วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Panlong เล่มที่ 11 สุสานเทพเจ้า – ตอนที่ 3 มรดกบีบี


เล่มที่ 11 สุสานเทพเจ้า – ตอนที่ 3 มรดกบีบี
ในอากาศเหนือไพรทมิฬกว้างไม่มีสิ้นสุด เงาดำสายหนึ่งพุ่งผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูงหายลับไปในขอบฟ้า

ตาน้อยๆ ของบีบีเต็มไปด้วยความเศร้าและแค้น
 “ข้าจะฆ่าพวกมันให้ตาย!  บีบีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน  แต่ก่อนอื่นบีบีบินไปทางที่ลินลี่ย์ถือสันโดษฝึกฝีมือ
 “ควั่บ” เป็นเวลากลางวัน  แม้ว่าจะมีทหารเฝ้ายามอยู่ เงาดำเลือนรางพุ่งวับผ่านพวกเขาไปและเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดิน  ทหารเหล่านั้นไม่ทันสังเกตว่ามีอสูรเวทตัวหนึ่งเข้าไปในพื้นที่ซ่อน
ภายในห้องโถงใหญ่ในอุโมงค์ใต้ดิน
บาร์เกอร์จากไปแล้ว ลินลี่ย์และเดเลียยังไม่รีบกลับไปฝึก เนื่องจากพวกเขารอคอยอยู่เงียบๆ ให้บีบีมาถึงก่อน
 “พี่ใหญ่” เสียงของเขาสะอื้น  บีบีโถมเข้าอ้อมแขนของลินลี่ย์
 “เกิดอะไรขึ้น, บีบี?”  ลินลี่ย์กับเดเลียรู้สึกตกใจทั้งคู่
บีบีอยู่ในอ้อมแขนลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นมองลินลี่ย์ด้วยดวงตาเต็มไปด้วยอารมณ์  “พี่ใหญ่!  พ่อแม่ของข้าตายหมดแล้ว ฮืออออ” บีบียังสงสัยเรื่องพวกเขามาตลอดเวลา  แต่อนิจจา ผลออกมาเป็นเช่นนี้
 “เกิดอะไรขึ้น?  พูดให้ชัดๆ”  ลินลี่ย์รีบกล่าว  “อย่าเพิ่งร้องไห้”
ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าบีบีดูเหมือนยังมีสภาพจิตใจเหมือนเด็กโต  เขายังห่างจากความเป็นผู้ใหญ่ไม่ว่าเขาจะอยู่เผ่าพันธุ์ใดก็ตาม
บีบีพยักหน้า  “ข้าได้พบปู่เบรุตแล้ว  ปู่เบรุตเล่าให้ข้าฟังว่าบิดาของข้าเป็นหนูกินศิลาและมารดาของข้าเป็นหนูเงา  พวกท่านมีพลังมากทั้งคู่  และทั้งคู่อยู่ในระดับเก้า  แต่พวกเขาถูกคนฆ่า  คนผู้นั้นฆ่าพ่อแม่ข้า”
 “ใครฆ่าพวกเขา?”  ลินลี่ย์งง
 “ดาบดาราดิลลอน และเซียนจอมเวทธาตุดินรูดี้”  บีบีขบเขี้ยวกล่าว
ลินลี่ย์ตะลึง
ทันใดนั้นเขาคิดย้อนกลับไปที่การสู้รบระหว่างเซียนที่เกิดขึ้นที่เมืองอู่ซันเมื่อตอนเขาแปดขวบ  ลินลี่ย์จำได้ชัดเจน ได้ยินเซียนทั้งสองตะโกนใส่กันอย่างโกรธเกรี้ยว  เซียนนักรบคือดิลลอน!  และเซียนจอมเวทคือรูดี้
 “พวกเขาฆ่าพ่อแม่เจ้าหรือ?”  ลินลี่ย์ไตร่ตรองครู่หนึ่ง
เพราะการสู้รบครั้งนั้น  ลินลี่ย์ได้รับบาดเจ็บศีรษะเนื่องจากเขาปกป้องวอร์ตันน้องชายของเขา  เลือดได้ไหลหยดไปที่แหวนมังกรขนด  จึงทำให้ปู่เดลินออกมาจากแหวนมังกรขนดได้  เขาจึงเริ่มเข้าสู่เส้นทางจอมเวท  หลังจากฝึกฝนเกือบครึ่งปี  เขาจึงได้พบกับบีบีในพื้นที่ร้างหลังบ้านประจำตระกูลของเขา
