วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 654 เข้าสู่ทวีปเหย่เหรินโจว (คนเถื่อน)


ตอนที่  654  เข้าสู่ทวีปเหย่เหรินโจว (คนเถื่อน)
ในตอนเหนือสุดของทวีปเหย่เหรินโจว มีสงครามใหญ่เกิดขึ้น
เกินกว่าร้อยเผ่าแบ่งออกเป็นสองกองทัพใหญ่อย่างชัดเจน ต่างฝ่ายต่างประจัญหน้ากันบนที่ราบหิมะกว้างใหญ่  ในทวีปเย่เหริ่นโจว มีสงครามเกิดขึ้นถี่มากเกินกว่าทวีปใดๆ ในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์  บรรยากาศโดยทั่วไปของดินแดนที่โหดเหี้ยมก็คือพวกเขานับถือความแข็งแกร่งทำให้ทุกเผ่าภายในทวีปเข้าร่วมสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น

ที่ตั้งอยู่ในภูเขาอาบาของทิศใต้ก็คือราชวงศ์ภูผาเหล็ก  และที่ตั้งอยู่ในทุ่งราบหิมะก็คือราชวงศ์ราชาน้ำแข็ง  ทั้งสองมักจะขัดแย้งกันเสมอ ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็หมดความอดทนและสู้กันจนตาย
สงครามครั้งนี้มีอิทธิพลใหญ่ต่อโครงสร้างในส่วนหนึ่งของทวีปเหย่เหรินโจว
ที่แนวหน้าของทั้งสองฝ่าย  มีแท่นบูชาขนาดต่างๆ อยู่ทั่วทุกแห่ง   เปลวไฟลุกขึ้นจากหม้อเผาภายในบ้านปล่อยควันโขมง เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ ปรุงอยู่ในหม้อเหล็ก ไอน้ำในหม้อระเหยออกขณะที่น้ำเดือดพล่าน
บนแท่นบูชาต่างๆ  มีพ่อมดหมอผีจากเผ่าต่างๆ ทุกคนเต้นหยองแหยงมือถือไม้เท้ากระดูก สีหน้าของพวกเขาเหมือนกับคนบ้าอย่างแท้จริง
ในราชสำนักทั้งสองนั้น  พวกเขามีคนเกินร้อยเผ่าพันธุ์  แต่ละเผ่าก็บูชาเหล่าเทพเจ้าแตกต่างกันไป  ดังนั้นเครื่องเซ่นของพวกเขาจึงแตกต่างกันไปการบูชาก่อนการสู้รบเป็นประเพณีของชาวทวีปคนเถื่อนที่เห็นได้โดยทั่วไป  เหมือนกับว่าจะสามารถเพิ่มพลังให้กับทหารได้มาก
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ทวีปอื่นๆ เชื่อว่าทวีปคนเถื่อนนั้นไร้อารยธรรม
พลังงานที่แปลกประหลาดท่วมเพิ่มมาจากแท่นบูชาแต่ละแท่น คลุมเต็มอากาศเหนือพื้นหิมะ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ราชาทั้งสองฝ่ายก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกัน แววตาของพวกเขาประหลาดใจ
ทวีปเหย่เหรินโจวเคารพนับถือพลังอำนาจมากที่สุด  และทุกราชวงศ์จะถูกจัดตั้งขึ้นโดยมหาราชา  มหาราชาทุกพระองค์จะเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งทรงพลัง  ในแผ่นดินรกร้าง แค่อาศัยสติปัญญาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างราชวงศ์ได้
