วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 764 ไม่ต้องปกป้อง พักอย่างสงบ


ตอนที่  764  ไม่ต้องปกป้อง พักอย่างสงบ
ถังเทียนต่อสู้จนตาของเขาแดงก่ำ  เขาไม่จำต้องแยกแยะว่าใครล้อมรอบเขา เนื่องจากทุกคนล้อมเขาคือศัตรู  เขาแค่ต้องการฆ่าพวกเขาต่อไป  เขาดึงกระดูกปลาออกมาอีก และฟันสุดกำลัง

เมื่อกระดูกปลาแตก  เขาจะดึงกระดูกปลาอีกท่อนมาฆ่าต่อไป
ถึงตอนนี้กลยุทธและเคล็ดวิชาไม่สำคัญอีกต่อไป  คลื่นคนแคระพลอยน้ำเงินไม่ยอมให้เขาได้มีเวลาคิดและได้แต่ฟันออกไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น
นอกจากสัญชาตญาณฆ่าแล้ว ยังคงมีความคิดเดียว
ความคิดบุกตะลุยไปข้างหน้า
เขาร่ายรำพร้อมกับกระดูกปลาเหมือนกับเครื่องจักร ฆ่าเหมือนเครื่องจักร ฟันใส่คนแคระพลอยน้ำเงินจนตาย
ปัง!  กระดูกปลาในมือของเขาแตกอีกครั้ง  ถังเทียนเคลื่อนไหวมือไปที่กองกระดูกปลาโดยไม่รู้ตัว  แต่ไม่สัมผัสถึงอะไร
เขาตกใจอยู่ชั่วขณะ  แต่ระลึกได้ทันทีว่า กองกระดูกปลาที่สูงกว่าตัวเขาถูกใช้ไปหมดแล้ว
ถังเทียนรู้สึกตัวก็ตระหนักได้ว่าเขามีอาการบาดเจ็บทั่วตัว เหมือนกับมนุษย์โลหิต  ขาของเขาหนักเหมือนกับตะกั่ว  แขนของเขาก็หนักเกินกว่าจะยก  ทั่วทั้งร่างของเขาเจ็บปวด  เขาเซไปทางขวาทีซ้ายที แต่ไม่ยอมทรุดนั่ง  คนแคระพลอยน้ำเงินที่รายล้อมอยู่มีสีหน้าเฉยเมยและไร้ชีวิต  และพวกมันไม่ก้าวหน้าเข้าหาถังเทียน  ถังเทียนหันศีรษะกลับมาด้วยความยากลำบาก  ด้านหลังเขาคือศพของคนแคระน้ำเงินเต็มเหมือนกับทุ่งข้าวสาลี ไกลจนสุดสายตาของเขา
หือ...
ถังเทียนต้องการหัวเราะ  แต่เขาไม่มีกำลังเหลือจะขยับปาก
ระลอกพลังที่คุ้นเคยมาจากเบื้องบนเขา  ถังเทียนไม่เงยหน้าขึ้นมอง  แต่เขารู้ว่าเป็นเสี่ยวหลาน
เขาไม่สามารถเห็นเสี่ยวหลานได้  แต่ถ้าเขาเห็น เขาจะต้องประหลาดใจแน่นอน  ร่างของเสี่ยวหลานกลายเป็นผลึกสีน้ำเงิน และปลดปล่อยพลังที่น่ากลัว  แต่ละระลอกเหมือนหินร่อนไปบนผิวน้ำมองเห็นชั้นของความเคลื่อนไหวเป็นชั้นๆ
คนแคระพลอยน้ำเงินระเบิดเสียงโห่ร้อง ความกลัวบนใบหน้าของพวกมันเพิ่มมาก
ที่ใดก็ตามที่ระลอกผ่านไป สายใยเพลิงน้ำเงินจะถูกดึงออกมาจากศพของคนแคระพลอยน้ำเงิน
ถังเทียนตกใจ เขามองดูไกลเท่าที่เขาเห็นได้ เปลวเพลิงน้ำเงินค่อยๆ ลอยขึ้นเหมือนกับหิ่งห้อยน้ำเงิน ที่ไม่มีที่สิ้นสุดมองดูงดงาม
เพลิงน้ำเงินที่ขนาดเท่าหัวแม่มือถูกเรียกออกมา และค่อยๆ ลอยเข้าหาเสี่ยวหลาน
