ตอนที่
652 ฝึกหนักผิดธรรมดา
“บ้าเอ๊ย,
นี่เรามาสอดแนมหรือมาทำอะไรกันวะ?
มันเกิดอะไรขึ้น?” หน้าของจี่ซานเต็มไปด้วยความโกรธ
เขาถูกส่งมายังทวีปซางโจวเกือบครึ่งเดือนเพื่อสืบดูและรายงาน
เมื่อเข้ามาในทวีปซางโจว พวกเขาสังเกตเห็นการรับสมัครงาน
ทำให้จี่ซานดีใจ นี่เป็นโอกาสให้พวกเขาเข้าไปแผนกภายในของทวีปซางโจว! หลังจากนั้น
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
การเข้าร่วมกองทัพ จี่ซานสังเกตพบใบหน้าที่คุ้นเคยทั้งหมด
และรู้สึกประหลาดใจ
พวกเขาทุกคนเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับเขา หน่วยสังเกตการณ์และหาข้อมูลจากตระกูลอื่น จี่ซานลอบตกใจ ดูเหมือนว่าทุกคนจะจับตาให้ความสำคัญกับทวีปซางโจวเป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะแอบตกใจอยู่ภายใน แต่ภายนอกยังคงทำเป็นไม่มีอะไร
พวกเขาทุกคนเป็นทหารผ่านศึก
พวกเขามองหน้ากันเองและแสดงออกถึงความรู้จักกันทางสายตาโดยปริยาย
แต่ภายนอกทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเกินคาดหมายพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง
หลังจากเสร็จการคัดเลือกแล้ว
กองทัพที่รับสมัครเข้ามานี้ ไม่ได้ฝึกฝนและไม่ได้เข้าป้อมไพรกระบี่ ทหารทั้งหมดเริ่มทำงานต่างๆ
ขยายปากอ่าว
สร้างป้อมปราการ
พวกเขาเหมือนกับกลุ่มกรรมกรที่ทำงานอย่างหนักคล่องแคล่วทั้งวันและคืน
มีพวกเขาสองสามคนที่ต้องการจะก่อความวุ่นวาย แต่ในที่สุดพวกเขาก็ถูกจับก่อนที่จะเริ่มขึ้น
จี่ซานจำพวกเขาได้สองสามคน ในขณะนั้น
เขาเริ่มเห็นอกเห็นใจศัตรูเก่าของเขา
พวกที่ถูกจับควรประสบชะตากรรมน่าอนาถ
แต่เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า
สองสามคนนั้นไม่ได้ถูกประหารชีวิต
แต่ให้ใช้แรงงานหนักมากขึ้นกว่าปกติ
แม้เมื่อพวกเขาจะถูกส่งให้ไปอยู่จุดอันตรายที่สุด แต่ก็ไม่มีรางวัลหรือผลประโยชน์แลกเปลี่ยนตรงนั้น
มีรางวัลในการทำงาน และเป็นรางวัลที่มากพอจนทำให้ทหารตาแดงได้
กองทัพแรงงานชุดใหม่นี้ นอกจากคนสังเกตการณ์แล้ว พวกที่เหลือค่อนข้างจะพอใจ พวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้ ไม่มีอันตราย
และพวกเขายังจะทำเงินรายได้
ยังจะมีอะไรที่ดีกว่านี้?
