ตอนที่ 647
ประมุขห้าตระกูล
“พวกเจ้าทุกคนว่ายังไง?” คนที่พูดเป็นผู้อาวุโสไว้เครา เขาคือจางอิงหลู
ประมุขตระกูลจาง ในมือของเขาก็คือแจกันเงิน
เขาถือไว้แน่นราวกับเขากลัวว่าแจกันจะบินหนีไป
ประมุขห้าตระกูลรวมกันอยู่ในห้องโถง ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด
แม้ว่าห้าตระกูลจะสนิทเหมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ยากนักที่ประมุขตระกูลทั้งห้าจะมารวมกัน
“เป็นปาฏิหาริย์” นัยน์ตาของเย่ฟงเลี่ยเป็นประกายวูบวาบ เขามีลักษณะล่ำสันทรงพลัง แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นคนที่รอบคอบ เนื่องจากเขามักจะมีความเห็นไปเสียทุกเรื่อง
ในมือของเขาถือคันชั่งเงินเป็นของที่ประณีตและละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก และสิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือมีระลอกพลังปล่อยออกมา
เย่ฟงเลี่ยหลับตาของเขา ราวกับว่าเขาแช่อยู่ในระลอกพลังที่ยอดเยี่ยม
“ถ้าข้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองข้าจะไม่มีทางเชื่อว่าจะมีสมบัติจิตวิญญาณที่เข้ากันได้กับข้าอยู่ในโลกนี้ มันเหมือนกับว่าถูกสร้างมาเพื่อข้าเอง” เย่ฟงเลี่ยมองดูเหมือนคนเมา
เสียงของเขาเย็นเหมือนน้ำแข็ง
หลี่เล่อเถาเป็นเพียงสตรีคนเดียวของห้าประมุขตระกูล นางกล่าว
“สมบัติวิญญาณนี้แตกต่างจากสมบัติวิญญาณของดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ และมีความคล้ายคลึงกับสมบัติวิญญาณของทวีปกวงหมิง”
ในมือของนางเป็นโล่เล็กและละเอียดอ่อนแกะสลักเป็นรูปปู นางใช้มือไล่ไปตามรอยสลักของโล่
กระแสระลอกพลังที่ดูเหมือนเจือจางมากสะท้อนกับพลังงานในตัวนาง
“ทวีปหมิงกวงน่ะหรือ?” เว่ยต๋าแค่นเสียง
“แม้ว่าสมบัติวิญญาณของทวีปกวงหมิงจะได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่เทียบกับสมบัติวิญญาณเหล่านี้ พวกมันยังคงอ่อนกว่า”
ห้าตระกูลและทวีปกวงหมิงสู้รบกันมาหลายปี แต่พวกเขาก็ยังไม่ถูกทำลาย และนานจนอีกฝ่ายหนึ่งคุ้นชิน ไม่ว่าทวีปกวงหมิงจะใช้วิธีอะไร ไม่มีใครกระจ่างชัดเท่ากับพวกเขา
ในมือของเว่ยต๋าก็คือธนูเงิน
ตระกูลเว่ยเชี่ยวชาญในวิชาธนู และเมื่อมันสัมผัสกับมือของเขา เขาถึงกับตื่นเต้น
หวีเซียนจือพูดช้าๆ “ดูตราสัญลักษณ์บนนี้ แกะตระกูลหวี
มันตกทอดมาหลายรุ่น ตราแกะนี้ไม่เคยปรากฏที่อื่นมาก่อน หอกเงินตราแกะ
บังเอิญมีของอย่างนั้นอยู่ในโลกได้ยังไง”
เขามองดูหอกเงินต่อหน้าเขา ตาของเขาเป็นประกายเยือกเย็น
ทุกคนเงียบลง
ทำไมสิบสามตระกูลถึงถูกไล่ล่าจากทวีปกวงหมิง? คนอื่นอาจไม่รู้เรื่อง แต่จะไม่มีคนรู้ได้ยังไง?
“เป็นไปได้ไหมว่าสิบสามบรรพบุรุษที่หายสาบสูญไปในอดีต
ยังไม่ตาย แต่ไปพบดินแดนอื่นเพื่อตกทอดมรดก?”