ฉากภาพต่อหน้าเขาเป็นเหตุมหัศจรรย์มากทำให้ถังเทียนลืมความอ่อนล้าของเขาไปชั่วขณะ  เพลิงน้ำเงินเข้าไปในร่างของเสี่ยวหลาน ทำให้เสี่ยวหลานเปล่งรัศมีน้ำเงินเปล่งปลั่ง คนแคระพลอยน้ำเงินจำนวนมากมายต้องถอยกลับไปเหมือนกับว่าพวกมันกลัวแสงสีน้ำเงิน
แสงน้ำเงินสว่างเจิดจ้าขึ้น  ถังเทียนรู้สึกเหมือนกับว่ามีดวงอาทิตย์สีน้ำเงินอยู่เหนือศีรษะเขา  แสงสีน้ำเงินเจิดจ้าจนเขาลืมตาไม่ขึ้น
เขาหลับตา และจมอยู่ในแสงน้ำเงินที่สว่าแพรวพราว
ร่างที่เหนื่อยล้าของเขาเริ่มฟื้นตัว  แสงสีน้ำเงินไม่อบอุ่น  แต่ก็ทำให้ถังเทียนรู้สึกสบายใจ
เขาตกอยู่ในสภาพฝันโดยไม่รู้ตัว
ฝันของเขาแปลกประหลาดมาก ลึกลงไปในทะเลน้ำเงิน มีต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตแล้วต้นหนึ่งมีใบไม้เป็นล้าน และใบไม้เป็นล้านนั้นทุกๆ ใบจะมีขนาดเท่าเนินเขา ในกลางใบไม้ทุกใบจะมีวังวน และวังวนนั้นจะปล่อยพลังน้ำเงินออกมาอย่างไม่มีที่สุด   พลังงานน้ำเงินออกมาราวกับสายน้ำ
หลังจากผ่านไปทุกช่วงเวลาหนึ่ง ต้นไม้สีน้ำเงินมหึมาจะปล่อยเมล็ดนับไม่ถ้วนเหมือนดอกแดนดิไลออน  เมล็ดทั้งหมดเหล่านี้จะไหลไปตามกระแสพลังงาน และลอยไปทั่วทุกมุมในทะเลน้ำเงิน  แต่ในเวลาอันรวดเร็ว เมล็ดเหล่านี้จะถูกกินโดยสิ่งมีชีวิตในทะเลน้ำเงินนับไม่ถ้วน
พวกมันจะปล่อยกลิ่นอายที่หอมหวานและไม่สามารถหลบหลีกสิ่งมีชีวิตจำนวนมหาศาลได้
ในที่สุด ก็มีเมล็ดหนึ่งที่พบโดยบุรุษวัยกลางคนในทะเลน้ำเงิน  บุรุษวัยกลางคนพบว่ามันมีความเฉพาะตัวมีรัศมีน้ำเงินไม่เหมือนใคร  หลังจากบุรุษวัยกลางคนตาย เขามอบมันให้ลูกชายเขา ต่อมาลูกชายเขาบังเอิญพบสตรีผู้หมดสติ และถังเทียนจำสตรีนั้นได้ทันที  นางคือกู้เสวี่ย
จากนั้นรังสีน้ำเงินถูกฝังเข้าไปในร่างของกู้เสวี่ย
จากนั้นถังเทียนจำได้ทันทีว่าเมล็ดพันธุ์นั้นก็คือเสี่ยวหลานนั่นเอง
เมล็ดพันธุ์นี้ดูดเพลิงน้ำเงินไว้เป็นปริมาณมหาศาล และเหมือนกับเมล็ดพันธุ์ มันเริ่มงอกขึ้นในแสงสีน้ำเงินแพรวพราว และในพริบตาก็เป็นต้นไม้น้อยๆ ต้นไม้น้ำเงินออกดอกตูมซึ่งยังคงเติบโตต่อไป จนกระทั่งร่องรอยแสงสุดท้ายหายไป เมื่อดอกไม้ตูมบาน
จากนั้นถังเทียนตื่นขึ้น และตระหนักโดยไม่รู้ตัว มือของเขาตั้งอยู่ในท่ามุทราหัตถ์เด็ดบุปผา และในท่าปางมือนั้น มีดอกไม้น้ำเงินจริงๆ อยู่หนึ่งดอก
ดอกไม้น้ำเงินสวยงดงามมาก เหมือนกับว่ามันเพิ่งถูกเด็ดออกมา มันนุ่มนวลและเต็มไปด้วยชีวิต
 นี่คือ...เสี่ยวหลาน!’
ถังเทียนตะลึงทันที  ฝันนั้น...
เขาลืมตากว้าง และตระหนักได้ว่า คนแคระพลอยน้ำเงินที่ล้อมรอบตัวเขาหายไปไม่เหลือร่องรอย
ทันใดนั้น ดอกไม้ในฝ่ามือของเขาลอยขึ้นบินไปในทิศทางหนึ่ง
ถังเทียนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง และไล่ตามไปทันที
ดอกน้ำเงินบินเป็นเส้นตรง เห็นได้ชัดว่ามันกำลังนำทาง และถังเทียนก็ไล่ตามมัน
ถังเทียนพยายามสื่อสารกับดอกไม้ในระหว่างทาง  แต่ก็ล้มเหลว  ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าดอกไม้น้ำเงินนั้นก่อตัวมาจากเสี่ยวหลาน  เขาคงคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าลุ่มหลง  มันน่าลุ่มหลงมากจริงๆ  และถังเทียนไม่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตใดๆ ระหว่างเดินทาง  สิ่งที่ถังเทียนรู้สึกแทบจะเป็นความหลงใหลก็คือการที่เขาเชี่ยวชาญในการใช้มุทราหัตถ์เด็ดบุปผา  ใจที่ใสเหมือนแก้วไม่ได้แตกสลาย  แต่ภายในสภาพใจที่โปร่งใส ทำไมถึงมีต้นไม้ที่นั่น?
สภาพใจของเขามีต้นไม้เล็กๆ  และถ้านี่ไม่ใช่ความลุ่มหลง  ถังเทียนคงไม่รู้ว่าสิ่งนี้น่าหลงใหลอีกต่อไป
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าต้นไม้น้อยก็คือสิ่งที่เหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นในความฝันของเขา  ถ้าไม่ใช่เพราะสภาพใจของเขาแข็งแกร่งไม่พอ  เขาอาจจะบ้าไปแล้ว  เขาพยายามลองหลายวิธี  แต่ก็ไม่สามารถแม้แต่เขย่าต้นไม้ในใจเขา
หลังจากลองดูถึงสองครั้ง  เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับมัน และได้แต่ไม่สนใจมันต่อไป
เทพอสูรหกกรในตัวเขาไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับต้นไม้น้อยที่อยู่ข้างๆ  แต่ต้นไม้น้อยจะวิ่งขึ้นไปบนฝ่ามือของเทพอสูรที่ตั้งท่ามุทราหัตถ์เด็ดบุปผา  เทพอสูรยังคงเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มือที่ตั้งมุทราหมัดพิโรธและหัตถ์เก็บบุปผามีความลึกลับกว่าเดิม
แขนอีกสี่ข้างยังคงเลือนราง
ถังเทียนสามารถเห็นได้ว่าเทพอสูรแข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องดีสำหรับเขา  แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหดหู่ก็คือก่อนหน้านั้นเขายังมีปฏิสัมพันธ์กับเสี่ยวหลานอยู่เลย  แม้ว่ามันจะยังคลุมเครือ แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีปฏิสัมพันธ์ตอบ  แต่หลังจากที่กลายเป็นดอกไม้แล้ว  ความเชื่อมโยงก็หายไป
ไม่มีใครพูดในภายในทะเลกระจกครามที่เงียบสงบ เป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากและมีเรื่องที่จะต้องทำตามลำพัง
ถังเทียนเพ่งสมาธิจิตใจกับการฝึก  และทิ้งความคิดของเขาเกี่ยวการตามดอกไม้น้ำเงิน