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือเป็นงานที่ยากลำบาก แต่งานอะไรบ้างเล่าที่ไม่ยาก? การฝึกฝนก็ยากพอกัน และคนที่ยินดีจากบ้านพวกเขามา พวกเขาไม่สนใจเรื่องงานหนัก ตราบเท่าที่พวกเขามีรายได้หาเลี้ยงชีพได้
และสำหรับทหารเหล่านั้นที่มีความทะเยอทะยานสูง มีเรื่องมากเกินไปสำหรับให้พวกเขากระตือรือร้น
ผู้มีผลงานโดดเด่นในการทำงานสามคน
นอกจากจะได้รับเงินเดือนสูงแล้ว
ยังจะสามารถได้รับอาวุธทองดำซึ่งผลิตโดยป้อมไพรกระบี่
อาวุธรุ่นใหม่นี้เป็นอาวุธพิเศษของของป้อมไพรกระบี่ซึ่งไม่มีที่อื่นเคยทำมาก่อน นี่เป็นอาวุธที่มีพลังโดดเด่นระดับต้นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธอะไรที่สร้างมาจากทองดำ ความรู้สึกของอาวุธเหล่านั้นจะพิเศษมาก
อาวุธเหล่านี้มีมูลค่าสูงมาก
อาวุธทั้งหมดนี้แทบจะทำให้ทหารบ้าคลั่ง
พวกเขาทุกคนทำงานอย่างบ้าคลั่งหามรุ่งหามค่ำ ขณะที่พวกสอดแนมหรือพวกสังเกตการณ์
สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือโอนอ่อนทำตามและไม่โดดเด่น แต่พวกเขาก็ต้องทำหนักขึ้น จากเท่าที่เห็น
ทหารทุกคนรอบตัวพวกเขาทำงานหนักมาก เหมือนพยายามเกทับกันและกัน
“พวกเขาต้องการเงิน แล้วเจ้าจะทำอะไรได้?” คนที่พูดก็คือเรย์มอน เขาเป็นคนสอดแนมจากทวีปตงฉี และเป็นสายลับที่มีประสบการณ์ เรย์มอนมีรูปร่างสูงใหญ่และลักษณะดูเถื่อน แต่ความจริงแล้วเขาอ่อนโยน
จี่ซานตอบเสียงนุ่มนวล “เจ้าไม่คิดหรือว่าทองดำและหินดำบนพื้นมองดูคล้ายกัน?”
ดวงตาของเรย์มอนเป็นประกาย “เจ้ามีข้อพิสูจน์อะไร?”
ในช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ในทวีปซางโจว แม้ว่าพวกเขาจะวุ่นวายอยู่กับการทำงาน แต่พวกเขาก็ได้ผลเก็บเกี่ยวเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
พวกเขารู้ว่าทวีปซางโจวมีความมั่งคั่ง
มั่งคั่งอย่างมากมาย
พวกเขาสามารถจำแนกจำนวนเงินรวมมากมายในแต่ละวัน
แต่สิ่งที่กระตุ้นความตื่นเต้นของพวกสอดแนมก็คืออาวุธทองดำลึกลับ
พวกเขาล้วนแต่เชี่ยวชาญในการค้าทุกคน
และคุ้นเคยกับอาวุธอย่างนั้น
พวกเขารู้ว่าอาวุธทองดำไม่ได้มาจากที่อื่น
การตัดสินใจและความรู้สึกของพวกเขาแหลมคมมากกว่าคนทั่วไป และพวกเขาหลายคนลอบเดาว่าอาวุธทองดำต้องเกี่ยวข้องกับหินดำแน่
แต่ป้อมไพรกระบี่ที่งามสง่าทำให้การคาดเดานั้นดูเหมือนกลายเป็นเรื่องตลก ถ้าทองดำมาจากหินดำจริงๆ
เป็นเรื่องฟุ่มเฟือยขนาดไหนที่พวกเขาใช้หินดำมาสร้างป้อมปราการที่สง่างาม
จี่ซานล้วงเอาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าของเขา เป็นชิ้นส่วนโลหะดำ
ตาของเรย์มอนโตขึ้น “เจ้าไปได้ของนี้มาจากไหน?”
จี่ซานพูดอย่างเฉื่อยชา “ข้าก็รู้วิธีปรับแต่งมาบ้าง”
เรย์มอนพูดอย่างใจเย็น “ทำไมเจ้าไม่บอกเรื่องนี้กับข้า?”
เขาไม่ใช่คนโง่ ถ้าจี่ซานสามารถพิสูจน์คุณค่าของทองดำได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องมีคุณค่ามาก ภูมิปัญญาอย่างนั้นไม่มีเหตุผลที่จะต้องแบ่ง
จี่ซานเป็นสายลับที่มีประสบการณ์
การกระทำที่ไม่สมเหตุผลนั้นต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลังแน่นอน
“เจ้าไม่คิดว่าการรักษาความปลอดภัยที่นี่น้อยไปหน่อยหรือ?” จี่ซานพูดเบาๆ
แต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“เราเพียงต้องการทหารสองกองทัพก็ยึดที่นี่ได้แล้ว!”
