วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 754 ระหว่างฝึกฝน


ตอนที่  754  ระหว่างฝึกฝน
ข้อมูลของซางเป่ยสร้างความตกตะลึงอย่างหนักให้กับมู่จือเสีย  แต่สิ่งที่ยั่วโมโหมู่จือเสียอย่างแท้จริงก็คือเมื่อซางเป่ยกำลังพูด สายตาของเขาเหมือนกับคมมีดแทงใส่ขั้วหัวใจของมู่จือเสีย

ขณะนั้น มู่จือเสียเข้าใจทวีปแดนเถื่อนได้หมดสิ้นเชิง  เขาจะเป็นเพียงคนนอกตลอดไป ไม่ว่าเขาจะให้อะไรคนแดนเถื่อน ไม่ว่าจะให้ทรัพยากร อาหารเท่าไหนก็ตาม  ตราบเท่าที่เขาพยายามก้าวก่ายกิจการภายในของทวีปแดนเถื่อน   เขาจะได้รับการต่อต้านจากชาวทวีปแดนเถื่อนทั้งหมด  แม้แต่เผ่าวารีดำที่อยู่ต่อหน้าเขาก็จะสู้กับเขาจนตายในเวลานั้น
พวกเขาเต็มใจจะติดตามเทพธิดาสงครามจากฝ่ายของพวกเขามากกว่าจะยอมรับทวีปหมิงกวง
ความจริงมู่จือเสียรู้จากส่วนลึกของใจเขาแล้ว  แต่หลังจากผ่านไป 20 ปี เขารู้สึกถึงความสัมพันธ์บางอย่างในทวีปแดนเถื่อน  เช่นว่าเป็นเรื่องยากที่จะห้ามความหวังและความฝันได้  แต่เมื่อเห็นสายตาของซางเป่ย  เขาถูกปลุกให้ตื่นจากความคิดความปรารถนาอย่างสิ้นเชิง
สามารถมุ่งมั่นมาเป็นเวลา 20 ปีอย่างเงียบๆ เขาไม่ใช่คนที่จะถูกทำให้หวั่นไหวได้ง่าย
เขาสังเกตซางเป่ยจ้องมองมีดหักในมือเขา เขาถอนหายใจเสียงดัง  “ข่าวของเจ้าทำให้ข้าตกใจ”
ซางเป่ยมีท่าทีเข้าใจและเคลื่อนไหวเหมือนกันว่า “ใช่แล้ว ถ้าข้าได้ยินข่าวแบบนี้ ข้าเองก็คงไม่อยากเชื่อ”
 “ใช่แล้วสามารถทำลายเผ่าวารีตะวันตกได้และแม้แต่ราชวงศ์ป่าทองที่แข็งแกร่งกว่าได้  พวกเขาแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว”  มู่จื่อเสียส่ายหัวอย่างประหลาดใจ  แต่จากนั้นเขาเปลี่ยนหัวข้อ  “แล้วเผ่าใต้เล่าจะทำยังไงกับพันธมิตรระหว่างสองวีรบุรุษเหนือ?”
ซางเป่ยได้รับผลจากคำพูดเหล่านั้น  และหน้าของเขาบิดเบี้ยวทันที
คำถามของมู่จือเสียไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล  เนื่องจากเป็นเวลานานแล้วที่แดนเถื่อนใต้และเหนือมีความแตกต่างกันมาก  และมีความขัดแย้งกันระหว่างทั้งสองฝ่าย
 “สองวีรบุรุษนักสู้เหนือในตอนนี้เป็นมือซ้ายมือขวาของนางไปแล้ว”  สีหน้าของมู่จือเสียยังคงเฉยเมย  “เราจะไม่พูดเรื่องที่เทพธิดาสงครามนี้เป็นเพียงหุ่นเชิดของพวกเขา  แต่ถ้าแดนเถื่อนทั้งหมดรวมตัวกันได้ อย่างนั้นแดนเถื่อนเหนือจะถูกควบคุมหรือว่าแดนเถื่อนใต้เล่า?”
หน้าของซางเปล่ายิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น