 “ครึ่งปี...ใช่แล้ว เนื่องจากบีบีเติบโตเร็ว ครึ่งปีหลังจากกำเนิดเขาเติบโตจากทารกไปเป็นอีกขนาดหนึ่ง เมื่อตอนที่ข้าพบเขาครั้งแรกก็ได้”
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาและสถานที่เข้ากันได้พอดี
ลินลี่ย์ยังรู้สึกเป็นปริศนาในเวลานั้น  ทำไมเซียนทั้งสองจึงมาสู้รบกันที่เมืองน้อยอู่ซัน?  ตอนนี้ ดูเหมือนความจริงจะมีบางอย่างเกี่ยวกับพ่อแม่ของบีบี
 “ทำไมพวกเขาถึงได้ฆ่าพ่อแม่เจ้า?”  ลินลี่ย์ถาม
บีบีไม่ตอบโดยตรง  “พี่ใหญ่,  ไพรทมิฬคือที่อยู่ของอสูรเวทหนูทั้งหมด  แม้ว่าเทือกเขาอสูรวิเศษจะมีอสูรเวทอยู่หลายตัว แต่ยังไม่อาจเทียบจำนวนกับที่อยู่ในไพรทมิฬได้”  ลินลี่ย์พยักหน้าเข้าใจเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้  อสูรเวทหนูมีความสามารถขยายพันธุ์มาก
ที่ใดก็ตามที่มีอสูรเวทชุมนุม  ก็จะมีฝูงหนูอยู่ด้วยเช่นกัน
 “แม้ว่าจะไม่มีมากมายขนาดนั้น  แต่ก็ยังมีเกินสิบล้าน”  บีบีกล่าว  แม้ว่าแค่ส่วนหนึ่งของจำนวนรวมในไพรทมิฬก็มีจำนวนหลายร้อยล้านแล้ว  ขณะที่อสูรเวทของเทือกเขาอสูรวิเศษมีเพียงสิบล้าน ความแตกต่างที่เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
บีบียังคงพูดต่อ  “ในเทือกเขาอสูรวิเศษไม่มีหนูระดับเซียนอยู่เลย  ผู้นำของหนูสิบล้านก็คือพ่อแม่ของข้า  หนูกินศิลาและหนูเงาระดับเก้า”
ลินลี่ย์และเดเลียเข้าใจทั้งคู่
ทำให้รู้สึกว่ามีหนูระดับเก้าคู่หนึ่งอยู่ในบรรดาฝูงหนูนับสิบล้าน
 “เซียนดาบดาราดิลลอนและเซียนจอมเวทรูดี้นั้นทั้งคู่ต้องการฝึกอสูรวิเศษให้เชื่องเพื่อไว้ใช้งานเอง  ดาบดาราดิลลอนพบเจอบิดามารดาข้า  ดังนั้นจึงต้องการจะเอาพวกเขาไปฝึก ที่สำคัญการฝึกพวกเขาให้เชื่องได้ก็หมายความถึงฝูงหนูนับสิบล้าน”  ตาของบีบีลุกโชนด้วยความเกลียด
ลินลี่ย์กลับตรงกันข้าม  เข้าใจว่าดิลลอนรู้สึกยังไง
ฝูงหนูสิบล้านสามารถรับมือกองทัพทหารนับล้าน  แม้แต่มังกรระดับเก้าโดยหลักการแล้วมีพลังเท่ากับหนูกินศิลาหรือหนูเงาระดับเก้า  แต่มีแนวโน้มว่ายอดฝีมือเกือบทั้งหมดเลือกหนูกินศิลา หรือหนูเงาเอาไปฝึกเป็นคู่หู
 “โชคร้ายแม่ข้าท้องอยู่ในเวลานั้น”  บีบีขบเขี้ยว  “จ้าวมุสิกล้วนมีความภาคภูมิใจตัวเองทั้งนั้น บิดาข้าอาศัยพลังป้องกันที่แข็งแกร่งต้านรับดาบดาราของดิลลอนและให้แม่ข้าหนีไป”
พลังป้องกันของหนูกินศิลาน่ากลัวมาก  หนูกินศิลาระดับเก้า ยากที่เซียนธรรมดาจะฆ่าได้
 “พ่อของข้าคือจ้าวมุสิก  ปกติดาบดาราดิลลอนต้องการจะเอาเขาไปฝึก  และพ่อข้าเริ่มสู้กับเขา  แต่พ่อข้าปฏิเสธการยอมแพ้  และสู้ต่อกับเขา.. แต่ในที่สุด.. พ่อข้าถูกเซียนดาบดาราฆ่าตาย”  บีบีสะอื้น
ทุกคนสามารรถนึกภาพจ้าวมุสิกผู้หยิ่งผยองภาคภูมิใจ สามารถสั่งการฝูงหนูได้