เรย์มอนแค่นเสียง “ทวีปฝานซิงโจวก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
จี่ซานตอบ
“ทวีปฝานซิงโจวประมาทพวกเขา
ถ้าพวกเขาไม่ประมาทพวกเขาตั้งแต่แรก
ใครจะรู้ว่าพวกเขาอาจจะโดนโค่นล้มก็เป็นได้”
“เจ้าไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ไม่แน่นอนดีกว่า” เรย์มอนปฏิเสธอย่างเสียดสี
“ทำไมสองทวีปของเราไม่ร่วมมือด้วยกันเล่า?” จี่ซานพูดตัดบท
เรย์มอนตกใจ
ทันใดนั้นเขาตระหนักได้ถึงเป้าหมายที่แท้จริงของจี่ซาน แต่เขายังคงรีบคิด ทองดำได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามาจากหินดำ
นั่นก็หมายความถึงทะเลทรายสีดำกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุดก็คือสมบัติที่มากมายมหาศาลนั่นเอง
เขาต้องยอมรับว่าความคิดของจี่ซานพิถีพิถัน สองทวีปนั้นไม่ได้อยู่ติดกัน
แต่มีตำแหน่งแตกต่างไปจากทวีปซางโจวสิ้นเชิง ถ้าพวกเขาส่งทหารมาพร้อมกันและยึดทวีปซางโจวไว้ในระหว่างนั้น โอกาสที่พวกเขาจะชนะนั้นมีสูง
และระยะห่างระหว่างสองทวีปนั้นค่อนข้างไกล ไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งโดยตรง ดังนั้นโอกาสที่จะร่วมมือกันจะมีความสำเร็จสูง
สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวก็คือป้อมปราการไพรกระบี่ แต่ตราบใดที่ทะเลหินดำยังน่าเป็นห่วง พวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงป้อมไพรกระบี่ได้
เรย์มอนพูดอย่าระมัดมัดระวัง “ข้าจะต้องรายงานให้กับเบื้องสูงของข้าก่อน”
จี่ซานรู้แน่นอนว่าข้อเสนอนี้ไม่ใช่สิ่งที่เรย์มอนสามารถตัดสินใจได้
ดังนั้นเขาจึงกล้าหาตัวเรย์มอนเพื่อให้เขารายงานต่อเบื้องสูง
แต่ไม่ต้องคำนึงว่าจะเป็นพันธมิตรได้สำเร็จหรือไม่ก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ในที่สุดก็มองเห็นความหวังจะได้ไปจากงานที่ขมขื่นเสียที!
ทันใดนั้น มีเสียงฮือฮาอยู่ข้างหน้าพวกเขา
ทั้งสองคนเริ่มระมัดระวังตัวทันที พวกเขามองหน้ากันเองและไปดูข้างหน้า
“เกิดอะไรขึ้น?” จี่ซานดึงทหารที่เขาเห็นว่าคุ้นเคย
ทหารพูดอย่างตื่นเต้น “กองทัพ
กองทัพของเรา!”
กองทัพ?
จี่ซานและเรย์มอนมองหน้ากันเอง ความรู้สึกแย่เพิ่มขึ้นในใจพวกเขา ทวีปซางโจวมีกองทัพอื่นตั้งแต่เมื่อใดกัน?
เสียงฮือฮาข้างหน้าดังมากยิ่งขึ้น จี่ซานและเรย์มอนตามคลื่นมนุษย์บินออกไปที่อ่าวพลังงาน
ป้อมปราการด้านนอกปากอ่าวทำเสร็จขั้นต้นไปแล้ว
พวกเขาสามารถเข้ามาในป้อมโดยตรงและไม่ได้รับผลจากพลังกัดกร่อนจากทะเลพลังงาน
ในที่ไกลสุดสายตา
มีจุดเล็กจุดหนึ่งขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว
ขนาดของกองเรือทำให้พวกเขาสีหน้าเปลี่ยน
เมื่อกองเรือเข้ามาใกล้ ในที่สุดทั้งสองก็ถอนหายใจโล่งอก กองเรือดูเหมือนใหญ่
แต่พวกเขาก็เป็นกลุ่มเรือโจมตีเล็กไม่มีเรือรบที่โดดเด่นแต่อย่างใด
เมื่อกองเรือเข้ามาใกล้ พวกเขาสังเกตว่ามีคนอยู่รอบๆ กองเรือ หลายคน
ทุกคนสังเกตคนบนเรือ และทุกคนตกใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนพวกนี้จึงไม่ขึ้นเรือ แต่เหาะอยู่ในทะเลพลังงาน
และปล่อยให้ทะเลพลังงานกัดกร่อนร่างกาย!”
