วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 706 ห้าตระกูลใหญ่เมืองจื่อจวน


ตอนที่  706  ห้าตระกูลใหญ่เมืองจื่อจวน
เมื่อเห็นผิงเสี่ยวซานถูกมัดทั้งตัว และมีอะไรบางอย่างยัดใส่ปาก  ถังเทียนตกใจ
 “เขาแอบเข้ามา  ข้าก็เลยมัดเขาไว้”  หานปิงหนิงอธิบายทุกอย่างในประโยคเดียว

ถังเทียนรู้สึกมึนงง  เขาเดินขึ้นไปและเอาผ้าที่ยัดอยู่ในปากผิงเสี่ยวซานออกและถาม  “ข้าบอกเจ้าว่าอย่ากลับมาขโมยไม่ใช่หรือ?  ทำไมเจ้ามาที่นี่อีก?”
ผิงเสี่ยวซานก้มหัวและพูดด้วยความเคารพ  “ผู้น้อยอยากจะรับใช้นายท่าน”
 “รับใช้ข้า?”  ถังเทียนตกใจอีกครั้ง เขามองดูผิงเสี่ยวซานอย่างสงสัยและถามขึ้นทันที  “เจ้าเป็นหนี้เงินใครอยู่ข้างนอกหรือเปล่า?”
ผิงเสี่ยวซานมองดูสับสน  ก็ได้, ใครดันให้ข้าทำตัวเป็นขโมยในการพบกันครั้งแรกเล่า  เขากัดฟันกล่าว  การต่อสู้ของนายท่านก่อนนั้นสร้างความตื่นตกใจไปทั้งเมือง  สถานะนายท่านย่อมมีเกียรติและทรงพลังอย่างมากมายแน่นอน  แต่ผู้น้อยมีทักษะที่ต่ำต้อย  แต่ข้าเติบโตในเมืองจื่อจวน ถ้านายท่านต้องการข้อมูลใดๆ ข้าน้อยสามารถหามาให้ท่านได้”
ถังเทียนตาสว่างโพลง  ความจริงเขาต้องการได้คนท้องถิ่นมาช่วยเขา  เขาเหมือนคนตาบอดต่อเรื่องราวของเมืองจื่อจวน  แม้แต่หานปิงหนิงก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการเก็บรวบรวมข้อมูล  ถ้าพวกเขาได้คนท้องถิ่นช่วยเหลืออย่างลับๆ ก็จะทำให้ประหยัดพลังไปมาก
 “เนื่องจากเจ้าคุ้นเคยกับเมืองจื่อจวนใช่ไหม?  งั้นบอกข้าได้ไหมตระกูลใดได้สหายของข้าไป?”  ถังเทียนถาม
ผิงเสี่ยวซานได้พิจารณาด้วยตนเองอย่างรอบคอบก่อนจะมาแล้ว และได้เตรียมการหลายอย่างไว้เป็นธรรมดา  ถังเทียนไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองตั้งความหวังจะช่วยคนของเขา นั่นก็คือหมายความว่ากำลังคิดช่วยพวกที่เหลือแน่นอน  เรื่องตระกูลต่างๆ เลือกเอาคนที่มาจากคลื่นซัดไม่ใช่ความลับในเมืองจื่อจวน  ผิงเสี่ยวซานไปสืบดูและในเวลาอันรวดเร็วก็ได้รับข้อมูลที่เขาต้องการ
คำถามของถังเทียนบังเอิญตรงกับข้อมูลที่เขาเตรียมไว้พอดี  เขาผ่อนคลายและใช้น้ำเสียงพูดด้วยความมั่นใจมากขึ้น  “ก่อนที่จะมานี้ผู้น้อยได้ตรวจสอบดูแล้ว จากพลังคลื่นที่ซัดมาครั้งล่าสุด เมืองนี้จับคนได้รวม 468 คน ตระกูลฉินได้คนไปมากที่สุด 227 คน นอกจากนั้นเป็นตระกูลสวี่ 92 คน  ตระกูลโรแลนด์ 65 คน  ตระกูลโซเบท 42 คน ตระกูลอวี่ 40 คน ที่เหลือก็เป็นนายท่านกับแม่นางหาน”
ตัวเลขที่ถูกต้องนี้ทำให้ถังเทียนเชื่อใจผิงเสี่ยวซานมากขึ้น
 เขามีมาตรฐานอยู่บ้างจริงๆ
จากนั้นถังเทียนถาม  “ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”