เขาถ่วงเวลานานเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้แม่ของบีบีได้มีเวลาหนี
 “หนูเงามีชื่อในเรื่องความเร็ว  แม่ข้าเป็นหนูเงาระดับเก้า  และนางไวมาก แม้ว่านางจะท้องนางก็ยังหนีออกจากเทือกเขาอสูรวิเศษได้ขณะที่พ่อข้าสู้กับดิลลอน นางหนีไปทางตะวันตก และมาถึงเมืองอู่ซัน”
ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจ
 “แม่ข้าอาจกลัวว่าข้าจะถูกทำร้ายไปด้วย  ดังนั้นนางใช้พลังเวทของนางเพื่อคลอดข้าก่อนกำหนด” ตาของบีบีเต็มไปด้วยน้ำตาอีก  “ปู่เบรุตบอกว่าเมื่อเรา หนูกินเทพ ถือกำเนิดตามปกติ เรื่องที่แน่นอนคือข้าควรจะมีพลังเท่าอสูรเวทระดับหกหรือเจ็ดเมื่อตอนกำเนิด”
ลินลี่ย์งง
หนูกินเทพ?
นี่มันเผ่าพันธุ์ไหนกัน?  นี่เป็นเผ่าพันธุ์ของบีบีอย่างนั้นหรือ?
แต่เมื่อเห็นสภาพจิตใจของบีบีแล้ว ลินลี่ย์ไม่แทรกเขา เก็บความสงสัยไว้ถามภายหลัง
 “หลังจากให้กำเนิดข้าก่อนเวลาแล้ว  ร่างของแม่ข้าบาดเจ็บภายใน ในสถานการณ์เช่นนั้นแม่ข้าสั่งข้าให้อยู่ในลานบ้านร้างไม่ให้วิ่งเพ่นพ่าน เนื่องจากเป็นทารก ไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับข้า  ดังนั้นข้าจึงแค่กินหินอยู่ที่นั่นเติบโตเงียบๆ”
 “แม่บอกข้าว่านางอยู่ในตระกูลเบรุต  และว่าข้าเป็นสมาชิกของตระกูลเบรุต”
บีบีขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธและเศร้า  “เพื่อไม่ให้ข้าตกอยู่ในอันตราย นางปล่อยข้าไว้ที่นั่น  จากนั้นหนีไปทางตะวันตก  แต่โชคไม่ดี...ขณะนั้นไปทางตำแหน่งที่เซียนจอมเวทรูดี้อยู่  รูดี้ไล่ติดตามแม่ข้าเช่นกันตั้งใจจะรับนางไปเป็นอสูรคู่กาย”
ลินลี่ย์สามารถนึกถึงฉากภาพนั้นได้
 “แม่ข้าเป็นหนูเงาระดับเก้า  แต่เพิ่งให้กำเนิดข้า พลังของนางจึงตกลงอย่างมาก  นางหนีไปทางตะวันออกอย่างสุดฝีเท้า  แต่เวลานั้นดิลลอนมาถึงเช่นกัน  ดิลลอนเป็นนักรบอาศัยความเร็วจับตัวแม่ข้าไว้”  บีบียิ่งโกรธมากขึ้น  “และจากนั้นดิลลอนกับรูดี้เพื่อจะแย่งชิงเป็นเจ้าของหนูเงาระดับเก้า จึงเริ่มสู้รบกัน”
ลินลี่ย์เข้าใจแล้วในตอนนี้
ดาบดาราดิลลอนจับหนูเงาได้  แต่รูดี้ต้องการชิงจากเขา  เซียนทั้งสองจึงสู้กันเหนือท้องฟ้าด้านตะวันออกเมืองอู่ซันซึ่งสร้างภัยพิบัติให้กับชาวเมืองอู่ซัน  แม้แต่วอร์ตันที่อยู่ใกล้เกือบถูกกระแทกตาย  ดีแต่ว่าลินลี่ย์ปกป้องเขาไว้ได้
และลินลี่ย์โชคดีที่มีแหวนมังกรขนดได้รับเลือดจากเขาเป็นผลให้ทำสัญญาเลือดกับแหวน
 “ใช่แล้ว” ลินลี่ย์ยังคงจำได้ถึงตอนที่เขายังเยาว์วัย  เขาได้ยินเซียนดาบดาราดิลลอนตะโกนด้วยความโกรธ  “รูดี้  ถ้าข้าไม่ได้มันไป  อย่างนั้นเจ้าก็จะไม่ได้ด้วย”
และจากนั้นมือของดิลลอนเรืองแสงทันที และเสียงระเบิดดังน่ากลัวทำให้ชาวโลกตื่นตระหนก