 “ตอนนี้, ข้าบอกได้เลยว่าแม้ว่าพวกเจ้าจะไม่มีความเป็นอยู่ที่ดี  แต่พวกเจ้ายังคงมีอิสระ”  มู่จือเสียถอนหายใจ  “อดีตที่ผ่านมาสองสามปีนี้ ข้าเห็นมาตลอด ทวีปกวงหมิงและทวีปแดนเถื่อนมีผลประโยชน์ต่อกันมาถึง 20 ปี  และปัจจุบันนี้เผ่าวารีดำก็มีความเป็นอยู่ดีกว่าเมื่อก่อนมาก  ถ้าพวกเจ้าถูกผนวกรวมกันจริงๆ พวกเจ้าจะมีชีวิตดีกว่านี้หรือเปล่า?”
มู่จือเสียตบไหล่ของซางเป่ยและหัวเราะ  แต่เขาไม่พูดอะไรอื่น
ซางเป่ยออกจากค่ายทวีปกวงหมิงในสภาพห่อเหี่ยว  ตลอดรายทาง ทหารทุกคนที่คุ้นเคยกับซางเป่ยพยายามพูดกับเขา  แต่เขาได้แต่ส่ายหัวไม่พูดอะไร
หลังจากซางเป่ยออกไปแล้ว หน้าของมู่จือเสียสลดลง
การปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันของเทพธิดาสงครามทำลายแผนการของเขา  เขาคงได้แต่นั่งดูทวีปแดนเถื่อนถูกรวบรวมเป็นหนึ่งไม่ได้  เนื่องจากหมายความว่าแผนการของเขาทั้งหมดจะล้มเหลว  และนั่นหมายความว่าทวีปกวงหมิงจะสูญเสียโอกาสได้ครอบครองทวีปแดนเถื่อน
สิ่งที่ทวีปกวงหมิงต้องการก็คือความปั่นป่วนและสู้รบกันในทวีปแดนเถื่อนอย่างต่อเนื่อง   นั่นคือแผนการที่ทวีปกวงหมิงวางไว้เท่านั้น
ดวงตาของมู่จือเสียทอประกายที่น่ากลัว  เขากล่าวทันที  “ระดมหน่วยสอดแนมของเราทั้งหมด  ข้าต้องการรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสตรีนางนี้”
 “ขอรับ”  เสียงหนึ่งขานรับจากมุมหนึ่งทันที และร่างนั้นก็หายไป
ซางเป่ยออกไปจากค่ายทหารของทวีปกวงหมิงไปแล้ว และในหิมะท่าทางแตกตื่นของเขาหายไปกับหิมะ ความแตกตื่นในดวงตาของเขาหายไปไหนกันแน่?
เขารีบกลับไปที่เผ่าวารีดำและหาลูกชายของเขา  เขาพูดอย่างนุ่มนวล  “ให้ทุกคนเตรียมตัวไว้  ทิ้งทุกอย่างที่เจ้าไม่ต้องการไว้  เราจะออกเดินทางไปกับทุกคนในคืนนี้”
ลูกชายของเขาประหลาดใจ  “พ่อ!  เกิดอะไรขึ้น?”
 “เราไม่มีเวลาคุยเรื่องนี้”  ซางเป่ยกล่าวอย่างจริงจัง  “ไปแจ้งทุกคนเดี๋ยวนี้!”
ในความมืด เผ่าวารีดำอยู่ในความสับสน  ทุกคนไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะความกลัว  แต่ยังโชคดีที่ซางเป่ามีตำแหน่งที่มีอำนาจภายในเผ่า  เป็นเพราะซางเป่ยยังคงแนะนำและยืนกรานจะทำการติดต่อกับทวีปกวงหมิง  นั่นทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จและได้รับที่ๆ พวกเขาอยู่ในตอนนี้
เนื่องจากพวกเขามีคนไม่มาก พวกเขาจึงเตรียมพร้อมเสร็จอย่างรวดเร็ว
 “เราจะมุ่งขึ้นเหนือ”
ซางเป่ยส่งคำสั่งลงไป และไม่อธิบายเหตุผล  ชนเผ่าที่เชื่อมั่นในตัวเขาทำตามเขา   ในท่ามกลางความมืดปกคลุม  ตาของซางเป่ยเป็นประกายเหมือนดวงดาว ที่ปรารถนาแสงอาทิตย์อุทัย
***********************

