ตอนที่
636 ถนนทอง
ในที่สุดสมาพันธ์ชาวยุทธก็ปรากฏ
สิ่งที่คนร่างผอมสูงใช้ก็คือวิชาพลังจิตวิญญาณที่นำมาจากวิหารเซียน
แม้จะมีบางส่วนที่แตกต่าง แต่ถังเทียนจำได้
‘ทวีปกวงหมิง (ทวีปเกียรติยศชาวยุทธ
ต่อไปขอเรียกทับศัพท์ดีกว่านะครับ ง่ายดี)
บุรุษร่างผอมสูงถูกส่งมาจากทวีปกวงหมิง
ใครก็รู้ได้ทันทีว่าผู้หนุนหลังของเหออิงก็คือทวีปกวงหมิง’
ถังเทียนคิดถึงริชาร์ด
เขาไม่ได้ส่งข่าวมาถึงสองวันแล้ว เมื่อคิดถึงสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิง
ต่อให้ริชาร์ดต้องการหาตัวพวกเขา ก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
‘เหออิงจะต้องมีแผนตอบโต้ในไม่ช้านี้แน่’
แต่ถังเทียนยังคงสงสัย ถ้าบุรุษผอมสูงก็ยังได้แรงหนุนหลัง
ทวีปกวงหมิงกับวิหารเซียนมีวิธีติดต่อกันได้โดยเฉพาะ แม้วิหารเซียน
และทวีปกวงหมิงก็สามารถรับข้อมูลได้ง่าย
แต่ถังเทียนไม่คิดเรื่องนี้มากนัก คิดไปก็ไร้ประโยชน์
ควรจะคิดถึงการสู้รบที่จะมาถึงดีกว่า
‘แผนของทวีปกวงหมิงยังไม่เป็นที่รู้กัน
แต่เหออิงคงไม่มีทางถอยแน่นอน
ตราบใดที่เขาพลาด เขาก็ตาย’
‘เหออิงจะไม่มีทางออก
อย่างนั้นพวกเขาจะมีได้ยังไงกัน?’
ความตั้งใจสู้ของถังเทียนยิ่งลุกโชน เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะต้องมาเจอกับทวีปกวงหมิง
(เกียรติยศชาวยุทธ) ไวนัก
ถังเทียนผู้เข้าสู่สถานะต่อสู้จะกลายเป็นคนเยือกเย็นและหลักแหลมเป็นพิเศษ
เขาจะคิดได้เร็ว
สิ่งที่พวกเขาจะต้องเผชิญก็คือกองพลที่สองของเหออิง
กองทัพระดับเงินของแท้
แม้ว่าหน่วยหน้าทะลวงฟันจะถูกทำลายไปแล้วและกองพลที่สองได้รับผลกระทบ แต่หน่วยกองหน้าทะลวงฟันอาจนับได้ว่าเป็นอาวุธคมกล้าสำหรับกองทัพ แต่ไม่ใช่แกนหลักที่แท้จริง
ถ้าพวกเขาต้องสู้กันนอกเมือง
ด้วยกองพลนางแอ่นและกองกำลังกะโหลกต้องมาต่อกรกองพลที่สอง พวกเขาไม่มีโอกาสสักนิด เว้นแต่ความจริงที่ว่ากองกำลังกะโหลกได้ชัยชนะอย่างสวยงาม แต่เวลาที่กองพลนางแอ่นและหน่วยกะโหลกเพิ่งอยู่ในความดูแลของถังโฉ่วระยะเวลาสั้นๆ
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เหออิงคงต้องการให้พวกเขาจากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แต่ตอนนี้เหออิงจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาหลุดมือไปแน่นอน
พวกเขาจะไม่อยู่ในสถานการณ์ที่นิ่งเฉยต่อไป
สิ่งที่โชคดีก็คือ
กองพลที่สามและสี่ออกไปแล้ว
ถ้าไม่อย่างนั้นสถานการณ์ของพวกเขาจะรุนแรงมากขึ้น