จางอิงหลูเสียงสั่นเล็กน้อย
ตำนานของอดีตได้ถูกเขียนบันทึกไว้จากสิบสามตระกูล
ตำนานนี้ไม่เคยได้รับการพิสูจน์
และสิบสามตระกูลใช้ความพยายามไปมากมาย
แม้แต่ส่งคนเข้าไปในส่วนต่างๆ ของทวีปกวงหมิง
แต่ข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขาได้รับนั้นมักจะคลุมเครือ เหมือนกับตำนานทั้งหลาย
เว่ยต๋าแค่นเสียง “ถ้าอย่างนั้น
ทำไมเจ้าพวกบัดซบจากทวีปหมิงกวงถึงต้องการให้เราตายหลังจากไล่ล่ามาหลายปี? ทวีปกวงหมิงกลัวว่าเราจะได้รับข้อมูล ฮึ่ม..
ทวีปกวงหมิงได้ค้นคว้าวิจัยพลังจิตวิญญาณได้ก้าวหน้า
มีแนวโน้มว่าเป็นเพราะเรื่องนี้”
เว่ยต๋ามีความสำเร็จอย่างมากในวิชาธนู แต่เขาไม่มีความสงบเย็นของนายขมังธนู
เขาอารมณ์ร้ายและเก็บความแค้นนิสัยของเขาเหมือนกับไฟ
ทุกคนพยักหน้า คำพูดของเว่ยต๋าสอดคล้องกับความคิดของพวกเขา
“เป็นไปได้ไหมว่าเป็นกับดักของทวีปกวงหมิง?” หลี่เล่อเถาถาม
“เจ้าครองทวีปยังไม่ได้รับจากมันเลย” เย่ฟงเลี่ยเสียงดังชัด และตะโกนทันที
“สำหรับสมบัติวิญญาณทั้งห้าชิ้นนี้
ทวีปกวงหมิงคงไม่ว่างจัดหรือรวยจนทำอย่างนี้ได้”
ทุกคนหัวเราะ
ที่จริงไม่ว่าทวีปกวงหมิงจะเจริญเพียงไหน แต่พวกเขาคงไม่เอาสมบัติวิญญาณทั้งชิ้นนี้เป็นเหยื่อล่อแน่
“และเราต้องการสมบัตินี้เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ของเรา”
หวีเซียนจือลดเสียงพูดช้าลงทำให้ทุกคนใจสงบ สถานการณ์ปัจจุบันของเกาะใต้ไม่ค่อยดีนัก
“อย่างนั้นเราจะดูกัน!” จางอิงหลูกล่าว “เปิดประตูต้อนรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ!”
ประมุขอีกสี่ตระกูลลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
**********************
ด้านนอกทะเลหมอกเขียว
ริชาร์ดอดรนทนไม่ไหว
จึงได้แต่ถาม “นายท่าน เราใช้เวลากับเรื่องนี้นานเกินไปหรือเปล่า?”
หลิงเซี่ยผู้ยืนอยู่ข้างๆ
มีสีหน้าหดหู่
ทั้งสองคนไม่ได้กังวลเรื่องห้าตระกูลเกาะใต้จะปฏิเสธพวกเขาที่หน้าประตู แต่ว่ากันตามตรง เหมิ่งหนานจะเล่นตลกอะไร
สมบัติวิญญาณทั้งห้า และของเหล่านั้นเป็นสมบัติวิญญาณคุณภาพสูงล้ำ โชคดีที่สวีจินไม่อยู่ด้วย ถ้าไม่อย่างนั้น ตาของเขาคงเขียวปั้ด
ริชาร์ดเห็นสมบัติวิญญาณมากมายที่ห้องวิจัยของบุตรชายของเขา
ของเหล่านั้นทั้งหมดเจ้านายมอบให้บุตรของเขาได้ใช้ค้นคว้า แต่มาตรฐานของสมบัติวิญญาณห้าชิ้นนั้น
เหนือล้ำกว่าสมบัติวิญญาณที่เขาเคยเห็น
ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่สวรรค์วิถี สมบัติวิญญาณที่นี่เป็นของหาได้ยากยิ่ง และสมบัติวิญญาณคุณภาพสูง
ของเหล่านั้นค่าควรเมือง
แต่สมบัติวิญญาณไม่ใช่ของเขา ดังนั้นทั้งสองคนได้แต่รู้สึกอิจฉาและเศร้า
ริชาร์ดรู้ว่ามาดใหญ่ของเจ้านายนั้นเกินตัว แต่จำนวนเงินที่จ่ายออกไปก็สร้างความตกใจให้เขาได้
หลิงเซี่ยเพียงแต่รู้สึกว่า
“รวยล้นพ้นอิทธิพลล้นฟ้า” จำเป็นต้องเปลี่ยนคำนิยามใหม่
“มากเกินไปหรือ?” ถังเทียนถามตามปกติ
สีหน้าของเขาแสดงว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่ริชาร์ดพูด
“แน่นอน”
ริชาร์ดตอบทันที
“ท่านให้ชิ้นหนึ่งก็พอแล้ว! นี่ให้ตั้งห้าชิ้น นั่น นั่น
มันมันเกินเลยไปหน่อย!”
