วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 752 ความก้าวหน้าทางจิต


ตอนที่  752 ความก้าวหน้าทางจิต
ขณะนี้ เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่ง
รังสีดาบรูปกากบาทแดงและรังสีมีดดำปะทะกันกลางอากาศ

รัศมีแสงที่มิอาจพรรณนาได้สาดส่องกระจายทันที  แสงสีแดงและดำปกคลุมทั่วท้องฟ้า ปะทะกันอย่างรุนแรง มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด  ทั่วทั้งท้องฟ้าและพื้นดินแบ่งแยกเป็นสีแดงและดำ และในศูนย์กลางดูเหมือนมีผนังแสงเปราะบางแต่ยากจะทำลายได้
ปัง ปัง ปัง
เหมือนกับพายุสองลูกที่หยุดไม่ได้ที่ปะทะชนกันเอง ความรุนแรงของการปะทะชนทำให้อากาศปั่นป่วน  เสียงแหลมหวีดหวิวที่ดังออกมาจากการปะทะ ทำให้ทุกคนหูอื้อไปชั่วขณะ  และทำให้ทั่วทั้งเมืองบูรพาอมตะตกอยู่ในศูนย์กลางความตายของพายุที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
เร็วเท่าที่ทุกคนสามารถเห็นได้  ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน คลื่นอากาศดูบิดเบี้ยวผิดเพี้ยน
หินนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศ  และขณะเดียวกัน ชาวเมืองที่กำลังบินอยู่ในเมืองบูรพาอมตะอยู่ในอาการตกใจกันหมด  หน้าของทุกคนไร้สีเลือด  พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้  สายกฎธรรมชาติของพวกเขาไม่ตอบสนองการกระตุ้นเรียกของพวกเขา  พวกเขาเป็นเหมือนแกะที่รอถูกเชือดโดยไม่มีความสามารถต่อต้านใดๆ ได้เลย
มียอดฝีมือสองสามคนผู้ฝึกผิวกฎธรรมชาติ  แต่ก็มีแค่สองสามคน  พลังที่ฉายแสดงออกในผิวกฎธรรมชาติของพวกเขาถูกข่มลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสิบจากระดับพลังปกติ
มองจากมุมมองด้านบน  เมืองบูรพาอมตะดูเหมือนแตกแยกออกเป็นสองด้าน  ด้านหนึ่งมีรัศมีสีแดง  ขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นสีดำ   แต่ละพื้นที่ที่รัศมีแสงครอบงำนั้น อากาศจะปั่นป่วนและกระแสพลังจะคลุ้มคลั่งรุนแรง
ถังเทียนยังคงอยู่ในท่าที่เขาปล่อยท่าดาบเสียสละพิฆาต  ร่างของเขาย่อต่ำ ขณะที่เขายืดตัวมองดูเหมือนเสือดาว  มันเต็มไปด้วยความก้าวร้าวพร้อมจะกระโจนใส่ได้ทุกเมื่อ  มือของเขายังคงไขว้เป็นรูปกากบาทอยู่หน้าเขา  และหน้ากากผีที่ปิดหน้าปกคลุมได้ด้วยรอยร้าวและรอยเปื้อนเลือด เกิดเป็นรอยร้าวรูปใยแมงมุมสีแดง  ดวงตาที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากมีสีแดงที่จางลง  และกลายเป็นความมุ่งมั่นที่เยือกเย็นเหมือนแต่ก่อน
เขาไม่ขยับไหวติงเหมือนรูปปั้น พื้นที่รอบตัวเขาสั่นสะเทือนต่อเนื่อง  พลังความวุ่นวายยังคงปั่นป่วนไม่ปกติ  และแม้แต่ลมรุนแรงก็ไม่สามารถขยับร่างเขาได้
ด้านหน้าเขา ด้านหลังกำแพงแสงระหว่างรัศมีแดงกับรัศมีขาว  แขนที่ถือเคียวมัจจุราชยังคงนิ่ง