นอกจากนี้เทพอสูรหกมุทรา เขาเรียนสำเร็จไปสองมุทรา  ยังเหลืออีกสี่มุทรา
ถังเทียนได้รับประโยชน์จากใจที่สงบดุจกระจกอย่างรวดเร็ว  ก่อนนี้หลังจากบินมาเป็นเวลานาน  แม้ว่าร่างกายยังสามารถทนได้  แต่สภาพใจของเขาจะยังรู้สึกเหนื่อย  แต่ปัจจุบันนี้เขาขมวดคิ้วเป็นเวลานาน สภาพใจของเขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าอะไร
นอกจากนั้นความผันผวนทั้งหมดรอบตัวเขานั้นรับรู้ได้อย่างชัดเจนและสะท้อนใจของเขา  ทันใดนั้นเขาได้รับรู้ทันที  ในอดีตเขาต้องสังเกตมุทราของเทพอสูรหกกรนับไม่ถ้วน  แต่ครั้งนี้แค่สังเกตครั้งเดียว เขาก็ได้รับความรู้ใหม่จากมุทรา  รายละเอียดหลายอย่างที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อนกลับสะท้อนในใจของเขาอย่างแจ่มชัด
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าใจอีกสี่มุทราที่เหลือในทันที  แต่ก็ยังช่วยเขาได้มาก  เขาเริ่มก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
หลังจากบินไปโดยไม่รู้เวลา  เสี่ยวหลานหยุดทันที
ถังเทียนก็หยุดเช่นกัน และมองไปข้างหน้า
มีแนวเส้นสองเส้นตัดกันเป็นรูปกางเขนขนาดใหญ่ ซึ่งขยายไกลออกไปทำให้พื้นที่แบ่งแยกออกเป็นสี่พื้นที่  และทะเลทั้งสี่แตกต่างกันอยู่ภูมิภาคที่แตกต่างกัน
ทะเลเนรเทศที่กราดเกรี้ยวไม่มีที่สิ้นสุด  และกระจกครามที่ราบเรียบและเหมือนกระจก  ทะเลทุ่งเพลิง และทะเลสันติภาพที่มีแต่ความเงียบสงบ
ทั้งหมดนั้นเป็นสี่ทะเลของกองทัพดาวกางเขนใต้
ถังเทียนตกตะลึง
เขาไม่เคยคิดว่าสี่ทะเลจะถูกสร้างมาเป็นแบบนั้น  ม่านพลังที่มองไม่เห็นกั้นแยกสี่ทะเลจากกัน  มันไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมชาติแน่นอน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากมนุษย์
 หรือว่าลุงปิงและพวกเขาจะทรงพลังมากขนาดนั้น?
ถังเทียนเอียงศีรษะคิด,  เป็นไปไม่ได้ กองทัพดาวกางเขนใต้เป็นกองทัพจักรกล  พวกเขาเชี่ยวชาญในวิชาจักรกลและการรบ  ถังเทียนนึกไม่ออกว่าคนแบบไหนจึงสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์แบบนั้นได้!
ใช่แล้ว, ถังเทียนรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือขีดจำกัดของมนุษย์
ทันใดนั้น, เสี่ยวหลานลอยขึ้นมาจ้องหน้าถังเทียน  มันบินตรงไปที่ทะเลสันติภาพ
 ทะเลสันติภาพ....
ถังเทียนลังเลเล็กน้อย เขากัดฟันและตามเสี่ยวหลานและก้าวข้ามพรมแดนเข้าไป  สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือเขาไม่ได้รู้สึกถึงแรงต่อต้านใดๆ  เมื่อเขาทำเช่นนั้น  แนวแบ่งแยกโลกทั้งสี่ไม่มีผลต้านอะไร  เพียงแค่แบ่งแยกทะเลออกจากกันและไม่รบกวนอะไรเลย  ถังเทียนอดยิ้มด้วยความประหลาดใจไม่ได้