“เกินเลย?”
ถังเทียนทวนความรู้สึกของเขา
“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ละตระกูลได้หนึ่งชิ้น”
แต่ละตระกูลได้เพียงหนึ่ง...
ถังเทียนหันหน้าไปมองเว่ยถิงถิง “นี่..ประมุขตระกูลเจ้าจะมาพบกับข้าหรือไม่?
ถ้าไม่มาข้าจะได้ไปเสียที”
น้ำเสียงของถังเทียนเต็มไปด้วยความร้อนรน ดูเหมือนว่าเขาไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมาก
ไม่มีใครรู้สึกว่าความไม่พอใจของถังเทียนเป็นเรื่องผิด
แม้แต่เว่ยถิงถิงก็รู้สึกว่าเขามีสิทธิ์จะไม่พอใจ
“ใช่แล้ว!” ริชาร์ดเป็นคนแรกที่เสริม และแค่นเสียง “สมบัติวิญญาณทั้งห้าสามารถซื้อทวีปได้ทั้งทวีป!
และทวีปใหญ่ทวีปหนึ่งอย่างนั้น
ฝ่ายเจ้ากระทำเกินไปและกร้าวแข็งเกินไปแล้ว”
หลิงเซี่ยไม่พูดอะไรสักคำ แต่สีหน้าของนางก็ยังแสดงว่านางไม่พอใจต่อการกระทำต่อฝ่ายอื่น
เว่ยถิงถิงรู้สึกจนใจเตรียมจะพูด แต่ขณะนั้นเอง
นางได้ยินเสียงดังมาจากทะเลหมอกเขียว และนางดีใจทันที
“ข้าขอต้อนรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติเข้าสู่เกาะใต้”
ครืน
ครืน ครืน เสียงดังสนั่นมาจากทะเลหมอกเขียว
หลังจากเสียงดังสนั่น
ศิษย์จำนวนมากร้องตะโกนพร้อมกัน
“ยินดีต้อนรับอาคันตุกะผู้มีเกียรติ!”
เสียงกึกก้องดังเหมือนฟ้าคำราม
ทะเลหมอกเขียวที่ด้านหลังเว่ยถิงถิงปั่นป่วนรุนแรงก็แยกออกเป็นสองส่วนโดยพลังที่รุนแรง
เผยให้เห็นเส้นทางเมฆที่กว้างขวางทอดระยะเขาไประหว่างทะเลหมอกเขียวทำให้ดูเป็นสีขาวไม่มีที่ติ
เหล่าศิษย์ของตระกูลสวมชุดสีแตกต่างกันเหมือนสายน้ำไหลและแยกย้ายกันยืนทั้งสองฝั่งเมฆ
มีห้าร่างลอยลงมาจากท้องฟ้า และลงมายืนอยู่บนเส้นทางเมฆขาว หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แววตาประหลาดใจฉายอยู่ในดวงตาของพวกเขา วัยของถังเทียนทำให้พวกเขาประหลาดใจ
จางอิงหลูเลิกคิ้วและหัวเราะ “แขกผู้ทรงเกียรติ ท่านรอเราเป็นเวลานานแล้ว ขออภัย ขออภัยจริงๆ!”
อีกสี่คนก็ยังคงยิ้มและโบกมือให้ถังเทียน
เว่ยถิงถิงจ้องมองประมุขตระกูลข้างหน้านาง ในใจนางเต็มไปด้วยความตกใจ
นางคิดว่าประมุขทั้งห้าตระกูลแม้จะเห็นด้วยให้ถังเทียนเข้าเกาะใต้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะทักทายด้วยมารยาทเช่นนั้น เพราะประมุขตระกูลปรากฏตัวออกมาต้อนรับอาคันตุกะพร้อมกัน
มีลูกศิษย์ตั้งแถวยาวตามแนวเมฆ
เป็นมารยาทที่ใหญ่ที่สุดสำคัญที่สุดเท่าที่เกาะใต้เคยทำมา
‘เรื่องนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อใดกัน?’
