข้ามากอดกันและกัน
 “คาดไม่ถึงเลยว่าเป็นเจ้า, น้องสี่ เจ้าคงเข้าร่วมกองทัพแน่  เป็นเวลาเจ็ด หรือแปดปีแล้วใช่ไหม?  ตอนที่เจ้ายืนอยู่ที่หน้าประตู ข้าไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นเจ้าจริงๆ  ข้ายังสงสัยตัวเองอยู่  ทำไมนายทหารถึงมาที่นี่?”  ลินลี่ย์หยอกล้อ
เรย์โนลด์ตีหน้าอกลินลี่ย์เบาๆ  “พี่สาม, โธ่เอ๊ย, ข้าไม่มีทางเลือก ได้แต่ร่วมกองทัพ  ผู้อาวุโสของข้าบังคับข้า แล้วข้าจะทำอะไรได้?”
 “โชคดีที่ตอนที่ข้าโดดงานเยลส่งคนมาแจ้งข้าว่าเจ้ามาถึงเมืองหลวง  ตอนข้ากลับ ข้าตั้งใจมาเยี่ยมน้องชายเจ้าและมองหาเจ้าด้วย  ข้ารู้สึกมั่นใจว่าเมื่อมาถึงเมืองหลวง เจ้าจะต้องไปบ้านน้องชายแน่ แล้วดูสิ? เจ้าอยู่นี่จริงๆ”
 “ฮ่าฮ่า, เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”
หลังจากแยกจากกันเก้าปี  พี่น้องทั้งสองนี้มีเรื่องราวนับไม่ถ้วนต้องสนทนากัน  พวกเขาไม่เจอกันมานานเก้าปี  เก้าปีต่อมาบุรุษทั้งสองต่างก็ประสบความสำเร็จ

13 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

ผมว่าสลับกันมั้งมั้ยเอาเรื่องนี้2ตอนเอาถังเถียนลง1ตอนมั้งพรุ้งนี้ กำลังสนุกเลย

akensa กล่าวว่า...

เมื่อไหร่่สี่พี่น้องจะพร้อมหน้ากันอีกครั้ง...

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Frankmartinn กล่าวว่า...

ทรุป

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

ต้องมีของอะไรมาให้วอร์ตันแน่

นักอ่านนิรนาม กล่าวว่า...

+1

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

ทิชา กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

youngester กล่าวว่า...

+1

Unknown กล่าวว่า...

ตอนแรกมาอ่านเว็บนี้ มาอ่านเรื่อง เย่หยาง
ก็มี ถังเทียน มาแทรก ก็อ่านๆไป ละก็ติดเรียบร้อย
แต่...ตอนนี้ ค้าง ติด ลินลี่ มากครับ
อ๊ากกกก รอออ
ขอบคุณครัย

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น