ชั่วขณะนั้น ทุกคนก็สงบ
หน้าของเซี่ยอี่อันเต็มไปด้วยฝุ่น เขาผอมลงมาก
แต่ตาของเขายังเป็นประกายเปี่ยมไปด้วยพลังงาน เหมือนสายฟ้าในท้องฟ้ามืด
เป็นประกายกระพริบน่ากลัว
“รักษาสมาธิของพวกเจ้าเอาไว้”
“อย่าผ่อนคลาย”
เขาสั่งกองกำลังนางแอ่นโดยตรง เมื่อเขาเห็นอ่าวพลังงาน
เขายังคงรู้สึกเหลือเชื่อที่พวกเขามาถึงทวีปซางโจวได้จริงๆ!
พวกเขาเพิ่งพบกับถังเทียน เมื่อท่านถังโฉ่วประกาศแผนฝึกฝนที่คาดไม่ถึง
ถอนกองเรือกลับทวีปซางโจว
ท่านถังโฉ่วไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ปฏิเสธ สิ่งที่ทำให้เซี่ยอี่อันรู้สึกเบาใจก็คือ
ไม่เพียงแต่กองกำลังนางแอ่นเท่านั้นที่ถูกดึงมาฝึก แต่ทุกคนต้องร่วมฝึก
กองกำลังนางแอ่น, หน่วยกะโหลก,
กองกำลังปีศาจทวีปโยวโจว, ห้ากลุ่มดาวเกาะใต้
ทุกคนต้องฝึก แต่ทุกคนไม่คาดเลยว่านายท่านเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาตื่นเต้นและเข้าร่วมฝึกด้วยเช่นกัน
ระยะทางในทะเลพลังงานนั้นไกลมาก และเต็มไปด้วยอันตรายและความยากลำบาก
มีความต้านทานอยู่ในทุกที่และมีพลังกัดกร่อนอยู่ตลอดเวลา และพลังวังวนเร้นลับที่อันตราย
สามารถสุ่มปรากฏได้ต่อพวกเขา..
และข้อเรียกร้องของท่านถังโฉ่วนั้นรุนแรงเหลือเกิน แม้ว่าจะอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่อันตราย กองทัพก็ต้องรักษาความถี่ในการผสานพลังให้ได้
และในการฝึกประจำวันก็ไม่สามารถลดลงได้
แม้แต่สือเซินที่ประกาศตัวเองว่าคุ้นเคยกับทะเลพลังงานมากที่สุด เมื่อเขาได้ยินข้อเรียกร้องของท่านถังโฉ่ว หน้าของเขาก็ซีดขาว น่าเสียดายที่สือเซินก็อยู่ภายใต้การบัญชาของถังโฉ่ว
ตลอดการเดินทาง ทุกคนถูกเคี่ยวเข็นจนถึงกระดูก
ถ้าเป็นโจรสลัด พวกเขาคงตายไปนานแล้ว แต่ในทะเลพลังงาน โจรสลัดถือว่าเป็นผู้คงอยู่ที่ดี พลังงานที่ไม่เสถียรก็เหมือนกับระเบิดที่ไม่เสถียร
พวกเขาต้องระวังตัวถึง 120% ตลอดเวลาโดยไม่มีการผ่อนคลาย
ตอนแรก
ทุกคนยุ่งเกินไปเกี่ยวกับความถี่ในการผสานพลัง
ทุกคนหน้าซีดหดหู่สะท้อนใจ พวกเขาไม่สามารถรักษารูปกระบวนได้
มักจะมีคนได้รับบาดเจ็บเสมอ
และผู้นั้นจะถูกส่งตัวไปที่เรือ
ฝีมือการรักษาของหวีชิงอี้อยู่ในระดับเชี่ยวชาญ
และหลังจากได้รับสมบัติดวงดาว
ก็ยิ่งเหมือนกับเสือติดปีก
อาการบาดเจ็บได้รับการรักษาอยู่รวดเร็ว
และจะถูกส่งกลับไปที่ทะเลพลังงานเพื่อเริ่มการฝึกฝนที่น่ากลัวอีกครั้ง
ไม่มีใครกล้าพูดหรือโกรธแต่อย่างใด เพราะเจ้านายของพวกเขาก็ยังเข้าร่วมฝึกฝนด้วย
ถ้าแม้แต่นายใหญ่ของพวกเขาไม่พูดคำแสดงความโกรธแต่อย่างใด และพวกเขาจะมีคุณสมบัติพูดเช่นนั้นได้อย่างไร?