ตั้งแต่นางเกิด นางไม่เคยเห็นเรื่องเช่นนั้น แม้แต่เมื่อเจ้าครองทวีปมาเยี่ยมตัวตนเอง พวกเขาจะไม่ทำอย่างนี้แน่นอน
คนผู้นี้...
ทันใดนั้นนางหันศีรษะไปมองดูถังเทียนทันที นางปัญญาไวเฉลียวฉลาด แม้ว่าสมบัติวิญญาณจะมีค่าควรเมือง
แต่ก็ยังไม่สำคัญถึงกับต้องให้ผู้อาวุโสทั้งห้าต้องออกมาต้อนรับเขา
“คารวะท่านย่า,
คารวะท่านปู่ทั้งสี่!”
เมื่อเห็นลักษณะของประมุขตระกูลทั้งห้า ถังเทียนตกใจเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะแก่มากนัก และเขารีบกล่าวด้วยมารยาททันที เนื่องจากเขายังอายุเยาว์ ถังเทียนไม่ต้องรู้สึกแบกรับภาระอะไร ถังเทียนยังคงแสดงมารยาทที่สุภาพต่อผู้อาวุโส
ริชาร์ดที่ยืนอยู่ด้านข้างมีสีหน้าชะงักค้าง
ในสายตาของเขาเจ้านายของเขาเป็นบุรุษที่ทรงอำนาจและอิทธิพลที่สามารถฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา และทุกสถานที่ที่เขาไป เขาเป็นคนที่น่าเกรงขาม
แต่เด็กหนุ่มที่น่ารักที่อยู่ต่อหน้าเขา....
ริชาร์ดเริ่มรู้สึกว่าตนเองกำลังว้าวุ่น
หลิงเซี่ยก็ตะลึงพอกัน นางคิดว่านางได้ยินผิด ‘นะ..นี่.. นี่คือจอมเผด็จการที่ฆ่าคนนับไม่ถ้วน ทั้งยังสู้ตะลุยเบิกทางทั้งที่เลือดท่วมตัวหรือนี่?’
สือเซินก็ตะลึง,
นายท่าน.....
จางอิงหลูและประมุขตระกูลทั้งสี่คนยิ้มกว้าง พวกเขาไม่เคยพบถังเทียนมาก่อน
เพียงแต่รู้สึกว่าเด็กที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาน่ารักและสุภาพ
แค่เพียงเห็นพวกเขาก็เชื่อว่าเขาได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ทั้งห้าคนล้วนสูงอายุแล้ว และมีอัธยาศัยรักเอ็นดูเด็ก
ทั้งห้าตระกูลมีประเพณีและมารยาทที่เคร่งครัดมายาวนาน
รุ่นผู้เยาว์และศิษย์ทุกคอยู่ภายใต้กฎที่เข้มงวด
และตราบใดที่พวกเขาพบเห็นห้าผู้อาวุโส
พวกเขาจะตัวสั่นด้วยความกลัวและประพฤติตัวอย่างระมัดระวัง
การทักทายของถังเทียนที่มีต่อพวกเขา
ทำให้ทั้งห้าคนมีความสุขทันที
“โอว.ตายแล้ว ยังเด็กอยู่เลย
ทางครอบครัวปล่อยให้เจ้ามาเผชิญโลกด้วยตัวเองได้ยังไง?” หลี่เล่อเถาเป็นคนแรกที่ทนไม่ได้
“ใช่ ใช่!
“มาเถอะ เข้ามาเถอะ เจ้าหิวกันแล้วใช่ไหม เราปล่อยให้พวกเจ้ารอคอยเสียนาน....”
……
เมื่อเห็นถังเทียนถูกเหล่าผู้อาวุโสรุมล้อม
และเขาทำหน้าไร้เดียงสาปลอดอันตรายช่างพูดช่างคุยตามประสาเด็กน่ารัก ริชาร์ดและพวกที่เหลือตะลึงเป็นหิน
พวกเขาไม่เคยคิดว่า
การแสดงออกของพวกเขาจะไม่ได้สร้างแรงกดดันอะไรต่อห้าผู้อาวุโส
“ความจริง
เป็นเรื่องยากที่เด็กหนุ่มน้อยอย่างนี้จะออกมาผจญโลกแบบนี้ พวกเขาควรจะเลือกองครักษ์ที่ฉลาดสง่างาม เฮ้อ..