กระแสพลังสีดำยังคงทะลักไปข้างหน้า  ขณะที่รูปลวงตายืนอยู่กับที่เงียบๆ
ทั้งสองฝ่ายยังคงยืนนิ่ง  แต่ไม่มีใครตั้งใจจะยอมถอยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นร่างลวงตาในกระแสพลังสีดำเคลื่อนไหวเล็กน้อย  เคียวและแขนมัจจุราชยกขึ้นและเล็งมาที่ถังเทียนเตรียมจะตัดลงที่คอ
ตาของถังเทียนกระตุก ใบหน้าที่อยู่หลังหน้ากากของเขายิ้ม  และมือที่ไขว้ตัดกันข้างหน้าสร้างเป็นรูปหมัดทันที  เขายืดนิ้วหัวแม่มือออกและชี้ลงข้างล่าง
 หืม!  เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ และยังกล้าทำเป็นผยองกับข้าอีกหรือ?
 คอยดูเถอะ เจอกันอีกที ข้าจะซัดเจ้าให้ร้องไห้ไปเลย!”
ถังเทียนคิดอย่างก้าวร้าว  เขาลืมสนิทเลยว่าภาพลวงตาที่อยู่ต่อหน้าเขาคือมัจจุราช  แน่นอนต่อให้เขารู้  เขาก็ยังไม่สนใจ  เขายังจะเล่นงานมัจจุราชอยู่ดี
ร่างสีดำดูเหมือนจะผงะเพราะการกระทำของถังเทียน  ร่างของมันดูเซื่องซึม
วืดดด  ร่างดำเป็นเหมือนละอองหมอกบินขึ้นไปในท้องฟ้าและหายไปในกลุ่มเมฆดำ
แขนสลายและเคียวปล่อยสายใยเป็นควันสีดำ และด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า  มันค่อยๆ จางหายไปในหมอกดำ
 งี่เง่า!”
ถังเทียนยังชี้หัวแม่มือลง  ถ้าไม่ใช่เพราะหน้ากาก  ทุกคนจะเห็นได้เห็นใบหน้าที่ไม่พอใจและยั่วโมโหของเขา  ข้าสามารถแพ้ให้คนได้  แต่ไม่ใช่แพ้วิชา ไม่ใช่ๆๆ เอาใหม่  ข้าไม่แพ้ใคร แล้ววิชาของข้าจะแพ้ได้ยังไง!’
เมื่อร่องรอยสุดท้ายของควันดำหายไปแล้ว  แสงปั่นป่วนสีดำก็หายไปโดยไม่เหลือร่องรอยทันที  ท้องฟ้าที่เต็มเสียงแว่วกรีดร้องหวีดหวิว  อากาศปั่นป่วนหายไปหมด
ราวกับว่ามีปฏิกิริยาสนองตอบ แสงสีแดงของถังเทียนก็หายไปทันทีเช่นกัน
หินทุกก้อนที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ คนทุกคนที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ ร่วงลงมาเหมือนกับซาลาเปาหล่น เสียงอุทานดังมาจากทุกที่  พวกเขาทุกคนสูญเสียการควบคุมและอยู่ในสภาพแตกตื่น  พวกเขายังซึมซับฉากภาพที่น่ากลัว  และคาดไม่ถึงเลยว่าอันตรายนั้นจู่ๆ ก็หายไปไม่มีคำเตือน เหมือนกับว่าทุกอย่างที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นภาพลวงตา
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขายังอยู่ในอากาศ  พวกเขาคงคิดว่าเป็นภาพลวงตาทั้งหมดแน่
แต่เมื่อพวกเขาเห็นพื้นข้างล่างใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว  พวกเขารีบหายมึนงงและตั้งหลักตัวเองทันที  ปัง ปัง ปัง หลายคนร่วงลงมาในท่าทางแปลกประหลาด
เพียงแต่เมื่อเท้าพวกเขาสัมผัสพื้นก็ทำให้พวกเขาตื่นขึ้นจากภวังค์  แต่ความกลัวและตกใจยังคงปรากฏอยู่ในใบหน้าของพวกเขา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะตราตรึงพวกเขาไปตลอดชีวิต