ราชวงศ์ภูผาเหล็กมีมหาราชาเถี่ยจี๋  ราชวงศ์น้ำแข็งเหนือมหาราชาอาซือหมิงเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่ง  ความรู้สึกของพวกเขาไวต่อพลังงานเหนือคนธรรมดา
แต่ขณะนั้น พวกเขาแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า  รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
ในสงครามใหญ่เช่นนี้ การเสียสละแนวหน้าเป็นเรื่องธรรมดามาก  ทั้งสองฝ่ายจะประกอบพิธีบวงสรวงในอากาศ หรือควรจะพูดให้ตรงเหตุผลก็คือ พลังจากทั้งสองฝ่ายกำลังปะทะกันกลางอากาศ  แต่นั่นก็เป็นแค่เพียงบทนำในการสู้รบ
แต่พลังบูชายัญจากเผ่าพันธุ์ต่างๆ รวมตัวผสมผสานกันในอากาศไม่ต่างกันกับการสู้ระหว่างศัตรู
พวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่แปลกอย่างนั้นมาก่อน
ในเวลาอันรวดเร็ว พ่อมดหมอผีบนปะรำบูชายัญรู้สึกได้ถึงบางอย่างว่าผิดปกติ  ดูเหมือนว่ามีกระแสวังวนอยู่ในอากาศ กำลังดูดซับพลังของพวกเขาอย่างเต็มที่  พวกเขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังจากแท่นบูชายัญของพวกเขาทะลักเข้าไปในอากาศอย่างรวดเร็ว
ครืดดดดดด
หนึ่งในเผ่านักรบตระหนักได้ทันทีว่าอาวุธในมือของเขากำลังสั่นเล็กน้อย  ราวกับว่ามันกำลังดิ้นรนเพื่อให้เป็นอิสระจากมือของเขา
เขาตกใจ และหันหน้าไปดู  ในสายตาของเขา อาวุธกำลังสั่น
ครืดดด  ครืดดด ครืดดด ครืดดด!
ปรากฏการณ์คลื่นเสียงดังหึ่งหึ่ง ทำให้ผิวของพวกเขาชา
เถี่ยจี๋และอาซือหมิงสีหน้าเปลี่ยน มีพลังมาบรรจบกันในท้องฟ้า  และในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ขยายตัวกลายเป็นพายุหมุนที่น่ากลัว  มหาราชาที่ทรงพลังทุกคนรู้สึกได้ว่าหัวใจพวกเขาเต้นแรง 
 เกิดอะไรขึ้น?’
ท้องฟ้าจู่ๆ ก็เกิดเป็นรอยแสงแยกขาดจากกันเป็นแนวคล้ายกับดาวตก มันคือแรงเสียดทานระหว่างกระแสพลังงานและอากาศความเร็วสูง เกิดเป็นรัศมีสว่าง  แสงเหล่านั้นกำลังมารวมกันจากทุกมุม  วิ่งเข้าหากระแสวังวนไร้ลักษณ์เหนือแผ่นผืนหิมะ
รอยแตกแยกนับหมื่นรวมตัวเป็นกระแสวังวนที่สว่างไสว
กระแสวังวนเริ่มสว่างสดใสมากขึ้น  คลื่นผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนกับคลื่นมหึมาที่ดังกึกก้องออกมาด้านนอก
พลังที่แข็งแกร่งทำให้หัวใจทุกคนสั่นไหว   และนักรบประจำเผ่าที่กล้าหาญรู้สึกหวาดกลัวทุกคน  พรึ่บ มีบางคนเข่าอ่อนและคุกเข่าลงกับพื้น  ราวกับว่าระลอกพลังได้กดบังคับเขาลงไป  ในกองทัพใหญ่ทั้งสอง พวกทหารเริ่มคุกเข่า หน้าของพวกเขาทุกคนก้มลงมองหิมะ  หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยความยำเกรงและหวาดกลัว
บนพื้นหิมะ เหลืออยู่แต่เพียงมหาราชาทั้งสองที่ยืนอยู่อย่างเข้มแข็ง  ทั้งสองคนกำลังต่อต้านพลังที่กล้าแข็ง
เสียงที่น่ามึนงงหายไปทันที พื้นที่กลับคืนสู่ความเงียบสงบ
วังวนแสงหยุดหมุน และกลายเป็นรูปประตูแสงในท้องฟ้า
ทันใดนั้นตาทั้งสองของมหาราชาทั้งสองเบิกกว้าง
มีร่างหนึ่งค่อยเดินออกมาจากประตูแสง และตามด้วยอีกคนหนึ่ง จากนั้นก็มีร่างหลายร่างทะยอยเดินออกมาร่างแล้วร่างเล่า
 วิญญาณผู้กล้า!
 มีวิญญาณผู้กล้ามากมายจริงๆ!’
มหาราชาทั้งสองมองดูอย่างตื่นตะลึง  พวกเขาเหม่อมองบนท้องฟ้า
ที่อื่นนอกจากทวีปเหย่เหรินโจว ทุกคนจะเรียกพวกเขาว่าคู่หูวิญญาณ  แต่ในดินแดนที่ป่าเถื่อนโหดร้าย พวกเขาจะถูกยกย่องว่าเป็นวิญญาณผู้กล้า  วิญญาณผู้กล้าถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือคุ้มกันจากบรรพบุรุษ  คนที่สามารถได้รับวิญญาณผู้กล้าก็สามารถได้รับการปกป้องคุ้มกันจากบรรพบุรุษ  เถี่ยจี๋และอาซือหมิงมีความรู้มากกว่าคนอื่น  พวเขารู้ว่าวิญญาณผู้กล้าคือนักสู้ผู้แข็งแกร่งซึ่งมีอารมณ์ที่รุนแรงก่อนที่พวกเขาจะตาย  ดังนั้นจึงก่อเกิดเป็นวิญญาณผู้กล้า  เหมือนกับที่อื่น วิญญาณผู้กล้าก็เหมือนกับคู่หูวิญญาณ และสามารถซื้อขายกันได้
แต่....
วิญญาณผู้กล้าทั้งหมดมีเสื้อผ้าเหมือนกัน มีการตั้งขบวนที่แข็งขัน  เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นกองทัพ
 กองทัพวิญญาณผู้กล้า...’
ในทวีปเหย่เหรินโจว การก่อเกิดวิญญาณผู้กล้า มีเกณฑ์อยู่สองข้อ  ประการแรก เขาต้องมีความตั้งใจและความปรารถนาแรงกล้า  อีกประการหนึ่งมีพลังแข็งแกร่งเพียงพอเมื่อตอนที่พวกเขายังมีชีวิต  ในทวีปเหย่เหรินโจวมีแต่มหาราชาเท่านั้นที่มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างวิญญาณผู้กล้าออกมา
 กองทัพของวิญญาณผู้กล้า... นั่นหมายความว่า ถ้าพวกเขายังมีชีวิต ก็เท่ากับเป็นกองทัพมหาราชาไม่ใช่หรือ?
มหาราชาทั้งสองคนตกตะลึงไปหมด หลังจากวิญญาณผู้กล้าเดินออกมาจากประตูแสงเงียบๆ ทีละคน  พวกเขาก็ยังมีออกมาเรื่อยๆ  ราวกับว่าเบื้องหลังประตูแสง มีวิญญาณผู้กล้าอย่างไม่จำกัด
ขนาดของกองทัพวิญญาณผู้กล้าต่อหน้าพวกเขาทำให้สองมหาราชารู้สึกมึนงง
ทันใดนั้น มีร่างที่อยู่ในชุดเขียวเข้มเดินออกมาจากประตูแสง  ทำให้มหาราชาทั้งสองตกตะลึง
ในอากาศ สุภาพสตรีสาวอยู่ในเครื่องแบบทหาร สวมมงกุฎเพอร์ซูส  ผมดำขลับของนางโบกสะบัดอยู่ในสายลม  นางมองลงมาบนพื้นแผ่นดินกว้างใหญ่
***********************