ช่างเป็นครอบครัวที่ไม่ฉลาดเสียเลย...”
“ไม่เป็นไร
เดี๋ยวเราสามารถเติมเต็มตำแหน่งนี้ด้วยคนของเราเอง...”
‘โง่และงี่เง่า...’
สือเซิน
ริชาร์ดและคนที่เหลือแทบกระอักโลหิต
แต่ถังเทียนกลับรู้สึกดี แม้ว่าเขาจะไม่ฉลาดเท่าใดนัก แต่สัญชาตญาณของเขาแหลมคมมาก
เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความอาทรห่วงใยของบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่เหล่านี้ เขารู้สึกอบอุ่นใจเป็นความรู้สึกที่เขาไม่ได้รับรู้มานานแล้ว
ความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคยนี้ทำให้ถังเทียนไม่ถือสาแม้แต่น้อย
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่ใช้ไปกับความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งของเขา
ความโกรธ เสียงเรียกร้องภายในใจ การดิ้นรนพยายาม การต่อสู้ของเขา โดยไม่รู้ตัว เขาคุ้นชินกับการต่อสู้ไม่มีหยุดหย่อน คุ้นเคยกับอันตรายรุนแรง คุ้นกับปลายหอกคมดาบคุ้นเคยกับกลิ่นคาวเลือด
ความห่วงหาอาทรที่เกิดขึ้นฉับพลันเหมือนกับแสงตะวันที่ฉายทะลุเมฆลงมา
ไม่ว่าจะมากจะน้อยเพียงไหน
ความอบอุ่นก็ยังเป็นเครื่องเยียวยาหัวใจได้เสมอ
ทันใดนั้น
ถังเทียนคิดถึงมารดาเขา
สายตาที่นุ่มนวลของมารดา มือที่อบอุ่นของมารดา
เขาคิดถึงผู้เฒ่ากรงเล็บภูตพราย ร่างที่เงียบขรึมมักจะห่วงใยและคาดหวังเขาเสมอ
เขารู้สึกคันจมูกพะเยิบพะยาบ แต่เขาก็ยังยิ้มกว้างมากยิ่งขึ้น
ในโลกไม่เพียงแต่มีความมืดและโลหิต
ไม่เพียงมีแต่การต่อสู้ที่เปิดเผยและเร้นลับ ไม่ได้มีแต่การหลอกลวงกันและกัน แต่ยังมีแสงสว่างและความอบอุ่น ความห่วงหาอาทรอย่างง่ายๆ และจริงใจ
และความจริงใจจะดูแลผู้อื่น
ความสัมพันธ์ของมนุษย์อาจจะซับซ้อนโยงใยเป็นหมื่นสายใย
หรืออาจมีแค่เพียงใยเดียว
พอทิ้งความคิดและความสนใจตนเองออกไปทั้งหมด รอยยิ้มของถังเทียนกลายเป็นจริงใจขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคา ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์และข้อพิพาทใดก็ตาม
ในขณะนั้นความคิดทั้งหมดถูกโยนทิ้งไปอย่างคาดไม่ถึง
18 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ผมก็ตะลึง เจอพี่ถังเป็นเด็กดี ผมนี่อึ้งเลย 555
โหมดคนดีชั่วคราว
มาซะซึ้งเลยนานๆที
ขอบคุณมากครับ
ผมชอบถังเก่งอ่อนน้อมถ่อมตน
อยากให้ถังมีความสุขแบบนี้บ้างเหมือนกันเห็นภาพเลยตั้งแต่อ่านมา
ขอบใจหลายจ้า
เป็นคนดียังพอคุยนี่มาเป็นเด็กน้อยเลย เกรงใจไแพวกที่โดนแกฆ่าตายไปบ้างนะแหม่
จะดีได้กี่ตอนน้อพี่ถัง
ขอบคุณครับ เสมือนหนึ่งได้กลับมาบ้านสินะ
พี่ถัง❤❤❤❤❤❤
มาแป๊บๆ ซื้อใจได้ทั้งดวงเลยวุ้ย แถมจะได้องครักษ์อีก ฮ่าๆ
อย่าขวางตอนกินข้าวก็แล้วกัน
มันเด็กดีใด้ไม่นานแน่5ตะกูลไม่นานช็อกตาตั้ง
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากเลยนะคับ
Thx
แสดงความคิดเห็น