ร่างของถังเทียนซวนเซ ปัง เขานั่งลงก้นกระแทก   พอเขาพ้นจากสภาพตื่นเต้น สิ่งที่ยังคงเหลือก็คือความรู้สึกกำจัดภาระของการสู้รบทั้งหมด  พอสภาพใจที่เครียดของเขาผ่อนคลาย  ความเหนื่อยล้าก็ท่วมทับเข้ามาในร่างของเขา
แฮก  แฮก  แฮก
เหงื่อหลั่งออกมาจากทั่วร่างของเขา  ในพริบตาเดียวเหงื่อไหลเป็นสายหยดลงบนพื้น
ถังเทียนจ้องมองพื้นอย่างงุนงง  ใจของเขาว่างเปล่าสิ้นเชิง
เขานั่งอยู่หน้าเขาชมวิวอย่างมึนงง  เขาชมวิวซึ่งมีสีดำมีรอยแผลเต็มไปหมด  เหมือนกับนักรบยักษ์ที่ปกป้องคุ้มกันอยู่ข้างถังเทียน
ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้
ทุกคนมองดูบุรุษธรรมดาที่นั่งหอบหายใจอยู่ด้านข้างเขาชมวิวอย่างมึนงง  ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเขา เขาไม่ได้ห้าวหาญและตั้งตรงเหมือนหอก  เขาก็แค่นั่งอยู่กับที่โดยไม่ได้แบกถืออะไร   ไม่มีบรรยากาศอะไรรอบตัวเขา เขายันมือกับพื้น เหงื่อไหลย้อยลงคางและหยดลงพื้น ดูเหมือนอยู่ในสภาพลำบาก
แต่กลุ่มผู้คนอยู่ในความเงียบ  ไม่มีใครกล้าพูด
พวกเขาทุกคนได้ยินเสียงหอบหายใจหนักจากที่ไกล และไม่มีใครพูดอะไร
ความเงียบเกิดขึ้นเพราะตกตะลึงกับการต่อสู้ที่แทบทำให้หัวใจหยุดเต้น
ตาของทุกคนมองดูบุรุษหน้ากากผีด้วยความนับถือ
ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้นทำลายความเงียบ
ชายชราคนหนึ่งนำคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา  และชายชรานั้นรีบแสดงตัว หน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ  ดูเหมือนเขาจะแสดงความสุภาพ เขาก้าวมาข้างหน้าและคุกเข่าลง
 “ตระกูลหวีต้องขออภัยไว้ในที่นี่ เราขอให้นายท่านอย่าถือโทษเราเลย!”
เสียงของเขาสั่น หน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ  ร่างของเขาสั่นรุนแรง
เขาไม่มีเวลาสวมเสื้อผ้าให้กับนักโทษสุญญตา  เขาเพียงแต่กลัวว่าจะสายเกินไป  กลัวว่าบุรุษหน้ากากผีจะโกรธและทำลายตระกูลหวี  เมื่อเขาเพิ่งได้รับการขอร้องจากบุรุษหน้ากากผีขอบริวารเขาคืน  เขาหัวเราะเย้ยหยัน  ผู้สืบทอดปรมาจารย์หลี่เหรอ?  ฮะฮะ ก็แค่ไอ้บ้าอีกคนที่ใช้ชื่อฉวยโอกาส!  คืนบริวารของเจ้าน่ะหรือ?  นี่กำลังพูดตลกอะไรกัน นักโทษสุญญตาแต่ละคนนี้มีค่ามาก  เจ้าคิดว่าเราจะคืนให้เพราะเจ้าร้องขอหรือ?
แต่ตอนนี้ เขารู้สึกว่าเขาตาบอดและสายตาสั้นไม่มองการณ์ไกล  การสู้รบที่น่าสะพรึงกลัวทำให้เขาขวัญกระเจิง
เขาพานักโทษหน่วยสุญญตาออกมาทันที และไม่กล้าชักช้า  เขารีบทำอย่างเต็มที่
 “ตระกูลซ่งอยู่นี่แล้วขอคืนสมาชิกหน่วยสุญญตา 23 คน  หวังว่านายท่านจะไม่ถือโทษเรา”
เสียงฝีเท้าอีกชุดหนึ่งดังขึ้นอีก