เมื่อก้าวเข้ามาในทะเลสันติภาพ  ฉากภาพรอบตัวถังเทียนเปลี่ยนไป
ทะเลสันติภาพสีดำไม่ได้เงียบสนิทอย่างที่ถังเทียนคิด  น้ำทะเลดำกลับมีความอบอุ่นและเป็นสถานที่เหมาะกับการกำเนิดวิญญาณ
เมื่อเข้าไปในทะเลสันติภาพ  เสี่ยวหลานเข้ามาในร่างของถังเทียนอย่างเงียบงัน
 นี่หมายความว่ายังไง?
ถังเทียนไม่เข้าใจสถานการณ์  แต่เขาพบว่าเสี่ยวหลานมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนั้น  เขาเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง  ทะเลสันติภาพเงียบสงัด มีความอบอุ่นลางๆ  ดังนั้นจึงไม่น่ากลัว น้ำสีดำลอยตัวอยู่ง่าย และถังเทียนไม่ต้องใช้กำลังบังคับให้ลอยตัวแต่อย่างใด
หลังจากเดินเป็นเวลานาน  ถังเทียนก็ตระหนักว่าบางอย่างกำลังลอยอยู่ในระยะไกล
หัวใจของเขาตื่นเต้น   เพียงกระโดดไม่กี่ครั้งเขาก็คว้ามันไว้ได้
เป็นป้ายบรอนซ์ และบนป้ายมีสัญลักษณ์ของกองทัพดาวกางเขนใต้  ขณะที่ด้านหลังมีคำอยู่แถวหนึ่ง
 “จูหย่งทหารชั้นหนึ่งของกองทัพดาวกางเขนใต้ตายอย่างกล้าหาญในการสู้รบที่ภูเขาชิง ไม่ต้องปกป้องต่อไปแล้ว  จงพักอย่างสงบเถิด”
ถังเทียนจ้องมองป้ายบรอนซ์อยู่เป็นเวลานาน อารมณ์ที่เหลือเชื่อผุดขึ้นในใจของเขา
สำหรับคนที่ตาย  คนมีชีวิตจะสวดภาวนาให้คนตายพักผ่อนอย่างสงบและจะแสวงหาพรให้พวกเขาเอง  แต่บนป้ายบรอนซ์นี้กลับเขียนว่า  “ไม่จำเป็นต้องปกป้องต่อไป  พักผ่อนอย่างสงบเถิด”
จากนั้นดูเหมือนเขาจะเห็นลุงปิงวางป้ายบรอนซ์ไว้ในน้ำดำ และผลักมันอย่างนุ่มนวลและมองมันลอยออกไป และเขาพึมพำกับตนเอง
 “เราไม่จำเป็นต้องให้พวกเจ้าปกป้อง  เราจะต้องทำงานกันอย่างหนัก  เจ้าไม่จำเป็นต้องมากังวลห่วงใยเรา  พักผ่อนเถิด สงครามทั้งหมดที่นี่ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ปล่อยให้เป็นหน้าที่เรา ผู้ยังมีชีวิตอยู่
 “เราจะชนะแน่นอน”
 “พักอย่างสงบเถิด”

7 ความคิดเห็น:

ท้องฟ้าจะมีความหมาย ถ้ามีคนแหงนมอง กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

minibull กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Boybravo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบใจจ้า

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

fakefruit กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

มีตน กล่าวว่า...

ขอบคุณ​ครับ​

แสดงความคิดเห็น