แต่ไม่มีข่าวของกองพลที่หนึ่งซึ่งเป็นตัวแปร ทันใดนั้นถึงเทียนคิดได้
การมาเยือนของคุณชายใหญ่ก็โดยการแนะนำของซัวปี่
นั่นก็หมายความว่าซัวปี่รู้ตัวก่อนนั้น
ถ้าพวกเขาหลบหนีไปก็จะเป็นการให้โอกาสกองพลที่สองทำลายพวกเขา ถ้าพวกเขายืนหยัดป้องกันไว้ได้ พวกเขาจะสามารถชดเชยข้อเสียเปรียบได้
“ถ้าเราพูดถึงการป้องกัน
นายท่าน, สถานที่นี้ไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง”
ถังโฉ่วพูดตามตรง
เขาไม่เคยเห็นกองทัพระดับเงินอยู่ในสายตา ถ้าให้เวลาเพียงพอ
เขาเชื่อว่าเขาสามารถเปลี่ยนกองทัพทั้งสองเป็นกองทัพระดับเงินได้ แต่ตอนนี้ ยังมีช่องว่างใหญ่
และนั่นเป็นความจริง
ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับคำสั่งให้ตั้งรับป้องกัน แต่หลังจากรู้ว่าพวกเขากำลังจะเผชิญหน้ากับกองทัพระดับเงิน
เขาส่งเสียงทันที
“เราจะไปที่ถนนทอง”
ถังเทียนผู้กำลังเค้นสมองคิดอะไรบางอย่างได้ทันที ปิงไม่ได้อยู่ข้างตัวเขา ถังโฉ่วไม่นึกถึงเมืองทรายขาว ดังนั้นเขาไม่มีทางเลือก แต่จำต้องวางแผนอย่างหนึ่ง
“ถนนทอง?” ถังเทียนไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน แต่คุณชายใหญ่และหลิงเซี่ยมีท่าทางตกใจ
“ถนนทองมีอาคารสูงมากมาย พื้นที่ซับซ้อนและเป็นประโยชน์ต่อเรามาก”
ถังเทียนที่อยู่ในสภาวะต่อสู้เหมือนกับกลายเป็นอีกคนหนึ่งอย่างสิ้นเชิง
สัญชาตญาณของเขาแหลมคม
ประสบการณ์ต่อสู้ของเขาทำให้เขานึกถึงรายละเอียดที่ปกติแล้วเขาไม่ได้นึกถึง
จากนั้น “และเพื่อป้องกันการบุกปล้น
ร้านค้าค่อนข้างจะมีการป้องกันเป็นอย่างดี
ถ้าเราแค่เปลี่ยนแปลงที่นั่นเพียงเล็กน้อย
อาคารเหล่านั้นจะกลายเป็นสถานที่ป้องกันชั้นดี”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น
นั่นก็เป็นตำแหน่งที่ดี” ถังโฉ่วส่งเสียง
“แต่ร้านค้าเหล่านั้นเป็นของเจ้า...” หลิงเซี่ยลังเลใจ
แต่คาดไม่ถึงเลยว่าคุณชายใหญ่จะเป็นคนพูด “มาถึงจุดนี้แล้ว ใครจะสนใจเรื่องนั้นกันเล่า”
เขาตั้งใจไว้แล้ว หลังจากทุกอย่างเกิดขึ้น
เขาเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างสิ้นเชิง
ถ้าไม่ใช่เพราะถังเทียนปกป้องไว้ เขาคงถูกเหออิงฆ่าจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกไปแล้ว
“แล้วพวกนางเล่า?” หลิงเซี่ยมองดูสุภาพสตรีที่อยู่ในคฤหาสน์จันทรา
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
ฉินอวี่หรันที่รู้สึกกระวนกระวายรีบพูดขึ้น
“พี่เหมิ่ง ท่านต้องช่วยพวกนางนะ!”
ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะ และกล่าว “หลิงเซี่ย เจ้าไปบอกพวกนาง
พวกที่ยินดีจะจากไปพร้อมกับเรา ก็ให้ตามเรามา
ถ้าไม่อย่างนั้นก็ปล่อยให้พวกนางอยู่
ข้าให้เวลาหนึ่งนาที”
หลิงเซี่ยไม่ลังเล แม้ว่าสุภาพสตรีพวกนี้จะเป็นภาระ แต่นางรู้คุณค่าของพวกนาง ถ้าพวกนางปฏิเสธพวกเขา
ก็มีแนวโน้มว่าพวกนางจะไปหาเหออิงซึ่งก็หมายความว่าครอบครัวพวกนางจะสนับสนุนเหออิงแทน
“ข้าจะไปกับเจ้า” ฉินอวี่หรันกล่าว
ในเวลาอันรวดเร็วสุภาพสตรีทุกคนยอมติดตาม
การแสดงออกถึงความสงบและมั่นคงของฉินอวี่หรันทำให้ทุกคนเชื่อใจพวกเขา ที่สำคัญยิ่งกว่า ไม่มีใครกล้ารั้งอยู่ ในสถานการณ์วุ่นวายอย่างนั้น
การแยกออกจากกลุ่มใหญ่อาจหมายถึงความตาย
แม้แต่คนที่ใกล้ชิดพวกเขากับเหออิงยังไม่กล้าอยู่ ก่อนที่เหออิงจะมาถึง พวกอันธพาลเล็กน้อยอาจจะพบพวกนางก่อนก็ได้
“บอกพวกนางให้ตามไปกับกองทัพ ใครก็ตามที่แตกแถวอาจตายได้”
น้ำเสียงที่เย็นชาของถังเทียนทำให้หัวใจฉินอวี่หรันสะท้าน พี่เหมิ่งหนานที่อยู่ต่อหน้านางเป็นคนแปลกหน้า หรือบางทีนี่อาจเป็นพี่เหมิ่งจริงๆ ก็ได้
นางรู้ว่าพี่เหมิ่งไม่ใช่คนที่ชอบขู่ขวัญคน
นางรีบบินเข้าไปในกลุ่มของสุภาพสตรีทันทีและเตือนพวกนาง ประคับประคองพวกนาง
และบางครั้งก็ช่วยพวกนาง
ถังเทียนประหลาดใจ
ฉินอวี่หรันโดดเด่นมากกว่าเมื่อเทียบกับบุรุษอื่น
แต่เขารีบให้ความสนใจกับการต่อสู้ที่จะมาถึงโดยเร็ว
เขาใช้เวลาทั้งหมดในการฟื้นฟู
ถ้าไม่ใช่เพราะการสู้กับกองกำลังเผด็จการทวีปชิงที่ทำให้เขาหมดแรง เหออิงคงไม่มีทางหลบหนีได้ การต่อสู้ครั้งต่อไปจะทวีความรุนแรงแน่นอน
สำหรับการเคลื่อนย้ายกลุ่มคนใหญ่ขนาดนั้น
พวกโจรเล็กโจรน้อยทั้งหมดที่ต้องการฉวยประโยชน์ก็มีเป็นธรรมดา
แต่พวกเขาไม่ซ่อนตัวนานนัก
เพราะพวกเขาเชื่อว่าเหออิงจะมาถึงในไม่ช้า
ถนนทองที่เคยรุ่งเรืองว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง ทิ้งไว้แต่เพียงถนนที่เย็นเยือก
บางครั้งก็มีคนเจตนาไม่ดีสองสามคนโผล่มา
แต่เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่ พวกเขากลัวและหนีไปทันที
การป้องกันร้านแข็งแกร่งมาก แต่เจ้าของร้านหลบหนีไปแล้ว
ไม่มีคนเหลือคอยควบคุมการป้องกัน
พวกโจรใช้เวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมงในการทำลาย
ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพใดๆ การป้องกันจะอ่อนแอมาก
พวกเขาไล่ไปตามร้านทีละร้าน
ทันใดนั้นประตูร้านค้าของสมาคมการค้าสวีจี้เปิดออกมองเห็นสวีจินโบกมือเรียกถังเทียน “ทางนี้!”
เมื่อเห็นสวีจิน,
ถังเทียนดีใจและวิ่งเข้ามาทันที
สวีจินกระแอมเบาๆ
“พวกเจ้าทุกคนจะเร่งรีบเข้ามาในร้านของข้าได้ยังไง? สมาคมการค้าสวีจี้ของเขาทำธุรกิจซื่อสัตย์! เจ้าสามารถใช้ของทุกอย่างที่นี่
แต่เจ้าต้องรับประกันความปลอดภัยสมาชิกในร้านข้า
สมาคมการค้าสวีจี้ของเราไม่ข้องเกี่ยวการสู้รบของเจ้า”
ถังเทียนตกใจ ‘ร้านนี้ทำได้ดีไม่ใช่หรือ?