 “ใช่แล้ว ร่างของหนูเงาเล็ก  ในการต่อสู้พวกเขาสามารถขยายตัวได้เล็กน้อย  แต่ปกติพวกเขาจะเหมือนกับบีบี มีขนาดราวๆ ยี่สิบเซนติเมตร ราวๆ ฝ่ามือ”  ลินลี่ย์รู้ความจริงในตอนนี้แล้ว
ขณะนั้นแม่ของบีบีอยู่ในเงื้อมมือของดิลลอน  แต่เวลานั้นดิลลอนอยู่ห่างจากลินลี่ย์เกินหนึ่งกิโลเมตร  ลินลี่ย์ไม่สามารถนึกออกได้ว่าดิลลอนกำลังถืออะไรอยู่ในมือกันแน่
หนูเงามีชื่อในเรื่องความเร็วและพลังโจมตี  แต่พลังป้องกันไม่ทรงพลังเท่าใดนัก ยังอ่อนแอกว่าหนูกินศิลามาก
เมื่อเซียนอย่างดิลลอนระเบิดพลังปราณของเขา หนูเงาระดับเก้าที่อ่อนแอจากการคลอดลูกก็ถูกฆ่าอย่างง่ายดาย
 “อย่างนั้นความจริงปรากฏออกมาแล้ว!
ลินลี่ย์เข้าใจทุกอย่างตอนนี้แล้ว  เขารู้เหตุผลที่สองเซียนมาสู้รบกันเหนือท้องฟ้าเมืองอู่ซันด้านตะวันออก  ขณะนั้นเมื่อดิลลอนตะโกนอย่างโกรธเคือง  “รูดี้  ถ้าข้าไม่ได้มันไป เจ้าก็จะไม่ได้ด้วย”  เขากำลังหมายถึงแม่ของบีบีนั่นเอง
ครึ่งปีหลังจากการต่อสู้นั้น...
ลินลี่ย์จึงได้พบกับบีบี
และจากนั้นตำนานการเดินทางของลินลี่ย์และบีบีจึงเริ่มขึ้น
 “มิน่าเล่า  มิน่าเล่า”  ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจเหตุผลที่บีบีพูดว่าศัตรูของเขาคือรูดี้และดิลลอน  ถ้าไม่ใช่เพราะดิลลอน พ่อของบีบีก็จะไม่ต้องตาย  และถ้าไม่ใช่เพราะรูดี้... บางทีแม่ของบีบีอาจไม่ถูกบีบบังคับจนนางต้องตายเช่นกัน
ลินลี่ย์มองดูบีบี
ตาของบีบีเต็มไปด้วยน้ำตา  เขาพูดอย่างโมโห  “เจ้าบัดซบทั้งสองนั่น ข้าจะต้องฆ่าพวกมันให้ได้!
 “หืม?”  ลินลี่ย์เต็มไปด้วยคำถามทันที
พ่อของบีบีเป็นหนูกินศิลาระดับเก้า  ขณะที่แม่ของเขาเป็นหนูเงาระดับเก้า  ทำไมบีบีถึงทรงพลังนักเล่า?  บีบีดูไม่เหมือนหนูกินศิลาหรือหนูเงาเลย  เขาสามารถถึงระดับพลังชั้นสูงได้อย่างง่ายดาย  และเขายังเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้
มีเพียงดิลลอนและรูดี้ควรจะรู้สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น  เนื่องจากพ่อแม่ของบีบีตายไปแล้ว
แต่เรื่องนั้นออกมาจากไพรทมิฬได้ยังไง  บีบีรู้เรื่องทั้งหมดนี้หรือเปล่า?  เทพแห่งไพรทมิฬรู้เรื่องทั้งหมดนี้หรือเปล่า? เป็นไปได้ไหมว่าพลังจิตของเทพแห่งไพรทมิฬจะยิ่งใหญ่แผ่ไปถึงเป็นหมื่นกิโลเมตรตั้งแต่ไพรทมิฬจนถึงเมืองอู่ซัน?
และถ้าเป็นไปได้..
เป็นไปได้ไหมว่าเทพแห่งไพรทมิฬจะรักษาพลังจิตไว้ได้นานขนาดนั้น?  ถ้าเขาค้นพบเรื่องนี้ในเวลานั้น  ทำไมเขาไม่ช่วยพ่อแม่ของบีบี?
 “บีบี เจ้ารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”  ลินลี่ย์ถามทันที  เดเลียมองดูบีบีด้วยความพิศวงเช่นกัน
 “ปู่เบรุตบอกข้า”  บีบีตอบ