เมืองจื่อจวน
 “อีกครั้ง!”  กู้เสวี่ยปาดเหงื่อที่หน้าผากนาง  สีหน้าของนางมุ่งมั่น
ทุกคนรอบตัวนางกำลังยืนโงนเงน  ทุกคนอยู่ในสภาพดูโทรม  วิคเตอร์โอดครวญมากที่สุด  เขาเป็นคนมีระเบียบวินัยน้อยและไม่เคร่งครัด ทำให้เขารู้สึกไม่สามารถทนพ่ายแพ้ได้  โรแลนด์ซูก็อยู่ในสภาพย่ำแย่พอกัน  นางมองดูกู้เสวี่ยด้วยความนับถือ  พวกนางเป็นสตรีทั้งคู่  แต่กู้เสวี่ยโดดเด่นกว่านางมาก  แม้คนมีสภาพร่างกายดีอย่างเบนสันก็ยังรู้สึกลำบากไปด้วย  สวี่อันจงรู้สึกดีขึ้นบ้าง  เขาเป็นพวกบ้าต่อสู้  พลังใจของเขาแข็งแกร่งมาก  แม้ว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อย  แต่เขากัดฟันพยายาม
แดนบาปได้แยกตัวเองออกจากระบบกองทัพมานานเกินร้อยปีแล้ว  และแปลกประหลาดกับแนวความคิดของกองทัพ
ความก้าวหน้าที่สุดมาจากคนที่ไม่มีใครคาดหวัง
สองคนเป็นฝาแฝดสองพี่น้อง เสี่ยวหวีและเสี่ยวเย่  พวกนางเรียนรู้ได้รวดเร็วมาก  และคอยขนาบข้างป้องกันหานปิงหนิง  ทั้งสามคนก่อตั้งรูปกระบวนรุกรูปสามเหลี่ยม
คนอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้ามากก็คือผิงเสี่ยวซาน  ความก้าวหน้าของเขามาจากการใช้กฎอวกาศของเขาตัดกรวดเหล็กดำเป็นกิจวัตรอย่างต่อเนื่อง  อาการบาดเจ็บของวิคเตอร์และเบนสันหายดีขึ้นมาก  แก่นต้นกำเนิดชีวิตจำนวนมากช่วยทำให้พวกเขาฟื้นฟู  และหลายคนก็ฝึกฝนประจำวันและมีความต้องการแก่นต้นกำเนิดชีวิตเช่นกัน  ทุกวันๆ เขาจะทำงานจนเหนื่อยเป็นสุนัขหอบแดด แต่เป็นเพราะการฝึกฝนที่มีความรุนแรงและแม่นยำสูง กฎธรรมชาติของเขาจึงมีความก้าวหน้าอย่างน่าประหลาด
แม้ว่าเขายังไม่ถึงกับก้าวหน้าเข้าถึงการใช้กฎผิวเผิน  แต่สายใยกฎของเขาใกล้จะสมบูรณ์เต็มที่
และเนี่ยชิวได้ให้ตำแหน่งแก่ผิงเสี่ยวซานในกระบวนพยุหะรบของเขาด้วย  ทำให้ผิงเสี่ยวซานตื่นเต้นมาก  และสิ่งที่ทำให้คนอื่นพากันงุนงงมากก็คือว่า พวกเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาฝึกมาทางกฎอวกาศหรือเปล่า  แต่ตำแหน่งของผิงเสี่ยวซานนั้นดีมาก เหมือนกับว่าเขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ใดๆ  แต่เขาสามารถซึมซับเข้าในกระบวนศึกของเนี่ยชิวได้อย่างสมบูรณ์
 “ทุกคน เราพักกันสักหน่อย อีกสี่ชั่วโมงเราจะฝึกกันต่อ”
กู้เสวี่ยยังคงเหลือพลัง  แต่คนอื่นๆ ไม่เหลือพลังแล้ว  การฝึกต่อไปจะพบว่าไร้จุดหมาย  สภาพใจของเนี่ยชิวก็หมดพลังเหมือนกัน  และจำเป็นต้องการเวลาพักฟื้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนถอนหายใจโล่งอกและนอนลงกระจายทุกที่
เนี่ยชิวหลับตาพัก
เนี่ยชิวฟื้นฟูจนอยู่ในสภาพพร้อมที่สุด ก่อนหมดเวลาพักสี่ชั่วโมง  แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น  แต่เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงและความผันผวนในพยุหะรบของเขา  ตอนนี้ทุกคนฟื้นฟูดีแล้ว  แต่เขาไม่เร่งรัดให้พวกเขาเริ่มฝึกต่อ