แถมไม่มีรอยร้าวแม้แต่ในที่ไหนๆ...’
คุณชายใหญ่ตอบสนองได้ไวที่สุด เขาหัวเราะลั่นทันที “แน่นอน แน่นอน!
ความแค้นของเรามีอยู่แค่กับเหออิงเท่านั้น
เราเพียงแต่ยืมใช้ร้านของท่านชั่วคราว
ไม่มีอะไรเกี่ยวกับสมาคมการค้าสวีจี้”
สวีจินหัวเราะและจากนั้นคุยกับถังเทียนเบาๆ “พวกเจ้ามาได้เวลาจริงๆ
ยังมีของหลายอย่างอยู่ในโกดังที่ยังไม่ได้ส่งออกไป มีของดีๆ อยู่ในนั้น จริงสิ เรือรบของเจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วย”
ถังเทียนมีสีหน้าดีใจทันที “เรือรบ!”
“เราจะแตะต้องสินค้าของลูกค้าเราได้ยังไง?” สวีจินเริ่มแสดงท่าทางที่ซื่อสัตย์สุจริต จากนั้นกล่าวต่อ “ทุกอย่างติดตั้งเสร็จแล้ว”
จากนั้นเขาพูดต่อ “ประตูร้านถัดไปเป็นของตระกูลซุนและตระกูลหรงอยู่ตรงกันข้าม
มีของดีๆ ทุกอย่างอยู่ที่นั่น
ตามชั้นวางสินค้าของพวกเขาอาจจะว่างเปล่า
แต่ทุกตระกูลจะมีโกดังสินค้าอยู่แน่ ทั้งไม่มีเวลาจะขนของออกไป
น่าจะมีของหลายอย่างอยู่ที่นั่น เร็วเข้า
ถังโฉ่วมองดูอายะที่วิ่งออกไปอย่างมีความสุข
เรื่องแย่ๆ
ทั้งหมดคือสิ่งที่หน่วยกะโหลกเชี่ยวชาญ
อายะตื่นเต้นมาก เป็นครั้งแรกที่นางสามารถขโมยและปล้นอย่างไม่มีที่ติ
ถังโฉ่วพาเซี่ยอวี่อันไปคลังสินค้าของสมาคมการค้าสวีจี้
พวกเขาต้องการสำรวจดูว่ามีอะไรที่พวกเขาสามารถใช้งานได้
เมื่อโกดังสินค้าเปิดออก กองภูเขาอาวุธเป็นมันวาวกองแล้วกองเล่าปรากฏต่อสายตาทุกคน
พวกเขาพากันตะลึงกันหมด
ทันใดนั้นตาของถังโฉ่วเป็นประกายแวววาวจนไม่มีใครสามารถมองเขาได้ตรงๆ
อาวุธทั้งหมดนี้สามารถเปลี่ยนถนนทองให้เป็นป้อมปราการ
สายตาของถังเทียนสะดุดอยู่ที่เรือรบที่จอดเงียบอยู่ที่มุมๆ
หนึ่ง
************************
ท่านหญิงโหรวดื่มชาดำเงียบๆ
“ข้าสงสัยว่าพวกเขาจะมาจากสวรรค์วิถี” บุรุษผอมสูงกล่าว
ท่านหญิงโหรวเพียงแต่ฟัง แต่ไม่พูด
“ข้าต้องการให้ท่านระดมพลทุกคน” สีหน้าของบุรุษผอมสูงกลายเป็นเย็นชา “ถ้าพวกเขามาจากสวรรค์วิถีจริงๆ
อย่างนั้นพวกเขาก็คือภัยคุกคามที่แท้จริง!”
“เจ้าไม่มีอำนาจ” เสียงของท่านหญิงโหรวนุ่มนวลและมีเสน่ห์ “นอกจากนี้ เจ้าเป็นแค่อาคันตุกะ”
บุรุษร่างผอมสูงพูดไม่ออก
“งานของข้าคือยึดทวีปทรายขาวและก่อความวุ่นวายให้ภูมิภาคใต้” ท่านหญิงโหรวพูดอย่างนุ่มนวล “ต่อให้พวกเขามาจากสวรรค์วิถี แล้วจะทำอะไรกับข้าได้?”