สมาชิกหน่วยสุญญตาทุกคนมีตัวเปื้อนฝุ่นมอมแมมจ้องมองร่างที่คุ้นเคยซึ่งกำลังนั่งอยู่ด้วยสายตาว่างเปล่า  แม้ว่าเจ้านายพวกเขาจะสวมหน้ากากไว้  แต่ใครเล่าที่จำเขาไม่ได้
หลังจากสิ้นหวังทุกข์ทนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่หลายวัน ครั้งนี้เมื่อพวกเขาเห็นบุรุษที่กำลังนั่งหอบหายใจอยู่กับพื้นหลั่งเหงื่อทั่วตัว   เขาที่อยู่ในสภาพลำบาก หน้ากากที่มีรอยร้าวเต็มไปด้วยเส้นสายสีเลือด  ตาของพวกเขาอยู่ในความงุนงง เพราะสูญเสียพลัง
บุรุษเหล็กแข็งแกร่งผู้ดื้อด้านทั้ง 55 คนรู้สึกน้ำตาคลอเบ้า
มีแต่ราชาแห่งกลุ่มดาวหมีใหญ่  มีแต่ราชาของชาวหมาป่าที่มาช่วยพวกเขาเท่านั้น
พวกเขาทุกคนยืนตรงเหมือนคนปกติ  เสื้อผ้าของทุกคนฉีกขาด  พวกเขามีเนื้อตัวสกปรกและผมกระเซิง หน้าของพวกเขาสับสน  แต่พวกเขาก็ยังยืนตรง ทุกคนมีน้ำตาคลอเบ้า หัวใจพวกเขารู้สึกตื่นเต้นมาก
พวกเขาทุกคนเชื่อมั่นในเขา  เขาใช้การกระทำเพื่อรับความภักดีของพวกเขา  และไม่เคยรานความเชื่อของพวกเขา
เฮ้ออออ!
หลังจากหายใจลึกยาวแล้ว  ถังเทียนก็สงบใจตัวเองได้  และในที่สุดก็รู้สึกเหมือนกับว่าเขากลับมาสู่โลกแห่งชีวิต ร่างของเขาที่เจ็บปวดเมื่อยล้ามีกำลังคืนกลับมาบ้าง  เขาฝืนตัวเองลุกขึ้นยืน
ตาของเขามองไปที่สมาชิกหน่วยสุญญตาที่ยืนห่างออกไป  พวกเขายืนตรงอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของทุกคนที่คุ้นเคย  และวิธีที่พยายามระงับความตื่นเต้น  บุรุษหนุ่มมีสุขและฉีกยิ้มจนมุมปากแทบถึงหู
ทำได้ดี, ถังเทียน!
 “ตอนนี้เหลือที่อยู่กับตระกูลฉี”
ถังเทียนพึมพำกับตนเอง และฝืนหัวเราะในใจ  เขาไม่เคยคิดว่าฉีเซี่ยงตงจะไม่ยอมส่งมอบนักโทษมาให้  และประหลาดใจที่พบกับคนเจ้าเล่ห์แบบนั้น
แต่หลังจากสู้กันจนถึงจุดนี้แล้ว  ถังเทียนไม่ลังเลใจอีกต่อไป  หลังจากปะทะฝีมือกับเคียวมัจจุราชแล้ว  เขารู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที แต่สภาพใจของเขากลับไม่เหนื่อยเลย  แต่รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจ
เขารู้สึกได้ว่าแม้พลังของเคียวมัจจุราชจะไม่สมบูรณ์  แต่ก็เป็นพลังอีกรูปแบบหนึ่ง  เป็นบางอย่างที่เขาไม่เคยคิดมาในอดีต  และข้าสามารถสู้กับมันได้เสมอระดับเดียวกับมัน  นั่นคือสิ่งที่เขาไม่กล้าจินตนาการมาก่อนในอดีต
 หรือว่าเราก้าวหน้าแข็งแกร่งโดยไม่รู้ตัว?’
ถังเทียนมีความรู้สึกเหลือเชื่อ  แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมากแน่นอนก็คือความมั่นใจตัวเองอย่างมาก
และหลังจากช่วยสมาชิกหน่วยสุญญตา 55 คน  เขาเต็มไปด้วยความดีใจ  เขามั่นใจมากยิ่งขึ้น  เชื่อมั่นตัวเองมากขึ้น หลังจากผ่านศึกที่ยากลำบากอย่างโชกโชน  สภาพจิตใจของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างเงียบงัน