เขากำลังรวบปลายที่หลวมของประสบการณ์จากการฝึกให้แน่นขึ้น
การปรับตัวของหน่วยสุญญตาเพื่อเป็นรูปกระบวนใหม่นั้นดีที่สุด  เนื่องจากพวกเขาคุ้นเคยกับการฝึกประจำวันเช่นนั้น  สำหรับพวกเขาก็แค่เป็นการเรียนรู้กลยุทธใหม่  สำหรับคนที่เหลืออย่างกู้เสวี่ย  แม้ว่าพวกเขาจะทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก  แต่พวกเขาก็ยังต้องการเวลา
คำสั่งของอาโมรี่และหานปิงหนิงต่อหน่วยสุญญตายังเป็นรากฐานของรูปกระบวน  ถ้ากู้เสวี่ยและคนอื่นปรับตัวเข้ากับขบวนรบได้ดี  พวกเขาจะช่วยเพิ่มพลังของพยุหะได้เป็นอย่างมาก  แต่พื้นฐานของพยุหะไม่ได้วนเวียนรอบพวกเขา  ดังนั้นจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขาทั้งหมด
ทันใดนั้นเนี่ยชิวสัมผัสได้ถึงระลอกคลื่นเลือนราง
เนี่ยชิวก้มหน้า ปล่อยให้ผมปรกหน้า ป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นหน้าเขา ไม่มีใครเห็นหน้าเขาได้  แต่หน้าของเนี่ยชิวแฝงรังสีอำมหิต
ก่อนนี้ระลอกพลังมาจากเถี่ยเซีย เป็นสัญญาณระบุว่ามีศัตรูบุกรุก
ความสามารถในการลาดตระเวนของเถี่ยเซียโดดเด่น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการสอดแนมของเขาแตกต่างจากพวกยามปกติ  เขาไม่ได้พึ่งพาความผันผวนที่มาจากกฎธรรมชาติ  แต่เป็นการเคลื่อนไหวในอากาศ  เนี่ยชิวทำเส้นทางข้อมูลเป็นพิเศษที่ตรวจสอบไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับเถี่ยเซีย
 ศัตรู
คนบอดเนี่ยชิวแค่นเสียง  ประสาทสัมผัสของเขาแหลมคมมาก  แต่เขาไม่รู้สึกถึงผู้บุกรุก  ก็หมายความว่าผู้บุกรุกนี้แข็งแกร่งทรงพลัง
ด้วยคนที่มีพลังขนาดนั้น คนที่น่าจะมาเมืองจื่อจวนน่าจะเป็นฉินเจิ้น
 ต้องเป็นเขาแน่นอน!’
เนี่ยชิวยังคงไม่เคลื่อนไหว  และไม่แจ้งพวกที่เหลือ
ฉินเจิ้นนั้นทรงพลัง และแม้แต่ร่องรอยความเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็ทำให้เขาสั่นสะท้านได้
ระลอกอีกสายหนึ่งมาอย่างเงียบ
เถี่ยเซียเข้าใจตำแหน่งที่จะแทรกซึมแล้ว  แต่เพราะเขากังวลว่าผู้บุกรุกนี้อาจรู้สึกได้ เขาจึงไม่กล้าจับตำแหน่งแน่นอน
เนี่ยชิวให้เถี่ยเซียยังคงประจำที่อยู่  สำหรับเขาการรู้ตำแหน่งของศัตรูก็เพียงพอแล้ว
เนี่ยชิวหัวเราะเบาๆ
เขาทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเงยหน้า  “หมดเวลาพักแล้ว ทุกคนเราจะเริ่มฝึกยกต่อไป”