ผิงเสี่ยวซานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง  “ก็ไม่ดีเท่าใดนัก  ตอนนี้ตระกูลต่างๆ กำลังแบ่งแยกกลุ่มคนของท่านที่ฝึกไม่ได้ และมีนิสัยหยิ่งผยอง  พวกเขาจะต้องได้รับการขัดเกลาเพื่อให้เข้ากับตระกูลของพวกเขาให้ได้  ดังนั้นหลายคนถูกทรมานอยู่ในเรือนจำ  ตระกูลต่างๆ หวังว่าจะสามารถขัดเกลานิสัยของพวกเขาจนเข้ากับพวกเขาได้”
หน้าของถังเทียนหมองทันที และเขากำหมัดแน่น
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขากลายเป็นมัจจุราชทันที เปล่งรังสีฆ่าฟันที่น่ากลัว  เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจ้องมองสัตว์ร้ายที่อันตรายและทำให้เขาหายใจไม่ออก
หานปิงหนิงอดมองดูถังเทียนไม่ได้  นางรู้สึกว่าถังเทียนแข็งแกร่งขึ้น
ทันใดนั้น รังสีอำมหิตหายไป  ถังเทียนคิดว่าโกรธไปก็ไม่มีประโยชน์
 “ตระกูลใดเป็นเป้าหมายที่ง่ายที่สุด?”  ถังเทียนไม่ปิดบังความคิดและถาม
แม้ว่าผิงเสี่ยวซานจะตัดสินใจเข้าร่วมมือกับถังเทียน  แต่เขาไม่เคยคิดว่าถังเทียนจะเป็นคนตรงนัก เขาสะดุ้ง หลังจากนั้นชั่วครู่เขาฝืนหัวเราะ  “ไม่มีตระกูลใดที่เป็นเป้าหมายง่ายเลย”
เมื่อเห็นว่าถังเทียนไม่โกรธ  เขาลอบสบายใจและรวบรวมความคิดของเขา จากนั้นเพิ่มเติม “เมืองจื่อจวนมีห้าตระกูลใหญ่ก็คือ ดุเหว่าม่วงตระกูลฉิน ตราประทับตระกูลสวี่  วารีไหลรินตระกูลโรแลนด์ ฟีนิกซ์เพลิงตระกูลโซเบ็ท และองครักษ์เหล็กตระกูลมัวร์  ดุเหว่าม่วงตระกูลฉินแข็งแกร่งที่สุด  บรรพบุรุษของพวกเขาคือพวกที่สร้างเมืองนี้ ดังนั้นราชาเมืองจื่อจวนฉินเจิ้นก็คือบุคคลหมายเลขหนึ่งในเมืองจื่อจวนอย่างมิต้องสงสัย  ไม่มีใครรู้จักพลังของฉินเจิ้น ทั้งชีวิตของเขาแทบไม่ต้องทำงานใดๆ  และยากที่ใครจะรู้เรื่องของเขา  แต่เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว  นอกจากฉินเจิ้นแล้ว ตระกูลฉินมีสี่ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดมีความสำเร็จยิ่งใหญ่  ไม่ว่าจะเป็นคนใดในสี่คนก็สามารถสนับสนุนตระกูลหนึ่งได้  เรื่องส่วนใหญ่ของตระกูลฉินจะถูกจัดการโดยสี่ขุนพลผู้ยิ่งใหญ่นี้”
ถังเทียนฟังอย่างตั้งใจและอดทนอย่างมาก  เขาไม่เคยดูเบาศัตรูของเขา
 “ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับสองก็คือ ตราประทับตระกูลสวี่  กฎธรรมชาติเป็นตายของตระกูลสวี่ได้ฝึกหนึ่งในสามกฎใหญ่ นั่นคือกฎธรรมชาติเป็นตาย ทุกรุ่นของตระกูลสวี่จะมีอัจฉริยะพิเศษ ประมุขตระกูลสวี่รุ่นปัจจุบัน  สวี่เย่อายุเพียง 24 ปี แต่พลังของเขายากจะหยั่ง แต่ตระกูลสวี่ไม่ยุ่งกับกิจกรรมทางโลกมากนัก  และไม่มีใครรู้ว่าเป็นผลมาจากการฝึกเคล็ดวิชากฎเป็นตาย  แต่ประมุขตระกูลสวี่ทุกรุ่นจะไม่มีชีวิตยืนยาว  และประมุขตระกูลที่แก่ที่สุดก็คือ 45 ปี  แต่ตระกูลสวี่มีอัจฉริยะน่ากลัวหลายคน  และเคล็ดวิชากฎเป็นตายมักจะมีผู้สืบทอดเสมอ”