ยิ่งการสู้รบรุนแรงมากขึ้น ก็ยิ่งง่ายที่จะให้ประสบการณ์เพิ่มพูนมากขึ้น และประสบการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย จะกระตุ้นศักยภาพให้เติบโต  และเมื่อคนผู้นั้นเติบโตผ่านการประสบการณ์และปรับเปลี่ยน  สภาพใจของบุคคลนั้นจะแข็งแกร่งมากขึ้น
และหลังจากถึงระดับพลังมาตรฐานแล้ว  การสร้างความเข้มแข็งให้จิตใจจะกลายเป็นเรื่องสำคัญมากยิ่งขึ้น
เมื่อนักสู้ผู้แข็งแกร่งหลายคนมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งซึ่งพวกเขาจะพบว่ายากจะก้าวหน้าได้  มักจะเป็นเพราะไม่สามารถบรรลุความก้าวหน้าของสภาพจิตใจของพวกเขา ภายนอกกายมีกฎธรรมชาติ  ขณะที่สิ่งที่อยู่ภายในกายคือสภาพอารมณ์ทั้งเจ็ดและความปรารถนาทั้งหก  ถ้าคนเต็มไปด้วยกลัว หวาดหวั่น ก็จะไม่สามารถเข้าใจรูปแบบพลังที่ยิ่งใหญ่ได้  และด้วยความจริงและสภาพจิตใจที่ทรงพลัง ก็จะทำให้เขาสามารถเข้าใจพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ และเข้ากับพลังนั้นได้
ถังเทียนมีความก้าวหน้าทางใจรู้สึกว่าร่างกายของเขาเจ็บปวด  แต่จิตสำนึกของเขาอยู่ในสภาพสูงสุด
ร่างของเขาฟื้นตัวได้รวดเร็ว  พลังที่เหือดแห้งในตอนแรงเริ่มเต็มเปี่ยมอีกครั้ง พลังของสายใยกฎเพิ่มมากขึ้นจากส่วนลึกในกล้ามเนื้อและเลือด  โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่นพลังต้นกำเนิดมหาศาลที่เขาซึมซับไว้ในร่างกาย ส่วนที่ยังไม่ซึมซับก็เข้าไปในกล้ามเนื้อและเลือดของเขาทำให้ตื่นตัว  เขาไม่คิดว่าผ่านการต่อสู้นั้น  เขาจะมีความก้าวหน้าทางสภาพจิตใจ และเรียกแก่นพลังต้นกำเนิดได้
เขาสูดหายใจลึกและเตรียมฉุดลากเขาชมวิว
 “นายท่าน โปรดให้เราร่วมด้วย!”  สมาชิกหน่วยสุญญตาตะโกนดังลั่น
นักโทษหน่วยสุญญตา 55 คนลุกขึ้น  พวกเขาเป็นคนแข็งแรง และเริ่มเคลื่อนเขาชมวิว
เสียงสะเทือนดังใกล้เข้ามาอีก  เขาชมวิวสั่นสะเทือนและเริ่มเคลื่อนไหว
เมื่อเห็นธงดำหมีโลหิตปักอยู่บนเขาขาด  ถังเทียนอดดีใจไม่ได้  ชี้ไปตำแหน่งที่บ้านตระกูลฉี “ไปเถิด!  เราจะไปที่นั่น!
ครืนน ครืนนน เหมือนกับสายน้ำหลากที่หยุดไม่ได้

14 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Motto-mk กล่าวว่า...

ขอบคุณมากค่ะ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

ซึ้งเลย ขอบคุณคับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Little Boy Bomb กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

mikgi กล่าวว่า...

จบซะที คนเดียว 6 ตอน เหอะ

WingF กล่าวว่า...

พี่ท่านช่างกล้า มัจจุราชคงคิด อย่าให้เจออีกนะ

LordNeBO กล่าวว่า...

ขอบคุณคราบ

pmt กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น