ทุกคนลุกขึ้นยืน  การฝึกต้องใช้ความสามารถ 120% จากพวกเขา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิคเตอร์และคนอื่นพวกเขาไม่เคยผ่านการฝึกฝนเข้มข้นแบบนี้มาก่อน  อย่างสวี่อันจง การฝึกของเขาเองก็ยังสูงกว่าสิ่งที่พวกเขาผ่านมา  แต่เขาไม่จำเป็นต้องแยกสมาธิไปที่คนอื่น  เขาไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะไม่เข้ากันกับเพื่อนร่วมกลุ่มจนทำให้การฝึกฝนสะดุด
พลังของพวกเขาแต่ละคนแข็งแกร่งมากกว่าสมาชิกหน่วยสุญญตา  และการเคลื่อนไหวของกลยุทธก็ไม่มีปัญหาต่อพวกเขา  แต่ปัญหาที่พวกเขามีก็คือจังหวะ  พวกเขาจำเป็นต้องเข้ากับจังหวะของทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ  และไม่ดึงทุกคนไปเข้ากับจังหวะของพวกเขาเอง
กู้เสวี่ย สวี่อันจง โรแลนด์ซู วิคเตอร์ เบนสัน ทุกคนเผชิญหน้ากับความยากลำบากที่สุด
ทุกๆ บทฝึก พวกเขาทุ่มกำลังเต็มที่ และไม่กล้าเสียสมาธิแม้แต่น้อย  พวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนที่เหลือมาก และสายตามองการณ์ไกลก็เด่นกว่ามาก  ดังนั้นพวกเขาสามารถเห็นว่าเมื่อพวกวเขาหลอมรวมเข้ากับพยุหะได้ ก็จะระเบิดพลังออกมาได้
พวกเขาสามารถยกระดับขึ้นเหนือคนอื่นได้ ไม่ต้องคำนึงถึงความมุ่งมั่นหรือพรสวรรค์
การลงมือจริงจังทำให้พวกเขาก้าวหน้าได้เร็ว
 “เราจะฝึกกลยุทธไตรหยินหยางแปรเปลี่ยน ทุกคนพยายามให้ดีที่สุดตั้งแต่แรกเลย
เนี่ยชิวพูดอย่างใจเย็น
ทุกคนงงงวย  พวกเขาเพิ่งฝึกหยินหยางหมุนวนซึ่งเป็นกลยุทธป้องกัน  ทำไมจู่ๆ พวกเขาต้องเปลี่ยนไปเป็นไตรหยินหยางแปรเปลี่ยน?   มันเป็นกลยุทธรูปแบบรุกซึ่งพวกเขาใช้เวลาฝึกเมื่อวานนี้ตลอดทั้งวัน
พวกเขาคาดว่าเนี่ยชิวเกรงว่าพวกเขาจะลืม  ดังนั้นจึงต้องการให้พวกเขาแสดงกลยุทธเก่าที่ฝึกไปแล้ว  จึงไม่มีใครสงสัยอะไร
จากนั้นเนี่ยชิวกล่าว  “ทุกคนฝึกกลยุทธนี้ไปเมื่อวานนี้  แต่ยังไม่ดีมากนักเมื่อวานนี้   ทุกคนยับยั้งการฝึกของวันนี้ไว้ก่อน  พวกท่านทุกคนจะดำเนินการฝึกต่อไป  เตรียมตัวให้ดี”
ทุกคนพยักหน้า พวกเขาเห็นว่ามีเหตุผล
ที่เรียกว่ายับยั้งการฝึกเป็นสำนวนที่พวกเขาใช้กัน หมายความว่าพวกเขาฝึกยับยั้งไม่ใช้พลังเต็มที่ทั้งหมด  สำหรับการดำเนินการฝึก ก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องทุ่มเทพพลังเหมือนกับว่าพวกเขาโจมตีจริงๆ
ตามมาด้วยคำสั่งให้ตั้งกระบวน  ทุกคนยืนประจำตำแหน่ง
ตาของเนี่ยชิวไม่สามารถเห็นอะไร  และเขาจะยิ้มก็ไม่ใช่ จะไม่ยิ้มก็ไม่เชิง  ชุดยาวโบกสะบัดโดยไม่มีลม และพยุหะหยินหยางเริ่มทำงานเงียบๆ
เขาเป็นเหมือนนักเปียนโนตาบอดแตะเส้นสีดำอย่างนุ่มนวล

7 ความคิดเห็น:

BeHappy กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

แอบอ่าน กล่าวว่า...

วิ้งเข้ามาเจิอตอไม่ตายในท่าเดี่ยวเลยหรือ

Unknown กล่าวว่า...

ฉีเซี่ยงตง รึเปล่าน๊า ตอนก่อน ๆ พี่แกคิดว่าจะรวบเมืองจื่อจวน

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น