ลินลี่ย์ถามด้วยความสงสัย  “ลอร์ดเบรุตผู้นี้... แม้ว่าเขาจะเป็นเทพ แต่เขาไม่น่าจะมีความสามารถมองย้อนอดีตได้  และเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?  และดูเหมือนจะรู้รายละเอียดทั้งหมดด้วย”
บีบีอธิบาย  “พี่ใหญ่!  เรื่องเป็นอย่างนี้ หลังจากปู่เบรุตพบข้า, เขาส่งจ้าวมุสิกม่วงทองไปที่เทือกเขาอสูรวิเศษ  ตอนแรกพวกเขาถามสมาชิกของฝูงหนูและจากนั้นปู่เบรุตจึงตรวจสอบจากความทรงจำของดิลลอนและรูดี้”
 “อะไรนะ?”  ลินลี่ย์เดเลียร้องตกใจพร้อมกัน
ความทรงจำ?!
เซียนจอมเวทอย่างซาสเลอร์ก็สามารถอ่านความทรงจำได้ ก็จริง แต่หลังจากทำเช่นนั้น จะมีผลต่อวิญญาณบุคคล วิญญาณเขาจะถูกทำลายและตายไป  อย่างไรก็ตาม... เซียนดาบดาราดิลลอนยังมีชีวิตเป็นปกติสมบูรณ์  เขายังพ่ายแพ้โอลิเวอร์ในปีต่อมา
นอกจากนี้  ถ้าดิลลอนและรูดี้ตาย นั่นจะกลายเป็นเหตุการณ์ใหญ่  ลินลี่ย์จะต้องได้ทราบข่าวนี้แน่นอน
 “ปู่เบรุตทรงพลังมาก”  บีบีอธิบาย  “เขาบอกว่าคนที่ไม่ใช่ระดับเทพจะไม่สามารถซ่อนความทรงจำต่อหน้าเขาได้  แม้จะเป็นเซียนก็จะมีความทรงจำของพวกเขาให้อ่านโดยไม่ทำให้พวกเขารู้ตัวแม้แต่น้อย
ลินลี่ย์ไม่อยากจะเชื่อ
นี่...นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แม้แต่พวกเซียนก็ไม่สามารถสังเกตเห็นหรือ?  ลินลี่ย์ปฏิเสธจะเชื่อว่าเทพชั้นต้นจะมีพลังขนาดนั้นได้
 “ปู่เบรุตเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของดินแดนยูลานทั้งหมด”  บีบีอธิบาย  “เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งอย่างมิต้องสงสัย  แม้แต่เทพสงครามและมหานักพรตก็ต้องฟังปู่  แม้แต่ผู้ดูแลประจำพิภพอย่างฮ็อดเดิลก็ยังไม่กล้าตอแยปู่เบรุต”
 “ปู่เบรุตเป็นราชันย์แห่งพิภพทวีปยูลาน”  บีบีพูดต่อ
ลินลี่ย์และเดเลียต่างมองหน้ากัน  ทันใดนั้นลินลี่ย์จำได้ถึงคำพูดของจ้าวมุสิกม่วงทองทั้งสามที่บอกบีบีเมื่อพวกเขามาเชิญบีบีให้ไปกับพวกเขา  พวกเขาก็พูดอย่างเดียวกัน  ลอร์ดเบรุตคือราชันย์แห่งทวีปยูลาน!
 “ปู่เบรุตเป็นหนูกินเทพตัวแรกสุดในพิภพจักรวาล!  แม้แต่ชื่อว่า หนูกินเทพ ก็เป็นปู่เบรุตเลือกมาเอง”  บีบีพูดด้วยความภูมิใจ  “และข้า.. ในพิภพจักรวาลนับไม่ถ้วน ข้าเป็นหนูกินเทพตัวที่สอง!

9 ความคิดเห็น:

ArunothaiCS กล่าวว่า...

บีบีสายพันโหด

ขอบคุณครับ

Motto-mk กล่าวว่า...

ยิ่งใหญ่มาก ขอบคุณมากค่ะ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

WingF กล่าวว่า...

กำเนิดเยี่ยงเทพอสูร แต่เป็นหนูแทนนะเอ่อ

GG กล่าวว่า...

ขอบคุณ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

สายลมโชย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เลือกโปเกมอนตัวแรกก็ ssr เลยนี่หว่า อิจคนไม่เกลือ

แสดงความคิดเห็น