“เจ้า!” บุรุษผอมสูงโกรธ
“เจ้ากังวลมากเกินไป” ท่านหญิงโหรวพูดตามปกติ ใบหน้าที่งดงามของนางได้รับการประทินโฉม
นางยังคงจิบน้ำชา “แล้วจะเป็นยังไงถ้าพวกเขามาจากสวรรค์วิถี
ทหารเหล่านี้ที่ข้ามแม่น้ำมาล้วนเป็นกำพร้าที่เปลี่ยวเหงาทุกคน
ภูมิภาคใต้ที่แตกต่างก็คือมหาอำนาจใหญ่แห่งหนึ่ง มีมันอยู่ในเงื้อมมือ เด็กกำพร้าเปลี่ยวเหงาทั้งหมดก็เป็นแค่มด เด็กกำพร้าในอดีต ตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้ว?”
หัวใจของบุรุษผอมสูงสั่นสะท้าน เขารู้ว่าเขาแพ้ในเรื่องการต่อปากต่อคำกับนาง เขายังด้อยกว่านาง
เขาสูดหายใจลึก “ท่านพูดถูก
แต่ท่านถือหางเหออิง ถ้าเขาแพ้
อย่างนั้นท่านจะแพ้ไปด้วย”
“เรื่องนั้นเจ้าพูดถูก” ท่านหญิงโหรวหัวเราะ และวางแก้วชาลง “นั่นคือเหตุผลที่คนของข้าได้ออกไปแล้ว”
บุรุษผอมสูงถอนหายใจโล่งอก “ท่านน่าจะพูดให้เร็วกว่านี้”
ท่านหญิงโหรวกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าแค่อยากจะเตือนเจ้า อย่าลืมภารกิจของเจ้า ตระกูลพวกนั้นคือตัวยุ่งยากที่แท้จริง”
บุรุษผอมสูงพยักหน้า “ข้ารู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องดี”
“เจ้าคิดไว้แล้วหรือยังว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเหออิงล้มเหลว?” ท่านหญิงโหรวถามทันที
“ถ้าเหออิงล้มเหลว? เขาจะล้มเหลวได้ยังไง?” บุรุษผอมสูงประหลาดใจ หน้าของเขามีแววเหลือเชื่อ แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งแพ้มา
แต่พวกเขามีเหออิงผู้มีกองทัพระดับเงินอยู่ในมือถึงสามกองทัพ
และนั่นก็ถือว่าได้เปรียบแล้ว
‘เราจะแพ้ได้ยังไง?’
“ข้าบอกว่าถ้า” ท่านหญิงโหรวหัวเราะ เสียงของนางเย็นถึงกระดูก
ฟังแล้วน่าลุ่มหลง “ถ้าเขาแพ้ อย่างนั้นก็ให้โจรสลัดเข้ามา”
หัวใจของบุรุษผอมสูงสะท้าน หน้าของเขามีแววตกใจ
“ถ้าเราไม่สามารถได้ทวีปทรายขาว อย่างนั้นเราจะปล่อยให้มันเป็นซากหักพัง” ท่านหญิงโหรวหัวเราะ “มีสงครามข้อพิพาทหลายครั้งก็น่าจะพอ”
เมื่อมองดูหญิงงามที่อยู่ต่อหน้าเขา
บุรุษร่างผอมสูงรู้สึกหนาวสะท้าน
5 ความคิดเห็น:
เขามีแต่เสือติดปีกกัน แต่เรื่องนี้พพี่ถังกำลังติด จรวส มิสไซย์ไอพ่นความเร็วแสงให้ มีแนวโน้มว่าสามกองทัพเงินมาถึงก็มีพังยับ เจอเข้าทีนี้คงขนลุกไปตามๆกัน ไม่แน่ ซีปัว อาจเป็นขบถด้วย
ศึกใหญ่กำลังจะมา เรือรบของถังเทียนสำแดงเดชงานนี้ล่ะ
ขอบคุณครับ
เหมือนจบไวเลย
หวังว่าเรือรบจะไม่ถูก ห่าวถัง พังสะก่อนนะ
แสดงความคิดเห็น