 “ในลำดับที่สามก็คือวารีไหลรินตระกูลโรแลนด์  ตระกูลโรแลนด์เป็นตระกูลที่ทรงเกียรติอย่างปฏิเสธไม่ได้  แต่แน่นอนพวกเขายังคงทำได้ดีกว่าตระกูลเซวีย แขนเสื้อวารีของตระกูลโรแลนด์ขับเคลื่อนจากกฎธรรมชาติน้ำมีรูปแบบที่ยากจะรู้ได้เอาชนะความแข็งด้วยความอ่อน คนของตระกูลโรแลนด์เป็นศัตรูที่ทำให้คนอื่นปวดหัวได้มากที่สุด  ความสามารถในการป้องกันของพวกเขาแข็งแกร่งมากจนกลายเป็นเรื่องน่ากลัว และแม้ว่าพลังของท่านจะเหนือกว่าพวกเขา  ถ้าท่านต้องการเอาชนะพวกเขา  จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ประมุขคนปัจจุบันของตระกูลโรแลนด์ก็คือโรแลนด์ ซู  ในช่วงหลายปีมานี้ ซาคงเลี่ยถูกแขนเสื้อน้ำของนางตัดขาด  และเขากลายเป็นคนพิการไปในที่สุด และไม่กล้าย่างเท้าเข้ามาในเมืองจื่อจวนอีกเลย”
 “อันดับที่สี่ก็มีตระกูลโซเบท กล่าวกันว่าฟีนิกซ์เพลิงของพวกเขาเกิดจากการรู้แจ้งของบรรพบุรุษของพวกเขาในกฎธรรมชาติของเพลิงห้าร้อยรูปแบบ และได้ 13 รูปแบบที่แข็งแกร่งที่สุด  หลังจากผสานกับเพลิงสิบสามแบบนี้ทำให้พลังของมันไร้เทียมทาน  ความสัมพันธ์ของพวกมันกับตระกูลโรแลนด์ไม่ค่อยดีนักเหมือนน้ำกับไฟ  นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลโซเบทชื่อว่าวิคเตอร์  เขามีบุคลิกที่ชอบปล่อยตัววนเวียนเที่ยวซ่องนางโลม  เขามีคุณสมบัติได้รับตำแหน่งประมุขตระกูล  แต่การกระทำของเขามักชอบทำตามใจตัวเอง ทำให้ผู้อาวุโสตระกูลไม่พอใจเขา  เขาไม่สนใจในเรื่องอำนาจ และชอบหาความเพลิดเพลินใจให้ตัวเอง  ครั้งนี้เมื่อเบนสันแสดงพลังของเขา  เขาคาดว่าวิคเตอร์จะตกไปอยู่อันดับที่ห้า”
 “และอันดับที่ห้าก็คือตระกูลมัวร์”
เมื่อฟังมาถึงจุดนี้  หน้าของถังเทียนเปลี่ยนไปในที่สุด  ก่อนนั้นเมื่อเขาคุยเกี่ยวกับพลังของพวกเขา  แม้ว่าผิงเสี่ยวซานจะพูดว่าพวกเขามีพลังขนาดไหน  แต่ว่าถังเทียนไม่รู้วิธีประเมิน  จนกระทั่งเมื่อเขาพูดว่าตระกูลมัวร์อยู่อันดับที่ห้า ทำให้เขาเปรียบเทียบได้ชัดเจนที่สุด
 “องครักษ์เหล็กตระกูลมัวร์ สืบทอดกันในตระกูลมัวร์ตามลำดับ มักจะมีกลุ่มคนผู้จงรักภักดีและองครักษ์เหล็กผู้มีจิตใจแน่วแน่คอยปกป้องตระกูลมัวร์อยู่เสมอ  แต่ตระกูลมัวร์ในปัจจุบันตกต่ำมายาวนานมาก  และองครักษ์เหล็กรุ่นปัจจุบันมีแต่เพียงเบนสัน  ตระกูลมัวร์มีการสืบทอดมรดกที่ซับซ้อน  แต่องครักษ์เหล็กมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างออกไป  ตั้งแต่ยังเยาว์วัยเบนสันได้เดินทางผจญภัยไปกว้างไกลและจากนั้นจึงค่อยกลับมาตระกูลมัวร์  เมื่อกลับมา เขาช่วยให้สถานะและอำนาจของตระกูลมัวร์มั่นคง  องครักษ์เหล็กตระกูลมัวร์ภักดีและเสียสละกันทุกคน ทำให้เป็นที่อิจฉาของตระกูลอื่น  เบนสันฝึกวิชาดาบสายลม  แต่ข้าไม่คาดเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งยิ่งนัก  ข้าคาดว่าสถานการณ์โดยรวมจะเปลี่ยนไปในไม่ช้า”