การมาถึงของกลุ่มของถังเทียนขู่ขวัญทุกคนจนกลัว
จี๋ซานและคนสอดแนมอีกคนได้แต่เงียบ ทหารทุกคนปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันจนทำให้พวกเขากลัว  เมื่อกองเรือเข้ามาในทวีปซางโจว  พวกหน่วยสอดแนมพบว่าเรือรบที่มีอยู่ในสมาคมการค้าสวีจี้และเครื่องหมายตระกูลไป๋ ทำให้พวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไป
เมื่อได้ยินว่าถังเทียนกำลังกลับ สวีจินและไป๋เยี่ยไล่ตามมาทันในครึ่งทาง
สมาคมการค้าสวีจี้คือหนึ่งในองค์กรทำธุรกิจอาวุธที่ทรงพลังภายใต้ท้องฟ้านี้  ขณะที่ตระกูลไป๋เป็นตระกูลที่มีอำนาจแข็งแกร่งและหยั่งรากลึกในภูมิภาคใต้  เพียงแค่ทวีปซางโจวมีสัมพันธ์โยงใยกับมหาอำนาจทั้งสอง  ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดแล้ว
จี๋ซานกับเรย์มอนพับแผนการยึดทวีปซางโจวไปโดยปริยาย   แทบจะในทันทีพวกเขารายงานกลับไปยังผู้บริหารระดับสูง และพวกเขาก็ต้องกลับไปด้วยความขมขื่น
 “นายท่าน!  ถังโฉ่วทักทายปิง
 “ทำได้ดี!  ปิงพ่นควันเป็นวง และพยักหน้าด้วยความพอใจ  “ถ้าเจ้ายังเป็นไปอย่างนี้  ข้าคาดได้ว่าอีกไม่นานเจ้าก็คงแซงข้าได้!
ถังโฉ่วยังคงตอบจริงจัง  “ผู้น้อยจะต้องแซงนายท่านให้ได้!
 “อย่างนั้นเจ้าก็ต้องพยายามให้หนัก!  ปิงหัวเราะลั่น  เขาไม่โกรธแม้แต่น้อย
เซี่ยอวี่อันและพวกที่เหลือไม่กล้าหายใจแรง  ในใจพวกเขา  ถังโฉ่วเป็นเทพเจ้าสงครามไปแล้ว  พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าคู่หูวิญญาณที่ดูธรรมดาข้างหน้าพวกเขาจะถูกท่านถังโฉ่วเรียกว่า “นายท่าน”  เรื่องนี้ทำให้เกิดแรงกดดันในใจพวกเขา
 พลังของเจ้านายยากจะหยั่งถึงจริงๆ
ป้อมไพรกระบี่ได้รับการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงใหม่ดูแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
อาเฮ่อร่วมกับสวีจินและไป๋เยี่ยขณะพาชมป้อมไพรกระบี่  อาเฮ่อเกิดมาในตระกูลสูงอยู่แล้วมีความละเอียดอ่อนในการพบปะต้อนรับผู้คน  ดังนั้นหน้าที่นี้จึงเป็นของเขา
 “เป็นงานฝีมือเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร”  ไป๋เยี่ยยังคงชื่นชม  “ข้าเคยเห็นฐานทัพป้อมปราการมากมายมาก่อน  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าพบเห็นป้อมปราการที่โดดเด่นอย่างนี้ สงสัยจริงๆ ว่าใครเป็นผู้สร้างป้อมนี้?”
สวีจินที่ยืนอยู่ข้างไป๋เยี่ยยังคงอยู่ในอาการมึนงง  เขายังไม่หายจากอาการตกใจ เมื่อเขาได้เห็นทะเลทรายสีดำ  หินดำกว้างไกลไม่มีสิ้นสุดซึ่งก็หมายความว่าสมบัติจำนวนมหาศาล  แม้ว่าเขาจะไม่เคยขาดแคลนเงิน  แต่เขาก็ยังหลงใหลทะเลทองดำอยู่ดี
ไป๋เยี่ยก็ตกใจพอกัน  แต่เขาไม่ได้ตกใจที่ปริมาณของหินดำ  แต่กลับเป็นป้อมไพรกระบี่
อาเฮ่อหัวเราะ  “เป็นหัวหน้าวิศวกรจักรกลของเรา”
ไป๋เยี่ยคิดดูแล้ว แค่คำว่า หัวหน้า ก็หมายความว่าพวกเขาไม่ได้มีเพียงคนเดียว
 “ข้าพอจะพบกับท่านผู้นี้ได้หรือไม่?”  ไป๋เยี่ยพูดด้วยความเคารพ  “ปรมาจารย์ระดับสูงอย่างนั้น  ถ้าข้าสามารถเรียนรู้จากเขาสักเรื่องหรือสองเรื่อง  ข้าคงตายได้อย่างไม่เสียใจเลย”
 “ขออภัยจริงๆ  นางไม่ได้อยู่ที่นี่  “อาเฮ่อพูดพลางขอโทษพลาง
 “นั่นช่างน่าเสียดายจริงๆ”  ไป๋เยี่ยรู้สึกเสียใจจริงๆ  ใจของเขายังคงคิดหาทุกวิถีทางพยายามเพื่อให้พบกับคนมีปัญญาขนาดนั้น
ตั้งแต่แรก ไป๋เยี่ยเห็นบางอย่างในตัวเหมิ่งหนาน  และคิดว่าเขามีศักยภาพพอจะกลายเป็นพันธมิตรกับตระกูลไป๋ได้  แต่พอเวลาผ่านไป เหมิ่งหนานทำให้เขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้น  และค่อยๆ เผยให้เห็นพลังของเขา  ทำให้ไป๋เยี่ยต้องประเมินความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเสียใหม่