นายใหญ่ยังสามารถอดทนฝึกฝนได้
พวกเขาจะไม่ทนได้อย่างไร?
ดังนั้นทุกคนจึงต้องกัดฟันฝืนใจพยายาม
ตั้งแต่แรกเริ่มเซี่ยอี่อันและพวกพวกที่เหลือยังใช้ร่างของเจ้านายใหญ่ของเขากระตุ้นกำลังใจให้กับทุกคนได้อยู่ แต่ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่มีใครเหลือพลังไว้พูดอะไร
เพราะทุกคนประมาทระดับความไม่ธรรมดาของเจ้านายผิดไป
ตอนแรก เจ้านายพวกเขาก็เป็นเหมือนกับพวกเขา
ดิ้นรนตะเกียกตะกายด้วยความลำบาก
แต่ในเวลาอันรวดเร็ว
เขากลายเป็นเหมือนปลาที่อยู่ในน้ำ ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก แต่การกระทำที่ตามมาทำให้พวกเขาตะลึงมากขึ้น
เขาพาตัวเองวิ่งเข้าไปในกระแสพลังงานที่เชี่ยวกรากเอง
ตอนแรกเพื่อดึงดูดพลังงานที่ไม่เสถียรเพื่อใช้ปรับความสามารถในการป้องกันของเขา
เขาจึงเริ่มโจมตีวังวนพลังงาน
ขณะที่ทุกคนยังเงียบ แต่เจ้านายแหกปากร้องออกมาเป็นครั้งคราวและเหาะเข้าไปในกลุ่มพลังงานอีก
และหลังจากนั้นเขาจะแผดเสียงและวิ่งตะลุยไปข้างหน้า...
มึน ทุกคนรู้สึกมึนงง
โลกนี้โหดร้ายไม่ใช่เพราะมีตัวประหลาดผิดธรรมดา
แต่เป็นเพราะเอาตัวประหลาดนั้นมาไว้ใกล้ตัวท่าน
จนกระทั่งคำว่า ‘จงชนะและเอาชนะตัวเองให้ได้
และอย่าเอาไปเทียบกับคนที่ประหลาดผิดธรรมดา”
ผุดขึ้นมาในใจ ทุกคนที่รู้สึกหดหู่ใจ ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง
การฝึกฝนที่คาดไม่ถึงและน่ากลัวเป็นเหมือนหินลับมีดที่หยาบแข็ง ความคมกล้าค่อยๆ
ปรากฏกับเซี่ยอี่อันและพวกที่เหลือ
เมื่อพวกเขาเห็นปากอ่าวทวีปซางโจว ทุกคนโห่ร้องด้วยความดีใจ
และความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่ผุดขึ้นในใจของพวกเขาอีกครั้ง
สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือรัศมีที่คมชัดจากการที่ฝุ่นเปรอะเต็มใบหน้า
ทำให้คนอื่นที่เห็นตกใจอย่างหนัก
12 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
มาแบบไม่ทำมะดา 555
ขอบคุณมากเลยนะคับ
รอคร้าฟ
ใครเอาตัวเองไปฝึกเลียบแบบบักถังนี่ ไม่ตายก็คางเหลืองทุกราย
ขอบใจจ้า
กำลังมันส์ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ รัศมีออร่าจับกองทัพที่น่ากลัว
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
เดวลูกน้องใหม่จะรู้ ว่ามีพวกแปลกๆ เถือ่นๆ อีกเป็นฝูงรออยู่ ฮ่าๆ
แสดงความคิดเห็น