 “เบนสันหน้าดำถูกจัดเป็นอันดับที่ห้าเองหรือ?”  หน้าของถังเทียนดูไม่ค่อยดี
ผิงเสี่ยวซานพูดจนกระทั่งคอแห้ง  เขาผงกศีรษะ  “ถูกแล้ว ลำดับนี้ถูกจัดลงตัวมานานแล้ว  เป็นบางอย่างที่ทุกคนเห็นด้วย”
ถังเทียนรู้จักพลังบุรุษผิวเข้ม  แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จชิงตัวหานปิงหนิงมาได้ แต่นั่นเป็นอุบัติเหตุล้วนๆ ถ้าเป็นการต่อสู้เดิมพันชีวิต  ด้วยความสามารถปัจจุบันของถังเทียน เขาไม่มีโอกาสชนะ
 บุรุษที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเป็นอันดับที่ห้าในเมืองจื่อจวนเอง!’
 และหน่วยสุญญตาบังเอิญต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของสี่ตระกูลนี้ จะช่วยพวกเขาได้ทั้งหมด ขาต้องสู้ผ่านนักสู้ที่แข็งแกร่งทั้งสี่ไปให้ได้
ถังเทียนสูดหายใจลึกและจิตใจของเขาสงบลงอีกครั้ง  และตาของเขาเป็นประกายมุ่งมั่น
 จะยอมสูญเสียปณิธานเพียงเพราะพวกเขาแกร่งกว่าเจ้าน่ะหรือ?  ตลกสิ้นดี, เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับหนุ่มชาวฟ้าด้วยหรือ?  ทุกคนบอกว่าจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน  ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว  แค่มีความคิดยอมแพ้ก็ถือเป็นความขี้ขลาดแล้ว!’
 เจ้าสามารถทำได้  เจ้าสามารถช่วยทุกคนได้แน่!’
 และด้วยฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งมากมาย นั่นยิ่งน่าตื่นเต้นใหญ่  แค่คิดถึงพวกเขาก็ยิ่งทำให้ข้าเลือดลมเดือดพล่านแล้ว
 ข้าต้องแข็งแกร่งขึ้น!’
 มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น  ข้าจึงจะช่วยคนอื่นได้!’
ผิงเสี่ยวซานสังเกตว่าถังเทียนไม่ได้ท้อแท้แม้แต่น้อย  แต่กลับกระตือรือร้นมากขึ้น  เขารู้สึกชื่นชม  แม้ว่าถังเทียนจะค่อนข้างแปลกเป็นบางครั้ง แต่พลังใจของเขาเป็นสิ่งที่เขาไม่แพ้ใคร  พลังใจอาจดูเหมือนไม่มีอะไรสำหรับหลายๆ คน  แต่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและโหดร้ายของแดนบาป  ผู้ที่ขาดแคลนพลังใจไม่มีทางเอาตัวรอดได้  และนั่นคือเหตุผลที่ประเมินวิคเตอร์ไว้ต่ำ
 “เจ้าต้องการสิ่งใด?”  ตาของถังเทียนแวววาวขณะที่เขาจ้องมองผิงเสี่ยวซาน  เขารู้ว่าข้ากำลังทำเรื่องอันตรายมาก  แต่ก็ยังต้องการร่วมมือกับข้า  ดังนั้นเขาต้องการบางอย่าง
ผิงเสี่ยวซานพูดความจริง  “ข้าต้องการเรียนรู้วิธีที่นายท่านใช้กฎธรรมชาติอวกาศเพื่อโจมตีและป้องกัน”
ถังเทียนประหลาดใจ, เขาลูบศีรษะ  “การสอนเจ้าเป็นเรื่องง่าย  แต่ข้าทำความเข้าใจและหยิบมาใช้ขณะต่อสู้กับเบนสัน  หลังจากข้าค้นคว้าและศึกษาให้ดีก่อนสักสองสามวันหลังจากนั้นจึงค่อยสอนให้เจ้า”
ถังเทียนเป็นคนตรงและเปิดเผย  เขาไม่ชอบเอาเปรียบผู้คน  ผิงเสี่ยวซานช่วยเขา ดังนั้นเขาไม่ต้องการจะหลอกเขา
ผิงเสี่ยวซานซาบซึ้งดีใจ  “ขอบคุณนายท่าน!