นอกจากนี้เขาได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเซี่ยอวี่อันและคนอื่นๆ
ไป๋เยี่ยเองถือได้ว่าเป็นผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง  แต่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นประจักษ์กับการฝึกที่โหดหินและอันตราย  และสิ่งที่เขาไม่เคยคิดก็คือเซี่ยอวี่อันและพวกยังคงตรากตรำอยู่ต่อ
เหมิ่งหนานก็คือพยัคฆ์ร้ายที่น่ากลัว มีทั้งเขี้ยวและเล็บเติบโตเต็มที่
ไป๋เยี่ยรู้สึกสงสารทวีปฝานซิงโจวขึ้นมาทันที  มีพยัคฆ์ร้ายอยู่ข้างๆ ตัวพวกเขา  พวกเขาไม่มีทางหลับและกินได้อย่างเป็นสุขแน่นอน
การคาดเดาของไป๋เยี่ยถูกต้อง  หยางจื่อชิงและฮัสกีกระวนกระวายใจแล้ว และพบว่าพวกเขาประเมินทวีปซางโจวต่ำเกินไปเพียงไหน  คำตอบทั้งหมดที่หยางจื่อชิงเตรียมไว้ก่อนจะมาที่นี่ถูกเทกระจาดทิ้งหมด  เพราะแม่ทัพเฒ่าฮัสกีบอกเขาไว้อย่างชัดเจนว่าทวีปซางโจวแข็งแกร่งมากกว่าทวีปฝานซิงโจว
ทวีปฝานซิงโจวเป็นเหมือนบ้านที่มีรอยรั่วเต็มไปหมดโย้เย้ต้านลมและฝน  ขณะที่ทวีปซางโจวเต็มไปด้วยความมั่นคงและพลัง
เป็นครั้งแรกที่หยางจื่อชิงพบกับถังเทียน  ผู้ปกครองที่แท้จริงของทวีปซางโจว
 อายุน้อยมาก
หยางจื่อชิงอุทานในใจ  แต่เขาไม่กล้าดูแคลนอีกฝ่ายหนึ่ง  สามารถเป็นผู้นำที่เด็ดขาดได้ทั้งที่อายุเยาว์ขนาดนั้น  ใครจะมีคุณสมบัติดูถูกเขาเล่า?
ตาของเขาเป็นประกายขณะที่เขามองดูปิงที่กำลังพ่นควันอยู่ห่างๆ ข้างตัวถังเทียน  ต่อหน้าเขาการเคลื่อนไหวฟุ่มเฟือยไม่มีความหมาย  หยางจื่อชิงมีประสบการณ์กับเขาแล้ว  และรู้ว่าปิงรับมือได้ยาก
 “เราหวังว่าจะสร้างสัมพันธไมตรีกับทวีปซางโจว  ไม่ทราบว่าท่านเจ้าครองทวีปจะคิดเห็นเป็นเช่นไรบ้าง?”  หยางจื่อชิงไม่พยายามเล่นแง่ และพูดตรงประเด็นทันที  สำหรับทวีปฝานซิงโจวในปัจจุบัน  เวลาสำคัญที่สุด การเสียเวลาสำรวจที่นี่ พิสูจน์แล้วมีแต่จะสร้างความเสียหายใหญ่ให้กับพวกเขา
 “สัมพันธไมตรี? เราทำได้แน่นอน!  ปิงพ่นควันเป็นวงและพูดต่อ  “เราต้องดูมูลค่าที่ทวีปของเจ้ายินดีจ่ายก่อน”
 ความรู้สึกของเศรษฐีจอมเจ้าเล่ห์ เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด
หยางจื่อชิงเตรียมตัวมาก่อนแล้ว และพูดโดยไม่ลังเล  “เรายินดีมอบสะพานลอยในทะเลแสง เป็นของขวัญจากเจ้าครองทวีปเรา”
ถังเทียนและปิงตกใจทั้งคู่  พวกเขาคิดว่าทวีปฝานซิงโจวจะจ่ายให้มากมายอย่างไม่เต็มใจ  แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าทวีปฝานซิงโจวเตรียมจ่ายให้อย่างฟุ่มเฟือยขนาดนั้น
สะพานลอยแห่งทะเลแสง มีอยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

10 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ให้สะพานทะเลแสงแต่ต้องซ่อมแซมจนกว่าจะใช้การได้นาแถมต้องคอยระวังเหล่าแคระฟ้าอีก

WingF กล่าวว่า...

แคระฟ้ามีเส้นสายอยู่นะ แค่เรื่องซ่อมชิวๆ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครัช

งงอ๊ะจะทำไม? กล่าวว่า...

อย่าลืมสิ คนแคระฟ้า มันก๊เบ้ เสี่ยถัง ทั้งนั้นหละ เหอะๆ งานนี้ เหล่าสเมิร์ฟ มาตรึมแน่นอน ฮ่า

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นางเองตูมาแล้วดะเจอทัพวิญาจะหนาวกว่านี้

มีงาน กล่าวว่า...

เมียมาแล้วโว้ยอีถังจากจอมห้าวกลายเป็นแมวเชื่องๆแน่นอนหุหุ

Anny กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ💕💕

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Neoplasm24 กล่าวว่า...

ขีดเส้นใต้3เส้น
เมียมึงมาแนะพี่ถัง

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

เซียนฮุยยยยยยยยยยยยยย

แสดงความคิดเห็น