 “อย่าเปิดเผยสถานะของตัวเจ้า”  ถังเทียนเตือนเขา  “ดังนั้นเราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้า”
ผิงเสี่ยวซานตกใจ  เขาไม่เคยคิดว่าถังเทียนจะพูดคำพูดอย่างนั้นออกมา
เมื่อเห็นว่าผิงเสี่ยวซานตกใจ  ถังเทียนคิดว่าเขาไม่เข้าใจ จึงรีบอธิบาย  “เผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา  พวกเขาจะได้ไม่ทำอะไรเจ้า”  จากนั้นเขานึกอะไรบางอย่างได้  “เอ เอ่อ .. ข้าพูดอะไรไปล่ะนี่.. ปากไม่ดีเลย  ไม่ ไม่  พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้ข้าทั้งหมด!  หนุ่มชาวฟ้าจะเอาชนะพวกเขาให้ได้ทั้งหมดและช่วยทุกคนออกมา!’
ผิงเสี่ยวซานรู้สึกชื่นใจ  เขามักจะอยู่ในสภาพระมัดระวังตัวเสมอ  และเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ มันเตือนให้เขานึกถึงโลกที่มีความเมตตา  แต่โลกก็ไม่เปลี่ยนไปเลย
เขาคิดเล็กน้อย  “ถ้านายท่านต้องการลงมือ  ทำไมไม่เริ่มจากวิคเตอร์  วิคเตอร์คือคนที่รักสนุกและผิดธรรมดา  เขามักจะเอาแต่สนุกสนานหาความเพลิดเพลินไปวันๆ  ถ้าเราโค่นล้มเขาได้และใช้เขาเป็นตัวประกันบังคับให้ตระกูลโซเบทตกลงยินยอมปล่อยตัวคนของท่าน”
 “ไม่!  ถังเทียนส่ายศีรษะ  “ข้าพบเป้าหมายของข้าแล้ว”
ผิงเสี่ยวซานตกใจอยู่ชั่วครู่  “นายท่าน  ท่านพูดถึงใคร?”
หานปิงหนิงอดมองมาไม่ได้
 “เบนสัน!  ถังเทียนยิ้มจนเห็นฟัน
 “แต่ตระกูลมัวร์ไม่ได้มีสหายของท่านอยู่อีกแล้ว...”  ผิงเสี่ยวซานไม่เข้าใจ
 “เจ้าต้องการเหตุผลในการต่อสู้ด้วยหรือ?” ดวงตาของถังเทียนเป็นประกายแสงเจิดจ้า  ปัจจุบันเขาเป็นเหมือนกองไฟที่ลุกโหม  “ใครจะเป็นคู่หูฝึกฝนได้ดีไปกว่าเบนสันเล่า?  ข้าได้รับประโยชน์มากมายจากการต่อสู้ครั้งล่าสุด  ข้าต้องการท้าเบนสัน!
 “ข้าต้องการดึงเอาทุกอย่างออกมาจากเขา!  ถังเทียนพูดอย่างห้าวหาญ
หานปิงหนิงตาเป็นประกายเจิดจ้าและโพล่งออกมา  “เติบโตผ่านการสู้รบ!
ผิงเสี่ยวซานตะลึง

7 ความคิดเห็น:

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

หานยังเห็นด้วย 555

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไอซ์ กล่าวว่า...

ตกหลุมรักเลย ใช่มะ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น